คิดแล้วก็แปลกดี

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สมมุติว่าหุ้นตัวนึง กำไร 1 บาท ราคา 10 บาท แล้วราคาลงเหลือ 4 บาท

ถ้าเราบอกเพื่อนว่า ซื้อหุ้นตัวนี้มั๊ย

ราคาลงจาก 10 บาท เหลือ 4 บาท เพื่อนก็คงจะถามว่า อ่า แล้วมันจะลงต่อมั๊ย

แต่ถ้าเรา บอกเพื่อนว่า หุ้นตัวนึง แต่ก่อนนะ ได้ผลตอบแทน 10 % ต่อปี มากกว่าดอกเบี้ยแบงค์

ตอนนี้ เขาเพิ่มผลตอบแทนให้ เป็น 25 % ต่อปี

สนใจซื้อมั๊ย

เพื่อนคงจะตอบว่า จริงเหรอ แล้วทำไมเขาเพิ่มผลตอบแทนให้หละ

เราก็ตอบไปว่า ไม่รู้ซิ จะซื้อมั๊ยหละ เพราะผลตอบแทนแบบนี้คุ้มค่า ไม่รู้อีกหน่อยจะซื้อได้หรือไม่

เขียนเล่นๆ ตอน dow rebound +19.1 %

โดยส่วนตัว ก็แปลกใจว่า เมืองไทย และทั่วโลก ทำไมต้องไปลงพร้อมๆกับ ดาวโจน

และที่สำคัญ ทำไมต้องมี ดัชนี

ก็แค่ตลาดหุ้น มีหุ้น 580 ตัว ถ้าไม่มีดัชนี

คนก็จะไปดูที่หุ้นตัวนั้นๆ ไม่ต้องมาลงพร้อมๆกัน แบบนี้

และหากเปลี่ยนมุมมอง ว่าเดี่ยวนี้ หุ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้น แทนที่จะดูว่าราคาลง น่าจะทำให้ ตลาดหุ้น

น่าสนใจ ในยามที่หุ้นให้ผลตอบแทนมากขึ้น
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ดาว + 1.91 % พิมพ์ ผิดจ๊า
My House
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1317
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 3

โพสต์

Jeng เขียน:ดาว + 1.91 % พิมพ์ ผิดจ๊า
แหะๆ ว่าแล้ว เมื่อกี้เลยรีบกดไอโฟนดูเลยว่าดาวน์ +19.1% นี่ขึ้นไปกี่จุด เกือบเฮแล้วครับพี่
Warantact
Verified User
โพสต์: 1160
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 4

โพสต์

โห กระทู้ VIจริงๆ ในเวปไทยวีไอ! ไม่เจอนานแล้วนะเนี่ย 5555
เห็นด้วย
nw108
Verified User
โพสต์: 503
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 5

โพสต์

+1


ขอบคุณครับ
multipleceilings
Verified User
โพสต์: 2141
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 6

โพสต์

Jeng เขียน:สมมุติว่าหุ้นตัวนึง กำไร 1 บาท ราคา 10 บาท แล้วราคาลงเหลือ 4 บาท

ถ้าเราบอกเพื่อนว่า ซื้อหุ้นตัวนี้มั๊ย

ราคาลงจาก 10 บาท เหลือ 4 บาท เพื่อนก็คงจะถามว่า อ่า แล้วมันจะลงต่อมั๊ย

แต่ถ้าเรา บอกเพื่อนว่า หุ้นตัวนึง แต่ก่อนนะ ได้ผลตอบแทน 10 % ต่อปี มากกว่าดอกเบี้ยแบงค์

ตอนนี้ เขาเพิ่มผลตอบแทนให้ เป็น 25 % ต่อปี

สนใจซื้อมั๊ย

เพื่อนคงจะตอบว่า จริงเหรอ แล้วทำไมเขาเพิ่มผลตอบแทนให้หละ

เราก็ตอบไปว่า ไม่รู้ซิ จะซื้อมั๊ยหละ เพราะผลตอบแทนแบบนี้คุ้มค่า ไม่รู้อีกหน่อยจะซื้อได้หรือไม่

เขียนเล่นๆ ตอน dow rebound +19.1 %

โดยส่วนตัว ก็แปลกใจว่า เมืองไทย และทั่วโลก ทำไมต้องไปลงพร้อมๆกับ ดาวโจน

และที่สำคัญ ทำไมต้องมี ดัชนี

ก็แค่ตลาดหุ้น มีหุ้น 580 ตัว ถ้าไม่มีดัชนี

คนก็จะไปดูที่หุ้นตัวนั้นๆ ไม่ต้องมาลงพร้อมๆกัน แบบนี้

และหากเปลี่ยนมุมมอง ว่าเดี่ยวนี้ หุ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้น แทนที่จะดูว่าราคาลง น่าจะทำให้ ตลาดหุ้น

น่าสนใจ ในยามที่หุ้นให้ผลตอบแทนมากขึ้น

พี่ jeng ครับ พูดตรงๆ เอาอะไรไม่ได้หรอกครับเรื่องแบบนี้ การ short ยังถูกคิดค้นขึ้นมา

การทำกำไรจากหายนะของคนอื่น

ตรรกะมันยังไง.......... จุดประสงค์มันเปลี่ยนไปนานแล้วหละครับ
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
ภาพประจำตัวสมาชิก
Packy_Kittiworawut
Verified User
โพสต์: 242
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ผมเชื่อ Zero Sum game
ต่างชาติ สถาบันขายแพง = นลท.ในประเทศซื้อแพง
ทุนต่ำกำไรสูง ขายออกทำกำไร อีกด้านทุนสูง ติด โดน Force sell ,Cut loss, รอไม่ไหว ขายต่ำกว่าทุน
ปริมาณการซื้อขาย Peak แบบนี้ผมไม่กล้าลงทุนเพิ่มเท่าไหร่ครับ น้ำมันเชี่ยว เรือผมลำเล็ก ขอรอให้คลื่นลมสงบครับ

ผมมือใหม่นะครับ :mrgreen:
kennabee
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 57
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 8

โพสต์

+1

เห็นด้วยกับความคิดพี่ JENG ครับ
supersmile
Verified User
โพสต์: 69
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ผมคิดว่ามันก็ต้องดูหุ้นเป็นตัวๆไปน่ะครับ
ถ้ากิจการขาดทุนขึ้นมาล่ะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
harlembeats
Verified User
โพสต์: 96
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 10

โพสต์

เป็นแนวคิดดีๆคับ ขอบคุณคับ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เวลาหุ้นลงมันไม่เลือกหรอกครับ หุ้นตัวไหนพื้นฐานดีไม่ดี แดงทั้งกระดาน

ผ่านวิกฤติกันมาหลายรอบ ก้แดงทั้งกระดานก่อนทุกรอบแหล่ะครับ จริงไหม

เหมือนเทเพชรมั่งกากมั่งคนๆๆรวมๆๆกันไป แล้วเท ใครตาถึงก้ได้เพชร ใครตาบอด

ก้เอากากไป แต่ผมว่า การเลือกที่จะซื้อหุ้นที่ไม่กระทบต่อวิกฤตินั้นๆๆ ดีที่สุด

ดังนั้นเราต้องมองให้ออกว่า วิกฤตินี้ใครดีใครแย่

ปี2008 ซัพไพรม์ วนธนกิจ+แบงค์ล้ม

ปี2011 วนธนกิจรวย รัฐบาลเจ๊ง

แค่นี้ก้ ต่างกันมากแล้วครับ

แต่ส่วนหนึ่งที่เหมือนกันรอบนี้คือ หลังคาและเสาบ้านเค้า ก้ปลิวมาบ้านเราทุกครั้ง

เพราะมันคือ โกลบอลไรเซชั่น

ขอบคุณคุณเม่าอินเวสเตอร์ เครดิตรูปภาพจากคุณเม่าอินเวส
แนบไฟล์

ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
ภาพประจำตัวสมาชิก
chukieat30
Verified User
โพสต์: 3531
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 12

โพสต์

รอบนี้ก้จะเป็นรอบ คัดเลือกหาหุ้น ที่ไม่กระทบต่อวิกฤติทั้งเมกาและยุโรป

เมกา+ยุโรป ----->เน่า----->รัดเข็มขัด ---->ลดการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย

หุ้นที่จะเป็น perfect stock ที่จะต้องเจอกับ super strom แล้วรอดไปได้

คือ กิจการที่มีหนี้สินน้อย และไม่ไปยุ่งกะพวกเมกาหรือยุโรป ถึงมีโอกาศรอด

หรือเป็นกิจการที่กินใช้ในประเทศเท่านั้น

จึงจะรอด จากวิกฤติรอบนี้
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ

หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
tt
Verified User
โพสต์: 1150
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 13

โพสต์

ที่แปลกยิ่้งกว่าคือเวลาซื้อเราหวังกำไร 20-30% แต่ขอต่อราคา 1 ช่อง
ซึ่งถ้าเราคาดว่ามันจะขึ้น 20-30% การที่ต้นทุนเพิ่ม 1 ช่อง นี่ไม่มีผลอะไรเลย
พอหุ้นลงมาก็กระเถิบลงไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
blackninja
Verified User
โพสต์: 176
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ผมว่าที่มันลงก็เป็นเพราะคนคิดล่วงหน้าไปว่าอนาคตกำไรมันจะได้ไม่ถึง 1บาทเหมือนเดิมทำให้ราคามันลงมา 4 บาทครับ แต่ถ้าคนเชื่อว่ากำไรนิ่งๆอยู่เหมือนเดิมอย่างพวก prop.fund คนก็จะไม่ขายครับ
pakhakorn
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 957
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 15

โพสต์

เขาว่ามนุษย์....เป็นสัตว์สังคมประเภทหนึ่ง(หยาบไป ขอโทษ ครับ)

จึงมีพฤติกรรม เแบบไทยมุง แล้วแตกตื่นเป็นหมู่คณะ

แล้วเดี๋ยวนี้..การสื่อสาร มันดีมาก ครับ เลย ออกอาการ ตามๆกัน เร็วมาก ตามตลาดหุ้นเมืองนอก

แต่ได้ยินมาว่า...คนมีความสามารถสูง(กว่าคนอื่น) ก็ทำความร่ำรวยจากเหตุการร์เช่นนี้เป็นประจำ ครับ

...คิดแล้วก็แปลกดี...จริงๆ ครับ พี่Jeng (ผมมือยังใหม่รอเรียนรู้...จากผู้มากประสบการณ์ ครับ) :D
Radio
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1339
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 16

โพสต์

เพราะลงทุนในหุ้น เป็นการคาดเดาอนาคต หุ้นราคา 10 บาท
ปันผล 1 บาทในวันนี้ = 10% ปีหน้า อาจเหลือปันผล 0.4 บาท
ดังนั้น ราคาจึงลงล่วงหน้ามาเหลือ 4 บาท= ปันผล 10%เท่าเดิม
บุณยา
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 178
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 17

โพสต์

เป็นไปได้มั้ยครับว่า คนส่วนใหญ่ที่เล่นหุ้นหวังกำไรจากส่วนต่างราคา มากกว่าเงินปันผล
ก็เลยให้ความสำคัญกับราคามากกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
luangrit
Verified User
โพสต์: 376
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 18

โพสต์

Radio เขียน:เพราะลงทุนในหุ้น เป็นการคาดเดาอนาคต หุ้นราคา 10 บาท
ปันผล 1 บาทในวันนี้ = 10% ปีหน้า อาจเหลือปันผล 0.4 บาท
ดังนั้น ราคาจึงลงล่วงหน้ามาเหลือ 4 บาท= ปันผล 10%เท่าเดิม
เพราะงั้นเราถึงต้องใส่ใจพื้นฐานของบริษัทให้มากๆไงครับ
จะได้รู้ว่าปันผลที่จะได้มันแน่นอนแค่ไหน

ปันผลจะเท่าเดิม, เพิ่มขึ้น หรือ ลดลง
ก็เป็นโอกาสในการวิเคราะห์หุ้นอย่างมีประสิทธิภาพได้เท่าๆกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
thaloengsak
Verified User
โพสต์: 2716
ผู้ติดตาม: 1

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ไม่ว่าจะคิดแตกต่างกันอย่างไร ก็ไม่ผิด
การลงทุนเป็นศิลปะที่เราบรรเลงด้วยตัวเองน่ะครับ :)
ลงทุนเพื่อชีวิต
wj
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1399
ผู้ติดตาม: 1

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 20

โพสต์

Jeng เขียน: ก็แค่ตลาดหุ้น มีหุ้น 580 ตัว ถ้าไม่มีดัชนี

คนก็จะไปดูที่หุ้นตัวนั้นๆ ไม่ต้องมาลงพร้อมๆกัน แบบนี้

และหากเปลี่ยนมุมมอง ว่าเดี่ยวนี้ หุ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้น แทนที่จะดูว่าราคาลง น่าจะทำให้ ตลาดหุ้น

น่าสนใจ ในยามที่หุ้นให้ผลตอบแทนมากขึ้น
อันนี้ผมไม่เห็นด้วย ว่าไปแล้วการลงทุนที่คุ้มค่าน่าสนใจไม่ได้เกิดจากการมองผลตอบแทนเพียงลำพัง
เพราะผลตอบแทนที่สมเหตุผล เกิดจากการเปรียบเทียบ เช่น ถ้ามีหุ้น 1 ตัวให้ 10% อันนี้อาจจะมองว่าดีหรือไม่ก็ได้ เราต้องเทียบกับหุ้นตัวอื่นๆ ถ้าตัวอื่นๆมัน >15% แล้วมันจะดีได้อย่างไร
หรือถ้าเป็นยุคที่ให้ดอกเบี้ย 15% แถวๆปี 40 มันจะดีได้อย่างไร
มาคุยกันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/value.investing.freedom
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 21

โพสต์

wj เขียน:
Jeng เขียน: ก็แค่ตลาดหุ้น มีหุ้น 580 ตัว ถ้าไม่มีดัชนี

คนก็จะไปดูที่หุ้นตัวนั้นๆ ไม่ต้องมาลงพร้อมๆกัน แบบนี้

และหากเปลี่ยนมุมมอง ว่าเดี่ยวนี้ หุ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้น แทนที่จะดูว่าราคาลง น่าจะทำให้ ตลาดหุ้น

น่าสนใจ ในยามที่หุ้นให้ผลตอบแทนมากขึ้น
อันนี้ผมไม่เห็นด้วย ว่าไปแล้วการลงทุนที่คุ้มค่าน่าสนใจไม่ได้เกิดจากการมองผลตอบแทนเพียงลำพัง
เพราะผลตอบแทนที่สมเหตุผล เกิดจากการเปรียบเทียบ เช่น ถ้ามีหุ้น 1 ตัวให้ 10% อันนี้อาจจะมองว่าดีหรือไม่ก็ได้ เราต้องเทียบกับหุ้นตัวอื่นๆ ถ้าตัวอื่นๆมัน >15% แล้วมันจะดีได้อย่างไร
หรือถ้าเป็นยุคที่ให้ดอกเบี้ย 15% แถวๆปี 40 มันจะดีได้อย่างไร
ผมเห็นด้วยครับ ว่าแต่ละบริษัทควรเปรียบเทียบกัน

แต่ผมหมายถึง ดัชนีตลาดหุ้นครับ ว่าไม่ีควรมี

ถ้าดัชนีลง แล้วหุ้นก็ลงไปด้วย

ใครที่คุม ptt ได้ คนนั้นก็คุม ดัชนีได้

ถ้าิเป็นแบบนี้ ตอน ptt ลง ดัชนีลง หุ้นบางตัวที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย

กับ ptt ก็ต้องลงไปด้วย

ผมว่าไม่น่าจะดีเลย

ก็เลยแค่จินตนาการว่า ถ้าทั้งโลกไม่มีดัชนี จะดีมากครับ

คุณ wj
ภาพประจำตัวสมาชิก
Packy_Kittiworawut
Verified User
โพสต์: 242
ผู้ติดตาม: 0

Re: คิดแล้วก็แปลกดี

โพสต์ที่ 22

โพสต์

Jeng เขียน:
wj เขียน:
Jeng เขียน: ก็แค่ตลาดหุ้น มีหุ้น 580 ตัว ถ้าไม่มีดัชนี

คนก็จะไปดูที่หุ้นตัวนั้นๆ ไม่ต้องมาลงพร้อมๆกัน แบบนี้

และหากเปลี่ยนมุมมอง ว่าเดี่ยวนี้ หุ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้น แทนที่จะดูว่าราคาลง น่าจะทำให้ ตลาดหุ้น

น่าสนใจ ในยามที่หุ้นให้ผลตอบแทนมากขึ้น
อันนี้ผมไม่เห็นด้วย ว่าไปแล้วการลงทุนที่คุ้มค่าน่าสนใจไม่ได้เกิดจากการมองผลตอบแทนเพียงลำพัง
เพราะผลตอบแทนที่สมเหตุผล เกิดจากการเปรียบเทียบ เช่น ถ้ามีหุ้น 1 ตัวให้ 10% อันนี้อาจจะมองว่าดีหรือไม่ก็ได้ เราต้องเทียบกับหุ้นตัวอื่นๆ ถ้าตัวอื่นๆมัน >15% แล้วมันจะดีได้อย่างไร
หรือถ้าเป็นยุคที่ให้ดอกเบี้ย 15% แถวๆปี 40 มันจะดีได้อย่างไร
ผมเห็นด้วยครับ ว่าแต่ละบริษัทควรเปรียบเทียบกัน

แต่ผมหมายถึง ดัชนีตลาดหุ้นครับ ว่าไม่ีควรมี

ถ้าดัชนีลง แล้วหุ้นก็ลงไปด้วย

ใครที่คุม ptt ได้ คนนั้นก็คุม ดัชนีได้

ถ้าิเป็นแบบนี้ ตอน ptt ลง ดัชนีลง หุ้นบางตัวที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย

กับ ptt ก็ต้องลงไปด้วย

ผมว่าไม่น่าจะดีเลย

ก็เลยแค่จินตนาการว่า ถ้าทั้งโลกไม่มีดัชนี จะดีมากครับ

คุณ wj
โอ... น่าคิดมากครับ หรือไม่ก็ถือซะว่าตลาดหุ้นเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการเป็นหุ้นส่วนของบริษัทที่เราชอบ :mrgreen:
โพสต์โพสต์