ข่าว N-PARK
-
- Verified User
- โพสต์: 26
- ผู้ติดตาม: 0
ข่าว N-PARK
โพสต์ที่ 1
N-PARKขายหุ้น-สิทธิเรียกร้อง'เคมปิน สยาม'610 ล.ให้บ.ทุนลดาวัลย์
บมจ.แนเชอรัล พาร์ค(N-PARK)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการขายหุ้นสามัญบริษัท เคมปิน สยาม จำกัด (เคมปิน) และขายสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับจากเคมปิน ให้แก่บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด เป็นมูลค่ารวม 610,000,000 บาท
พร้อมทั้ง มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 60,430,920,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 120,861,840,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 60,430,920,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวมเป็น 60,430,920,000 บาทหุ้นสามัญจำนวน 60,430,920,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดสรรและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีชื่อปรากฏอยู่ในวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นโดยวิธีปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 23 มีนาคม 2555 ตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.02 บาท และกำหนดวันจองซื้อและรับชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 21 – 25 พฤษภาคม 2555 เวลา 9.00 น. – 15.30 น.
บริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ชำระหนี้เงินกู้ยืม และใช้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และโครงการอื่นๆ ของบริษัทต่อไปในอนาคต รวมทั้ง สำรองเผื่อหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากคดีความต่างๆ
บมจ.แนเชอรัล พาร์ค(N-PARK)เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการขายหุ้นสามัญบริษัท เคมปิน สยาม จำกัด (เคมปิน) และขายสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับจากเคมปิน ให้แก่บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด เป็นมูลค่ารวม 610,000,000 บาท
พร้อมทั้ง มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 60,430,920,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 120,861,840,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 60,430,920,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวมเป็น 60,430,920,000 บาทหุ้นสามัญจำนวน 60,430,920,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดสรรและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีชื่อปรากฏอยู่ในวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นโดยวิธีปิดสมุดทะเบียน ณ วันที่ 23 มีนาคม 2555 ตามสัดส่วนการถือหุ้น ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.02 บาท และกำหนดวันจองซื้อและรับชำระเงินค่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 21 – 25 พฤษภาคม 2555 เวลา 9.00 น. – 15.30 น.
บริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ชำระหนี้เงินกู้ยืม และใช้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน และโครงการอื่นๆ ของบริษัทต่อไปในอนาคต รวมทั้ง สำรองเผื่อหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากคดีความต่างๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 47266
- ผู้ติดตาม: 0
Re: N-PARK
โพสต์ที่ 2
เป็นหนี้แต่ชาติปางไหน ทำไมต้องไปเพิ่มทุนให้อีก เพราะเพิ่มทุนไม่รู้จักจบจักสิ้น ทุนจดทะเบียนเป็น 1 แสนล้านบาทเข้าไปแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: N-PARK
โพสต์ที่ 3
เอาเงินผู้ถือหุ้นไปรับกรรมในอดีตvizion เขียน: สำรองเผื่อหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากคดีความต่างๆ
รบกวนเอาไว้ใน 100 คน 100 หุ้นด้วยครับ ถึงม้นจะเน่ายังไงก็ยังมีมูลค่าอยู่
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์ที่ 5
*ตอนนี้มี หนี้สินหมุนเวียนอยู่ 1,600 ล้าน ตัวหลักๆที่ต้องเคลียร์คือ
***หนี้สินภายใต้สัญญาปรับโครงสร้างหนี้ 646 ล้านบาท
***ประมาณการหนี้สิน 724 ล้านบาท
*มีขาดทุนสะสม 8,300 ล้านบาท
ลองจิตนาการแบบเอาใจเจ้าของมาใส่ใจเราครับ
*ขายโรงแรมได้เงินมา 610 ล้าน
*เพิ่มทุน 60,000 ล้านหุ้น หุ้นละ 0.02 ถ้าขายได้หมดได้เงินมา 1,200 ล้าน
รวมได้เงินมา 1,810 ล้านบาท
เงินที่ได้ก็เอาไปใช้หนี้
ที่เหลือพัฒนาโครงการใหม่
ลดทุนจดทะเบียนล้างขาดทุนสะสม
เปลี่ยนชื่อบริษัท
เทรดกันสนุกสนาน
***หนี้สินภายใต้สัญญาปรับโครงสร้างหนี้ 646 ล้านบาท
***ประมาณการหนี้สิน 724 ล้านบาท
*มีขาดทุนสะสม 8,300 ล้านบาท
ลองจิตนาการแบบเอาใจเจ้าของมาใส่ใจเราครับ
*ขายโรงแรมได้เงินมา 610 ล้าน
*เพิ่มทุน 60,000 ล้านหุ้น หุ้นละ 0.02 ถ้าขายได้หมดได้เงินมา 1,200 ล้าน
รวมได้เงินมา 1,810 ล้านบาท
เงินที่ได้ก็เอาไปใช้หนี้
ที่เหลือพัฒนาโครงการใหม่
ลดทุนจดทะเบียนล้างขาดทุนสะสม
เปลี่ยนชื่อบริษัท
เทรดกันสนุกสนาน
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์ที่ 6
ขำๆครับ
หุ้น ทั้ง จอด-เกียร์ว่าง
N-PARK
หุ้น ทั้ง จอด-เกียร์ว่าง
N-PARK
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- ดำ
- Verified User
- โพสต์: 4366
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์ที่ 10
อุบายของคนทำ หุ้นมันแค่ 1 ตังค์ 2 ตังค์ อยู่แล้ว จะไดลูทไปไหนได้อีกครับ (ตลาดให้ซื้อขายกัน 0.005 บาทได้มั้ย) คงหวังว่าได้เงินมาก็ดี ยังไงก็ไม่มีอะไรเสียอยู่แล้วpicatos เขียน:สุดยอด เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1.2 แสนล้านบาท แต่ Market Cap หลักพันล้าน
หุ้นที่ราคาต่ำติดดิน แบบนี้ dilution effect น้อยมาก แปลกดี
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์ที่ 11
ที่มา n-park "รายการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์" link
8. ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทจากผลของรายการ :
บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสินทรัพย์ในครั้งนี้ประมาณ 495.71 ล้านบาท ไปใช้สิทธิในการซื้อคืนที่ดิน อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 291 โฉนด เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 โฉนด รวม 292 โฉนด มีจำนวนพื้นที่รวม 267 ไร่ 3 งาน 94.90 ตารางวา กับธนาคารกรุงไทย (ประกอบไปด้วยภาระหนี้คงเหลือสุทธิจากการโอนทรัพย์ชำระหนี้จำนวน 400.88 ล้านบาท ค่าถือครองทรัพย์สินค้างชำระจำนวน 54.83 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินประมาณ 40.00 ล้านบาท) ซึ่งบริษัทได้นำที่ดินดังกล่าวไปตีโอนทรัพย์ชำระหนี้กับธนาคารเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2552 ในอัตราตีโอนร้อยละ 71.03 ของราคาประเมิน เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่บริษัททำกับธนาคาร โดยผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทในการใช้สิทธิซื้อคืนที่ดินดังกล่าว มีดังนี้
8.1 บริษัทสามารถนำที่ดินจำนวน 292 โฉนด ที่ได้รับจากการใช้สิทธิซื้อคืนดังกล่าว ไปพัฒนาโครงการเพื่อก่อให้เกิดผลตอบแทนแก่บริษัทในอนาคต อีกทั้งที่ดินดังกล่าวมีราคาประเมินที่สูงกว่าราคาซื้อคืนที่ดินที่บริษัทจ่ายชำระให้แก่ธนาคาร โดยตามรายงานการประเมินของบริษัท เพ็ชรสยาม แอพไพรซัล จำกัด ได้ทำการประเมินราคาที่ดินในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 และวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 มีราคาประเมินรวม 1,013.634 ล้านบาท ในขณะที่จำนวนเงินที่บริษัทชำระในการซื้อคืนที่ดินดังกล่าวจากธนาคารมีจำนวนเท่ากับ 495.71 ล้านบาท
8.2 บริษัทจะได้รับการยกเว้นเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ที่บริษัทค้างชำระกับธนาคาร จำนวน 245.25 ล้านบาททั้งจำนวน
8.3บริษัทจะได้รับคืนหลักทรัพย์ที่ติดภาระจำนำกับธนาคารตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่เหลือภายหลังจากการ
ขายหุ้นเพื่อชำระให้แก่ธนาคารตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งบริษัทสามารถนำหลักทรัพย์ ดังกล่าวไปแสวงหาผลตอบแทนให้กับบริษัทได้
นอกจากนี้บริษัทยังสามารถนำเงินส่วนที่เหลือจากการใช้สิทธิซื้อคืนที่ดิน จำนวนประมาณ 114.29 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท และ/หรือใช้เป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการอื่นๆ ของบริษัทต่อไปในอนาคต
8. ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทจากผลของรายการ :
บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสินทรัพย์ในครั้งนี้ประมาณ 495.71 ล้านบาท ไปใช้สิทธิในการซื้อคืนที่ดิน อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 291 โฉนด เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 โฉนด รวม 292 โฉนด มีจำนวนพื้นที่รวม 267 ไร่ 3 งาน 94.90 ตารางวา กับธนาคารกรุงไทย (ประกอบไปด้วยภาระหนี้คงเหลือสุทธิจากการโอนทรัพย์ชำระหนี้จำนวน 400.88 ล้านบาท ค่าถือครองทรัพย์สินค้างชำระจำนวน 54.83 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินประมาณ 40.00 ล้านบาท) ซึ่งบริษัทได้นำที่ดินดังกล่าวไปตีโอนทรัพย์ชำระหนี้กับธนาคารเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2552 ในอัตราตีโอนร้อยละ 71.03 ของราคาประเมิน เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่บริษัททำกับธนาคาร โดยผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทในการใช้สิทธิซื้อคืนที่ดินดังกล่าว มีดังนี้
8.1 บริษัทสามารถนำที่ดินจำนวน 292 โฉนด ที่ได้รับจากการใช้สิทธิซื้อคืนดังกล่าว ไปพัฒนาโครงการเพื่อก่อให้เกิดผลตอบแทนแก่บริษัทในอนาคต อีกทั้งที่ดินดังกล่าวมีราคาประเมินที่สูงกว่าราคาซื้อคืนที่ดินที่บริษัทจ่ายชำระให้แก่ธนาคาร โดยตามรายงานการประเมินของบริษัท เพ็ชรสยาม แอพไพรซัล จำกัด ได้ทำการประเมินราคาที่ดินในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2555 และวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 มีราคาประเมินรวม 1,013.634 ล้านบาท ในขณะที่จำนวนเงินที่บริษัทชำระในการซื้อคืนที่ดินดังกล่าวจากธนาคารมีจำนวนเท่ากับ 495.71 ล้านบาท
8.2 บริษัทจะได้รับการยกเว้นเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ที่บริษัทค้างชำระกับธนาคาร จำนวน 245.25 ล้านบาททั้งจำนวน
8.3บริษัทจะได้รับคืนหลักทรัพย์ที่ติดภาระจำนำกับธนาคารตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่เหลือภายหลังจากการ
ขายหุ้นเพื่อชำระให้แก่ธนาคารตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งบริษัทสามารถนำหลักทรัพย์ ดังกล่าวไปแสวงหาผลตอบแทนให้กับบริษัทได้
นอกจากนี้บริษัทยังสามารถนำเงินส่วนที่เหลือจากการใช้สิทธิซื้อคืนที่ดิน จำนวนประมาณ 114.29 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท และ/หรือใช้เป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการอื่นๆ ของบริษัทต่อไปในอนาคต
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 232
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์ที่ 12
กรมธนารักษ์ส่ายหน้า เอ็นพาร์คเบี้ยวค่าเช่าที่ เล็งล้มร้อยชักสาม
ธนารักษ์เผยส่งอัยการสูงสุดตรวจทานข้อกฎหมาย ก่อนบอกเลิกสัญญาโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุร้อย
ชักสามของ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค หลังโครงการไม่คืบ เบี้ยวค่าเช่า ขณะที่บริษัทเร่งเพิ่มทุนขาดสภาพ
คล่องหนัก
อะไรของมันกันนี่บริษัทนี้
ธนารักษ์เผยส่งอัยการสูงสุดตรวจทานข้อกฎหมาย ก่อนบอกเลิกสัญญาโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุร้อย
ชักสามของ บมจ.แนเชอรัล พาร์ค หลังโครงการไม่คืบ เบี้ยวค่าเช่า ขณะที่บริษัทเร่งเพิ่มทุนขาดสภาพ
คล่องหนัก
อะไรของมันกันนี่บริษัทนี้
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์ที่ 14
สรุปความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ที่มา http://www.settrade.com/simsImg/news/2012/12016077.pdf หน้าสุดท้าย
ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นว่าการที่บริษัทได้จำหน่ายสินทรัพย์ซึ่งประกอบไปด้วย เงินลงทุนในหุ้นสามัญบริษัท เคมปิน สยาม จำกัด จำนวน 7,490,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 35.00 ของทุนที่ชำระแล้วของเคมปิน และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ยืมจากผู้ถือหุ้น (Subordinated Loan) พร้อมดอกเบี้ยค้างรับ ที่ราคารวมทั้งสิ้น 610.00 ล้านบาท มีความเหมาะสม ทั้งในเรื่องเหตุผลและประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ โดยเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายทรัพย์สินในครั้งนี้จำนวน 507.11 ล้านบาทจะนำไป ซื้อคืนที่ดินจาก KTB ซึ่งตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้การซื้อคืนที่ดินจะถือได้ว่าบริษัทได้ชำระหนี้ให้กับ KTB ทั้งจำนวนเสร็จสิ้นแล้ว บริษัทยังจะได้รับยกเว้นการชำระดอกเบี้ยคงค้างเป็นจำนวนประมาณ 245.25 ล้านบาท (ภาระดอกเบี้ยคงค้าง ณ วันที่ 31ธันวาคม 2554 ) อันจะเป็นการช่วยลดภาระการจ่ายชำระดอกเบี้ยและหนี้เงินต้น และช่วยปลดภาระการจำนำหลักทรัพย์เพื่อนำหลักทรัพย์ไปแสวงหาผลกำไรให้กับบริษัทได้ อีกทั้งการซื้อคืนที่ดินจาก KTB ทำให้บริษัทสามารถนำที่ดินไปพัฒนาโครงการเพื่อสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในอนาคต นอกจากนี้บริษัทยังสามารถนำเงินสดที่เหลือจากการซื้อคืนที่ดิน ประมาณ 102.89 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นเงินทุนและเงินหมุนเวียนสำหรับรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตสำหรับความเหมาะสมของราคาขายเงินลงทุนในหุ้นสามัญเคมปิน และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ยืมพร้อมดอกเบี้ยค้างรับ ที่ราคารวมทั้งสิ้น 610.00 ล้านบาท รวมถึงความเหมาะสมของเงื่อนไขการชำระเงินและเงื่อนไขการทำรายการมีความเหมาะสม เนื่องจากราคาขายดังกล่าวสูงกว่าราคาเหมาะสมที่ประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เป็นจำนวน 194.52 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 46.82 ของมูลค่าที่เหมาะสม
จากผลการศึกษาและด้วยเหตุผลต่างๆดังกล่าวข้างต้น บริษัท เอสซีเอ็มบี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นว่าการเสนอซื้อหุ้นสามัญเคมปินจำนวน 7.49 ล้านหุ้นและสิทธิเรียกร้องในภาระหนี้ต่างๆ และดอกเบี้ยค้างจ่ายของบริษัท ที่มีต่อเคมปิน ตามที่ผู้ซื้อได้เสนอมาในครั้งนี้ มีความสมเหตุสมผลและมีมูลค่าเหมาะสมและเป็นธรรมต่อบริษัท จึงเห็นว่า ผู้ถือหุ้นของบริษัท ควรอนุมัติ การจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญเคมปิน และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ยืมพร้อมดอกเบี้ยค้างรับ ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจลงคะแนนเสียงอนุมัติในการเข้าทำรายการในครั้งนี้ อยู่ในดุลพินิจของผู้ถือหุ้นของบริษัทโดยผู้ถือหุ้นควรศึกษาข้อมูลในเอกสารต่างๆ ที่แนบมากับหนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2555 ในครั้งนี้ด้วย เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณาตัดสินใจลงมติได้อย่างเหมาะสม
บริษัท เอสซีเอ็มบี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ขอรับรองว่าได้พิจารณา และให้ความเห็นข้างต้นด้วยความรอบคอบตามหลักมาตรฐานวิชาชีพ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ
ขอแสดงความนับถือ
บริษัท เอสซีเอ็มบี จำกัด
ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นว่าการที่บริษัทได้จำหน่ายสินทรัพย์ซึ่งประกอบไปด้วย เงินลงทุนในหุ้นสามัญบริษัท เคมปิน สยาม จำกัด จำนวน 7,490,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 35.00 ของทุนที่ชำระแล้วของเคมปิน และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ยืมจากผู้ถือหุ้น (Subordinated Loan) พร้อมดอกเบี้ยค้างรับ ที่ราคารวมทั้งสิ้น 610.00 ล้านบาท มีความเหมาะสม ทั้งในเรื่องเหตุผลและประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับ โดยเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายทรัพย์สินในครั้งนี้จำนวน 507.11 ล้านบาทจะนำไป ซื้อคืนที่ดินจาก KTB ซึ่งตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้การซื้อคืนที่ดินจะถือได้ว่าบริษัทได้ชำระหนี้ให้กับ KTB ทั้งจำนวนเสร็จสิ้นแล้ว บริษัทยังจะได้รับยกเว้นการชำระดอกเบี้ยคงค้างเป็นจำนวนประมาณ 245.25 ล้านบาท (ภาระดอกเบี้ยคงค้าง ณ วันที่ 31ธันวาคม 2554 ) อันจะเป็นการช่วยลดภาระการจ่ายชำระดอกเบี้ยและหนี้เงินต้น และช่วยปลดภาระการจำนำหลักทรัพย์เพื่อนำหลักทรัพย์ไปแสวงหาผลกำไรให้กับบริษัทได้ อีกทั้งการซื้อคืนที่ดินจาก KTB ทำให้บริษัทสามารถนำที่ดินไปพัฒนาโครงการเพื่อสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในอนาคต นอกจากนี้บริษัทยังสามารถนำเงินสดที่เหลือจากการซื้อคืนที่ดิน ประมาณ 102.89 ล้านบาท จะนำไปใช้เป็นเงินทุนและเงินหมุนเวียนสำหรับรองรับการขยายธุรกิจในอนาคตสำหรับความเหมาะสมของราคาขายเงินลงทุนในหุ้นสามัญเคมปิน และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ยืมพร้อมดอกเบี้ยค้างรับ ที่ราคารวมทั้งสิ้น 610.00 ล้านบาท รวมถึงความเหมาะสมของเงื่อนไขการชำระเงินและเงื่อนไขการทำรายการมีความเหมาะสม เนื่องจากราคาขายดังกล่าวสูงกว่าราคาเหมาะสมที่ประเมินโดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เป็นจำนวน 194.52 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตราร้อยละ 46.82 ของมูลค่าที่เหมาะสม
จากผลการศึกษาและด้วยเหตุผลต่างๆดังกล่าวข้างต้น บริษัท เอสซีเอ็มบี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นว่าการเสนอซื้อหุ้นสามัญเคมปินจำนวน 7.49 ล้านหุ้นและสิทธิเรียกร้องในภาระหนี้ต่างๆ และดอกเบี้ยค้างจ่ายของบริษัท ที่มีต่อเคมปิน ตามที่ผู้ซื้อได้เสนอมาในครั้งนี้ มีความสมเหตุสมผลและมีมูลค่าเหมาะสมและเป็นธรรมต่อบริษัท จึงเห็นว่า ผู้ถือหุ้นของบริษัท ควรอนุมัติ การจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญเคมปิน และสิทธิเรียกร้องในหนี้เงินกู้ยืมพร้อมดอกเบี้ยค้างรับ ในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจลงคะแนนเสียงอนุมัติในการเข้าทำรายการในครั้งนี้ อยู่ในดุลพินิจของผู้ถือหุ้นของบริษัทโดยผู้ถือหุ้นควรศึกษาข้อมูลในเอกสารต่างๆ ที่แนบมากับหนังสือเชิญประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2555 ในครั้งนี้ด้วย เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณาตัดสินใจลงมติได้อย่างเหมาะสม
บริษัท เอสซีเอ็มบี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ ขอรับรองว่าได้พิจารณา และให้ความเห็นข้างต้นด้วยความรอบคอบตามหลักมาตรฐานวิชาชีพ โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของบริษัทและผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ
ขอแสดงความนับถือ
บริษัท เอสซีเอ็มบี จำกัด
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์ที่ 15
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย (F45-3)
บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด(มหาชน)
(หน่วย : พันบาท)
งบการเงินรวม
ไตรมาสที่ 1
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ปี 2555 2554
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (154,804) (217,089)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (0.0026) (0.0036)
ต่อหุ้น (บาท)
งบการเงินเฉพาะกิจการ
ไตรมาสที่ 1
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ปี 2555 2554
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (56,111) (160,356)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (0.0009) (0.0027)
ต่อหุ้น (บาท)
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
มีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต
บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด(มหาชน)
(หน่วย : พันบาท)
งบการเงินรวม
ไตรมาสที่ 1
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ปี 2555 2554
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (154,804) (217,089)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (0.0026) (0.0036)
ต่อหุ้น (บาท)
งบการเงินเฉพาะกิจการ
ไตรมาสที่ 1
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ปี 2555 2554
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (56,111) (160,356)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (0.0009) (0.0027)
ต่อหุ้น (บาท)
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
มีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์ที่ 16
(เพิ่มเติม) N-PARK เล็งซื้อที่ดินคืนจาก KTB ทุ่ม 2 พันลบ.พัฒนาอสังหาฯใหม่,ประนอมหนี้เพิ่ม
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2555 14:41:17 น.
ที่ประชุมผู้ถือหุ้น บมจ.แนเชอรัล พาร์ค(N-PARK)วันนี้ไฟเขียวแผนเพิ่มทุน 60,430.92 ล้านหุ้น พร้อมทั้งการขายหุ้น บริษัท เคมปิน สยาม มูลค่าราว 610 ล้านบาท ผู้บริหารเผยเตรียมนำเงินไปซื้อที่ดินย่านบางกระเจ้าและพระโขนงคืนจากธนาคารกรุงไทย(KTB)ที่เป็นเจ้าหนี้รายสำคัญ คาดว่าต้องใช้เงินราว 500 ล้านบาท ขณะเดียวกันเตรียมแผนลงทุนกว่า 2 พันล้านบาทพัฒนาโครรงการอสังหาริมทรัพย์บนที่ดินดังกล่าว
นอกจากนั้น บริษัทยังจะมีการเจรจาประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ 1-2 รายภายในปีนี้ คาดว่าจะสามารถบันทึกกลับจากที่เคยตั้งสำรองฯไว้ราว 300-400 ล้านบาท
นายนคร ลักษณกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ N-PARK กล่าวว่า บริษัทะขายสินทรัพย์เพื่อนำมาชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะ KTB ซึ่งล่าสุดที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการขายหุ้นสามัญของบริษัท เคมปิน สยาม จำกัด สิทธิเรียกร้องในหนี้เงินให้กู้ยืม และดอกเบี้ยค้างรับทั้งจำนวนให้กับบริษัท ทุนลดาวัลย์ ในราคารวม 610 ล้านบาท
บริษัทมีแผนจะนำเงินจากจำหน่าสินทรัพย์ดังกล่าวส่วนหนึ่งประมาณ 507.11 ล้านบาท ซื้อคืนที่ดินบางกระเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จำนวน 291 โฉนด ประมาณ 200 ไร่ และที่ดินในเขตพระโขนง กรุงเทพฯ อีก 1 โฉนด โดยที่ดินดังกล่าวในขณะนี้มีราคาประเมินสูงกว่าราคาซื้อคืนไปแล้ว
พร้อมกันนั้น บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนกว่า 2 พันล้านบาทในการพัฒนาที่ดินดังกล่าว เบื้องต้นอาจมีการแบ่งขายที่ดิน แล้วทำสัญญาก่อสร้างบ้านในภายหลัง เพื่อจะได้รับรู้รายได้เข้ามาได้เร็ว ประเมินราคาขายที่ดินเปล่าตารางวา(ตร.ว.)ละ 5 หมื่นบาท แต่หากเป็นที่ดินพร้อมบ้านจะคิดราคาตารางเมตร(ตร.ม.)ละ 5.5 หมื่นบาท
"ที่เราขายหุ้นเคมปินสยามออกไป เนื่องจากเปิดให้บริการมาสองปีกินทุนเราไปแล้วกว่า 200 ล้านบาท และยังไม่มีแนวโน้มกำไร ประกอบกับเราไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่ จึงไม่มีอำนาจในการบริหาร ส่วนเงินที่เราได้มาก็จะนำไปใช้คืนหนี้ KTB ทำให้เราได้ที่ดินที่บางกระเจ้าประมาณ 200 ไร่กลับคืนมา ตอนนี้ value เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า แม้จะเป็นพื้นที่สีเขียว แต่ก็เป็นที่ดินที่ได้รับการจัดสรรก่อนจะมีกฎหมายเรื่องสิ่งแวดล้อม ตอนนี้เราก็ได้ใบอนุญาตก่อสร้างแล้ว 7 หมื่น ตร.ม.คิดว่าโครงการนี้จะทำให้เรากลับมาสง่าผ่าเผยอีกครั้ง"นายนคร กล่าว
สำหรับการพัฒนาโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ทบนพื้นที่โรงภาษีร้อยชักสามนั้น นายนคร กล่าวว่า ขณะนี้ยังติดปัญหาเดิมที่กรมธนารักษ์ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ เนื่องจากหน่วยงานราชการที่ใช้อ่าคารยังไม่ยอมย้ายออก
แม้ว่าขณะนี้บริษัทและกิจการร่วมค้าที่เป็นผู้ถือสิทธิในที่ดินดังกล่าว ยังมีความตั้งใจที่จะดำเนินโครงการต่อไป เนื่องจากทางอัยการก็มีความเห็นว่าทางกิจการร่วมค้าฯ ไม่ได้กระทำผิดสัญญากับกรมธนารักษ์ แต่อย่างไรก็ตาม หากมีการตัดสินจากศาลออกมาแล้ว อาจจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่
นายนคร ยังเปิดเผยอีกว่า ในปีนี้บริษัทมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหนี้สิน เพื่อให้ธุรกิจมีสถานะที่น่าเชื่อถือ และมีสภาพคล่องที่เอื้อต่อการพัฒนาโครงการในอนาคต โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะสามารถประนีประนอมยอมความกับเจ้าหนี้ได้อีก 2 ราย ซึ่งในส่วนของหลักการได้ตกลงกันแล้ว อยู่ในขั้นตอนของการต่อรองราคา ซึ่งหากการเจรจาสำเร็จจะทำให้บริษัทสามารถบันทึกกลับกำไรได้ราว 300-400 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีหนี้สินที่เป็นคดีความทางกฎหมายเหลือไม่ถึง 1 พันล้านบาทแล้ว เป็นหนี้ที่มีกับธนาคารสินเอเชียกว่า 400 ล้านบาท ธนาคารนครธน 100 ล้านบาท และ หลักทรัพย์ธนนคร 100 ล้านบาท และมีหนี้สินที่ไม่ได้เป็นคดีความกับ KTB อีกประมาณ 500 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย อาชวินท์ สุกสี/ศศิธร/นิศารัตน์ โทร.02-2535000 ต่อ 322 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2555 14:41:17 น.
ที่ประชุมผู้ถือหุ้น บมจ.แนเชอรัล พาร์ค(N-PARK)วันนี้ไฟเขียวแผนเพิ่มทุน 60,430.92 ล้านหุ้น พร้อมทั้งการขายหุ้น บริษัท เคมปิน สยาม มูลค่าราว 610 ล้านบาท ผู้บริหารเผยเตรียมนำเงินไปซื้อที่ดินย่านบางกระเจ้าและพระโขนงคืนจากธนาคารกรุงไทย(KTB)ที่เป็นเจ้าหนี้รายสำคัญ คาดว่าต้องใช้เงินราว 500 ล้านบาท ขณะเดียวกันเตรียมแผนลงทุนกว่า 2 พันล้านบาทพัฒนาโครรงการอสังหาริมทรัพย์บนที่ดินดังกล่าว
นอกจากนั้น บริษัทยังจะมีการเจรจาประนอมหนี้กับเจ้าหนี้ 1-2 รายภายในปีนี้ คาดว่าจะสามารถบันทึกกลับจากที่เคยตั้งสำรองฯไว้ราว 300-400 ล้านบาท
นายนคร ลักษณกาญจน์ กรรมการผู้จัดการ N-PARK กล่าวว่า บริษัทะขายสินทรัพย์เพื่อนำมาชำระหนี้ให้กับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะ KTB ซึ่งล่าสุดที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการขายหุ้นสามัญของบริษัท เคมปิน สยาม จำกัด สิทธิเรียกร้องในหนี้เงินให้กู้ยืม และดอกเบี้ยค้างรับทั้งจำนวนให้กับบริษัท ทุนลดาวัลย์ ในราคารวม 610 ล้านบาท
บริษัทมีแผนจะนำเงินจากจำหน่าสินทรัพย์ดังกล่าวส่วนหนึ่งประมาณ 507.11 ล้านบาท ซื้อคืนที่ดินบางกระเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จำนวน 291 โฉนด ประมาณ 200 ไร่ และที่ดินในเขตพระโขนง กรุงเทพฯ อีก 1 โฉนด โดยที่ดินดังกล่าวในขณะนี้มีราคาประเมินสูงกว่าราคาซื้อคืนไปแล้ว
พร้อมกันนั้น บริษัทมีแผนใช้เงินลงทุนกว่า 2 พันล้านบาทในการพัฒนาที่ดินดังกล่าว เบื้องต้นอาจมีการแบ่งขายที่ดิน แล้วทำสัญญาก่อสร้างบ้านในภายหลัง เพื่อจะได้รับรู้รายได้เข้ามาได้เร็ว ประเมินราคาขายที่ดินเปล่าตารางวา(ตร.ว.)ละ 5 หมื่นบาท แต่หากเป็นที่ดินพร้อมบ้านจะคิดราคาตารางเมตร(ตร.ม.)ละ 5.5 หมื่นบาท
"ที่เราขายหุ้นเคมปินสยามออกไป เนื่องจากเปิดให้บริการมาสองปีกินทุนเราไปแล้วกว่า 200 ล้านบาท และยังไม่มีแนวโน้มกำไร ประกอบกับเราไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่ จึงไม่มีอำนาจในการบริหาร ส่วนเงินที่เราได้มาก็จะนำไปใช้คืนหนี้ KTB ทำให้เราได้ที่ดินที่บางกระเจ้าประมาณ 200 ไร่กลับคืนมา ตอนนี้ value เพิ่มขึ้น 2-3 เท่า แม้จะเป็นพื้นที่สีเขียว แต่ก็เป็นที่ดินที่ได้รับการจัดสรรก่อนจะมีกฎหมายเรื่องสิ่งแวดล้อม ตอนนี้เราก็ได้ใบอนุญาตก่อสร้างแล้ว 7 หมื่น ตร.ม.คิดว่าโครงการนี้จะทำให้เรากลับมาสง่าผ่าเผยอีกครั้ง"นายนคร กล่าว
สำหรับการพัฒนาโครงการโรงแรมอามันรีสอร์ทบนพื้นที่โรงภาษีร้อยชักสามนั้น นายนคร กล่าวว่า ขณะนี้ยังติดปัญหาเดิมที่กรมธนารักษ์ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ เนื่องจากหน่วยงานราชการที่ใช้อ่าคารยังไม่ยอมย้ายออก
แม้ว่าขณะนี้บริษัทและกิจการร่วมค้าที่เป็นผู้ถือสิทธิในที่ดินดังกล่าว ยังมีความตั้งใจที่จะดำเนินโครงการต่อไป เนื่องจากทางอัยการก็มีความเห็นว่าทางกิจการร่วมค้าฯ ไม่ได้กระทำผิดสัญญากับกรมธนารักษ์ แต่อย่างไรก็ตาม หากมีการตัดสินจากศาลออกมาแล้ว อาจจะมีการพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่
นายนคร ยังเปิดเผยอีกว่า ในปีนี้บริษัทมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหนี้สิน เพื่อให้ธุรกิจมีสถานะที่น่าเชื่อถือ และมีสภาพคล่องที่เอื้อต่อการพัฒนาโครงการในอนาคต โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะสามารถประนีประนอมยอมความกับเจ้าหนี้ได้อีก 2 ราย ซึ่งในส่วนของหลักการได้ตกลงกันแล้ว อยู่ในขั้นตอนของการต่อรองราคา ซึ่งหากการเจรจาสำเร็จจะทำให้บริษัทสามารถบันทึกกลับกำไรได้ราว 300-400 ล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีหนี้สินที่เป็นคดีความทางกฎหมายเหลือไม่ถึง 1 พันล้านบาทแล้ว เป็นหนี้ที่มีกับธนาคารสินเอเชียกว่า 400 ล้านบาท ธนาคารนครธน 100 ล้านบาท และ หลักทรัพย์ธนนคร 100 ล้านบาท และมีหนี้สินที่ไม่ได้เป็นคดีความกับ KTB อีกประมาณ 500 ล้านบาท
--อินโฟเควสท์ โดย อาชวินท์ สุกสี/ศศิธร/นิศารัตน์ โทร.02-2535000 ต่อ 322 อีเมล์: [email protected]--
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 547
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์ที่ 17
ผมว่าปัญหาหลักๆของบริษัทนี้ คือธรรมมาภิบาล กับ เรื่องคดีความต่างๆนี่แหละ อ่านในหมายเหตุงบ เห็นคดีมียาวเป็นหางว่าวเลย เข้าใจกันเงินว่าคงสำรองหนี้ไปไว้ตรงนั้นเยอะมากไม่จบซักที
บริษัทเคยมีทรัพย์สินดีๆก็โดนยักยอกออกไปหมด จริงๆน่าจะมีใครรวมตัวกันไปบี้พวกนี้ออกไปบ้างนะครับ เผื่อจะเหมือนกรณี NIPPON หรือ THL บ้าง
บริษัทเคยมีทรัพย์สินดีๆก็โดนยักยอกออกไปหมด จริงๆน่าจะมีใครรวมตัวกันไปบี้พวกนี้ออกไปบ้างนะครับ เผื่อจะเหมือนกรณี NIPPON หรือ THL บ้าง
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข่าว N-PARK
โพสต์ที่ 18
N-PARK แจงยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งยกเลิกสัญญาร้อยชักสามจากธนารักษ์
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 19 มิถุนายน 2555 13:16:46 น.
บมจ.แนเชอรัล พาร์ค(N-PARK)ชี้แจงข่าวในหนังสือพิมพ์ที่ระบุว่า"คลังยื่นโนติสถึงเอ็นพาร์คยกเลิกสัญญาร้อยชักสาม"นั้น ขอชี้แจงว่า บริษัทยังมิได้รับหนังสือบอกกล่าวหรือหนังสือเชิญชี้แจงจากกรมธนารักษ์แต่ประการใด และรายงานข่าวดังกล่าวกรรมการและผู้บริหารของบริษัทมิได้เป็นผู้ให้ข่าวจึงไม่ทราบผู้ใดเป็นคนให้ข่าว
แต่อย่างไรก็ดี ความคืบหน้าโครงการดังกล่าวนั้น ตามที่บริษัทได้ชี้แจงความคืบหน้าของโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุร้อยชักสามเพื่อก่อสร้างโรงแรมอามันรีสอร์ทรมแม่น้ำเจ้าพระยา(กำหนดโครงการระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปีนับจากปักผังพื้นที่โดยกรมธนารักษ์)ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างเนื่องจากปัญหาเรื่องการโยกย้ายหน่วยราชการ(หน่วยงานดับเพลิงบางรัก สังกัดกรุงเทพมหานคร) ซึ่งไม่ปรากฎใน TOR และสัญญาร่วมลงทุนออกจากพื้นที่โครงการ โดยต่อมาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2554
ที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานการลงทุนก่อสร้างและบริหารโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสาม ซึ่งประกอบด้วย กรมธนารักษ์ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และบริษัทในฐานะตัวแทนกิจการร่วมค้า ได้มีมติว่า 1.เนื่องจากปัญหาการโยกย้ายหน่วยงานดับเพลิงบางรัก สังกัดกรุงเทพมหานคร ออกจากพื้นที่โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุร้อยชักสามเป็นปัญหาข้อพิพาทระหว่างหน่วยราชการด้วยกันเอง ที่ประชุมจึงมีมติให้กรมธนารักษ์ส่งเรื่องข้อพิพาทดังกล่าวไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจรณาตัดสินต่อไป
2. ในเรื่องที่กิจการร่วมค้าได้ร้องขอความเป็นธรรมเพื่อขอให้กระทรวงการคลังโดยกรมธนารักษ์พิจารณาหยุดนับระยะเวลา " อายุการบริหารโครงการ" และ "ระยะเวลาเช่า" ตามสัญญาร่วมลงทุนฉบับลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2548 โดยขอให้หยุดนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2548 ไปจนกว่าจะถึงวันที่กรมธนารักษ์ส่งมอบพื้นที่โครงการให้แก่บริษัทไปยังรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็ขอให้กิจการร่วมค้าทำหนังสือตามข้อร้องขอของกิจการร่วมค้าและแสดงเหตุผลประกอบโดยละเอียดให้กรมธนารักษ์เพื่อส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดหรือคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อทำความเห็นในทางกฎหมายและรวบรวมเสนอยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
ปัจจุบันกรมธนารักษ์ได้แจ้งให้บริษัททราบว่ากรมธนารักษ์ได้แจ้งให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาใน 2 ประเด็นตามมติที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานการลงทุนฯ แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและคณะรัฐมนตรี
--อินโฟเควสท์ โดย ศศิธร ซิมาภรณ์ โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 19 มิถุนายน 2555 13:16:46 น.
บมจ.แนเชอรัล พาร์ค(N-PARK)ชี้แจงข่าวในหนังสือพิมพ์ที่ระบุว่า"คลังยื่นโนติสถึงเอ็นพาร์คยกเลิกสัญญาร้อยชักสาม"นั้น ขอชี้แจงว่า บริษัทยังมิได้รับหนังสือบอกกล่าวหรือหนังสือเชิญชี้แจงจากกรมธนารักษ์แต่ประการใด และรายงานข่าวดังกล่าวกรรมการและผู้บริหารของบริษัทมิได้เป็นผู้ให้ข่าวจึงไม่ทราบผู้ใดเป็นคนให้ข่าว
แต่อย่างไรก็ดี ความคืบหน้าโครงการดังกล่าวนั้น ตามที่บริษัทได้ชี้แจงความคืบหน้าของโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุร้อยชักสามเพื่อก่อสร้างโรงแรมอามันรีสอร์ทรมแม่น้ำเจ้าพระยา(กำหนดโครงการระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปีนับจากปักผังพื้นที่โดยกรมธนารักษ์)ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างเนื่องจากปัญหาเรื่องการโยกย้ายหน่วยราชการ(หน่วยงานดับเพลิงบางรัก สังกัดกรุงเทพมหานคร) ซึ่งไม่ปรากฎใน TOR และสัญญาร่วมลงทุนออกจากพื้นที่โครงการ โดยต่อมาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2554
ที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานการลงทุนก่อสร้างและบริหารโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงที่ตั้งโรงภาษีร้อยชักสาม ซึ่งประกอบด้วย กรมธนารักษ์ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด และบริษัทในฐานะตัวแทนกิจการร่วมค้า ได้มีมติว่า 1.เนื่องจากปัญหาการโยกย้ายหน่วยงานดับเพลิงบางรัก สังกัดกรุงเทพมหานคร ออกจากพื้นที่โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุร้อยชักสามเป็นปัญหาข้อพิพาทระหว่างหน่วยราชการด้วยกันเอง ที่ประชุมจึงมีมติให้กรมธนารักษ์ส่งเรื่องข้อพิพาทดังกล่าวไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจรณาตัดสินต่อไป
2. ในเรื่องที่กิจการร่วมค้าได้ร้องขอความเป็นธรรมเพื่อขอให้กระทรวงการคลังโดยกรมธนารักษ์พิจารณาหยุดนับระยะเวลา " อายุการบริหารโครงการ" และ "ระยะเวลาเช่า" ตามสัญญาร่วมลงทุนฉบับลงวันที่ 10 พฤษภาคม 2548 โดยขอให้หยุดนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2548 ไปจนกว่าจะถึงวันที่กรมธนารักษ์ส่งมอบพื้นที่โครงการให้แก่บริษัทไปยังรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ก็ขอให้กิจการร่วมค้าทำหนังสือตามข้อร้องขอของกิจการร่วมค้าและแสดงเหตุผลประกอบโดยละเอียดให้กรมธนารักษ์เพื่อส่งเรื่องให้สำนักงานอัยการสูงสุดหรือคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อทำความเห็นในทางกฎหมายและรวบรวมเสนอยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
ปัจจุบันกรมธนารักษ์ได้แจ้งให้บริษัททราบว่ากรมธนารักษ์ได้แจ้งให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาใน 2 ประเด็นตามมติที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานการลงทุนฯ แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด บริษัทจึงมีความจำเป็นต้องรอผลการพิจารณาของคณะกรรมการชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและคณะรัฐมนตรี
--อินโฟเควสท์ โดย ศศิธร ซิมาภรณ์ โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป