ขอความเห็นคะ
-
- Verified User
- โพสต์: 23
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 31
ถ้าผมเดาไม่ผิด เจ้าของกระทู้คงไม่มีความสุขกับการทํางาน หรือไม่ก็อยากมีเวลาดูแลพ่อแม่ที่สูงอายุมากขึ้น เมื่อ 18 ปีก่อนผมเคยทํางานโรงพยาบาล มีหมอท่านนึงสอนผมว่าถ้าคุณไม่มีความสุขกับการทํางานแล้ว ก็ลาออกซะดีกว่า ( แต่ตอนนั้นผมมีความสุขกะการทํางานดีนะครับ) ซึ่งผมก็เห็นด้วยกะหมอท่านนั้น ถ้างานที่ทําอยู่ทําให้คุณเสียสุขภาพจิตก็ลาออกเถิดครับ แล้วค่อยๆหางานใหม่ที่คุณคิดว่าชอบทําดู ส่วนตอนนี้ไม่มีอะไรทํา ก็ทุ่มเวลาศึกษาหุ้นและก็ลงทุนไป เน้นหุ้นปลอดภัยในสัดส่วนที่มากหน่อยนะครับ เงินปันผลที่ได้ถ้าใช้แบบประหยัดคงพออยู่ได้ ถ้าอยู่บ้านนอกทําเกษตรพอเพียงด้วยก็ดี
ตัวผมเองปีก่อนก็พึ่งเลิกจากงานเหมือนกัน ขายบ้านรวบรวมเงินมาได้ 2.5 ล้าน คิดว่าจะอยู่แบบพอเพียงสักพักนึง บังเอิญไม่มีภาระอย่างอื่นจึงคิดว่าพออยู่ได้ อยากเดินทางท่องเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่ๆบ้าง (ตอนทํางานต้องเฝ้าร้านตั้งแต่เช้าถึงคํา) แล้วก็ลงทุนไปด้วย บังเอิญโชคดีปีที่แล้วตลาดอํานวย ตอนนี้พอร์ตกลายเป็น 6.42 ล้าน ก็ต้องขอขอบคุณ
เว็บไซด์แห่งนี้ พี่ๆน้องๆทุกคนทีคอยแลกเปลี่ยนความรู้ และก็เป็นกําลังใจให้เจ้าของกระทู้ด้วยครับ ขอให้พบงานใหม่ที่ทําแล้วมีความสุขนะครับ ส่วนผมตอนนี้ก็อยากมีร้านเล็กๆ จ้างเด็กดูแลให้ เราว่างก็ไปดูบ้าง แค่นี้ก็พอแล้วครับสําหรับชีวิตเล็กๆอย่างผม
ตัวผมเองปีก่อนก็พึ่งเลิกจากงานเหมือนกัน ขายบ้านรวบรวมเงินมาได้ 2.5 ล้าน คิดว่าจะอยู่แบบพอเพียงสักพักนึง บังเอิญไม่มีภาระอย่างอื่นจึงคิดว่าพออยู่ได้ อยากเดินทางท่องเที่ยวหาประสบการณ์ใหม่ๆบ้าง (ตอนทํางานต้องเฝ้าร้านตั้งแต่เช้าถึงคํา) แล้วก็ลงทุนไปด้วย บังเอิญโชคดีปีที่แล้วตลาดอํานวย ตอนนี้พอร์ตกลายเป็น 6.42 ล้าน ก็ต้องขอขอบคุณ
เว็บไซด์แห่งนี้ พี่ๆน้องๆทุกคนทีคอยแลกเปลี่ยนความรู้ และก็เป็นกําลังใจให้เจ้าของกระทู้ด้วยครับ ขอให้พบงานใหม่ที่ทําแล้วมีความสุขนะครับ ส่วนผมตอนนี้ก็อยากมีร้านเล็กๆ จ้างเด็กดูแลให้ เราว่างก็ไปดูบ้าง แค่นี้ก็พอแล้วครับสําหรับชีวิตเล็กๆอย่างผม
- VSนักลงทุนอริยะ
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 349
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 32
ไตร่ตรองให้ละเอียดที่สุดนะครับ
ถ้าไม่ชอบงานที่ทำอยู่ มาทำงานกับผมก็ได้ครับ
อิอิ ^ ^
www.ceoken.com
จะได้ช่วยๆกันครับ ยังมีอะไรต้องทำอีกมากมายในโลกใบนี้ครับ
ถ้าไม่ชอบงานที่ทำอยู่ มาทำงานกับผมก็ได้ครับ
อิอิ ^ ^
www.ceoken.com
จะได้ช่วยๆกันครับ ยังมีอะไรต้องทำอีกมากมายในโลกใบนี้ครับ
ความสุขสงบและมีประโยชน์ต่อผู้อื่น คือคุณค่าในชีวิตของผมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 622
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 33
ผมว่า 3 ล้านดูไม่ค่อยปลอดภัยครับ ถ้าเป็นผมคงคิดแบบเซฟๆ (แล้วหรือยัง) ว่าปันผลเพียง 5% ของเงินทุนน่ะครับ ก็จะได้ทั้งปี 150,000 บาท ตกเดือนละ 12,500 บาทเองครับ
แต่ถ้าพี่เป็นคนประหยัดก็อาจจะพอก็ได้นะครับ
โชคดีครับ
แต่ถ้าพี่เป็นคนประหยัดก็อาจจะพอก็ได้นะครับ
โชคดีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 5
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 34
ลองอ่านหนังสือเรื่อง "การลาออกครั้งสุดท้าย" ของ ภาณุมาศ ทองธนากุล ดูครับ
"อิสระภาพ คือ การถูกขังในกรงที่เรารัก" ผมชอบประโยคนี้จัง
"อิสระภาพ คือ การถูกขังในกรงที่เรารัก" ผมชอบประโยคนี้จัง
- HARINLUX
- Verified User
- โพสต์: 339
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 35
จากประสบการณ์ เล่นหุ้นอย่างเดียว การดำเนินชีวิตอาจจะน่าเบื่อไปเพราะเวลาว่างมากเกิน น่าจะมีกิจกรรมอื่นๆทำบ้าง
เงินลงทุน 3 ล้านบาท เป็นเงินมากพอสมควรในการลงทุนในหุ้นนะครับ
ปัญหาที่คุณ soivega ต้องมานั่งคิดละครับว่า ในระยะเวลาซัก 2-3 ปีข้างหน้า จะเอาค่าใช้จ่ายมาจากไหนมาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องใช้เงินต้น 3 ล้านบาท
หากลงทุนประสบความสำเร็จพอร์ตการลงทุนโตขึ้นทุกๆปี และเงินปันผลก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เงินที่จะเอามาใช้จ่ายประจำวันคงพอที่จะทำให้ชีวิตสบายขึ้น
--------------
ความรู้ คู่คุณธรรม
เงินลงทุน 3 ล้านบาท เป็นเงินมากพอสมควรในการลงทุนในหุ้นนะครับ
ปัญหาที่คุณ soivega ต้องมานั่งคิดละครับว่า ในระยะเวลาซัก 2-3 ปีข้างหน้า จะเอาค่าใช้จ่ายมาจากไหนมาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องใช้เงินต้น 3 ล้านบาท
หากลงทุนประสบความสำเร็จพอร์ตการลงทุนโตขึ้นทุกๆปี และเงินปันผลก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย เงินที่จะเอามาใช้จ่ายประจำวันคงพอที่จะทำให้ชีวิตสบายขึ้น
--------------
ความรู้ คู่คุณธรรม
-
- Verified User
- โพสต์: 803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 36
ผมเองรอ 10 ล้านครับ
ถึงแม้จะถึงแล้วก็คงทำงานต่อไป
แต่คงไม่ต้องมี ambition ให้มาก
คงทำงานสบายๆ พอมีเงินหมุนเวียน และมีเงินบ้าง
เพื่อลงทุนต่อไป
ถึงแม้จะถึงแล้วก็คงทำงานต่อไป
แต่คงไม่ต้องมี ambition ให้มาก
คงทำงานสบายๆ พอมีเงินหมุนเวียน และมีเงินบ้าง
เพื่อลงทุนต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 94
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 37
ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและทุกคำแนะนำคะ ถ้าไม่ถึงกับสุดๆ จริง ก็ไม่ออกคะ เครียดมาเป็นอาทิตย์แล้วคะ ตัดสินใจแล้วว่าเงิน 3 ล้านนี้ เราจะแบ่งเป็น 2 ล้านลงทุนในหุ้นที่ปันผลสม่ำเสมอ ปันผลประมาณ 6-7 % และอีก 1 ล้านลงทุนในหุ้นเติบโต เช่น cpall คะ รวมเครดิตภาษี ก็น่าจะได้ตกเดือนละประมาณ 15000 บาทต่อเดือน เราอยู่ได้คะ
- honey_lady
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 29
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 38
เงินต้น 3 ล้าน น้อยไปจริงๆค่ะ ออกมาใหม่ๆถ้าตลาดไม่เป็นอย่างใจคิดจะฟุ้งซ่านมากด้วยค่ะ แนะนำว่าหางานใกล้บ้าน แบบไม่ต้องได้เงินเดือนเยอะมากก็ได้ ให้ทำงานสบายใจ จะได้มี cash flow ไหลเข้ามาก่อนค่ะ
เดือนละหมื่นห้าอยู่ได้ แต่ถ้าเกิดฉุกเฉินต้องใช้เงินขึ้นมาจะลำบากเหมือนกันค่ะ
สมมติว่าหุ้นที่กะจะกินปันผล 6-7% ต่อปี ปีนี้เกิดจะไปลงทุนตปท.ไม่จ่ายปันผล เงินปันผลที่จะเอามาใช้จ่ายก็อาจจะไม่พอ แถมราคาหุ้นอาจจะลงด้วย ซึ่งมันอาจจะ ok ในระยะยาว แต่คุณ SOIVEGA อาจจะรอไม่ไหวนะคะ เพราะไม่มีเงินทางอื่นเลย
ขอถามเพิ่มว่า คุณ SOIVEGA มีประสบการณ์ลงทุนมากแค่ไหน มั่นใจมากแค่ไหน ทำงานไปก่อนแล้วศึกษาไปเรื่อยๆดีกว่าค่ะ อ่านบทความดร.นิเวศน์ หลายๆครั้งก็เห็นว่า ดร. แนะนำให้ทำงานไปด้วย ศึกษาเรื่องลงทุนไปด้วยค่ะ
สรุป ถ้าเครียดจากงานปัจจุบัน ก็หางานใหม่ อยากดูแลพ่อแม่ด้วย ก็เลือกงานใกล้บ้าน เงินเดือนน้อยหน่อย สบายใจ มีเวลาศึกษาเรื่องลงทุนด้วยค่ะ สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
เดือนละหมื่นห้าอยู่ได้ แต่ถ้าเกิดฉุกเฉินต้องใช้เงินขึ้นมาจะลำบากเหมือนกันค่ะ
สมมติว่าหุ้นที่กะจะกินปันผล 6-7% ต่อปี ปีนี้เกิดจะไปลงทุนตปท.ไม่จ่ายปันผล เงินปันผลที่จะเอามาใช้จ่ายก็อาจจะไม่พอ แถมราคาหุ้นอาจจะลงด้วย ซึ่งมันอาจจะ ok ในระยะยาว แต่คุณ SOIVEGA อาจจะรอไม่ไหวนะคะ เพราะไม่มีเงินทางอื่นเลย
ขอถามเพิ่มว่า คุณ SOIVEGA มีประสบการณ์ลงทุนมากแค่ไหน มั่นใจมากแค่ไหน ทำงานไปก่อนแล้วศึกษาไปเรื่อยๆดีกว่าค่ะ อ่านบทความดร.นิเวศน์ หลายๆครั้งก็เห็นว่า ดร. แนะนำให้ทำงานไปด้วย ศึกษาเรื่องลงทุนไปด้วยค่ะ
สรุป ถ้าเครียดจากงานปัจจุบัน ก็หางานใหม่ อยากดูแลพ่อแม่ด้วย ก็เลือกงานใกล้บ้าน เงินเดือนน้อยหน่อย สบายใจ มีเวลาศึกษาเรื่องลงทุนด้วยค่ะ สู้ๆ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
- jo7393
- Verified User
- โพสต์: 2486
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 39
หากจะออกจากงานประจำ แนะนำว่าควรออกเมื่อเป็นตลาดหมีแล้วค่อยออกครับ( หากขณะนั้นยังคิดอยากออกอยู่ )
เมื่อเป็นตลาหมีแล้ว พอร์ตเรายังดีอยู่ มีรายได้พอเลี้ยงตัวได้ ถึงตอนนั้นอยากจะออก ก็เบาใจว่าอยู่ได้ครับ
เมื่อเป็นตลาหมีแล้ว พอร์ตเรายังดีอยู่ มีรายได้พอเลี้ยงตัวได้ ถึงตอนนั้นอยากจะออก ก็เบาใจว่าอยู่ได้ครับ
“ถ้าราคาหุ้นแยกออกไปจากเส้นกำไร ไม่ช้าก็เร็วมันจะวิ่งกลับไปหาเส้นกำไรเสมอ”
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
เลือกบริษัทที่ดี ในราคาที่เหมาะสม และถือมันตราบที่มันยังเป็นกิจการที่ดีอยู่
อย่าอายที่จะถาม ไม่มีใครรู้ลึกทุก บ. ถ้าไม่รู้แล้วไม่ถามก็จะยิ่งไม่ฉลาด
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 40
3 ล้านน้อยเกินไปครับ
ถ้าเครียดกับงาน แนะนำว่าหางานใหม่ดีกว่าครับ
ถ้าเครียดกับงาน แนะนำว่าหางานใหม่ดีกว่าครับ
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 41
1 ถ้าหุ้นทีถืออยู่จ่ายปันผลน้อยลง หรือไม่จ่ายจะทําอย่างไร
2 ถ้ามีเหตุฉุกเฉินต้องใช้เงินก้อนจะทําอย่างไร
3 ถ้าเกิดหุ้นตกหนักยาวนานหลายเดือนหรือเป็นปี คิดว่าจะเครียดหรือกดดันไหม
4 อายุยังน้อยนั่งดูจอหุ้นทั้งวัน แน่ใจหรือว่าสิ่งนี้คือ คุณค่าของชีวิตคุณ
5 ถ้าไม่มีเงินมาเพิ่มเติมในพอร์ท ในระยะยาวพอร์ทจะเติบโตไหม สร้งความมั่นคงให้ชีวิตได้หรือไม่
พอร์ตผมใหญ่กว่าคุณเกิน10เท่า อายุผมก็เริ่มชราแล้ว แต่ผมไม่เคยคิดจะลาออกจากงานเลย
เพราะผมรู้สีกว่างานที่ทําอยู่ทําให้ชีวิตมีคุณค่า และทําประโยชน์ให้ผู้อื่นและสังคมได้
จริงๆผมคิดว่าคุณตัดสินใจแล้ว
เพียงแต่ต้องการคนสนับสนุน
ชีวิตเป็นของคุณ ทําในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด
แต่อย่าลืมหลักการสําคัญชองคนเป็นvi
คิอคิดใคร่ครวญผลตอบแทนและความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
โดยคํานึงถึงเป้าหมายระยะยาวมากว่าระยะสั้น
ขอให้โชคดีครับ
2 ถ้ามีเหตุฉุกเฉินต้องใช้เงินก้อนจะทําอย่างไร
3 ถ้าเกิดหุ้นตกหนักยาวนานหลายเดือนหรือเป็นปี คิดว่าจะเครียดหรือกดดันไหม
4 อายุยังน้อยนั่งดูจอหุ้นทั้งวัน แน่ใจหรือว่าสิ่งนี้คือ คุณค่าของชีวิตคุณ
5 ถ้าไม่มีเงินมาเพิ่มเติมในพอร์ท ในระยะยาวพอร์ทจะเติบโตไหม สร้งความมั่นคงให้ชีวิตได้หรือไม่
พอร์ตผมใหญ่กว่าคุณเกิน10เท่า อายุผมก็เริ่มชราแล้ว แต่ผมไม่เคยคิดจะลาออกจากงานเลย
เพราะผมรู้สีกว่างานที่ทําอยู่ทําให้ชีวิตมีคุณค่า และทําประโยชน์ให้ผู้อื่นและสังคมได้
จริงๆผมคิดว่าคุณตัดสินใจแล้ว
เพียงแต่ต้องการคนสนับสนุน
ชีวิตเป็นของคุณ ทําในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด
แต่อย่าลืมหลักการสําคัญชองคนเป็นvi
คิอคิดใคร่ครวญผลตอบแทนและความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
โดยคํานึงถึงเป้าหมายระยะยาวมากว่าระยะสั้น
ขอให้โชคดีครับ
- VI Wannabe
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1014
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 42
+1 ชอบครับเหมือนที่ผมคิดเลย (แต่ port ผมคงเล็กกว่าพี่ 2-3 เท่า 55)drsp เขียน:1 ถ้าหุ้นทีถืออยู่จ่ายปันผลน้อยลง หรือไม่จ่ายจะทําอย่างไร
2 ถ้ามีเหตุฉุกเฉินต้องใช้เงินก้อนจะทําอย่างไร
3 ถ้าเกิดหุ้นตกหนักยาวนานหลายเดือนหรือเป็นปี คิดว่าจะเครียดหรือกดดันไหม
4 อายุยังน้อยนั่งดูจอหุ้นทั้งวัน แน่ใจหรือว่าสิ่งนี้คือ คุณค่าของชีวิตคุณ
5 ถ้าไม่มีเงินมาเพิ่มเติมในพอร์ท ในระยะยาวพอร์ทจะเติบโตไหม สร้งความมั่นคงให้ชีวิตได้หรือไม่
พอร์ตผมใหญ่กว่าคุณเกิน10เท่า อายุผมก็เริ่มชราแล้ว แต่ผมไม่เคยคิดจะลาออกจากงานเลย
เพราะผมรู้สีกว่างานที่ทําอยู่ทําให้ชีวิตมีคุณค่า และทําประโยชน์ให้ผู้อื่นและสังคมได้
จริงๆผมคิดว่าคุณตัดสินใจแล้ว
เพียงแต่ต้องการคนสนับสนุน
ชีวิตเป็นของคุณ ทําในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด
แต่อย่าลืมหลักการสําคัญชองคนเป็นvi
คิอคิดใคร่ครวญผลตอบแทนและความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
โดยคํานึงถึงเป้าหมายระยะยาวมากว่าระยะสั้น
ขอให้โชคดีครับ
ขอเสริมนิดนึงบางครั้งการคิดเพื่อตัวเองมันง่ายครับ ปัจจุบันผมใช้จ่ายเพื่อตัวเองก็ราว 15,000 บาท ต่อเดือน ถ้าจะ retire เพื่อตัวเองสบายนั้นไม่ยากเลย
แต่บางครั้งเราต้องคิดเพื่อคนอื่นบ้างเช่น คุณพ่อ คุณแม่ เมื่อท่านเจ็บไข้ได้ป่วยเราต้องสามารถ ให้ best care แก่ท่านเท่าที่เราจะสามารถหาได้ หรือ ลูก (อันนี้ยังไม่มีแม้แต่เมีย55) เราก็คงอยากให้การศึกษาที่ดีที่สุดกับเค้า หรือ สังคมส่วนรวม โดยเฉพาะคนที่จบแพทย์หรือวิศวะมาต้องเข้าใจว่าการศึกษาที่เราได้รับมามันใช้เงินจริงๆต่อหัวมหาศาลกว่าที่เราจ่ายมาก เราควรทำงานส่วนหนึ่งก็เพื่อตอบแทนส่วนรวม เอาง่ายๆถ้าหมอๆของสังคมนี้ retire ไปเป็นนักลงทุนกันหมดเพราะคิดแต่ความสบายส่วนตัว ประเทศคงลำบากมากๆ
ไม่มีอะไรหรอกครับแค่อยากให้ลองคิดถึงคนรอบๆตัวที่ยังต้องพึ่งพิงเราด้วย
คิดอะไร ทำอะไรเพื่อตัวเอง ง่ายมากครับสบายมากด้วย
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 44
เข้าใจว่า เคยเห็น กระทู้ที่ จขกท ตั้งมาครั้งนึงแล้ว เป็นแนวนี้ แต่คราวนี้ ดูจริงจังกว่าเดิม
ชีวิตคนเรา ลองผิดลองถูกได้ครับ หากเราลาออกมาแล้วยังรู้สึก แย่กว่าเดิม อีก เราก็สามารถกลับไปสมัครงานที่ใหม่ๆ ได้ ใช่ว่าออกมาแล้วจะไม่สามารถกลับไปสมัครงานต่างๆ ได้อีก เราสามารถใช้ช่วงเวลาที่ว่านี้ มาค้นหาตัวตน เราอาจจะเจอ สิ่งที่เราชอบมากกว่า ทำให้ชีวิตมันมีความสุขกว่าก็ได้ ซึ่งอาจจะไม่ใช่การลงทุนในหุ้นอย่างเดียวก็ได้ หนิ
สำคัญมันอยู่ที่ว่า อะไรคือปัจจัย ที่ทำให้เรารู้สึกไม่อยาก ไม่ชอบในปัจจุบัน เห็นว่า ไม่ชอบความเปลี่ยนแปลง ตลาดหุ้นก็อาจจะทำให้คุณ หงุดหงิดมากขึ้นก็ได้ เพราะอะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งนักลงทุนระยะยาวทั้งหลายนั้นต้องทำใจ ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น และจะต้องมีกำลังใจ ( พร้อมกำลังเงิน ) ในการเผชิญกับระยะเวลาที่ย่ำแย่ได้ ( อาจจะเป็น สอง ปี สาม ปี ) เราลองตั้งสมมติฐานว่าหากเกิด Worst Case ในตลาดหุ้นแล้วเราจะอยู่กับมันได้แค่ไหน สายป่านเรายาวแค่ไหน จิตใจเราจะเข้มแข็งเพียงพอหรือไม่ และเราจะเอาเงินตรงไหนมาเลี้ยงตัวเราและครอบครัว
สู้ๆ ครับ
ชีวิตคนเรา ลองผิดลองถูกได้ครับ หากเราลาออกมาแล้วยังรู้สึก แย่กว่าเดิม อีก เราก็สามารถกลับไปสมัครงานที่ใหม่ๆ ได้ ใช่ว่าออกมาแล้วจะไม่สามารถกลับไปสมัครงานต่างๆ ได้อีก เราสามารถใช้ช่วงเวลาที่ว่านี้ มาค้นหาตัวตน เราอาจจะเจอ สิ่งที่เราชอบมากกว่า ทำให้ชีวิตมันมีความสุขกว่าก็ได้ ซึ่งอาจจะไม่ใช่การลงทุนในหุ้นอย่างเดียวก็ได้ หนิ
สำคัญมันอยู่ที่ว่า อะไรคือปัจจัย ที่ทำให้เรารู้สึกไม่อยาก ไม่ชอบในปัจจุบัน เห็นว่า ไม่ชอบความเปลี่ยนแปลง ตลาดหุ้นก็อาจจะทำให้คุณ หงุดหงิดมากขึ้นก็ได้ เพราะอะไรๆ มันก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งนักลงทุนระยะยาวทั้งหลายนั้นต้องทำใจ ยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น และจะต้องมีกำลังใจ ( พร้อมกำลังเงิน ) ในการเผชิญกับระยะเวลาที่ย่ำแย่ได้ ( อาจจะเป็น สอง ปี สาม ปี ) เราลองตั้งสมมติฐานว่าหากเกิด Worst Case ในตลาดหุ้นแล้วเราจะอยู่กับมันได้แค่ไหน สายป่านเรายาวแค่ไหน จิตใจเราจะเข้มแข็งเพียงพอหรือไม่ และเราจะเอาเงินตรงไหนมาเลี้ยงตัวเราและครอบครัว
สู้ๆ ครับ
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 45
พูดตรงๆนะครับ ให้ประสบการณ์ในอนาคตสอนคุณดีที่สุดครับ ตัดสินใจแล้ว ก็ลองใช้ชีวิตกับมันดูว่าเป็นยังไง คนอื่นในนี้ก็มีตัวแปรเกี่ยวข้องที่ไม่เหมือนคุณ ประสบการณ์คนอื่นที่เค้าให้ได้ก็เป็นข้อมูลชุดนึงเท่านั้น ถ้ามีคนบอกว่าดี ไม่ได้หมายความว่าคุณทำแล้วจะดี ถ้าคิดจะลงทุนในตลาดหุ้นจะทำงานประจำไปด้วยหรือไม่ ความสามารถก็คือตัวแปรหลัก สิ่งที่คุณได้มาจากการลาออกคือความสบายใจ เวลา ซึ่งนำพาไปสู่ concentration ต่อการลงทุนที่มากขึ้น ถ้าจะให้เตือนคงขอพูดอย่างเดียวครับว่า ทำตามแผนหลักที่วางไว้ให้ได้ มี exit strategy หรือ back up plan ชัดเจน แล้วอย่าสับสนเหมือนกับที่ชีวิตงานประจำทำให้คุณสับสน เพราะเกมนี้อันตรายกว่าครับ หวังดีนะครับ ขอให้มีความสุขกับการลงทุนครับ
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 46
"The longer the bull market lasts, the more severely investors will be afllicted with amnesia; after five years or so, many people no longer believe that bear markets are even possible. All those who forget are doomed to be reminded; and, in the stock market recovered memories are always unpleasant"
ben graham
ben graham
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 47
อ่านเหตุผลหลายๆคน ก็ดูดีนะครับ
ตั้งโจทย์กันก่อนดีไหม
1.มีบ้านเป็นของตัวเองหรือยัง
2.มีคนในครอบครัวต้องรับผิดชอบกี่คน
3.ภาระส่งเบี้ยประกัน และรายจ่ายประจำเดือน ค่าอาหาร น้ำประปา ไฟฟ้า ภาษีสังคม
หากเจ็บป่วย ขั้นรุนแรง เงิน3ล้านอาจไม่พอรักษานะ
4.ลงทุนในหุ้น ต้องใช้เวลาวันละกี่ชั่วโมง (แต่ถ้าเก็งกำไร ต้องเฝ้าเครื่องคอมก็หลายชั่วโมง)
สรุป ผมว่าควรนับรวมทรัพย์สินและเงินสดก่อนว่ามีถึงประมาณไหนครับ
การตัดสินใจ ครั้งแรกอาจจะถูก แต่วันเวลาผ่านไปอาจตรงกันข้าม
คนว่างงาน หายใจทิ้งไปวันๆ ผมว่างมาหลายปี
ของแพง เงินเฟ้อ ผมว่าผมผิดพลาดกับการวางแผนชีวิตที่ไม่ดีพอ
ลองเขียนแผนชีวิตดูครับ
ตอนนี้อายุเท่านี้ อีก10ปี ข้างหน้าจะมีเป้าหมายอย่างไร
ก็ขอให้โชคดีนะครับ
ตั้งโจทย์กันก่อนดีไหม
1.มีบ้านเป็นของตัวเองหรือยัง
2.มีคนในครอบครัวต้องรับผิดชอบกี่คน
3.ภาระส่งเบี้ยประกัน และรายจ่ายประจำเดือน ค่าอาหาร น้ำประปา ไฟฟ้า ภาษีสังคม
หากเจ็บป่วย ขั้นรุนแรง เงิน3ล้านอาจไม่พอรักษานะ
4.ลงทุนในหุ้น ต้องใช้เวลาวันละกี่ชั่วโมง (แต่ถ้าเก็งกำไร ต้องเฝ้าเครื่องคอมก็หลายชั่วโมง)
สรุป ผมว่าควรนับรวมทรัพย์สินและเงินสดก่อนว่ามีถึงประมาณไหนครับ
การตัดสินใจ ครั้งแรกอาจจะถูก แต่วันเวลาผ่านไปอาจตรงกันข้าม
คนว่างงาน หายใจทิ้งไปวันๆ ผมว่างมาหลายปี
ของแพง เงินเฟ้อ ผมว่าผมผิดพลาดกับการวางแผนชีวิตที่ไม่ดีพอ
ลองเขียนแผนชีวิตดูครับ
ตอนนี้อายุเท่านี้ อีก10ปี ข้างหน้าจะมีเป้าหมายอย่างไร
ก็ขอให้โชคดีนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 204
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 48
ผมคิดว่าถ้าจะออกจากงานมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว ควรจะต้องพิจารณาว่าเราพร้อมหรือยัง
1) มีบ้าน ที่เป็นของเราเอง ไม่ติดจำนองธนาคารนะครับ
2) มีรถยนต์ เอาไว้เดินทาง
3) มีเงินสดในธนาคาร เอาไว้เป็น backup plan เท่ากับค่าใช้จ่ายแบบปกติ 1 ปี
4) มีเงินลงทุนในหุ้นที่คิดผลตอบแทน 7% ต่อปี แล้วพอสำหรับ ค่าใช้จ่าย
การคิดค่าใช้จ่าย ควรเพิ่มขึ้นซัก 4% ต่อปี เพราะเราต้องเผื่อผลของเงินเฟ้อด้วย
และในค่าใช้จ่ายจะต้องร่วมเรื่องประกันสุขภาพเข้าไปด้วยนะครับ
ถ้าเงินลงทุนที่มียังไม่พอ ผมเห็นด้วยกับพี่ๆหลายคนที่แนะนำว่า ถ้างานที่ทำไม่มีความสุขก็หางานใหม่ที่
เหมาะกับเราทำไปก่อน แล้วค่อยๆสะสมทั้งความรู้และเงินทุนดีกว่าครับ
สู้ๆครับ....เอาใจช่วย
1) มีบ้าน ที่เป็นของเราเอง ไม่ติดจำนองธนาคารนะครับ
2) มีรถยนต์ เอาไว้เดินทาง
3) มีเงินสดในธนาคาร เอาไว้เป็น backup plan เท่ากับค่าใช้จ่ายแบบปกติ 1 ปี
4) มีเงินลงทุนในหุ้นที่คิดผลตอบแทน 7% ต่อปี แล้วพอสำหรับ ค่าใช้จ่าย
การคิดค่าใช้จ่าย ควรเพิ่มขึ้นซัก 4% ต่อปี เพราะเราต้องเผื่อผลของเงินเฟ้อด้วย
และในค่าใช้จ่ายจะต้องร่วมเรื่องประกันสุขภาพเข้าไปด้วยนะครับ
ถ้าเงินลงทุนที่มียังไม่พอ ผมเห็นด้วยกับพี่ๆหลายคนที่แนะนำว่า ถ้างานที่ทำไม่มีความสุขก็หางานใหม่ที่
เหมาะกับเราทำไปก่อน แล้วค่อยๆสะสมทั้งความรู้และเงินทุนดีกว่าครับ
สู้ๆครับ....เอาใจช่วย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 289
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 51
ตัดสินใจแล้ว มีความสุขกับความพอใจในสิ่งที่เป็นอยู่ครับSOIVEGA เขียน:ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจและทุกคำแนะนำคะ ถ้าไม่ถึงกับสุดๆ จริง ก็ไม่ออกคะ เครียดมาเป็นอาทิตย์แล้วคะ ตัดสินใจแล้วว่าเงิน 3 ล้านนี้ เราจะแบ่งเป็น 2 ล้านลงทุนในหุ้นที่ปันผลสม่ำเสมอ ปันผลประมาณ 6-7 % และอีก 1 ล้านลงทุนในหุ้นเติบโต เช่น cpall คะ รวมเครดิตภาษี ก็น่าจะได้ตกเดือนละประมาณ 15000 บาทต่อเดือน เราอยู่ได้คะ
ใช้ชีวิตพอเพียง และไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใคร รับรองอยู่ได้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 210
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 52
เห็นด้วยกับคุณ xylemoo ครับxylemoo เขียน:ผมคิดว่าถ้าจะออกจากงานมาเป็นนักลงทุนเต็มตัว ควรจะต้องพิจารณาว่าเราพร้อมหรือยัง
1) มีบ้าน ที่เป็นของเราเอง ไม่ติดจำนองธนาคารนะครับ
2) มีรถยนต์ เอาไว้เดินทาง
3) มีเงินสดในธนาคาร เอาไว้เป็น backup plan เท่ากับค่าใช้จ่ายแบบปกติ 1 ปี
4) มีเงินลงทุนในหุ้นที่คิดผลตอบแทน 7% ต่อปี แล้วพอสำหรับ ค่าใช้จ่าย
การคิดค่าใช้จ่าย ควรเพิ่มขึ้นซัก 4% ต่อปี เพราะเราต้องเผื่อผลของเงินเฟ้อด้วย
และในค่าใช้จ่ายจะต้องร่วมเรื่องประกันสุขภาพเข้าไปด้วยนะครับ
ถ้าเงินลงทุนที่มียังไม่พอ ผมเห็นด้วยกับพี่ๆหลายคนที่แนะนำว่า ถ้างานที่ทำไม่มีความสุขก็หางานใหม่ที่
เหมาะกับเราทำไปก่อน แล้วค่อยๆสะสมทั้งความรู้และเงินทุนดีกว่าครับ
สู้ๆครับ....เอาใจช่วย
ถ้ามีบ้าน มีรถ ไม่มีรายจ่ายหนักๆอื่นก็ ok นะครับ
แต่ 3 ล้าน นี่ถ้าต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ น้อยไปนิดนึงนะครับ
ลองเปลี่ยนงานใหม่ไป เก็บเงินอีกสักหน่อย ค่อยลาออกครั้งสุดท้ายก็ได้นะ
ยังไงก็ใจเย็นๆนะครับ
ชีวิตมีหนทางเสมอ
ขอให้มีความสุขนะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 301
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 53
ลาออกมาลงทุนหุ้นอย่างเดียว มันจะเสี่ยงไปมั้ยครับ อย่างที่หลายๆคนบอกถึงความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่าย ด้านค่ารักษาพยาบาล ด้านอัตราเงินเฟ้อ รวมไปถึงความเสี่ยงทางด้านอัตราผลตอบแทนระยะยาวในอนาคต เข้าใจว่ามีปัญหาในการทำงาน ผมไม่ทราบว่าปัญหานั้นอีกอะไร แต่ไม่ว่าจะเป็นปัญหาอะไรก็ตามสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการเปลี่ยนมุมมอง(vision) เช่น เจองานยาก คิดซะว่าท้าทายเพิ่มความรู้ความสามารถ เพื่อนร่วมงานไม่ดี คิดซะว่า เป็นการขัดเกราการมองคน รู้จักตัวอย่างคนที่ไม่ดี หรือแม้กระทั่งอุบัติเหตุรถชนแล้วหัวแตก รถพังยับ ก็คิดซะว่าโชคดีแล้วไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต และเป็นการเตือนสติให้ขับรถอย่างระมัดระวังมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น เป็นการเสนอความเห็นส่วนตัวเท่านั้นนะครับ เจ้าของกระทู้ตัดสินใจแบบไหนก็ไม่ผิดครับ เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคล
อย่า...วัดความลึกของแม่น้ำด้วยขาทั้ง2ข้าง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1021
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 54
สำหรับผม มันเป็นเรื่องสังคมที่เราอยู่มากกว่า ถ้าออกมาจากงานประจำ แล้วมานั่งเล่นหุ้นอย่างเดียว โลกที่เราอยู่จะแคบลงไปพอสมควร ยกเว้นแต่เราจะต้องหากลุ่มเพื่อนที่เล่นหุ้นเหมือนเรามีเวลาว่างคล้ายๆ กันรวมกันเป็นกลุ่มที่จะทำอะไรร่วมกันได้ ข้อดีของการออกจากงานก็คือความอิสระ แต่ข้อเสียคือถ้าอิสระมากเกินไปความน่าเบื่อจะเข้ามาแทนที่ ตรงนี้คงขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ ถ้ายังสนุกกับงานที่ทำ มีสังคมการทำงานที่ดี อายุยังน้อย และงานที่ทำไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการลงทุน ผมคงแนะนำให้ทำงานต่อไปดีกว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 180
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 55
ถ้าหากลุ่มเพื่อนเล่นหุ้นที่จะเป็นสังคมของเราผมพร้อมที่จะออกจากงานทันทีเพราะเบื่องานเต็มที่แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจะหากล่มเพื่อนที่ไหน ทุกวันนี้แม้งานน่าเบื่อแต่ก็ยังมีเพื่อนกินข้าวกลางวันจึงทำให้ยังไม่เบื่อยังไงช่วยแนะนำด้วยนะครับ เจ้าของกระทู้สามารถpm มาคุยได้นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 10
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 56
ในความรู้สึกของผม ผมว่าเจ้าของกระทู้มีคำตอบในใจแน่นอนอยู่แล้วนะครับ เพียงแต่ติดอยู่ตรงที่ยังมีความกังวลใจเล็กน้อยว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ แต่ในความเห็นผมนะครับ ผมว่า อยู่ได้สบายๆครับ ถ้าไม่ได้ชีวิตอย่างในสังคมเมือง
1.มีพื้นที่ทำกินบ้าง (ไม่ต้องซื้อทุกอย่างน่ะครับ)
2.รายได้ประมาณ 10%จากเงินลงทุน ครอบคลุมรายจ่าย ต่อเดือน ยิ่งมีเหลือยิ่งดีครับ เอามาลงทุนต่อ
ผมเองก็มีความคิดอยากจะออกจากงานเหมือนกัน แต่รอเวลาอีกซักหน่อยครับ ตอนนี้ก็เดินตามแผนไปเรื่อยๆก่อน
ขอให้โชคดีนะครับ
หมายเหตุ : อยากกลับมาเป็นลูกจ้างใหม่ไม่ยากหรอกครับ ถ้าไม่เกี่ยงเรื่อง งาน และ เงิน
1.มีพื้นที่ทำกินบ้าง (ไม่ต้องซื้อทุกอย่างน่ะครับ)
2.รายได้ประมาณ 10%จากเงินลงทุน ครอบคลุมรายจ่าย ต่อเดือน ยิ่งมีเหลือยิ่งดีครับ เอามาลงทุนต่อ
ผมเองก็มีความคิดอยากจะออกจากงานเหมือนกัน แต่รอเวลาอีกซักหน่อยครับ ตอนนี้ก็เดินตามแผนไปเรื่อยๆก่อน
ขอให้โชคดีนะครับ
หมายเหตุ : อยากกลับมาเป็นลูกจ้างใหม่ไม่ยากหรอกครับ ถ้าไม่เกี่ยงเรื่อง งาน และ เงิน
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 57
ไม่ควรลาออกอย่างยิ่งคับ ไม่สมควรด้วยประการทั้งปวง
อดทนทำงานต่อดีกว่าคับ อย่าเอาอารมณ์มาเหนือเหตุผล
เงิน 3 ล้านไม่พอคับ ถ้าคุณทำงาน คุณยังมีเงินเดือนมาเพิ่มได้
แม้จะเหนื่อยใจ แม้จะเหนื่อยกาย แต่มีเป้าหมาย ไม่ลำบากในการเลี้ยงชีวิต
แต่ถ้าคุณลาออกมาคุณจะเครียดยิ่งกว่า แถมมาดูแลพ่อแม่อีก
ที่ทำงานยังมีสวัสดิการ ยังมีตำแหน่งหน้าที่ มีสังคม มีเครดิต
คุณลาออกมาแล้วพวกนี้จะลดลงไปมาก หรือไม่มี จนถึงติดลบไป
ถ้าคุณมีเงิน 10-20 ล้าน ก็ยังถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ต้องลังเลอยู่
ถ้าจะให้ดีควรมีมากกว่า 20 ล้านอันนี้คงทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น
แต่ก็ต้องบวกกับความรู้ความเข้าใจในการลงทุนอย่างดี งูๆปลาๆ
คิดเอาเองว่าตัวเองรู้ อย่างนี้ไม่ได้คับ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
อย่าไปอ่านความคิดเห็นเรื่องอิสรภาพทางการเงินเยอะเกินไป
อย่าไปเอาความเห็นในเวบต่างๆเยอะเกินไป เพราะจะทำให้
คุณมีแนวโน้มเชื่อถือได้ง่าย อย่าลืมคับว่าคนในเวบไม่ได้รู้จัก
กันเป็นการส่วนตัว การตัดสินใจของคุณถ้าคุณเดือนร้อน
เค้าไม่เดือนร้อนด้วย เค้าไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ด้วย
ให้เงินมันทำงานไปก่อนคับจากการทำงานและก็การลงทุน
พร้อมๆทั้งหาความรุ้ให้มากที่สุด
ผมว่าลองหาหนังสือของพระไพศาล วิสาโล อ่านดูก่อนคับ
ท่านเขียนไว้ได้ดีมากๆ
อดทนทำงานต่อดีกว่าคับ อย่าเอาอารมณ์มาเหนือเหตุผล
เงิน 3 ล้านไม่พอคับ ถ้าคุณทำงาน คุณยังมีเงินเดือนมาเพิ่มได้
แม้จะเหนื่อยใจ แม้จะเหนื่อยกาย แต่มีเป้าหมาย ไม่ลำบากในการเลี้ยงชีวิต
แต่ถ้าคุณลาออกมาคุณจะเครียดยิ่งกว่า แถมมาดูแลพ่อแม่อีก
ที่ทำงานยังมีสวัสดิการ ยังมีตำแหน่งหน้าที่ มีสังคม มีเครดิต
คุณลาออกมาแล้วพวกนี้จะลดลงไปมาก หรือไม่มี จนถึงติดลบไป
ถ้าคุณมีเงิน 10-20 ล้าน ก็ยังถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ต้องลังเลอยู่
ถ้าจะให้ดีควรมีมากกว่า 20 ล้านอันนี้คงทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น
แต่ก็ต้องบวกกับความรู้ความเข้าใจในการลงทุนอย่างดี งูๆปลาๆ
คิดเอาเองว่าตัวเองรู้ อย่างนี้ไม่ได้คับ มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
อย่าไปอ่านความคิดเห็นเรื่องอิสรภาพทางการเงินเยอะเกินไป
อย่าไปเอาความเห็นในเวบต่างๆเยอะเกินไป เพราะจะทำให้
คุณมีแนวโน้มเชื่อถือได้ง่าย อย่าลืมคับว่าคนในเวบไม่ได้รู้จัก
กันเป็นการส่วนตัว การตัดสินใจของคุณถ้าคุณเดือนร้อน
เค้าไม่เดือนร้อนด้วย เค้าไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ด้วย
ให้เงินมันทำงานไปก่อนคับจากการทำงานและก็การลงทุน
พร้อมๆทั้งหาความรุ้ให้มากที่สุด
ผมว่าลองหาหนังสือของพระไพศาล วิสาโล อ่านดูก่อนคับ
ท่านเขียนไว้ได้ดีมากๆ
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 58
ผมว่าโลกแคบหรือไม่นั้น อยู่ที่มุมมอง และวิธีการใช้ชีวิตมากกว่า...Notelio เขียน:สำหรับผม มันเป็นเรื่องสังคมที่เราอยู่มากกว่า ถ้าออกมาจากงานประจำ แล้วมานั่งเล่นหุ้นอย่างเดียว โลกที่เราอยู่จะแคบลงไปพอสมควร ยกเว้นแต่เราจะต้องหากลุ่มเพื่อนที่เล่นหุ้นเหมือนเรามีเวลาว่างคล้ายๆ กันรวมกันเป็นกลุ่มที่จะทำอะไรร่วมกันได้ ข้อดีของการออกจากงานก็คือความอิสระ แต่ข้อเสียคือถ้าอิสระมากเกินไปความน่าเบื่อจะเข้ามาแทนที่ ตรงนี้คงขึ้นอยู่กับแต่ละคนครับ ถ้ายังสนุกกับงานที่ทำ มีสังคมการทำงานที่ดี อายุยังน้อย และงานที่ทำไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการลงทุน ผมคงแนะนำให้ทำงานต่อไปดีกว่าครับ
คนบางคนทำงานเจอคนเยอะแยะมากมาย แต่มุมมอง วิสัยทัศน์ กลับแคบอยู่แค่ปลายเท้าตัวเอง เพราะ ใจไม่เปิดกว้าง
คนบางคน อยู่กับธรรมชาติ อยู่กับกายใจของตัวเอง ไม่ได้ออกสังคมมาก แต่กลับเข้าใจถึงสิ่งต่างๆ รอบตัว สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข อีกทั้งยังรู้รอบด้าน เพราะ ใจที่เปิดกว้าง
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอความเห็นคะ
โพสต์ที่ 59
ถ้าตัดสินใจแล้ว คงต้องขออวยพรให้โชคดีครับ
ถ้าเป็นผมคงต้องหา plan B ไว้สำหรับตัวเองด้วย แต่ผมเห็นด้วยกับสมาชิกหลายคนนะครับ ถ้าเครียดกับงานก็เปลี่ยนงานใหม่
คนทำงานทุกคนมีความเครียดหมดทุกคน จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง ถ้าเราควบคุมปัจจัยภายนอกไม่ได้ ก็ต้องควบคุมที่ตัวเราเองครับ
ถ้าเป็นผมคงต้องหา plan B ไว้สำหรับตัวเองด้วย แต่ผมเห็นด้วยกับสมาชิกหลายคนนะครับ ถ้าเครียดกับงานก็เปลี่ยนงานใหม่
คนทำงานทุกคนมีความเครียดหมดทุกคน จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง ถ้าเราควบคุมปัจจัยภายนอกไม่ได้ ก็ต้องควบคุมที่ตัวเราเองครับ
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....