น้ำมัน...
-
- Verified User
- โพสต์: 479
- ผู้ติดตาม: 0
น้ำมัน...
โพสต์ที่ 1
:shock:
มันทะยาน ที่ 66 ดอลล่าร์/บาเรล อยากถาม
- ปัจจัยจากความต้องการกะกำลังผลิตมันไม่สอดคล้องกันได้อย่างไร
เหมือนกับมันจะวนๆๆ มาเกิดอีกจากวิกฤตน้ำมันครั้งก่อน ใครเกิดทันวิกฤตครั้งก่อนมั่งช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ มันจบลงได้ไง
- ไบโอดีเซล ที่ใช้ๆๆกันนี่ผสมเบนซินด้วยหรือว่าเป็นเพียวๆๆไบโอครับ
รถทั่วไปใช้นานจะมีปัญหาเรื่องการจุดระเบิด หรือเครื่องพังป่าว
- พลังงานทางเลือกตัวไหนตอนนี้ที่มีความเป็นไปได้ในการนำมาค่อยๆๆทดเเทนน้ำมัน นอกจากไบโอ
ขอบคุง....ครับ
:!:
มันทะยาน ที่ 66 ดอลล่าร์/บาเรล อยากถาม
- ปัจจัยจากความต้องการกะกำลังผลิตมันไม่สอดคล้องกันได้อย่างไร
เหมือนกับมันจะวนๆๆ มาเกิดอีกจากวิกฤตน้ำมันครั้งก่อน ใครเกิดทันวิกฤตครั้งก่อนมั่งช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ มันจบลงได้ไง
- ไบโอดีเซล ที่ใช้ๆๆกันนี่ผสมเบนซินด้วยหรือว่าเป็นเพียวๆๆไบโอครับ
รถทั่วไปใช้นานจะมีปัญหาเรื่องการจุดระเบิด หรือเครื่องพังป่าว
- พลังงานทางเลือกตัวไหนตอนนี้ที่มีความเป็นไปได้ในการนำมาค่อยๆๆทดเเทนน้ำมัน นอกจากไบโอ
ขอบคุง....ครับ
:!:
*****
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2166
- ผู้ติดตาม: 0
น้ำมัน...
โพสต์ที่ 2
ขอตอบคำถามแรกจากความรู้ที่มีนะครับ (ข้ิอมูลจากงานสัมมนาเรื่อง Energy VS Geopolictics ที่จัดโดย PTIT และ บทความ Unquenchable Thirst For Oil ในหนังสือ Investment Under Fire (หาซื้อได้ที่ Asia Books))
ปัจจัยหลักๆที่่ทำให้เห็นราคาน้ำมันดังที่เป็นอยู่เนื่องมาจาก
1. Demand Growth สูงกว่า Supply มาก ความต้องการใช้น้ำมันเติบโตสูงขึ้นจากการที่เศรษฐกิจของจีนกับอินเดียกำลังขยายตัว บวกกับ ประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นในเหล่าประเทศกำลังพัฒนาซึ่งมีอัตราการใช้น้ำมันในระดับที่สูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว แม้กระทั่งประเทศที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันเองอย่างอินโดนีเซีย หรือ ซาอุดิอาระเบีย ก็อาจเป็นประเทศที่ต้องนำเข้าน้ำมันในอนาคต (สำหรับอินโดนีเซีย ถ้าฟังมาไม่ผิด ต้องนำน้ำมันเข้าแล้วเนื่องจากความต้องการใช้ภายในประเทศเพิ่มขึ้น)
2. Depleted Spare Capacity ในอดีตประเทศ ซาอุฯ เป็น Swing Producer กล่าวคือมี Spare Capacity เหลือเฟือจนมีอิทธิพลต่อราคาน้ำมันของตลาดโลกได้ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจนมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในอดีต เช่น ปี 1973, 1980 เกิดจาก Supply-led Shock (กลุ่มประเทศ OPEC เริ่มจำกัดการผลิตน้ำมันเพื่อให้ราคาขยับตัวสูงขึ้น) เมื่อราคาน้ำมันขยับตัวสูงขึ้นจนถึงระดับหนึ่งที่การใช้ลดลง จึงทำให้ราคาปรับตัวลดลง นอกจากนี้การที่ราคาน้ำมันขยับตัวสูงขึ้นทำให้มีการหันไปใช้พลังงานประเภทอื่น เช่น ก๊าซธรรมชาติ
นี่ีเป็นครั้งแรกที่การปรับตัวสูงขึ้นของน้ำมันเกิดจาก Demand-led shock ในปัจจุบัน ซาอุฯ เหลือ Spare Capacity ค่อนข้างน้อย ทำให้ไม่สามารถควบคุมราคาน้ำมันในแบบที่ตนเองอยากให้เป็นได้ ความพยายามของซาอุฯที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับชาวโลกว่าตนสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่เนื่องจากชะล่าใจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทำให้การลงทุนใน infrastructure ไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ถ้าได้อ่านหนังสือเรื่อง Twilight in The Desert ที่พยายามบอกว่า Saudi มาถึงจุดอิ่มตัวแล้วเช่นกัน เราอาจจะต้องหวังกับแหล่งน้ำมันใหม่จาก Caspian, Russia, Alaska แต่แหล่งเหล่านี้คงต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการพัฒนา
3.Financial Speculation เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันเกี่ยวกับเรื่องการก่อการร้าย การเมืองในประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลักอย่างรัสเซีย เวเนซูเอลา ไนจีเรีย ค่อนข้างไม่แน่นอน ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Premium ของราคาน้ำมันประมาณ USD 7-15 ต่อบาร์เรล
พลังงานทางเลือกที่จะมาแทนน้ำมัน คือ ก๊าซธรรมชาติครับ
ปัจจัยหลักๆที่่ทำให้เห็นราคาน้ำมันดังที่เป็นอยู่เนื่องมาจาก
1. Demand Growth สูงกว่า Supply มาก ความต้องการใช้น้ำมันเติบโตสูงขึ้นจากการที่เศรษฐกิจของจีนกับอินเดียกำลังขยายตัว บวกกับ ประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นในเหล่าประเทศกำลังพัฒนาซึ่งมีอัตราการใช้น้ำมันในระดับที่สูงกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว แม้กระทั่งประเทศที่เป็นผู้ผลิตน้ำมันเองอย่างอินโดนีเซีย หรือ ซาอุดิอาระเบีย ก็อาจเป็นประเทศที่ต้องนำเข้าน้ำมันในอนาคต (สำหรับอินโดนีเซีย ถ้าฟังมาไม่ผิด ต้องนำน้ำมันเข้าแล้วเนื่องจากความต้องการใช้ภายในประเทศเพิ่มขึ้น)
2. Depleted Spare Capacity ในอดีตประเทศ ซาอุฯ เป็น Swing Producer กล่าวคือมี Spare Capacity เหลือเฟือจนมีอิทธิพลต่อราคาน้ำมันของตลาดโลกได้ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นจนมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในอดีต เช่น ปี 1973, 1980 เกิดจาก Supply-led Shock (กลุ่มประเทศ OPEC เริ่มจำกัดการผลิตน้ำมันเพื่อให้ราคาขยับตัวสูงขึ้น) เมื่อราคาน้ำมันขยับตัวสูงขึ้นจนถึงระดับหนึ่งที่การใช้ลดลง จึงทำให้ราคาปรับตัวลดลง นอกจากนี้การที่ราคาน้ำมันขยับตัวสูงขึ้นทำให้มีการหันไปใช้พลังงานประเภทอื่น เช่น ก๊าซธรรมชาติ
นี่ีเป็นครั้งแรกที่การปรับตัวสูงขึ้นของน้ำมันเกิดจาก Demand-led shock ในปัจจุบัน ซาอุฯ เหลือ Spare Capacity ค่อนข้างน้อย ทำให้ไม่สามารถควบคุมราคาน้ำมันในแบบที่ตนเองอยากให้เป็นได้ ความพยายามของซาอุฯที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับชาวโลกว่าตนสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่เนื่องจากชะล่าใจในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาทำให้การลงทุนใน infrastructure ไม่ทัน อย่างไรก็ตาม ถ้าได้อ่านหนังสือเรื่อง Twilight in The Desert ที่พยายามบอกว่า Saudi มาถึงจุดอิ่มตัวแล้วเช่นกัน เราอาจจะต้องหวังกับแหล่งน้ำมันใหม่จาก Caspian, Russia, Alaska แต่แหล่งเหล่านี้คงต้องใช้เวลาอีกหลายปีในการพัฒนา
3.Financial Speculation เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันเกี่ยวกับเรื่องการก่อการร้าย การเมืองในประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลักอย่างรัสเซีย เวเนซูเอลา ไนจีเรีย ค่อนข้างไม่แน่นอน ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Premium ของราคาน้ำมันประมาณ USD 7-15 ต่อบาร์เรล
พลังงานทางเลือกที่จะมาแทนน้ำมัน คือ ก๊าซธรรมชาติครับ