พี่ขุนอินเพิ่งเตือนเมื่อเช้า ตอนนี้ขึ้นหน้า1 ฐานเศรษฐกิจแล้ว
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ขุนอินเพิ่งเตือนเมื่อเช้า ตอนนี้ขึ้นหน้า1 ฐานเศรษฐกิจแล้ว
โพสต์ที่ 1
มีใครอยากเก็บอะไร ก็มองๆกันได้ครับ จะเป็นมหกรรมลดราคาหรือเปล่า อันนี้ต้องรอดูครับ
http://www.thannews.th.com/detialNews.p ... issue=2019
4,000โรงงานระส่ำ 'อีสเทิร์น'วิกฤติน้ำ
โรงงานย่านนิคมฯ"อีสเทิร์นซีบอร์ด"พื้นที่ระยอง-ชลบุรี ป่วนหนัก วิกฤตน้ำถล่มซ้ำ ระบุบางนิคมฯถึงขั้นให้โรงงานต้องจัดหาน้ำมาใช้เอง เดทไลน์ถึงปลายเดือนก.ค.นี้ หากผลไม่ตกอีก เชื่อหลายโรงงานถึงขั้นต้องหยุด-ลดกำลังผลิตลงชั่วคราว ด้านเอกชนหวั่นสูญเสียโอกาสผลิตและส่งออก ขณะที่อีสต์วอเตอร์ โบ้ยประชาชน-โรงงานใช้น้ำมากกว่าทุกปี
สืบเนื่องจาก"ฐานเศรษฐกิจ" ได้รายงานและเกาะติดปัญหาภัยแล้งมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบันถือว่าเป็นอีกช่วงในรอบหลายสิบปี ที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับภาวะภัยแล้งยาวนานที่สุด สร้างความเดือดร้อนไปทั่วทุกหัวระแหง ทั้งในภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม ล่าสุดวิกฤตน้ำได้ลุกลามส่งผลกระทบต่อกลุ่มอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออกหรือ"อีสเทิร์นซีบอร์ด" ขึ้นแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี เจอปัญหาหนักที่สุด เมื่อน้ำไม่พอใช้ในกระบวนการผลิต
-4,000โรงงานป่วนรอฝนชี้ชะตา
อย่างไรก็ตามจากการสำรวจของ"ฐานเศรษฐกิจ" และจากการสอบถามผู้ประกอบการรวมถึงการเก็บข้อมูลอุตสาหกรรมจังหวัดระยองและชลบุรี พบว่าขณะนี้โรงงานในจังหวัดระยองที่มีอยู่ประมาณ 1,450 แห่ง ที่จังหวัดชลบุรีอีกกว่า 2,000 แห่ง ส่วนใหญ่จะต้องพึ่งพาการใช้น้ำในอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และดอกกรายนั้น ขณะนี้เริ่มประสบชะตากรรมน้ำไม่พอใช้ เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเหือดแห้ง พร้อมกับโอดครวญถึงภาครัฐว่าทำงานซ้ำซาก แก้ปัญหาน้ำในอีสเทริ์นซีบอร์ดไม่ตก
สอดคล้องกับกลุ่มทุนข้ามชาติรายหนึ่งที่ระบุว่าโรงงานทั้งหมดจะต้องใช้น้ำในการผลิต เมื่อมีการขอร้องให้เลื่อนการปิดซ่อมบำรุงเครื่องจักรประจำปีจากภาครัฐจากช่วงคริสต์มาสมาเป็นช่วงนี้ ถึงกับทำให้บริษัทสัญชาติฝรั่งถึงกับอึ้ง เมื่อเริ่มรู้ว่าภาวะวิกฤตน้ำดังกล่าวรุนแรงกว่าที่คิดไว้มาก
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากกลุ่มผู้ผลิตอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอีกรายหนึ่งในจังหวัดระยอง กล่าวเช่นกันว่า อุตสาหกรรมปิโตรเคมี เป็นอีกอุตสาหกรรมที่ต้องใช้น้ำในกระบวนการผลิตค่อนข้างมาก โดยเฉพาะที่จังหวัดระยอง ถือเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมดังกล่าว ผู้ประกอบการแต่ละรายต่างมีความวิตกกังวลว่า หากฝนไม่ตก หรือน้ำไม่ไหลลงอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งดังกล่าว ก็จะเป็นปัญหาใหญ่ตามมาอย่างแน่นอน
"คาดการณ์ว่าภายในวันที่ 15 กรกฏาคม 2548 นี้ก็น่าจะรู้ผลว่าปริมาณน้ำในอ่างทั้ง2แห่งจะมีเพียงพอหรือไม่ และจะมีโรงงานไหนบ้าง โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่จะต้องมีการหยุดผลิต หรือลดการผลิตลงเป็นการชั่วคราว หลังจากที่ปริมาณน้ำอยู่ในระดับที่ต่ำสุดแล้วในเวลานี้"
-ดิ้นสุดทางถึงขั้นลดกำลังผลิต-รีไซเคิลน้ำ
นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า เวลานี้หลายโรงงานใช้วิธีบำบัดน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงบางรายก็ได้ตัดสินใจ ลดกำลังผลิตลงแล้ว ซึ่งปัญหานี้ภาครัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ต้องการให้เกิดกระแสข่าวขาดน้ำออกไปแบบคึกโครม เพราะจะเป็นเรื่องของภาพพจน์การลงทุน โดยเฉพาะพื้นที่ลงทุนในอีสเทิร์นซีบอร์ด ที่เป็นยุทธศาสตร์การลงทุนของทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นพื้นที่ลงทุนที่มีศักยภาพที่สุด มีความพร้อมในระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ
"จะเห็นว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการพัฒนาที่ดินเพื่อตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และเป็นศูนย์กลางการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และปิโตรเคมี ที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาลที่มีการลงทุนมาก และใช้เงินลงทุนสูง"
-นิคมฯมาบตาพุดคุมเข้มรง.ใช้น้ำฟุ่มเฟือย
แหล่งข่าวจากบริษัท อัลลายแอนซ์ รีไฟน์นิ่ง จำกัด ผู้บริหารโรงกลั่นน้ำมันระยอง และโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง หรือเออาร์ซี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางนิคมอุตสาหกรรมได้กำชับให้โรงงานที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันระยองและสตาร์ปิโตรเลียมฯ ให้ประหยัดการใช้น้ำมันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้กระทั่งเวลานี้น้ำรดต้นไม้ก็ต้องชะลอการใช้น้ำออกไปหรือไม่มีการรดเลยในช่วงนี้ และให้แต่ละโรงงานมีการจัดเตรียมวางแผนในการหาน้ำมาใช้ในขบวนการผลิตเอง ด้วยวิธีการต่างๆ เท่าที่จะทำได้หากเกิดวิกฤตที่เลวร้ายจริงๆ โดยมีการพูดถึงหากจำเป็นก็ต้องขนน้ำบรรทุกใสเรือจากที่อื่นมาใช้
"ทราบว่าขณะนี้ทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)อยู่ระหว่างวางแผนรองรับไว้หากเกิดการขาดแคลนน้ำจริงๆ จะให้แต่ละโรงงานลดกำลังการผลิตลง ที่จะกำหนดว่าโรงงานไหนจะเริ่มลดกำลังการผลิตก่อน และหากวิกฤตจริงๆ จนถึงขั้นต้องปิดโรงงาน ก็จะกำหนดให้โรงงานไหนต้องปิดก่อน ซึ่งเวลานี้ทุกฝ่ายกำลังประสานงานกันและหาทางออกในเรื่องนี้อยู่"
-กนอ.เสนอลดใช้น้ำเพิ่มเป็น40%
นายพีระวัฒน์ รุ่งเรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้มีการตั้งศูนย์ภัยแล้งและสนับสนุนปฏิบัติการฝนหลวงขึ้นมาเพื่อรับมือกับวิกฤตการขาดแคลนน้ำในเวลานี้แล้ว โดยได้มีการเชิญผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมใกล้เคียงกว่า 60 ราย มาหารือเพื่อวางแผนการใช้น้ำจากเดิมที่มีอยู่ ซึ่งในเวลานี้แผนได้ออกมาแล้วว่าจะตั้งเป้าลดการใช้น้ำลงจาก10% เพิ่มเป็น 40 % โดยขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมประเภทไหนที่ลดได้มากน้อยแตกต่างกันไป
ซึ่งจากผลจากลดการใช้น้ำ10-40% นั้น จะส่งผลกระทบให้โรงงานต่างๆ ต้องลดกำลังการผลิตของตนเองลงด้วย ตามปริมาณการใช้น้ำที่ลดลง และยังได้ประสานงานไปที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เตรียมจัดหาปริมาณไฟฟ้าจากแหล่งอื่นเข้ามาเสริม กรณีที่โรงไฟฟ้าระยองขนาด 700 เมกะวัตต์ ต้องลดกำลังการผลิตลงด้วย และได้ขอให้โรงงานใดที่มีแผนหยุดการซ่อมบำรุงประจำปีช่วงปลายปีนี้ ให้มาดำเนินงานในช่วงนี้แทนเพื่อเป็นการลดใช้น้ำได้ทางหนึ่ง รวมถึงการเพิ่มน้ำในอ่างที่ได้มีการระดมการทำฝนเทียม และหากจำเป็นจะมีการเสนอให้ภาครัฐอนุญาตให้โรงงานขุดเจาะบ่อบาดาลใช้เองได้
เขายังกล่าวย้ำอีกว่า ในวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายนนี้ จะมีการเสนอแผนดังกล่าวให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองรับทราบ ซึ่งในระยะนี้ได้กลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ๆ เช่น โรงกลั่นน้ำมัน ไฟฟ้า และปิโตรเคมี ได้เริ่มที่จะลดกำลังการผลิตลงแล้ว แต่ในส่วนของโรงกลั่นน้ำมันอาจจะต้องมีการพิจารณาเป็นพิเศษ เนื่องจากหากลดกำลังการผลิตที่มากเกินควรจะกระทบต่อปริมาณการจัดหาน้ำมันของประเทศได้ ซึ่งต้องดูเป็นพิเศษ
-หวั่นเสียโอกาสผลิตและส่งออก
แหล่งข่าวจากบริษัท เอเพ็ค ปิโตรเคมีคอล จำกัด ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซี หนึ่งในโรงงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ระยองเช่นเดียวกัน กล่าวว่า ขณะนี้ซัพพายเออร์ที่ป้อนวัตถุดิบ ให้กับบริษัทในญี่ปุ่น รู้แล้วว่าโรงงานผลิตพีวีซีในประเทศไทยเผชิญปัญหาวิกฤติน้ำขาดแคลน จึงลังเลว่าจะส่งวัตถุดิบให้กับลูกค้าในประเทศไทยได้เท่าไหร่ เนื่องจากไม่มั่นใจว่าการบริโภควัตถุดิบที่ต้องพึ่งพาการนำเข้า เช่น ไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์(วีซีเอ็ม)จะลดลงหรือไม่ จากปัจจุบันจะมีการนำเข้ามาใช้ประมาณ 70,000-100,000 ตัน/ปี
นอกจากนี้ยังมองว่าปัญหาการขาดน้ำควรจะประกาศออกมาให้ชัดเจนล่วงหน้า ถึงภาวะขาดแคลนและมาตรการตั้งรับ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต และการส่งออก เพื่อที่โรงงานอุตสาหกรรมจะได้รับมือและเตรียมชี้แจงกับลูกค้าในต่างประเทศได้ล่วงหน้า กรณีที่มีการหยุดผลิต หรือลดการผลิตลงชั่วคราว เพราะออเดอร์ส่วนใหญ่เป็นการสั่งซื้อล่วงหน้า เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการศูนย์เสียโอกาสการลงทุนและการตลาด เพราะการลดการใช้น้ำลง เท่ากับว่าต้องลดการผลิตลงด้วยอย่างแน่นอน แหล่งข่าวกล่าว
-นิคมฯเหมราชเคลียร์ลูกค้าในพ.ท.
นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ตลอด 10 ปีที่เข้ามาบริหารงานในนิคมเหมราชฯ ไม่เคยเผชิญกับวิกฤติขาดแคลนน้ำในภาคอุตสาหกรรมหนักและยาวนานอย่างในปีนี้ อย่างไรก็ดีเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ทางเหมราชฯ ก็ได้เตรียมการวางแผนรับมือไว้แล้วเช่นเดียวกันโดยร่วมมือกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในการกำหนดแผนใช้น้ำระยะสั้นและระยะยาว
สำหรับแผนการใช้น้ำระยะสั้นนั้น จะมีการแบ่งโควตาน้ำ ให้กับนิคมอุตสาหกรรมต่างๆในพื้นที่ดังกล่าวตามสัดส่วนที่เหมาะสม ส่วนแผนระยะยาวจะมีการรับน้ำมาจากอ่างประแสที่มีปริมาณน้ำต่อปีประมาณ 200 ล้านลบ.ม. โดยจัดสรรมาจำนวน 80 ล้านลบ.ม. และจัดสรรน้ำมาจากเขื่อนบางปะกง ประมาณ 40 ล้านลบ.ม. รวมเป็นปริมาณน้ำที่จัดสรรมาจำนวนประมาณ 120 ล้านลบ.ม./ปี ที่จัดสรรมาใช้ในจังหวัดระยอง
"ปัจจุบันเหมราชมีลูกค้าเข้ามาตั้งโรงงานในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี จำนวน 240 ราย เฉพาะในจังหวัดระยอง ส่งผลให้เกิดการลงทุนแล้วกว่า 500,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเหมราชได้ชี้แจงกับลูกค้าในพื้นที่อย่างต่อเนื่องว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะฝนตกและน้ำไม่ลงอ่าง เนื่องจากทิศทางลม ซึ่งเราไม่สามารถบังคับได้ แต่ก็ได้แต่หวังว่าช่วงเดือนกรกฏาคมของทุกปี จะมีมรสุมมาจากประเทศฟิลิปปินส์ ก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ไปบางส่วน"
- อีสต์วอเตอร์ชี้น้ำก้นอ่างสำรองได้
นายวันชัย หล่อวัฒนตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกหรืออีสต์วอเตอร์ กล่าวว่า ตามภาวะปกติอีสต์วอเตอร์จะนำน้ำดิบออกจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และดอกกรายกว่า 20 ล้านลบ.ม./เดือน สำหรับใช้ในภาคอุตสาหกรรม เกษตร และการบริโภค โดยปริมาณน้ำดิบดังกล่าวแบ่งเป็นใช้ในภาคอุตสาหกรรมประมาณ 15 ล้านลบ.ม./เดือน ขณะนี้เหลือเพียง 13.5 ล้านลบ.ม./เดือน หลังจากที่กรมชลประทานขอความร่วมมือให้ลดการใช้น้ำเพื่ออุตสาหกรรมลง 10 % ที่เหลือ 1.5 ล้านลบ.ม./เดือนเป็นการบริโภค โดยไม่นับรวมการใช้น้ำสำหรับภาคเกษตรที่ได้ผลจากน้ำฝน
อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำดังกล่าวยังไม่ได้นับรวมน้ำก้นอ่าง หรือน้ำตะกอนอีกจำนวน 15 ล้านลบ.ม. ซึ่งน้ำดังกล่าวสามารถนำมาใช้ได้แต่ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมชลประทานก่อนตามกฏระเบียบของการใช้น้ำที่มีอยู่ ดังนั้นปริมาณน้ำที่มีอยู่ในขณะนี้กว่า 30 ล้านลบ.ม.จะยังพอใช้ได้อีกประมาณ 2 เดือนนับจากนี้ไป น่าจะพอดีกับช่วงที่ฝนตกหนักในเดือนกรกฏาคมนี้ พร้อมยอมรับว่าปีนี้มีการบริโภคน้ำกันมาก โดยพื้นที่จังหวัดระยองจะใช้น้ำเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตมาก
ขณะที่จังหวัดชลบุรีจะใช้น้ำเพื่อการบริโภคมาก โดยพิจารณาจากการขายน้ำของอีสต์วอเตอร์ที่ปีที่แล้วขายน้ำดิบทั้งปี 170 ล้านลบ.ม. เปรียบเทียบกับปีนี้ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน(ครึ่งปี) ขายน้ำไปแล้ว 100 ล้านลบ.ม.
-กรมชลรับแล้งปีนี้สาหัส
ต่อเรื่องนี้นายเนตร อัจฉริยะพิทักษ์ หัวหน้าโครงการชลประทานระยอง กล่าวว่า จากปัญหาในอ่างเก็บหนองปลาไหล และอ่างเก็บน้ำดอกกราย ซึ่งเป็นแหล่งเก็บน้ำสำคัญ ที่ใช้ในการบริโภค-อุปโภค และเป็นแหล่งน้ำสำคัญภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดระยองและจังหวัดชลบุรีมีไม่พอใช้นั้น ขณะนี้ทางกรมชลประทานได้หารือกับจังหวัดระยอง และบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จัด (มหาชน) หรืออีสต์วอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้รับจัดสรรน้ำให้กับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ว่าจะหาทางรับมืออย่างไรต่อไป
เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำสำคัญในอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ที่เคยมีปริมาณน้ำด้วยความจุ 164 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ขณะนี้เหลือปริมาณน้ำในความจุเพียง 24 ลบ.ม. ส่วนแหล่งน้ำในอ่างเก็บน้ำดอกกรายจะมีปริมาณน้ำที่ความจุที่ 72 ล้านลบ.ม. ลดลงเหลือปริมาณน้ำเพียง 13 ล้านลบ.ม. เท่านั้น
"ยอมรับว่าภัยแล้งครั้งนี้รุนแรงที่สุด และนับเป็นครั้งแรกที่ประชาชนและโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ในภาวะที่ใช้น้ำได้ไม่เต็มที่ จึงต้องมีมาตรการการประหยัดน้ำเกิดขึ้น โดยกรมชลประทานและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)มีการขอร้องให้โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการซ่อมบำรุงประจำปีในช่วงปลายปี ให้เลื่อนซ่อมบำรุงในช่วงนี้แทน เพื่อเป็นการยืดเวลาใช้น้ำให้ทันกับช่วงฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดระยองในเดือนกรกฏาคมของทุกปี หลังจากที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนตกลงอ่างน้ำต่ำกว่าเกณฑ์ เพราะทิศทางลมผันแปร "
http://www.thannews.th.com/detialNews.p ... issue=2019
4,000โรงงานระส่ำ 'อีสเทิร์น'วิกฤติน้ำ
โรงงานย่านนิคมฯ"อีสเทิร์นซีบอร์ด"พื้นที่ระยอง-ชลบุรี ป่วนหนัก วิกฤตน้ำถล่มซ้ำ ระบุบางนิคมฯถึงขั้นให้โรงงานต้องจัดหาน้ำมาใช้เอง เดทไลน์ถึงปลายเดือนก.ค.นี้ หากผลไม่ตกอีก เชื่อหลายโรงงานถึงขั้นต้องหยุด-ลดกำลังผลิตลงชั่วคราว ด้านเอกชนหวั่นสูญเสียโอกาสผลิตและส่งออก ขณะที่อีสต์วอเตอร์ โบ้ยประชาชน-โรงงานใช้น้ำมากกว่าทุกปี
สืบเนื่องจาก"ฐานเศรษฐกิจ" ได้รายงานและเกาะติดปัญหาภัยแล้งมาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบันถือว่าเป็นอีกช่วงในรอบหลายสิบปี ที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับภาวะภัยแล้งยาวนานที่สุด สร้างความเดือดร้อนไปทั่วทุกหัวระแหง ทั้งในภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรม ล่าสุดวิกฤตน้ำได้ลุกลามส่งผลกระทบต่อกลุ่มอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออกหรือ"อีสเทิร์นซีบอร์ด" ขึ้นแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี เจอปัญหาหนักที่สุด เมื่อน้ำไม่พอใช้ในกระบวนการผลิต
-4,000โรงงานป่วนรอฝนชี้ชะตา
อย่างไรก็ตามจากการสำรวจของ"ฐานเศรษฐกิจ" และจากการสอบถามผู้ประกอบการรวมถึงการเก็บข้อมูลอุตสาหกรรมจังหวัดระยองและชลบุรี พบว่าขณะนี้โรงงานในจังหวัดระยองที่มีอยู่ประมาณ 1,450 แห่ง ที่จังหวัดชลบุรีอีกกว่า 2,000 แห่ง ส่วนใหญ่จะต้องพึ่งพาการใช้น้ำในอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และดอกกรายนั้น ขณะนี้เริ่มประสบชะตากรรมน้ำไม่พอใช้ เนื่องจากปริมาณน้ำในอ่างเหือดแห้ง พร้อมกับโอดครวญถึงภาครัฐว่าทำงานซ้ำซาก แก้ปัญหาน้ำในอีสเทริ์นซีบอร์ดไม่ตก
สอดคล้องกับกลุ่มทุนข้ามชาติรายหนึ่งที่ระบุว่าโรงงานทั้งหมดจะต้องใช้น้ำในการผลิต เมื่อมีการขอร้องให้เลื่อนการปิดซ่อมบำรุงเครื่องจักรประจำปีจากภาครัฐจากช่วงคริสต์มาสมาเป็นช่วงนี้ ถึงกับทำให้บริษัทสัญชาติฝรั่งถึงกับอึ้ง เมื่อเริ่มรู้ว่าภาวะวิกฤตน้ำดังกล่าวรุนแรงกว่าที่คิดไว้มาก
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงจากกลุ่มผู้ผลิตอุตสาหกรรมปิโตรเคมีอีกรายหนึ่งในจังหวัดระยอง กล่าวเช่นกันว่า อุตสาหกรรมปิโตรเคมี เป็นอีกอุตสาหกรรมที่ต้องใช้น้ำในกระบวนการผลิตค่อนข้างมาก โดยเฉพาะที่จังหวัดระยอง ถือเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมดังกล่าว ผู้ประกอบการแต่ละรายต่างมีความวิตกกังวลว่า หากฝนไม่ตก หรือน้ำไม่ไหลลงอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่งดังกล่าว ก็จะเป็นปัญหาใหญ่ตามมาอย่างแน่นอน
"คาดการณ์ว่าภายในวันที่ 15 กรกฏาคม 2548 นี้ก็น่าจะรู้ผลว่าปริมาณน้ำในอ่างทั้ง2แห่งจะมีเพียงพอหรือไม่ และจะมีโรงงานไหนบ้าง โดยเฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ที่จะต้องมีการหยุดผลิต หรือลดการผลิตลงเป็นการชั่วคราว หลังจากที่ปริมาณน้ำอยู่ในระดับที่ต่ำสุดแล้วในเวลานี้"
-ดิ้นสุดทางถึงขั้นลดกำลังผลิต-รีไซเคิลน้ำ
นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า เวลานี้หลายโรงงานใช้วิธีบำบัดน้ำที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงบางรายก็ได้ตัดสินใจ ลดกำลังผลิตลงแล้ว ซึ่งปัญหานี้ภาครัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ต้องการให้เกิดกระแสข่าวขาดน้ำออกไปแบบคึกโครม เพราะจะเป็นเรื่องของภาพพจน์การลงทุน โดยเฉพาะพื้นที่ลงทุนในอีสเทิร์นซีบอร์ด ที่เป็นยุทธศาสตร์การลงทุนของทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นพื้นที่ลงทุนที่มีศักยภาพที่สุด มีความพร้อมในระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ
"จะเห็นว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีการพัฒนาที่ดินเพื่อตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก และเป็นศูนย์กลางการผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์ และปิโตรเคมี ที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายของรัฐบาลที่มีการลงทุนมาก และใช้เงินลงทุนสูง"
-นิคมฯมาบตาพุดคุมเข้มรง.ใช้น้ำฟุ่มเฟือย
แหล่งข่าวจากบริษัท อัลลายแอนซ์ รีไฟน์นิ่ง จำกัด ผู้บริหารโรงกลั่นน้ำมันระยอง และโรงกลั่นสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง หรือเออาร์ซี เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางนิคมอุตสาหกรรมได้กำชับให้โรงงานที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งรวมถึงโรงกลั่นน้ำมันระยองและสตาร์ปิโตรเลียมฯ ให้ประหยัดการใช้น้ำมันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้กระทั่งเวลานี้น้ำรดต้นไม้ก็ต้องชะลอการใช้น้ำออกไปหรือไม่มีการรดเลยในช่วงนี้ และให้แต่ละโรงงานมีการจัดเตรียมวางแผนในการหาน้ำมาใช้ในขบวนการผลิตเอง ด้วยวิธีการต่างๆ เท่าที่จะทำได้หากเกิดวิกฤตที่เลวร้ายจริงๆ โดยมีการพูดถึงหากจำเป็นก็ต้องขนน้ำบรรทุกใสเรือจากที่อื่นมาใช้
"ทราบว่าขณะนี้ทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)อยู่ระหว่างวางแผนรองรับไว้หากเกิดการขาดแคลนน้ำจริงๆ จะให้แต่ละโรงงานลดกำลังการผลิตลง ที่จะกำหนดว่าโรงงานไหนจะเริ่มลดกำลังการผลิตก่อน และหากวิกฤตจริงๆ จนถึงขั้นต้องปิดโรงงาน ก็จะกำหนดให้โรงงานไหนต้องปิดก่อน ซึ่งเวลานี้ทุกฝ่ายกำลังประสานงานกันและหาทางออกในเรื่องนี้อยู่"
-กนอ.เสนอลดใช้น้ำเพิ่มเป็น40%
นายพีระวัฒน์ รุ่งเรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้มีการตั้งศูนย์ภัยแล้งและสนับสนุนปฏิบัติการฝนหลวงขึ้นมาเพื่อรับมือกับวิกฤตการขาดแคลนน้ำในเวลานี้แล้ว โดยได้มีการเชิญผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดและนิคมใกล้เคียงกว่า 60 ราย มาหารือเพื่อวางแผนการใช้น้ำจากเดิมที่มีอยู่ ซึ่งในเวลานี้แผนได้ออกมาแล้วว่าจะตั้งเป้าลดการใช้น้ำลงจาก10% เพิ่มเป็น 40 % โดยขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมประเภทไหนที่ลดได้มากน้อยแตกต่างกันไป
ซึ่งจากผลจากลดการใช้น้ำ10-40% นั้น จะส่งผลกระทบให้โรงงานต่างๆ ต้องลดกำลังการผลิตของตนเองลงด้วย ตามปริมาณการใช้น้ำที่ลดลง และยังได้ประสานงานไปที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เตรียมจัดหาปริมาณไฟฟ้าจากแหล่งอื่นเข้ามาเสริม กรณีที่โรงไฟฟ้าระยองขนาด 700 เมกะวัตต์ ต้องลดกำลังการผลิตลงด้วย และได้ขอให้โรงงานใดที่มีแผนหยุดการซ่อมบำรุงประจำปีช่วงปลายปีนี้ ให้มาดำเนินงานในช่วงนี้แทนเพื่อเป็นการลดใช้น้ำได้ทางหนึ่ง รวมถึงการเพิ่มน้ำในอ่างที่ได้มีการระดมการทำฝนเทียม และหากจำเป็นจะมีการเสนอให้ภาครัฐอนุญาตให้โรงงานขุดเจาะบ่อบาดาลใช้เองได้
เขายังกล่าวย้ำอีกว่า ในวันจันทร์ที่ 20 มิถุนายนนี้ จะมีการเสนอแผนดังกล่าวให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองรับทราบ ซึ่งในระยะนี้ได้กลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่ๆ เช่น โรงกลั่นน้ำมัน ไฟฟ้า และปิโตรเคมี ได้เริ่มที่จะลดกำลังการผลิตลงแล้ว แต่ในส่วนของโรงกลั่นน้ำมันอาจจะต้องมีการพิจารณาเป็นพิเศษ เนื่องจากหากลดกำลังการผลิตที่มากเกินควรจะกระทบต่อปริมาณการจัดหาน้ำมันของประเทศได้ ซึ่งต้องดูเป็นพิเศษ
-หวั่นเสียโอกาสผลิตและส่งออก
แหล่งข่าวจากบริษัท เอเพ็ค ปิโตรเคมีคอล จำกัด ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกพีวีซี หนึ่งในโรงงานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ระยองเช่นเดียวกัน กล่าวว่า ขณะนี้ซัพพายเออร์ที่ป้อนวัตถุดิบ ให้กับบริษัทในญี่ปุ่น รู้แล้วว่าโรงงานผลิตพีวีซีในประเทศไทยเผชิญปัญหาวิกฤติน้ำขาดแคลน จึงลังเลว่าจะส่งวัตถุดิบให้กับลูกค้าในประเทศไทยได้เท่าไหร่ เนื่องจากไม่มั่นใจว่าการบริโภควัตถุดิบที่ต้องพึ่งพาการนำเข้า เช่น ไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์(วีซีเอ็ม)จะลดลงหรือไม่ จากปัจจุบันจะมีการนำเข้ามาใช้ประมาณ 70,000-100,000 ตัน/ปี
นอกจากนี้ยังมองว่าปัญหาการขาดน้ำควรจะประกาศออกมาให้ชัดเจนล่วงหน้า ถึงภาวะขาดแคลนและมาตรการตั้งรับ เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต และการส่งออก เพื่อที่โรงงานอุตสาหกรรมจะได้รับมือและเตรียมชี้แจงกับลูกค้าในต่างประเทศได้ล่วงหน้า กรณีที่มีการหยุดผลิต หรือลดการผลิตลงชั่วคราว เพราะออเดอร์ส่วนใหญ่เป็นการสั่งซื้อล่วงหน้า เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการศูนย์เสียโอกาสการลงทุนและการตลาด เพราะการลดการใช้น้ำลง เท่ากับว่าต้องลดการผลิตลงด้วยอย่างแน่นอน แหล่งข่าวกล่าว
-นิคมฯเหมราชเคลียร์ลูกค้าในพ.ท.
นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ตลอด 10 ปีที่เข้ามาบริหารงานในนิคมเหมราชฯ ไม่เคยเผชิญกับวิกฤติขาดแคลนน้ำในภาคอุตสาหกรรมหนักและยาวนานอย่างในปีนี้ อย่างไรก็ดีเมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ทางเหมราชฯ ก็ได้เตรียมการวางแผนรับมือไว้แล้วเช่นเดียวกันโดยร่วมมือกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในการกำหนดแผนใช้น้ำระยะสั้นและระยะยาว
สำหรับแผนการใช้น้ำระยะสั้นนั้น จะมีการแบ่งโควตาน้ำ ให้กับนิคมอุตสาหกรรมต่างๆในพื้นที่ดังกล่าวตามสัดส่วนที่เหมาะสม ส่วนแผนระยะยาวจะมีการรับน้ำมาจากอ่างประแสที่มีปริมาณน้ำต่อปีประมาณ 200 ล้านลบ.ม. โดยจัดสรรมาจำนวน 80 ล้านลบ.ม. และจัดสรรน้ำมาจากเขื่อนบางปะกง ประมาณ 40 ล้านลบ.ม. รวมเป็นปริมาณน้ำที่จัดสรรมาจำนวนประมาณ 120 ล้านลบ.ม./ปี ที่จัดสรรมาใช้ในจังหวัดระยอง
"ปัจจุบันเหมราชมีลูกค้าเข้ามาตั้งโรงงานในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี จำนวน 240 ราย เฉพาะในจังหวัดระยอง ส่งผลให้เกิดการลงทุนแล้วกว่า 500,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเหมราชได้ชี้แจงกับลูกค้าในพื้นที่อย่างต่อเนื่องว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะฝนตกและน้ำไม่ลงอ่าง เนื่องจากทิศทางลม ซึ่งเราไม่สามารถบังคับได้ แต่ก็ได้แต่หวังว่าช่วงเดือนกรกฏาคมของทุกปี จะมีมรสุมมาจากประเทศฟิลิปปินส์ ก็จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ไปบางส่วน"
- อีสต์วอเตอร์ชี้น้ำก้นอ่างสำรองได้
นายวันชัย หล่อวัฒนตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออกหรืออีสต์วอเตอร์ กล่าวว่า ตามภาวะปกติอีสต์วอเตอร์จะนำน้ำดิบออกจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล และดอกกรายกว่า 20 ล้านลบ.ม./เดือน สำหรับใช้ในภาคอุตสาหกรรม เกษตร และการบริโภค โดยปริมาณน้ำดิบดังกล่าวแบ่งเป็นใช้ในภาคอุตสาหกรรมประมาณ 15 ล้านลบ.ม./เดือน ขณะนี้เหลือเพียง 13.5 ล้านลบ.ม./เดือน หลังจากที่กรมชลประทานขอความร่วมมือให้ลดการใช้น้ำเพื่ออุตสาหกรรมลง 10 % ที่เหลือ 1.5 ล้านลบ.ม./เดือนเป็นการบริโภค โดยไม่นับรวมการใช้น้ำสำหรับภาคเกษตรที่ได้ผลจากน้ำฝน
อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำดังกล่าวยังไม่ได้นับรวมน้ำก้นอ่าง หรือน้ำตะกอนอีกจำนวน 15 ล้านลบ.ม. ซึ่งน้ำดังกล่าวสามารถนำมาใช้ได้แต่ต้องได้รับการอนุมัติจากกรมชลประทานก่อนตามกฏระเบียบของการใช้น้ำที่มีอยู่ ดังนั้นปริมาณน้ำที่มีอยู่ในขณะนี้กว่า 30 ล้านลบ.ม.จะยังพอใช้ได้อีกประมาณ 2 เดือนนับจากนี้ไป น่าจะพอดีกับช่วงที่ฝนตกหนักในเดือนกรกฏาคมนี้ พร้อมยอมรับว่าปีนี้มีการบริโภคน้ำกันมาก โดยพื้นที่จังหวัดระยองจะใช้น้ำเพื่ออุตสาหกรรมการผลิตมาก
ขณะที่จังหวัดชลบุรีจะใช้น้ำเพื่อการบริโภคมาก โดยพิจารณาจากการขายน้ำของอีสต์วอเตอร์ที่ปีที่แล้วขายน้ำดิบทั้งปี 170 ล้านลบ.ม. เปรียบเทียบกับปีนี้ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน(ครึ่งปี) ขายน้ำไปแล้ว 100 ล้านลบ.ม.
-กรมชลรับแล้งปีนี้สาหัส
ต่อเรื่องนี้นายเนตร อัจฉริยะพิทักษ์ หัวหน้าโครงการชลประทานระยอง กล่าวว่า จากปัญหาในอ่างเก็บหนองปลาไหล และอ่างเก็บน้ำดอกกราย ซึ่งเป็นแหล่งเก็บน้ำสำคัญ ที่ใช้ในการบริโภค-อุปโภค และเป็นแหล่งน้ำสำคัญภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดระยองและจังหวัดชลบุรีมีไม่พอใช้นั้น ขณะนี้ทางกรมชลประทานได้หารือกับจังหวัดระยอง และบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จัด (มหาชน) หรืออีสต์วอเตอร์ ซึ่งเป็นผู้รับจัดสรรน้ำให้กับภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ว่าจะหาทางรับมืออย่างไรต่อไป
เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำในแหล่งน้ำสำคัญในอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ที่เคยมีปริมาณน้ำด้วยความจุ 164 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ขณะนี้เหลือปริมาณน้ำในความจุเพียง 24 ลบ.ม. ส่วนแหล่งน้ำในอ่างเก็บน้ำดอกกรายจะมีปริมาณน้ำที่ความจุที่ 72 ล้านลบ.ม. ลดลงเหลือปริมาณน้ำเพียง 13 ล้านลบ.ม. เท่านั้น
"ยอมรับว่าภัยแล้งครั้งนี้รุนแรงที่สุด และนับเป็นครั้งแรกที่ประชาชนและโรงงานอุตสาหกรรมอยู่ในภาวะที่ใช้น้ำได้ไม่เต็มที่ จึงต้องมีมาตรการการประหยัดน้ำเกิดขึ้น โดยกรมชลประทานและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(กนอ.)มีการขอร้องให้โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการซ่อมบำรุงประจำปีในช่วงปลายปี ให้เลื่อนซ่อมบำรุงในช่วงนี้แทน เพื่อเป็นการยืดเวลาใช้น้ำให้ทันกับช่วงฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดระยองในเดือนกรกฏาคมของทุกปี หลังจากที่ผ่านมามีปริมาณน้ำฝนตกลงอ่างน้ำต่ำกว่าเกณฑ์ เพราะทิศทางลมผันแปร "
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
- ครรชิต ไพศาล
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4637
- ผู้ติดตาม: 1
พี่ขุนอินเพิ่งเตือนเมื่อเช้า ตอนนี้ขึ้นหน้า1 ฐานเศรษฐกิจแล้ว
โพสต์ที่ 2
โรงงานเยอะแยะ ทุนมากมาย ทำไมไม่ลงขันกันจ่ายเงินค่าสารเคมี
จ่ายค่าเชื้อเพลิง ให้หน่วยงานฝนหลวง ขึ้นทำฝนเทียมให้ถี่ๆ ขึ้น
จ่ายค่าเชื้อเพลิง ให้หน่วยงานฝนหลวง ขึ้นทำฝนเทียมให้ถี่ๆ ขึ้น
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 481
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ขุนอินเพิ่งเตือนเมื่อเช้า ตอนนี้ขึ้นหน้า1 ฐานเศรษฐกิจแล้ว
โพสต์ที่ 5
ตอนนี้ยังไม่จำเป็นรึไงครับ เร่งเจาะน้ำบาดาลให้แต่ละนิคมขึ้นมาใช้ก่อนเพียงเท่านี้ก็ช่วยแก้ปัญหาได้มากทีเดียว ซึ่งมาตรการนี้น่าจะประกาศในวันสองวันนี้แหละครับเท่าที่ทราบมา รอท่าน รมต. ก่อนหากจำเป็นจะมีการเสนอให้ภาครัฐอนุญาตให้โรงงานขุดเจาะบ่อบาดาลใช้เองได้
ผมยังคิดในเชิงบวกว่าน่าจะระดมกำลังกันได้ในการเจาะน้ำบาดาลและไม่ต้องถึงกับหยุดการผลิต อีกเดือนหนึ่งก็จะเข้าฤดูที่ฝนตกมากแล้วน่าจะผ่านไปได้รวมทั้งช่วงนี้เร่งทำฝนหลวงอยู่ฤดูฝนนี่น่าจะทำได้ปริมาณฝนค่อนข้างดีเพราะความชื้นสูง ทางมันยังไม่ตันซะเลยทีเดียวครับ เพียงแต่ระดับปฏิบัติเคลื่อนตัวช้าไป (มาก) หน่อยเท่านั้นเอง
แต่เห็นว่าที่ Amata สถานการณ์ยังไม่วิกฤตขนาดนิคมอื่นมั้งครับ เนื่องจากมีการผลิตน้ำป้อนในนิคมเอง
-
- Verified User
- โพสต์: 136
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ขุนอินเพิ่งเตือนเมื่อเช้า ตอนนี้ขึ้นหน้า1 ฐานเศรษฐกิจแล้ว
โพสต์ที่ 7
ตอบพี่ครรชิตครับ โรงงานต่าง ๆ ก็มีบริจาคซื้อสารเคมีครับ รัฐบาลก็ส่งเครื่องบินทำฝนเทียมไปทำกันสักพักแล้ว แต่ไม่ได้ผลเท่าที่ควรครับ เรื่องทำฝนเทียมไม่ใช่ปัญหา เพียงแต่มันไม่มีเมฆและความชื้นมากพอที่จะทำฝนเยอะ ๆ ได้
เรื่องขุดเจาะน้ำบาดาลนี่ ผมไม่ทราบรายละเอียดว่าจะทันหรือไม่ น้ำบาดาลเจาะได้ตรงไหนบ้าง ใช้เวลาการขุดเจาะเท่าไหร่ เจาะน้ำขึ้นมาได้มากน้อยแค่ไหน และต้องบำบัดก่อนหรือเปล่า ไม่ทราบว่าจะทันการหรือไม่?
ตอนนี้ก็รู้กันทั่วแล้ว ผมเกรงแต่ว่าต่างชาติและรายย่อยส่วนใหญ่จะคิดอย่างไร? กองทุนไม่ต้องพูดถึงผมว่าเค้าลดพอร์ตพวกปิโตรและเหล็กไปแล้ว
อย่างไรก็ตามผมว่ายังพอมีหวัง เห็นบางคนบอกว่าฝนตกแล้วแถวนั้น ไม่รู้จะมากพอหรือเปล่า อยากให้มีดีเปรสชั่นสักลูกสองลูกมาภายในเดือนนี้จริง ๆ เพี้ยง....
เรื่องขุดเจาะน้ำบาดาลนี่ ผมไม่ทราบรายละเอียดว่าจะทันหรือไม่ น้ำบาดาลเจาะได้ตรงไหนบ้าง ใช้เวลาการขุดเจาะเท่าไหร่ เจาะน้ำขึ้นมาได้มากน้อยแค่ไหน และต้องบำบัดก่อนหรือเปล่า ไม่ทราบว่าจะทันการหรือไม่?
ตอนนี้ก็รู้กันทั่วแล้ว ผมเกรงแต่ว่าต่างชาติและรายย่อยส่วนใหญ่จะคิดอย่างไร? กองทุนไม่ต้องพูดถึงผมว่าเค้าลดพอร์ตพวกปิโตรและเหล็กไปแล้ว
อย่างไรก็ตามผมว่ายังพอมีหวัง เห็นบางคนบอกว่าฝนตกแล้วแถวนั้น ไม่รู้จะมากพอหรือเปล่า อยากให้มีดีเปรสชั่นสักลูกสองลูกมาภายในเดือนนี้จริง ๆ เพี้ยง....
แก้ไขล่าสุดโดย ขุนอิน เมื่อ อาทิตย์ มิ.ย. 19, 2005 12:59 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- Verified User
- โพสต์: 136
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ขุนอินเพิ่งเตือนเมื่อเช้า ตอนนี้ขึ้นหน้า1 ฐานเศรษฐกิจแล้ว
โพสต์ที่ 8
ต่ออีกหน่อย เป็นสถานการณ์ที่ประเมินยากจริง ๆ ผมเองไม่ค่อยมีประสบการณ์กะตลาดหุ้นซะด้วย แต่หลังจากทำการบ้านมากหน่อยในวันนี้ ผมคิดว่ายังไงก็ต้องตัดสินใจในวันจันทร์นี้แหละครับ งานนี้ผมขอยอมรับโดยดุษฏี ไม่พยายามหาเหตุผลมาเข้าข้างตัวเองให้มากความ
วันนี้ไปตรวจสุขภาพหุ้นในพอร์ตอย่างละเอียดทั้ง 4 ตัว พบว่า 2 ตัวไม่มีปัญหาแน่ ๆ
อีก 1 ตัวมีปัญหาเรื่องน้ำแน่ ๆ และแถมด้วยปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้นด้วย แต่ดูจากเทคนิคแล้วลงมาที่แนวรับและออกข้าง ฟอร์มตัวรอเวลาอยู่ ไม่น่าจะลงมากแล้ว อินดิเกเตอร์บางตัวเริ่มส่งสัญญาณบวก ไม่ขาย กลัวขายแล้วเป็น permanent loss
อีกตัวสุดท้ายยังไม่รู้เลยว่าจะโดนเรื่องน้ำด้วยหรือไม่ ยังหาข้อมูลไม่ได้ แต่อุตสาหกรรมก็ชะลอตัว ราคาหุ้นก็ดิ่ง ดูเทคนิคก็ยังลงได้อีก สมควรที่จะขายทิ้ง
อย่างน้อยจันทร์นี้ผมก็ต้องขายออก 1 ตัวก่อนละ แล้วดูอาการ 3 ตัวที่เหลืออีกที
วันนี้ไปตรวจสุขภาพหุ้นในพอร์ตอย่างละเอียดทั้ง 4 ตัว พบว่า 2 ตัวไม่มีปัญหาแน่ ๆ
อีก 1 ตัวมีปัญหาเรื่องน้ำแน่ ๆ และแถมด้วยปัญหาต้นทุนที่สูงขึ้นด้วย แต่ดูจากเทคนิคแล้วลงมาที่แนวรับและออกข้าง ฟอร์มตัวรอเวลาอยู่ ไม่น่าจะลงมากแล้ว อินดิเกเตอร์บางตัวเริ่มส่งสัญญาณบวก ไม่ขาย กลัวขายแล้วเป็น permanent loss
อีกตัวสุดท้ายยังไม่รู้เลยว่าจะโดนเรื่องน้ำด้วยหรือไม่ ยังหาข้อมูลไม่ได้ แต่อุตสาหกรรมก็ชะลอตัว ราคาหุ้นก็ดิ่ง ดูเทคนิคก็ยังลงได้อีก สมควรที่จะขายทิ้ง
อย่างน้อยจันทร์นี้ผมก็ต้องขายออก 1 ตัวก่อนละ แล้วดูอาการ 3 ตัวที่เหลืออีกที
-
- Verified User
- โพสต์: 1468
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ขุนอินเพิ่งเตือนเมื่อเช้า ตอนนี้ขึ้นหน้า1 ฐานเศรษฐกิจแล้ว
โพสต์ที่ 11
แหม ขั้นตอนเครื่องจักรการทำน้ำจืดroadtrip เขียน:จริงๆแถวนั้นก็อยู่ใกล้กับแหล่งน้ำขนาดใหญ่มาก ทำไมไม่รู้จักเอาน้ำทะเลมาทำให้เป็นน้ำจืดขาย
มันอาศัยพลังงาน อย่างพวกน้ำมันเชื้อเพลิง
ด้วยนี้คะ มันคุ้มกัน ในการทำน้ำเค็มเป็นจืดจริงหรือคะ
เห็นสิงคโปร์ดินเค้าก็ซื้อจากอินโด
น้ำก็ก็ยังซื้อจากมาเลเลย
นี่ขนาดมาเลเซียเองโก่งค่าน้ำเพิ่มอยู่บ่อยๆ
ยังยอมจ่ายเลยนี่คะ
- Heroine
- Verified User
- โพสต์: 196
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ขุนอินเพิ่งเตือนเมื่อเช้า ตอนนี้ขึ้นหน้า1 ฐานเศรษฐกิจแล้ว
โพสต์ที่ 12
ขอโทษทีค่ะ เรื่องภัยแล้งเกี่ยวกับหุ้นกับเหล็กอย่างไรคะ หรือว่าโรงงานเหล็กส่วนใหญ่อยู่โซนภาคตะวันออกขุนอิน เขียน: ตอนนี้ก็รู้กันทั่วแล้ว ผมเกรงแต่ว่าต่างชาติและรายย่อยส่วนใหญ่จะคิดอย่างไร? กองทุนไม่ต้องพูดถึงผมว่าเค้าลดพอร์ตพวกปิโตรและเหล็กไปแล้ว
..
โลกมายา...ดินแดนที่ต้องใส่หน้ากากคุยกัน
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
-
- Verified User
- โพสต์: 136
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ขุนอินเพิ่งเตือนเมื่อเช้า ตอนนี้ขึ้นหน้า1 ฐานเศรษฐกิจแล้ว
โพสต์ที่ 13
โรงงานเหล็กทั้งหมดทางภาคตะวันออกมีหลายแห่ง
ms มีโรงงานอยู่ที่บ่อวิน มาบตาพุด และสระบุรี
nsm มีโรงงานอยู่ที่บ่อวิน
tnx มีโรงงานอยู่ที่มาบข่า
stpi มีโรงงานเล็ก ๆ หลายโรงอยู่ที่ทั้งชลบุรีและระยอง
เท่าที่ผมค้นได้นะฮะ
ms มีโรงงานอยู่ที่บ่อวิน มาบตาพุด และสระบุรี
nsm มีโรงงานอยู่ที่บ่อวิน
tnx มีโรงงานอยู่ที่มาบข่า
stpi มีโรงงานเล็ก ๆ หลายโรงอยู่ที่ทั้งชลบุรีและระยอง
เท่าที่ผมค้นได้นะฮะ
-
- Verified User
- โพสต์: 136
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ขุนอินเพิ่งเตือนเมื่อเช้า ตอนนี้ขึ้นหน้า1 ฐานเศรษฐกิจแล้ว
โพสต์ที่ 14
เมื่อกี้โทรคุยกับเพื่อนอีก ทำให้ผมรู้สึกว่าข่าวเรื่องน้ำที่ออกมาสุดสัปดาห์นี้มีความพยายามที่จะทำให้มันดูไม่แย่จนเกินไป
ผมคงพูดได้แค่นี้ อย่าประมาทครับ
คนเราจะมี defense mechanism อยู่ทั้งในจิตใต้สำนึกและจิตสำนึก ซึ่งจะถูกนำมาใช้เพื่อจัดการกับปัญหา และอย่างแรกที่เราใช้เวลาเจอวิกฤติก็คือ denial
งานนี้นอกจาก denial แล้วยังหวังความช่วยเหลือจากเทวดาอีก
ตลาดหุ้นไม่มีวันตาย มีแต่ตัวเราที่จะปางตายได้พราะติดกับดัก
ผมเองก็หวังว่าจะไ่ม่มีอะไร ฝนจะตก ๆ ๆ มาช่วยได้ทันท่วงที แ่ต่ผมดูระดับน้ำในอ่างดอกกราย หนองปลาไหล และคำนวณดูแล้ว ขนาดเอา death stock ที่เป็นน้ำก้นอ่างมาคำนวณด้วย ก็ยังมีใช้ได้อีกไม่นาน
ตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่า death stock มีเ่ท่าไหร่แน่ เค้าไม่เปิดเผย ปิดข่าว อย่างอ่างดอกกรายถ้าตอนนี้มี 12 ล้านลบ.ม. ถ้าใช้หมดเลยก็กินเวลา 45-50 วันก็หมด ถึงสิงหาแน่ครับแต่เป็นต้นสิงหาเท่านั้น แต่ถ้าให้ death stock 50% ก็จะมีให้ใช้อีกแค่ 20-25 วัน
ปีนี้ถ้ามีโชคอาจผ่านไปได้ แต่ปีหน้าผมว่าแย่แน่ ๆ ไม่ง่ายเลยที่จะหาน้ำมาได้ทันเพราะปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างมีน้อยกว่าปริมาณน้ำที่ใช้ และแก้ไขไม่ได้ด้วย ต้องหาแหล่งน้ำเพิ่มเท่านั้นครับ
ผมคงพูดได้แค่นี้ อย่าประมาทครับ
คนเราจะมี defense mechanism อยู่ทั้งในจิตใต้สำนึกและจิตสำนึก ซึ่งจะถูกนำมาใช้เพื่อจัดการกับปัญหา และอย่างแรกที่เราใช้เวลาเจอวิกฤติก็คือ denial
งานนี้นอกจาก denial แล้วยังหวังความช่วยเหลือจากเทวดาอีก
ตลาดหุ้นไม่มีวันตาย มีแต่ตัวเราที่จะปางตายได้พราะติดกับดัก
ผมเองก็หวังว่าจะไ่ม่มีอะไร ฝนจะตก ๆ ๆ มาช่วยได้ทันท่วงที แ่ต่ผมดูระดับน้ำในอ่างดอกกราย หนองปลาไหล และคำนวณดูแล้ว ขนาดเอา death stock ที่เป็นน้ำก้นอ่างมาคำนวณด้วย ก็ยังมีใช้ได้อีกไม่นาน
ตอนนี้ก็ไม่มีใครรู้ว่า death stock มีเ่ท่าไหร่แน่ เค้าไม่เปิดเผย ปิดข่าว อย่างอ่างดอกกรายถ้าตอนนี้มี 12 ล้านลบ.ม. ถ้าใช้หมดเลยก็กินเวลา 45-50 วันก็หมด ถึงสิงหาแน่ครับแต่เป็นต้นสิงหาเท่านั้น แต่ถ้าให้ death stock 50% ก็จะมีให้ใช้อีกแค่ 20-25 วัน
ปีนี้ถ้ามีโชคอาจผ่านไปได้ แต่ปีหน้าผมว่าแย่แน่ ๆ ไม่ง่ายเลยที่จะหาน้ำมาได้ทันเพราะปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างมีน้อยกว่าปริมาณน้ำที่ใช้ และแก้ไขไม่ได้ด้วย ต้องหาแหล่งน้ำเพิ่มเท่านั้นครับ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
พี่ขุนอินเพิ่งเตือนเมื่อเช้า ตอนนี้ขึ้นหน้า1 ฐานเศรษฐกิจแล้ว
โพสต์ที่ 16
Ref. No. GE/FIR-L-05-070
17 มิถุนายน 2548
เรื่อง ภาวะแห้งแล้งในพื้นที่จังหวัดระยองและชลบุรี
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ทางบริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน)
ขอแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบว่า กลุ่มบริษัทโกลว์ ได้รับแจ้งจากบริษัท
จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน)
และสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)
ว่าระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำที่จะต้องจ่ายน้ำไปยังพื้นที่ในจังหวัดชลบุรีและระยอง
อยู่ในระดับปริมาณที่ต่ำมาก
อันเนื่องมาจากปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงและต่อเนื่องในภาคตะวันออกของประเทศ
สภาพการณ์เช่นนี้อาจส่งผลให้เกิดการขาดแคลนน้ำในระบบการผลิตของกลุ่มบริษัทโกลว์ได้ตลอดเวลา
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ไอน้ำ น้ำบริสุทธิ์
และน้ำปราศจากแร่ธาตุ ให้กับลูกค้าบางส่วนหรือทั้งหมดได้ หากปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นยาวนานต่อไป
อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อการดำเนินงานของบริษัทฯได้ อย่างไรก็ตาม
บริษัทฯจะดำเนินการอย่างเต็มที่ในการลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อกลุ่มบริษัทโกลว์และลูกค้าอย่าง
ที่เคยปฏิบัติมา
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายศิโรตม์ วิชยาภัย)
ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์
- Heroine
- Verified User
- โพสต์: 196
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ขุนอินเพิ่งเตือนเมื่อเช้า ตอนนี้ขึ้นหน้า1 ฐานเศรษฐกิจแล้ว
โพสต์ที่ 18
ขอบคุณค่ะขุนอิน เขียน:โรงงานเหล็กทั้งหมดทางภาคตะวันออกมีหลายแห่ง
ms มีโรงงานอยู่ที่บ่อวิน มาบตาพุด และสระบุรี
nsm มีโรงงานอยู่ที่บ่อวิน
tnx มีโรงงานอยู่ที่มาบข่า
stpi มีโรงงานเล็ก ๆ หลายโรงอยู่ที่ทั้งชลบุรีและระยอง
เท่าที่ผมค้นได้นะฮะ
โลกมายา...ดินแดนที่ต้องใส่หน้ากากคุยกัน
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก
เหนื่อยค่ะ! อยากหยุดพักการแสดงสิ่งที่ฝืนกับการเป็นตัวของตัวเอง
ล้มหาย ..ยังไม่ตายจาก