เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 1
จำได้ว่า เคยฟังเพลงเก่าเพลงนึง
ที่มีเนื้อร้องปิดท้ายว่า.......
....ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอง....
ไม่ทราบว่าชื่อเพลงอะไรเหมือนกันครับ
เนื้อร้องก็ทำนองว่า คนดีหรือเก่งมากๆมีแค่ 1 ใน 100 คนแค่นั้นเอง
ผมก็เลยเชื่อว่าหากนำหลักเกณฑ์นี้มาใช้ในการลงทุนก็น่าจะดีทีเดียว
มีเหตุผลที่น่าจะทำให้เชื่อได้อย่างนั้นครับ
ตลาดหุ้นไทยเกือบๆ 30 ปีที่ก่อตั้งมา
ให้ผลตอบแทน รวมเงินปันผลประมาณ 10%
ดังนั้นหากเราซื้อหุ้นเฉลี่ยทั้งตลาดและถือแล้วไม่ขาย
เราก็น่าจะได้ผลตอบแทนประมาณ 10% เช่นกัน ซึ่งถือว่าไม่เลวเลย
เพราะผลตอบแทน 10 % ทบต้นประมาณ 7 ปี เงินเราก็จะเพิ่มเป็น 1 เท่าตัว
นั่นคือผลตอบแทนของการซื้อหุ้นคละกันไปทั้งตลาดและถือยาว
แต่ลองคิดดูว่าหากเราคัดเลือกหุ้นสุดยอด ประเภทคัดมาจาก 1 ใน 100 ตัว ผลตอบแทนที่ได้ก็น่าจะทำได้ดีกว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยๆ 10 % มาก
แค่ทำได้ 15% ทบต้นต่อปี 5 ปีเราก็จำมีผลตอบแทนถึง 100%
แต่ผมเชื่อลึกๆว่าหากเราคัดหุ้นที่ดีจริงๆ ประเภท 1 ใน 100
น่าจะเชื่อได้ว่าผลตอบแทนน่าจะทำได้มากกว่า 15% ต่อปี
ดังนั้นนี่เป็นทางรวย (เร็วๆ)ดีๆ นี่เอง :lol:
แน่นอนว่า เราต้องมีหลักเกณฑ์ที่ใช้คัดหุ้นที่เป็นเพชรเหล่านั้น
ไม่อย่างนั้นคงได้แต่ก้อนกรวด ที่เราเข้าใจว่าเป็นเพชร
หุ้นที่คัดจาก 1 ใน 100 จะไม่มีประโยชน์เลย หากไม่ได้เป็นหุ้นที่ดีอย่างแท้จริง
เกณฑ์ที่ผมคิดว่าใช้คัดหุ้นดีออกจากหุ้นแย่..
1.ต้องเป็นกิจการที่มีความสามารถในการแข่งขันเท่านั้น ข้อนี้สำคัญที่สุด กิจการที่สู้คนอื่นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเราจะไปถือทำไม
2.งบดุลต้องแข็งแกร่ง มีเงินสด หรือมีหนี้ในระดับที่สมเหตุสมผล กิจการที่มีงบการเงินแข็งแกร่ง จะมีความเสี่ยงน้อยกว่ากิจการที่มีงบการเงินอ่อนแอ ในยามที่เศรษกิจโดยรวมไม่ดี นอกจากนั้นกิจการที่งบการเงินดี ยังสามารถใขว่คว้าโอกาสทางธุรกิจ ได้ดีกว่ากิจการที่อ่อนแอ
3.ผู้บริหารต้องมีความซื้อสัตย์ เห็นแก่ประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ ไม่ใช่เห็นแก่ตำแหน่งของตัวเอง หรือใช้ข้อมูลซื้อ-ขายหุ้นก่อนผลประกอบการ อย่างที่เราทราบข้อมูลจาก กลต. และที่ไม่ได้แจ้ง กลต.
4.ราคาที่ซื้อต้องเป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า หรือเป็นราคาที่สมเหตุสมผล
5.ต้องถือหุ้นระยะยาวเท่านั้น เพื่อให้หุ้นเหล่านั้นได้เติบโต
ราคาหุ้นของธุรกิจที่ดี ในระยะสั้นอาจจะผันผวนบ้าง แต่ในระยาว
ราคาหุ้นจะเพิ่มตามผลประกอบการ ไม่มีเป็นอื่น
ดังนั้นต้องถือหุ้นระยะยาว แต่ไม่ใช่การเพิกเฉย ควรติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ เพราะอาจจะมีเหตุการณ์ที่เข้ามากระทบ ทำให้พื้นฐานกิจการเปลี่ยนไป
ทั้ง 5 ข้อเป็นประเด็นหลักๆ และอาจจะมีประเด็นเสริมย่อยๆ
ผมคิดว่านักลงทุนที่เลือกถือสุดยอดหุ้น แบบคัดจาก 1 ใน 100 หุ้นน่าจะมีผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดมาก และในระยะยาว จะทำให้เขา
โดดเด่น เป็นยอดนักลงทุน ชนิดที่ว่า ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...
ที่มีเนื้อร้องปิดท้ายว่า.......
....ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอง....
ไม่ทราบว่าชื่อเพลงอะไรเหมือนกันครับ
เนื้อร้องก็ทำนองว่า คนดีหรือเก่งมากๆมีแค่ 1 ใน 100 คนแค่นั้นเอง
ผมก็เลยเชื่อว่าหากนำหลักเกณฑ์นี้มาใช้ในการลงทุนก็น่าจะดีทีเดียว
มีเหตุผลที่น่าจะทำให้เชื่อได้อย่างนั้นครับ
ตลาดหุ้นไทยเกือบๆ 30 ปีที่ก่อตั้งมา
ให้ผลตอบแทน รวมเงินปันผลประมาณ 10%
ดังนั้นหากเราซื้อหุ้นเฉลี่ยทั้งตลาดและถือแล้วไม่ขาย
เราก็น่าจะได้ผลตอบแทนประมาณ 10% เช่นกัน ซึ่งถือว่าไม่เลวเลย
เพราะผลตอบแทน 10 % ทบต้นประมาณ 7 ปี เงินเราก็จะเพิ่มเป็น 1 เท่าตัว
นั่นคือผลตอบแทนของการซื้อหุ้นคละกันไปทั้งตลาดและถือยาว
แต่ลองคิดดูว่าหากเราคัดเลือกหุ้นสุดยอด ประเภทคัดมาจาก 1 ใน 100 ตัว ผลตอบแทนที่ได้ก็น่าจะทำได้ดีกว่า ผลตอบแทนเฉลี่ยๆ 10 % มาก
แค่ทำได้ 15% ทบต้นต่อปี 5 ปีเราก็จำมีผลตอบแทนถึง 100%
แต่ผมเชื่อลึกๆว่าหากเราคัดหุ้นที่ดีจริงๆ ประเภท 1 ใน 100
น่าจะเชื่อได้ว่าผลตอบแทนน่าจะทำได้มากกว่า 15% ต่อปี
ดังนั้นนี่เป็นทางรวย (เร็วๆ)ดีๆ นี่เอง :lol:
แน่นอนว่า เราต้องมีหลักเกณฑ์ที่ใช้คัดหุ้นที่เป็นเพชรเหล่านั้น
ไม่อย่างนั้นคงได้แต่ก้อนกรวด ที่เราเข้าใจว่าเป็นเพชร
หุ้นที่คัดจาก 1 ใน 100 จะไม่มีประโยชน์เลย หากไม่ได้เป็นหุ้นที่ดีอย่างแท้จริง
เกณฑ์ที่ผมคิดว่าใช้คัดหุ้นดีออกจากหุ้นแย่..
1.ต้องเป็นกิจการที่มีความสามารถในการแข่งขันเท่านั้น ข้อนี้สำคัญที่สุด กิจการที่สู้คนอื่นไม่ได้ ไม่รู้ว่าเราจะไปถือทำไม
2.งบดุลต้องแข็งแกร่ง มีเงินสด หรือมีหนี้ในระดับที่สมเหตุสมผล กิจการที่มีงบการเงินแข็งแกร่ง จะมีความเสี่ยงน้อยกว่ากิจการที่มีงบการเงินอ่อนแอ ในยามที่เศรษกิจโดยรวมไม่ดี นอกจากนั้นกิจการที่งบการเงินดี ยังสามารถใขว่คว้าโอกาสทางธุรกิจ ได้ดีกว่ากิจการที่อ่อนแอ
3.ผู้บริหารต้องมีความซื้อสัตย์ เห็นแก่ประโยชน์ของผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ ไม่ใช่เห็นแก่ตำแหน่งของตัวเอง หรือใช้ข้อมูลซื้อ-ขายหุ้นก่อนผลประกอบการ อย่างที่เราทราบข้อมูลจาก กลต. และที่ไม่ได้แจ้ง กลต.
4.ราคาที่ซื้อต้องเป็นราคาที่ต่ำกว่ามูลค่า หรือเป็นราคาที่สมเหตุสมผล
5.ต้องถือหุ้นระยะยาวเท่านั้น เพื่อให้หุ้นเหล่านั้นได้เติบโต
ราคาหุ้นของธุรกิจที่ดี ในระยะสั้นอาจจะผันผวนบ้าง แต่ในระยาว
ราคาหุ้นจะเพิ่มตามผลประกอบการ ไม่มีเป็นอื่น
ดังนั้นต้องถือหุ้นระยะยาว แต่ไม่ใช่การเพิกเฉย ควรติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ เพราะอาจจะมีเหตุการณ์ที่เข้ามากระทบ ทำให้พื้นฐานกิจการเปลี่ยนไป
ทั้ง 5 ข้อเป็นประเด็นหลักๆ และอาจจะมีประเด็นเสริมย่อยๆ
ผมคิดว่านักลงทุนที่เลือกถือสุดยอดหุ้น แบบคัดจาก 1 ใน 100 หุ้นน่าจะมีผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาดมาก และในระยะยาว จะทำให้เขา
โดดเด่น เป็นยอดนักลงทุน ชนิดที่ว่า ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอง...
แก้ไขล่าสุดโดย ลูกอิสาน เมื่อ ศุกร์ พ.ค. 20, 2005 11:34 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 3
มิได้ครับพี่ wpong :lol:wpong เขียน:IRR = 15% ต่อปี ... น้อยไปหรือ ....
เพื่อนๆคิดว่าต้องได้สักเท่าไรถึงจะเป็น 1 ใน 100 ได้ครับ
ผมขอแค่เป็น 1 เดียวในใจเธอก็พอ ...
15% นี่ก็เยอะแล้วครับ
แต่คิดถึงว่าเราเลือกหุ้นแบบไม่คิดอะไรเลย
ในระยะยาวก็ยังได้ผลตอบแทน+ปันผลประมาณ 10%
ถ้าเราเลือกหุ้นที่ดีมากๆ คัดสุดยอด แบบ 1 ใน 100 ตัว
ผลตอบแทนก็น่าจะมากกว่า 10 % มากนะครับ
ว่าตามความเป็นไปได้ มันน่าจะเป็นอย่างนั้น
ที่จริงไม่สำคัญว่าจะต้องเป็น 1 ใน 100 ครับ
แต่ในตลาดหุ้นไทยมีหุ้นประมาณ 500 บริษัท
และผมคิดว่าพอร์ตที่เหมาะสมควรจะมีหุ้นประมาณ 5-6 ตัว
สำหรับพอร์ตที่ไม่เกิน 20 ล้าน (อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว)
ดังนั้นสัดส่วนคือ 5/500 หรือ 1 ใน 100 นั่นเอง
แต่ใครจะเลือกหุ้นแบบ 1 ใน 500 แบบพี่ฉัตรชัยก็ไม่ว่านะครับ
แต่ผมคงต้องขอตัวคนหนึ่ง เพราะความรู้+ใจยังไม่นิ่งพอครับ :lol: :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 4
หุ้นไม่มืด เข้ากับบทเพลงนี้มากที่สุด ผมก็จำชื่อเพลงไม่ได้
:lol: :lol:
.... นิลกาฬ มุกดา บุศราคัมคำ น่าชมว่าเธอเหมาะสมดี...
ขอบคุณครับคุณลูกอีสาน
:lol: :lol:
.... นิลกาฬ มุกดา บุศราคัมคำ น่าชมว่าเธอเหมาะสมดี...
ขอบคุณครับคุณลูกอีสาน
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- Verified User
- โพสต์: 232
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 5
ชื่อเพลง หยาดเพชร ร้องโดย ชรินทร์ นันทนาคร ครับ
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆเช่นกันครับคุณลูกอีสาน
ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆเช่นกันครับคุณลูกอีสาน
"Much success can be attributed to inactivity. Most investors cannot resist the temptation to constantly buy and sell."
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 6
ไม่ใช่หยาดเพชรครับ น่าจะเป็น "หนึ่งในร้อย"
หนึ่งในร้อย
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล
ทำนอง สง่า อารัมภีร์
ขับร้อง สมจิต ตัดจินดา (บันทึกเสียงครั้งแรก พ.ศ. 2494 )
พราวแพรวอันดวงแก้วแวววาว
สดสีงาม หลายหลากมากนามนิยม
นิลกาฬ มุกดา บุษราคัมคม
น่าชม ว่างามเหมาะสมดี
เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้งพึงเป็นยอดมณี
ผ่องแผ้วสดสี เพชรดีมีหนึ่งในร้อยดวง
ความดี คนเรานี่ดีใด
ดีน้ำใจที่ให้แก่คนทั้งปวง
อภัย รู้แต่ให้ไป ไม่หวง
เจ็บทรวงหน่วงใจ ให้รู้ทน
รู้กลืนกล้ำ .... เลิศล้ำความเป็นยอดคน
======================================
เพลงหยาดเพชร
เปรียบ เธอเพชรงามน้ำหนึ่ง
หวาน ปานน้ำผึ้งเดือนห้า
หยาด เพชร เกล็ดแก้ว แวว ฟ้า
ร่วง มา จากฟ้า หรือไร
หยาด มาแล้วอย่าช้ำโศก
ปล่อย คนทั้งโลกร้องไห้
หยาด เพชร เกล็ด แก้ว ผ่อง ใส
นั้นอยู่ไกล เกิน ผูก พัน
แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า
ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหว หวั่น
ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์
มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย
เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว
เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่
หยาด เพชร หยาดละออง ผ่องใส
แม้นอยู่ใน ความ มืด มน
ดนตรี 8 Bars..6...7...
8...แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า
ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหวหวั่น
ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์
มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย
เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว
เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่
หยาด เพชร หยาดละออง ผ่อง ใส
แม้นอยู่ใน ความ มืด มน
หนึ่งในร้อย
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล
ทำนอง สง่า อารัมภีร์
ขับร้อง สมจิต ตัดจินดา (บันทึกเสียงครั้งแรก พ.ศ. 2494 )
พราวแพรวอันดวงแก้วแวววาว
สดสีงาม หลายหลากมากนามนิยม
นิลกาฬ มุกดา บุษราคัมคม
น่าชม ว่างามเหมาะสมดี
เพชรน้ำหนึ่ง งามซึ้งพึงเป็นยอดมณี
ผ่องแผ้วสดสี เพชรดีมีหนึ่งในร้อยดวง
ความดี คนเรานี่ดีใด
ดีน้ำใจที่ให้แก่คนทั้งปวง
อภัย รู้แต่ให้ไป ไม่หวง
เจ็บทรวงหน่วงใจ ให้รู้ทน
รู้กลืนกล้ำ .... เลิศล้ำความเป็นยอดคน
======================================
เพลงหยาดเพชร
เปรียบ เธอเพชรงามน้ำหนึ่ง
หวาน ปานน้ำผึ้งเดือนห้า
หยาด เพชร เกล็ดแก้ว แวว ฟ้า
ร่วง มา จากฟ้า หรือไร
หยาด มาแล้วอย่าช้ำโศก
ปล่อย คนทั้งโลกร้องไห้
หยาด เพชร เกล็ด แก้ว ผ่อง ใส
นั้นอยู่ไกล เกิน ผูก พัน
แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า
ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหว หวั่น
ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์
มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย
เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว
เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่
หยาด เพชร หยาดละออง ผ่องใส
แม้นอยู่ใน ความ มืด มน
ดนตรี 8 Bars..6...7...
8...แม้ ยามเพชรหยาดจากฟ้า
ร่วงลงมา ฟ้าคง ไหวหวั่น
ดวงดาวก็พลอยเศร้า โศก ศัลย์
มิอาจกลั้น น้ำตา อา ลัย
เอื้อม มือคว้าหยาดเพชรแก้ว
เผลอ รักแล้วจึงฝันใฝ่
หยาด เพชร หยาดละออง ผ่อง ใส
แม้นอยู่ใน ความ มืด มน
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 9
:lol: :lol: :lol: :lol:
ต้องคนรุ่นโบราณหน่อยครับ ถึงจะรู้จักชื่อเพลงนี้ :lovl:
ผมก็รู้ครับ ชื่อเพลงหนึ่งในร้อยถูกต้องแล้ว เวลาลูกน้องแต่งงาน แล้วเราขึ้นไปร้องเพลงนี้... อื้อฮื้อ... ซึ้งครับทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว อิอิอิ
อืม....ขอทบทวนเรื่อง set หน่อยนะครับ
เท่าที่เห็นบ่อยๆตามคอลัมน์หนังสือพิมพ์หลายคนพูดว่า วันแรกที่เปิดตลาดปี 2518 set อยู่ที่ 100 นับจนถึงวันนี้ set อยู่ที่หกร้อยกว่าๆ ก็แปลว่าถ้าซื้อหุ้นเฉลี่ยทุกๆตัวแล้วถือยาวมาจนทุกวันนี้ มูลค่าก็เพิ่มขึ้นมา 600 กว่า % ถ้าบวกปันผลอีกก็น่าจะสูงพอสมควรทีเดียว
ผมว่า ไม่จริงครับ
market cap ปัจจุบันเป็นหกเท่ากว่าเมื่อเทียบกับปี 2518 อันนี้ จริง ครับ
market cap โตขึ้นขนาดนี้เพราะหลังจากเปิดตลาดแล้วมีหุ้นเข้าใหม่เยอะแยะไปหมด บางตัว market capก็เล็ก แต่หลายๆตัวmarket cap เบ้อเริ่มเทิ่ม เช่น PTT ADVANC และอื่นๆเยอะแยะไปหมด เลยทำให้ SET ปัจจุบันอยู่ที่ หกร้อยกว่า
ถ้าดูเฉพาะหุ้นที่เข้าตลาดเมื่อเริ่มต้นนับ set เป็นหนึ่งร้อย ซึ่งมีไม่กี่บริษัท( จำตัวเลขแน่นอนไม่ได้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ สามสิบกว่าบริษัท อาจจะผิดพลาดไปบ้าง แต่อยู่แถวๆนี้แหละ ปัจจุบันมีสี่ร้อยกว่าบริษัท ) set วันนี้จะไม่ถึงร้อยนะครับ ซึ่งแปลว่าถ้าเราถือหุ้นเหล่านั้นทุกตัวจนถึงวันนี้เราขาดทุนแหงๆ เท่าที่จำได้หุ้นดังในสมัยนั้นที่ดังมากๆ ได้แก่ บริษัทราชาเงินทุน ถึงวันนี้เจ๊งไปเรียบร้อยแล้วครับ market cap เป็นศูนย์ไปแล้วอ่ะ ปุ๋ยแห่งชาติก็ร่อแร่เต็มที
แต่อย่างไรก็ตามการถือหุ้นยาวๆก็เป็นสิ่งดี เพราะช่วยลดปัญหาความผันผวนได้มาก แต่ก็จะต้องถือหุ้นที่พื้นฐานดีๆ ถ้าหุ้นแย่ ยิ่งนานก็ยิ่งแย่ บัฟเฟตต์บอกว่า เวลาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับกิจการที่ดี แต่เป็นเพื่อนที่โหดร้ายมากสำหรับกิจการที่แย่
แต่ผมชอบเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นของน้องลูกอิสานนะ โดนใจหมดเลย
:lol: :lol: :lol: :lol:
ต้องคนรุ่นโบราณหน่อยครับ ถึงจะรู้จักชื่อเพลงนี้ :lovl:
ผมก็รู้ครับ ชื่อเพลงหนึ่งในร้อยถูกต้องแล้ว เวลาลูกน้องแต่งงาน แล้วเราขึ้นไปร้องเพลงนี้... อื้อฮื้อ... ซึ้งครับทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาว อิอิอิ
อืม....ขอทบทวนเรื่อง set หน่อยนะครับ
เท่าที่เห็นบ่อยๆตามคอลัมน์หนังสือพิมพ์หลายคนพูดว่า วันแรกที่เปิดตลาดปี 2518 set อยู่ที่ 100 นับจนถึงวันนี้ set อยู่ที่หกร้อยกว่าๆ ก็แปลว่าถ้าซื้อหุ้นเฉลี่ยทุกๆตัวแล้วถือยาวมาจนทุกวันนี้ มูลค่าก็เพิ่มขึ้นมา 600 กว่า % ถ้าบวกปันผลอีกก็น่าจะสูงพอสมควรทีเดียว
ผมว่า ไม่จริงครับ
market cap ปัจจุบันเป็นหกเท่ากว่าเมื่อเทียบกับปี 2518 อันนี้ จริง ครับ
market cap โตขึ้นขนาดนี้เพราะหลังจากเปิดตลาดแล้วมีหุ้นเข้าใหม่เยอะแยะไปหมด บางตัว market capก็เล็ก แต่หลายๆตัวmarket cap เบ้อเริ่มเทิ่ม เช่น PTT ADVANC และอื่นๆเยอะแยะไปหมด เลยทำให้ SET ปัจจุบันอยู่ที่ หกร้อยกว่า
ถ้าดูเฉพาะหุ้นที่เข้าตลาดเมื่อเริ่มต้นนับ set เป็นหนึ่งร้อย ซึ่งมีไม่กี่บริษัท( จำตัวเลขแน่นอนไม่ได้ น่าจะอยู่ที่ประมาณ สามสิบกว่าบริษัท อาจจะผิดพลาดไปบ้าง แต่อยู่แถวๆนี้แหละ ปัจจุบันมีสี่ร้อยกว่าบริษัท ) set วันนี้จะไม่ถึงร้อยนะครับ ซึ่งแปลว่าถ้าเราถือหุ้นเหล่านั้นทุกตัวจนถึงวันนี้เราขาดทุนแหงๆ เท่าที่จำได้หุ้นดังในสมัยนั้นที่ดังมากๆ ได้แก่ บริษัทราชาเงินทุน ถึงวันนี้เจ๊งไปเรียบร้อยแล้วครับ market cap เป็นศูนย์ไปแล้วอ่ะ ปุ๋ยแห่งชาติก็ร่อแร่เต็มที
แต่อย่างไรก็ตามการถือหุ้นยาวๆก็เป็นสิ่งดี เพราะช่วยลดปัญหาความผันผวนได้มาก แต่ก็จะต้องถือหุ้นที่พื้นฐานดีๆ ถ้าหุ้นแย่ ยิ่งนานก็ยิ่งแย่ บัฟเฟตต์บอกว่า เวลาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับกิจการที่ดี แต่เป็นเพื่อนที่โหดร้ายมากสำหรับกิจการที่แย่
แต่ผมชอบเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นของน้องลูกอิสานนะ โดนใจหมดเลย
:lol: :lol: :lol: :lol:
- wpong
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 10
คุณต.หยวนเปียวคิดว่าถ้าถือหุ้น WG จะสามารถสร้างผลตอบแทน IRR ได่ถึง 15 % เหรอครับ
ผมเองคิดว่าถ้าใช้เกณฑ์ที่น้องลูกอีสานแนะนำ .... จะตัดหุ้นดีๆในช่วงปี 44-46 เป็นอันมาก
หุ้น TURNAROUND หนี้เยอะ
หุ้น BGH น่าสงสัยในการให้ บ.ร่วมกู้ยืมเงินจำนวนมาก
OISHI รอให้มันแสดงความสามารถก็ไปใกลแล้ว
PTTEP ปีที่แสดงแนวโน้มดี จะมีค่าใช้จ่ายมาก เนื่องจากระบบบัญชีจะตัดค่าใช้จ่ายในการขุดเจาะทันที ถ้าหลุมนั้นไม่มีก๊าซ
SCC ขยายงานปิโตรเคมีมาก แต่กำไรน้อย
นอกจากนั้นจะทำให้เรารักหุ้นเราเกินจริงเช่น
ไม่ขาย TCB ตอนนที่มันโดนปั่นเกินจริง
ผมคิดว่านักลงทุน เหมือนพ่อครัว ...
พ่อครัวอาจไม่คิดก่อนว่าจะทำอาหารชนิดใด ...
เมื่อไปตลาดแล้วเจอของชนิดใด สด และถูก ก็จะคิดเมนูที่สุดยอดได้
พ่อครัวที่ดีจะเพิ่มมูลค่าของวัตถุดิบได้เสมอ
ของบางอย่างต้องกินตอนร้อน บางอย่างต้องทำให้เย็น ...
พ่อครัวที่ดีจะเข้าใจธาตุ โรค และของแสลง....
พ่อครัวที่ดีจะเข้าใจธรรมชาติของอาหาร และผู้ชิม ...
อาหารพื้นๆอย่างมาม่า หนมปัง เหมาะกับช่วงฟุบ
ชาเขียวแสนแพง เหมาะกับช่วงใกล้ฟุบกระมัง
ผมเองคิดว่าถ้าใช้เกณฑ์ที่น้องลูกอีสานแนะนำ .... จะตัดหุ้นดีๆในช่วงปี 44-46 เป็นอันมาก
หุ้น TURNAROUND หนี้เยอะ
หุ้น BGH น่าสงสัยในการให้ บ.ร่วมกู้ยืมเงินจำนวนมาก
OISHI รอให้มันแสดงความสามารถก็ไปใกลแล้ว
PTTEP ปีที่แสดงแนวโน้มดี จะมีค่าใช้จ่ายมาก เนื่องจากระบบบัญชีจะตัดค่าใช้จ่ายในการขุดเจาะทันที ถ้าหลุมนั้นไม่มีก๊าซ
SCC ขยายงานปิโตรเคมีมาก แต่กำไรน้อย
นอกจากนั้นจะทำให้เรารักหุ้นเราเกินจริงเช่น
ไม่ขาย TCB ตอนนที่มันโดนปั่นเกินจริง
ผมคิดว่านักลงทุน เหมือนพ่อครัว ...
พ่อครัวอาจไม่คิดก่อนว่าจะทำอาหารชนิดใด ...
เมื่อไปตลาดแล้วเจอของชนิดใด สด และถูก ก็จะคิดเมนูที่สุดยอดได้
พ่อครัวที่ดีจะเพิ่มมูลค่าของวัตถุดิบได้เสมอ
ของบางอย่างต้องกินตอนร้อน บางอย่างต้องทำให้เย็น ...
พ่อครัวที่ดีจะเข้าใจธาตุ โรค และของแสลง....
พ่อครัวที่ดีจะเข้าใจธรรมชาติของอาหาร และผู้ชิม ...
อาหารพื้นๆอย่างมาม่า หนมปัง เหมาะกับช่วงฟุบ
ชาเขียวแสนแพง เหมาะกับช่วงใกล้ฟุบกระมัง
- Eak71
- Verified User
- โพสต์: 344
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 12
ไม่ใช่หยาดเพชรครับ น่าจะเป็น "หนึ่งในร้อย"
หนึ่งในร้อย
คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล
ทำนอง สง่า อารัมภีร์
ขับร้อง สมจิต ตัดจินดา (บันทึกเสียงครั้งแรก พ.ศ. 2494 )
พราวแพรวอันดวงแก้วแวววาว
สดสีงาม หลายหลากมากนามนิยม
นิลกาฬ มุกดา บุษราคัมคม
น่าชม ว่างามเหมาะสมดี
เพลงหยาดเพชร Version ของวง BUTTERFLY ืที่นำมาร้องใหม่เมื่อเกือบ 20ปีก่อน ก็ใช้ได้นะครับท่านประธานเพลงหยาดเพชร
เปรียบ เธอเพชรงามน้ำหนึ่ง
หวาน ปานน้ำผึ้งเดือนห้า
หยาด เพชร เกล็ดแก้ว แวว ฟ้า
ร่วง มา จากฟ้า หรือไร
ผมว่าท่านประธานน่าจะขึ้นไปครวญเพลง หนึ่งในร้อย หรือ เพลง หยาดเพชร ในงานวันสัมนา Thaivi เพื่อเป็นการเปิดงานครับ
ฅนนอกกะลา&ตาสว่าง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 15
ไปหาเนื้อร้องฉบับเต็มมาได้แล้วครับ
หนึ่งในร้อย
(ดนตรี 4 Bars)..2...3...4
พราว แพรว อันดวงแก้วแวววาว สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม นิลกาฬ มุกดา บุษรา คัมคม น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี
เพชร..น้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี ผ่องแผ้วสดสี..เพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง
ความ ดี คนเรานี่ ดีใด ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน
รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย
(ดนตรี 8 Bars)..6...7...8
รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอย
ฟังเพลงเก่าๆเพราะๆ แล้วซึ้งและทึ่งนะครับ ว่าคนแต่งเค้าคิดแต่งได้อย่างไร ให้เป็นคำสละสลวยคล้องจอง และให้ข้อคิดที่ดี
อีกเพลงที่ชอบคือเพลง สาร์นรัก ที่รู้จักเพลงนี้เพราะพี่ครรชิต ของเราเคยแนะนำเอาไว้
เนื้อร้อง
สาส์นรัก ( C ) มัณฑนา โมรากุล
C ดนตรี 2 Bars.. 2...ในลักษณ์นี้ว่าน่าประหลาด เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า เหตุไฉนย่อท้อรอรา หรือจะกล้าแต่เพียงวาที เห็นแก้วแวววับที่จับจิต ไยไม่คิดอาจเอื้อมให้เต็มที่ เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี อันมณีหรือจะโลดไปถึงมือ อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ หรือแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี ดนตรี 8 Bars..6...7... 8...อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ หรือแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี .
แม้ว่านำมาร้องแล้วจะไม่เพราะเท่า แต่เนื้อร้องสวยงาม และให้ข้อคิดที่ดี เวลาที่รู้สึกเหนื่อยๆ ผมมักจะคิดถึงเนื้อเพลงนี้ (ตัดแปะเอาไว้ข้างฝาบ้าน) :lol: :lol:
หนึ่งในร้อย
(ดนตรี 4 Bars)..2...3...4
พราว แพรว อันดวงแก้วแวววาว สด สี งาม หลายหลากมากนาม นิยม นิลกาฬ มุกดา บุษรา คัมคม น่า ชม ว่างาม เหมาะสม ดี
เพชร..น้ำหนึ่ง งามซึ้ง จึงเป็น ยอดมณี ผ่องแผ้วสดสี..เพชรดี มีหนึ่งในร้อยดวง
ความ ดี คนเรานี่ ดีใด ดี น้ำ ใจที่ให้แก่คน ทั้งปวง อภัย รู้แต่ให้ไปไม่หวง เจ็บ ทรวง หน่วงใจให้รู้ ทัน
รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบ ผล ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอย
(ดนตรี 8 Bars)..6...7...8
รู้ กลืนกล้ำ เลิศล้ำ ความเป็น ยอดคน ชื่น ชอบตอบผล ร้อยคน มีหนึ่ง เท่านั้นเอย
ฟังเพลงเก่าๆเพราะๆ แล้วซึ้งและทึ่งนะครับ ว่าคนแต่งเค้าคิดแต่งได้อย่างไร ให้เป็นคำสละสลวยคล้องจอง และให้ข้อคิดที่ดี
อีกเพลงที่ชอบคือเพลง สาร์นรัก ที่รู้จักเพลงนี้เพราะพี่ครรชิต ของเราเคยแนะนำเอาไว้
เนื้อร้อง
สาส์นรัก ( C ) มัณฑนา โมรากุล
C ดนตรี 2 Bars.. 2...ในลักษณ์นี้ว่าน่าประหลาด เป็นเชื้อชาตินักรบกลั่นกล้า เหตุไฉนย่อท้อรอรา หรือจะกล้าแต่เพียงวาที เห็นแก้วแวววับที่จับจิต ไยไม่คิดอาจเอื้อมให้เต็มที่ เมื่อไม่เอื้อมจะได้อย่างไรมี อันมณีหรือจะโลดไปถึงมือ อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ หรือแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี ดนตรี 8 Bars..6...7... 8...อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ มิใช่ของตลาดที่อาจซื้อ หรือแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม ไม่คิดสอยมัวคอยดอกไม้ร่วง คงชวดดวงบุปผาชาติสะอาดหอม ดูแต่ภุมรินเที่ยวบินตอม จึงได้ออมอบกลิ่นสุมาลี .
แม้ว่านำมาร้องแล้วจะไม่เพราะเท่า แต่เนื้อร้องสวยงาม และให้ข้อคิดที่ดี เวลาที่รู้สึกเหนื่อยๆ ผมมักจะคิดถึงเนื้อเพลงนี้ (ตัดแปะเอาไว้ข้างฝาบ้าน) :lol: :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 16
ส่วนเรื่องการคำนวณดัชนี้ ผมเข้าใจดังนี้นะครับ
ณ.วันแรกที่เปิดตลาดปี 2518 ก็ตั้งเป็นวันฐานคือ 100 สมมุติว่ามีมูลค่าตลาดเริ่มต้น 1,000 ล้านบาท วันต่อมาหากมูลค่าตลาดเพิ่มเป็น 1,100 ล้านบาท ดัชนีก็จะเป็น 110 จุด
ในกรณีที่มีหุ้นเข้าใหม่ วันแรกจะไม่นำมาคิดรวมในดัชนี โดยจะใช้ราคาปิดวันแรกเป็นราคาฐาน(ราคาฐานคือ 100 เฉพาะหุ้นตัวนั้น) ในการคำนวณดัชนี ดังนั้นการนำหุ้นใหม่เข้ามาจะไม่มีผลต่อดัชนี ในวันแรก แต่วันต่อๆไปจะมีผล
คือสรุปว่าดัชนีเพิ่มขึ้นเกิดจาก การเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในตลาด แต่มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นมี 2 กรณีคือ ราคาหุ้นในตลาดเพิ่มขึ้น และมีหุ้นตัวใหม่เข้ามาในตลาด
ส่วนการที่มีหุ้นปิดกิจการหรือถอนออกไป ผมไม่ทราบว่าเค้าคำนวณดัชนีกันอย่างไร แต่คิดว่าน่าจะใช้หลักการเดียวกัน
ผมเข้าใจอย่างนี้นะครับพี่สามัญชน วานผู้รู้ตรวจทานด้วยครับ
อ่านในหนังสือคุณเวป จำได้เลาๆว่า ดัชนีดาวโจนน์หากนำเงินปันผลมารวมคำนวณในดัชนีด้วย จะทำให้ดัชนีสูงกว่าดัชนีในตลาดปัจจุบันไปหลายเท่าทีเดียว ดังนั้นในระยะยาวเงินปันผล มีผลต่อผลตอบแทนสูงมากเลยนะครับ
ณ.วันแรกที่เปิดตลาดปี 2518 ก็ตั้งเป็นวันฐานคือ 100 สมมุติว่ามีมูลค่าตลาดเริ่มต้น 1,000 ล้านบาท วันต่อมาหากมูลค่าตลาดเพิ่มเป็น 1,100 ล้านบาท ดัชนีก็จะเป็น 110 จุด
ในกรณีที่มีหุ้นเข้าใหม่ วันแรกจะไม่นำมาคิดรวมในดัชนี โดยจะใช้ราคาปิดวันแรกเป็นราคาฐาน(ราคาฐานคือ 100 เฉพาะหุ้นตัวนั้น) ในการคำนวณดัชนี ดังนั้นการนำหุ้นใหม่เข้ามาจะไม่มีผลต่อดัชนี ในวันแรก แต่วันต่อๆไปจะมีผล
คือสรุปว่าดัชนีเพิ่มขึ้นเกิดจาก การเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในตลาด แต่มูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นมี 2 กรณีคือ ราคาหุ้นในตลาดเพิ่มขึ้น และมีหุ้นตัวใหม่เข้ามาในตลาด
ส่วนการที่มีหุ้นปิดกิจการหรือถอนออกไป ผมไม่ทราบว่าเค้าคำนวณดัชนีกันอย่างไร แต่คิดว่าน่าจะใช้หลักการเดียวกัน
ผมเข้าใจอย่างนี้นะครับพี่สามัญชน วานผู้รู้ตรวจทานด้วยครับ
อ่านในหนังสือคุณเวป จำได้เลาๆว่า ดัชนีดาวโจนน์หากนำเงินปันผลมารวมคำนวณในดัชนีด้วย จะทำให้ดัชนีสูงกว่าดัชนีในตลาดปัจจุบันไปหลายเท่าทีเดียว ดังนั้นในระยะยาวเงินปันผล มีผลต่อผลตอบแทนสูงมากเลยนะครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 17
:lol: :lol: :lol: :lol:
อืม...เรื่องไหนที่ยังไม่เข้าใจ ทางแก้ก็คือ ต้องรีบทำความเข้าใจให้ได้โดยเร็ว ถ้าทิ้งไว้ มันอาจจะทำความเสียหายให้กับเราโดยที่เราไม่รู้ตัว
เรื่องดัชนี ไม่ยากเกินความสามารถน้องลูกอิสานหรอก พยายามอีกหน่อยน่า
:lol: :lol: :lol: :lol:
อืม...เรื่องไหนที่ยังไม่เข้าใจ ทางแก้ก็คือ ต้องรีบทำความเข้าใจให้ได้โดยเร็ว ถ้าทิ้งไว้ มันอาจจะทำความเสียหายให้กับเราโดยที่เราไม่รู้ตัว
เรื่องดัชนี ไม่ยากเกินความสามารถน้องลูกอิสานหรอก พยายามอีกหน่อยน่า
:lol: :lol: :lol: :lol:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 18
พี่สามัญชนก็เข้าใจผิดครับ ตลาดหลักทรัพย์วันนี้ มีมาร์เก็ตแค๊ปมากกว่า
วันเปิดตลาดเป็นพันๆ เท่าครับ (ไม่ใช่แค่ 6 เท่ากว่า) เนื่องจากหุ้นเข้าใหม่
แต่ที่พี่ลูกอิสานเข้าใจ เกือบถูกต้องแล้วครับ
ถ้าอยากให้ผลตอบแทนจากราคาอย่างเดยวเท่า SET INDEX จริงๆ ในวันแรกที่
เริ่มตลาด ต้องซื้อหุ้นทุกตัวในตลาดด้วยสัดส่วนเป็น % เท่ากันหมด แล้วถือไว้
จนกว่าจะมีการเพิกถอนหุ้นออกจากตลาด และมีหุ้นเพิ่มในตลาดด้วย
โดยขายหุ้นทั้งหมดที่ถูกเพิกถอนในวันนั้น
เมื่อมีหุ้นเข้าใหม่ ต้องขายหุ้นทุกตัวที่มีในตลาดเป็น % เทียบกับราคาปิดของ
ห้นตัวที่เข้าใหม่ เช่น ถ้ามูลค่าพอร์ตวันนี้ 1 ล้านล้าน มีหุ้นเข้าใหม่และปิดวัน
ที่เทรดวันแรกที่ 1 ล้านบาท ต้องขายตัวอื่นด้วยสัดส่วน 1/ล้าน แล้วเอาเงิน
มาซื้อหุ้นตัวใหม่ที่ราคาปิด
ผลตอบแทน (เฉพาะมูลค่าพอร์ตตามราคาตลาด) จะใกล้เคียงกับ SET INDEX พอดี
เพราะเมื่อมีหุ้นเข้าใหม่ เช่น TOP ไม่ได้แค่เอา มูลค่าตลาดหุ้น TOP ไปบวกครับ
แต่เป็นการเอาไปบวก แล้วหารด้วย market cap ที่ไม่นับ TOP แล้วเอาค่าที่
ได้ไปปรับ DIVISOR อีกทีหนึ่ง
การปรับ divisor คือวิธีการปรับให้ SET Index สะท้อนผลตอบแทนของ
การลงทุนทั้งตลาดมากที่สุด แต่แน่นอนว่า ไม่ได้ถูกต้อง 100%
ตัวอย่างเช่น ถ้าวันนี้หุ้นช้างเข้าตลาด และมี market cap 20% ของตลาด
ไม่ได้หมายความว่า SET Index จะบวก 20% ทันที
แต่ถ้าพรุ่งนี้หุ้นช้างราคาขยับบวกไป 10% แล้วหุ้นตัวอื่นไม่เปลี่ยนแปลง
SET Index จะบวก 2/120 = 1.67% ครับผม
วันเปิดตลาดเป็นพันๆ เท่าครับ (ไม่ใช่แค่ 6 เท่ากว่า) เนื่องจากหุ้นเข้าใหม่
แต่ที่พี่ลูกอิสานเข้าใจ เกือบถูกต้องแล้วครับ
ถ้าอยากให้ผลตอบแทนจากราคาอย่างเดยวเท่า SET INDEX จริงๆ ในวันแรกที่
เริ่มตลาด ต้องซื้อหุ้นทุกตัวในตลาดด้วยสัดส่วนเป็น % เท่ากันหมด แล้วถือไว้
จนกว่าจะมีการเพิกถอนหุ้นออกจากตลาด และมีหุ้นเพิ่มในตลาดด้วย
โดยขายหุ้นทั้งหมดที่ถูกเพิกถอนในวันนั้น
เมื่อมีหุ้นเข้าใหม่ ต้องขายหุ้นทุกตัวที่มีในตลาดเป็น % เทียบกับราคาปิดของ
ห้นตัวที่เข้าใหม่ เช่น ถ้ามูลค่าพอร์ตวันนี้ 1 ล้านล้าน มีหุ้นเข้าใหม่และปิดวัน
ที่เทรดวันแรกที่ 1 ล้านบาท ต้องขายตัวอื่นด้วยสัดส่วน 1/ล้าน แล้วเอาเงิน
มาซื้อหุ้นตัวใหม่ที่ราคาปิด
ผลตอบแทน (เฉพาะมูลค่าพอร์ตตามราคาตลาด) จะใกล้เคียงกับ SET INDEX พอดี
เพราะเมื่อมีหุ้นเข้าใหม่ เช่น TOP ไม่ได้แค่เอา มูลค่าตลาดหุ้น TOP ไปบวกครับ
แต่เป็นการเอาไปบวก แล้วหารด้วย market cap ที่ไม่นับ TOP แล้วเอาค่าที่
ได้ไปปรับ DIVISOR อีกทีหนึ่ง
การปรับ divisor คือวิธีการปรับให้ SET Index สะท้อนผลตอบแทนของ
การลงทุนทั้งตลาดมากที่สุด แต่แน่นอนว่า ไม่ได้ถูกต้อง 100%
ตัวอย่างเช่น ถ้าวันนี้หุ้นช้างเข้าตลาด และมี market cap 20% ของตลาด
ไม่ได้หมายความว่า SET Index จะบวก 20% ทันที
แต่ถ้าพรุ่งนี้หุ้นช้างราคาขยับบวกไป 10% แล้วหุ้นตัวอื่นไม่เปลี่ยนแปลง
SET Index จะบวก 2/120 = 1.67% ครับผม
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 19
แหะๆ คุณwpong รู้มาจากไหนครับwpong เขียน:คุณต.หยวนเปียวคิดว่าถ้าถือหุ้น WG จะสามารถสร้างผลตอบแทน IRR ได่ถึง 15 % เหรอครับ
สงสัยผมทำให้เข้าใจผิด
หุ้นไม่มืด = สว่าง
หุ้นสว่างเอ็กปอร์ต
พอดีเป็นหุ้นส่งออกอัญมณี แล้วตระกูลผู้ถือหุ้นใหญ่
ล้วนมีชื่อเป็นแก้วนพเก้า เช่น เพทาย มรกต ฯลฯ
แค่เห็นเข้ากับบทเพลงดีครับ :lol:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 20
ผมถืออยู่ 5 ตัวศิริศิลป์ วณิชยากร เขียน:ตอนนี้ยังไม่ได้หุ้น 1 ใน 100 เลยครับ กำลังค้นหาอยู่ครับ
แล้วพี่ ลูกอีสาน ค้นหาเจอหรือยังครับ
ตรงตามนิยามของหุ้น 1 ใน 100 พอดีครับ
แต่ปัญหาคือที่เลือกถือเนี่ย ไม่รู้ว่าจะเป็นหุ้นเพชรจริงๆหรือเปล่า
เพื่อนๆแต่ละท่านก็คงมีวิธีต่างๆกันไป ทำให้ถือหุ้นไม่เหมือนกัน
กาลเวลาและโชคบางส่วน เท่านั้นที่จะตัดสิน ว่าถูกหรือผิด ขาดทุนหรือกำไร กำไรน้อยหรือกำไรมาก...
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- Minesweeper
- Verified User
- โพสต์: 472
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 22
งั้นผมหาให้ตัวแรก
TPI ไงครับ
ปตท. จะซื้อใช้เกณฑ์เดียวกับพี่ลูกอิสานเลย คือ ผลตอบแทน 15%
TPI เลยได้เป็นหุ้นเพชร 1 ใน 100 ในสายตาของ ปตท.
แต่ที่ราคา 3.30 บาท นะครับ ไม่ใช่ราคาตลาดตอนนี้
:lol: :lol: :lol:
TPI ไงครับ
ปตท. จะซื้อใช้เกณฑ์เดียวกับพี่ลูกอิสานเลย คือ ผลตอบแทน 15%
TPI เลยได้เป็นหุ้นเพชร 1 ใน 100 ในสายตาของ ปตท.
แต่ที่ราคา 3.30 บาท นะครับ ไม่ใช่ราคาตลาดตอนนี้
:lol: :lol: :lol:
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 23
:lol: :lol: :lol: :lol:
พี่ CK wrote
:lol: :lol: :lol: :lol:
พี่ CK wrote
อืม....เข้าใจแล้วครับ เป็นอย่างนี้เอง ขอบคุณหลายๆครับเพราะเมื่อมีหุ้นเข้าใหม่ เช่น TOP ไม่ได้แค่เอา มูลค่าตลาดหุ้น TOP ไปบวกครับ แต่เป็นการเอาไปบวก แล้วหารด้วย market cap ที่ไม่นับ TOP แล้วเอาค่าที่ ได้ไปปรับ DIVISOR อีกทีหนึ่ง
:lol: :lol: :lol: :lol:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 24
อย่างคุณลูกอิสาน มีความรู้แน่นอนครับ อาจจะมากกว่าผมด้วย เลยหาบริษัทที่ดีได้มากกว่าผมลูกอิสาน เขียน: แต่ใครจะเลือกหุ้นแบบ 1 ใน 500 แบบพี่ฉัตรชัยก็ไม่ว่านะครับ
แต่ผมคงต้องขอตัวคนหนึ่ง เพราะความรู้+ใจยังไม่นิ่งพอครับ
ที่ผมลงทุนเพียงแค่บริษัทเดียว เป็นเพราะความรู้น้อยนะครับ แถมปอดไม่ค่อยดีครับ เป็นโรคปอดแ_กนะครับ เลยไม่ค่อยกล้าเสี่ยง
การลงทุนนั้น ผลตอบแทนจะมากหรือน้อย สิ่งที่สำคัญอีกประการคือระยะเวลาครับ
ถึงแม้เราลงทุนบริษัทที่ดี ในราคาที่ต่ำ แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร ราคาจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ถ้าซื้อวันนี้ เดือนหน้าราคาวิ่ง ก็สบายไป แต่บางครั้งซื้อมา 3 ปีกว่าแล้ว ราคายังไม่วิ่ง ผลตอบแทนก็คงไม่มากนัก
อีกประการนอกจากผลตอบแทนที่ดีแล้ว ผมว่าสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือความสบายใจครับ บริษัทที่ดีสำหรับนาย ก. อาจจะไม่ดีสำหรับนาย ข. ก็ได้ครับ ถ้านาย ข. ไม่มีความรู้ความเข้าใจในบริษัทเท่านาย ก. การลงทุนของนาย ข. ก็คงไม่มีความสุขและอาจจะได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดีเท่านาย ก.ก็ได้ครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 27
แหะ..แหะ.. :lol: :lol: เวลาที่ผ่านมาก็พิสูจน์ได้ระดับหนึ่งครับว่าchatchai เขียน: อย่างคุณลูกอิสาน มีความรู้แน่นอนครับ อาจจะมากกว่าผมด้วย เลยหาบริษัทที่ดีได้มากกว่าผม
ที่ผมลงทุนเพียงแค่บริษัทเดียว เป็นเพราะความรู้น้อยนะครับ แถมปอดไม่ค่อยดีครับ เป็นโรคปอดแ_กนะครับ เลยไม่ค่อยกล้าเสี่ยง
การลงทุนนั้น ผลตอบแทนจะมากหรือน้อย สิ่งที่สำคัญอีกประการคือระยะเวลาครับ
ถึงแม้เราลงทุนบริษัทที่ดี ในราคาที่ต่ำ แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร ราคาจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท ถ้าซื้อวันนี้ เดือนหน้าราคาวิ่ง ก็สบายไป แต่บางครั้งซื้อมา 3 ปีกว่าแล้ว ราคายังไม่วิ่ง ผลตอบแทนก็คงไม่มากนัก
อีกประการนอกจากผลตอบแทนที่ดีแล้ว ผมว่าสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือความสบายใจครับ บริษัทที่ดีสำหรับนาย ก. อาจจะไม่ดีสำหรับนาย ข. ก็ได้ครับ ถ้านาย ข. ไม่มีความรู้ความเข้าใจในบริษัทเท่านาย ก. การลงทุนของนาย ข. ก็คงไม่มีความสุขและอาจจะได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดีเท่านาย ก.ก็ได้ครับ
ผลตอบแทนผมยังตามหลังพี่ไม่เห็นฝุ่น ทั้งที่เริ่มลงทุนพร้อมๆกัน..
เห็นด้วยครับว่านักลงทุนส่วนใหญ่ ต้องการผลตอบแทนสูงสุด แต่ต่างกันที่ทุกคนรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน ผลตอบแทนต้องไปพร้อมกับความสบายใจที่จะถือลงทุนด้วยครับ
ส่วนผลตอบแทนเปรียบเทียบหุ้นกับทอง พี่วิบูลย์เคยเขียนประเด็นนี้ไว้แล้วนี่ครับ ผมจำตัวเลขไม่ได้ แต่หุ้นให้ปันผล รวมๆ แล้วน่าจะให้ผลตอบแทนมากกว่า และทองต้องมีค่าเก็บรักษาด้วย
เคยเข้าไปในเวปของกองทุนทิสโก้ มีการเปรียบเทียบผลตอบแทน สินทรัพย์ต่างๆ ในสหรัฐ 100 ปีที่ผ่านมา หุ้นให้ผลตอบแทนมากที่สุด และมากกว่าหลายสิบ ร้อยเท่าทีเดียว..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- wpong
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
เลือกหุ้นลงทุนแบบ 1 ใน 100
โพสต์ที่ 28
พอดีญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ท่านไม่มีความรู้เรื่องการลงทุน แต่ท่านชอบซื้อทอง... เช่าพระ ... ซื้อที่...
ถ้าผมซื้อหุ้น 100 บาท เมื่อปี 18 โดยมีสมมติฐานว่าซื้อได้ผลตอบแทนเท่า SET INDEX และจำนวนเงินปันผล มีค่าเท่ากับค่าคอมมิสชัน + เวลาในการติดตามข้อมูล
ณ.ปัจจุบัน ผลตอบแทนจากหุ้นประมาณ 670 บาท พร้อมกับความปวดหัวในช่วงปี่ 40 -46
แต่ถ้าผมซื้อทอง ผมคงมีเงินณ.ปัจจุบันประมาณ 893 บาท และไม่ต้องปวดหัว
ผมว่าแปลกดี อีกทั้งไม่แน่ใจว่า IRR ที่ 10 % ซึ่งน้อยคนจะทำได้ในตลาดหุ้นนี้ดีจริงหรือ
ผมไม่ได้ต้องการทำตัวขวางเพื่อนๆนะครับ เพียงแต่ผมคิดว่า... การลงทุนพื้นฐาน ธรรมดาๆ ในชีวิตประจำวัน บางอย่างดีกว่าซื้อหุ้นครับ
ถ้าผมซื้อหุ้น 100 บาท เมื่อปี 18 โดยมีสมมติฐานว่าซื้อได้ผลตอบแทนเท่า SET INDEX และจำนวนเงินปันผล มีค่าเท่ากับค่าคอมมิสชัน + เวลาในการติดตามข้อมูล
ณ.ปัจจุบัน ผลตอบแทนจากหุ้นประมาณ 670 บาท พร้อมกับความปวดหัวในช่วงปี่ 40 -46
แต่ถ้าผมซื้อทอง ผมคงมีเงินณ.ปัจจุบันประมาณ 893 บาท และไม่ต้องปวดหัว
ผมว่าแปลกดี อีกทั้งไม่แน่ใจว่า IRR ที่ 10 % ซึ่งน้อยคนจะทำได้ในตลาดหุ้นนี้ดีจริงหรือ
ผมไม่ได้ต้องการทำตัวขวางเพื่อนๆนะครับ เพียงแต่ผมคิดว่า... การลงทุนพื้นฐาน ธรรมดาๆ ในชีวิตประจำวัน บางอย่างดีกว่าซื้อหุ้นครับ
แก้ไขล่าสุดโดย wpong เมื่อ เสาร์ พ.ค. 21, 2005 10:31 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.