ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
- ปฏวี
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 1
แต่ก่อนนานๆมาแล้วเคยอ่านบทความในนี้เรื่องลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน ตอนนี้มีคำถามอยู่ว่า...
ถ้าเราซื้อหุ้นมา80 ขายไป60 คนที่ซื้อต่อเราก็ซื้อที่ทุน60 แล้ว20บาทที่เราเสียไป มันหายไปไหน
ตอนหุ้นขี้นจาก80 เป็น100 ถ้าเราขาย100 กำไร20 ก็มาจากคนที่เราขายไป เพราะเค้าซื้อเราที่100
ช่วยแสดงความเห็นหน่อยครับ เชื่อว่าเรื่องนี้เคยพูดมาแล้ว ผมจำได้ว่าเคยเข้าใจไปแล้ว แต่ตอนนี้มันไม่เข้าใจ ช่วยสอนให้เคลียร์หรือแนะนำบทความเพิ่มอีกก็ได้ครับ เพราะคงหาบทความที่เคยอ่านแต่ก่อนไม่เจอแล้ว
ขอบคุณครับ จากtviที่หายหน้าไปนาน(ผมยังดีใจอยู่เลยว่าแต่ละคนยังอยู่กันพร้อมหน้า ที่จำได้แม่นๆก็วิบูลย์007 กระทู้ตระแกรงร่อนที่เคยอ่านตั้งแต่แรกๆ ก็ยังต่อเนื่องไปหน้าที่50กว่าแล้ว เว็บนี้มั่นคงมากครับ)
ถ้าเราซื้อหุ้นมา80 ขายไป60 คนที่ซื้อต่อเราก็ซื้อที่ทุน60 แล้ว20บาทที่เราเสียไป มันหายไปไหน
ตอนหุ้นขี้นจาก80 เป็น100 ถ้าเราขาย100 กำไร20 ก็มาจากคนที่เราขายไป เพราะเค้าซื้อเราที่100
ช่วยแสดงความเห็นหน่อยครับ เชื่อว่าเรื่องนี้เคยพูดมาแล้ว ผมจำได้ว่าเคยเข้าใจไปแล้ว แต่ตอนนี้มันไม่เข้าใจ ช่วยสอนให้เคลียร์หรือแนะนำบทความเพิ่มอีกก็ได้ครับ เพราะคงหาบทความที่เคยอ่านแต่ก่อนไม่เจอแล้ว
ขอบคุณครับ จากtviที่หายหน้าไปนาน(ผมยังดีใจอยู่เลยว่าแต่ละคนยังอยู่กันพร้อมหน้า ที่จำได้แม่นๆก็วิบูลย์007 กระทู้ตระแกรงร่อนที่เคยอ่านตั้งแต่แรกๆ ก็ยังต่อเนื่องไปหน้าที่50กว่าแล้ว เว็บนี้มั่นคงมากครับ)
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 2
ตั้งกรอบก่อน
ถ้าทำการค้าธรรมดา ไปหุ้นกับเพื่อน 80 บาท แล้วกิจการไม่ดี ต่อมา เราเลยตัดใจขายหุ้นไปที่ 60 บาท เพราะดูแล้วแนวโน้มไม่ไหว อย่างนี้ไม่เรียกการพนัน ใช่หรือไม่
ส่วนคนที่เข้ามาซื้อที่ 60 เพราะเห็นว่าถึงแม้ว่าไม่ไหว แต่ก็ยังพอมีช่อง ให้ทำกำไรกลับมาได้ ก็เลยซื้อที่ 60 ต่อมาผู้บริหารแก้ไข จนกระทั่งกิจการดูดีมาก แต่ผู้ถือหุ้นท่านนี้ต้องใช้เงิน ก็เลยขายออก ไปที่ 100 ซึ่งคนที่มาซื้อก็เห็นว่าเป็นราคาที่เหมาะสม อย่างนี้ก็ไม่ใช่การพนันใช่หรือไม่
เอาเป็นว่า เป็นการลงทุนหรือการพนัน คนเล่นเองรู้แก่ใจครับ
ถ้าทำการค้าธรรมดา ไปหุ้นกับเพื่อน 80 บาท แล้วกิจการไม่ดี ต่อมา เราเลยตัดใจขายหุ้นไปที่ 60 บาท เพราะดูแล้วแนวโน้มไม่ไหว อย่างนี้ไม่เรียกการพนัน ใช่หรือไม่
ส่วนคนที่เข้ามาซื้อที่ 60 เพราะเห็นว่าถึงแม้ว่าไม่ไหว แต่ก็ยังพอมีช่อง ให้ทำกำไรกลับมาได้ ก็เลยซื้อที่ 60 ต่อมาผู้บริหารแก้ไข จนกระทั่งกิจการดูดีมาก แต่ผู้ถือหุ้นท่านนี้ต้องใช้เงิน ก็เลยขายออก ไปที่ 100 ซึ่งคนที่มาซื้อก็เห็นว่าเป็นราคาที่เหมาะสม อย่างนี้ก็ไม่ใช่การพนันใช่หรือไม่
เอาเป็นว่า เป็นการลงทุนหรือการพนัน คนเล่นเองรู้แก่ใจครับ
- Linzhi
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1522
- ผู้ติดตาม: 1
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 4
หุ้น
ลงทุน --> รับเงินปันผล --> ได้รับทุกคน
ถ้าต้องการเงินคืน --> ขายทิ้ง --> มีคนซื้อที่ราคา ... --> คนขายได้เงิน คนซื้อรอเงินปันผลต่อ (ราคาเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายพอใจ ณ เวลานั้น)
การพนัน
ไม่มีวันที่จะได้ทุกคน นอกจากเจ้ามือที่ได้กำไรจากการให้บริการการพนัน หรืออาจจะเรียกว่าค่าน้ำชาก็ได้ครับ (ฮา)
ลงทุน --> รับเงินปันผล --> ได้รับทุกคน
ถ้าต้องการเงินคืน --> ขายทิ้ง --> มีคนซื้อที่ราคา ... --> คนขายได้เงิน คนซื้อรอเงินปันผลต่อ (ราคาเป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายพอใจ ณ เวลานั้น)
การพนัน
ไม่มีวันที่จะได้ทุกคน นอกจากเจ้ามือที่ได้กำไรจากการให้บริการการพนัน หรืออาจจะเรียกว่าค่าน้ำชาก็ได้ครับ (ฮา)
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 5
ถ้าเรายังไม่รู้ว่าการพนันกับการลงทุนต่างกันอย่างไร ก็ถือว่าเป็นการพนัน
ที่ยกตัวอย่างมานั้นมันก็เป็นอีกมุมมองที่แต่ละคนมองไม่เหมือนกัน
ใครมองออกว่า มูลค่าจริงๆควรอยู่ที่เท่าไหร่ นั่นคือนักลงทุนครับ
ที่ยกตัวอย่างมานั้นมันก็เป็นอีกมุมมองที่แต่ละคนมองไม่เหมือนกัน
ใครมองออกว่า มูลค่าจริงๆควรอยู่ที่เท่าไหร่ นั่นคือนักลงทุนครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 6
วันแรก นาย ก. ซื้อหุ้น A ราคา 10 บาท มา 1 แสนหุ้น
วันที่สอง ไม่มีใครขายที่ราคา 10 บาท .. เสนอขาย 13 บาท 100 หุ้น มีคนเคาะซื้อ 100 หุ้น
วันที่สาม ไม่มีใครขายที่ราคา 13 บาท .. เสนอขาย 16 บาท 100 หุ้น มีคนเคาะซื้อ 100 หุ้น
วันที่สี ไม่มีใครขายที่ราคา 16 บาท .. เสนอขาย 20 บาท 100 หุ้น มีคนเคาะซื้อ 100 หุ้น
จบวันที่ 4 .......นาย ก.ได้กำไรเท่าตัว
จริงหรือไม่
วันที่สอง ไม่มีใครขายที่ราคา 10 บาท .. เสนอขาย 13 บาท 100 หุ้น มีคนเคาะซื้อ 100 หุ้น
วันที่สาม ไม่มีใครขายที่ราคา 13 บาท .. เสนอขาย 16 บาท 100 หุ้น มีคนเคาะซื้อ 100 หุ้น
วันที่สี ไม่มีใครขายที่ราคา 16 บาท .. เสนอขาย 20 บาท 100 หุ้น มีคนเคาะซื้อ 100 หุ้น
จบวันที่ 4 .......นาย ก.ได้กำไรเท่าตัว
จริงหรือไม่
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 7
ล้ำลึกมากครับพี่jaychou เขียน:วันแรก นาย ก. ซื้อหุ้น A ราคา 10 บาท มา 1 แสนหุ้น
วันที่สอง ไม่มีใครขายที่ราคา 10 บาท .. เสนอขาย 13 บาท 100 หุ้น มีคนเคาะซื้อ 100 หุ้น
วันที่สาม ไม่มีใครขายที่ราคา 13 บาท .. เสนอขาย 16 บาท 100 หุ้น มีคนเคาะซื้อ 100 หุ้น
วันที่สี ไม่มีใครขายที่ราคา 16 บาท .. เสนอขาย 20 บาท 100 หุ้น มีคนเคาะซื้อ 100 หุ้น
จบวันที่ 4 .......นาย ก.ได้กำไรเท่าตัว
จริงหรือไม่
- stp
- Verified User
- โพสต์: 252
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 8
สมมุติเราเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษสามารถรู้ว่าล๊อตเตอรี่งวดต่อไปออกอะไรทายถูก 100 เปอร์เซนต์ถามว่าถ้าเราแทงล๊อตเตอรี่ที่รู้ว่าถูกชัวร์ๆเป็นการพนันไหมครับ
อีกกรณีถ้าวันนี้มีเงิน 1 ล้านเราเปิดหนังสือพิมพ์แล้วเอาปากกาจิ้มเลือกหุ้นที่จะซื้อถือเป็นการลงทุนไหมครับ
สมมุติคุณลงทุนใน Genting Hiland คาสิโนใหญ่ที่มาเลเซียถือว่าเป็นการพนันไหมครับเพราะธุรกิจเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการพนัน
สำหรับผมมันอยู่ที่ ความรู้และความไม่รู้ เรื่องที่เราจะเอาเงินลงไปว่าผลตอบแทนจะเป็นยังไง มันคงมีความแตกต่างกันระหว่างพื้นที่ที่เรียกว่าการพนันกับการลงทุน และแต่ละคนก็มีการจัดแบ่งพื้นที่พวกนี้แตกต่างกัน
ถ้าจะซื้อหุ้นแบบลงทุนเราก็มีเหตุผลที่ซื้อแบบลงทุน
ถ้าจะซื้อหุ้นแบบให้เป็นการพนันอาจไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลหรือวิเคราะห์แบบลงทุนคงวิเคราะห์แบบเราซื้อล๊อตเตอรี่ หรือเล่นไพ่แบบป๊อกแปดป๊อกเก้าเป็นอันใช้ได่
ที่แตกต่างกันอีกอย่าง การพนันมักเป็น Zero Sum Game ครับ
บริษัทสามารถหารายได้และมีกำไรทำให้เงินในวงเพิ่มจากข้างนอกได้ครับ
อีกกรณีถ้าวันนี้มีเงิน 1 ล้านเราเปิดหนังสือพิมพ์แล้วเอาปากกาจิ้มเลือกหุ้นที่จะซื้อถือเป็นการลงทุนไหมครับ
สมมุติคุณลงทุนใน Genting Hiland คาสิโนใหญ่ที่มาเลเซียถือว่าเป็นการพนันไหมครับเพราะธุรกิจเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการพนัน
สำหรับผมมันอยู่ที่ ความรู้และความไม่รู้ เรื่องที่เราจะเอาเงินลงไปว่าผลตอบแทนจะเป็นยังไง มันคงมีความแตกต่างกันระหว่างพื้นที่ที่เรียกว่าการพนันกับการลงทุน และแต่ละคนก็มีการจัดแบ่งพื้นที่พวกนี้แตกต่างกัน
ถ้าจะซื้อหุ้นแบบลงทุนเราก็มีเหตุผลที่ซื้อแบบลงทุน
ถ้าจะซื้อหุ้นแบบให้เป็นการพนันอาจไม่จำเป็นต้องหาเหตุผลหรือวิเคราะห์แบบลงทุนคงวิเคราะห์แบบเราซื้อล๊อตเตอรี่ หรือเล่นไพ่แบบป๊อกแปดป๊อกเก้าเป็นอันใช้ได่
ที่แตกต่างกันอีกอย่าง การพนันมักเป็น Zero Sum Game ครับ
บริษัทสามารถหารายได้และมีกำไรทำให้เงินในวงเพิ่มจากข้างนอกได้ครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 13
ตอบเองก็ได้ ในกรณีไม่คิดค่าคอมฯ
สมมุติว่าหุ้น IPO ที่ 50 บาท โดยบริษัท A (บริษัท A +50 บาท)
นาย B ซื้อที่ราคา IPO แล้วขายในราคา 80 บาท ให้นาย C (นาย B +30 บาท)
นาย C ขายที่ 60 บาทให้นาย D (นาย C -20 บาท)
นาย D ซื้อมา มีหุ้นอยู่ 1 หุ้น กับเงินหายไป 60 บาท (นาย D -60 บาท +1 หุ้น)
สรุปว่าเงิน = + 50 + 30 - 20 - 60 = 0 พอดี
สรุปว่าหุ้นอยู่กับนาย D = 1 หุ้นของบริษัท A
สมมุติว่าหุ้น IPO ที่ 50 บาท โดยบริษัท A (บริษัท A +50 บาท)
นาย B ซื้อที่ราคา IPO แล้วขายในราคา 80 บาท ให้นาย C (นาย B +30 บาท)
นาย C ขายที่ 60 บาทให้นาย D (นาย C -20 บาท)
นาย D ซื้อมา มีหุ้นอยู่ 1 หุ้น กับเงินหายไป 60 บาท (นาย D -60 บาท +1 หุ้น)
สรุปว่าเงิน = + 50 + 30 - 20 - 60 = 0 พอดี
สรุปว่าหุ้นอยู่กับนาย D = 1 หุ้นของบริษัท A
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 21
:lol: :lol: :lol: :lol:
ผมว่า การพนันกับการลงทุนมีความคล้ายคลึงกันมากพอสมควร
การลงทุนที่จำกัดความเสี่ยงได้มาก สมควรเรียก การลงทุน
การลงทุนที่จำกัดความเสี่ยงไม่ได้ สมควรเรียก การพนัน
การพนันที่จำกัดความเสี่ยงไม่ได้ ก็เรียก การพนัน ถูกต้องแล้ว
การพนันที่จำกัดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี(ไม่รู้มีใหม แต่ถ้ามี)ก็สมควรเรียกว่า การลงทุน
ตอบคำถามเรื่องเงินหายไปไหน
คำตอบคล้ายๆกับที่ท่าน CK และท่าน stp ว่า ก็คือ การพนันเป็น zero sum game เงินทั้งหมดไม่สูญหายไปไหน และไม่ได้งอกเงยขึ้นมา เพียงแต่ย้ายกระเป๋าไปมาเท่านั้นเอง
แต่การเล่นหุ้นไม่ใช่ zero sum game เงินโดยรวมหายได้ และงอกเงยได้ ทุกคนได้กำไรหมดก็ได้ และทุกคนขาดทุนหมดก็ได้ จากผลประกอบการบริษัท และจากการตีราคามูลค่าของนักลงทุน แง่มๆ ตามความคิดผมนะ
:lol: :lol: :lol: :lol:
ผมว่า การพนันกับการลงทุนมีความคล้ายคลึงกันมากพอสมควร
การลงทุนที่จำกัดความเสี่ยงได้มาก สมควรเรียก การลงทุน
การลงทุนที่จำกัดความเสี่ยงไม่ได้ สมควรเรียก การพนัน
การพนันที่จำกัดความเสี่ยงไม่ได้ ก็เรียก การพนัน ถูกต้องแล้ว
การพนันที่จำกัดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี(ไม่รู้มีใหม แต่ถ้ามี)ก็สมควรเรียกว่า การลงทุน
ตอบคำถามเรื่องเงินหายไปไหน
คำตอบคล้ายๆกับที่ท่าน CK และท่าน stp ว่า ก็คือ การพนันเป็น zero sum game เงินทั้งหมดไม่สูญหายไปไหน และไม่ได้งอกเงยขึ้นมา เพียงแต่ย้ายกระเป๋าไปมาเท่านั้นเอง
แต่การเล่นหุ้นไม่ใช่ zero sum game เงินโดยรวมหายได้ และงอกเงยได้ ทุกคนได้กำไรหมดก็ได้ และทุกคนขาดทุนหมดก็ได้ จากผลประกอบการบริษัท และจากการตีราคามูลค่าของนักลงทุน แง่มๆ ตามความคิดผมนะ
:lol: :lol: :lol: :lol:
- Tao Investor
- Verified User
- โพสต์: 200
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 22
แล้ว90%ตัดนิ้ว.. ..หรือเปล่าครับ
:lovl: :lovl: :lovl: :lovl:
Inmagination is more importan than knowledge
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 23
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
โพสผิดกระทู้
โพสผิดกระทู้
-
- Verified User
- โพสต์: 363
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 24
สรุปว่าเงิน = + 50 + 30 - 20 - 60 = 0 พอดี
สรุปว่าหุ้นอยู่กับนาย D = 1 หุ้นของบริษัท A
ถ้า 1 หุ้นบริษัท A ปันผล 5 บาท
นาย D ถือจนรับปันผลหละครับคิดไงดี
อย่างน้อยก็ไม่ใช่ Zero Sum ใช่ไหมครับ
ถ้ามองภาพใหญ่ขึ้นไปอีกหน่อย
บริษัท A ซื้อของต้นทุน 100 ขายไปได้ 110 ก็กำไร 10
ปันผลไป 5 อีก 5 ก็สะสมลงไปในมูลค่าหุ้นของบริษัท A
Sum จะถือว่าไม่เปลี่ยนแปลงได้หรือเปล่าครับ?
- Tongue
- Verified User
- โพสต์: 725
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 25
ตอนไป first orientation ที่คณะ
เขาให้เล่น เกมส์หนึ่ง
แจก ปากกาคนละหนึ่งด้าม กับ กระดาษ คนละแผ่น
กติกาคือ you got 30 minutes, SELL it???
ผลคือ งง เต็ก กันอยู่พักหนึ่ง
จากนั้นก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว
เริ่มมีคนเอาปากกาไปแลกกระดาษ
บางคนเอากระดาษไปแลกปากกา
หลายคน ยัง งงเต็กอยู่
สักพัก
บางคนเริ่มเขียนมูลค่า ลงในกระดาษ แล้วนำไปซื้อปากกาคนอื่น
บางคนเขียนเป็น บาท บางคนเขียนเป็น ดอลล์
บางคนเขียน 500 บางคนเขียน 1,000,000
บางคน ฉีกกระดาษ เป็นหลายๆ แผ่น
เริ่มมีการสร้างค่าเงินต่างๆ มีการต่อรอง สกุลนี้ ดีกว่า สกุล โน้น
ขายกันไป ขายกันมา
บางคนมีกระดาษเยอะขึ้น บางคนน้อยลง
บางคนไล่ซื้อแต่ปากกา เอามาขาย
มั่วกันไปมั่วกันมา ปากกาด้ามเดิมๆเริ่ม ขายได้แพงขึ้น เพราะ คนขายบอกว่า
อันนี้เป็นสีแดง ด้ามใหญ่กว่าอันนู้น
อันนี้สวยกว่า เขียนดีกว่าอันนั้น และอื่นๆ
คนซื้อก็ต่อรองว่า ฉันใช้เงินสกุลนี้
มีค่ามากกว่า มีคนใช้เยอะกว่า ก็ต้องขายฉันถูกกว่า
ในทางกลับกัน
บางคนก็ขายปากกาไม่ออก
เงินบางสกุลก็ไม่ได้รับความรูจัก
พอจบเกมส์ สรุปได้ว่า
ราคาที่แตกต่างมาจากการต่อรอง ที่สามารถสร้าง Value ขึ้นใน perception ของคนซื้อได้
ประเด็นคือ เราต้องดูว่า value ที่เพิ่ม หรือ ลดลงมามันจริง หรือ มันโม้
แล้วถ้ามันจริง มันคุ้มกับราคาที่เสนอไหม
เงินหายไม่หายไม่เกี่ยวกับ การพนันไม่พนัน
ธุรกิจ กับ การพนัน
ธุรกิจ คือ การแลกเปลี่ยนสิ่งของ ของคนอย่างน้อย 2 คนหรือกลุ่ม โดยที่ของที่เอามาแลกกัน มีมูลค่า และ เป็นที่ต้องการของอีกฝ่าย และทั้งคู่เต็มใจที่จะแลก
จะดีมากๆถ้าการแลกเปลี่ยนนั้นเกิดจาก ความต้องการจริง คือ เอาไปกินไปใช้
ในทางเศรษฐศาสตร์ ต้อง ทำให้เกิดการผลิต หรือ บริการ
การพนันคือ เป็นแค่ เงินเปลี่ยนมือ มันไม่มีสิ่งของ กับ เสียแล้วไม่ชอบใจ
เช่น แทงบอล ไม่แทง ทีวีก็ถ่ายทอดอยู่ดี ถ้าเสียก็เซ็ง ถ้าได้ อีกฝ่ายก็เซ็ง
เขาให้เล่น เกมส์หนึ่ง
แจก ปากกาคนละหนึ่งด้าม กับ กระดาษ คนละแผ่น
กติกาคือ you got 30 minutes, SELL it???
ผลคือ งง เต็ก กันอยู่พักหนึ่ง
จากนั้นก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว
เริ่มมีคนเอาปากกาไปแลกกระดาษ
บางคนเอากระดาษไปแลกปากกา
หลายคน ยัง งงเต็กอยู่
สักพัก
บางคนเริ่มเขียนมูลค่า ลงในกระดาษ แล้วนำไปซื้อปากกาคนอื่น
บางคนเขียนเป็น บาท บางคนเขียนเป็น ดอลล์
บางคนเขียน 500 บางคนเขียน 1,000,000
บางคน ฉีกกระดาษ เป็นหลายๆ แผ่น
เริ่มมีการสร้างค่าเงินต่างๆ มีการต่อรอง สกุลนี้ ดีกว่า สกุล โน้น
ขายกันไป ขายกันมา
บางคนมีกระดาษเยอะขึ้น บางคนน้อยลง
บางคนไล่ซื้อแต่ปากกา เอามาขาย
มั่วกันไปมั่วกันมา ปากกาด้ามเดิมๆเริ่ม ขายได้แพงขึ้น เพราะ คนขายบอกว่า
อันนี้เป็นสีแดง ด้ามใหญ่กว่าอันนู้น
อันนี้สวยกว่า เขียนดีกว่าอันนั้น และอื่นๆ
คนซื้อก็ต่อรองว่า ฉันใช้เงินสกุลนี้
มีค่ามากกว่า มีคนใช้เยอะกว่า ก็ต้องขายฉันถูกกว่า
ในทางกลับกัน
บางคนก็ขายปากกาไม่ออก
เงินบางสกุลก็ไม่ได้รับความรูจัก
พอจบเกมส์ สรุปได้ว่า
ราคาที่แตกต่างมาจากการต่อรอง ที่สามารถสร้าง Value ขึ้นใน perception ของคนซื้อได้
ประเด็นคือ เราต้องดูว่า value ที่เพิ่ม หรือ ลดลงมามันจริง หรือ มันโม้
แล้วถ้ามันจริง มันคุ้มกับราคาที่เสนอไหม
เงินหายไม่หายไม่เกี่ยวกับ การพนันไม่พนัน
ธุรกิจ กับ การพนัน
ธุรกิจ คือ การแลกเปลี่ยนสิ่งของ ของคนอย่างน้อย 2 คนหรือกลุ่ม โดยที่ของที่เอามาแลกกัน มีมูลค่า และ เป็นที่ต้องการของอีกฝ่าย และทั้งคู่เต็มใจที่จะแลก
จะดีมากๆถ้าการแลกเปลี่ยนนั้นเกิดจาก ความต้องการจริง คือ เอาไปกินไปใช้
ในทางเศรษฐศาสตร์ ต้อง ทำให้เกิดการผลิต หรือ บริการ
การพนันคือ เป็นแค่ เงินเปลี่ยนมือ มันไม่มีสิ่งของ กับ เสียแล้วไม่ชอบใจ
เช่น แทงบอล ไม่แทง ทีวีก็ถ่ายทอดอยู่ดี ถ้าเสียก็เซ็ง ถ้าได้ อีกฝ่ายก็เซ็ง
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 26
เห็นภาพชัดเจนครับพี่Tongue เขียน:ตอนไป first orientation ที่คณะ
เขาให้เล่น เกมส์หนึ่ง
แจก ปากกาคนละหนึ่งด้าม กับ กระดาษ คนละแผ่น
กติกาคือ you got 30 minutes, SELL it???
ผลคือ งง เต็ก กันอยู่พักหนึ่ง
จากนั้นก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว
เริ่มมีคนเอาปากกาไปแลกกระดาษ
บางคนเอากระดาษไปแลกปากกา
หลายคน ยัง งงเต็กอยู่
สักพัก
บางคนเริ่มเขียนมูลค่า ลงในกระดาษ แล้วนำไปซื้อปากกาคนอื่น
บางคนเขียนเป็น บาท บางคนเขียนเป็น ดอลล์
บางคนเขียน 500 บางคนเขียน 1,000,000
บางคน ฉีกกระดาษ เป็นหลายๆ แผ่น
เริ่มมีการสร้างค่าเงินต่างๆ มีการต่อรอง สกุลนี้ ดีกว่า สกุล โน้น
ขายกันไป ขายกันมา
บางคนมีกระดาษเยอะขึ้น บางคนน้อยลง
บางคนไล่ซื้อแต่ปากกา เอามาขาย
มั่วกันไปมั่วกันมา ปากกาด้ามเดิมๆเริ่ม ขายได้แพงขึ้น เพราะ คนขายบอกว่า
อันนี้เป็นสีแดง ด้ามใหญ่กว่าอันนู้น
อันนี้สวยกว่า เขียนดีกว่าอันนั้น และอื่นๆ
คนซื้อก็ต่อรองว่า ฉันใช้เงินสกุลนี้
มีค่ามากกว่า มีคนใช้เยอะกว่า ก็ต้องขายฉันถูกกว่า
ในทางกลับกัน
บางคนก็ขายปากกาไม่ออก
เงินบางสกุลก็ไม่ได้รับความรูจัก
พอจบเกมส์ สรุปได้ว่า
ราคาที่แตกต่างมาจากการต่อรอง ที่สามารถสร้าง Value ขึ้นใน perception ของคนซื้อได้
ประเด็นคือ เราต้องดูว่า value ที่เพิ่ม หรือ ลดลงมามันจริง หรือ มันโม้
แล้วถ้ามันจริง มันคุ้มกับราคาที่เสนอไหม
เงินหายไม่หายไม่เกี่ยวกับ การพนันไม่พนัน
ธุรกิจ กับ การพนัน
ธุรกิจ คือ การแลกเปลี่ยนสิ่งของ ของคนอย่างน้อย 2 คนหรือกลุ่ม โดยที่ของที่เอามาแลกกัน มีมูลค่า และ เป็นที่ต้องการของอีกฝ่าย และทั้งคู่เต็มใจที่จะแลก
จะดีมากๆถ้าการแลกเปลี่ยนนั้นเกิดจาก ความต้องการจริง คือ เอาไปกินไปใช้
ในทางเศรษฐศาสตร์ ต้อง ทำให้เกิดการผลิต หรือ บริการ
การพนันคือ เป็นแค่ เงินเปลี่ยนมือ มันไม่มีสิ่งของ กับ เสียแล้วไม่ชอบใจ
เช่น แทงบอล ไม่แทง ทีวีก็ถ่ายทอดอยู่ดี ถ้าเสียก็เซ็ง ถ้าได้ อีกฝ่ายก็เซ็ง
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 28
อืม ถ้าValue มันไม่ได้ลดไป ก็แสดงว่าเงินเราก็ไม่ได้หายไปไหนนะซิ
คิดเข้าข้างตัวเอง ง่ายๆก็คือ
เงินไปเที่ยวเดี๋ยวเดียว ก็กลับมา
ท่านNARIS เหมือนกับจะรู้นะว่าผมจะเขียนอะไรต่อ
:lovl: :lovl: :lovl:
เพราะว่าเงิน20บาทไปเที่ยวเดี๋ยวก็กลับมา เราก็เลยไม่ต้องคิดอะไรมากกับการลงทุน
แต่ถ้านิ้วก้อยเราหายไป1นิ้ว มันกลับมาไม่ได้
ดังนั้นจึงต้องคิดหนักหน่อย
เงินนะเรื่องเล็ก แต่ไม่มีนะเรื่องใหญ่
แต่ถ้าคิดถึงมันมาก เราก็มักจะลืมหลายสิ่งที่เป็นตรรกะไป
:lovl: :lovl: :lovl:
เอานิ้วสุดท้ายเป็นเดิมพันกันไหมครับ ท่านNaris
คิดเข้าข้างตัวเอง ง่ายๆก็คือ
เงินไปเที่ยวเดี๋ยวเดียว ก็กลับมา
ท่านNARIS เหมือนกับจะรู้นะว่าผมจะเขียนอะไรต่อ
:lovl: :lovl: :lovl:
เพราะว่าเงิน20บาทไปเที่ยวเดี๋ยวก็กลับมา เราก็เลยไม่ต้องคิดอะไรมากกับการลงทุน
แต่ถ้านิ้วก้อยเราหายไป1นิ้ว มันกลับมาไม่ได้
ดังนั้นจึงต้องคิดหนักหน่อย
เงินนะเรื่องเล็ก แต่ไม่มีนะเรื่องใหญ่
แต่ถ้าคิดถึงมันมาก เราก็มักจะลืมหลายสิ่งที่เป็นตรรกะไป
:lovl: :lovl: :lovl:
เอานิ้วสุดท้ายเป็นเดิมพันกันไหมครับ ท่านNaris
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 29
แล้วเงินหายเงินเพิ่มนี่มันการพนันยังไงครับไม่เข้าใจ งง...ปฏวี เขียน:แต่ก่อนนานๆมาแล้วเคยอ่านบทความในนี้เรื่องลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน ตอนนี้มีคำถามอยู่ว่า...
ถ้าเราซื้อหุ้นมา80 ขายไป60 คนที่ซื้อต่อเราก็ซื้อที่ทุน60 แล้ว20บาทที่เราเสียไป มันหายไปไหน
ตอนหุ้นขี้นจาก80 เป็น100 ถ้าเราขาย100 กำไร20 ก็มาจากคนที่เราขายไป เพราะเค้าซื้อเราที่100
ช่วยแสดงความเห็นหน่อยครับ เชื่อว่าเรื่องนี้เคยพูดมาแล้ว ผมจำได้ว่าเคยเข้าใจไปแล้ว แต่ตอนนี้มันไม่เข้าใจ ช่วยสอนให้เคลียร์หรือแนะนำบทความเพิ่มอีกก็ได้ครับ เพราะคงหาบทความที่เคยอ่านแต่ก่อนไม่เจอแล้ว
ขอบคุณครับ จากtviที่หายหน้าไปนาน(ผมยังดีใจอยู่เลยว่าแต่ละคนยังอยู่กันพร้อมหน้า ที่จำได้แม่นๆก็วิบูลย์007 กระทู้ตระแกรงร่อนที่เคยอ่านตั้งแต่แรกๆ ก็ยังต่อเนื่องไปหน้าที่50กว่าแล้ว เว็บนี้มั่นคงมากครับ)
สมมุติ ....ผมซื้อกล้วยมา 1 ลูก 3 บาท ผมขายต่อ 5 บาท เงินมาจากไหน 2 บาท
.....ผมซื้อกล้วยมา 1 ลูก 3 บาท ที่ไหนได้ กล้วยเต็มตลาดเลย ต้องลดราคาไปขาย 2 บาท เงินหายไปไหน 1 บาท
ซื้อขายกล้วย เป็นการพนันหรือไม่ งง จัง ... :lol: :lol: :lol: เงินหายไปไหน
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
- ปฏวี
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนในหุ้นไม่ใช่การพนัน แล้วเอ้อ เงินหายไปไหน
โพสต์ที่ 30
ก่อนอื่นบอกก่อนว่าดีใจมากคนตอบกันเต็มเลย รักบอร์ดนี้มาก ชื่อเก่าๆที่เคยเห็นเมื่อปี2003ก็ยังเห็นกันอยู๋หลายคน
ชอบคำตอบคุณckว่า20บาทไม่ได้หายไปไหน ตอนแรกผมลืมคิดต้นทุนของบริษัทที่ออกหุ้นออกมา
ส่วนเรื่องกล้วยคุณคัดท้ายขอถามเหมือนกันว่า ถ้าคนปลูกกล้วยปลูกกล้วยขี้นมาใช้เงินทุนทั้งหมด5บาท แต่ที่ตลาดขายกัน3บาท เค้าเลยต้องขาย3บาท แล้วเงิน2บาทหายไปไหน
(แต่จริงๆแล้วเงินทุนปลูกกล้วย5บาทมันก็แค่เรื่องตกลง ถ้าเกิดกล้วยมันงอกมาเองที่หลังบ้านล่ะ)
....สรุปกระทู้นี้คือ เงินไม่ได้หาย เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวกับเงินตัวเลขเกิดจากการตกลงเหมือนเกมส์แลกกระดาษปากกา สสารไม่หายจากโลก แต่การตกลงข้อยอมรับเปลี่ยนไปเท่านั้นเอง...สรุปอย่างนี้ได้มั้ยครับ
เดี๋ยวผมอาจมีคำถามอีก เพราะเดี๋ยวไปอธิบายเจ้าของคำถามกับเพื่อนก่อน ว่าเค้าอาจทำให้ผมมีคำถามอีกมั้ย
ชอบคำตอบคุณckว่า20บาทไม่ได้หายไปไหน ตอนแรกผมลืมคิดต้นทุนของบริษัทที่ออกหุ้นออกมา
ส่วนเรื่องกล้วยคุณคัดท้ายขอถามเหมือนกันว่า ถ้าคนปลูกกล้วยปลูกกล้วยขี้นมาใช้เงินทุนทั้งหมด5บาท แต่ที่ตลาดขายกัน3บาท เค้าเลยต้องขาย3บาท แล้วเงิน2บาทหายไปไหน
(แต่จริงๆแล้วเงินทุนปลูกกล้วย5บาทมันก็แค่เรื่องตกลง ถ้าเกิดกล้วยมันงอกมาเองที่หลังบ้านล่ะ)
....สรุปกระทู้นี้คือ เงินไม่ได้หาย เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวกับเงินตัวเลขเกิดจากการตกลงเหมือนเกมส์แลกกระดาษปากกา สสารไม่หายจากโลก แต่การตกลงข้อยอมรับเปลี่ยนไปเท่านั้นเอง...สรุปอย่างนี้ได้มั้ยครับ
เดี๋ยวผมอาจมีคำถามอีก เพราะเดี๋ยวไปอธิบายเจ้าของคำถามกับเพื่อนก่อน ว่าเค้าอาจทำให้ผมมีคำถามอีกมั้ย