เรื่องแปลกๆ ของ S&P และ "ความปราชัย" ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องแปลกๆ ของ S&P และ "ความปราชัย" ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์
โพสต์ที่ 1
โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช
http://www.ClubVI.com
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อำลาปี 2011 ด้วยตัวเลขแปลกๆ กล่าวคือ ในวันทำการสุดท้าย “ดัชนี S&P” ปิดตัวลง ณ จุดที่แทบจะ “ไม่เปลี่ยนแปลง” จากเมื่อปี 2010 หรือหนึ่งปีก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ณ เวลาปิดตลาดของวันที่ 30 ธ.ค. 2011 ดัชนี S&P อยู่ที่ 1257.60 จุด ในขณะที่ในวันและเวลาเดียวกันของปี 2010 ดัชนีปิดที่ 1257.64 จุด จึงเท่ากับว่าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา S&P ลดลงเพียง 0.04 จุด หรือ 0.003% ซึ่งในทางเทคนิคแล้วถือว่าแทบจะ “ไม่เปลี่ยนแปลง” เลย
ครั้งล่าสุดที่ S&P จบปีแบบ “ไม่เปลี่ยนแปลง” ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 65 ปีก่อน ในปี 1947 ที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้ (ไม่มีตัวเลขแน่ชัด) รองลงมาคือในปี 1970 ที่ดัชนีปรับตัวขึ้น 0.1% จากปีก่อนหน้า
จุดที่น่าสนใจก็คือ แม้ S&P จะไม่เปลี่ยนแปลงเลยในปีนี้ แต่ก็ยังชนะ “เบิร์คไชร์ แฮธาเวย์” ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ โดยหุ้น Class A ของ BRK สิ้นสุดปีด้วยราคา 114,755 ดอลล่าร์ต่อหุ้น ลดลง 4.7% จากราคาปิดในปี 2010 ในขณะที่หุ้น Class B ลดลง 4.8%
การที่ S&P ชนะเบิร์คไชร์ในครั้งนี้ เป็นการชนะครั้งที่สองในรอบสามปี และทำให้ในรอบสิบปีที่ผ่านมา สถิติของทั้งสองฝ่ายเสมอกันอยู่ที่ “5 ต่อ 5” คือ S&P ชนะ 5 ครั้ง และ BRK ชนะ 5 ครั้ง โดย S&P เพิ่งมาตีเสมอได้ในปีล่าสุดนี้เอง
ลองคิดดูเล่นๆ ว่า สมมุติ VI ชาวไทยอย่างเราๆ มีเงินมากพอสมควร และเข้าไปซื้อหุ้นเบิร์คไชร์ แฮธาเวย์ เมื่อปี 2001 สักหนึ่งหุ้น พอถึงวันนี้ เงินของเราก็แทบจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากไปกว่าการเอาเงินจำนวนเดียวกัน เฉลี่ยซื้อหุ้น Market Cap ใหญ่ที่สุด 500 ตัวแรกของตลาดสหรัฐฯ แต่อย่างใด
เห็นไหมครับว่าการ “อยู่กับปู่” ไม่อาจการันตีความสำเร็จได้ ถ้าจะให้ชัวร์ เอาหลักของปู่บัฟฟ์มาใช้เลือกหุ้นเองดีกว่าครับ
http://clubvi.com/2012/01/03/sp/
http://www.ClubVI.com
พุทธทาสภิกขุ : ถ้าคุณอยากรู้เรื่องอะไร คุณจงตั้งต้นศึกษาเหมือนอย่างว่า เราจะไปเป็นครูเขาในเรื่องนั้น เรียนให้มากในเรื่องนั้น แล้วคุณจะรู้เรื่องนั้น ดีจนพอ..ดีจนเกินพอ
พุทธทาสภิกขุ : ถ้าคุณอยากรู้เรื่องอะไร คุณจงตั้งต้นศึกษาเหมือนอย่างว่า เราจะไปเป็นครูเขาในเรื่องนั้น เรียนให้มากในเรื่องนั้น แล้วคุณจะรู้เรื่องนั้น ดีจนพอ..ดีจนเกินพอ
- vim
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2770
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องแปลกๆ ของ S&P และ "ความปราชัย" ของ วอร์เรน บัฟเฟตต
โพสต์ที่ 2
ที่มาของรูปและตัวเลขครับ http://www.cnbc.com/id/45828487
อย่าถูกตัวเลขจำนวนแพ้-ชนะ หลอกครับ ให้วัดที่จำนวนการเติบโตจริง
สิบปีล่าสุด BRK-A โตขึ้นเป็น 1.5 เท่า หรือปีละ 4% ขณะที่ S&P โตขึ้นเป็น 1.1 เท่า หรือปีละแค่ 1%
อย่าถูกตัวเลขจำนวนแพ้-ชนะ หลอกครับ ให้วัดที่จำนวนการเติบโตจริง
สิบปีล่าสุด BRK-A โตขึ้นเป็น 1.5 เท่า หรือปีละ 4% ขณะที่ S&P โตขึ้นเป็น 1.1 เท่า หรือปีละแค่ 1%
Vi IMrovised
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องแปลกๆ ของ S&P และ "ความปราชัย" ของ วอร์เรน บัฟเฟตต
โพสต์ที่ 3
เห็นด้วยครับvim เขียน: อย่าถูกตัวเลขจำนวนแพ้-ชนะ หลอกครับ ให้วัดที่จำนวนการเติบโตจริง
สิบปีล่าสุด BRK-A โตขึ้นเป็น 1.5 เท่า หรือปีละ 4% ขณะที่ S&P โตขึ้นเป็น 1.1 เท่า หรือปีละแค่ 1%
http://www.ClubVI.com
พุทธทาสภิกขุ : ถ้าคุณอยากรู้เรื่องอะไร คุณจงตั้งต้นศึกษาเหมือนอย่างว่า เราจะไปเป็นครูเขาในเรื่องนั้น เรียนให้มากในเรื่องนั้น แล้วคุณจะรู้เรื่องนั้น ดีจนพอ..ดีจนเกินพอ
พุทธทาสภิกขุ : ถ้าคุณอยากรู้เรื่องอะไร คุณจงตั้งต้นศึกษาเหมือนอย่างว่า เราจะไปเป็นครูเขาในเรื่องนั้น เรียนให้มากในเรื่องนั้น แล้วคุณจะรู้เรื่องนั้น ดีจนพอ..ดีจนเกินพอ
-
- Verified User
- โพสต์: 235
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องแปลกๆ ของ S&P และ "ความปราชัย" ของ วอร์เรน บัฟเฟตต
โพสต์ที่ 4
การมองที่ราคา ที่ขึ้นลง จนเราเห็นแค่ เขียวและแดง มันไม่ได้เป็นตัวยืนยันความสำเร็จนะครับ เพราะในบางเวลา ราคาก็ถูกบิดเบือนไปจากมูลค่าที่แท้จริงไปเช่นกัน อย่างที่ rep บนว่าไว้ครับ
- VI Wannabe
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1014
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องแปลกๆ ของ S&P และ "ความปราชัย" ของ วอร์เรน บัฟเฟตต
โพสต์ที่ 5
แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวนี่อยากจะเลิกอ่าน web นี้ไปเลยคิดแบบนี้ได้ไงฟระ
ลองคิดดูเล่นๆ ว่า สมมุติ VI ชาวไทยอย่างเราๆ มีเงินมากพอสมควร และเข้าไปซื้อหุ้นเบิร์คไชร์ แฮธาเวย์ เมื่อปี 2001 สักหนึ่งหุ้น พอถึงวันนี้ เงินของเราก็แทบจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากไปกว่าการเอาเงินจำนวนเดียวกัน เฉลี่ยซื้อหุ้น Market Cap ใหญ่ที่สุด 500 ตัวแรกของตลาดสหรัฐฯ แต่อย่างใด
1) จำนวนครั้งที่ชนะไม่เกี่ยวกับผลตอบแทนที่ได้ ชนะ มา 99 ครั้ง แพ้ครั้งเดียวก็หมดตัวได้ and vice versa
2) แล้วเวลาเทียบ S&P นี่จะให้ แฟร์ต้องคิดรวม dividend ด้วยนะครับเพราะไอ้ BRK นี่เค้าเอา dividend มา reinvest นะ
ลองคิดดูเล่นๆ ว่า สมมุติ VI ชาวไทยอย่างเราๆ มีเงินมากพอสมควร และเข้าไปซื้อหุ้นเบิร์คไชร์ แฮธาเวย์ เมื่อปี 2001 สักหนึ่งหุ้น พอถึงวันนี้ เงินของเราก็แทบจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากไปกว่าการเอาเงินจำนวนเดียวกัน เฉลี่ยซื้อหุ้น Market Cap ใหญ่ที่สุด 500 ตัวแรกของตลาดสหรัฐฯ แต่อย่างใด
1) จำนวนครั้งที่ชนะไม่เกี่ยวกับผลตอบแทนที่ได้ ชนะ มา 99 ครั้ง แพ้ครั้งเดียวก็หมดตัวได้ and vice versa
2) แล้วเวลาเทียบ S&P นี่จะให้ แฟร์ต้องคิดรวม dividend ด้วยนะครับเพราะไอ้ BRK นี่เค้าเอา dividend มา reinvest นะ
"Attempt to be fearful when others are greedy and to be greedy only when others are fearful"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
"It's far better to buy a wonderful company at a fair price than a fair company at a wonderful price"
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องแปลกๆ ของ S&P และ "ความปราชัย" ของ วอร์เรน บัฟเฟตต
โพสต์ที่ 6
เราได้กำไร ก็เพราะราคาหุ้นขึ้นและสีเขียวๆไม่ใช่เหรอครับ
ความสามารถไม่ว่าจะอย่างไรท้ายที่สุดก็วัดกันที่ตัวเลข...ปีนี้บัฟเฟตแพ้ตลาดจริงๆ
...แต่แค่ปีเดียวบอกอะไรไม่ได้หรอกครับ
อย่างเมื่อปี 2008 กองทุนของ john paulson(ขนาดราวกึ่งหนึ่งของเบิร์กไชย์)
ยังสามารถมีกำไรท่ามกลางเศรษฐกิจโลกพินาศได้ถึง +37%...ตอนนั้นดังมาก
แต่มาปีล่าสุด 2011 ติดลบซัดไปเกือบ -40%
ความสำเร็จวัดกันด้วยตัวเลข...แต่ต้องวัดกันหลายๆปีครับ
ความสามารถไม่ว่าจะอย่างไรท้ายที่สุดก็วัดกันที่ตัวเลข...ปีนี้บัฟเฟตแพ้ตลาดจริงๆ
...แต่แค่ปีเดียวบอกอะไรไม่ได้หรอกครับ
อย่างเมื่อปี 2008 กองทุนของ john paulson(ขนาดราวกึ่งหนึ่งของเบิร์กไชย์)
ยังสามารถมีกำไรท่ามกลางเศรษฐกิจโลกพินาศได้ถึง +37%...ตอนนั้นดังมาก
แต่มาปีล่าสุด 2011 ติดลบซัดไปเกือบ -40%
ความสำเร็จวัดกันด้วยตัวเลข...แต่ต้องวัดกันหลายๆปีครับ
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องแปลกๆ ของ S&P และ "ความปราชัย" ของ วอร์เรน บัฟเฟตต
โพสต์ที่ 7
เอ่อ .. ใจเย็นนะครับพี่VI Wannabe เขียน:แค่ประโยคนี้ประโยคเดียวนี่อยากจะเลิกอ่าน web นี้ไปเลยคิดแบบนี้ได้ไงฟระ
ลองคิดดูเล่นๆ ว่า สมมุติ VI ชาวไทยอย่างเราๆ มีเงินมากพอสมควร และเข้าไปซื้อหุ้นเบิร์คไชร์ แฮธาเวย์ เมื่อปี 2001 สักหนึ่งหุ้น พอถึงวันนี้ เงินของเราก็แทบจะไม่ได้เพิ่มขึ้นมากไปกว่าการเอาเงินจำนวนเดียวกัน เฉลี่ยซื้อหุ้น Market Cap ใหญ่ที่สุด 500 ตัวแรกของตลาดสหรัฐฯ แต่อย่างใด
1) จำนวนครั้งที่ชนะไม่เกี่ยวกับผลตอบแทนที่ได้ ชนะ มา 99 ครั้ง แพ้ครั้งเดียวก็หมดตัวได้ and vice versa
2) แล้วเวลาเทียบ S&P นี่จะให้ แฟร์ต้องคิดรวม dividend ด้วยนะครับเพราะไอ้ BRK นี่เค้าเอา dividend มา reinvest นะ
เจตนาของผม ที่ยกข่าวนี้มาเรียบเรียง ก็เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า .. วิธีที่ดีที่สุดของการลงทุนแบบ VI คือการประยุกต์หลักของปู่บัฟฟ์มาใช้ลงทุนเอง ซึ่งน่าจะดีกว่าไปซื้อหุ้นของแกโดยตรง เท่านั้นเองครับ
ขอบคุณมากสำหรับความเห็นนะครับ ^^
http://www.ClubVI.com
พุทธทาสภิกขุ : ถ้าคุณอยากรู้เรื่องอะไร คุณจงตั้งต้นศึกษาเหมือนอย่างว่า เราจะไปเป็นครูเขาในเรื่องนั้น เรียนให้มากในเรื่องนั้น แล้วคุณจะรู้เรื่องนั้น ดีจนพอ..ดีจนเกินพอ
พุทธทาสภิกขุ : ถ้าคุณอยากรู้เรื่องอะไร คุณจงตั้งต้นศึกษาเหมือนอย่างว่า เราจะไปเป็นครูเขาในเรื่องนั้น เรียนให้มากในเรื่องนั้น แล้วคุณจะรู้เรื่องนั้น ดีจนพอ..ดีจนเกินพอ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เรื่องแปลกๆ ของ S&P และ "ความปราชัย" ของ วอร์เรน บัฟเฟตต
โพสต์ที่ 9
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
-
- Verified User
- โพสต์: 2690
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องแปลกๆ ของ S&P และ "ความปราชัย" ของ วอร์เรน บัฟเฟตต
โพสต์ที่ 10
รายงานประจำปี 2007 BerkshirehathawayI should emphasize that we do not measure the progress of our investments by what their market prices do during any given year.
Rather, we evaluate their performance by the two methods we apply to the businesses we own.
1) The first test is improvement in earnings, with our making due allowance for industry conditions.
2) The second test, more subjective, is whether their moats a metaphor for the superiorities they possess that make life difficult for their competitors have widened during the year.
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f ... =wide+moat
- marcus147
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องแปลกๆ ของ S&P และ "ความปราชัย" ของ วอร์เรน บัฟเฟตต
โพสต์ที่ 11
มองอีกมุมนะครับ
การที่ Berkshirehathaway ติดลบ ในปีนี้ แต่อาจจะมีการซื้อหุ้นที่ undervalue ไว้แล้วก็ได้
ในปีถัดๆไปอาจจะกำไรสูงเพราะการซื้อหุ้นในปีนี้
ฉะนั้นผมว่าที่เนื้อข่าวเขียนมาให้อ่าน มันเทียบกันไม่ได้ทั้งหมดหรอกครับ
การที่ Berkshirehathaway ติดลบ ในปีนี้ แต่อาจจะมีการซื้อหุ้นที่ undervalue ไว้แล้วก็ได้
ในปีถัดๆไปอาจจะกำไรสูงเพราะการซื้อหุ้นในปีนี้
ฉะนั้นผมว่าที่เนื้อข่าวเขียนมาให้อ่าน มันเทียบกันไม่ได้ทั้งหมดหรอกครับ
การลงทุนในตลาดหุ้น ไม่มีทางลัด อยากเก่ง ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
My Blog : http://marcus147.wordpress.com/
- murder_doll
- Verified User
- โพสต์: 1644
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เรื่องแปลกๆ ของ S&P และ "ความปราชัย" ของ วอร์เรน บัฟเฟตต
โพสต์ที่ 12
สงคราวยังไม่ทันสงบ อย่าเพิ่งรีบนับศพทหาร
เงินทองเป็นของมายา
ข้าวปลาคือของจริง
ข้าวปลาคือของจริง