เพื่อนๆพี่ๆ ประเมินมูลค่าหุ้นจากอะไรหรือครับ
1) ประเมิน จาก ปันผลคิดลด เราก็ต้องดูแนวโน้มธุรกิจเราว่ากำไรจะไปได้แค่ไหน น่าจะจ่ายปันผลเท่าไหร่ แล้วเทียบกับผลตอบแทนที่หวัง ผมเคยลองทำแล้วครับ ผลตอบแทนคาดหวังที่ 8-10% แต่ดูเหมือนถ้าคำนวณด้วยวิธีนี้ ไม่น่าจะซื้อหุ้นได้เลย นอกจากวิกฤติจริงๆ ครับ
2) ประเมินจาก กำไรต่อหุ้น ก็ลำบากตรงที่กำไรต่อหุ้นจะขึ้นๆลงลง ไม่แน่นอน
3) ประเมินจากงบการเงิน ด้านงบดุล ผมก็ไม่ทราบว่าจะคิดเผื่อหนี้สูญอบ่างไรจึงเหมาะสม คิดเสื่อมค่าอย่างไรจึงเหมาะสม ด้านงบกำไรขาดทุนก็ไม่ทราบว่าได้ กำไรต่อหุ้นแล้วควร ใช้อัตรา P/E อย่างไรจึงสมควร
นี่เป็นจุดอ่อนที่สุดในการลงทุนจริงๆ เพราะว่าไม่รู้ว่ามูลค่าที่แท้จริงเป็นอย่างไร รู้สึกว่าที่คิดอยู่จะผิดและผมคงหลงทางจริงๆแหล่ะครับ ขอโทษที่พูดเพ้อเจ้อ แต่ว่าขอคำแนะนำด้วยขอรับ
เรื่องนี้มีคนถามมากแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้(แต่ผมก็ยังไม่รู้)
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
เรื่องนี้มีคนถามมากแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้(แต่ผมก็ยังไม่รู้)
โพสต์ที่ 2
ตอนนี้ผมคิดจาก pe ครับ .. ก่อนหน้านี้ก็เคยลองมาหลายอย่างมาก
วิธียากๆทั้งหลาย รู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะได้ผลอย่างมีนับสำคัญเท่าไหร่
เลยขอใช้การประเมินแบบง่ายๆ แล้วเอาเวลาที่เหลือไปศึกษาธุรกิจให้เยอะๆดีกว่า
เวลาประเมินก็เอา e ใน 1 ปีข้างหน้าคูณกับ pe ที่เหมาะสมกับหุ้นนั้นๆ
pe ที่เหมาะสมก็เอาจาก pe ที่เทรดกันในอดีตและปัจจุบัน แล้วก็เทียบกับการเติบโตของกำไร แล้วคิดให้น้อยๆไว้ก่อน
อย่างเช่นหุ้นที่เทรดกันที่ pe 15-20 มานานกำไรโตสูงมากและมีแนวโน้มสูงต่อไป
ผมก็ให้ pe แค่ 10-12 ไม่ได้ให้เยอะเหมือนนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ เอาปลอดภัยไว้ก่อนครับ
จุดที่ยากไม่ใช่วิธีคำนวณมูลค่าหุ้นครับ แต่ยากที่สุดตรงการหาค่า e ในอนาคต
ประเมิน e ให้น้อยไว้ pe ให้น้อยไว้ .. จับมาคูณกันแล้วหุ้นยังน่าซื้อ แบบนี้ซื้อไม่ต้องคิดเลยครับ
วิธียากๆทั้งหลาย รู้สึกว่ามันไม่ค่อยจะได้ผลอย่างมีนับสำคัญเท่าไหร่
เลยขอใช้การประเมินแบบง่ายๆ แล้วเอาเวลาที่เหลือไปศึกษาธุรกิจให้เยอะๆดีกว่า
เวลาประเมินก็เอา e ใน 1 ปีข้างหน้าคูณกับ pe ที่เหมาะสมกับหุ้นนั้นๆ
pe ที่เหมาะสมก็เอาจาก pe ที่เทรดกันในอดีตและปัจจุบัน แล้วก็เทียบกับการเติบโตของกำไร แล้วคิดให้น้อยๆไว้ก่อน
อย่างเช่นหุ้นที่เทรดกันที่ pe 15-20 มานานกำไรโตสูงมากและมีแนวโน้มสูงต่อไป
ผมก็ให้ pe แค่ 10-12 ไม่ได้ให้เยอะเหมือนนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ เอาปลอดภัยไว้ก่อนครับ
จุดที่ยากไม่ใช่วิธีคำนวณมูลค่าหุ้นครับ แต่ยากที่สุดตรงการหาค่า e ในอนาคต
ประเมิน e ให้น้อยไว้ pe ให้น้อยไว้ .. จับมาคูณกันแล้วหุ้นยังน่าซื้อ แบบนี้ซื้อไม่ต้องคิดเลยครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- มือเก่าหัดขับ
- Verified User
- โพสต์: 1112
- ผู้ติดตาม: 0
เรื่องนี้มีคนถามมากแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้(แต่ผมก็ยังไม่รู้)
โพสต์ที่ 3
- ผู้บริหาร ต้องเป็นคนดีก่อน แล้วเป็นคนเก่งด้วย เก่งแล้วชั่วไม่เอา เพราะสร้างความ
เดือดร้อนเสียหายได้มากมายทวีคูณ
- ความสามารถในการแข่งขัน (ยี่ห้อ, ความนิยม) สัมปทาน ของจำเป็น
- ความสามารถในการทำกำไร ในระยะยาว แล้ว....
- p/e ต่ำๆ ก็จะตามมาเอง (ต่ำกว่า 10 ก็ดี แต่ถ้ามั่นคงมากๆ จะสูงกว่าหน่อยก็โอเค)
- ปันผล อันนี้เป็นสิ่งเดียวที่จะได้รับตอบแทนในรูปตัวเงิน แม้นตลาดปิดไป ก็ยังคง
ได้รับอยู่อ่ะ ขอแค่สามเท่าของดอกเบี้ย ธ. แล้วก็จ่ายตลอด ประเภท p/e ต่ำแต่บ่จี๊
ไม่มีเงินสด (คืออำนาจ และโอกาส) ในมือ ก็ไม่ไหวจ้ะ
สรุปคือ ไม่ได้ประเมินเป็น Objective เท่าไร เพราะตัวเลขพวกนั้น โบร๊กคิดให้แล้ว
แม้จะคิดเป็น ก็ไม่ต้องคิดเอง เพียงแต่เช็คที่เขาคิดอีกที ว่ามันเข้าท่าหรือเปล่าก็พอ
เดือดร้อนเสียหายได้มากมายทวีคูณ
- ความสามารถในการแข่งขัน (ยี่ห้อ, ความนิยม) สัมปทาน ของจำเป็น
- ความสามารถในการทำกำไร ในระยะยาว แล้ว....
- p/e ต่ำๆ ก็จะตามมาเอง (ต่ำกว่า 10 ก็ดี แต่ถ้ามั่นคงมากๆ จะสูงกว่าหน่อยก็โอเค)
- ปันผล อันนี้เป็นสิ่งเดียวที่จะได้รับตอบแทนในรูปตัวเงิน แม้นตลาดปิดไป ก็ยังคง
ได้รับอยู่อ่ะ ขอแค่สามเท่าของดอกเบี้ย ธ. แล้วก็จ่ายตลอด ประเภท p/e ต่ำแต่บ่จี๊
ไม่มีเงินสด (คืออำนาจ และโอกาส) ในมือ ก็ไม่ไหวจ้ะ
สรุปคือ ไม่ได้ประเมินเป็น Objective เท่าไร เพราะตัวเลขพวกนั้น โบร๊กคิดให้แล้ว
แม้จะคิดเป็น ก็ไม่ต้องคิดเอง เพียงแต่เช็คที่เขาคิดอีกที ว่ามันเข้าท่าหรือเปล่าก็พอ
คนอื่นเขาสะสมอย่างอื่น เราขอสะสมความดี, ความรู้, ประสบการณ์, เงินทอง, กับหุ้นก็แล้วกัน
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ
http://www.muegao.blogspot.com หุ้น การเงิน การลงทุน ธุรกิจ