นิยามของ Value Investing ในแบบ ดร.นิเวศน์
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
นิยามของ Value Investing ในแบบ ดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 1
ในงานสัมมนาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตอนเย็น ที่ศูนย์ประชุมฯ ท่าน ดร.นิเวศน์ได้ให้นิยามของ Value Investing ไว้ด้วยครับ เดี๋ยวว่างๆ ผมจะมาแถลงให้ทราบ เผื่อว่าที่ผ่านมาหลายคนอาจเข้าใจผิด
ใครที่เข้าใจไว้อย่างไรลองมาโพสต์กันเล่นๆ ก่อนได้นะครับ โดยเฉพาะนักลงทุนแนว VI หน้าใหม่ๆ
ใครที่เข้าใจไว้อย่างไรลองมาโพสต์กันเล่นๆ ก่อนได้นะครับ โดยเฉพาะนักลงทุนแนว VI หน้าใหม่ๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
นิยามของ Value Investing ในแบบ ดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 2
หุ้นที่ผ่านร้อนผ่านหนาว เป็นเบอร์ 1-2 ของอุตสากรรมนั้นๆๆ
ต้องหาค่ามูลค่าพื้นฐานมันให้ได้ ถ้าเราไม่เข้าใจในกิจการนั้นๆๆ ก็ไม่ต้องไปสนใจหรือลงทุนมัน เช่น วอเรน ไม่มีความรู้เรื่องsoftware ของคอมพิวเตอร์เลย ก็เลยไม่ลงทุนในกิจการmicrosoft ที่เจริญเติบโต แบบก้าวกระโดด (โดดสูงกว่ากบซักอีก)
พยายามหาให้ได้ว่า หุ้นที่เราจะตะครุบนั้นดีแบบไหน
ต้องตีให้แตก ว่า มันสุดยอดทางด้านไหน หาให้ได้ว่า มันแข็งแกร่งเรื่องอะไร
ต้องศึกษาการตลาดของหุ้นที่จะเก็บว่า มันดีหรือแย่ในตอนนั้น ถึงเวลาที่จะซื้อเข้ามาลงทุนหรือเปล่า
มีโอกาสจะเจริญเติบโตต่อไปอีกหรือเปล่า เช่น โคคา โคลา ยอดขายในปัจจุบัน ยังไม่ได้เจาะเข้าตลาดที่จีน ถ้าเจาะเข้าจะเป็นอย่างไงล่ะ เป็นต้น หรือ กิจการในการเช่าซื้อรถยนต์ ในช่วงวิกฤติ คนไม่ค่อยซื้อ แต่มันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้งาน (มันคือปัจจัยที่ห้าของคนในเมืองไปแล้ว) ก็เห็นโอกาสว่ามันกำลังจะ เติบโตต่อไปในอนาคต อันนี้ก็ซื้อเก็บไว้เป็นต้น
ต้องดูว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ น่าเชื่อถือขนาดไหน
การขายก็ต้องดี ในลักษณะเพิ่มขึ้นแบบเฉลี่ยๆๆทุกปี จะมาจะน้อยกว่าเฉลี่ยก็ไม่เป็นไร
กำไรต้องมีสม่ำเสมอ ในอัตราเดียวกันค่าเฉลี่ย
การถือครอง ต้องคิดว่าถือครองแล้วขุดไว้ในหลุม แล้วอีก 5 ปี ก็เอาขึ้นมาดูว่าเป็นไงบ้าง เหมือนกับพี่jengได้โพสไว้ในกระทู้ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เพราะว่าถ้ามันดีจริง มันต้องไม่มีอาการ หรือมีอาการเซ ไม่ถึงกลับต้องไปนอนให้น้ำเกลือในโรงพยาบาล (หมวดฟื้นฟู)
ในความคิดถ้าทำได้แบบนี้ ก็rich manเลย
แต่ข้อแย้งนิดหน่อย ว่าคนเรามันมี รัก โลภ โกรธ หลง มันอาจจะทำได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่สุดเท่านั้นเอง
ต้องหาค่ามูลค่าพื้นฐานมันให้ได้ ถ้าเราไม่เข้าใจในกิจการนั้นๆๆ ก็ไม่ต้องไปสนใจหรือลงทุนมัน เช่น วอเรน ไม่มีความรู้เรื่องsoftware ของคอมพิวเตอร์เลย ก็เลยไม่ลงทุนในกิจการmicrosoft ที่เจริญเติบโต แบบก้าวกระโดด (โดดสูงกว่ากบซักอีก)
พยายามหาให้ได้ว่า หุ้นที่เราจะตะครุบนั้นดีแบบไหน
ต้องตีให้แตก ว่า มันสุดยอดทางด้านไหน หาให้ได้ว่า มันแข็งแกร่งเรื่องอะไร
ต้องศึกษาการตลาดของหุ้นที่จะเก็บว่า มันดีหรือแย่ในตอนนั้น ถึงเวลาที่จะซื้อเข้ามาลงทุนหรือเปล่า
มีโอกาสจะเจริญเติบโตต่อไปอีกหรือเปล่า เช่น โคคา โคลา ยอดขายในปัจจุบัน ยังไม่ได้เจาะเข้าตลาดที่จีน ถ้าเจาะเข้าจะเป็นอย่างไงล่ะ เป็นต้น หรือ กิจการในการเช่าซื้อรถยนต์ ในช่วงวิกฤติ คนไม่ค่อยซื้อ แต่มันเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้งาน (มันคือปัจจัยที่ห้าของคนในเมืองไปแล้ว) ก็เห็นโอกาสว่ามันกำลังจะ เติบโตต่อไปในอนาคต อันนี้ก็ซื้อเก็บไว้เป็นต้น
ต้องดูว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ น่าเชื่อถือขนาดไหน
การขายก็ต้องดี ในลักษณะเพิ่มขึ้นแบบเฉลี่ยๆๆทุกปี จะมาจะน้อยกว่าเฉลี่ยก็ไม่เป็นไร
กำไรต้องมีสม่ำเสมอ ในอัตราเดียวกันค่าเฉลี่ย
การถือครอง ต้องคิดว่าถือครองแล้วขุดไว้ในหลุม แล้วอีก 5 ปี ก็เอาขึ้นมาดูว่าเป็นไงบ้าง เหมือนกับพี่jengได้โพสไว้ในกระทู้ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เพราะว่าถ้ามันดีจริง มันต้องไม่มีอาการ หรือมีอาการเซ ไม่ถึงกลับต้องไปนอนให้น้ำเกลือในโรงพยาบาล (หมวดฟื้นฟู)
ในความคิดถ้าทำได้แบบนี้ ก็rich manเลย
แต่ข้อแย้งนิดหน่อย ว่าคนเรามันมี รัก โลภ โกรธ หลง มันอาจจะทำได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่สุดเท่านั้นเอง
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
นิยามของ Value Investing ในแบบ ดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 3
:lol: :lol: :lol: :lol:
ตามนิยามตรงไปตรงมาครับ หุ้น VI ก็คือหุ้นที่มีคุณค่ามากเมื่อเทียบกับราคาที่ซื้อ
:lol: :lol: :lol: :lol:
ตามนิยามตรงไปตรงมาครับ หุ้น VI ก็คือหุ้นที่มีคุณค่ามากเมื่อเทียบกับราคาที่ซื้อ
:lol: :lol: :lol: :lol:
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
นิยามของ Value Investing ในแบบ ดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 8
อันนี้ใกล้เคียงกับที่ ดร. บอกมากที่สุดสามัญชน เขียน::lol: :lol: :lol: :lol:
ตามนิยามตรงไปตรงมาครับ หุ้น VI ก็คือหุ้นที่มีคุณค่ามากเมื่อเทียบกับราคาที่ซื้อ
:lol: :lol: :lol: :lol:
ดร.ท่านบอกว่า
VI ไม่ใช่การซื้อหุ้นที่มีการจ่ายปันผลในระดับสูง
VI ไม่ใช่การถือหุ้นแล้วนอนกอดไว้นานๆ
VI ไม่ใช่การซื้อหุ้นที่มี P/E หรือ P/BV ต่ำๆ
แต่ VI คือการเข้าซื้อหุ้นเมื่อคิดว่ามัน undervalue อยู่และมี margin of safety ในระดับที่ผู้ลงทุนรับได้ แค่นั้นเอง....
หุ้นดี หุ้นเน่า มันก็มี value ของมัน เพียงแต่ว่าแต่ละคนจะตีมูลค่ามันเท่าไร
หุ้นดี บางทีก็ไม่น่าซื้อ
หุ้นเน่า บางทีกลับน่าซื้อ
ส่วนวิธีประเมินมูลค่า ท่าน ดร. บอกกลายๆ ว่าแล้วแต่ถนัดครับ
อ้อ... ท่านมีบอกอีกอย่างครับ ว่าอย่าไปเชื่อนักเศรษฐศาสตร์มาก มัน "มั่ว" ทั้งน้านนนน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
นิยามของ Value Investing ในแบบ ดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 9
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ดร.ท่านบอกว่า
VI ไม่ใช่การซื้อหุ้นที่มีการจ่ายปันผลในระดับสูง
VI ไม่ใช่การถือหุ้นแล้วนอนกอดไว้นานๆ
VI ไม่ใช่การซื้อหุ้นที่มี P/E หรือ P/BV ต่ำๆ
คือ
VI ไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้นที่มีการจ่ายปันผลในระดับสูง
VI ไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้นแล้วนอนกอดไว้นานๆ
VI ไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้นที่มี P/E หรือ P/BV ต่ำๆ
คือถ้าซื้อ ปันผลสูง กอดไว้นานๆ หรือซื้อ P/E ต่ำ หรือ P/BV ต่ำก็ไม่ได้ผิดอะไร ขอให้ ซื้อหุ้นเมื่อคิดว่ามัน undervalue อยู่และมี margin of safety ในระดับที่ผู้ลงทุนรับได้ แค่นั้นเอง....
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
นิยามของ Value Investing ในแบบ ดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 10
วิ ของท่าน ดร.คงเหมือนคุณสามัญชน ให้ความหมายสามัญชน เขียน::lol: :lol: :lol: :lol:
ตามนิยามตรงไปตรงมาครับ หุ้น VI ก็คือหุ้นที่มีคุณค่ามากเมื่อเทียบกับราคาที่ซื้อ
:lol: :lol: :lol: :lol:
วิในสายตาของคนที่ไม่ใช่วิ
แต่ถือหุ้นนานหลายปี
คงยังมีมีตัวเลือกที่ดีกว่า เลยถือไว้(ยังไม่เห็นเป้าหมายใหม่)
ก๊อปวิ(อยากเป็นวิ)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
นิยามของ Value Investing ในแบบ ดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 11
มีคำถามครับแต่ VI คือการเข้าซื้อหุ้นเมื่อคิดว่ามัน undervalue อยู่และมี margin of safety ในระดับที่ผู้ลงทุนรับได้ แค่นั้นเอง....
แล้วถ้าหุ้นที่ซื้อตอน undervalue แล้ว value มันค่อยๆ ลดลงนี่
ถือว่าเป็นหุ้น value หรือเปล่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
นิยามของ Value Investing ในแบบ ดร.นิเวศน์
โพสต์ที่ 12
อันนี้ต้องถาม ดร. นิเวศดูเอาเองล่ะกันแล้วถ้าหุ้นที่ซื้อตอน undervalue แล้ว value มันค่อยๆ ลดลงนี่
ถือว่าเป็นหุ้น value หรือเปล่าครับ
ท่านก็เจอเหมือนกัน แต่เป็นของอากู๋
ตอนนี้เราเองก็เจอมาเหมือนกัน แต่ดูใจมันอยู่ ผลประกอบการก็Okแต่ ต้นทุนเพิ่มเท่านั้นเองจากน้ำมัน
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1