Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
sylph
Verified User
โพสต์: 353
ผู้ติดตาม: 0

Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ถ้า kk = 30
Phatra 27.50
pornchal
Verified User
โพสต์: 1070
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

แค่ไม่มี phatra มีแต่ kk ราคาก้อขึ้น ๆ ลง ๆ ตามตลาด
The One
sylph
Verified User
โพสต์: 353
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ไม่มีการ dilute effect?
sylph
Verified User
โพสต์: 353
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เท่าที่อ่านดูมันคล้ายการเพิ่มทุน

กรณีนี้มันคือ การ kk tender offer phatra แค่นั้นเลยหรอครับ

แล้ว ผถห ใหญ่ของ ภัทระ ไปไหน

หรือได้เงินแล้วไม่มีหุ้นอีกต่อไป หรือ swap ได้หุ้น kk เพิ่ม

ถ้าได้เพิ่มจะเพิ่มจากใคร
BLACK-NINJA
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 599
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

sylph เขียน:เท่าที่อ่านดูมันคล้ายการเพิ่มทุน

กรณีนี้มันคือ การ kk tender offer phatra แค่นั้นเลยหรอครับ

แล้ว ผถห ใหญ่ของ ภัทระ ไปไหน

หรือได้เงินแล้วไม่มีหุ้นอีกต่อไป หรือ swap ได้หุ้น kk เพิ่ม

ถ้าได้เพิ่มจะเพิ่มจากใคร
อยากให้ k.sylph ลองอ่านในห้อง PHATRA จะได้ข้อมูลในเชิงลึกและทำให้เห็นภาพได้ชัดขึ้นหลังควบรวมครับ โดยเฉพาะข้อมูลที่PHATRAได้แจ้งตลาดในวันประกาศควบรวมกิจการครับ
sylph
Verified User
โพสต์: 353
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ผมอ่านมาละครับ จากเวป set

ยังไม่สามารถตีเป็นตัวเลขได้ว่าเท่าไร

มันไม่ใช่การเพิ่มทุน ธรรมดา เป็นการ swap หุ้น งง ครับ มือใหม่มาก

มีใีรจะบอกได้มั้ยว่าเท่าไร ถ้า kk,phatra ราคาดังกล่าว

Error 3% ก้อพอๆหวนะครับ อยากรู้ว่ามีผลเกี่ยวกับ dilute effect หรือไม่
chowbe76
Verified User
โพสต์: 1980
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ไม่ได้มาตอบเพราะขี้เกียจพิมพ์ครับ
KKจะเพิ่มทุนครับ
ผู้ถือหุ้นใหญ่ของภัทร ถ้าไม่อยากแลกหุ้น ก็ถือต่อไปได้ในส่วน25%ที่เหลือไงครับ

ไม่รู้ผมตอบได้เคลียร์มั้ยนะ แต่ที่เห็นคือ คำถามก็ไม่ค่อยชัดเจน
และถ้าอยากได้คำตอบที่ชัดเจนจริงๆ แนะนำให้โทรไปที่IRของบริษัทเลยครับ
The mother of all evils is speculation, leverage debt. Bottom line, is borrowing to the hilt. And I hate to tell you this, but it's a bankrupt business model. It won't work. It's systemic, malignant, and it's global, like cancer.
imerlot
Verified User
โพสต์: 2690
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เคสนี้น่าสนใจ
เมื่อไม่มีคนตอบ..
ลองคำนวณ ตามข้อมูลที่ ประกาศดู เล่น.เป็นการฝึกฝน.ผิดถูกขออภัย..ล่วงหน้า
1. บ. พัด มีหุ้น 210ล้าน หุ้น แลกไ้ด้ เป็น หุ้น บ. เค 1:0.9135
สมมติว่า
บ. เคซื้อหุ้ บ. พัดได้หมด 100% เป็นเงินที่บ.เคต้องจ่ายเป็นหุ้น 0.9135x210ล้านหุ้น=193ล้านหุ้น
โดยชำระเป็น เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บ. เค
ราคาตลาดวันนี้ บ. เค 31.50x 193ล้านหุ้น=6,079ล้านบาท
Market Cap ของ บ. พัด วันนี้ 28.75x210=6,037ล้านบาท เท่ากับ ซื้อ ที่ราคา เท่ากับราคาตลาดเลย

2. บ. เค ก่อนซื้อ มี 634 ล้านหุ้น
หลังซื้อ เพิ่มทุน อีก 193ล้านหุ้น รวมเป็น 827ล้านหุ้น
ถ้าสมมติ ราคาตลาดยังเท่าเดิม ที่ 31.50 จะได้ Market Cap บ. เคใหม่ ที่ 827x31.50=26050ล้าน
จากเดิม วันนี้ อยู่ที่ 31.50x634=19971 หรือเพิ่มขึ้น 26050-19971=6079 เท่ากับ Marketcap ของ บ พัด พอดี

3. กำไร บ. เค 3q/54=2176ล้าน ; บ. พัด 3q/54=730ล้าน
รวมเป็น บ.เคใหม่ =กำไรรวม = 2906ล้าน

งบปี บ.เค ออก แล้วช 2858 แต่ บ. พัดยัง ขอ อนุญาติ ใช้บรรยัดไตรยางไปก่อน 730*4/3=973
รวมกำไรปี =ประมาณ 2858+973=3831

4. Market Cap ใหม่ 26050 ล้าน หารด้วยกำไร บ. เคใหม่ =3831
ได้ P/E =6.79 เท่า
เดิม บ. พัด P/E =5.52 เท่า
เดิม บ. เค P/E=7.20เท่า

ประมาณนี้..มิมีความเห็น ใดๆ แค่ แสดง วิธี คำนวณ ดู เล่น ซึ่ง อาจจะไม่ถูกต้อง ก็ได้ โปรดตรวจสอบ อีกครั้งๆ..
imerlot
Verified User
โพสต์: 2690
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

related reading:..

http://www.dbbnews.com/index.php/stockm ... %3E-2.html
KK+PHATRA ดีลใหญ่ส่งท้ายปี ส่งผล KK ปึ้กตามสูตร 1+1 > 2
แบงก์เกียรตินาคิน จัดหนักส่งท้ายปี ฮุบ บล.ภัทร สวอปแลกหุ้นในอัตรา 0.9135 ต่อ 1 จากนั้นนำหุ้น PHATRA ออกจากตลาดในไตรมาส 3/2555 ปิดฉากโบรกเกอร์แห่งตำนานไปอีกหนึ่ง ขณะที่เกียรตินาคินจะกลายเป็นสถาบันที่ความมั่นคงแข็งแกร่งขึ้น พร้อมที่จะแข่งขันในยุทธจักรการเงินที่จะมีความเข้มข้นขึ้นในปี 2555 ซึ่งเป็นปีที่มีการเปิดการแข่งขันเสรีและเขตการแข่งขันเสรีอาเซียน นักวิเคราะห์ ประเมินหุ้นราคาพื้นฐาน KK มีแก๊ปให้ลงทุนได้อยู่

หลังจากที่หุ้นธนาคารเกียรตินาคิน หรือ KK ปรับตัวขึ้นเอาๆ เมื่อวันพฤหัสที่ 8 ธันวาคม 2554 พร้อมๆ กับกระแสข่าวที่ว่าจะมีดีลใหญ่เกิดขึ้น กับบริษัทแห่งนี้ และมีกระแสข่าวที่สับสนมากมาย เช่นจะมีการควบกับธนาคารขนาดกลางอย่างธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีความเป็นไปได้เช่นกันเนื่องจากธนาคารกรุงศรีอยุธยากำลังมีการปรับโครง สร้าง และการบริหารการจัดการครั้งใหญ่ และรีแบรนด์แบงก์มาตั้งแต่กลางปี 2554 ขณะที่ ธนาคารเกียรตินาคิน เป็นธนาคารขนาดเล็ก ที่ยังมีการทำธุรกรรมไม่ครบถ้วน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจัดหาพันธมิตร คู่เสริมมาสร้างความแข็งแกร่งให้กับกิจการ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ทั้งในแง่ของเกียรตินาคินเป็นฝ่ายถูกเทคโอเวอร์ หรือเกียรตินาคินเป็นฝ่ายไปเทคโอเวอร์ จับคู่กับสถาบันกาเงินอื่นๆ

นักลงทุนในตลาดหุ้นได้รับการยืนยันถึงดีลที่จะเกิดขึ้นกับธนาคารเกียรตินา คินในเช้าวันที่ 9 ธันวาคม หลังจากที่การทำรายงานส่งหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ดำเนินการแขวนป้ายพักการซื้อขายชั่วคราว หรือ SP หุ้น KK เพราะกำลังจะมีการประกาศข่าวการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ พร้อมกับเชิญบรรดานักวิเคราะห์เพื่อเข้ารับฟังสถานการณ์รวมทั้งข้อมูลต่างๆ เพื่อประเมินหุ้น KK เป็นการยืนยันความมั่นใจของฝ่าบริหารและหุ้นใหญ่ ว่าดีลนี้ของเขาดีจริง จึงกล้าที่จะนำเสนอข้อมูลกับนักข่าวและนักวิเคราะห์เพื่อเผยแพร่ทันที
ทั้งนี้คู่ดีลที่กลายเป็นข่าวใหญ่ว่า เกียรตินคินจะจับคู่ด้วย ก็เผยออกมาว่าคือ บริษัท ทุนภัทร หรือ PHATRA
ธนาคารเกียรตินาคิน แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ได้ทำเอ็มโอยูกับ บริษัท ทุนภัทร เพื่อการร่วมกิจการระหว่างกัน ในการดำเนินธุรกิจทางด้านการเงิน อันประกอบไปด้วยธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจสนับสนุนอื่นๆ ร่วมกันเพื่อประโยชน์สูงสุดร่วมกันของธนาคารและทุนภัทร โดยธนาคารจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของทุนภัทรเพื่อเพิกถอนหุ้นของทุน ภัทรออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ เมื่อซื้อหุ้น 75%
โดยธนาคารเกียรตินาคินจะเพิ่มทุนจดทะเบียน 200 ล้านหุ้นเพื่อรองรับการสวอป หรือแลกหุ้น บริษัท ทุนภัทร 0.9135 ต่อ 1
ทั้งนี้ RPIC Pte Ltd. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของทุนภัทร และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของธนาคารได้มีการลงนามในสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นเพื่อ ตกลงร่วมกันในการร่วมกิจการ
ขณะที่บริษัทในเครือคือ บล.ภัทร ที่เป็นคู่สัญญาความร่วมมือทางธุรกิจจากเมอร์ริล ลินช์ อินเตอร์เนชั่นแนลอินคอร์ปอเรตเต็ด ได้รับความยินยอมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการถือหุ้นของ บล.ภัทร
“หลังการควบรวมธนาคารและทุนภัทรตกลงให้การบริหารจัดการด้านธุรกิจสถาบันการ เงินและหลักทรัพย์เป็นไปตามกรอบหลักการการดำเนินธุรกิจร่วมกันในส่วนของ ธุรกิจสถาบันการเงิน ธุรกิจหลักทรัพย์ทั้งที่เป็นธุรกิจที่มีการดำเนินการอยู่ในปัจจุบันและ ธุรกิจใหม่ในธุรกิจสถาบันการเงินหรือธุรกิจหลักทรัพย์ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางการเงินโดยใช้ศักยภาพเชิงบวกของทั้งสองบริษัทดำเนิน ธุรกิจโดยมุ่งถึงประโยชน์สูงสุดขององค์กรโดยรวมโดยไม่จำกัดว่าการดำเนิน ธุรกิจดังกล่าวจะต้องอยู่ภายใต้บริษัทใดในกลุ่มบริษัทที่ดำเนินกิจการร่วม กัน
ทั้งนี้ การบริหารจัดการธุรกิจด้านสถาบันการเงินและธุรกิจด้านหลักทรัพย์จะเป็นการ ดำเนินการร่วมกันระหว่างธนาคารและทุนภัทรโดยการบริหารจัดการด้านสถาบันการ เงินจะอยู่ภายใต้การดำเนินการของคณะกรรมการที่เป็นตัวแทนจากกรรมการของทั้ง สองบริษัท
ทั้งนี้มีการประเมินว่า การควบรวมดังกล่าวจะเสริมส่งให้ ธนาคารเกียรตินาคินเข้มแข็งขึ้น โดยมีสินทรัพย์ให้การบริการเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 200,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้การทำธุรกรรมบริการทางการเงินขยับขยายได้มากกว่าที่เป็นมา
นักวิเคราะห์จาก บล.กสิกรไทย ระบุว่า การร่วมกิจการระหว่าง KK กับ PAHTRA ทั้งสองบริษัทจะรับรู้รายได้มากขึ้นตามสัดส่วนที่ถือหุ้น โดยผลการดำเนินงาน 9 เดือน ปี2554 ของ KK ที่ 2,468 ล้านบาท และ PHATRA ที่ 734 ล้านบาท (คิดเป็น 30% ของกำไรของ KK) ซึ่งการร่วมกิจการทำให้ธนาคารมีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าสถาบันในธุรกิจหลักทรัพย์ (ปัจจุบัน KK ถือหุ้นใน บล.เกียรตินาคิน ที่มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 1.4% ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร มีส่วนแบ่งการตลาด 4.78%)
ขณะที่ PHATRA ได้ประโยชน์จากฐานเงินทุนแข็งแกร่งขึ้นจากการได้รับสนับสนุนทางการเงินจาก ธนาคาร ทำให้สามารถออกผลิตภัณฑ์การเงินมากขึ้น
“จากการควบรวมนี้ เราอาจมีการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 54-55 ของ KK และ PHATRA เพิ่มขึ้น และปรับมุมมองการลงทุนที่ดีขึ้นจากเดิม”
ด้านนักวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เห็นว่าหลังการควบรวมกิจการกับ PHATRA โดยการเพิ่มทุนเพื่อแลกหุ้น KK และหลังการควบรวมจะทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Tender offer) ของ PHATRA โดย KK จะชำระค่าตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นของ PHATRA ที่ตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าว เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของธนาคาร จำนวน 192.12 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 30.3% ของทุนเดิม
“การควบรวมนี้ทำให้เกียรตินาคินแข็งแกร่งขึ้น คือ 1 + 1 มากกว่า 2 โดยเกียรตินาคินจะเป็น Investment Bank ที่มีธุรกิจหลักทรัพย์แข็งแกร่ง รองรับเปิดเสรีการเงินฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อการรวมธุรกิจของ KK และ PHATRA ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างต้นแบบทางธุรกิจอีกหนึ่งรูปแบบของวงการสถาบันการเงิน ของไทย เนื่องจากเป็นการจับคู่ทางธุรกิจที่ค่อนข้างลงตัว
จากการเติมเต็มทางธุรกิจที่เป็นจุดด้อยของแต่ละฝ่าย ให้สามารถเพิ่มศักยภาพการหารายได้และกำไรในระยะยาว จากการดำเนินธุรกิจร่วมกันโดยอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ของบุคลากรแต่ละ ฝ่ายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ และการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละฝ่ายที่ครอบคลุมและ ครบวงจรมากขึ้น โดย KK จะมีสถานภาพเป็น Investment Bank ที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องของโครงสร้างรายได้ที่จะกระจายตัวมากขึ้น และพร้อมสำหรับรับมือกับการแข่งขันที่จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเมื่อมีการเปิด เสรีทางการเงินของ เขตการค้าอาเชียน (AEC) ในปี 2558
นอกจากนี้จะเห็นว่าผลการดำเนินงานของ PHATRA ที่เริ่มสร้างรายได้เต็มที่ให้กับ KK จะทำให้เห็นการเติบโตของ EPS ถึง 21.3% ซึ่งฝ่ายวิจัยยังไม่รวมผลบวกจาก Synergy ทางธุรกิจที่คาดว่าจะเกิดขึ้นแต่อย่างใด”

สำหรับแรงขายทำกำไรภายหลังจากที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวสูงขึ้นทยอยรับปัจจัย บวกการควบรวมดังกล่าวมาในระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งระยะเวลากว่าจะถึงช่วงที่ทำการ swap หุ้นกับ PHATRA อย่างน้อยอีก 7-8 เดือน จะเป็นปัจจัยที่กดดันราคาหุ้น KK ไปอย่างต่อเนื่อง สำหรับนักลงทุนระยะยาว ฝ่ายวิจัยยังคงแนะนำให้ถือครองไว้เพื่อรับเงินปันผลจากคาดการณ์ Div yields ที่ยังสูงเฉลี่ยถึง 8-9% p.a. (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) ทั้งนี้ ภายหลังปรับปรุงประมาณการปี 2555-2556 ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่ม Fair value ปี 2555 ของ KK ขึ้นเป็น 44.86 บาท อิง PBV 1.38 เท่า ภายใต้คาดการณ์ ROE ระยะยาวที่ 17% จากเดิม 37.76 เท่า อิง PBV 1 เท่า ยังมี upside ราว 22% จากราคาปัจจุบัน
ด้าน บล.ทรีนีตี้ ให้นิยามการควบรวมกิจการระหว่าง เกียรตินาคินกับ ทุนภัทร ว่า เป็น WIN-WIN SOLUTION คือสมประโยชน์กันทุกฝ่าย
sylph
Verified User
โพสต์: 353
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

จากที่อ่านมา ใน pdf

การเพิ่มทุนเคสนี้ มีผลกับ dilute effect ด้วย ราวๆ-20%

เดี๋ยวมาแปะให้อ่านพุ่งนี้ครับ

ตอนนี้เล่นจาก tablet ไม่สะดวก
sylph
Verified User
โพสต์: 353
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

คุณ chowbe76

ประเด็นผมอยากทราบเกี่ยวกับ ราคา
ว่าจะมีเกิดการ dilution effect จากการเพิ่มทุนหรือไม่

ถ้าเกิดจะประมาณเท่าไร

ไม่รู้ว่าถามเคลียร์มั้ยนะครับ ขออภัยมา ณ ที่นี้
imerlot
Verified User
โพสต์: 2690
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ก.
2. บ. เค ก่อนซื้อ มี 634 ล้านหุ้น
หลังซื้อ เพิ่มทุน อีก 193ล้านหุ้น รวมเป็น 827ล้านหุ้น
ทุนเพิ่ม193/634=.3044 หรือ 30% เพิ่ม

ข.
3. กำไร บ. เค 3q/54=2176ล้าน ; บ. พัด 3q/54=730ล้าน
รวมเป็น บ.เคใหม่ =กำไรรวม = 2906ล้าน
730/2176 กำไรเพิ่มด้วย ทันที .03354 หรือ 33.54%

ไม่มี ความเห็น เหมือนเดิม..
imerlot
Verified User
โพสต์: 2690
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

การควบรวมกิจการครั้งนี้แม้ว่าจะมี Dilution Effect ต่อผู้ถือหุ้น KK ประมาณ 30.2% แต่คำนวนกำไรที่จะเพิ่มขึ้นจากการรวม PHATRA เข้ามาด้วยแล้วโดยใช้ข้อมูลย้อนหลัง 4 ไตรมาส (Pro-Forma) จะทำให้กำไรของ KK เพิ่มขึ้นถึง 43% และยังไม่รวม Synergy ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นเราจึงมองว่าการเพิ่มทุนดังกล่าวแทบจะไม่เกิด Dilution ต่อ EPS ของผู้ถือหุ้น KK แต่อย่างใด นอกจากนี้จะทำให้ประสิทธิภาพการทำกำไร ROE ของ KK สูงขึ้นอีกด้วย
source:
http://kelive.kimeng.co.th/kelive/userv ... ntId=10721
sylph
Verified User
โพสต์: 353
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

การคํานวนอัตรา Swap ทําที่ราคาตลาด
การคํานวนอตั รา Swap นน้ั ทําทร่ี าคาตลาด โดย KK เทยี บเทา่ P/BV ณ สน้ิ ไตรมาส 3 2554 ท่ี 1.04 เทา่ และPHATRAท่ี2.10เทา่ โดยการทําPro-formaพบวา่ KK(+PHATRA)จะมีMarketCapเพม่ิ ขน้ึ ราว 7.3 พนั ลา้ นบาทสู่ 30.6 พนั ลา้ นบาท, สนิ ทรพั ยเ์ พม่ิ ขน้ึ ราว 6% สู่ 196.0 พนั ลา้ นบาทขณะกําไรสทุ ธิ 12 เดอื นยอ้ นหลงั เพม่ิ ขน้ึ 43% สู่ 3.82 พนั ลา้ นบาท ดา้ น CAR เพม่ิ ขน้ึ สู่ 17.2% (Tier-1 อยทู่ ่ี 16.6%), ROE สู่ 15% ขณะทม่ี ี Dilution 23.2%

Add file ไม่ได้ ขอค้างไว้อีกวัน
AS965
Verified User
โพสต์: 328
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ผมติดอยู่ 36 บาท คงต้องรอปันผล และ ควบรวม
imerlot
Verified User
โพสต์: 2690
ผู้ติดตาม: 0

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

งบปี บ.เค ออก แล้วช 2858 แต่ บ. พัดยัง ขอ อนุญาติ ใช้บรรยัดไตรยางไปก่อน 730*4/3=973
รวมกำไรปี =ประมาณ 2858+973=3831
http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... anguage=th



[/quote]

งบปี บ.เค ออก แล้วช 2858 แต่ บ. พัดวันนี้ ที่ 834=2858+834=3692
4. Market Cap ใหม่ 26050 ล้าน หารด้วยกำไร บ. เคใหม่ =3831
แก้เป็น 26050/3692=ได้P/E 7.05เท่า
torpongpak
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2603
ผู้ติดตาม: 1

Re: Kk phatra หลังทำ tender ราคาจะเป็นเท่าไรครับ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ไม่เห็นจะผิดตรงไหนเลย....จะบอกว่าเรื่องการเเปลงหุ้นทั้งสองตัวเเละการประเมินราคาที่เหมาะสม...ต้องมาอ่านที่กระทู้นี้...ดีสุดเเล้ว...ไปไล่อ่านในห้องphatraหรือkkก็ไม่มีบอกไว้ชัดเจน

...ถ้ารู้สึกว่าพี่เค้าผิดที่postราคาก็ลองpmไปเตือนพี่เค้าก็ได้หรือเเจ้งMod...ผมไม่เห็นว่ามีความจำเป็นจะต้องขู่ลงBoardกันเลย...มัน"กะเรียน"ไปหน่อยครับ :D

มีความสุขกับการลงทุนกันดีกว่าครับ :D
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
โพสต์โพสต์