ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 3
ขุดขึ้นมาเผื่อคุณลูกอีสานหรือเพื่อนๆมาตอบ
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- Verified User
- โพสต์: 43
- ผู้ติดตาม: 0
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 5
ไปมาครับ เท่าที่พอจะจดทัน......
กำไรลดจาก สึนามิ,นโยบายประหยัดพลังงาน(ห้างปิดเร็ว),สาขาใหม่ยังไม่ทำกำไร, ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงขึ้น เนื่องจากมีการเปิดสาขาจำนวนมาก+ใกล้สาขาเดิม การลงทุนในระบบ hardware สำหรับอนาคต
กำไรขั้นต้นลดลงเนื่องจากยอดขายของสินค้าที่มีกำไรน้อย (profit margin) ในกลุ่มนิตยสารซึ่งบริษัทขายได้เป็นปริมาณมาก
กำไรสุทธิลดลงจากปีที่แล้วเพราะรายได้ที่ไม่ได้มาจากการดำเนินงานหลัก เช่นการขายทรัพย์สิน ที่ดิน,ตึกแถว
การตัดสินใจจองทำเลต้องรีบตัดสินใจ สาขาเดิมมีประสิทธิภาพการขายโตขึ้นประมาณ 10% สาขาใหม่อาจจะใช้เวลา 2-3-5ปี จะต้องปรับปรุงความสามารถในการขายต่อ มีการเจรจากับเจ้าของพื้นที่ ซึ่งต้องใช้เวลาเช่นเดียวกัน
ปี 47 มีการทดลอง model หลายแบบซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาในอนาคต
ปีนี้มีแผนเปิด 23-40 กว่าแห่ง (รวมสาขาเล็กเช่น รถไฟใต้ดิน)
เรื่องสินค้าสูญหาย เป็นปัญหาของธุรกิจค้าปลีกทุกที่ ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 1% ของยอดขาย คิดเป็นเงินก็อย่างที่เห็น... 26 ล้าน -- รับได้
ส่วนสำคัญ
1. มือซน
2. ขโมยไปขายเป็นธุรกิจ
3. ภายใน
ข้อ 2-3 สำคัญ ยังไม่มีแนวทางการแก้ไขชัดเจนเนื่องจากต้องดูความคุ้มทุนในการลงทุนป้องกัน
นโยบายจัดการกับหุ้นที่ซื้อคืน ยังไม่มีการตัดสินใจ แต่เนื่องจากตอนซื้อเนื่องจากมี cashflow เกิน พอซื้อมาแล้วถึงเจอประกาศ กลต. ทีหลัง หุ้นที่ซื้อคืนมี 2 ทาง คือ ขายคืนมาในตลาด (ถ้าราคาตอนนี้ก็ขาดทุนน่ะสิ!) กับประกาศลดทุนถ้าไม่ขายภายในเวลา 3 ป
มีท่านผู้ถือหุ้นถามว่า แล้วอย่างงี้จ่ายปันผลเป็นหุ้นได้ไหม แล้วก็เอากระแสเงินสดที่กันสำรองอยู่ออกมาใช้จ่าย ที่ประชุมรับไว้พิจารณา ยังไม่ได้คำตอบ (ไม่รู้ว่าถูกกติกาของ กลต. หรือเปล่า)
ราคาน้ำมันมีผลกับค่าขนส่ง -> ค่าใช้จ่าย 30% ของราคา, กำลังซื้อลดลง
อัตราการเติบโตลดลงในช่วง5 เดือนหลัง จากภาวะเศรษฐกิจ และปัญหาภาคใต้ โตในอัตราที่น้อยลง ซึ่งยังส่งผลต่อมาถึงปีนี้
โรงเรียนเพลินพัฒน์ยังขาดทุนอยู่
พูดถึงส่วนแบ่งตลาด 20% คิดจากยอดขาย (ไม่มีข้อมูลเป็นทางการ อันนี้เป็นการประมาณ
ถ้าเฉพาะหนังสือคอมก็น่าจะประมาณ 40-50%
การเติบโตของธุรกิจ ดัชนีชี้ว่าตลาดยังมีโอกาสโตไปได้ 4-5 เท่าสิ่งที่ทำต้องทำร้านหนังสือมากขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย
กำไรลดจาก สึนามิ,นโยบายประหยัดพลังงาน(ห้างปิดเร็ว),สาขาใหม่ยังไม่ทำกำไร, ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงขึ้น เนื่องจากมีการเปิดสาขาจำนวนมาก+ใกล้สาขาเดิม การลงทุนในระบบ hardware สำหรับอนาคต
กำไรขั้นต้นลดลงเนื่องจากยอดขายของสินค้าที่มีกำไรน้อย (profit margin) ในกลุ่มนิตยสารซึ่งบริษัทขายได้เป็นปริมาณมาก
กำไรสุทธิลดลงจากปีที่แล้วเพราะรายได้ที่ไม่ได้มาจากการดำเนินงานหลัก เช่นการขายทรัพย์สิน ที่ดิน,ตึกแถว
การตัดสินใจจองทำเลต้องรีบตัดสินใจ สาขาเดิมมีประสิทธิภาพการขายโตขึ้นประมาณ 10% สาขาใหม่อาจจะใช้เวลา 2-3-5ปี จะต้องปรับปรุงความสามารถในการขายต่อ มีการเจรจากับเจ้าของพื้นที่ ซึ่งต้องใช้เวลาเช่นเดียวกัน
ปี 47 มีการทดลอง model หลายแบบซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาในอนาคต
ปีนี้มีแผนเปิด 23-40 กว่าแห่ง (รวมสาขาเล็กเช่น รถไฟใต้ดิน)
เรื่องสินค้าสูญหาย เป็นปัญหาของธุรกิจค้าปลีกทุกที่ ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 1% ของยอดขาย คิดเป็นเงินก็อย่างที่เห็น... 26 ล้าน -- รับได้
ส่วนสำคัญ
1. มือซน
2. ขโมยไปขายเป็นธุรกิจ
3. ภายใน
ข้อ 2-3 สำคัญ ยังไม่มีแนวทางการแก้ไขชัดเจนเนื่องจากต้องดูความคุ้มทุนในการลงทุนป้องกัน
นโยบายจัดการกับหุ้นที่ซื้อคืน ยังไม่มีการตัดสินใจ แต่เนื่องจากตอนซื้อเนื่องจากมี cashflow เกิน พอซื้อมาแล้วถึงเจอประกาศ กลต. ทีหลัง หุ้นที่ซื้อคืนมี 2 ทาง คือ ขายคืนมาในตลาด (ถ้าราคาตอนนี้ก็ขาดทุนน่ะสิ!) กับประกาศลดทุนถ้าไม่ขายภายในเวลา 3 ป
มีท่านผู้ถือหุ้นถามว่า แล้วอย่างงี้จ่ายปันผลเป็นหุ้นได้ไหม แล้วก็เอากระแสเงินสดที่กันสำรองอยู่ออกมาใช้จ่าย ที่ประชุมรับไว้พิจารณา ยังไม่ได้คำตอบ (ไม่รู้ว่าถูกกติกาของ กลต. หรือเปล่า)
ราคาน้ำมันมีผลกับค่าขนส่ง -> ค่าใช้จ่าย 30% ของราคา, กำลังซื้อลดลง
อัตราการเติบโตลดลงในช่วง5 เดือนหลัง จากภาวะเศรษฐกิจ และปัญหาภาคใต้ โตในอัตราที่น้อยลง ซึ่งยังส่งผลต่อมาถึงปีนี้
โรงเรียนเพลินพัฒน์ยังขาดทุนอยู่
พูดถึงส่วนแบ่งตลาด 20% คิดจากยอดขาย (ไม่มีข้อมูลเป็นทางการ อันนี้เป็นการประมาณ
ถ้าเฉพาะหนังสือคอมก็น่าจะประมาณ 40-50%
การเติบโตของธุรกิจ ดัชนีชี้ว่าตลาดยังมีโอกาสโตไปได้ 4-5 เท่าสิ่งที่ทำต้องทำร้านหนังสือมากขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางการขาย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 7
เรื่องปันผลเป็นหุ้นยังไงก็คงทำไม่ได้ครับ
เพราะบริษัทไม่มีกำไรสะสมที่ไม่มีภาระในการตั้งสำรองเพียงพอที่จะจ่ายปันผลครับ
การปันผลเป็นหุ้น ก็คือการเปลี่ยนตัวเลขจาก กำไรสะสมที่ไม่ได้ตั้งสำรอง เป็นทุนจดทะเบียนและส่วนเกินมูลค่าหุ้น
ที่นี้ไม่เหลือกำไรสะสมแล้วยังไงก็จ่ายปันผลไม่ได้
ถ้าอยากจะให้ผลประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้น ก็แจก Warrant ฟรีไงครับ แต่ VI คงไม่ชอบ
ถึงยังไงปีหน้า SE-ED ก็สามารถกลับมาเริ่มจ่ายปันผลได้ตามปรกติแล้วครับ เพียงแต่ว่ากำไรสะสมที่ไม่มีภาระสำรองลดลงมาก ต้องเริ่มสะสมใหม่ครับ
เพราะบริษัทไม่มีกำไรสะสมที่ไม่มีภาระในการตั้งสำรองเพียงพอที่จะจ่ายปันผลครับ
การปันผลเป็นหุ้น ก็คือการเปลี่ยนตัวเลขจาก กำไรสะสมที่ไม่ได้ตั้งสำรอง เป็นทุนจดทะเบียนและส่วนเกินมูลค่าหุ้น
ที่นี้ไม่เหลือกำไรสะสมแล้วยังไงก็จ่ายปันผลไม่ได้
ถ้าอยากจะให้ผลประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้น ก็แจก Warrant ฟรีไงครับ แต่ VI คงไม่ชอบ
ถึงยังไงปีหน้า SE-ED ก็สามารถกลับมาเริ่มจ่ายปันผลได้ตามปรกติแล้วครับ เพียงแต่ว่ากำไรสะสมที่ไม่มีภาระสำรองลดลงมาก ต้องเริ่มสะสมใหม่ครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 8
ผมไปประชุมด้วยครับ แต่ไปสายมาก เลยไม่ค่อยมีรายละเอียดเท่าที่ควร
แต่ค่อนข้างประทับใจกับการเอาใจใส่ผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทครับ มีการแจกบัตรสมาชิกซีเอ็ด แจกกระเป๋าใบเล็กๆ และเอ็มดีคุณทนง ให้เกียรติตอบข้อซักถามกับผู้ถือหุ้นนอกรอบอย่างจุใจเลยจริงๆ แม้เหลือผู้ถือหุ้นอยู่แค่ 2-3 คน
ได้เจอท่าน ดร. ด้วยครับแต่ไมได้เข้าไปทักทายเพราะท่านต้องรีบกลับไปรับลูกจากโรงเรียน ประเด็นที่ผมขอขยายความจากคุณ Roland คือ
1.บริษัทเป็นร้านหลังสืออันดับหนึ่งของประเทศในแง่ยอดขาย มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20% ในตลาดรวม แต่หากคิดเฉพาะร้านหนังสือเครือข่าย บริษัทมีส่วนแบ่งค่อนข้างมาก แม้แต่อันดับ 2 B2S ก็มียอดขายหนังสือน้อยกว่าบริษัทประมาณ 6-7 เท่าเลยทีเดียว การเป็นรายใหญ่ที่สุด ทำให้มีความได้เปรียบในแง่การจดจำ ความภักดีของลูกค้า ดังนั้นบริษัทมักได้รับการติดต่อจากห้างสรรรพสินค้าเป็นอันดับแรกเสมอ และได้เงื่อนใขค่าเช่าที่ดี
2.ในอนาคต หากระบบไอทีของบริษัทแล้วเสร็จ จะทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น แต่การพัฒนาระบบซอฟแวร์ต้องใช้เวลา เพราะค่อนข้างจะยุ่งยากและซับซ้อนมากทีเดียว
3.การเปิดสาขาใหม่ๆ มักเป็นสาขาขนาดเล็ก ซึ่งขายนิตยสาร ทำให้มีมาร์จินไม่มา การเปิดสาขาในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นการมองระยะยาว
4.โรงเรียนเพลินพัฒนา ซึ่งท่านดร. ซักถามมาก ในระยะต้นๆยังคงมีผลขาดทุนอยู่ เพราะยังไม่สามารถรับเด็กได้เต็มชั้น แต่ในระยะยาวจะทำกำไรได้ เป็นโรงเรียนที่เน้นคอนเซพท์ใหม่ หากประสบความสำเร็จ จะทำให้การขยายสาขาเป็นไปได้ง่าย ท่านดร.แนะนำให้มีการทำเป็นกองทุนอสังหาริมพรัพย์ให้ผู้ปกครองซื้อกองทุนและมีสิทธ์ส่งลูกเข้าเรียน และได้เงินปันผลจากกองทุน จะทำให้การขยายสาขาเป็นไปอย่ารวดเร็ว ทำให้ผลิตพลเมืองที่ดีให้แก่ประเทศ
5.เท่าที่ได้รับฟัง คาดว่ากำไรปีนี้จะทรงๆครับ แต่อาจจะเริ่มดีขึ้นในปีถัดไป(เป็นความเห็นส่วนตัวครับ) :lol:
แต่ค่อนข้างประทับใจกับการเอาใจใส่ผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทครับ มีการแจกบัตรสมาชิกซีเอ็ด แจกกระเป๋าใบเล็กๆ และเอ็มดีคุณทนง ให้เกียรติตอบข้อซักถามกับผู้ถือหุ้นนอกรอบอย่างจุใจเลยจริงๆ แม้เหลือผู้ถือหุ้นอยู่แค่ 2-3 คน
ได้เจอท่าน ดร. ด้วยครับแต่ไมได้เข้าไปทักทายเพราะท่านต้องรีบกลับไปรับลูกจากโรงเรียน ประเด็นที่ผมขอขยายความจากคุณ Roland คือ
1.บริษัทเป็นร้านหลังสืออันดับหนึ่งของประเทศในแง่ยอดขาย มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20% ในตลาดรวม แต่หากคิดเฉพาะร้านหนังสือเครือข่าย บริษัทมีส่วนแบ่งค่อนข้างมาก แม้แต่อันดับ 2 B2S ก็มียอดขายหนังสือน้อยกว่าบริษัทประมาณ 6-7 เท่าเลยทีเดียว การเป็นรายใหญ่ที่สุด ทำให้มีความได้เปรียบในแง่การจดจำ ความภักดีของลูกค้า ดังนั้นบริษัทมักได้รับการติดต่อจากห้างสรรรพสินค้าเป็นอันดับแรกเสมอ และได้เงื่อนใขค่าเช่าที่ดี
2.ในอนาคต หากระบบไอทีของบริษัทแล้วเสร็จ จะทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น แต่การพัฒนาระบบซอฟแวร์ต้องใช้เวลา เพราะค่อนข้างจะยุ่งยากและซับซ้อนมากทีเดียว
3.การเปิดสาขาใหม่ๆ มักเป็นสาขาขนาดเล็ก ซึ่งขายนิตยสาร ทำให้มีมาร์จินไม่มา การเปิดสาขาในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นการมองระยะยาว
4.โรงเรียนเพลินพัฒนา ซึ่งท่านดร. ซักถามมาก ในระยะต้นๆยังคงมีผลขาดทุนอยู่ เพราะยังไม่สามารถรับเด็กได้เต็มชั้น แต่ในระยะยาวจะทำกำไรได้ เป็นโรงเรียนที่เน้นคอนเซพท์ใหม่ หากประสบความสำเร็จ จะทำให้การขยายสาขาเป็นไปได้ง่าย ท่านดร.แนะนำให้มีการทำเป็นกองทุนอสังหาริมพรัพย์ให้ผู้ปกครองซื้อกองทุนและมีสิทธ์ส่งลูกเข้าเรียน และได้เงินปันผลจากกองทุน จะทำให้การขยายสาขาเป็นไปอย่ารวดเร็ว ทำให้ผลิตพลเมืองที่ดีให้แก่ประเทศ
5.เท่าที่ได้รับฟัง คาดว่ากำไรปีนี้จะทรงๆครับ แต่อาจจะเริ่มดีขึ้นในปีถัดไป(เป็นความเห็นส่วนตัวครับ) :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 9
ที่คุณลูกอิสานไปช้าเพราะเรายืนคุยกันนานไปหน่อยหรือเปล่าครับ
เรื่องให้ผู้ปกครองซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์แล้วส่งลูกเข้าดรงเรียนเพลินพัฒนาได้ ผมกลัวว่าราคาหน่วยลงทุนจะพุ่งเกินจริงไปมากนะครับ
เพราะทุกวันนี้ผู้ปกครองบางท่านยังยอมเสียเงินหลักหลายแสนเป็นเงินกินเปล่าเพื่อให้ลูกได้เข้าโรงเรียนดีๆ
เรื่องให้ผู้ปกครองซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์แล้วส่งลูกเข้าดรงเรียนเพลินพัฒนาได้ ผมกลัวว่าราคาหน่วยลงทุนจะพุ่งเกินจริงไปมากนะครับ
เพราะทุกวันนี้ผู้ปกครองบางท่านยังยอมเสียเงินหลักหลายแสนเป็นเงินกินเปล่าเพื่อให้ลูกได้เข้าโรงเรียนดีๆ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 11
chatchai เขียน:ที่คุณลูกอิสานไปช้าเพราะเรายืนคุยกันนานไปหน่อยหรือเปล่าครับ
อาจจะมีส่วนครับพี่ ผมแว็ปไปทักทายเพื่อนเก่าด้วยน่ะครับ เลยทำให้ไปสายมาก
ส่วนเรื่องโรงเรียนเพลินพัฒ ตอนนี้มี waiting list หลายร้อยราย คุณทนงบอกว่าเรื่องเงินในการสร้างโรงเรียนดีๆไม่มีปัญหาเลย แต่โรงเรียนควรจะพิสูจน์คอนเซปการเรียนว่าได้ผลดีจริงหรือเปล่า หากดีจริง การ duplicate ไม่เป็นปัญหา
ส่วนกรรมการคุณเสริมสิน เป็นกรรมการท่านเดียวที่ได้รับการโหวตน้อยที่สุด มีท่านผู้ถือหุ้นแสดงความเห็นว่า ถึงแม้จะได้รับการโหวตผ่าน แต่ผู้บริหารก็ควรจะรู้ว่า นักลงทุนรายย่อยรู้สึกและคิดอย่างไรกับกรรมการท่านนี้
ตามความเห็นของผม เคยทราบมาว่าคุณเสริมสินเคยเป็นผู้บริหารของกลุ่มเนชั่นมาก่อน ดังนั้นอาจจะมีเหตุผลอย่างนี้ ที่ทำให้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นกรรมการจากกลุ่มเนชั่น... หากจะผิด คงผิดที่คุณเสริมสินซื้อหุ้นไปแล้วไม่ควรขายออกมาครับ และดันมาขายผิดจังหวะเวลา ก็คงทำให้ผู้ถือหุ้นรายอื่นไม่พอใจครับ :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 12
นึกดู
หุ้นเขาๆก็มีสิทธิ์ขาย
แล้วใครซื้อละ ใช่คะแนนที่โหวตให้ท่าน สส รึเปล่า :lol:
หุ้นเขาๆก็มีสิทธิ์ขาย
แล้วใครซื้อละ ใช่คะแนนที่โหวตให้ท่าน สส รึเปล่า :lol:
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
- มือเก่าหัดขับ
- Verified User
- โพสต์: 1112
- ผู้ติดตาม: 0
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 13
ยังครับ ยังไม่ให้สัญญาณนะ....
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
-
- Verified User
- โพสต์: 232
- ผู้ติดตาม: 0
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 16
เคยทราบว่าธุรกิจมหาวิทยาลัยเอกชน ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ แต่ไม่ทราบว่าโรงเรียนเอกชนต้องเสียหรือเปล่า แล้วกรณีอย่างเพลินพัฒน์นี้ต้องเสียภาษีเงินได้หรือไม่ หากไม่ต้องเสีย ระยะยาวก็น่าสนนะครับ เมื่อคืนทุนและเริ่มกำไรแล้ว โดยเฉพาะหากขยายสาขาไปได้อีกเรื่อยๆ
"Much success can be attributed to inactivity. Most investors cannot resist the temptation to constantly buy and sell."
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 17
โค้ด: เลือกทั้งหมด
คุณเสริมสิน เป็นผู้บริหาร THAILAND.COM ที่โด่งดังในอดีต ของเนชั่นครับ
อุตสาห์ไปซื้อชื่อ web site ด้วยเงินมากพอควร
อิอิ
เดาเล่น
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 18
เพิ่งอ่านหนังสือเล่มล่าของดร. one up
ไม่รู้จะจัด se-ed ไว้ในหุ้นประเภทไหนใน 6ชนิดที่ปีเต้อร์จัดไว้
มันหัวมังกุดท้ายมังกรยังไงไม่รู้
ใครมีความเห็นอย่างไรบ้าง
ผมว่าตลาดหนังสือเมืองไทยดูจากเด็กรุ่นใหม่ๆ
เล่นแต่เกมออนไลน์ อ่านการ์ตูนยังไม่อ่านเลย
พี่เค้านิยมซื้อซีดีมาดู เค้าว่าขีเกียจอ่าน
แล้วใครจะหวังให้โตในอนาคต อนางอ ก็ยากนา
หนังสือดีๆอย่างที่ดร.อุตส่าห์แปลให้พวกเราอ่านปีนึงจะมีซักกี่เล่มกัน
มีเพื่อนอยู่โรงพิมพ์ใหญ่ อภินัน หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คของโรงพิมพ์เขา
ให้ทุกเล่ม 10เล่มเลือกมาอ่านได้สัก1เล่มเท่านั้นจริงๆ(ทั้งๆที่อ่านได้หลายแนว)
ทั้งดีมานด์ทั้งซัพพลายมีปัญหา
แล้วตลาดรวมมันจะไปได้รึ
ไม่รู้จะจัด se-ed ไว้ในหุ้นประเภทไหนใน 6ชนิดที่ปีเต้อร์จัดไว้
มันหัวมังกุดท้ายมังกรยังไงไม่รู้
ใครมีความเห็นอย่างไรบ้าง
ผมว่าตลาดหนังสือเมืองไทยดูจากเด็กรุ่นใหม่ๆ
เล่นแต่เกมออนไลน์ อ่านการ์ตูนยังไม่อ่านเลย
พี่เค้านิยมซื้อซีดีมาดู เค้าว่าขีเกียจอ่าน
แล้วใครจะหวังให้โตในอนาคต อนางอ ก็ยากนา
หนังสือดีๆอย่างที่ดร.อุตส่าห์แปลให้พวกเราอ่านปีนึงจะมีซักกี่เล่มกัน
มีเพื่อนอยู่โรงพิมพ์ใหญ่ อภินัน หนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คของโรงพิมพ์เขา
ให้ทุกเล่ม 10เล่มเลือกมาอ่านได้สัก1เล่มเท่านั้นจริงๆ(ทั้งๆที่อ่านได้หลายแนว)
ทั้งดีมานด์ทั้งซัพพลายมีปัญหา
แล้วตลาดรวมมันจะไปได้รึ
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- Verified User
- โพสต์: 715
- ผู้ติดตาม: 0
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 19
ถ้าจำข่าวไม่ผิด Thailand.com นี่้เป็นคุณ เสริมสินเอามาขายให้ nation อีกที ช่วง dot com บูม ได้ยินว่า ขายได้ เป็นหลักล้าน(ดอลล่าร์) ทีเดียว
แล้วก็ได้อ่านที่แกให้สัมภาษณืว่า สมัยเรียนสถาปัตจุฬา เปิดบริษัททำธุรกิจรับตกแต่งภายในกับเพื่อ่น ได้เงินก่้อนไปเรียนต่อประมาณ 8 ล้านบาท สมัย 10กว่าปีก่อนนู้น ก็ดูแล้วน่าจะเป็นคนเก่งนะครับ ถ้าอย่างที่เค้าพูดจริง
แล้วก็ได้อ่านที่แกให้สัมภาษณืว่า สมัยเรียนสถาปัตจุฬา เปิดบริษัททำธุรกิจรับตกแต่งภายในกับเพื่อ่น ได้เงินก่้อนไปเรียนต่อประมาณ 8 ล้านบาท สมัย 10กว่าปีก่อนนู้น ก็ดูแล้วน่าจะเป็นคนเก่งนะครับ ถ้าอย่างที่เค้าพูดจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 715
- ผู้ติดตาม: 0
ใครไปประชุมSE-EDบ้างครับ
โพสต์ที่ 20
http://www.gotomanager.com/news/details.aspx?id=10419
เรื่องของคุณ เสริมสิน ที่ลงในผู้จัดการรายเดือน
เรื่องของคุณ เสริมสิน ที่ลงในผู้จัดการรายเดือน