PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
Re: PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 2
ต้องถามกลับไปว่า ที่เคยบอกว่าดีกันนั้น ... ดีในแง่ไหน และ อย่างไรครับลูกอิสาน เขียน: จากครั้งหนึ่งที่(ผมและหลายๆท่าน)คิดว่าเป็นหุ้นที่ดีมากๆ
PL 5.4>>>>4.1
SE-ED 6.8>>>>4.78
สาเหตุเพราะอะไรกันครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- Verified User
- โพสต์: 73
- ผู้ติดตาม: 0
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 3
แล้วคุณลูกอีสานขายทั้งคู่ไปหรือยังครับ
หรือว่าซื้อเพิ่ม
หรือว่าซื้อเพิ่ม
-
- Verified User
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 6
ผมเองก็เคยถือหุ้นทั้งสองตัว ขาย PL ไปแล้วตั้งแต่ตอน 53-54 ยังดีได้กำไรนิดหน่อยส่วน SE-ED ขายตัดขาดทุน ตั้งแต่ 5.5 ในความคิดผม ที่หุ้นทั้งสอง ราคาตกต่ำลงมาก ก็เนื่องมาจาก EPS ตกลงมาก (จาก Dilution effect และต้นทุนขายที่สูงขึ้นสำหรับ SE-ED, ส่วน PL, Eps diluted จากการเพิ่มทุน)
สำหรับ SE-ED อยากซื้อคืนที่ราคาต่ำกว่า 4.5 เพราะยังมองว่าอนาคตน่าจะยังดี
เหมือนที่ Lynch บอกน่ะครับ ในระยะยาวแล้ว ราคาหุ้น กับ EPS มี Correlation เกือบ 100%
สำหรับ SE-ED อยากซื้อคืนที่ราคาต่ำกว่า 4.5 เพราะยังมองว่าอนาคตน่าจะยังดี
เหมือนที่ Lynch บอกน่ะครับ ในระยะยาวแล้ว ราคาหุ้น กับ EPS มี Correlation เกือบ 100%
- Heroine
- Verified User
- โพสต์: 196
- ผู้ติดตาม: 0
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 10
EPS ของ SE-ED ลดค่ะ จาก 0.73 เหลือ 0.41 yoy และในวันที่ 29 มีค. ที่ผ่านมา ก็มีลูกหุ้นเข้ามาช่วยหารกำไรอีก 3 ล.กว่าหุ้นEyore เขียน:พอดีไม่ได้ติดตามอ่ะครับ แต่อยากทราบว่า
จาก
PL 5.4>>>>4.1
SE-ED 6.8>>>>4.78
เนี่ย
มีการเปลี่ยนแปลงของ EPS และ PE อย่างไรบ้างครับ
เคยถือทั้ง SE-ED และ PL เลยค่ะ แต่คนละเวลา ตัวแรกตัดใจขายทิ้ง (ขาดทุน) ตัวที่ 2 ขายกำไรพอสมควรค่ะ สรุปไม่มีหุ้น 2 ตัวนี้ในปอดแล้ว แต่ตัวอื่น ๆ เต็มปอดเลย
โลกมายา...ดินแดนที่ต้องใส่หน้ากากคุยกัน
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 12
ครั้งหนึ่งผมเคยตั้งกระทู้ Uncommon stocks and uncommon profits
พูดทำนองว่า การลงทุนที่จะทำให้มีกำไรมากกว่าปกติ
น่าจะเป็นการลงทุนในหุ้นที่การเจริญเติบโตของผลประกอบการสูงเท่านั้น
และได้ยกตัวอย่างหุ้น 2 ตัว คือ PL SE-ED ว่าเป็นหุ้นที่ดีมากๆ และได้พูดถึงความเสี่ยงไว้ด้วย
แต่ไม่ได้คิดเลยว่า ผ่านมาไม่นาน ราคาและพื้นฐานของหุ้นทั้งสอง
กลับเป็นในทางตรงกันข้าม แม้ว่าจะมีโอกาสที่ผลประกอบการจะกลับมาดี
แต่ราคาที่ลดลง ก็เป็นสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงครับ
ผมเคยมีทั้ง 2 ตัว ขาดทุนและกำไรอย่างละนิดหน่อย
และได้ขายไปหลังจากเริ่มรับรู้พื้นฐานที่ด้อยลง
เลยได้บทเรียนหลายอย่างจากกรณีอย่างนี้ครับ
พูดทำนองว่า การลงทุนที่จะทำให้มีกำไรมากกว่าปกติ
น่าจะเป็นการลงทุนในหุ้นที่การเจริญเติบโตของผลประกอบการสูงเท่านั้น
และได้ยกตัวอย่างหุ้น 2 ตัว คือ PL SE-ED ว่าเป็นหุ้นที่ดีมากๆ และได้พูดถึงความเสี่ยงไว้ด้วย
แต่ไม่ได้คิดเลยว่า ผ่านมาไม่นาน ราคาและพื้นฐานของหุ้นทั้งสอง
กลับเป็นในทางตรงกันข้าม แม้ว่าจะมีโอกาสที่ผลประกอบการจะกลับมาดี
แต่ราคาที่ลดลง ก็เป็นสิ่งที่ผมคาดไม่ถึงครับ
ผมเคยมีทั้ง 2 ตัว ขาดทุนและกำไรอย่างละนิดหน่อย
และได้ขายไปหลังจากเริ่มรับรู้พื้นฐานที่ด้อยลง
เลยได้บทเรียนหลายอย่างจากกรณีอย่างนี้ครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 15
สรุปคือตอนนี้ pl มี pe ประมาณ 6
ถ้าราคาลงไปอีกเหลือ pe 5 ก็คงจะมีคนบ่นมากขึ้น
และถ้าลงไปอีกเหลือ pe 4 คนยิ่งบ่นกันใหญ่
เฮ้อ ผมกลับมองว่า ถ้ามันดีจริง แล้วมีคนอยากได้จริง เขาก็ต้องใช้ความพยายามทุกอย่าง ทำให้ราคามันลง เพื่อเขาจะได้เก็บหุ้นได้ในราคาถูก ก็เท่านั้นเอง
ปัญหา คือ เราจะแยกอย่างไร ว่าหุ้นที่เราซื้อ แล้วราคาลง เป็นหุ้นที่ดีจริง
และเมื่อมันลงมากๆ เราก็ซื้อมากๆเลย เพราะเราคิดว่าดี ยิ่งถูกเราต้องยิ่งดีใจ และหาเงินมาซื้อเพิ่ม
แต่ถ้าหุ้นที่เราคิดว่าดี แล้วราคาลง กลับมีอะไรซ่อนอยู่ เมื่อเราซื้อมากๆ เราก็ขาดทุนยับ การเรียนรู้ที่เราได้รับคือ เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจจริงๆ ว่าดีจริงๆอย่างที่เราคิดไว้
แต่ อย่าไปดูราคาที่ลง แล้วสรุปไปเองว่า ถ้าหุ้นดี ราคาต้องไม่ลงซิ
ขอให้ดูพื้นฐานครับ ดูกำไร ดูกิจการ ดูคู่แข่ง ดูตลาด ดูปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
ดูหมดแล้วค่อยมาดูราคา
ถ้าราคาลงไปอีกเหลือ pe 5 ก็คงจะมีคนบ่นมากขึ้น
และถ้าลงไปอีกเหลือ pe 4 คนยิ่งบ่นกันใหญ่
เฮ้อ ผมกลับมองว่า ถ้ามันดีจริง แล้วมีคนอยากได้จริง เขาก็ต้องใช้ความพยายามทุกอย่าง ทำให้ราคามันลง เพื่อเขาจะได้เก็บหุ้นได้ในราคาถูก ก็เท่านั้นเอง
ปัญหา คือ เราจะแยกอย่างไร ว่าหุ้นที่เราซื้อ แล้วราคาลง เป็นหุ้นที่ดีจริง
และเมื่อมันลงมากๆ เราก็ซื้อมากๆเลย เพราะเราคิดว่าดี ยิ่งถูกเราต้องยิ่งดีใจ และหาเงินมาซื้อเพิ่ม
แต่ถ้าหุ้นที่เราคิดว่าดี แล้วราคาลง กลับมีอะไรซ่อนอยู่ เมื่อเราซื้อมากๆ เราก็ขาดทุนยับ การเรียนรู้ที่เราได้รับคือ เราต้องตรวจสอบให้แน่ใจจริงๆ ว่าดีจริงๆอย่างที่เราคิดไว้
แต่ อย่าไปดูราคาที่ลง แล้วสรุปไปเองว่า ถ้าหุ้นดี ราคาต้องไม่ลงซิ
ขอให้ดูพื้นฐานครับ ดูกำไร ดูกิจการ ดูคู่แข่ง ดูตลาด ดูปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
ดูหมดแล้วค่อยมาดูราคา
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 16
หุ้น "ของจริง" ระยะสั้นราคาลงได้ครับ มันต้องวัดกันยาวๆ
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหารครับ
** แต่ถ้าเป็น "ของปลอม" มันก็อีกเรื่องนึงนะ **
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหารครับ
** แต่ถ้าเป็น "ของปลอม" มันก็อีกเรื่องนึงนะ **
-
- Verified User
- โพสต์: 359
- ผู้ติดตาม: 0
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 18
ยังคิดว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการร้านหนังสืออยู่
ช่วงนี้เหมือนราศีหม่นหมอง( ราคาหุ้น )
ดูภายในร้านยังมีคนอุดหนุนอยู่ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส
ไม่ทราบว่าผู้บริหารเป็นไข้ไม่สบายหรือขอพักมือชั่วคราวกันแน่
ราคาลงทุกวัน......น่าลุ้นจัง
ช่วงนี้เหมือนราศีหม่นหมอง( ราคาหุ้น )
ดูภายในร้านยังมีคนอุดหนุนอยู่ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส
ไม่ทราบว่าผู้บริหารเป็นไข้ไม่สบายหรือขอพักมือชั่วคราวกันแน่
ราคาลงทุกวัน......น่าลุ้นจัง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 21
ผมพอจะสรุปสาเหตุที่เป็นอย่างนี้ได้หลายประเด็นครับ
แต่ที่ชัดเจนคือ..
1.ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน อย่างนโยบายลดภาษีรถ ทำให้รถมือสองของ pl ราคาลดลงมาก หรือกรณี SE-ED คงเป็นนโยบายปิดห้างเร็ว ทำให้ลูกค้าไม่มีเวลาที่จะดูหนังสือ แต่กรณีเหล่านี้กระทบในระยะสั้นเท่านั้น
2.ทั้งสองบริษัท มีกำไรพิเศษในงวดก่อนหน้า หากเราไม่ได้ตรวจสอบก่อนอาจจะทำให้เข้าใจผิดคิดว่ามีกำไรเพิ่มขึ้น อย่างกรณี PL เป็นกำไรจากการขายที่ดิน และกรณี se-ed ก็มีรายการพิเศษเช่นกัน
3. pl เป็นธุรกิจที่ entry of barrier ต่ำ เหมือนที่พี่ประจวบเคยตั้งข้อสังเกตุไว้ครับ ดูได้จากคู่แข่งเริ่มเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือ กรุงไทยคาร์เรน และเจแปนลีสซิ่ง
ส่วนปัจจัยอื่นๆก็เช่น pl มี d/e สูงจนต้องเพิ่มทุน แต่กลับมีความคลุมเคลือไม่ชัดเจนทำให้ราคาหุ้นตกลงเรื่อยๆ ส่วน se-ed ข่าวร้ายมาเป็นขโยง เช่นกรณีผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออกมาจำนวนมาก กำไรที่ต่ำลง และมีหุ้นอีสปราคาถูกจำนวนมาก
สิ่งที่นักลงทุนควรจะทำ..
1.ตรวจสอบจากงบกำไรขาดทุนและหมายเหตุงบการเงินว่ากำไรที่ทำได้เป็นกำไรที่แท้จริง หรือมีกำไรพิเศษชั่วครั้งชั่วคราว
2. always diversity เพราะมีหลายปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ แม้แต่ผู้บริหารก็คาดไม่ถึง ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงบ้างเป็นสิ่งน่าจะเหมาะสม
มีอะไรที่เพื่อนๆคิดว่านักลงทุนควรจะทำบ้างอีกไหมครับ..
แต่ที่ชัดเจนคือ..
1.ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน อย่างนโยบายลดภาษีรถ ทำให้รถมือสองของ pl ราคาลดลงมาก หรือกรณี SE-ED คงเป็นนโยบายปิดห้างเร็ว ทำให้ลูกค้าไม่มีเวลาที่จะดูหนังสือ แต่กรณีเหล่านี้กระทบในระยะสั้นเท่านั้น
2.ทั้งสองบริษัท มีกำไรพิเศษในงวดก่อนหน้า หากเราไม่ได้ตรวจสอบก่อนอาจจะทำให้เข้าใจผิดคิดว่ามีกำไรเพิ่มขึ้น อย่างกรณี PL เป็นกำไรจากการขายที่ดิน และกรณี se-ed ก็มีรายการพิเศษเช่นกัน
3. pl เป็นธุรกิจที่ entry of barrier ต่ำ เหมือนที่พี่ประจวบเคยตั้งข้อสังเกตุไว้ครับ ดูได้จากคู่แข่งเริ่มเข้ามาระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือ กรุงไทยคาร์เรน และเจแปนลีสซิ่ง
ส่วนปัจจัยอื่นๆก็เช่น pl มี d/e สูงจนต้องเพิ่มทุน แต่กลับมีความคลุมเคลือไม่ชัดเจนทำให้ราคาหุ้นตกลงเรื่อยๆ ส่วน se-ed ข่าวร้ายมาเป็นขโยง เช่นกรณีผู้ถือหุ้นใหญ่ขายหุ้นออกมาจำนวนมาก กำไรที่ต่ำลง และมีหุ้นอีสปราคาถูกจำนวนมาก
สิ่งที่นักลงทุนควรจะทำ..
1.ตรวจสอบจากงบกำไรขาดทุนและหมายเหตุงบการเงินว่ากำไรที่ทำได้เป็นกำไรที่แท้จริง หรือมีกำไรพิเศษชั่วครั้งชั่วคราว
2. always diversity เพราะมีหลายปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ แม้แต่ผู้บริหารก็คาดไม่ถึง ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงบ้างเป็นสิ่งน่าจะเหมาะสม
มีอะไรที่เพื่อนๆคิดว่านักลงทุนควรจะทำบ้างอีกไหมครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 22
ซื้อกันแพงมากกว่า ร้านขายหนังสือการเติบโตคงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป
se-ed ===>>>>> p/bv เกือบ 3
ส่วน PL ดูเหมือนธุรกิจดี แต่ยังไม่ใช่ mono poly กำไรมันก็ออกมาอย่างที่เห็นๆกัน มีขึ้นมีดร็อปลง
...........................................................................................
หากหวัง cap. gain กัน หุ้นนั้นจะต้องมีการคาดหวัง มีเรื่องราว แต่หากลงทุนระยะยาว 2 ตัวนี้ ก็ถือว่า ok
se-ed ===>>>>> p/bv เกือบ 3
ส่วน PL ดูเหมือนธุรกิจดี แต่ยังไม่ใช่ mono poly กำไรมันก็ออกมาอย่างที่เห็นๆกัน มีขึ้นมีดร็อปลง
...........................................................................................
หากหวัง cap. gain กัน หุ้นนั้นจะต้องมีการคาดหวัง มีเรื่องราว แต่หากลงทุนระยะยาว 2 ตัวนี้ ก็ถือว่า ok
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 279
- ผู้ติดตาม: 0
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 23
มีเรื่องจะบอกอยู่เรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับ SE-ED ได้เป็นเจ้าหนี้ กับอดีตร้านขายหนังสือที่โด่งดังในอดีตในมูลค่าที่สูงมากพอสมควรซึ่งอยู่ในการประนอนหนี้กันอยู่คาดว่าจะเป็น NPLแล้วนะครับ เตือนไว้หน่อยนะครับ ไม่ทราบเรื่องนี้เก่าไปหรือยังเพราะไม่เคยตาม SE-ED
Way of life is way of brain
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 24
ใช่ดอกหญ้า หรือเปล่าครับsurapol เขียน:มีเรื่องจะบอกอยู่เรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับ SE-ED ได้เป็นเจ้าหนี้ กับอดีตร้านขายหนังสือที่โด่งดังในอดีตในมูลค่าที่สูงมากพอสมควรซึ่งอยู่ในการประนอนหนี้กันอยู่คาดว่าจะเป็น NPLแล้วนะครับ เตือนไว้หน่อยนะครับ ไม่ทราบเรื่องนี้เก่าไปหรือยังเพราะไม่เคยตาม SE-ED
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 26
เห็นกันจำเจ ถี่มาก ก็ยังมีมาให้เห็นอีก เหวอ....
ซีเอ็ดยูเคชั่น บมจ.(SE-ED) เสริมสิน สมะลาภา ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/04/2548 04/04/2548 333,700 4.96 ขาย
ซีเอ็ดยูเคชั่น บมจ.(SE-ED) เสริมสิน สมะลาภา ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/04/2548 05/04/2548 81,000 4.90 ขาย
ซีเอ็ดยูเคชั่น บมจ.(SE-ED) เสริมสิน สมะลาภา ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/04/2548 07/04/2548 322,700 4.87 ขาย
ซีเอ็ดยูเคชั่น บมจ.(SE-ED) เสริมสิน สมะลาภา ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/04/2548 04/04/2548 333,700 4.96 ขาย
ซีเอ็ดยูเคชั่น บมจ.(SE-ED) เสริมสิน สมะลาภา ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/04/2548 05/04/2548 81,000 4.90 ขาย
ซีเอ็ดยูเคชั่น บมจ.(SE-ED) เสริมสิน สมะลาภา ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/04/2548 07/04/2548 322,700 4.87 ขาย
- Heroine
- Verified User
- โพสต์: 196
- ผู้ติดตาม: 0
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 29
เหมือนสิ่งที่ตามมาหลอกหลอนผู้ถือหุ้นเลยค่ะ ไม่ทราบเหมือนกันว่ายังเหลือซีเอ็ดในปอดอีกเท่าไหร่ปรัชญา เขียน:เห็นกันจำเจ ถี่มาก ก็ยังมีมาให้เห็นอีก เหวอ....
ซีเอ็ดยูเคชั่น บมจ.(SE-ED) เสริมสิน สมะลาภา ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/04/2548 04/04/2548 333,700 4.96 ขาย
ซีเอ็ดยูเคชั่น บมจ.(SE-ED) เสริมสิน สมะลาภา ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/04/2548 05/04/2548 81,000 4.90 ขาย
ซีเอ็ดยูเคชั่น บมจ.(SE-ED) เสริมสิน สมะลาภา ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/04/2548 07/04/2548 322,700 4.87 ขาย
โลกมายา...ดินแดนที่ต้องใส่หน้ากากคุยกัน
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
- Heroine
- Verified User
- โพสต์: 196
- ผู้ติดตาม: 0
PL SE-ED ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้นะ
โพสต์ที่ 30
พอดีหาคำเหมาะสมได้ กันการสับสนด้วยค่ะharry เขียน: โดนถามหลายครั้ง เลยต้องเปลี่ยนจนได้
โลกมายา...ดินแดนที่ต้องใส่หน้ากากคุยกัน
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก