ไม่รู้จะกระทบกลุ่มเกษตรแค่ไหน

[yoyo]

ข่าวออนไลน์
วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2546


เตือนเหนือ-อีสาน รับมือพายุไต้ฝุ่น กรอวาญ



โดย ผู้จัดการออนไลน์


กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนให้ชาวเหนือ-อีสาน เพิ่มความระมัดระวังรับมือจากพายุไต้ฝุ่น กรอวาญ (KROVANH) ในทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 1,000 กิโลเมตร คาดอาจทำให้น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในที่ราบลุ่มและพื้นที่เสี่ยงภัย

กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งการพยากรณ์อากาศประจำวัน วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม. 2546 ออกประกาศเวลา 12.00น.ว่าสภาวะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 7.00 น. การเคลื่อนตัวของพายุไต้ฝุ่น กรอวาญ (KROVANH) ในทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 1,000 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 17.4 องศาเหนือ ลองจิจูด 119.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนทางเหนือด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง



ทั้งนี้ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้เกาะไหหลำประมาณวันที่ 25 สิงหาคม 2546 ลักษณะดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกชุกหนาแน่นอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในที่ราบลุ่มและพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากภัยธรรมชาติไว้ด้วย สำหรับทะเลจีนใต้มีคลื่นจัดถึงจัดมากความสูงของคลื่น 36 เมตร ส่วนอ่าวไทยและทะเลอันดามันคลื่นลมจะมีกำลังแรงขึ้นในอีก 12 วันข้างหน้า ขอให้ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

[yoyo]

หน้าแรกผู้จัดการ Online | ข่าวออนไลน์
ข่าวออนไลน์
วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2546

เหนือ-อีสาน-ตะวันออกระทม ผจญน้ำท่วมเสียหายไปทั่ว



โดย ผู้จัดการออนไลน์

ภาวะฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศก่อความเดือดร้อนให้กับประชาชน ไร่นาเสียหายไปทั่ว เชียงรายสังเวยชีวิตแล้ว 1 จากเหตุดินถล่ม

จากภาวะฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของประเทศ มีรายงานว่า ที่บ้านของนางบัวผัน ไชยปัญญา ในชุมชนดอยตอง เขตเทศบาลเมือง จังหวัดเชียงราย พังเสียหายเพราะถูกดินบนเนินเขาถล่มทับ หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงเมื่อวานนี้(20ส.ค.) และ ยังทำให้นางบัวผัน อายุ 62 ปี ถูกบ้านพังทับเสียชีวิตด้วย รวมทั้งหลานอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเพื่อนบ้านเข้าไปช่วยเหลือนำตัวออกมาได้ ทางจังหวัดได้เตือนเพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงให้ระวังดินถล่มซ้ำอีกระลอก เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีการปลูกบ้านในลักษณะขุดเจาะลงไปในดิน ดังนั้นเมื่อถูกน้ำกัดเซาะจึงทำให้ดินทรุดตัวและบ้านพัง

น้ำแม่น้ำยมเอ่อเข้าท่วมสุโขทัย
การประกาศเตือนให้ประชาชนระวังน้ำล้นตลิ่งแม่น้ำยมที่จังหวัดสุโขทัยเมื่อคืนนี้ แม้ว่าป้องกันจังหวัดและเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี นำกระสอบทรายมาเรียงเพิ่มตลอดแนวถนนนิกรเกษมหน้าศาลากลางจังหวัดสุโขทัยถึง 3 ชั้น เพื่อกั้นน้ำ แต่อีกฝั่งของแม่น้ำยมที่ถนนประเวศนครไม่มีการวางแนวกระสอบทรายเสริมเลย ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าบ้านเรือนราษฎรชุมชนประเวศนคร และเอ่อเข้าพื้นที่การเกษตร

ที่ตำบลยางซ้าย ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำที่สุด ชาวบ้านต้องขอกำลังเครื่องจักรเข้าขุดดินทำคันกั้นน้ำ ขณะที่น้ำกำลังเชี่ยวและมีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งระดับน้ำที่จุดวัดน้ำหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย สูงกว่าระดับวิกฤติ
เมื่อปีที่ผ่านมา 2 เซนติเมตร ป้องกันจังหวัดคาดว่าหากน้ำจากจังหวัดแพร่ และน้ำฝนเพิ่มลงมา น้ำที่เอ่อล้นนี้จะยังคงอยู่ประมาณ 1-2 วัน

ยโสธรระทมเช่นกัน
ด้านจังหวัดยโสธร เกิดฝนตกหนักกระจายทุกพื้นที่ และจังหวัดใกล้เคียงติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วยสาขา ไหลลงสู่ลำน้ำชี ,ลำน้ำเซบาย และลำน้ำโพง โดยเฉพาะลำน้ำโพง กับลำน้ำเซบาย ไหลมาสมทบกันช่วงด้าน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ที่มีเขตติดต่อกับอำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ โดยตอนเช้าวันนี้(21 ส.ค.) ปริมาณน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมไร่นาราษฎร ใน 4 ตำบล เช่น ตำบลเชียงเพ็ง ตำบลโพธิ์ไทร ตำบลกระจาย และตำบลศรีฐาน กินพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น และขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ ส่วนทางด้านลำน้ำชี ซึ่งมีต้นน้ำมาจากจังหวัดชัยภูมิ ไหลมาสมทบกับปริมาณน้ำยัง ที่ไหลมาจากเทือกเขาภูพาน ทอดยาวผ่าน อำเภอเขาวง อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ผ่านอำเภอโพนทอง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ก่อนไหลลงสู่ลำน้ำชี เขตอำเภอเมืองยโสธร เช้าวันนี้ระดับน้ำในลำน้ำชีเริ่มจ่อที่จะล้นตลิ่ง คาดว่าหากฝนยังตกหนักต่อไปอีกตลอดสัปดาห์ และเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น ระบายน้ำลงมาสมทบจะส่งผลให้ระดับน้ำในลำชีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและไร่นาของราษฎร ที่อาศัยอยู่ตามแนวฝั่งลำชี อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นายสุธี มากบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กล่าวเตือนประชาชนที่มีบ้านเรือนใกล้ลำน้ำ ให้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ส่วนแผนรองรับราษฎรที่จะอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยตามแนวฝั่งลำชี ทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์อำนวยการช่วยผู้ประสบอุทกภัยไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม โดยมีการประชุมนายอำเภอทุกอำเภอ ร่วมกับเจ้าหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดเตรียมสถานที่รองรับราษฎรพร้อมสัตว์เลี้ยงไว้กว่า 5 จุด กระจายอยู่ตามอำเภอต่าง ๆ ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยไม่ต้องวิตก

ร้อยเอ็ดอพยพนักโทษและสิ่งของหนี
ส่วนสถานการณ์ฝนตกหนักที่จังหวัดร้อยเอ็ดตลอด 2 วันที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันที่เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด นักโทษต้องหนีขึ้นที่สูงและชั้นสองของอาคารเรือนนอน เนื่องจากน้ำท่วมสูงกว่า 80 เซนติเมตร โรงจำหน่ายผลิตภัณฑ์ สถานนวดแผนไทย โรงครัว โรงอาหาร ห้องน้ำ ห้องส้วม และโรงฝึกงาน ถูกน้ำท่วมใช้การไม่ได้ เจ้าหน้าที่เรือนจำและญาติต้องเดินลุยน้ำเข้าทำงานและออกนอกบ้าน โดยที่บ้านพัก ผู้บัญชาการเรือนจำ และบ้านพักเจ้าหน้าที่กว่า 20 หลัง ถูกน้ำท่วมสูง ต้องอพยพข้าวของ รถจักรยานยนต์ขึ้นที่สูง ซึ่งนายนริศ รัตโน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า น้ำจะท่วมแทบทุกปีเพราะตั้งอยู่ในพื้นที่ต่ำ เดือดร้อนมาก แม้จะใช้เครื่องสูบน้ำตลอดทั้งคืน แต่ไม่ได้ผล
บ้านเรือนประชาชนริมแม่น้ำจันทบุรีเริ่มมีปัญหาน้ำท่วม

จันทบุรี-ตราดยังมืดครึ้ม
ที่จังหวัดจันทบุรีมีฝนตกติดต่อกันมาหลายวัน ปรากฎว่าวันนี้น้ำได้เริ่มท่วมในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรี รวมทั้งในเขตเทศบาลตำบลจันทนิมิต โดยเฉพาะถนนสายสุขาภิบาลริมน้ำ ถนนท่าสิงห์ ระดับน้ำได้ท่วมผิวการจราจรสูงประมาณ 30-50 ซม. ทำให้โรงเรียนวัดจันทนาราม โรงเรียนลาซาล ประกาศหยุดเรียนเป็นเวลา 2 วัน สภาพอากาศทั่วไปในขณะนี้ท้องฟ้าโดยทั่วไปมืดครึ้มปกคลุมไปด้วยเมฆฝน จนทำให้ขณะนี้รถประชาสัมพันธ์ของเทศบาลเมืองจันทบุรีต้องประกาศเตือนให้ประชนที่มีบ้านเรืองระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมแล้ว โดยเฉพาะประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ติดริมแม่น้ำจันทบุรี เริ่มได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้แล้ว กล่าวว่า ระดับน้ำที่ท่วมในครั้งนี้มีปริมาณมากกว่าเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา
น้ำป่าไหลหลาก ท่วมบ้านเรือนราษฎรตำบลสะตอรอบสอง

รายงานจากจังหวัดตราด ว่า ในเขตพื้นที่ตำบลสะตอ อำเภอบ่อไร่ ชาวบ้านยังคงหวาดผวา เนื่องจากน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด และฝนที่กำลังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง กว่า 2 วันที่ผ่านมา ทำให้ในขณะนี้ น้ำเริ่มเอ่อส้นพื้นที่ตำบลสะตออีกครั้ง จนต้องทำให้ชาวบ้านบางส่วน ต้องอาศัยตามวัด พร้อมทั้งตั้งเวรยาม เพื่อเฝ้าสังเกตุการณ์ ถึงการเพิ่มขึ้น และลดลงของระดับน้ำ ในลำคลอง และเพื่อแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐให้ทราบ จะได้เตรียมการช่วยเหลือได้ทันท่วงที เพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าว น้ำป่าที่ไหลหลากลงมาเป็นประจำตลอดทุกปี และปริมาณน้ำจะเริ่มเอ่อล้นขึ้นมาจากแม่น้ำลำคลอง สำหรับเมื่อคืนที่ผ่านมาปรากฏว่า ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีฝนตกตลอดทั้งคืน

นายยอดชัย พาณิชว์วัฒนา กำนันตำบลสะตอ กล่าวว่า ขณะนี้ฝนยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังกังวลกับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก จากเทือกเขาบรรทัด จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังอยู่ตลอดเวลา และได้ออกสำรวจปริมาณน้ำในแม่น้ำลำคลอง และได้มีการวางเวรยามไว้เฝ้าสังเกตุการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอดทั้งวันของวันนี้ ทางชาวบ้านยังคงรอดูระดับน้ำต่อไปเรื่อยๆ และออกสำรวจความเสียหาย หลังจากเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.)ไม่สามารถประเมินความเสียหายได้มากนัก เนื่องจากระดับน้ำยังคงสูงอยู่ ซึ่งตอนนี้สรุปได้เพียงว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น มีบ้านเรือนราษฏรที่ได้รับความเสียหายจำนวนกว่า 100 หลังคาเรือน ประชาชนกว่า 1,000 คน และถนนหลายสายถูกตัดขาด เส้นทางคมนาคมระหว่างหมู่ 3,4 และ หมู่ 7 รถยนต์ปกติ ไม่สามารถเดินทางผ่านได้ จำเป็นจะต้องให้หน่วยงานภาครัฐเข้าให้ความช่วยเหลืออย่างแร่งด่วน หลังจากระดับน้ำลดลง