ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 4
หุ้นลงรอบนี้ โรงพยาบาลคงมีรายได้เพิ่ม
คนเล่นหุ้นเสีย เมียตีได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล
คนเล่นหุ้นเสียกู้หนี้ยืมสินมาไม่มีจ่าย กินยาฆ่าตัวตาย ไปโรงพยาบาล
ส่วนคนยิงตัวตายประท้วงที่หลักทรัพย์มีคนเดียว แต่ยิงตัวตายที่อื่นๆคงมีหลายคน
มันไม่ถึงฆาตรก็นำส่งโรงพยาบาล รวยเพราะผู้อื่นเป็นทุกข์...
คนเล่นหุ้นเสีย เมียตีได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล
คนเล่นหุ้นเสียกู้หนี้ยืมสินมาไม่มีจ่าย กินยาฆ่าตัวตาย ไปโรงพยาบาล
ส่วนคนยิงตัวตายประท้วงที่หลักทรัพย์มีคนเดียว แต่ยิงตัวตายที่อื่นๆคงมีหลายคน
มันไม่ถึงฆาตรก็นำส่งโรงพยาบาล รวยเพราะผู้อื่นเป็นทุกข์...
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 7
หุ้นโรงพยาบาลไม่ค่อยดี เพราะหมอมีรายได้เยอะ(เอกชน)
อืม พูดตรงไปหรือเปล่า
คือกิจการอย่างอื่นเวลามีรายได้ดี พนักงานส่วนใหญ่ ก็มีรายได้ปกติ
หุ้นโรงพยาบาล ก็เหมือนหุ้นสายการบิน นักบินชอบประท้วง หมอก็เหมือนกัน คุมยาก
พูดจาดี แต่ถ้าได้ประโยชน์ไม่พอ ก็มีทางเลือกเยอะ
ผมว่างั้นนะ ใครคิดอย่างไรบ้าง เห็นมีหมอเยอะก็เลยวิจารณ์ตรงๆ
อืม พูดตรงไปหรือเปล่า
คือกิจการอย่างอื่นเวลามีรายได้ดี พนักงานส่วนใหญ่ ก็มีรายได้ปกติ
หุ้นโรงพยาบาล ก็เหมือนหุ้นสายการบิน นักบินชอบประท้วง หมอก็เหมือนกัน คุมยาก
พูดจาดี แต่ถ้าได้ประโยชน์ไม่พอ ก็มีทางเลือกเยอะ
ผมว่างั้นนะ ใครคิดอย่างไรบ้าง เห็นมีหมอเยอะก็เลยวิจารณ์ตรงๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 258
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 8
แล้วถ้าเล่นหุ้นเสีย แล้วเมียไม่ให้เข้าบ้าน จะไปไหนดีครับ?ปรัชญา เขียน: หุ้นลงรอบนี้ โรงพยาบาลคงมีรายได้เพิ่ม
คนเล่นหุ้นเสีย เมียตีได้รับบาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล
คนเล่นหุ้นเสียกู้หนี้ยืมสินมาไม่มีจ่าย กินยาฆ่าตัวตาย ไปโรงพยาบาล
ส่วนคนยิงตัวตายประท้วงที่หลักทรัพย์มีคนเดียว แต่ยิงตัวตายที่อื่นๆคงมีหลายคน
มันไม่ถึงฆาตรก็นำส่งโรงพยาบาล รวยเพราะผู้อื่นเป็นทุกข์...
-
- Verified User
- โพสต์: 136
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 10
แหมพี่เจ๋ง ถึงว่าทำไมหนังตาผมกระตุก 55555
ถามผมเรื่อง bh ผมต้องตอบว่าดีแน่สำหรับผมนะ เพราะผมสามารถ monitor ผลประกอบการได้ทุกเดือนเลย ค่อนข้างแม่นยำซะด้วย
อีกอย่างผู้บริหารเท่าที่เห็นก็ตั้งใจทำงานมาก เป็นมืออาชีพ ไม่มานั่งปั่นหุ้นเหมือนบางโรงพยาบาล
ธุรกิจก็เป็นขาขึ้นชัดเจน วิธีการทำตลาดก็เฉียบคม หากินกับคนทั้งโลกโดยที่ไม่ต้องพึ่งเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก
ถามผมเรื่อง bh ผมต้องตอบว่าดีแน่สำหรับผมนะ เพราะผมสามารถ monitor ผลประกอบการได้ทุกเดือนเลย ค่อนข้างแม่นยำซะด้วย
อีกอย่างผู้บริหารเท่าที่เห็นก็ตั้งใจทำงานมาก เป็นมืออาชีพ ไม่มานั่งปั่นหุ้นเหมือนบางโรงพยาบาล
ธุรกิจก็เป็นขาขึ้นชัดเจน วิธีการทำตลาดก็เฉียบคม หากินกับคนทั้งโลกโดยที่ไม่ต้องพึ่งเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 11
ชอบหุ้นตัวนี้ที่สุดในตลาดเลยครับ เพราะเป็นหนึ่งในบริษัทของไทยไม่กี่บริษัทที่พูดได้เต็มปากว่ามีระบบการบริหารจัดการที่ไม่น้อยหน้าประเทศไหนๆ ในโลกครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 232
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 12
แหมพี่เจ๋งครับ รายได้แพทย์เมื่อเพิ่มขึ้นไม่ได้ทำให้รายได้โรงพยาบาลลดลงนะครับ เพราะเรียกเก็บค่าแพทย์ต่างหากจากคนไข้โดยตรงอยู่แล้ว โดยโรงพยาบาลหักเปอร์เซนต์ค่าแพทย์ที่เรียกเก็บส่วนหนึ่ง โดยถือว่าเป็นค่าเช่าสถานที่ประกอบการและค่าบริการในการเรียกเก็บให้ ดังนั้นหากแพทย์รายได้เพิ่มขึ้น โรงพยาบาลก็มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย เพียงแต่สัดส่วนแตกต่างกัน เพราะรายได้โรงพยาบาลส่วนใหญ่มาจากมาร์จิ้นของค่ายา / แลบ / เวชภัณฑ์มากกว่าครับJeng เขียน:หุ้นโรงพยาบาลไม่ค่อยดี เพราะหมอมีรายได้เยอะ(เอกชน)
โรงพยาบาลระดับบำรุงราษฎร์ไม่ต้องง้อแพทย์เลยครับ เพราะมีแต่แพทย์ที่อยากเข้าไปทำงานที่นั่นอยู่แล้ว ใครคุยยากก็เชิญไปทำที่อื่นได้ หรือมีปัญหามากก็หาแพทย์สาขาเดียวกันมาเพิ่มอีกได้ โรงพยาบาลไม่ต้องจ่ายเพิ่มเพราะไม่ต้องจ่ายเงินเดือนแพทย์ ใครอยู่ได้ก็อยู่ ใครอยู่ไม่ได้ก็ไป จะมีแพทย์กี่ร้อยกี่พันคนก็ได้ จะมีแพทย์ที่เป็น"แม่เหล็ก"อยู่ไม่กี่คนที่โรงพยาบาลต้องเอาใจมากหน่อย คือคนที่มีชื่อเสียงส่วนตัวดี มีคนไข้ต้องการมาหาเยอะ พวกนี้ถ้าไปที่อื่นมักจะดึงคนไข้ไปด้วย แต่ส่วนใหญ่ที่มาเพราะชื่อเสียงโรงพยาบาลมากกว่า ยิ่งต่างชาติด้วยแล้ว แทบจะไม่รู้จักชื่อแพทย์มาก่อนด้วยซ้ำ รู้แต่ว่ามาที่นี้แล้วรักษาดี จะแพทย์คนไหนก็ได้Jeng เขียน: หุ้นโรงพยาบาล ก็เหมือนหุ้นสายการบิน นักบินชอบประท้วง หมอก็เหมือนกัน คุมยาก
พูดจาดี แต่ถ้าได้ประโยชน์ไม่พอ ก็มีทางเลือกเยอะ
ผมว่างั้นนะ ใครคิดอย่างไรบ้าง เห็นมีหมอเยอะก็เลยวิจารณ์ตรงๆ
สักษณะที่กล่าวมานี้ ไม่ได้เป็นเฉพาะบำรุงราษฎร์นะครับ แต่โรงพยาบาลเอกชนใหญ่ๆที่ชื่อเสียงดีในกรุงเทพเป็นหมดทุกแห่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 136
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 13
5555 มีพวกแล้ว
ผมแก้ตัวแทนนักบินด้วยครับ คือโดยมาตรฐานแล้วนักบินการบินไทยก็ได้เงินเดือนน้อยกว่าที่ควรจะเป็นแหละถ้าเทียบกับสายการบินอื่น ๆ ของบ้านใกล้เรือนเคียง
ปัญหาเมื่อธุรกิจการบินรุ่งเรืองจะเกิดปัญหาสมองไหลของนักบิน นักบินไม่ใช่เป็นกันง่าย ๆ นะครับ ค่าวิชาชีพก็ต้องแพงตามความยากของงานและความรับผิดชอบในหน้าที่
ถ้าผมจะว่าพวกผู้บริหารบริษัทที่คิดเบี้ยประชุมกันแพง ๆ เงินเดือนก็เป็นล้านก็คงว่าได้่เช่นกัน
นักบินที่มีอุดมการณ์ในการบินไทยก็ยังมีเยอะ พวกนี้ยังก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างดีแม้จะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บริหาร แต่นักบินแย่ ๆ ก็มีเหมือนกันพวกที่ไม่เอาอะไรแล้ว ไม่มีที่ไป ความรู้ก็ไม่พัฒนา
เป็นธรรมดาของระบบบริหารแบบไทย ๆ
ผมแก้ตัวแทนนักบินด้วยครับ คือโดยมาตรฐานแล้วนักบินการบินไทยก็ได้เงินเดือนน้อยกว่าที่ควรจะเป็นแหละถ้าเทียบกับสายการบินอื่น ๆ ของบ้านใกล้เรือนเคียง
ปัญหาเมื่อธุรกิจการบินรุ่งเรืองจะเกิดปัญหาสมองไหลของนักบิน นักบินไม่ใช่เป็นกันง่าย ๆ นะครับ ค่าวิชาชีพก็ต้องแพงตามความยากของงานและความรับผิดชอบในหน้าที่
ถ้าผมจะว่าพวกผู้บริหารบริษัทที่คิดเบี้ยประชุมกันแพง ๆ เงินเดือนก็เป็นล้านก็คงว่าได้่เช่นกัน
นักบินที่มีอุดมการณ์ในการบินไทยก็ยังมีเยอะ พวกนี้ยังก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างดีแม้จะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้บริหาร แต่นักบินแย่ ๆ ก็มีเหมือนกันพวกที่ไม่เอาอะไรแล้ว ไม่มีที่ไป ความรู้ก็ไม่พัฒนา
เป็นธรรมดาของระบบบริหารแบบไทย ๆ
- dr_norr
- Verified User
- โพสต์: 315
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 14
มีเพื่อนทำงานที่ BH และก็มีเพื่อนไปคลอดลูกที่ รพ.นี่ เคยไปเยี่ยม ส่วน ข่าวที่ออกอากาศก็เคยดู
- พบว่าโรงพยาบาล จะเน้นสัดส่วนไปที่คนไข้ต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะชาวตะวันออกกลางซึ่งชอบมารักษามาก เพื่อนจะเล่าให้ฟังว่ามีแผนกที่ติดต่อกับชาวต่างชาติ จะมาขอข้อมูลการรักษา ค่าใช้จ่าย แล้วเพื่อน ก็จะติดต่อสอบถาม staff ด้านนั้น เช่น เคยมีญาตินักการเมืองระดับสูงในประเทศติดกับไทยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว มาเปลี่ยนไขกระดูกในเมืองไทย หรือพระราชวงศ์ในตะวันออกกลางที่มารักษาโรคต่างๆ เช่น หัวใจ มะเร็ง
-เวลาต่างชาติมาบริการก็จะดีมาก เวลาผู้ป่วยกับประเทศ มีบริการให้แพทย์นั่งเครื่องบินไปส่งผู้ป่วยในต่างประเทศด้วย เพราะเพื่อนก็เคยไป
- ที่พักก็มีบริการ ซึ่งการบริหารจัดการก็จะคล้าย ๆ กับโรงแรม
- แพทย์ส่วนใหญ่ จะเป็น american board เพราะมีการ contact กับทาง U.S.A.
ผู้บริหารบางคนก็เป็นชาว U.S.A. และจะมีแพทย์ที่ชำนาญภาษาต่างชาติหลายภาษเพื่อพูดคุยกับผู้ป่วย
- พบว่าโรงพยาบาล จะเน้นสัดส่วนไปที่คนไข้ต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะชาวตะวันออกกลางซึ่งชอบมารักษามาก เพื่อนจะเล่าให้ฟังว่ามีแผนกที่ติดต่อกับชาวต่างชาติ จะมาขอข้อมูลการรักษา ค่าใช้จ่าย แล้วเพื่อน ก็จะติดต่อสอบถาม staff ด้านนั้น เช่น เคยมีญาตินักการเมืองระดับสูงในประเทศติดกับไทยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว มาเปลี่ยนไขกระดูกในเมืองไทย หรือพระราชวงศ์ในตะวันออกกลางที่มารักษาโรคต่างๆ เช่น หัวใจ มะเร็ง
-เวลาต่างชาติมาบริการก็จะดีมาก เวลาผู้ป่วยกับประเทศ มีบริการให้แพทย์นั่งเครื่องบินไปส่งผู้ป่วยในต่างประเทศด้วย เพราะเพื่อนก็เคยไป
- ที่พักก็มีบริการ ซึ่งการบริหารจัดการก็จะคล้าย ๆ กับโรงแรม
- แพทย์ส่วนใหญ่ จะเป็น american board เพราะมีการ contact กับทาง U.S.A.
ผู้บริหารบางคนก็เป็นชาว U.S.A. และจะมีแพทย์ที่ชำนาญภาษาต่างชาติหลายภาษเพื่อพูดคุยกับผู้ป่วย
แมงเม่าวันนี้ จะตัวใหญ่ขึ้นในวันหน้า
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 15
เอ่อ พี่ขุนอินครับ แล้วที่หนังสือพิมพ์เคยลงข้อความเนื้อหาอย่างคร่าวๆว่า อัตราการเข้ารักษาของคนไข้ต่างประเทศจะเริ่มอิ่มตัวในอีกประมาณ 2-3 ปีข้างหน้า ทางโรงพยาบาลจึงต้องเริ่มขยายการบริหารงานไปยังต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ ฯลฯ พี่ว่าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากน้อยอย่างไรครับ
อีกอย่างพี่ว่า ถ้าเทียบประเทศไทยกับสิงคโปร์แล้วเรายังพอมีความได้เปรียบอยู่อีกมากน้อยขนาดไหนครับ
รบกวนตอบคำถามด้วยนะครับ
อีกอย่างพี่ว่า ถ้าเทียบประเทศไทยกับสิงคโปร์แล้วเรายังพอมีความได้เปรียบอยู่อีกมากน้อยขนาดไหนครับ
รบกวนตอบคำถามด้วยนะครับ
Impossible is Nothing
-
- Verified User
- โพสต์: 232
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 16
ขุนอิน เขียน: 5555 มีพวกแล้ว
ไม่แน่ใจว่าที่ว่าจะอิ่มตัวอีก 2-3 ปีข้างหน้า ประเมินจากอะไรนะครับ หากดูสัดส่วนของชาวต่างประเทศที่มารักษาตัวที่เมืองไทยเทียบกับจำนวนชาวต่างประเทศทั้งหมดที่สามารถเดินทางไปรักษาตัวนอกประเทศของตนเอง ถือว่ายังมีสัดส่วนน้อยมาก เพราะเราเพิ่งเริ่มส่งออกบริการทางการแพทย์ได้ไม่กี่ปีเองwoody เขียน: อัตราการเข้ารักษาของคนไข้ต่างประเทศจะเริ่มอิ่มตัวในอีกประมาณ 2-3 ปีข้างหน้า ทางโรงพยาบาลจึงต้องเริ่มขยายการบริหารงานไปยังต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นฟิลิปปินส์ ฯลฯ พี่ว่าจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากน้อยอย่างไรครับ
ปัจจัยที่จะทำให้ชาวต่างชาติมารักษาที่เราน้อยลง หรือไม่เพิ่มขึ้น เท่าที่เห็นน่าจะมี 2-3 เรื่องใหญ่ๆ
1. ราคาค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันเรายังถูกกว่าประเทศคู่แข่งเช่นสิงค์โปร์อยู่ 2-4 เท่า แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไรที่ราคาไม่ต่างกันก็อาจทำให้คนมาน้อยลงได้
2. คู่แข่งต่างประเทศ ทั้งเจ้าเดิมเช่นสิงค์โปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน บราซิล หรือประเทศใหม่ๆที่อาจก้าวเข้ามาในเวทีนี้ ปัจจุบันยังไม่ชัดเจนมากนักว่าจะมีใครก้าวเข้ามาบ้าง
3. เศรษฐกิจโลกที่แย่ลง ทำให้กำลังซื้อคนลดลง แต่กลุ่มคนที่มารักษาตัวต่างประเทศได้มักได้รับผลกระทบน้อยกว่ากลุ่มรากหญ้้าในแต่ละประเทศ
หากินกับประชากรทั้งโลกได้ โอกาสอิ่มตัวยังยากอยู่ สำคัญที่ความสามารถในการแข่งขันซึ่งของไทยยังค่อนข้างดี ทั้งคุณภาพแพทย์ ทักษะทางภาษา (กลุ่มแพทย์ที่จบต่างประเทศ) และราคาค่ารักษาพยาบาลที่ยังถูกอยู่ครับ
การกระจายสาขาไปต่างประเทศ เป็นยุทธวิธีที่ดีในการสร้าง brand recognition ในต่างประเทศ และทำการตลาดในประเทศนั้น รวมทั้งส่งต่อผู้ป่วยซับซ้อนมายังโรงพยาบาลแม่ แล้วติดตามการรักษาทีประเทศเดิมที่โรงพยาบาลสาขา ปัจจัยเสี่ยงคือความเข้าใจในธุรกิจการรักษาพยาบาลในแต่ละท้องถิ่นที่แตกต่่างกันไป และความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในแต่ละที่ แต่หากมีหลายประเทศมากพอก็จะเป็นการลดความเสี่ยงลงได้ แต่ต้นทุนจะสูงขึ้นครัีบ
"Much success can be attributed to inactivity. Most investors cannot resist the temptation to constantly buy and sell."
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 17
ขอบคุณมากครับ พี่ Knott ไหนๆ แล้วขออนุญาติถามต่อเลยนะครับ ว่าเมื่อเทียบ BH กับ BGH แล้ว พี่มีมุมมองเป็นอย่างไรบ้างครับ ในขณะที่ BH เริ่มบุกไปต่างประเทศ อัตราส่วนระหว่างคนไข้ต่างประเทศ กับคนไทย ประมาณ 40:60 กับ BGH ซึ่งพยายามทำตัวเองให้เป็น Chain โรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศโดยการควบรวม หรือ ซื้อหุ้นโรงพยาบาลอื่นก็แล้วแต่ และมีคนไข้ต่างประเทศต่อคนไทย ประมาณ 30:70........
Impossible is Nothing
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 18
BH มีโอกาสโตมากกว่า BGH ครับ ในความคิดของผม
ข่าวที่ออกไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับการที่ชาวต่างชาติจะมารักษามากเท่ากับ
การขายแบรนด์ BH ครับ
ตอนนี้ระบบจัดการบริหารโรงพยาบาลของ BH เป็น brand ไปแล้ว คือมีการ
license และทำเป็น consultation ให้กับโรงพยาบาลอื่นๆ ในโลก ซึ่งค่าบริการ
ตรงนี้มี margin สูงมาก เกือบๆ 100% เลยก็ว่าได้ครับ
ทำให้กำไรของ BH สามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดด ต่อให้ occupancy
เต็ม 90%+ ตลอด และไม่มีการขยายสาขาก็ตาม
ถ้าทำตรงนี้ดีๆ ผมว่าอีกไม่นานเกินรอ เราจะเห็นโรงพยาบาลระดับหรูใน
ใจกลางกรุงโตเกียว พะยี่ห้อว่า "Certified by Bumrungrad" ฮา...
ข่าวที่ออกไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับการที่ชาวต่างชาติจะมารักษามากเท่ากับ
การขายแบรนด์ BH ครับ
ตอนนี้ระบบจัดการบริหารโรงพยาบาลของ BH เป็น brand ไปแล้ว คือมีการ
license และทำเป็น consultation ให้กับโรงพยาบาลอื่นๆ ในโลก ซึ่งค่าบริการ
ตรงนี้มี margin สูงมาก เกือบๆ 100% เลยก็ว่าได้ครับ
ทำให้กำไรของ BH สามารถเติบโตได้แบบก้าวกระโดด ต่อให้ occupancy
เต็ม 90%+ ตลอด และไม่มีการขยายสาขาก็ตาม
ถ้าทำตรงนี้ดีๆ ผมว่าอีกไม่นานเกินรอ เราจะเห็นโรงพยาบาลระดับหรูใน
ใจกลางกรุงโตเกียว พะยี่ห้อว่า "Certified by Bumrungrad" ฮา...
-
- Verified User
- โพสต์: 232
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 19
BGH ปัจจุบัน ประมา่ณ 70% ของรายได้มาจากโรงพยาบาลแม่ที่ซอยศูนย์วิจัย ซึ่งสัดส่วนคนไข้ต่างประเทศ กับคนไทย ประมาณ 20:80 (30:70 เป็นตัวเลขของทั้งเครือ) ทิศทางหลักของ BGH เป็นตลาดคนไทยมากกว่า โดยอาศัยข้อได้เปรียบคือเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วัดจากจำนวนเตียง BGHเน้นเรื่องระบบการรับส่งคนไข้ต่อ ทั้งจากภายในเครือและจากโรงพยาบาลอื่นๆ ส่วนใหญ่โรงพยาบาลเครือข่ายจะตั้งอยู่ตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ เช่นพัทยา ภูเก็ต สมุย หาดใหญ่ ตราด(มีสาขาเกาะช้างด้วย) ส่วนทางเหนือและอีสานยังไม่มีเครือข่ายเพราะมีรามคำแหงอยู่แล้ว (ฺBGH ถือหุ้น RAM ประมาณ 20%) ระบบบริหารเครือข่ายจะมีการสนับสนุนต่างๆเช่น การมีทีมจากส่วนกลางไป Audit แต่ละโรงพยาบาลเครือข่ายทุกๆ 3 เดือน มีการส่งคนไปช่วยกรณีที่ขาดแคลนเจ้าหน้าที่ มีการส่งแพทย์ไปช่วยจัดตั้งศูนย์สำคัญ เช่นทีมแพทย์หัวใจ ทำให้โรงพยาบาลเครือข่ายต่างจังหวัดเช่นพัทยาสามารถผ่าตัดเปิดหัวใจได้ มีการตั้งโรงเรียนสอนการบริหารโรงพยาบาลเพื่อพัฒนาผู้บริหารรุ่นใหม่ๆขึ้นมา ฯลฯ
สำหรับตลาดต่างประเทศ ทาง BH จะไปได้ไกลกว่าเพราะทีมบริหารส่วนหนึ่งเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะทีมการตลาด BH ทำการตลาดต่างชาติได้เยี่ยมมาก ของ BGH กำลังพยายามทำตลาดส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น โดยกำลังสร้างโรงพยาบาลผู้ป่วยต่างชาติซึ่งคาดว่าจะเปิดได้ปลายปีนี้ ในต่างประเทศ BGH ไม่มีการสร้างโรงพยาบาล แต่มีคลินิกอยู่ในหลายประเทศ เช่นกัมพูชา บังคลาเทศ ตะวันออกกลาง และจีน เป็นต้น ซึ่งเน้นเป็น Brand recognition และเครือข่ายในการหาผู้ป่วยส่งมาที่โรงพยาบาลในประเทศไทยมากกว่า
สรุปว่าทั้ง BGH และ BH น่าสนทั้งคู่ อัตราการเติบโตน่าจะสูสีกัน แต่เด่นกันคนละตลาด หากเศรษฐกิจในประเทศไทยดี BGH น่าจะโตได้เร็ว แต่หากเศรษฐกิจในประเทศไทยชะลอตัว BH จะมีตลาดต่างชาติซึ่งไม่ขึ้นกับเศรษฐกิจในประเทศไทยมารองรับได้ดีกว่า
ข้อเสียหลักของ BGH ขณะนี้ที่ทำให้ไม่มีใครใน web TVI นี้สนใจคือค่า P/E ที่สูงลิ่ว ในขณะที่ P/E BH ดูจะสมเหตุสมผลมากกว่าเมื่อเทียบกับ growth ครับ
สำหรับตลาดต่างประเทศ ทาง BH จะไปได้ไกลกว่าเพราะทีมบริหารส่วนหนึ่งเป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะทีมการตลาด BH ทำการตลาดต่างชาติได้เยี่ยมมาก ของ BGH กำลังพยายามทำตลาดส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น โดยกำลังสร้างโรงพยาบาลผู้ป่วยต่างชาติซึ่งคาดว่าจะเปิดได้ปลายปีนี้ ในต่างประเทศ BGH ไม่มีการสร้างโรงพยาบาล แต่มีคลินิกอยู่ในหลายประเทศ เช่นกัมพูชา บังคลาเทศ ตะวันออกกลาง และจีน เป็นต้น ซึ่งเน้นเป็น Brand recognition และเครือข่ายในการหาผู้ป่วยส่งมาที่โรงพยาบาลในประเทศไทยมากกว่า
สรุปว่าทั้ง BGH และ BH น่าสนทั้งคู่ อัตราการเติบโตน่าจะสูสีกัน แต่เด่นกันคนละตลาด หากเศรษฐกิจในประเทศไทยดี BGH น่าจะโตได้เร็ว แต่หากเศรษฐกิจในประเทศไทยชะลอตัว BH จะมีตลาดต่างชาติซึ่งไม่ขึ้นกับเศรษฐกิจในประเทศไทยมารองรับได้ดีกว่า
ข้อเสียหลักของ BGH ขณะนี้ที่ทำให้ไม่มีใครใน web TVI นี้สนใจคือค่า P/E ที่สูงลิ่ว ในขณะที่ P/E BH ดูจะสมเหตุสมผลมากกว่าเมื่อเทียบกับ growth ครับ
"Much success can be attributed to inactivity. Most investors cannot resist the temptation to constantly buy and sell."
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 24
ไปของ BH มาครับ อยากรู้เรื่องอะไร
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 25
งั้นถามพี่สุมาอี้ต่อนะครับ
1. ผู้บริหารมีใบ้ Growth ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าไว้บ้างหรือเปล่าครับ
2. อ้อ แล้วการไปลงทุนที่ต่างประเทศนั้นเหตุผลหลักคือ ต้องการสร้าง Recognition ให้ตัวโรงพยาบาลแม่ที่กรุงเทพฯ หรือว่าไปตั้งหลักอยู่ตรงนั้นจริงๆ เลยครับ
3. การควบคุมคุณภาพของโรงพยาบาลในต่างประเทศ มีการควบคุมอย่างไรครับ
1. ผู้บริหารมีใบ้ Growth ในระยะ 2-3 ปีข้างหน้าไว้บ้างหรือเปล่าครับ
2. อ้อ แล้วการไปลงทุนที่ต่างประเทศนั้นเหตุผลหลักคือ ต้องการสร้าง Recognition ให้ตัวโรงพยาบาลแม่ที่กรุงเทพฯ หรือว่าไปตั้งหลักอยู่ตรงนั้นจริงๆ เลยครับ
3. การควบคุมคุณภาพของโรงพยาบาลในต่างประเทศ มีการควบคุมอย่างไรครับ
Impossible is Nothing
- Heroine
- Verified User
- โพสต์: 196
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 28
ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย จากกระทู้นี้อีกแล้ว ดีใจจัง รออ่านต่อค่ะ รบกวนคุณสุมาอี้ซึ่งได้ไปประชุมผู้ถือหุ้นมาตอบข้อสงสัย ของคุณ woody ด้วยค่ะ
โลกมายา...ดินแดนที่ต้องใส่หน้ากากคุยกัน
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ชาว VI ชอบ BH ป่ะ
โพสต์ที่ 30
ขอตอบดังนี้ครับ
1. Growth ไม่ได้มีการพูดถึงเป็นตัวเลขในที่ประชุม เพียงแต่บอกว่า ตึก 22 ชั้นจะเริ่มให้บริการส่วนโรงพยาบาลได้ในปี 49 โดยจะย้ายบางแผนกไป ซึ่งจะเป็นโอกาสให้สามารถ renovate ห้องในตึกเก่าได้หลังจากที่ไม่ได้ renovate มานานถึง 9 ปีเนื่องจากอัตราการใช้เตียงของตึกเก่าเต็ม 100 เปอร์เซนต์ถ้า renovate จะเสียรายได้ ดังนั้นรายได้ปี 49 น่าจะเติบโตจากการขยายพื่นที่ให้บริการไปยังตึกใหม่เป็นหลักครับ ส่วนรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศจะเริ่มเข้ามาหลังปี 49 เป็นต้นไปครับ
ถ้าใครอ่านหนังสือพิมพ์จะทราบว่า BH เคยให้ข่าวว่าปี 48 ตั้งเป้ารายได้เติบโตเพียงร้อยละ 15 เท่านั้นทั้งทีปี 47 รายได้เติบโตถึงร้อยละ 29 เนื่องจากตอนนี้ตึกเก่าเต็มหมดแล้ว (supply โตไม่ทัน demand)
2. การลงทุนในต่างประเทศเป็นแบบ Joint-venture เช่น ให้โรงพยาบาลต่างประเทศลงทุนเรื่องตึกและที่ดิน ส่วนบำรุงราษฎร์ลงทุนเรื่องการบริหารจัดการและอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้น BH จะมีรายได้ทั้งจากกำไรของโรงพยาบาลและค่าจ้างบริหารจัดการครับ เอาเป็นว่าไปปักหลักอยู่ครึ่งตัวก็ละกัน
3. อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ครับ เข้าใจว่าจะมีการส่งบุคลากรเข้าไปด้วย จุดหนึ่งที่ BH มีชื่อมากคือระบบไอที ซึ่ง BH ลงทุนพัฒนาระบบซอฟต์แวร์เองตรงนี้น่าจะถูกนำไปใช้ในต่างประเทศและคงมีส่วนช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย
1. Growth ไม่ได้มีการพูดถึงเป็นตัวเลขในที่ประชุม เพียงแต่บอกว่า ตึก 22 ชั้นจะเริ่มให้บริการส่วนโรงพยาบาลได้ในปี 49 โดยจะย้ายบางแผนกไป ซึ่งจะเป็นโอกาสให้สามารถ renovate ห้องในตึกเก่าได้หลังจากที่ไม่ได้ renovate มานานถึง 9 ปีเนื่องจากอัตราการใช้เตียงของตึกเก่าเต็ม 100 เปอร์เซนต์ถ้า renovate จะเสียรายได้ ดังนั้นรายได้ปี 49 น่าจะเติบโตจากการขยายพื่นที่ให้บริการไปยังตึกใหม่เป็นหลักครับ ส่วนรายได้จากการลงทุนในต่างประเทศจะเริ่มเข้ามาหลังปี 49 เป็นต้นไปครับ
ถ้าใครอ่านหนังสือพิมพ์จะทราบว่า BH เคยให้ข่าวว่าปี 48 ตั้งเป้ารายได้เติบโตเพียงร้อยละ 15 เท่านั้นทั้งทีปี 47 รายได้เติบโตถึงร้อยละ 29 เนื่องจากตอนนี้ตึกเก่าเต็มหมดแล้ว (supply โตไม่ทัน demand)
2. การลงทุนในต่างประเทศเป็นแบบ Joint-venture เช่น ให้โรงพยาบาลต่างประเทศลงทุนเรื่องตึกและที่ดิน ส่วนบำรุงราษฎร์ลงทุนเรื่องการบริหารจัดการและอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้น BH จะมีรายได้ทั้งจากกำไรของโรงพยาบาลและค่าจ้างบริหารจัดการครับ เอาเป็นว่าไปปักหลักอยู่ครึ่งตัวก็ละกัน
3. อันนี้ไม่ทราบจริงๆ ครับ เข้าใจว่าจะมีการส่งบุคลากรเข้าไปด้วย จุดหนึ่งที่ BH มีชื่อมากคือระบบไอที ซึ่ง BH ลงทุนพัฒนาระบบซอฟต์แวร์เองตรงนี้น่าจะถูกนำไปใช้ในต่างประเทศและคงมีส่วนช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ