ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
-
- Verified User
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 1
การจะเป็นนักลงทุนมืออาชีพได้นั้น หลังจากได้ศึกษา วิธีการลงทุนที่ถูกต้อง แล้วยังต้องมีทุน ที่สูง หรือ การลงมือปฏิบัติ อย่างจริงจังและผลตอบแทนย้อนหลัง ไม่ต่ำกว่า 3 ปี อาจจะต้องเริ่มที่ 5ปีด้วย ซ้ำ ถึงปีละ อย่างน้อย 2 digit ขึ้นไป หรืออย่างน้อย 21 % ต่อปีำนำมาจากเกณฑ์ บัฟเฟต์ จึงถือ ว่าจะเป็นนักลงทุนมืออาชีพได้
ก็เลยอยากจะสอบถามเพื่อนๆ ว่า การเป็นนักลงทุนมืออาชีพ
1.มูลค่า port เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะว่าเป็นเหมือนรายได้ประจำที่มาจากปันผล นำมาใช้จ่าย ประมาณ เท่าไร
2.ผลตอบแทนย้อนหลัง 3-5 ปี คงที่สม่ำเสมอ น่าจะอยู่สัก 21-23 % จะได้ไหม ---->( 30 % ยิ่งดี )
เช่นหาก ลงทุน มาแล้ว 5 ปี 1-2 ปี เจ๊าๆ เจ๊งๆ คงไม่เป็นไร 3-5 3 ปี ได้21 % ต่อปี เราคงคาดหมายว่าปีที่ 6 น่าจะได้อย่างต่ำ 15 % ต่อปี ก็คงไม่ยาก หาก ลงทุนมา 5 ปี port 7หลักปลาย อีก สัก 5 แสน จะถึง 8 หลัก ผลตอบแทน 21-23 % ต่อเนี่อง อาจจะมาเป็นนักลงทุนอย่างเดียวเป็นไปได้ไหม ครับ
ก็เลยอยากจะสอบถามเพื่อนๆ ว่า การเป็นนักลงทุนมืออาชีพ
1.มูลค่า port เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะว่าเป็นเหมือนรายได้ประจำที่มาจากปันผล นำมาใช้จ่าย ประมาณ เท่าไร
2.ผลตอบแทนย้อนหลัง 3-5 ปี คงที่สม่ำเสมอ น่าจะอยู่สัก 21-23 % จะได้ไหม ---->( 30 % ยิ่งดี )
เช่นหาก ลงทุน มาแล้ว 5 ปี 1-2 ปี เจ๊าๆ เจ๊งๆ คงไม่เป็นไร 3-5 3 ปี ได้21 % ต่อปี เราคงคาดหมายว่าปีที่ 6 น่าจะได้อย่างต่ำ 15 % ต่อปี ก็คงไม่ยาก หาก ลงทุนมา 5 ปี port 7หลักปลาย อีก สัก 5 แสน จะถึง 8 หลัก ผลตอบแทน 21-23 % ต่อเนี่อง อาจจะมาเป็นนักลงทุนอย่างเดียวเป็นไปได้ไหม ครับ
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 2
อ่านดูแล้วคล้ายเป็นประโยคบอกเล่า
ผมว่าพอร์ตเกือบ 10 ล้าน และทำได้ 2x% ต่อปี นั้นเพียงพอสำหรับคำว่ามืออาชีพ
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าอยากออกมาทำอย่างเดียวจริงหรือไม่ ถึงเวลาถามใจตัวเอง
ผมว่าพอร์ตเกือบ 10 ล้าน และทำได้ 2x% ต่อปี นั้นเพียงพอสำหรับคำว่ามืออาชีพ
ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วว่าอยากออกมาทำอย่างเดียวจริงหรือไม่ ถึงเวลาถามใจตัวเอง
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
-
- Verified User
- โพสต์: 1211
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 3
ความต้องการและความจำเป็นของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
บางนอยู่อย่างสมถะ โสด ไม่มีพันธะ อาจต้องการมูลค่าพอร์ตแค่ 3-5 ล้าน ก็คิดว่าตัวเองพอแล้ว ที่เหลือถ้าทำให้งอกเงยเติบโตขึ้นได้ถือเป็นโบนัส ไม่มีอะไรกดดัน
ส่วนบางคนมีพันธะและความรับผิดชอบสูงกว่า อาจต้องการพอร์ตที่สูงขึ้น บางคน 100 ล้านอาจยังไม่พอก็เป็นได้
เรื่องแบบนี้จึงอยู่ที่บริบทของนักลงทุนแต่ละคน ไม่มีกฎเกณฑ์หรือมาตรฐานอะไรที่ตายตัวนัก
ส่วนผลตอบแทน โดยส่วนตัวผมคิดว่าถ้าอยู่ในวงการซัก 10-15 ปี แล้วทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 20% ทบต้นต่อปี แปลว่าคุณมีของดีแล้วล่ะครับ
ถ้าทำได้จริง อย่าลืมสอนผมบ้างนะครับ...
บางนอยู่อย่างสมถะ โสด ไม่มีพันธะ อาจต้องการมูลค่าพอร์ตแค่ 3-5 ล้าน ก็คิดว่าตัวเองพอแล้ว ที่เหลือถ้าทำให้งอกเงยเติบโตขึ้นได้ถือเป็นโบนัส ไม่มีอะไรกดดัน
ส่วนบางคนมีพันธะและความรับผิดชอบสูงกว่า อาจต้องการพอร์ตที่สูงขึ้น บางคน 100 ล้านอาจยังไม่พอก็เป็นได้
เรื่องแบบนี้จึงอยู่ที่บริบทของนักลงทุนแต่ละคน ไม่มีกฎเกณฑ์หรือมาตรฐานอะไรที่ตายตัวนัก
ส่วนผลตอบแทน โดยส่วนตัวผมคิดว่าถ้าอยู่ในวงการซัก 10-15 ปี แล้วทำผลตอบแทนได้เฉลี่ย 20% ทบต้นต่อปี แปลว่าคุณมีของดีแล้วล่ะครับ
ถ้าทำได้จริง อย่าลืมสอนผมบ้างนะครับ...
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 4
1. ลองคิดค่าใช้จ่ายดูว่า แต่ละเดือนต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ แล้วเอา 250 ไปคูณก็น่าจะเป็นขนาดพอร์ตที่ได้ปันผล 4% ก็น่าจะอยู่ได้ ถ้าอายุยังน้อยอยู่คือยังไม่มีครอบครัว ซี่งในอนาคตเราอาจต้องมี ก็เผื่อคิดไปเลยว่า ถ้ามีครอบครัว สมมติ เมียหนึ่ง ลูกสอง ค่ากินอยู่เท่าไหร่ ค่าเล่าเรียนเท่าไหร่ สมมติค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลพ่อแม่เราและพ่อแม่แฟน จะเป็นเท่าไหร่ อยากใช้ชีวิตแบบไหน อยากให้ครอบครัวใช้ชีวิตแบบไหน แล้วค่อยเอามาคูณ 250 เพราะเวลาตัวคนเดียวค่าใช้จ่ายน่าจะน้อยกว่าตอนที่เรามีอายุแล้ว หากรีบออกไปตอนนี้ เดี๋ยวแก่ตัวไปภาระเยอะขึ้นจะหาเงินไม่พอ
ถ้าได้ประมาณนี้แล้ว แสดงว่าเงินเรามากพอที่จะกินปันผลเป็นหลักโดยไม่ต้องไปรบกวนหุ้นในพอร์ตได้ครับและก็ปล่อยให้มูลค่าพอร์ตเราโตไปครับ
2. ถ้าทำข้อหนึ่งได้ ผลตอบแทนไม่ต้องมากก็ได้ครับ ทำไปเรื่อยๆ จนวันตายได้เฉลี่ย 10-15% ก็พอกินและก็เก่งแล้ว ปันผลเราก็ควรได้มากกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆ ในอัตราที่สูงกว่าเงินเฟ้อเช่นกันครับ ที่สำคัญคือมีเงินให้ได้ตามข้อหนึ่งก่อน
ถ้าได้ประมาณนี้แล้ว แสดงว่าเงินเรามากพอที่จะกินปันผลเป็นหลักโดยไม่ต้องไปรบกวนหุ้นในพอร์ตได้ครับและก็ปล่อยให้มูลค่าพอร์ตเราโตไปครับ
2. ถ้าทำข้อหนึ่งได้ ผลตอบแทนไม่ต้องมากก็ได้ครับ ทำไปเรื่อยๆ จนวันตายได้เฉลี่ย 10-15% ก็พอกินและก็เก่งแล้ว ปันผลเราก็ควรได้มากกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆ ในอัตราที่สูงกว่าเงินเฟ้อเช่นกันครับ ที่สำคัญคือมีเงินให้ได้ตามข้อหนึ่งก่อน
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
- Tibular
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 5
ต้องตอบคำถามตัวเองก่อนนะคับ ว่ารักการลงทุนเป็นชีวิตจิตใจจริงๆหรือเปล่า
พร้อมที่จะอยู่กับมันไปตลอดชีวิต และนี่เป็นสิ่งที่เราทำได้ดี เราถนัดจริงๆ
เรารักการอ่าน อ่านได้เร็ว เข้าใจเศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ บัญชี เข้าใจอารมณ์ ความคิดตัวเอง
อย่างมีเหตุผล สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ตัดสินใจได้ถูกต้อง ถูกที่ ถูกเวลา
เหมือนวอเรน ที่เค้าแทบจะเต้นมาทำงาน คือมีความสุขในการวิเคราะห์บริษัทที่จะลงทุน
ไม่ใช่เพราะอยากได้เงินเยอะๆมากๆเร็วๆ แต่มันเป็นสิ่งที่เค้าต้องทำ เพราะเค้าชอบทำ
และทำได้ดี
คนรอบข้างจะมองอย่างไร เรื่องไปต่างประเทศ ขอวีซ่า เรื่องเครดิต
การกรอกเอกสารต่างๆ จะทำอย่างไร ถ้ามีครอบครัว มีลูก ลูกจะบอกครู และเพื่อนว่า
พ่อแม่มีอาชีพอะไร ทำอะไร ถ้าเกิดการเปรียบเทียบ คุณจะบอกลูกว่าอย่างไร
ลำพังตัวเราอาจจะไม่ใส่ใจ แต่ถ้าเราโดนบอกว่า ไม่ทำงาน เล่นหุ้น โลภ หน้าเงิน
เราจะมีความรู้สึกอย่างไร ต้นทุนทางสังคมมันมีนะคับ อย่าไปมองคนที่ประสบความสำเร็จ
แล้วเป็นที่รู้จักเป็นแบบอย่าง บางทีมันอาจไม่เหมาะกับเรา
อย่าลืมว่าบ้านเราไม่มาสามารถจัดตั้งกองทุนแล้วบริหารได้เหมือนทางอเมริกา
บัฟเฟตตั้งกองทุน เหมือนทำธุรกิจ เป็นผู้ประกอบการ มีเครดิต เพราะได้รับการยอมรับ
แต่นักลงทุนอาชีพบ้านเราตอนนี้ก็ทำงานเป็นผู้จัดการกองทุน ที่ได้รับการยอมรับ
ว่าเป็นอาชีพด้านการเงิน มีตำแหน่ง หน้าที่ การยอมรับในสังคม
ส่วนนักลงทุนอาชีพอิสระบ้านเราก็ต้องลงทุนเอง เป็นเสรีชน เรารับได้ไหม
ถ้าทำได้อย่าเลือกเลยคับ ทำมันไปทั้งสองอย่าง งานประจำก็เป็นมืออาชีพไปเลย
อีกด้านนึงเราก็เป็นนักลงทุนมืออาชีพได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องออกมาเป็น
นักลงทุนมืออาชีพอย่างเดียว เรามีความสามารถทำได้คับ
ถ้าให้ดี Do what you love, ถ้าไม่ได้ให้ Love what you do. คับ
พร้อมที่จะอยู่กับมันไปตลอดชีวิต และนี่เป็นสิ่งที่เราทำได้ดี เราถนัดจริงๆ
เรารักการอ่าน อ่านได้เร็ว เข้าใจเศรษฐศาสตร์ ธุรกิจ บัญชี เข้าใจอารมณ์ ความคิดตัวเอง
อย่างมีเหตุผล สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ตัดสินใจได้ถูกต้อง ถูกที่ ถูกเวลา
เหมือนวอเรน ที่เค้าแทบจะเต้นมาทำงาน คือมีความสุขในการวิเคราะห์บริษัทที่จะลงทุน
ไม่ใช่เพราะอยากได้เงินเยอะๆมากๆเร็วๆ แต่มันเป็นสิ่งที่เค้าต้องทำ เพราะเค้าชอบทำ
และทำได้ดี
คนรอบข้างจะมองอย่างไร เรื่องไปต่างประเทศ ขอวีซ่า เรื่องเครดิต
การกรอกเอกสารต่างๆ จะทำอย่างไร ถ้ามีครอบครัว มีลูก ลูกจะบอกครู และเพื่อนว่า
พ่อแม่มีอาชีพอะไร ทำอะไร ถ้าเกิดการเปรียบเทียบ คุณจะบอกลูกว่าอย่างไร
ลำพังตัวเราอาจจะไม่ใส่ใจ แต่ถ้าเราโดนบอกว่า ไม่ทำงาน เล่นหุ้น โลภ หน้าเงิน
เราจะมีความรู้สึกอย่างไร ต้นทุนทางสังคมมันมีนะคับ อย่าไปมองคนที่ประสบความสำเร็จ
แล้วเป็นที่รู้จักเป็นแบบอย่าง บางทีมันอาจไม่เหมาะกับเรา
อย่าลืมว่าบ้านเราไม่มาสามารถจัดตั้งกองทุนแล้วบริหารได้เหมือนทางอเมริกา
บัฟเฟตตั้งกองทุน เหมือนทำธุรกิจ เป็นผู้ประกอบการ มีเครดิต เพราะได้รับการยอมรับ
แต่นักลงทุนอาชีพบ้านเราตอนนี้ก็ทำงานเป็นผู้จัดการกองทุน ที่ได้รับการยอมรับ
ว่าเป็นอาชีพด้านการเงิน มีตำแหน่ง หน้าที่ การยอมรับในสังคม
ส่วนนักลงทุนอาชีพอิสระบ้านเราก็ต้องลงทุนเอง เป็นเสรีชน เรารับได้ไหม
ถ้าทำได้อย่าเลือกเลยคับ ทำมันไปทั้งสองอย่าง งานประจำก็เป็นมืออาชีพไปเลย
อีกด้านนึงเราก็เป็นนักลงทุนมืออาชีพได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นเลยที่จะต้องออกมาเป็น
นักลงทุนมืออาชีพอย่างเดียว เรามีความสามารถทำได้คับ
ถ้าให้ดี Do what you love, ถ้าไม่ได้ให้ Love what you do. คับ
- appendix
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 339
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 6
ในแง่ความมั่งคั่งทางการเงิน นอกจากจะต้อง 20%++ ทบต้นต่อเนื่องสัก 3-5 ปีแล้ว ผลตอบแทนที่ทำได้แต่ละปีควรจะต้องเทียบกับ set ด้วยนะครับซึ่งควรจะต้องชนะอย่างน้อยๆ 5% ขึ้นไป เพราะ set ยังไม่รวมปันผล ถ้าให้ดีต้องอยู่ในระดับ 10% ไม่อย่างนั้นซื้อ ETF และทำงานประจำไปก่อนอาจจะดีกว่า สะสมประสบการณ์จนกระทั้งสามารถชนะ set ได้อย่างต่อเนื่องแล้วค่อยขยับขยาย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 7
ประสบการณ์ 3-5 ปี เหรอครับ....
ต้องถามด้วยว่า ในประสบการณ์แค่ 3-5 ปีนี้ ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจมาสักครั้งหรือยัง
เพราะผมคิดว่า เวลา 3-5 ปี น้อยเกินไป ถ้ายังไม่ผ่านความผันผวนของตลาด ช่วงตลาดตกหนักๆ หรือวิกฤติเศรษฐกิจ
เพื่อนผมที่เข้าตลาดหุ้น ตอนช่วงตลาดหุ้นทยานจาก400จุด ตอนวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ลงทุนแนว VI ภายใน2ปี พอร์ต + กว่า300 เปอร์เซนต์
พอมาปีนี้ ตลาดไม่ไปไหน พอร์ตมันก็ไม่ไปไหน
เพื่อนผมอีกคน ขาดทุน แพ้ตลาดด้วยซ้ำจากตอนตลาดขาลงตอนปลายปีที่แล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านั้นช่วงตลาดขึ้นก็กำไรเป็นกอบเป็นกำ
ทั้งๆที่นี่เป็นแค่ตลาด sideway เองนะครับ นักลงทุนรุ่นใหม่ที่เข้าหลังวิกฤติแฮมเบอเกอร์ยังไม่เจอตลาดหมีจริงๆเลย เจอแค่ตลาดกระทิง หุ้นเน่าก็ทะยานขึ้นได้
ผมคิดว่า ประสบการณ์ในการลงทุน ที่จะทำให้พอร์ตอยู่รอดและเติบโตต่อไป ไม่ว่าจะเป็นช่วงตลาดหมี หรือวิกฤติเศรษฐกิจ สำคัญมาก จำนวนปี อาจจะไม่สำคัญเท่าการเอาตัวรอดผ่านตลาดหมีหรือวิกฤติมาแล้ว
ไม่อย่างงั้นคุณจะถูกภาพที่ตลาดทะยานขึ้น แล้วคุณก็ได้กำไรดี หลอกตาเอา คิดว่าสามารถออกมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวได้แล้ว
ต้องถามด้วยว่า ในประสบการณ์แค่ 3-5 ปีนี้ ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจมาสักครั้งหรือยัง
เพราะผมคิดว่า เวลา 3-5 ปี น้อยเกินไป ถ้ายังไม่ผ่านความผันผวนของตลาด ช่วงตลาดตกหนักๆ หรือวิกฤติเศรษฐกิจ
เพื่อนผมที่เข้าตลาดหุ้น ตอนช่วงตลาดหุ้นทยานจาก400จุด ตอนวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ลงทุนแนว VI ภายใน2ปี พอร์ต + กว่า300 เปอร์เซนต์
พอมาปีนี้ ตลาดไม่ไปไหน พอร์ตมันก็ไม่ไปไหน
เพื่อนผมอีกคน ขาดทุน แพ้ตลาดด้วยซ้ำจากตอนตลาดขาลงตอนปลายปีที่แล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านั้นช่วงตลาดขึ้นก็กำไรเป็นกอบเป็นกำ
ทั้งๆที่นี่เป็นแค่ตลาด sideway เองนะครับ นักลงทุนรุ่นใหม่ที่เข้าหลังวิกฤติแฮมเบอเกอร์ยังไม่เจอตลาดหมีจริงๆเลย เจอแค่ตลาดกระทิง หุ้นเน่าก็ทะยานขึ้นได้
ผมคิดว่า ประสบการณ์ในการลงทุน ที่จะทำให้พอร์ตอยู่รอดและเติบโตต่อไป ไม่ว่าจะเป็นช่วงตลาดหมี หรือวิกฤติเศรษฐกิจ สำคัญมาก จำนวนปี อาจจะไม่สำคัญเท่าการเอาตัวรอดผ่านตลาดหมีหรือวิกฤติมาแล้ว
ไม่อย่างงั้นคุณจะถูกภาพที่ตลาดทะยานขึ้น แล้วคุณก็ได้กำไรดี หลอกตาเอา คิดว่าสามารถออกมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวได้แล้ว
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง
- คนขายของ
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 792
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 9
ในความเห็นผมนะครับ (อย่าเพิ่งเชื่อนะครับ) การเลือกที่จะเป็น Full Time Investor นั้นหลักๆ ขึ้นอยู่กับ "ใจ" เป็นสำคัญ
พอร์ทเท่าไหร่ มากน้อยขนาดไหน ประสพการณ์กี่ปี เป็นได้หมด ถ้า"ใจ"เราเด่นชัดมากว่า การลงทุน เป็นวิถีชีวิตของเราจริงๆ
อดีตที่รุ่งเรืองไม่ได้เป็นตัวยืนยันว่าอนาคตจะรุ่งโรจน์ แต่"ใจ" ที่เด็ดเดี่ยวไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทั้งหลาย จะเป็นพลังขับดันให้เราประสพความสำเร็จ
ตอน Steve Jobs สร้าง Apple ตอน Bill Gates เลือกที่จะ drop จาก Harvard และมาสร้างธุรกิจเอง เขามีใจที่เด่นชัดว่าทางนี้แน่นอนคือชีวิตเขา
ปัญหาของคนทั่วไปคือว่า หา"ใจ"ไม่เจอ แล้วจะหาเจอได้อย่างไรล่ะ เรื่องนี้พุทธศาสนาช่วยท่านได้ ขอเชิญชวนให้ทุกๆท่านลองปฏิบัติดู
โดยการรักษาศีลห้า ก่อนนอน สวดมนต์ นั่งสมาธิ ไม่ต้องนานมากก็ได้ตอนเริ่มต้น แต่ทำให้สม่ำเสมอนะครับ ทำให้เหมือน พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก
ขึ้นทุกวัน ตกทุกวัน ไม่มีข้ออ้าง ไม่มีข้อแก้ตัว วันนี้เหนื่อยไม่ทำ วันนี้ง่วงไม่ทำ ไม่มี
แล้วสักวันผมเชื่อว่าท่านจะได้พบ"ใจ"ของท่านเอง ซึ่งเขาจะบอกท่านเองว่า ทางนี้ใช่ทางของท่านหรือไม่
พอร์ทเท่าไหร่ มากน้อยขนาดไหน ประสพการณ์กี่ปี เป็นได้หมด ถ้า"ใจ"เราเด่นชัดมากว่า การลงทุน เป็นวิถีชีวิตของเราจริงๆ
อดีตที่รุ่งเรืองไม่ได้เป็นตัวยืนยันว่าอนาคตจะรุ่งโรจน์ แต่"ใจ" ที่เด็ดเดี่ยวไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทั้งหลาย จะเป็นพลังขับดันให้เราประสพความสำเร็จ
ตอน Steve Jobs สร้าง Apple ตอน Bill Gates เลือกที่จะ drop จาก Harvard และมาสร้างธุรกิจเอง เขามีใจที่เด่นชัดว่าทางนี้แน่นอนคือชีวิตเขา
ปัญหาของคนทั่วไปคือว่า หา"ใจ"ไม่เจอ แล้วจะหาเจอได้อย่างไรล่ะ เรื่องนี้พุทธศาสนาช่วยท่านได้ ขอเชิญชวนให้ทุกๆท่านลองปฏิบัติดู
โดยการรักษาศีลห้า ก่อนนอน สวดมนต์ นั่งสมาธิ ไม่ต้องนานมากก็ได้ตอนเริ่มต้น แต่ทำให้สม่ำเสมอนะครับ ทำให้เหมือน พระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก
ขึ้นทุกวัน ตกทุกวัน ไม่มีข้ออ้าง ไม่มีข้อแก้ตัว วันนี้เหนื่อยไม่ทำ วันนี้ง่วงไม่ทำ ไม่มี
แล้วสักวันผมเชื่อว่าท่านจะได้พบ"ใจ"ของท่านเอง ซึ่งเขาจะบอกท่านเองว่า ทางนี้ใช่ทางของท่านหรือไม่
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 10
พอร์ทเริ่มใหญ่จะลงทุนยากขึ้นครับตัวเลือกดีๆก็ marketcap เล็กเกินไปตีแตกไม่ได้อีก
ถ้ามองในกรณีเลวร้ายผลตอบแทนต่ำแล้วยังมีปัจจัย 4 อยู่ได้ไม่เดือนร้อนก็ออกมาลงทุนเต็มเวลาได้ครับ
ถ้ามองในกรณีเลวร้ายผลตอบแทนต่ำแล้วยังมีปัจจัย 4 อยู่ได้ไม่เดือนร้อนก็ออกมาลงทุนเต็มเวลาได้ครับ
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
- Energy_eak
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 925
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 11
1.ขนาดของพอร์ท หรือ 2.ผลตอบแทน
เอามาใส่ในเครื่องปั่นน้ำผลไม้...แล้วชิมดูว่าอร่อยไหม(ลงตัว/พอใจป่าว)...
ส่วนตัวมองว่า...ดวง เป็นข้อ3ที่นักลงทุนต้องมี เพียงแต่สามารถทำให้ต้องใช้น้อยลงได้จากความรู้ความสามารถที่ต้องฝึกฝน. โดยเฉพาะมืออาชีพน่าจะต้องทำงานหนัก/อ่านงบ/ประชุม/visitตลอดทั้งปีแน่ๆเลย...อย่างช่วงนี้คงต้องไปoppตลอด..เหนื่อยน่าดู(แค่คิด)
เอามาใส่ในเครื่องปั่นน้ำผลไม้...แล้วชิมดูว่าอร่อยไหม(ลงตัว/พอใจป่าว)...
ส่วนตัวมองว่า...ดวง เป็นข้อ3ที่นักลงทุนต้องมี เพียงแต่สามารถทำให้ต้องใช้น้อยลงได้จากความรู้ความสามารถที่ต้องฝึกฝน. โดยเฉพาะมืออาชีพน่าจะต้องทำงานหนัก/อ่านงบ/ประชุม/visitตลอดทั้งปีแน่ๆเลย...อย่างช่วงนี้คงต้องไปoppตลอด..เหนื่อยน่าดู(แค่คิด)
-
- Verified User
- โพสต์: 89
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 12
อยากเสริมที่ว่านอกจาก “ใจ” ตัวเอง ต้องเด็ดเดี่ยวแล้ว ต้องได้ ”ใจ“ จากคนในครอบครัวด้วยนะครับ ไม่งั้นจะเหนื่อย “ใจ“ เพราะเส้นทางนี้ทั้งเหงาทั้งเดียวดาย ส่วนตัวผมไม่เคยสนใจดัชนีใดๆทั้งสิ้น เนื่องจากลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท แต่มีสิ่งที่ยึดไว้ในใจคือ 15% ห้ามขาดทุน และดูแลรักษาสุขภาพให้ยืนยาวที่สุด
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 13
ก่อนจะเป็นนักลงทุนอาชีพหรือเต็มเวลา ต้องเข้าใจอย่างแรกก่อนก็คือความสุขของตัวคุณเองอยู่ที่ไหน เพราะแรกๆตอนเงินน้อยๆก็ต้องการเงินกันทั้งนั้นแต่พอประสบความสำเร็จระดับนึง ตัวเงินส่วนเกินไม่ได้เพิ่มความสุขให้เราแต่จะเป็นทุกมากกว่าสำหรับบางคน ฉะนั้นทำในสิ่งที่ตัวเองชอบก่อนดีกว่าแล้วให้เรื่องลงทุนเป็นเรื่องเสริม นะครับ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เงินแต่เป็นเวลาต่างหากเพราะมันไม่สามารถสร้างใหม่ได้
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
- simplelife
- Verified User
- โพสต์: 756
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 14
พอร์ตถ้าผลตอบแทนต่อปี แค่พอกินพอใช้ ก็เท่ากับว่ากินอยู่บนเงินเก่า
ถ้าตั้ง สมมติฐานว่า เงินเฟ้อเริ่มที่ 3.5% ต่อปี แค่เวลา 20 ปีข้างหน้า เงินหนึ่งล้านบาทจะมีกำลังซื้อเหลือเท่ากับ 5 แสนบาทของปัจจุบัน ถ้าแค่มีพอร์ตพอกินไปวันๆ ถ้าคุณอายุน้อยๆอย่าง 30-40 ปี อายุเวลาหลังเกษียณน่าจะเกิน 40 ปี เท่ากับว่าเงิน 1 ล้านวันนี้จะเท่ากับ 2.5 แสนเท่านั้น ภายในช่วงชีวิตของคุณ
คุณภาพชีวิต ของการมีเงินใช้น้อยลงเรื่อยๆ คงจะไม่ค่อยดีนักสำหรับตอนแก่ ถ้าจะเกษียณจริงๆแบบไม่มีรายได้ พอร์ตของคุณหลังหักค่าใช้จ่ายของคุณแล้ว ควรจะโตขึ้น อย่างน้อยๆปีละ 4-5% แค่ให้ทันกับเงินเฟ้อ และจริงๆควรจะโตประมาณ 10% หลังกินใช้แล้ว เพื่อเผื่อค่าใช้จ่ายใหญ่ๆในอนาคตครับ
เอาง่ายๆ ถ้าคุณอยากใช้เดือนละ 50,000 วันนี้ ปีละ 600,000 ควรจะมีพอร์ตที่ 10 ล้านขึ้นไป พอร์ตโตปีละ 15% ครับ หลังจากใช้จ่าย พอร์ตโตปีละ 9% นี่คือคุณไม่ต้องซื้อบ้านซื้อรถแพงๆในช่วงชีวิตคุณแล้วนะครับ
ขอให้โชคดีครับ
ถ้าตั้ง สมมติฐานว่า เงินเฟ้อเริ่มที่ 3.5% ต่อปี แค่เวลา 20 ปีข้างหน้า เงินหนึ่งล้านบาทจะมีกำลังซื้อเหลือเท่ากับ 5 แสนบาทของปัจจุบัน ถ้าแค่มีพอร์ตพอกินไปวันๆ ถ้าคุณอายุน้อยๆอย่าง 30-40 ปี อายุเวลาหลังเกษียณน่าจะเกิน 40 ปี เท่ากับว่าเงิน 1 ล้านวันนี้จะเท่ากับ 2.5 แสนเท่านั้น ภายในช่วงชีวิตของคุณ
คุณภาพชีวิต ของการมีเงินใช้น้อยลงเรื่อยๆ คงจะไม่ค่อยดีนักสำหรับตอนแก่ ถ้าจะเกษียณจริงๆแบบไม่มีรายได้ พอร์ตของคุณหลังหักค่าใช้จ่ายของคุณแล้ว ควรจะโตขึ้น อย่างน้อยๆปีละ 4-5% แค่ให้ทันกับเงินเฟ้อ และจริงๆควรจะโตประมาณ 10% หลังกินใช้แล้ว เพื่อเผื่อค่าใช้จ่ายใหญ่ๆในอนาคตครับ
เอาง่ายๆ ถ้าคุณอยากใช้เดือนละ 50,000 วันนี้ ปีละ 600,000 ควรจะมีพอร์ตที่ 10 ล้านขึ้นไป พอร์ตโตปีละ 15% ครับ หลังจากใช้จ่าย พอร์ตโตปีละ 9% นี่คือคุณไม่ต้องซื้อบ้านซื้อรถแพงๆในช่วงชีวิตคุณแล้วนะครับ
ขอให้โชคดีครับ
"I believe what I said yesterday. I don't know what I said, but I know what I think... and I assume it's what I said." -- Donald Rumsfeld
-
- Verified User
- โพสต์: 61
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 16
เห็นด้วยครับSumotin เขียน:ก่อนจะเป็นนักลงทุนอาชีพหรือเต็มเวลา ต้องเข้าใจอย่างแรกก่อนก็คือความสุขของตัวคุณเองอยู่ที่ไหน เพราะแรกๆตอนเงินน้อยๆก็ต้องการเงินกันทั้งนั้นแต่พอประสบความสำเร็จระดับนึง ตัวเงินส่วนเกินไม่ได้เพิ่มความสุขให้เราแต่จะเป็นทุกมากกว่าสำหรับบางคน ฉะนั้นทำในสิ่งที่ตัวเองชอบก่อนดีกว่าแล้วให้เรื่องลงทุนเป็นเรื่องเสริม นะครับ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เงินแต่เป็นเวลาต่างหากเพราะมันไม่สามารถสร้างใหม่ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 17
ต้องขอบคุณพี่มากครับsakkaphan เขียน:ประสบการณ์ 3-5 ปี เหรอครับ....
ต้องถามด้วยว่า ในประสบการณ์แค่ 3-5 ปีนี้ ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจมาสักครั้งหรือยัง
เพราะผมคิดว่า เวลา 3-5 ปี น้อยเกินไป ถ้ายังไม่ผ่านความผันผวนของตลาด ช่วงตลาดตกหนักๆ หรือวิกฤติเศรษฐกิจ
เพื่อนผมที่เข้าตลาดหุ้น ตอนช่วงตลาดหุ้นทยานจาก400จุด ตอนวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ลงทุนแนว VI ภายใน2ปี พอร์ต + กว่า300 เปอร์เซนต์
พอมาปีนี้ ตลาดไม่ไปไหน พอร์ตมันก็ไม่ไปไหน
เพื่อนผมอีกคน ขาดทุน แพ้ตลาดด้วยซ้ำจากตอนตลาดขาลงตอนปลายปีที่แล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านั้นช่วงตลาดขึ้นก็กำไรเป็นกอบเป็นกำ
ทั้งๆที่นี่เป็นแค่ตลาด sideway เองนะครับ นักลงทุนรุ่นใหม่ที่เข้าหลังวิกฤติแฮมเบอเกอร์ยังไม่เจอตลาดหมีจริงๆเลย เจอแค่ตลาดกระทิง หุ้นเน่าก็ทะยานขึ้นได้
ผมคิดว่า ประสบการณ์ในการลงทุน ที่จะทำให้พอร์ตอยู่รอดและเติบโตต่อไป ไม่ว่าจะเป็นช่วงตลาดหมี หรือวิกฤติเศรษฐกิจ สำคัญมาก จำนวนปี อาจจะไม่สำคัญเท่าการเอาตัวรอดผ่านตลาดหมีหรือวิกฤติมาแล้ว
ไม่อย่างงั้นคุณจะถูกภาพที่ตลาดทะยานขึ้น แล้วคุณก็ได้กำไรดี หลอกตาเอา คิดว่าสามารถออกมาเป็นนักลงทุนเต็มตัวได้แล้ว
ผมเองก็ผ่าน วิกิต แฮมเบอร์เกอร์ มาตอนนั้น port - 70 % เกือบตาย แต่เอาตัวรอดมาได้หลังวิกิต port + 55 % คิดทบต้น ได้ 12 % คับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 411
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนเต็มเวลา ของนักลงทุนมืออาชีพ
โพสต์ที่ 18
ลงทุนเต็มเวลา กับ นักลงทุนมืออาชีพ
2คํานี้ในความรู้สึกผม มันparadoxกัน
นักลงทุนที่ประสพความสําเร็จอย่างมากแล้ว
เอาเป็นว่าปันผลอย่างเดียวใช้ยังไงก็ไม่หมด
ปัญหาของคนเหล่านี้คือ มีเวลามากจนไม่รู้จะทําอะไร
เพราะคนเหล่านี้ลงทุนระยะยาวมาก
หน้าจอหุ้นดูอาทิตย์ละครั้งก็พอแล้ว
หนังสือหุ้นก็อ่านมาจนหมดแล้ว
งบการเงิน หุ้นที่สนใจดูมาเป็นสิบรอบแล้วจนขึ้นใจ
คนเหล่านี้แทบไม่ต้องใข้เวลาในการลงทุนเลย
ตัวอย่างเช่น อาจารย์ไพบูลย์
งานสอนหนังสือหรือพิธีกรทํารายได้ให้แกเท่าไหร่
เทียบกับพอร์ทหุ้นพันล้าน
หรืออาจารย์นิเวศน์เขียนหนังสือรับเชิญไปพูด
จะได้สักกี่บาทเทียบพอร์ท2พันล้าน
ที่เห็นชัดที่สุดคือคุณชิณณ์
ที่แกบอกว่าชีวิตของแกคือการเดินห้างทุกวัน
พวกที่ลงทุนเต็มเวลาจริงๆ
เฝ้าหน้าจอตลอดเวลา
อ่านหนังสือมากมาย
อ่านงบดุล 56-1อ่านข่าวรายวัน
จนรู้สึกว่าชีวิตยุ่งเป็นบ้าเลย
จริงๆแล้วที่ยุ่งมากอาจเป็นเพราะ
ฝีมือยังไม่ถึงขั้นมืออาชีพ
ฉะนั้นใครที่ลงทุนเต็มเวลาอยู่
อยากบอกว่าอดทนอีกหน่อย
เก่งกว่านี้คุณจะว่างมาก
ใครที่รู้สึกว่างๆแต่มีตังค์ใช้เยอะ
แสดงว่าคุณเป็นมืออาชีพแล้ว
ที่พูดนี่ไม่ใช่ผมว่างนะ
ชีวิตผมยุ่งสุดๆทั้งงานประจําทั้งดูหุ้น
แต่ในความฝันคิดถึงวันว่างๆอยู่ตลอดเวลา
2คํานี้ในความรู้สึกผม มันparadoxกัน
นักลงทุนที่ประสพความสําเร็จอย่างมากแล้ว
เอาเป็นว่าปันผลอย่างเดียวใช้ยังไงก็ไม่หมด
ปัญหาของคนเหล่านี้คือ มีเวลามากจนไม่รู้จะทําอะไร
เพราะคนเหล่านี้ลงทุนระยะยาวมาก
หน้าจอหุ้นดูอาทิตย์ละครั้งก็พอแล้ว
หนังสือหุ้นก็อ่านมาจนหมดแล้ว
งบการเงิน หุ้นที่สนใจดูมาเป็นสิบรอบแล้วจนขึ้นใจ
คนเหล่านี้แทบไม่ต้องใข้เวลาในการลงทุนเลย
ตัวอย่างเช่น อาจารย์ไพบูลย์
งานสอนหนังสือหรือพิธีกรทํารายได้ให้แกเท่าไหร่
เทียบกับพอร์ทหุ้นพันล้าน
หรืออาจารย์นิเวศน์เขียนหนังสือรับเชิญไปพูด
จะได้สักกี่บาทเทียบพอร์ท2พันล้าน
ที่เห็นชัดที่สุดคือคุณชิณณ์
ที่แกบอกว่าชีวิตของแกคือการเดินห้างทุกวัน
พวกที่ลงทุนเต็มเวลาจริงๆ
เฝ้าหน้าจอตลอดเวลา
อ่านหนังสือมากมาย
อ่านงบดุล 56-1อ่านข่าวรายวัน
จนรู้สึกว่าชีวิตยุ่งเป็นบ้าเลย
จริงๆแล้วที่ยุ่งมากอาจเป็นเพราะ
ฝีมือยังไม่ถึงขั้นมืออาชีพ
ฉะนั้นใครที่ลงทุนเต็มเวลาอยู่
อยากบอกว่าอดทนอีกหน่อย
เก่งกว่านี้คุณจะว่างมาก
ใครที่รู้สึกว่างๆแต่มีตังค์ใช้เยอะ
แสดงว่าคุณเป็นมืออาชีพแล้ว
ที่พูดนี่ไม่ใช่ผมว่างนะ
ชีวิตผมยุ่งสุดๆทั้งงานประจําทั้งดูหุ้น
แต่ในความฝันคิดถึงวันว่างๆอยู่ตลอดเวลา