ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 31
มีตลาดหุ้นที่สวนตลาด หรือฝืนทิศทางโดยรวมได้มากสุดของตลาดหุ้น ทั้ง DOW DAX CAC40 FTSE100 และอื่นๆ มาเป็นเวลา 1-2 เดือนแล้ว เด่นๆก็น่า SETเรา แล้วก็ Jakarta ครับ มารอลุ้นกันดู ครับ จะทนได้นานมากไหม??
-
- Verified User
- โพสต์: 463
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 32
ขอบคุณครับreiter เขียน:ขออนุญาตแสดงทัศนะด้วยบทความจากบลอกของผมนะครับ
ถ้าจะเกิดวิกฤติ
ลงทุนแบบ อาร์ตๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2603
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 33
Recession "มาก็ดี ไม่มาก็ดี"
ณ ตอนนี้รู้ว่าดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่
สิ่งใดเกิดขึ้นเเล้วย่อมดีที่สุดสำหรับเรา
พอดีงานผมต้องเจอกับคนที่จะไม่มีวันพรุ่งนี้เยอะ หรือผมเคยคิดว่าตัวเองป่วยมากๆอยู่ครั้งนึง(นึกว่าเป็นมะเร็ง) ตอนนั้นผมกลับไม่รู้สึกกลัวเรื่อง Recession
ร่วมกับเพิ่งดูสารคดีเกี่ยวกับ Witness Tsunami in Japan ตอนTsunamiเข้า ในวีดีโอนั้นไม่มีใครบ่นหรือร้อง ออกมาเลยว่า "เเย่เเล้วหลังTsunami Nikeiตกหนักเเน่เลย ฉันต้องรีบขายหุ้น!!!"
ผมเลยมองว่าไม่ต้องคิดมากตอนนี้มีความสุขกับกิจการของเราที่เติบโตขึ้นดีกว่า เป็นลูกค้าที่ดีของบริษัทเราเอง วันนี้ผมก็อุดหนุนสินค้าบริษัทของผมเเล้ว ผมHappyเเล้ววันนี้ พอเเล้วครับ
ณ ตอนนี้รู้ว่าดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่
สิ่งใดเกิดขึ้นเเล้วย่อมดีที่สุดสำหรับเรา
พอดีงานผมต้องเจอกับคนที่จะไม่มีวันพรุ่งนี้เยอะ หรือผมเคยคิดว่าตัวเองป่วยมากๆอยู่ครั้งนึง(นึกว่าเป็นมะเร็ง) ตอนนั้นผมกลับไม่รู้สึกกลัวเรื่อง Recession
ร่วมกับเพิ่งดูสารคดีเกี่ยวกับ Witness Tsunami in Japan ตอนTsunamiเข้า ในวีดีโอนั้นไม่มีใครบ่นหรือร้อง ออกมาเลยว่า "เเย่เเล้วหลังTsunami Nikeiตกหนักเเน่เลย ฉันต้องรีบขายหุ้น!!!"
ผมเลยมองว่าไม่ต้องคิดมากตอนนี้มีความสุขกับกิจการของเราที่เติบโตขึ้นดีกว่า เป็นลูกค้าที่ดีของบริษัทเราเอง วันนี้ผมก็อุดหนุนสินค้าบริษัทของผมเเล้ว ผมHappyเเล้ววันนี้ พอเเล้วครับ
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 34
http://www.prachachat.net/news_detail.p ... &subcatid=
ปรับลดเป้าอัตราการเติบโต .5 % แต่ก็ยังโต 3.5 % - 4.0 %
ปรับลดเป้าอัตราการเติบโต .5 % แต่ก็ยังโต 3.5 % - 4.0 %
-
- Verified User
- โพสต์: 1400
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 35
ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
ตอบ 1. ปรับพอร์ตให้เหลือเงินสดมากพอที่ต้องการทำ perfect pitch
2. ออมเงินในระดับเข้มข้น 70-80 % ต่อเดือน เติมเข้าพอร์ท
3. ขอเจ้านายขึ้นเงินเดือน ถ้าเค้าอนุญาต
ตอบ 1. ปรับพอร์ตให้เหลือเงินสดมากพอที่ต้องการทำ perfect pitch
2. ออมเงินในระดับเข้มข้น 70-80 % ต่อเดือน เติมเข้าพอร์ท
3. ขอเจ้านายขึ้นเงินเดือน ถ้าเค้าอนุญาต
เราต่างตื่นขึ้นมาทุกวัน เพื่อสร้างผลงานให้ได้ เราควรรู้ว่า ในทุกวันมีอะไรที่ต้องทำเพื่อให้เกิดผลงาน หากการตื่นขึ้นมา ไม่ได้เป็นไปเพื่อผลงาน เราก็ไม่สมควรที่จะตื่นขึ้นมาให้รกหูรกตาคนรอบข้าง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 301
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 36
ผมด้วยครับ ถ้าสามารถรู้ว่ามาแน่ได้ คงไม่อยู่เฉยให้ตัวเองโดนผลกระทบด้วยแน่ แต่...ปัญหาคือกว่าจะรู้ว่ามาแน่ ก็อาจขายไม่ทันเสียแล้วJava The Boy เขียน:ซุนเซ็ก เขียน:ถ้า recession มาจริง ?
...ผมใช้กลยุทธ์ที่ 36 หลบหนี
"ถอยหนีในการทำสงครามนั้นมิใช่ความผิดผลาด หากแต่เป็นเรื่องธรรมดาสามัญในการทำศึก
การถอยหนีเป็นการถอยเพื่อหาหนทางหลีกเลี่ยงความเสียหาย และหาโอกาสชิงตอบโต้ในภายหลัง
มิใช่เป็นการถอยหนีอย่างสิ้นเชิง"
แผนเดียวกันครับ "หนีคือสุดยอดกลยุทธ์"
อย่า...วัดความลึกของแม่น้ำด้วยขาทั้ง2ข้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 1155
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 38
นาย ก ซื้อ หุ้น A ราคา 1 บาทchukieat30 เขียน:คนขุดทอง เขียน:นักลงทุนระดับโลกอย่าง บัฟเฟ่ต์ หรือ ปีเตอร์ลินช์ ยังยอมรับอย่างไม่อายเลยว่า พวกเขาไม่สามารถคาดการณ์เศรฐกิจโลกได้ แต่พวกเขาสามารถเข้าใจและพอจะคาดการณ์กิจการที่เขาลงทุนอยู่ ได้ เพราะฉนั้นพวกเขาจึงมักใช้กลยุกต์ ไม่ทำอะไร อยู่เฉยๆ หรือ stay clam stay invest มีแต่พวก trader เท่านั้น ที่พยายามคาดการณ์ เศรฐกิจโลกและใช้ว่องไวและเป็นผู้นำในการเข้าๆออกๆการเก็งกำไร เพื่อสร้างกำไร แต่ใช่ว่าพวกเขาจะประสพความสำเร็จทำกำไรได้ บ่อยครั้งพวก trader ประสพผลขาดทุนอย่างหนัก จนต้องปิดกิจการไปก็เยอะมาก ถามว่าพวกเราอยากเป็น invester หรือ trader
investor ก้ดู mos ของตัวเองด้วยนะครับ พวกเซียนๆอย่างปีเตอร์ลินซ์ บัฟเฟตทุนต่ำมาก
กลัวแต่จะเป็น การหลงผิดว่า การเหลือ mos ของตัวเองนั้นมากแล้ว
เวลาเขื่อนแตก คนที่จะรอดต้องมี ซุปเปอร์ Mos ครับ Mos30-50 มันน้อยมาก
พวก mos น้อยๆควร ชั่งใจให้มาก ว่า ถอยวันนี้ยังหวนกลับมารุกได้ แต่ถ้าพลาดวันนี้
เราอาจกลับมาได้ยาก
คนขาดทุน 50เปอเซ็นต์ ต้องทำกำไรให้ได้ 100 เปอเซ็นต์ จึงเท่าทุน
ใครจะออกเรือไปตอนนี้ ก้ขอให้โชคดีครับ ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง
หลายๆท่าน ที่เค้ามีระดับซุปเปอร์MOS เค้าถึงใจเย็นอยู่ได้ครับ
คนที่ไม่มี หรือ มีน้อย ผมว่า อย่าเสี่ยงดีกว่านะครับ
จะเทรดเดอร์ หรือ อินเวสเตอร์ เวลา สึนามิมา คนที่มี MOSน้อย ก้จะลอยตามน้ำไปหมดครับ
เวลาผ่านไปน้ำลด แยกศพไม่ออกครับ ใครเทรดเดอร์ หรือ อินเวสเตอร์
เพราะมันกองกันแยกไม่ออก
นาย ข ซื้อ หุ้น A ราคา 100 บาท
ถ้าราคาหุ้น A ณ ปัจจุบันเป็น 50 บาท
แสดงว่านาย ข ควรจะขาย แต่นาย ก น่าจะถือต่อไปได้หรือครับ
ถ้าถามผม ผมเห็นว่าราคาต้นทุนในอดีตไม่มีผลต่อการตัดสินใจ ณ ปัจจุบันครับ ผมยังเชื่อใน concept ของ sunk cost มากกว่า
การตัดสินใจน่าจะ based on ราคา ณ ปัจจุบันมากกว่า ไม่ใช่ซื้อมาราคาเท่าไหร่
A Cynic Knows the Price of Everything and the Value of Nothing
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-Oscar Wilde, Lady Windemeres Fan
-
- Verified User
- โพสต์: 495
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 40
ผมเห็นยังไม่มีใครพูดประโยคนี้ ขอพูดสักหน่อย
"เราจะรู้ว่า recession มาจริง ก็ต่อเมื่อมันมาแล้ว หุ้นก็ตกไปแล้วเช่นกัน"
พวก VI ก็คงมองหาบริษัที่มีศักยภาพเหมาะสมกับราคา แล้วอ่ะครับตอนนั้น
เพราะเราไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง จนกว่ามันจะเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น
ไม่ว่าจะใช่วิธีไหนมาคำนวณ คำตอบที่ได้ก็ยังไม่ใช่ความจริง เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้นซึ่งอาจจะถูกหรือผิด
วิธีรับมือผมคิดว่าน่าจะเป็น
"ซื้อบริษัทชั้นเยี่ยม ในราคาที่เหมาะสม และ ถือมันไว้ถ้ามันยังคงเป็นบริษัทชั้นเยี่ยมอยู่"
"เราจะรู้ว่า recession มาจริง ก็ต่อเมื่อมันมาแล้ว หุ้นก็ตกไปแล้วเช่นกัน"
พวก VI ก็คงมองหาบริษัที่มีศักยภาพเหมาะสมกับราคา แล้วอ่ะครับตอนนั้น
เพราะเราไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง จนกว่ามันจะเกิดขึ้นแล้วเท่านั้น
ไม่ว่าจะใช่วิธีไหนมาคำนวณ คำตอบที่ได้ก็ยังไม่ใช่ความจริง เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้นซึ่งอาจจะถูกหรือผิด
วิธีรับมือผมคิดว่าน่าจะเป็น
"ซื้อบริษัทชั้นเยี่ยม ในราคาที่เหมาะสม และ ถือมันไว้ถ้ามันยังคงเป็นบริษัทชั้นเยี่ยมอยู่"
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 41
ทัมใจ แอสไพรินครับ บรรเทาอาการปวด
ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 42
เวลาส่วนใหญ่ก็ใช้ชีวิตตามปกติ
แต่ก็หาโอกาสจากวิกฤตไปด้วย ต้องมีเงินสดพร้อมเสมอ หรือ ใช้โยโย่โมเดล
แต่ก็หาโอกาสจากวิกฤตไปด้วย ต้องมีเงินสดพร้อมเสมอ หรือ ใช้โยโย่โมเดล
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 1252
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 43
ผมเชื่อว่านักลงทุนทุกคนรู้ได้อย่างแน่นอนว่า recession จะมาเมื่อไรคับ ก็เมื่อทุกคนได้อยู่ท่ามกลางพายุร่วมกันแล้ว
แต่ถ้าอยากรู้จิงๆว่าจะเกิดเมื่อไรหรือไม่เกิด ถ้าเป็นไปได้ขอรอเซียนฮงมาวิเคราะห์เพราะงองค์ความรู้ทางด้านศก.มหาภาคของผมคงม่ะพอที่จะวิเคราะห์ได้คับ
แต่ถ้าอยากรู้จิงๆว่าจะเกิดเมื่อไรหรือไม่เกิด ถ้าเป็นไปได้ขอรอเซียนฮงมาวิเคราะห์เพราะงองค์ความรู้ทางด้านศก.มหาภาคของผมคงม่ะพอที่จะวิเคราะห์ได้คับ
สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้คือความว่างเปล่า สูงจากว่างเปล่าคือก่อเกิดเปลี่ยนแปลง
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
http://www.fungdham.com/sound/popup-sou ... up-75.html
http://goo.gl/VjQ4cG
-
- Verified User
- โพสต์: 760
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 44
ช่วยขยายความ"โยโย่โมเดล"ได้ไหมครับthaloengsak เขียน:เวลาส่วนใหญ่ก็ใช้ชีวิตตามปกติ
แต่ก็หาโอกาสจากวิกฤตไปด้วย ต้องมีเงินสดพร้อมเสมอ หรือ ใช้โยโย่โมเดล
- จุดแข็งทางธุรกิจที่เลียนแบบได้ยาก มักต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการสร้างและเพาะบ่มเสมอ ไม่สามารถเนรมิตได้ด้วยเงิน (สุมาอี้)
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- จะเก่ง จะรวยหุ้น ก็ต้องใช้เวลาเพาะบ่มเช่นกัน เป็นวีไอ ต้องมี ศรัทธา ขยัน ประหยัด และ อดทน ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ย่อมไม่ได้มาง่ายๆ
- กล้วยไม้ขาว
- Verified User
- โพสต์: 1074
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 45
มาแน่
แต่ไม่รู้ปีไหน
แต่ไม่รู้ปีไหน
-
- Verified User
- โพสต์: 601
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 47
ใครวิเคราะห์ ระดับมหภาคได้ ถูกต้อง ก็ย่อมได้เปรึยบในรอบใหญ่
แต่มันยากมาก ยากกว่า ระดับบริษัทมาก
แต่มันยากมาก ยากกว่า ระดับบริษัทมาก
- iluckyhappy
- Verified User
- โพสต์: 72
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 48
ถ้ามาจริง ก็รออยู่เหมือนกัน ช่วงนี้ก็เตรียมทำการบ้านก่อน หาบริษัทที่สนใจ
ในราคา ที่ต่ำกว่าความเป็นจริง และ ตั้งใจทำงาน เก็บเงินออม ไว้ให้มากที่สุด
เตรียม เข้าลงทุนในรอบใหม่
สำหรับตอนนี้ ก็ รับเงินปันผล 7-9% สำหรับ บริษัท ที่ยังถือลงทุนอยู่ ไปเรื่อย ๆ ก่อน
ไม่ต้องรีบร้อน และก็ปล่อยให้คนส่วนใหญ่ เขาเล่นกัน มะรุมมะตุ้มกันไป แล้ว
รอจอฝุ่นจาง หายไป แล้วค่อยเข้ามาเก็บหุ้น แบบ สบาย สบาย ในราคาที่ถูก
---------------------------------------------------------------------
บางครั้งเราก็ควรปล่อยให้โอกาสผ่านไปบ้างก็ดี เพื่อไปหาโอกาสใหม่ที่ดีกว่าเดิม
ในราคา ที่ต่ำกว่าความเป็นจริง และ ตั้งใจทำงาน เก็บเงินออม ไว้ให้มากที่สุด
เตรียม เข้าลงทุนในรอบใหม่
สำหรับตอนนี้ ก็ รับเงินปันผล 7-9% สำหรับ บริษัท ที่ยังถือลงทุนอยู่ ไปเรื่อย ๆ ก่อน
ไม่ต้องรีบร้อน และก็ปล่อยให้คนส่วนใหญ่ เขาเล่นกัน มะรุมมะตุ้มกันไป แล้ว
รอจอฝุ่นจาง หายไป แล้วค่อยเข้ามาเก็บหุ้น แบบ สบาย สบาย ในราคาที่ถูก
---------------------------------------------------------------------
บางครั้งเราก็ควรปล่อยให้โอกาสผ่านไปบ้างก็ดี เพื่อไปหาโอกาสใหม่ที่ดีกว่าเดิม
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถ้า recession มาจริง พวก vi จะทำอย่างไร
โพสต์ที่ 49
'เอเชีย' แดนสวรรค์ของชาวฝรั่งเศส
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, วันที่ 29 เมษายน 2555 05:56
ชาวฝรั่งเศสนิยมเข้ามาพำนักในเอเชียมากขึ้นทั้งในรูปแบบของการเข้ามาทำธุรกิจและเลือกเอเชียเป็นที่พักช่วงเกษียณจากงาน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเพื่อทำธุรกิจ การศึกษา หรือแสวงหาที่แปลกใหม่ สำหรับช่วงวัยเกษียณจากงานก็ตาม มีชาวฝรั่งเศสจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แห่แหนเข้ามาอยู่ในเอเชีย ซึ่งแม่เหล็กตัวใหญ่ที่ดึงดูดคนเหล่านี้เข้ามา คือ โอกาสทางเศรษฐกิจ ที่สวนทางอย่างสิ้นเชิงกับภูมิภาคยุโรป ที่กำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาหนี้สาธารณะเข้าขั้นวิกฤติ
สถิติอย่างเป็นทางการของรัฐบาลฝรั่งเศส ระบุว่า เอเชีย ไม่เคยอยู่ในสายตาของชาวฝรั่งเศส เหมือนอย่างกรุงลอนดอน แต่ทุกวันนี้ ปริมาณของชาวฝรั่งเศส ในซีกโลกตะวันออก เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ โดยปีที่แล้วอยู่ที่ 11% รวมถึง อินโดนีเซีย 22% และจีน 11.4%
ปัจจุบัน มีชาวฝรั่งเศสอพยพเข้ามาพำนักในเอเชีย-แปซิฟิกอย่างเป็นทางการ 110,000 คนจาก 1.6 ล้านคนทั่วโลก
นักวิเคราะห์ ให้ความเห็นว่า วิกฤตหนี้ในยุโรป การเติบโตโดยเฉลี่ยของประเทศเกิดใหม่ในเอเชีย ซึ่งอยู่ที่ราว 6% และความสนใจในกิจการงานของเอเชียที่เพิ่มขึ้น ของเหล่านักศึกษาที่มีทักษะภาษาอังกฤษดีมาก เป็นแรงผลักดันหลัก ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
หอการค้าและอุตสาหกรรมฝรั่งเศสในจีน ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในปักกิ่ง นครเซียงไฮ้ และล่าสุด เพิ่งเปิดสำนักงานเพิ่มอีก 1 แห่งที่เมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองที่บริษัทต่างชาติได้ประโยชน์ในเรื่องภาษีและค่าแรงงานราคาถูก บอกว่า การทำธุรกิจในเขตเศรษฐกิจของจีนไม่ยุ่งยากมากนัก เมื่อเทียบกับฝรั่งเศส ที่ต้องเสียเวลาไปกับ”ค่าธรรมเนียมและภาษี” รวมถึง”ขั้นตอนทางกฏหมาย”
ตัวอย่างเช่น เขตบริหารพิเศษฮ่องกงของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีระบบการเงินของตัวเอง ไม่เก็บภาษีศุลกากร ในการนำเข้าและส่งออก ไม่มีการเก็บภาษีการขาย ส่วนภาษีเงินเดือนจัดเก็บไม่เกิน 15% และภาษีกำไรภาคธุรกิจ จัดเก็บอยู่ที่ 16.5% ทำให้บริษัทต่างประเทศ สามารถลงทุนในฮ่องกงได้อย่างเสรีไม่มีข้อจำกัด รวมทั้ง สามารถเคลื่อนย้ายสินค้าและทุนได้อย่างเสรีด้วย อีกทั้ง เมื่อเร็วๆนี้ อดีตอาณานิคมของอังกฤษแห่งนี้ ยังได้ลงนามข้อตกลงกับฝรั่งเศส เพื่อป้องกันการจัดเก็บภาษีสองเท่า
แมททิว เลอฟอร์ท ผู้อำนวยการยูบิฟรองซ์ สำนักงานช่วยเหลือผู้ส่งออกของรัฐบาลฝรั่งเศสในฮ่องกง บอกว่า ขณะนี้ บรรดาผู้ประกอบการฝรั่งเศสกำลังวิ่งไล่บรรดาผู้ประกอบการชาติอื่นในยุโรปที่เข้ามายึดหัวหาดธุรกิจในเอเชีย
"ตอนนี้ เรากำลังจะมีผู้ส่งออกชาวฝรั่งเศสในตลาดโลก ประมาณ 1 แสนราย เทียบกับของอิตาลีที่มี 2 แสนราย และเยอรมนี ที่มี 4 แสน " เลอฟอร์ท กล่าว
ส่วนสถานกงสุลฝรั่งเศส ระบุว่า ปีที่แล้ว ฮ่องกง ถือเป็นประเทศที่ปริมาณการค้าเกินดุลสูงสุดของฝรั่งเศส รองจากอังกฤษ โดยมีมูลค่ารวมมากถึง 3.8 พันล้านยูโร (4.95 พันล้านดอลลาร์) โดยบริษัทที่มีเจ้าของเป็นชาวฝรั่งเศสในฮ่องกง มีประมาณ 700 แห่งว่าจ้างพนักงานกว่า 30,000 คนและสร้างรายได้ต่อปีมูลค่ากว่า 7 พันล้านยูโร
อินเดีย เป็นอีกหนึ่งตลาดเกิดใหม่ที่น่าสนใจ แต่ระบบราชการที่ช้าจนกระฉ่อนไปทั่วโลก ประกอบกับนโยบายคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในจากการแข่งขันจากต่างประเทศ จึงไม่ดึงดูดใจฝรั่งเศสเท่าที่ควร ซึ่งสัดส่วนประชากรแดนน้ำหอมในยักษ์ใหญ่เอเชียใต้แห่งนี้ เพิ่มขึ้น 6.6% เป็น 9,600 คนเมื่อปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่อยู่ในปูดูเชอร์รี เมืองทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นอาณานิคมเก่าของฝรั่งเศส
สำหรับไทยและอินโดนีเซียนั้น ในสายตาชาวฝรั่งเศสแล้ว ถือเป็นประเทศที่มีสถานที่ที่น่าสนใจในแง่อื่น นอกเหนือจากการเข้ามาทำธุรกิจ นั่นคือ สถานที่ๆเหมาะกับความต้องการใช้ชีวิตเรียบง่ายในเมืองร้อน
“ชาวฝรั่งเศสเข้ามาอยู่ในไทยด้วยเหตุผลส่วนตัว” นายบอเดต์ ลูคาร์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย ในกรุงเทพมหานาคร กล่าว
ปีที่แล้ว มีชาวฝรั่งเศสเข้ามาในไทยประมาณ 28,550 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ราว 15%
ขณะที่บาหลี เกาะรีสอร์ทของอินโดนีเซียเอง ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมาย ที่บรรดาผู้เกษียณอายุชาวฝรั่งเศสเข้าไปอาศัยอยู่มากเป็นประวัติการณ์ เพราะนอกจากความสวยงามของเกาะแล้ว ที่นี่ ยังไม่มีการเรียกเก็บภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน และภาษีท้องถิ่นด้วย
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, วันที่ 29 เมษายน 2555 05:56
ชาวฝรั่งเศสนิยมเข้ามาพำนักในเอเชียมากขึ้นทั้งในรูปแบบของการเข้ามาทำธุรกิจและเลือกเอเชียเป็นที่พักช่วงเกษียณจากงาน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเพื่อทำธุรกิจ การศึกษา หรือแสวงหาที่แปลกใหม่ สำหรับช่วงวัยเกษียณจากงานก็ตาม มีชาวฝรั่งเศสจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แห่แหนเข้ามาอยู่ในเอเชีย ซึ่งแม่เหล็กตัวใหญ่ที่ดึงดูดคนเหล่านี้เข้ามา คือ โอกาสทางเศรษฐกิจ ที่สวนทางอย่างสิ้นเชิงกับภูมิภาคยุโรป ที่กำลังเผชิญปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาหนี้สาธารณะเข้าขั้นวิกฤติ
สถิติอย่างเป็นทางการของรัฐบาลฝรั่งเศส ระบุว่า เอเชีย ไม่เคยอยู่ในสายตาของชาวฝรั่งเศส เหมือนอย่างกรุงลอนดอน แต่ทุกวันนี้ ปริมาณของชาวฝรั่งเศส ในซีกโลกตะวันออก เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับที่อื่นๆ โดยปีที่แล้วอยู่ที่ 11% รวมถึง อินโดนีเซีย 22% และจีน 11.4%
ปัจจุบัน มีชาวฝรั่งเศสอพยพเข้ามาพำนักในเอเชีย-แปซิฟิกอย่างเป็นทางการ 110,000 คนจาก 1.6 ล้านคนทั่วโลก
นักวิเคราะห์ ให้ความเห็นว่า วิกฤตหนี้ในยุโรป การเติบโตโดยเฉลี่ยของประเทศเกิดใหม่ในเอเชีย ซึ่งอยู่ที่ราว 6% และความสนใจในกิจการงานของเอเชียที่เพิ่มขึ้น ของเหล่านักศึกษาที่มีทักษะภาษาอังกฤษดีมาก เป็นแรงผลักดันหลัก ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
หอการค้าและอุตสาหกรรมฝรั่งเศสในจีน ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในปักกิ่ง นครเซียงไฮ้ และล่าสุด เพิ่งเปิดสำนักงานเพิ่มอีก 1 แห่งที่เมืองเฉิงตู ซึ่งเป็นเมืองที่บริษัทต่างชาติได้ประโยชน์ในเรื่องภาษีและค่าแรงงานราคาถูก บอกว่า การทำธุรกิจในเขตเศรษฐกิจของจีนไม่ยุ่งยากมากนัก เมื่อเทียบกับฝรั่งเศส ที่ต้องเสียเวลาไปกับ”ค่าธรรมเนียมและภาษี” รวมถึง”ขั้นตอนทางกฏหมาย”
ตัวอย่างเช่น เขตบริหารพิเศษฮ่องกงของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีระบบการเงินของตัวเอง ไม่เก็บภาษีศุลกากร ในการนำเข้าและส่งออก ไม่มีการเก็บภาษีการขาย ส่วนภาษีเงินเดือนจัดเก็บไม่เกิน 15% และภาษีกำไรภาคธุรกิจ จัดเก็บอยู่ที่ 16.5% ทำให้บริษัทต่างประเทศ สามารถลงทุนในฮ่องกงได้อย่างเสรีไม่มีข้อจำกัด รวมทั้ง สามารถเคลื่อนย้ายสินค้าและทุนได้อย่างเสรีด้วย อีกทั้ง เมื่อเร็วๆนี้ อดีตอาณานิคมของอังกฤษแห่งนี้ ยังได้ลงนามข้อตกลงกับฝรั่งเศส เพื่อป้องกันการจัดเก็บภาษีสองเท่า
แมททิว เลอฟอร์ท ผู้อำนวยการยูบิฟรองซ์ สำนักงานช่วยเหลือผู้ส่งออกของรัฐบาลฝรั่งเศสในฮ่องกง บอกว่า ขณะนี้ บรรดาผู้ประกอบการฝรั่งเศสกำลังวิ่งไล่บรรดาผู้ประกอบการชาติอื่นในยุโรปที่เข้ามายึดหัวหาดธุรกิจในเอเชีย
"ตอนนี้ เรากำลังจะมีผู้ส่งออกชาวฝรั่งเศสในตลาดโลก ประมาณ 1 แสนราย เทียบกับของอิตาลีที่มี 2 แสนราย และเยอรมนี ที่มี 4 แสน " เลอฟอร์ท กล่าว
ส่วนสถานกงสุลฝรั่งเศส ระบุว่า ปีที่แล้ว ฮ่องกง ถือเป็นประเทศที่ปริมาณการค้าเกินดุลสูงสุดของฝรั่งเศส รองจากอังกฤษ โดยมีมูลค่ารวมมากถึง 3.8 พันล้านยูโร (4.95 พันล้านดอลลาร์) โดยบริษัทที่มีเจ้าของเป็นชาวฝรั่งเศสในฮ่องกง มีประมาณ 700 แห่งว่าจ้างพนักงานกว่า 30,000 คนและสร้างรายได้ต่อปีมูลค่ากว่า 7 พันล้านยูโร
อินเดีย เป็นอีกหนึ่งตลาดเกิดใหม่ที่น่าสนใจ แต่ระบบราชการที่ช้าจนกระฉ่อนไปทั่วโลก ประกอบกับนโยบายคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในจากการแข่งขันจากต่างประเทศ จึงไม่ดึงดูดใจฝรั่งเศสเท่าที่ควร ซึ่งสัดส่วนประชากรแดนน้ำหอมในยักษ์ใหญ่เอเชียใต้แห่งนี้ เพิ่มขึ้น 6.6% เป็น 9,600 คนเมื่อปีที่แล้ว โดยส่วนใหญ่อยู่ในปูดูเชอร์รี เมืองทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นอาณานิคมเก่าของฝรั่งเศส
สำหรับไทยและอินโดนีเซียนั้น ในสายตาชาวฝรั่งเศสแล้ว ถือเป็นประเทศที่มีสถานที่ที่น่าสนใจในแง่อื่น นอกเหนือจากการเข้ามาทำธุรกิจ นั่นคือ สถานที่ๆเหมาะกับความต้องการใช้ชีวิตเรียบง่ายในเมืองร้อน
“ชาวฝรั่งเศสเข้ามาอยู่ในไทยด้วยเหตุผลส่วนตัว” นายบอเดต์ ลูคาร์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย ในกรุงเทพมหานาคร กล่าว
ปีที่แล้ว มีชาวฝรั่งเศสเข้ามาในไทยประมาณ 28,550 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2550 ราว 15%
ขณะที่บาหลี เกาะรีสอร์ทของอินโดนีเซียเอง ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหมาย ที่บรรดาผู้เกษียณอายุชาวฝรั่งเศสเข้าไปอาศัยอยู่มากเป็นประวัติการณ์ เพราะนอกจากความสวยงามของเกาะแล้ว ที่นี่ ยังไม่มีการเรียกเก็บภาษีโรงเรือน ภาษีที่ดิน และภาษีท้องถิ่นด้วย
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."