เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 26
- ผู้ติดตาม: 0
เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 1
ผมได้ตั้งเป้าหมายในชีวิตอนาคตข้างหน้าไว้ว่า อายุก่อน 25 ปีผลจะมีเงิน
1 ล้านบาทแรกในชิวิตให้ได้ครับ ซึ่งปัจจุบันผมอายุ 22 ปี อีกสามปีข้างหน้า ผมจะมีเงินล้าน
ผมมอกว่าผมจะทำงานโดยการ เป้น sale ซึ่งความน่าจะเป็นในการได้ 1 ล้านบาทแรกในชีวิต น่าจะมีโอกาสสูงมาก
เพื่อนๆช่วยแชร์ประสบการณ์ในการมีเงิน 1 ล้านบาทแรกในชีวิตให้หน่อยครับ
จะได้เป็น ไอเดีย ให้กับเพื่อนๆ
ขอบคุณครับ
1 ล้านบาทแรกในชิวิตให้ได้ครับ ซึ่งปัจจุบันผมอายุ 22 ปี อีกสามปีข้างหน้า ผมจะมีเงินล้าน
ผมมอกว่าผมจะทำงานโดยการ เป้น sale ซึ่งความน่าจะเป็นในการได้ 1 ล้านบาทแรกในชีวิต น่าจะมีโอกาสสูงมาก
เพื่อนๆช่วยแชร์ประสบการณ์ในการมีเงิน 1 ล้านบาทแรกในชีวิตให้หน่อยครับ
จะได้เป็น ไอเดีย ให้กับเพื่อนๆ
ขอบคุณครับ
- นพพร
- Verified User
- โพสต์: 1039
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 2
มาถึงครึ่งทางแล้วครับ เก็บเงินออมตลอดครับ สามปีแล้ว ค่อยๆเดินไปครับ ไม่รีบ ส่วนใหญ่ของผมจะมาจากเงินออมมากที่สุดครับ เงินปันผลนิดหน่อยก็เอามาสะสมไว้ครับ
ก้าวแรกที่เล็กๆ แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของชีวิต
- todsapon
- Verified User
- โพสต์: 1137
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 3
ผมมีแล้วครับเป็นสลากออมสินแม่ซื้อให้
ป่วนหรือเปล่าเนี่ย
แต่ถ้าเป็นไปได้อยากได้ด้วยตัวเองมากกว่า
เลยลงทุนเปิดบริษัทเบริกไซด์ ฮาตรึมตอนนี้เน้นลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จะไปอสังหาแล้ว แต่รู้สึกเงินน้อยแค่หลักแสนเอง และผมก็ไม่ถนัดด้วย
ป่วนหรือเปล่าเนี่ย
แต่ถ้าเป็นไปได้อยากได้ด้วยตัวเองมากกว่า
เลยลงทุนเปิดบริษัทเบริกไซด์ ฮาตรึมตอนนี้เน้นลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จะไปอสังหาแล้ว แต่รู้สึกเงินน้อยแค่หลักแสนเอง และผมก็ไม่ถนัดด้วย
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 6
ในตลาดนี่ละครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 3
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 7
ถูกล๊อตเตอรี่รางวัลที่ 1ครับ เอามาลงทุนหุ้น 100% ไม่รู้จะเหลือเท่าไหร่ ภาวนาให้มันเพิ่มขึ้น
ความยากก็คือเป็นเงินที่อยู่ดีๆก็ได้มา ไม่ได้ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงเลยไม่รู้จะบริหารยังไง
ตอนนี้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นเยอะมากๆ
ความยากก็คือเป็นเงินที่อยู่ดีๆก็ได้มา ไม่ได้ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงเลยไม่รู้จะบริหารยังไง
ตอนนี้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นเยอะมากๆ
- Tsar
- Verified User
- โพสต์: 163
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 8
หาเหมือนเงิน 1 บาทแรก อ่ะ
หาไปเรื่อยๆ ใช้น้อยกว่าที่หาได้
เก็บให้พอกพูน
ลงทุนให้ได้มากกว่าเสีย
รู้สึกตัวอีกที เรามีเกินล้านแล้วนี่หว่า
แล้วทำไงต่อ
ก็ทำเหมือนเดิมต่อไป
ไม่มีเหตุผลต้องหยุดนี่นา
หาไปเรื่อยๆ ใช้น้อยกว่าที่หาได้
เก็บให้พอกพูน
ลงทุนให้ได้มากกว่าเสีย
รู้สึกตัวอีกที เรามีเกินล้านแล้วนี่หว่า
แล้วทำไงต่อ
ก็ทำเหมือนเดิมต่อไป
ไม่มีเหตุผลต้องหยุดนี่นา
- ส.สลึง
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3750
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 9
ทำงานปีแรกๆ ออมมาฝากแบงค์เดือนละ 500 บาท
พอเงินเดือนมากขึ้น ก็ออมมากหน่อย
จากเดือนละ 500 ก็ค่อยๆ เพิ่มเป็นเดือนละพันสองพัน
จนกระทั่งออมเงินได้เดือนละ 5 พัน
ในระยะแรกก่อนลงทุนด้วยตัวเอง เงินไปจนอยู่แต่ในธนาคารครับ
จากนั้นก็ขยับไปลงทุนในกองทุนรวม
จะว่าไปตอนนั้นผมทำ Asset Allocation กระจายความเสี่ยงตามตำราเพ๊ะ
จนกระทั่งไปได้หุ้น IPO มาตัวนึง จากนั้นก็เริ่มศึกษาเองบ้าง
ถามพี่สาวที่มีประสบการณ์ลงทุนมาก่อนบ้าง
และเริ่มกระโดดลงมาลงทุนเองแบบกล้าๆ กลัวๆ
ลงทุนแบบเน้นปันผล ไม่รู้เรื่องรู้ราวเท่าไหร่
จากนั้นไปก็จีบน้องผู้สาวที่ทำงาน น้องผู้สาวถึงได้แนะนำ
ให้รู้จักกับ อ.นิเวศน์ ผ่านตัวหนังสือในหนังสือที่มีชื่อว่า "ตีแตก"
ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร ขอแค่กะว่าจะเอาไว้อ่าน
เผื่อไว้คุยกับผู้สาว แต่ปรากฎว่า ผมกลับค้นพบ
ตัวผมคนเดิม
แต่ในมุมใหม่ที่ผมไม่เคยเจอ
จากนั้นก็ลองผิดลองถูก แอบเข้ามาอ่านตามเวปบอร์ด
เวปที่เข้าประจำเลยคือ thaivi.com
ในยุคนั้นยังไม่ต้องลงทะเบียบก็อ่านได้ทุกห้องครับ
จนมาระยะหลัง จำไม่ได้ว่าเพราะคันมือ
หรือด้วยเหตุใดมาดลใจ เลยลงทะเบียนแล้วสิงอยู่ที่นี่เรื่อยมา
ส่วนพอร์ตลงทุนก็โตมาเรื่อยๆ ครับ
พอมั่นใจมากขึ้นตามความรู้ที่เติบโต
ผมก็ทยอยย้ายเงินมาใส่ไว้ในหุ้นหมด
แล้วพอร์ตเจ็ดหลักมันก็ตามมาเองครับ
ไม่ได้ทำอะไรพิเศษด้วยวิธีพิเศษ
พอเงินเดือนมากขึ้น ก็ออมมากหน่อย
จากเดือนละ 500 ก็ค่อยๆ เพิ่มเป็นเดือนละพันสองพัน
จนกระทั่งออมเงินได้เดือนละ 5 พัน
ในระยะแรกก่อนลงทุนด้วยตัวเอง เงินไปจนอยู่แต่ในธนาคารครับ
จากนั้นก็ขยับไปลงทุนในกองทุนรวม
จะว่าไปตอนนั้นผมทำ Asset Allocation กระจายความเสี่ยงตามตำราเพ๊ะ
จนกระทั่งไปได้หุ้น IPO มาตัวนึง จากนั้นก็เริ่มศึกษาเองบ้าง
ถามพี่สาวที่มีประสบการณ์ลงทุนมาก่อนบ้าง
และเริ่มกระโดดลงมาลงทุนเองแบบกล้าๆ กลัวๆ
ลงทุนแบบเน้นปันผล ไม่รู้เรื่องรู้ราวเท่าไหร่
จากนั้นไปก็จีบน้องผู้สาวที่ทำงาน น้องผู้สาวถึงได้แนะนำ
ให้รู้จักกับ อ.นิเวศน์ ผ่านตัวหนังสือในหนังสือที่มีชื่อว่า "ตีแตก"
ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร ขอแค่กะว่าจะเอาไว้อ่าน
เผื่อไว้คุยกับผู้สาว แต่ปรากฎว่า ผมกลับค้นพบ
ตัวผมคนเดิม
แต่ในมุมใหม่ที่ผมไม่เคยเจอ
จากนั้นก็ลองผิดลองถูก แอบเข้ามาอ่านตามเวปบอร์ด
เวปที่เข้าประจำเลยคือ thaivi.com
ในยุคนั้นยังไม่ต้องลงทะเบียบก็อ่านได้ทุกห้องครับ
จนมาระยะหลัง จำไม่ได้ว่าเพราะคันมือ
หรือด้วยเหตุใดมาดลใจ เลยลงทะเบียนแล้วสิงอยู่ที่นี่เรื่อยมา
ส่วนพอร์ตลงทุนก็โตมาเรื่อยๆ ครับ
พอมั่นใจมากขึ้นตามความรู้ที่เติบโต
ผมก็ทยอยย้ายเงินมาใส่ไว้ในหุ้นหมด
แล้วพอร์ตเจ็ดหลักมันก็ตามมาเองครับ
ไม่ได้ทำอะไรพิเศษด้วยวิธีพิเศษ
"วิถีรักษ์โลก บ้าน 1 หลัง รถ 1 คัน สาว 1 คน กางเกงใน 1 ตัว" <( ̄︶ ̄)> ...
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 10
ก้าวแรก คือการมีความสุข กับการเห็นเงินเล็กๆน้อยๆ มันค่อยๆโตขึ้น
อย่าไปเครียดว่า ทำงานแบบนี้ เก็บเงินเท่านี้ คำนวณแล้วคำนวณอีก ไม่มีทางจะได้ล้านซักที
เครียดไป ก็ไม่ได้ทำให้ได้เงินมา
ต้องมีความเชื่อ แล้วก็ลงมือทำ ตามความเชื่อ และ enjoy
อย่าไปเครียดว่า ทำงานแบบนี้ เก็บเงินเท่านี้ คำนวณแล้วคำนวณอีก ไม่มีทางจะได้ล้านซักที
เครียดไป ก็ไม่ได้ทำให้ได้เงินมา
ต้องมีความเชื่อ แล้วก็ลงมือทำ ตามความเชื่อ และ enjoy
- BIG87
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 371
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 11
หึๆๆ ระวังซ้ำรอยผมนะครับ ตั้งเป้าไว้เท่ากันที่อายุเท่ากัน
แล้วผมไปคำนวน อัตราผลตอบแทนที่คิดไว้ ก็พบว่า ไม่มีทางไปถึง 1 ล้านด้วย อัตรานี้
จึงกระเสือกกระสน ไปเล่น future แล้วไงรู้มั้ยครับ?
ขาดทุนเละครับซมซานกลับมาแทบไม่ทันกลับกลายเป็นถึงเป้าหมายช้าไปใหญ่
แล้วระหว่างนั้นก็จะเครียดด้วยครับว่าทำยังไงดีว้า จะได้ 1m ก่อนอายุ 25 ปี ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด
ตอนนี้ผมเลยชิวมากครับ ก็เล่นไปตามภาวะตลาดนั่นแหล่ะ
หาหุ้น 1 เด้ง ให้เจอซักตัว 2 ตัวเหมือนช่วง 700 -> 1000 ที่ผ่านมา (บางคนเจอ 5เด้ง 10 เด้ง ก็ยินดีด้วยครับ)
แต่ถ้าตลาดไม่อำนวยก็ไม่เป็นไรครับรอได้
เก็บ เงินจากรายได้ ไปเรื่อยๆ แล้วก็ศึกษามากขึ้นเรื่อยๆ เพิ่ม skill ของเรา(ในหลายๆด้าน)ให้มากขึ้น
เดี๋ยวโอกาส+ความพร้อม ก็จะมาชนกันเองครับ ผมเชื่อเช่นนั้น
-------------------------------------------------------------------
ส่วน sale ก็ได้รายได้ตามยอดขายนั่นแหล่ะครับ
ก็ถ้าขายไม่ได้ก็ ....
แต่ก็เคยเห็นครับ 30k - 50k กันทั้งนั้น เพื่อนเรา
แล้วผมไปคำนวน อัตราผลตอบแทนที่คิดไว้ ก็พบว่า ไม่มีทางไปถึง 1 ล้านด้วย อัตรานี้
จึงกระเสือกกระสน ไปเล่น future แล้วไงรู้มั้ยครับ?
ขาดทุนเละครับซมซานกลับมาแทบไม่ทันกลับกลายเป็นถึงเป้าหมายช้าไปใหญ่
แล้วระหว่างนั้นก็จะเครียดด้วยครับว่าทำยังไงดีว้า จะได้ 1m ก่อนอายุ 25 ปี ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด
ตอนนี้ผมเลยชิวมากครับ ก็เล่นไปตามภาวะตลาดนั่นแหล่ะ
หาหุ้น 1 เด้ง ให้เจอซักตัว 2 ตัวเหมือนช่วง 700 -> 1000 ที่ผ่านมา (บางคนเจอ 5เด้ง 10 เด้ง ก็ยินดีด้วยครับ)
แต่ถ้าตลาดไม่อำนวยก็ไม่เป็นไรครับรอได้
เก็บ เงินจากรายได้ ไปเรื่อยๆ แล้วก็ศึกษามากขึ้นเรื่อยๆ เพิ่ม skill ของเรา(ในหลายๆด้าน)ให้มากขึ้น
เดี๋ยวโอกาส+ความพร้อม ก็จะมาชนกันเองครับ ผมเชื่อเช่นนั้น
-------------------------------------------------------------------
ส่วน sale ก็ได้รายได้ตามยอดขายนั่นแหล่ะครับ
ก็ถ้าขายไม่ได้ก็ ....
แต่ก็เคยเห็นครับ 30k - 50k กันทั้งนั้น เพื่อนเรา
-
- Verified User
- โพสต์: 57
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 12
ทำบุญครับ ไม่คิดเยอะทำทุกอย่างที่ทำอยู่ให้เต็มที่ มันจะไม่เหนื่อยไม่ท้อ
เมื่อก่อนผมหมกหมุ่นมากกับการตั้งเป้าหมายให้ชีวิต ทำไงได้เงินเยอะๆ
สุดท้ายเหนื่อยเครียด บางที่ผมว่าคนเราก็อยู่ที่วาสนาเหมือนกัน เก่ง ขยัน
ฉลาด แค่นั้นไม่พอครับ
เมื่อก่อนผมหมกหมุ่นมากกับการตั้งเป้าหมายให้ชีวิต ทำไงได้เงินเยอะๆ
สุดท้ายเหนื่อยเครียด บางที่ผมว่าคนเราก็อยู่ที่วาสนาเหมือนกัน เก่ง ขยัน
ฉลาด แค่นั้นไม่พอครับ
- todsapon
- Verified User
- โพสต์: 1137
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 13
คุณเคยฝันว่าอยากจะมีเงินเก็บสัก 1 ล้าน ทำได้แล้ว แล้วไงต่อkasei เขียน:ทำบุญครับ ไม่คิดเยอะทำทุกอย่างที่ทำอยู่ให้เต็มที่ มันจะไม่เหนื่อยไม่ท้อ
เมื่อก่อนผมหมกหมุ่นมากกับการตั้งเป้าหมายให้ชีวิต ทำไงได้เงินเยอะๆ
สุดท้ายเหนื่อยเครียด บางที่ผมว่าคนเราก็อยู่ที่วาสนาเหมือนกัน เก่ง ขยัน
ฉลาด แค่นั้นไม่พอครับ
คุณเคยอยากได้รถปอร์เซ่ ได้แล้วดีใจที่ได้ แล้วสักพัก อย่างไรต่อดี
ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทองหรอกครับ
ผลตอบแทน 15% ต่อปีก็พอ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
กำไรเมื่อซื้อ มิใช่กำไรเมื่อขาย
การได้ทำอะไรที่ตนเองชอบและมีปัจจัยสี่พร้อมเพียงคือสุดยอดแห่งความสุข
ขอยืมเงินหน่อยครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2603
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 14
ก่อนอื่นขอชื่นชมน้องtanamonjiก่อนนะครับ ว่าดีใจด้วยที่มี"เป้าหมาย"ทางการเงินตั้งเเต่อายุน้อยๆ อันนี้คือตัวปลดล็อคเเรกที่สำคัญเเละพี่ก็เชื่อมั่นว่าน้องทำได้เเน่นอน
เทียบกับตอนพี่อายุ22ปียังไร้สาระอยู่ เเม่ให้เงินเดือนพอสมควร เเต่กลับเก็บเงินไม่ได้เลยใช้เปลืองมาก...จนเรียนจบ ก็ไม่รู้จักเก็บ
จุดเปลี่ยนเเรกของผมคือการไปเรียนต่อ โชคดีที่รอบๆตัวพี่มีอาจารย์ที่ดีไม่ได้สอนวิชาการอย่างเดียวเเต่สอนการใช้ชีวิตด้วย กอรปกับเริ่มอ่านหนังสือHow toบ้างเค้าบอกให้รู้จักตั้งเป้าหมาย วันนึงพี่เลยตั้งเป้าหมายด้านต่างๆ เรื่องการเงินก็เป็นเรื่องนึง
ในนั้นตอนนั้นไปกดเงินSlipออกมาว่าเหลือเงินราว30,000.00บาท พี่เลยจัดการเเก้ตัวเลข เป็นเงินคงเหลือ3,000,000บาทเเละเเก้ปีพ.ศ.จากสิงหาคมปี2550เป็นสิงหาคมปี2555 เเล้วเเปะSlipนั้นไว้ที่ปกในสมุดเล่มนึง...เเละทำสมุดสมปรารถนาขึ้นมา1เล่ม เพื่อเขียนเป้าหมาย เเละคิดว่าอะไรที่เขียนลงในสมุดนี้เเล้วมันจะเป็นจริง(เช่นสอบผ่าน, ประสบความสำเร็จในการนำเสนองานที่ ตปท.เป็นต้น ปรากฎว่าสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม, ส่วนอีกเรื่องที่เขียนคือจะเเต่งงานกับ...ในปี;อันนี้ยังไม่สำเร็จ )
จุดเปลี่ยนที่2 หลังเรียนต่อจบมาเกือบ1ปีคนเเนะนำให้รู้จักกับ"การลงทุนในตลาดหุ้น"
เดือนพฤษภาคม 2009 ชีวิตของพี่ก็เปลี่ยน เริ่มจากเงินเก็บก้อนเเรก30,000บาทใส่ลงในPort จากนั้นได้เงินเดือนมาเเต่ละเดือนหลังจากให้เเม่เเล้วจะหักเข้าPortทุกเดือน เริ่มทำประกันชีวิตให้ตนเองเเละเเม่ รู้จักซื้อLTFเพื่อลดภาษี(หลักการณ์ของพี่คือภาษีต้องเสียให้น้อยที่สุด) ใช้เงินประหยัดขึ้นมาก(ลดของบางอย่างที่ไม่จำเป็นออก)เเละพี่เขียนเป้าหมายลงในสมุดสมปารถนาเพิ่มคือมีรายได้มากกว่าหรือเท่ากับ X บาท/เดือนตั้งเเต่เดือนธ.ค.2010เป็นต้นไป, มีเงินในPort1MBในเดือนกันยา2010 ทุกอย่างก็ประสบความสำเร็จครับ [เสียอย่างเดียวพี่ลงทุนเเบบมวยวัดตลอด2ปี(มีกำไรเฉลี่ย15%/ปี ทั้งๆที่Setขึ้นมาจากตอนที่เข้าลงทุน100%) Portเลยโตจากเงินเก็บ...มากกว่าโตจากการลงทุน]
จุดสังเกตอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เรารวยขึ้นคือ"ความกตัญญู"เเละการ"คืนกำไร"ให้สังคมครับ ตอนเริ่มลงทุนใหม่ๆผ่านไป6เดือนPortพี่กำไรเเค่5% พอวันนึงเห็นประกาศรับบริจาคมูลนิธิรามาพี่ก็เลยเอาเงินก้อนนึงราว80,000บาทไปซื้อหุ้นBHเเละตั้งใจว่าถ้าขายได้กำไรเท่าไหร่ก็จะเอากำไรบริจาคมูลนิธิรามา(เพราะพี่เรียนจบจากรามา) ก็เล่นหุ้นเเบบมวยวัดนี่เเหละครับได้กำไรราว4,500บาทจึงทำการบริจาคไป นอกจากมาปีหลังพี่เริ่มทำโครงการ"Portใส่สุข"โดยเเบ่งเงิน20%จากกำไร(ปันผลเเละCapital Gain) โดย10%ปันผลให้เเม่, 10%บริจาคมูลนิธิรามา, Unicef)
ปรากฎว่าปีล่าสุดPortเราโตมากกว่าSet(เเต่ขายหมูไปเยอะเหมือนกัน)
ครับมาตอนนี้ถ้ารวมเงินทั้งหมดทั้งLTF, Portหุ้น, เงินสด, เงินที่ออมไว้ในประกัน รวมเเล้วกำลังเข้าใกล้เป้าหมายที่เขียนไว้ในSlipใบนั้นเเล้ว เหลือเวลาอีกราว1ปี สิงหาคม 2555 พี่จะได้ทบทวนตนเองอีกครั้งว่าเราไปถึงเป้าหมายตามที่เขียนไว้รึเปล่า
เเละเป็นเรื่องจริงที่สุดที่ว่าเงิน1ล้านเเรกได้มายากที่สุดเเต่ถ้าทำได้มันจะไหลมาเทมาเอง
สรุปอันนี้เป็นสิ่งที่พี่ทำทั้งหมดทำให้มีเงินเกิน1MB คือ
1)ตั้งเป้าหมายเเละบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร(ทำสมุดสมปารถนา)
2)การได้รู้จัก"การลงทุนในตลาดหุ้น"ทำให้ใช้จ่ายประหยัดขึ้นหาเงินเก่งขึ้น
3)การ"กตัญญู"เเละการคืนกำไรบางส่วนให้ พ่อเเม่, สถาบันที่เราจบมา, หรือสังคมที่เราอยู่
น้องเริ่มต้นเร็วกว่าพี่ตั้ง6ปี ตอนน้องอายุเท่าพี่น้องต้องมีเงินเกิน10MBเเน่นอนพี่มั่นใจ
เทียบกับตอนพี่อายุ22ปียังไร้สาระอยู่ เเม่ให้เงินเดือนพอสมควร เเต่กลับเก็บเงินไม่ได้เลยใช้เปลืองมาก...จนเรียนจบ ก็ไม่รู้จักเก็บ
จุดเปลี่ยนเเรกของผมคือการไปเรียนต่อ โชคดีที่รอบๆตัวพี่มีอาจารย์ที่ดีไม่ได้สอนวิชาการอย่างเดียวเเต่สอนการใช้ชีวิตด้วย กอรปกับเริ่มอ่านหนังสือHow toบ้างเค้าบอกให้รู้จักตั้งเป้าหมาย วันนึงพี่เลยตั้งเป้าหมายด้านต่างๆ เรื่องการเงินก็เป็นเรื่องนึง
ในนั้นตอนนั้นไปกดเงินSlipออกมาว่าเหลือเงินราว30,000.00บาท พี่เลยจัดการเเก้ตัวเลข เป็นเงินคงเหลือ3,000,000บาทเเละเเก้ปีพ.ศ.จากสิงหาคมปี2550เป็นสิงหาคมปี2555 เเล้วเเปะSlipนั้นไว้ที่ปกในสมุดเล่มนึง...เเละทำสมุดสมปรารถนาขึ้นมา1เล่ม เพื่อเขียนเป้าหมาย เเละคิดว่าอะไรที่เขียนลงในสมุดนี้เเล้วมันจะเป็นจริง(เช่นสอบผ่าน, ประสบความสำเร็จในการนำเสนองานที่ ตปท.เป็นต้น ปรากฎว่าสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม, ส่วนอีกเรื่องที่เขียนคือจะเเต่งงานกับ...ในปี;อันนี้ยังไม่สำเร็จ )
จุดเปลี่ยนที่2 หลังเรียนต่อจบมาเกือบ1ปีคนเเนะนำให้รู้จักกับ"การลงทุนในตลาดหุ้น"
เดือนพฤษภาคม 2009 ชีวิตของพี่ก็เปลี่ยน เริ่มจากเงินเก็บก้อนเเรก30,000บาทใส่ลงในPort จากนั้นได้เงินเดือนมาเเต่ละเดือนหลังจากให้เเม่เเล้วจะหักเข้าPortทุกเดือน เริ่มทำประกันชีวิตให้ตนเองเเละเเม่ รู้จักซื้อLTFเพื่อลดภาษี(หลักการณ์ของพี่คือภาษีต้องเสียให้น้อยที่สุด) ใช้เงินประหยัดขึ้นมาก(ลดของบางอย่างที่ไม่จำเป็นออก)เเละพี่เขียนเป้าหมายลงในสมุดสมปารถนาเพิ่มคือมีรายได้มากกว่าหรือเท่ากับ X บาท/เดือนตั้งเเต่เดือนธ.ค.2010เป็นต้นไป, มีเงินในPort1MBในเดือนกันยา2010 ทุกอย่างก็ประสบความสำเร็จครับ [เสียอย่างเดียวพี่ลงทุนเเบบมวยวัดตลอด2ปี(มีกำไรเฉลี่ย15%/ปี ทั้งๆที่Setขึ้นมาจากตอนที่เข้าลงทุน100%) Portเลยโตจากเงินเก็บ...มากกว่าโตจากการลงทุน]
จุดสังเกตอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เรารวยขึ้นคือ"ความกตัญญู"เเละการ"คืนกำไร"ให้สังคมครับ ตอนเริ่มลงทุนใหม่ๆผ่านไป6เดือนPortพี่กำไรเเค่5% พอวันนึงเห็นประกาศรับบริจาคมูลนิธิรามาพี่ก็เลยเอาเงินก้อนนึงราว80,000บาทไปซื้อหุ้นBHเเละตั้งใจว่าถ้าขายได้กำไรเท่าไหร่ก็จะเอากำไรบริจาคมูลนิธิรามา(เพราะพี่เรียนจบจากรามา) ก็เล่นหุ้นเเบบมวยวัดนี่เเหละครับได้กำไรราว4,500บาทจึงทำการบริจาคไป นอกจากมาปีหลังพี่เริ่มทำโครงการ"Portใส่สุข"โดยเเบ่งเงิน20%จากกำไร(ปันผลเเละCapital Gain) โดย10%ปันผลให้เเม่, 10%บริจาคมูลนิธิรามา, Unicef)
ปรากฎว่าปีล่าสุดPortเราโตมากกว่าSet(เเต่ขายหมูไปเยอะเหมือนกัน)
ครับมาตอนนี้ถ้ารวมเงินทั้งหมดทั้งLTF, Portหุ้น, เงินสด, เงินที่ออมไว้ในประกัน รวมเเล้วกำลังเข้าใกล้เป้าหมายที่เขียนไว้ในSlipใบนั้นเเล้ว เหลือเวลาอีกราว1ปี สิงหาคม 2555 พี่จะได้ทบทวนตนเองอีกครั้งว่าเราไปถึงเป้าหมายตามที่เขียนไว้รึเปล่า
เเละเป็นเรื่องจริงที่สุดที่ว่าเงิน1ล้านเเรกได้มายากที่สุดเเต่ถ้าทำได้มันจะไหลมาเทมาเอง
สรุปอันนี้เป็นสิ่งที่พี่ทำทั้งหมดทำให้มีเงินเกิน1MB คือ
1)ตั้งเป้าหมายเเละบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร(ทำสมุดสมปารถนา)
2)การได้รู้จัก"การลงทุนในตลาดหุ้น"ทำให้ใช้จ่ายประหยัดขึ้นหาเงินเก่งขึ้น
3)การ"กตัญญู"เเละการคืนกำไรบางส่วนให้ พ่อเเม่, สถาบันที่เราจบมา, หรือสังคมที่เราอยู่
น้องเริ่มต้นเร็วกว่าพี่ตั้ง6ปี ตอนน้องอายุเท่าพี่น้องต้องมีเงินเกิน10MBเเน่นอนพี่มั่นใจ
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
- xavi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 15
เป็นช่วงรอยต่อครับทำงานประจำได้พักหนึ่ง แล้วก็รู้สึกว่ายากมากๆกว่าจะได้ครับ
เพราะมีกับดักระหว่างทางให้ต้องใช้จ่ายเยอะครับ ทั้งค่าเล่าเรียน ค่ารถ ค่าบ้าน และ ก็หาความสุขส่วนตัวด้วยครับ
ต่อมาตัดสินใจออกมาทำธุรกิจส่วนตัวครับ ก็ผ่านมาได้ง่ายขึ้นครับ เพราะทำเอง เหนื่อยเอง ได้เองครับ
สิ่งที่น่ากลัวก็คือ พอผ่านล้านบาทแรกไปก็อยากได้ล้านที่สองครับ
ผ่านไปอีกก็อยากได้ 8 หลักครับ และ ความอยากได้ก็ไม่มีที่สิ้นสุดครับ
ตอนนี้ก็พอบอกได้ว่าบางครั้งจำนวนเงินก็ไม่ได้บอกอะไรครับ
กลับมามองท้ายสุดการได้ใช้ชีวิตกับตัวเอง กับคนที่เรารักนี่ล่ะครับ ดีที่สุดแล้วครับ
เพราะมีกับดักระหว่างทางให้ต้องใช้จ่ายเยอะครับ ทั้งค่าเล่าเรียน ค่ารถ ค่าบ้าน และ ก็หาความสุขส่วนตัวด้วยครับ
ต่อมาตัดสินใจออกมาทำธุรกิจส่วนตัวครับ ก็ผ่านมาได้ง่ายขึ้นครับ เพราะทำเอง เหนื่อยเอง ได้เองครับ
สิ่งที่น่ากลัวก็คือ พอผ่านล้านบาทแรกไปก็อยากได้ล้านที่สองครับ
ผ่านไปอีกก็อยากได้ 8 หลักครับ และ ความอยากได้ก็ไม่มีที่สิ้นสุดครับ
ตอนนี้ก็พอบอกได้ว่าบางครั้งจำนวนเงินก็ไม่ได้บอกอะไรครับ
กลับมามองท้ายสุดการได้ใช้ชีวิตกับตัวเอง กับคนที่เรารักนี่ล่ะครับ ดีที่สุดแล้วครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2603
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 16
นีเเหละครับชีวิต ขอเพิ่มอีกหนึ่งอย่าง"ได้ทำสิ่งที่รัก"ด้วยครับ เหมือนที่หนังสือการลาออกครั้งสุดท้าย บอกประมาณว่าเราควรเป็นนกที่อยู่ในกรงที่เรารัก หางานที่เรารักให้เจอเเล้วจะเสมือนเลิกทำงานไปตลอดชีวิตครับxavi เขียน:เป็นช่วงรอยต่อครับทำงานประจำได้พักหนึ่ง แล้วก็รู้สึกว่ายากมากๆกว่าจะได้ครับ
เพราะมีกับดักระหว่างทางให้ต้องใช้จ่ายเยอะครับ ทั้งค่าเล่าเรียน ค่ารถ ค่าบ้าน และ ก็หาความสุขส่วนตัวด้วยครับ
ต่อมาตัดสินใจออกมาทำธุรกิจส่วนตัวครับ ก็ผ่านมาได้ง่ายขึ้นครับ เพราะทำเอง เหนื่อยเอง ได้เองครับ
สิ่งที่น่ากลัวก็คือ พอผ่านล้านบาทแรกไปก็อยากได้ล้านที่สองครับ
ผ่านไปอีกก็อยากได้ 8 หลักครับ และ ความอยากได้ก็ไม่มีที่สิ้นสุดครับ
ตอนนี้ก็พอบอกได้ว่าบางครั้งจำนวนเงินก็ไม่ได้บอกอะไรครับ
กลับมามองท้ายสุดการได้ใช้ชีวิตกับตัวเอง กับคนที่เรารักนี่ล่ะครับ ดีที่สุดแล้วครับ
ขออวยพรให้เพื่อนๆเเละตัวผมเองขอให้ชีวิตมี"ความสมดุล"ครับ
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
-
- Verified User
- โพสต์: 126
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 19
คงมาจากเงินออม ที่มาจากการทำงานน่ะครับ
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้น ก็ยังต้องฝึกฝนต่อไป
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้น ก็ยังต้องฝึกฝนต่อไป
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 21
มีเงิน 1 ล้านบาทแรกเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2010 (ปีก่อน) โดยผมเคยแชร์ไว้แล้วนะครับ
ขอเอาโพสต์เก่าของผมมาแชร์อีกครั้งนะครับเผื่อว่าจะเป็นกำลังใจให้คนใหม่ๆที่ยังไม่ได้อ่าน
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?t=42375
ขอเอาโพสต์เก่าของผมมาแชร์อีกครั้งนะครับเผื่อว่าจะเป็นกำลังใจให้คนใหม่ๆที่ยังไม่ได้อ่าน
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?t=42375
มีคำกล่าวจากคนที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาเป็นเศรษฐีหลายๆคนว่า "เงิน 1 ล้านบาทแรกนั้นเป็นเงินก้อนที่หามาด้วยความยากลำบากมากที่สุด ยากกว่าการหาเงินอีกหลายสิบหลายร้อยล้านบาทในเวลาต่อมา"
วันนี้ผมตัดสินใจตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพราะรู้สึกดีใจ ภูมิใจว่าในที่สุด หลังจากทำงานมาเป็นเวลาถึง 10 ปี ก็สามารถมีพอร์ทลงทุนในหุ้นที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาทเป็นครั้งแรกในชีวิต (ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้หุ้นจะมีราคาลงไปบ้างก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่ามีเงินล้านแล้วในวันนี้ อิอิ ) และหวังว่าประสบการณ์ชีวิตผมจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคนมีความพยายามในการไปให้ถึงเป้าหมายในอนาคตต่อไป
บางคนอาจจะรู้สึกว่าเงิน 1 ล้านบาทนั้นหามาได้ไม่ยากนัก แต่สำหรับผมแล้ว มันช่างเป็นจำนวนเงินที่มากมายเหลือเกิน ผมมาจากฐานะทางบ้านที่ไม่ดีนัก เรียนหนังสือก็อาศัยทุนการศึกษา ทุนอาหารกลางวัน มาตลอด แม่ก็เข็นรถเข็นขายข้าวแกงมีรายได้ไม่มากนัก ผมได้เงินไปเรียนมหาวิทยาลัยวันละ 50 บาท พอเรียนจบมาได้ไม่นาน แม่ก็หยุดขายข้าวแกงเพราะไม่ไหว ผมกับพี่และน้องชายต้องช่วยกันรวมเงินมาไว้ให้แม่ทุกเดือน ทำงานครั้งแรกเงินเดือน 15,000 บาท ผมให้แม่เดือนละ 10,000 บาททุกเดือน ใช้เอง2-3 พันบาท เหลือเก็บเดือนละ 2 พันบาท และไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าในชีวิตนี้จะมีวันที่มีเงิน 1 ล้านบาทได้
ผมเริ่มเล่นหุ้นครั้งแรกเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว (ปี 2002) ตอนนั้นผมทำงานเป็นวิศวกรได้ประมาณ 2 ปี ตอนนั้นเล่นไปตามบทวิเคราะห์ ได้บ้างเสียบ้าง จนเมื่อผมทำงานมาได้ 5 ปี (ปี 2005) ผมก็ตัดสินใจไปทำงานเป็น มาร์เก็ตติ้ง โดยมีความเชื่อว่าถ้าเป็นคนเคาะซื้อเคาะขายหุ้นด้วยตัวเอง น่าจะสร้างผลตอบแทนได้เป็นกอบเป็นกำ ตอนนั้นมีเงินเก็บอยู่ 5 แสนบาทได้ รวมกับเงินที่พี่ชายฝากมาเล่นหุ้นด้วยอีก 2 แสน รวมเป็นเงิน 7 แสนบาท
หลังจากทำงานมาร์เก็ตติ้งมา 1 ปีเต็ม จนถึงสิ้นปี 2005 ในที่สุดผมก็หมดตัว เนื่องจากเล่นไปตามอารมณ์เหมือนการพนัน เล่นหนักๆเกินตัว ต้องไปขอยืมเงินพี่ชายเพิ่มมาอีกเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน พี่ชายผมพอรู้ว่าเงิน 2 แสนของพี่สูญไปหมด ก็โกรธผมอย่างมาก ทำให้ความสัมพันธ์ที่เคยดีๆในครอบครัวต้องเลวร้ายลงอย่างมาก
ผมลาออกจากมาร์เก็ตติ้งมาทำงานเป็นวิศวกรในโรงงานอีกครั้ง และห่างหายไปจากตลาดหุ้นในช่วงปี 2006-2008 แต่ก็เฝ้าดูอยู่ห่างๆ จนถึงช่วงที่ตลาดหุ้นตกหนักในปลายปี 2008 ผมก็เริ่มเอาเงินที่มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 3 หมื่นบาทมาลงทุนในช่วงมกราคม 2009 แล้วก็เอาเงินเดือนที่เก็บเพิ่มได้ในแต่ละเดือนอีกประมาณเดือนละหมื่นบาทไปลงทุนเพิ่มทุกเดือน เนื่องจากผมรู้สึกเข็ดกับอดีตอันเลวร้ายของผม ผมจึงตั้งใจศึกษาและค้นหาวิธีการลงุทนที่เป็นหลักการจนมาพบเวบไซต์ของคุณโย (yoyo) เมื่อได้อ่านก็ยิ่งรู้สึกว่าใช่แนวทางที่ถูกต้อง แล้วผมก็มารู้จักหนังสือของ ดร.นิเวศน์ และเวปไซต์แห่งนี้ในภายหลัง โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุด ผมได้มารู้จักสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก คือดอกเบี้ยทบต้น ผมนั่งคำนวณด้วย Excel นั่งคำนวณทั้งวันโดยเปลี่ยนตัวเลขไปเรื่อยๆ แล้วก็เหมือนดวงตาเห็นธรรม เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้รู้และมั่นใจว่าผมเจอหนทางที่จะมีเงินได้ถึงร้อยล้านพันล้านในชีวิตของผมได้
ผมจะเตือนตัวเองเสมอว่าอย่าผิดพลาดอีก อย่าขาดทุนเด็ดขาด ดังนั้นผมจึงค่อยๆพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ โดยในตอนต้นปี 2009 ผมจะลงทุนในหุ้นที่รู้สึกว่าตกต่ำลงมามาก แต่คาดว่าผลประกอบการไตรมาสถัดไปน่าจะดีอยู่ พอถึงกลางปี 2009 ผมก็เริ่มเปลี่ยนมุมมอง คือมองหาบริษัทที่คิดว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้าจะมั่นใจได้ว่าผลประกอบการจะต้องดีขึ้นอย่างโดดเด่น จนมาถึงตอนนี้ ผมจะเลือกลุงทุนในบริษัทที่ผมคิดว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้าผลประกอบการก็จะมั่นใจได้แน่ว่าจะดีขึ้นอย่างแน่นอน อาจจะไม่ได้ก้าวกระโดดมากมาย แต่เติบโตต่อเนื่องทุกปี อย่างน้อย 15% ต่อปี และผมจะคิดถึคงกรณีที่เลวร้ายสุดไว้เสมอ ว่าหากมีปัญหาการเมือง หรือวิกฤติการเงินจะส่งผลอะไรต่อบริษัทหรือไม่ ผมจะเลือกบริษัทที่มีภูมิต้านทานสูง เสมือนมาอยู่หอพัก หรือคอนโดสูงแล้วมองหาประตูหนีไฟเอาไว้ก่อน
ผมตั้งเป้าระยะยาวไว้กับตัวเองจนถึงอายุ 60 ปี ทำเป็น Grant chart เอาไว้ว่าแต่ละปีจะมีทรัพย์สินมูลค่าเท่าไร ผมคาดหวังไว้ที่ 18% ต่อปี ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่าย ผมจะมีเงินประมาณ 100 ล้านบาทเมื่อมีอายุประมาณ 55 ปี ซึ่งเป็นปีที่ผมตั้งใจว่าจะตั้งมูลนิธิขึ้นเพื่อช่วยเหลือสังคมซึ่งเป็นความใฝ่ฝันของผมมาตลอดตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัย
จากประสบการณ์ของผม ยามที่ผมโลภ ไม่รู้จักพอ หวังรวยเร็ว ผมจะขาดทุนอย่างหนัก แต่ยามที่ผมรู้จักพอ ไม่หวังรวยเร็ว กลับมีกำไรมากกว่าที่คาด มันเป็นสัจธรรมสำหรับชีวิตผม ผมเรียนรู้ว่าในตลาดหุ้น จิตใจสำคัญกว่าความรู้มากยิ่งนัก
ชนะเพราะไม่คิดเอาชนะ กำไรเพราะไม่โลภ ลงทุนอย่างมีความสุขเพราะจิตใจอยู่เหนืออารมณ์ตลาด
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2603
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 22
lucklyboy เขียน:มาแอบอ่านด้วยคน ทำเองไม่ค่อยได้ แต่ก็พยายาม
"ตีลูก(กอล์ฟ)ให้ถึงดวงจันทร์ถ้าพลาดก็อยู่ท่ามกลางดวงดาว"
ถ้าเป้าหมายเราชัดเจนเเละตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อมุ่งไปสู่จุดนั้นถึงไม่สำเร็จก็รับรองว่าไม่เสียเปล่า...สู้ๆครับ
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2603
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 23
ขอบอกว่ากระทู้นั้นของพี่Skyforeverเป็นอีก"หนึ่ง"เเรงบันดาลใจให้ผมมีกำลังใจมุ่งมั่นต่อไป...หลังจากอ่านกระทู้นี้ของพี่ในวันนั้น เป็นที่มาของการเขียนอีกหนึ่งเป้าหมายลงในสมุดสมปรารถนาคือ"มีเงินในPort1,000,000บาทในเดือนกันยายน2510" (เหตุผลที่เลือกเดือนกันยายนเพราะเป็นเดือนเกิดของทั้ง"คุณเเม่"เเละ"เเฟน"ผมครับเลยถือเป็นเดือนมงคล)Skyforever เขียน:มีเงิน 1 ล้านบาทแรกเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2010 (ปีก่อน) โดยผมเคยแชร์ไว้แล้วนะครับ
ขอเอาโพสต์เก่าของผมมาแชร์อีกครั้งนะครับเผื่อว่าจะเป็นกำลังใจให้คนใหม่ๆที่ยังไม่ได้อ่าน
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?t=42375
วันนี้กลับมาอ่านอีกครั้งก็ได้เเรงบันดาลใจใหม่อีก...ทำให้ผมมีเป้าหมาย"ทางการลงทุน"เพิ่มขึ้นมาอีกข้อ...จากเดิมที่เงินส่วนใหญ่งอกจากเงินเก็บ คงต้องทำให้เงินงอกจากการ"ลงทุน"มากขึ้นให้ได้(...จากหลักการณ์ดอกเบี้ยทบต้น...)เเละตอกยำ้ให้เห็นเเนวทางการลงทุนที่ถูกต้อง ปลอดภัย ต้องVI
อันนี้ชอบมากครับ ขอบคุณอีกครั้งครับSkyforever เขียน:จากประสบการณ์ของผม ยามที่ผมโลภ ไม่รู้จักพอ หวังรวยเร็ว ผมจะขาดทุนอย่างหนัก แต่ยามที่ผมรู้จักพอ ไม่หวังรวยเร็ว กลับมีกำไรมากกว่าที่คาด มันเป็นสัจธรรมสำหรับชีวิตผม ผมเรียนรู้ว่าในตลาดหุ้น จิตใจสำคัญกว่าความรู้มากยิ่งนัก
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
-
- Verified User
- โพสต์: 483
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 24
ผมคิดว่า ถ้าเราลงทุนอย่างเต็มความสามารถ ใช้ความรู้ที่เรามี ขวนขวาย
ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟียย เป้าหมายเราก็อยู่ไม่ใกล
โดยไม่ยึดติดกับเป้าหมายมากเกินไปเพราะอาจทำให้ทุกข์ได้
ทำให้เต็มที่ แล้วผลมันจะออกมาดีเองครับ
ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟียย เป้าหมายเราก็อยู่ไม่ใกล
โดยไม่ยึดติดกับเป้าหมายมากเกินไปเพราะอาจทำให้ทุกข์ได้
ทำให้เต็มที่ แล้วผลมันจะออกมาดีเองครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2603
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 25
ในมุมมองผมคิดว่า"มุ่งมั่น"กับ"ยึดติด"มันต่างกันมหาศาลเลยครับ "มุ่งมั่น" จะมีความสุขอยู่รายทาง
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 26
ผมเคยตั้งเป้าเช่นคุณและผมก็ทําได้ก่อน 25 มาแล้วครับ
จะได้ 1 ล้าน เร็วหรือ ไม่นั้น ขึ้นอยู่ 3 ปัจจัยครับ
1 เงินต้น
2 เงินที่เติมเข้าไป
3 ผลตอบแทบแทน
ข้อ 1 ถ้ามีทุนเดิม บุญเก่าเยอะอยู่แล้ว เช่น 5 แสน ก็ไม่น่ายาก ออกแรงอีกนิด 3 ปี ก็ได้ แต่ต้องทําผลตอบแทนจากการลงทุน ให้ได้ ไม่น้อยกว่า 26% ต่อปี ทบต้นนะครับ 3 ปี เงินจะงอกเป็น 1 ล้าน ผมคํานวณให้เรียบร้อยแล้ว
ถ้า น้อยกว่า 5 แสน นั้น
ต้องเน้น ข้อ 2 และ 3 ครับ
ถ้าอยากได้เร็ว และได้ แน่ !!!
วิธีที่ผมใช้คือ ทํางานเสริม ระหว่างเรียน เช่น ขายของ สอนพิเศษ ทุกอย่างที่เป็นรายได้เข้ามาอย่างสุจริตทําหมด ช่วงนี้เพื่อนๆอาจมองเราแปลก เพราะเค้าไม่รู้ว่าเรากําลังทําอะไรอยู่ และออมเงินให้ได้มากที่สุด อย่าเอาไปเที่ยวหมดหละ
อย่าลืม เราอดเปรี้ยวกินหวาน !!! สักวันเมื่อมองกลับมาเทียบกับเพื่อนในวัยเดียวกันแล้ว คุณจะรู้ว่าการตัดสินใจ
ไปนั้นถูกต้อง เพราะเพื่อนๆที่ฐานะปานกลาง ไม่ได้มีพ่อแม่รวย อายุ 25 หลายคนมีหนี้บัตรเครดิต โดยเฉลี่ย
เงินออมไม่เกิน 3 แสน ครับ
หลังจากคุณ เติม เงินลงทุนเข้าไป แต่ ไม่ใช่ เติมปุ๊บ ซื้อ ปั๊บ หรือ ซื้อหุ้น ถัวเฉลี่ย ตาม บทความหรือหนังสือท้องตลาดแนะนํากันนะครับ เราจะซื้อหุ้น ต่อเมื่อ มี Margin of Safety เท่านั้น !!!!
ถ้ายังหาหุ้นทีมี MOS+GROWTH พอไม่ได้ การถือเงินสดไว้ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับเงินที่เราเติมก็จะสะสมไป พอเราเจอตัวที่ใช่ ค่อย ลงทุนครับ แล้วพยายามลงทุนในหุ้น Growth Stock หรือ หุ้นที่ Earnings กําลังโต เนื่องจาก
ปัจจัยหลายๆอย่าง ถือ มันไว้ตราบที่มันยังโต แล้วคุณ จะพบ กับ Miracle of Life ตื่นขึ้นมา เผลอ 1-2 ปีจากนี้ คุณอาจทะลุ เป้า ก็ได้นะครับ
เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน !!! แต่ถ้าไม่ได้ก็อย่าเครียดนะครับ แบบที่ พี่เจ๋งบอก มีความสุขกับชีวิตก่อน ไม่มีใครรู้โอกาศจะมาเมื่อไหร่ แต่ถ้าเราพร้อมเราคว้ามันได้ครับ ถึงไม่ได้เงินแต่ที่ได้แน่ๆคือ ประสบการณ์ อย่างน้อยเราลงมือทําแล้ว
ผมเป็นกําลังใจให้ครับ
จะได้ 1 ล้าน เร็วหรือ ไม่นั้น ขึ้นอยู่ 3 ปัจจัยครับ
1 เงินต้น
2 เงินที่เติมเข้าไป
3 ผลตอบแทบแทน
ข้อ 1 ถ้ามีทุนเดิม บุญเก่าเยอะอยู่แล้ว เช่น 5 แสน ก็ไม่น่ายาก ออกแรงอีกนิด 3 ปี ก็ได้ แต่ต้องทําผลตอบแทนจากการลงทุน ให้ได้ ไม่น้อยกว่า 26% ต่อปี ทบต้นนะครับ 3 ปี เงินจะงอกเป็น 1 ล้าน ผมคํานวณให้เรียบร้อยแล้ว
ถ้า น้อยกว่า 5 แสน นั้น
ต้องเน้น ข้อ 2 และ 3 ครับ
ถ้าอยากได้เร็ว และได้ แน่ !!!
วิธีที่ผมใช้คือ ทํางานเสริม ระหว่างเรียน เช่น ขายของ สอนพิเศษ ทุกอย่างที่เป็นรายได้เข้ามาอย่างสุจริตทําหมด ช่วงนี้เพื่อนๆอาจมองเราแปลก เพราะเค้าไม่รู้ว่าเรากําลังทําอะไรอยู่ และออมเงินให้ได้มากที่สุด อย่าเอาไปเที่ยวหมดหละ
อย่าลืม เราอดเปรี้ยวกินหวาน !!! สักวันเมื่อมองกลับมาเทียบกับเพื่อนในวัยเดียวกันแล้ว คุณจะรู้ว่าการตัดสินใจ
ไปนั้นถูกต้อง เพราะเพื่อนๆที่ฐานะปานกลาง ไม่ได้มีพ่อแม่รวย อายุ 25 หลายคนมีหนี้บัตรเครดิต โดยเฉลี่ย
เงินออมไม่เกิน 3 แสน ครับ
หลังจากคุณ เติม เงินลงทุนเข้าไป แต่ ไม่ใช่ เติมปุ๊บ ซื้อ ปั๊บ หรือ ซื้อหุ้น ถัวเฉลี่ย ตาม บทความหรือหนังสือท้องตลาดแนะนํากันนะครับ เราจะซื้อหุ้น ต่อเมื่อ มี Margin of Safety เท่านั้น !!!!
ถ้ายังหาหุ้นทีมี MOS+GROWTH พอไม่ได้ การถือเงินสดไว้ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับเงินที่เราเติมก็จะสะสมไป พอเราเจอตัวที่ใช่ ค่อย ลงทุนครับ แล้วพยายามลงทุนในหุ้น Growth Stock หรือ หุ้นที่ Earnings กําลังโต เนื่องจาก
ปัจจัยหลายๆอย่าง ถือ มันไว้ตราบที่มันยังโต แล้วคุณ จะพบ กับ Miracle of Life ตื่นขึ้นมา เผลอ 1-2 ปีจากนี้ คุณอาจทะลุ เป้า ก็ได้นะครับ
เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน !!! แต่ถ้าไม่ได้ก็อย่าเครียดนะครับ แบบที่ พี่เจ๋งบอก มีความสุขกับชีวิตก่อน ไม่มีใครรู้โอกาศจะมาเมื่อไหร่ แต่ถ้าเราพร้อมเราคว้ามันได้ครับ ถึงไม่ได้เงินแต่ที่ได้แน่ๆคือ ประสบการณ์ อย่างน้อยเราลงมือทําแล้ว
ผมเป็นกําลังใจให้ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2603
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 27
Like +++ ครับRocker เขียน:ผมเคยตั้งเป้าเช่นคุณและผมก็ทําได้ก่อน 25 มาแล้วครับ
จะได้ 1 ล้าน เร็วหรือ ไม่นั้น ขึ้นอยู่ 3 ปัจจัยครับ
1 เงินต้น
2 เงินที่เติมเข้าไป
3 ผลตอบแทบแทน
ข้อ 1 ถ้ามีทุนเดิม บุญเก่าเยอะอยู่แล้ว เช่น 5 แสน ก็ไม่น่ายาก ออกแรงอีกนิด 3 ปี ก็ได้ แต่ต้องทําผลตอบแทนจากการลงทุน ให้ได้ ไม่น้อยกว่า 26% ต่อปี ทบต้นนะครับ 3 ปี เงินจะงอกเป็น 1 ล้าน ผมคํานวณให้เรียบร้อยแล้ว
ถ้า น้อยกว่า 5 แสน นั้น
ต้องเน้น ข้อ 2 และ 3 ครับ
ถ้าอยากได้เร็ว และได้ แน่ !!!
วิธีที่ผมใช้คือ ทํางานเสริม ระหว่างเรียน เช่น ขายของ สอนพิเศษ ทุกอย่างที่เป็นรายได้เข้ามาอย่างสุจริตทําหมด ช่วงนี้เพื่อนๆอาจมองเราแปลก เพราะเค้าไม่รู้ว่าเรากําลังทําอะไรอยู่ และออมเงินให้ได้มากที่สุด อย่าเอาไปเที่ยวหมดหละ
อย่าลืม เราอดเปรี้ยวกินหวาน !!! สักวันเมื่อมองกลับมาเทียบกับเพื่อนในวัยเดียวกันแล้ว คุณจะรู้ว่าการตัดสินใจ
ไปนั้นถูกต้อง เพราะเพื่อนๆที่ฐานะปานกลาง ไม่ได้มีพ่อแม่รวย อายุ 25 หลายคนมีหนี้บัตรเครดิต โดยเฉลี่ย
เงินออมไม่เกิน 3 แสน ครับ
หลังจากคุณ เติม เงินลงทุนเข้าไป แต่ ไม่ใช่ เติมปุ๊บ ซื้อ ปั๊บ หรือ ซื้อหุ้น ถัวเฉลี่ย ตาม บทความหรือหนังสือท้องตลาดแนะนํากันนะครับ เราจะซื้อหุ้น ต่อเมื่อ มี Margin of Safety เท่านั้น !!!!
ถ้ายังหาหุ้นทีมี MOS+GROWTH พอไม่ได้ การถือเงินสดไว้ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับเงินที่เราเติมก็จะสะสมไป พอเราเจอตัวที่ใช่ ค่อย ลงทุนครับ แล้วพยายามลงทุนในหุ้น Growth Stock หรือ หุ้นที่ Earnings กําลังโต เนื่องจาก
ปัจจัยหลายๆอย่าง ถือ มันไว้ตราบที่มันยังโต แล้วคุณ จะพบ กับ Miracle of Life ตื่นขึ้นมา เผลอ 1-2 ปีจากนี้ คุณอาจทะลุ เป้า ก็ได้นะครับ
เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน !!! แต่ถ้าไม่ได้ก็อย่าเครียดนะครับ แบบที่ พี่เจ๋งบอก มีความสุขกับชีวิตก่อน ไม่มีใครรู้โอกาศจะมาเมื่อไหร่ แต่ถ้าเราพร้อมเราคว้ามันได้ครับ ถึงไม่ได้เงินแต่ที่ได้แน่ๆคือ ประสบการณ์ อย่างน้อยเราลงมือทําแล้ว
ผมเป็นกําลังใจให้ครับ
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
- Skyforever
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1221
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 29
ขอบคุณครับ ผมดีใจครับที่สิ่งที่ผมได้เขียนออกไปพอจะมีประโยชน์และสามารถเป็นกำลังใจให้กับคนอื่นได้บ้าง และถึงแม้จะเป็นประโยชน์ต่อคนเพียงคนเดียว มันก็มีค่าเกินพอสำหรับผมแล้วtorpongpak เขียน:ขอบอกว่ากระทู้นั้นของพี่Skyforeverเป็นอีก"หนึ่ง"เเรงบันดาลใจให้ผมมีกำลังใจมุ่งมั่นต่อไป...หลังจากอ่านกระทู้นี้ของพี่ในวันนั้น เป็นที่มาของการเขียนอีกหนึ่งเป้าหมายลงในสมุดสมปรารถนาคือ"มีเงินในPort1,000,000บาทในเดือนกันยายน2510" (เหตุผลที่เลือกเดือนกันยายนเพราะเป็นเดือนเกิดของทั้ง"คุณเเม่"เเละ"เเฟน"ผมครับเลยถือเป็นเดือนมงคล)
วันนี้กลับมาอ่านอีกครั้งก็ได้เเรงบันดาลใจใหม่อีก...ทำให้ผมมีเป้าหมาย"ทางการลงทุน"เพิ่มขึ้นมาอีกข้อ...จากเดิมที่เงินส่วนใหญ่งอกจากเงินเก็บ คงต้องทำให้เงินงอกจากการ"ลงทุน"มากขึ้นให้ได้(...จากหลักการณ์ดอกเบี้ยทบต้น...)เเละตอกยำ้ให้เห็นเเนวทางการลงทุนที่ถูกต้อง ปลอดภัย ต้องVI
อันนี้ชอบมากครับ ขอบคุณอีกครั้งครับSkyforever เขียน:จากประสบการณ์ของผม ยามที่ผมโลภ ไม่รู้จักพอ หวังรวยเร็ว ผมจะขาดทุนอย่างหนัก แต่ยามที่ผมรู้จักพอ ไม่หวังรวยเร็ว กลับมีกำไรมากกว่าที่คาด มันเป็นสัจธรรมสำหรับชีวิตผม ผมเรียนรู้ว่าในตลาดหุ้น จิตใจสำคัญกว่าความรู้มากยิ่งนัก
ชนะเพราะไม่คิดเอาชนะ กำไรเพราะไม่โลภ ลงทุนอย่างมีความสุขเพราะจิตใจอยู่เหนืออารมณ์ตลาด
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
"ทรัพย์ศฤงคารที่ได้มาอย่างเร่งร้อนจะยอบแยบลง แต่บุคคลที่ส่ำสมทีละเล็กละน้อยจะได้เพิ่มพูนขึ้น" สุภาษิต 13:11
-
- Verified User
- โพสต์: 50
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เพื่อนหาเงิน 1 ล้านบาทแรกในชิวิตอย่างไรบ้างครับ
โพสต์ที่ 30
กดLikeให้ 100 ครั้งครับSkyforever เขียน: จากประสบการณ์ของผม ยามที่ผมโลภ ไม่รู้จักพอ หวังรวยเร็ว ผมจะขาดทุนอย่างหนัก แต่ยามที่ผมรู้จักพอ ไม่หวังรวยเร็ว กลับมีกำไรมากกว่าที่คาด มันเป็นสัจธรรมสำหรับชีวิตผม ผมเรียนรู้ว่าในตลาดหุ้น จิตใจสำคัญกว่าความรู้มากยิ่งนัก
Inner peace. Stay calm, Stay invest.