ใครเคยทำเรื่องlogisticบ้าง แวะมาคุยกันหน่อยครับ

[Mon money]

คือผมกำลังสนใจเรื่องนี้อยู่ กำลังศึกษาหาความรู้เห็นเป็นธุรกิจดาวรุ่ง เพื่อนๆเคยทำก็มาคุยให้ฟังบ้างครับ ว่ามีประเด็นอะไรที่ต้องมีบ้าง จุดสำคัญๆในการทำให้สำเร็จมีอะไรบ้าง และมันช่วยลดต้นทุน กับสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างไร

[booklover]

พอดีผมอ่านเจอใน manager รายสัปดาห์เล่มล่าสุดเกี่ยวกับ
distributor หนังสือต่างๆน่ะครับพี่มนอาจจะลองอ่านดูก้อได้ครับ

[woody]

อืมม น่าสนใจมากๆ ครับ ขนาดพี่ Mon เอ่ยปากเองอย่างนี้ เดี๋ยวร่วมแรงแข็งขันครับ

[CK]

ผมเคยศึกษาครับ แต่ไม่เคยทำ
สนใจโมเด็ลของ FEDEX และ Amazon.com ครับ

Jeff Bezos บอกว่า amazon เป็น a logistics company;
not a bookstore, not an internet company

[jaychou]

มีปัญหาพรรค์นี้อยู่เหมือนกัน ...

... เข้ามาดูครับ

[CK]

ขอเริ่มเปิดประเด็นละกัน ผิดถูกช่วยกันยำหน่อยครับ

หัวใจของโลจิสติกส์คือ สะดวก เร็ว ต้นทุนต่ำ

ควรจ้างบริษัทต่างชาติทำวิจัยเรื่อง efficiency ครับ

เห็น central จ้าง วิจัยแค่ไม่กี่เดือน จ่ายไปหลายตังค์
แต่สามารถคืนทุนได้เร็วมากเลยครับ

อย่างแนวทางที่คุณชัยวัฒน์ได้ทำไปแล้ว กำลังทำ
และวางแผนที่จะทำในอนาคต ผมว่ามาถูกทางแล้วครับ

[jaychou]

ขยายความ คำว่า Efficiency ครับ

ผมว่าความ3 ถูก เป็นสิ่งสำคัญ คือ ถูกของ ถูกเวลา ถูกสถานที่

ถูกของ คือ ได้ปริมาณ และคุณภาพตามต้องการ โดยเฉพาะของที่ sensitive กับการขนส่ง พวกสารเคมี น้ำมันเชื้อเพลิง

ถูกเวลา คือมาได้จังหวะที่ต้องการ ไม่เร็วไป (ทำให้ต้องมีโกดังเยอะ) ไม่ช้าไป (ทำให้ของขาด)

ถูกสถานที่ คือ ไม่ส่งผิดที่ว่างั้นเหอะ


ท่านอื่นมีอะไรเสริมคับ

[wasun]

ผมทำงานด้าน ICT ในวงการ Logistics ครับ
ธุรกิจด้านนี้ กำลังเติบโตครับ มีบริษัทใหม่ๆทางด้าน Logistics เพิ่มมากขึ้นทีเดียว

สมัยก่อน ผู้โรงงานผู้ผลิตสินค้า เมื่อผลิตสินค้าเสร็จ ก็จะเก็บไว้ใน warehouse ของตนเอง
เมื่อมีผู้สั่งซื้อ ก็จะจัดรถของโรงงานเองไปส่งเอง

ตอนนี้ โรงงานใหญ่ๆ จ้าง Logistics บริหาร warehouse + รถส่งสินค้า
พวก Logistics ที่เก่งๆ ก็จะสามารถรวบรวมลูกค้าที่อยู่ในโซน/เส้นทางเดียวกัน
แล้วใช้รถวิ่งวน ไปส่งของ และ รับของกลับ (เห็นเรียกว่า Milk-Run)
บางทีรวมถึง การวางบิล และ เก็บเงินให้ด้วย  ในส่วนเจ้าของโรงงาน
นับว่าสามารถลดต้นทุนได้มากกว่าทำเองปีหนึ่งๆ นับสิบล้านบาทครับ

อนาคต คิดว่า จะเหลือเฉพาะ Logistics รายใหญ่เท่านั้น  ส่วนรายเล็กๆของไทย
ก็คงเป็นได้แค่ส่วนหนึ่งของเครือข่ายของรายใหญ่ (ประเภทได้แค่เป็นรถร่วม)

ปูนใหญ่ก็ทำ Logistics ครับ  ลองดูที่ http://www.ctlnetwork.com
ให้บริการทั้งเครือปูนฯ และ ลูกค้าทั่วไปด้วย

[sunrise]

เป็นงานที่ต้องการประสบการณ์ ค่อนข้างมากครับ

ต้องมีรากฐานกิจการ และ system ต้องพร้อม ในการมองหา yield ที่มากขึ้น

อย่างที่บริษัทผมทำ ใช้ระบบ drive คนครับ แต่ว่าทำยากพอสมควร
แต่ว่าคิดว่าถ้าได้น่าจะดีมากครับ

การทำ logistic แบ่งเป็นสองฝั่ง
ผู้ให้บริการ และ ผุ้รับบริการ

ผุ้ให้บริการ จะใช้ net work ของการที่มีลูกค้าหลายๆ เจ้ามาผสมกัน แล้วใช้ความสามารถของ บุคลากร, intrafra structure ที่เจ้าเล็กๆ ไม่สามารถ สร้างได้ และ ระบบ IT ในการบริหาร

ผู้รับบริการ จ่ายเงินให้ ผุ้ใช้เพราะ
ถ้าเป็นกิจการขนาดใหญ่
อยากทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด Core competency
ลดความเสี่ยง

เจ้าเล็กๆ มักจะเป็นเพราะ
ขาดประสบการณ์
ต้องการความสะดวก

High risk, High return ครับ ในกิจการอย่างนี้

[CK]

hit or miss ครับ ธุรกิจนี้ ถ้าดีต้องทำให้ดีมากๆ ไปเลย ไม่งั้นก็ยังไม่ดีครับ

ได้ยินว่า logistics ของ KPN ก็ดีครับ แต่ไม่เคยดู

ส่วนเครือ central นี่ เยี่ยมยุทธครับ

โลตัสก็น่าจะดี

[jaychou]

พวกบริษัทเชื้อเพลิงอย่าง PTT ESSO Shell ฯลฯ นี่เค้าบริหาร Logistics เอง หรือ outsource ครับ สงสัยมานาน .. และจริงๆแล้ว น้ำมันแต่ละยี่ห้อนี่ต่างกันจริงหรือเปล่า
อย่างถ้าน้ำมันของ Esso มีปัญหามาส่งไม่ทัน เค้าเอา Shell ใส่แทนไปก่อนได้หรือเปล่า
(ผมเดาเอาเองนะ ว่ามันอาจจะมีมั่ง)

[tossaporn]

ตอนนี้ผมกำลังจะเรียน Course เป็นประมาณวิชาชีพของสมาคม http://www.tiffathai.org  ซึ่งเป็นสมาคมที่ผู้ประกอบการทางด้าน Logistics รวมตัวกันขึ้นเพื่อสอนและจัดหาคนที่เรียนมาด้านนี้เพื่อเข้ามาทำงานให้กับบริษัทสมาชิกครับ http://itbsthai.com/index.php คือพูดง่ายคืองานใน Field นี้จะค้อนข้างที่จะเน้นประสบการณ์เป็นหลักเลย ทีแรกผมไปสมัครหลายที่เหมือนกัน ทั้ง เมิร์ก และบริษัท Logistics หลายที่ แต่ทุกที่แนะนำผมเลยว่าต้องมาเรียนที่นี่ก่อนจะเข้าในสายงานนี้ เนื่องจากงานในด้านนี้มี คนที่จะเป็นงานน้อยมากและไม่มีใครที่จะมีเวลามาสอนเรา อีกอย่างระบบงานก็เดินไปแล้ว ดังนั้นเค้าต้องการคนที่เป็นเลยหรือมีพื้นฐานที่ถูกต้อง มาก่อน บริษัทที่อยู่ในสมาคมนี้จะครอบคลุมเกือบทุกบริษัท Logistics ในประเทศ เป็นทั้งของคนไทย และ ต่างประเทศ

เท่าที่รู้ทุกธุรกิจเนี่ยต้องอาศัยระบบ Logistics ที่ดีครับไม่เว้นแม้แต่โรงพยาบาล ในการวางแผนและประสานกับหน่วยงานต่างเพื่อนให้ไปรับคนเจ็บให้เร็วที่สุด ทั้ง เส้นทาง ข้อมูลผู้เจ็บ การจัดการวางแผนจราจร และอื่นๆอีกมาก

[harry]

ตอบแบบชาวบ้าน

บอกว่าได้ของในเจ็ดวัน ก็ต้องเจ็ดวัน ไม่ใช่หายไปเป็นเดือนยังไม่ได้

ของถึงมือ ต้องใช่ที่เราสั่งไป ไม่แตก ไม่ยับ ไม่พัง ใช้งานได้ปกติ แล้วก็เคลมคืนได้ หากมีปัญหาจากขั้นตอนการส่ง

รวมถึงขั้นตอนการชำระเงินค่าสินค้าด้วย ถ้าขายให้กับผู้บริโภคทั่วไป

และก็ไม่ใช่แบบสั่งชิ้นเดียว แต่ต้องไปรอออร์เดอร์คนอื่นมารวม ที่ไม่รู้ว่าจะมีเมื่อไหร่

[ตาหมูอ้วน.]

ขออนุญาตร่วมเสนอความคิดเห็นในกระทู้นี้ด้วยคนนะครับ

ขอเพิ่มเติมจากคุณ jaychouที่ว่า "ขยายความ คำว่า Efficiency ครับ

ผมว่าความ3 ถูก เป็นสิ่งสำคัญ คือ ถูกของ ถูกเวลา ถูกสถานที่ " เป็นถูกตังค์ด้วยนะครับ

ขอเพิ่มเติมจากคุณ wasun ที่ว่า "พวก Logistics ที่เก่งๆ ก็จะสามารถรวบรวมลูกค้าที่อยู่ในโซน/เส้นทางเดียวกัน
แล้วใช้รถวิ่งวน ไปส่งของ และ รับของกลับ (เห็นเรียกว่า Milk-Run) "
ตามความเข้าใจของผม มันมีลักษณะการวิ่งเก็บสินค้าอยู่ 2 แบบ ครับ
1. Milk run คือวิ่งรถเปล่าจากคลังสินค้า ไปเก็บสินค้าที่สถานที่ของ Supplier แต่ละรายตามเส้นทางที่กำหนดไว้แล้วกลับมาที่ C ของตัวเอง
2. Backhualing คือ นำรถเที่ยวกลับจากการส่งสินค้า (ซึ่งอาจจะเป็นเที่ยวที่มีสินค้าขากลับหรือไม่มีก็ได้) ไปรับสินค้าที่สถานที่ (DC) ของ  Supplier แล้วกลับมาที่ DC ของตัวเองครับ

ซึ่งก่อนที่จะทำได้เนี้ย ต้องใช้ความร่วมมือระหว่างกันมากๆเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการนัดหมายเวลา หรือการปรับปรุงระบบการรับมอบสินค้าและเอกสาร เพราะยิ่งต้องจอดรถรอรับส่งสินค้านานเท่าไร เราก็จะยิ่งเสียโอกาสในการนำรถไปใช้มากเท่านั้น ส่งผลให้ต้นทุนด้าน logistics จะลดลงได้ไม่มากครับ

ผมเพิ่งเข้ามาทำงานด้านนี้ไม่นานนัก ผิดถูกอย่างไร ต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

[worapong]

ผมมีความรู้เรื่องนี้แค่หางอึ่งครับ แต่เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นหัวใจที่สำคัญข้อหนึ่งที่ทำให้วอลมาร์ตประสบความสำเร็จครับ โดยมันจะเป็นระบบสลับซับซ้อนที่จะมีทั้งการให้supplier ส่งของโดยตรงไปยังร้านค้า หรืออาจส่งของไปยัง DC ก่อน หรืออาจมีการถ่ายเทสินค้าข้าม DC โดยปกติแล้ว DC จะมีการทำงานตลอดเวลา โดยจัดคิวตามความเหมาะสมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด แซม วอลตันเคยบอกว่าเค้าต้องตกใจสุดขีดทุกครั้งที่มีการเสนอราคาของระบบพวกนี้ แต่ก็ต้องทำเพื่อกำไรที่มากขึ้น วิธีการตั้งร้านค้าก็มีผลต่อเรื่องlogisticครับ เช่น เมื่อวอลมาร์ตต้องการจะตั้งร้านค้าเพื่อครอบคลุมบริเวณใดบริเวณหนึ่ง เค้าก็จะมองหาทำเลที่จะตั้ง DC ไปด้วย และเมื่อตั้ง DC เสร็จแล้ว เค้าก็จะเอาวงเวียนกางรอบรัศมีที่จะเดินทางได้ภายในหนึ่งวัน หลังจากนั้น เค้าก็จะขยายร้านไปรอบๆขอบเขตของวงเวียนนั้น ซึ่งมันมีประสิทธิภาพมากๆ ไม่รู้ว่าจะตอบตรงคำถามมั๊ยครับ ถ้าสนใจลองหาอ่านจากหนังสือเกี่ยวกับวอลมาร์ตก็ได้ครับ มีเล่มแปลด้วย แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว อ้อ ต้องซื้อที่ร้านซีเอ็ดของผมด้วยนะครับ

[hot]

แล้วไปรษณีย์ เขาใช้ระบบนี้หรือเปล่าคับ

[CK]

คนคิดระบบของ fedex และก่อตั้งบริษัทชื่อ Frederick W. Smith ครับ
เมื่อ 1965 เขาเขียนเทอมเปเปอร์ส่งอาจารย์ บอกว่าระบบขนส่ง
กระจายสินค้าในสมัยนั้นจะไม่สามารถรองรับการเติบโตของประเทศได้
จะต้องมีระบบกระจายสินค้าโดยใช้เครื่องบินเป็นพาหะ และระบบ
จะต้องเอื้ออำนวยให้ส่งได้เร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ตอนนั้นได้ข่าวว่าพวกอาจารย์ด่าเปเปอร์นี้ซะเละเลย

ในปี 1971 เขาก็เริ่มตั้งบริษัทของตัวเองในเมมฟิส ซึ่งกว่าจะเป็นรูปร่าง
และเริ่มดำเนินการจริงก็ 1973 โดยใช้เครื่องบินขนาดเล็ก 13 ลำ

หลังจาก อย่างที่เขาชอบพูดกัน ก็กลายเป็นประวัติศาสตร์

[sunrise]

พวกบริษัทเชื้อเพลิงอย่าง PTT ESSO Shell ฯลฯ นี่เค้าบริหาร Logistics เอง หรือ outsource ครับ สงสัยมานาน .. และจริงๆแล้ว น้ำมันแต่ละยี่ห้อนี่ต่างกันจริงหรือเปล่า
อย่างถ้าน้ำมันของ Esso มีปัญหามาส่งไม่ทัน เค้าเอา Shell ใส่แทนไปก่อนได้หรือเปล่า
(ผมเดาเอาเองนะ ว่ามันอาจจะมีมั่ง)

เคยรู้ว่า ปูนอินทรีย์ เค้าคุมเอง

แต่บริษัทเชื้อเพลิง คงเอาน้ำมันมาใส่แทนหรอกครับ

[woody]

ผ่าขุมกำลังเทสโก้ โลตัส DC ยักษ์ระดับสากล
Source - ฐานเศรษฐกิจ (Th)

Saturday, September 03, 2005  06:21
19172 XTHAI XECON XCORP V%PAPERL P%TSK

         การแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modrent  Trade)  ในยุคโลกาภิวัฒน์  คงไม่ใช่มีเพียงเรื่องของการให้บริการอย่างเดียว  การควบคุมระบบการบริหารจัดการและต้นทุนสินค้ากลายเป็นสิ่งสำคัญที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือส่วนที่ทำกำไรให้เห็นเป็นตัวเลขอย่างเด่นชัดจุดหนึ่ง
         ระบบซัพพลาย เชน (Supply  Chain)  ถูกหยิบมาเป็นหัวข้อหลักในการพูดถึงเสมอๆ โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจเข้าสู่วิกฤต  ส่วนผู้ประกอบการคนไทยเองเริ่มรู้จักคำนี้ดี ก็เมื่อเกิดวิกฤต "ต้มยำกุ้ง"  แต่สำหรับในธุรกิจรีเทลแล้ว "ซัพพลาย เชน" เข้ามามีบทบาทนานนับ 10 ปี
         ซัพพลายเชนหัวใจสำคัญ"ลอจิสติกส์"
         "ซัพพลาย เชน"  เป็นกระบวนการบริหารจัดการสินค้าระหว่างผู้ผลิตและผู้ขาย  เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ถูกเวลา และถูกต้องที่สุด
         คุณปีเตอร์  ฮับบาร์ด   ผู้ควบคุมฝ่ายปฎิบัติการในระดับประเทศ (National  Operations  Contraller)  1 ในทีมผู้บริหาร ของเทสโก้ โลตัส  ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการลอจิสติกส์ทั้งธุรกิจรีเทล และคอนซูเมอร์มากกว่า 20 ปี เล่าให้ฟังว่า  ศูนย์กระจายสินค้า (Distribution  Center : DC) ของเทสโก้ โลตัส มีเพียง 1 แห่งคือที่วังน้อย  จ.พระนครศรีอยุธยาเท่านั้น    ซึ่งที่นี่นับเป็นDC ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่มีอยู่ในประเทศไทย  ทั้งในส่วนของระบบการจัดการ  การบริหาร  และสิ่งสำคัญคือเทคโนโลยีที่ทันสมัย   และเป็นศูนย์กระจายสินค้าให้กับเทสโก้ โลตัส ไฮเปอร์มาร์เก็ตทั้ง 52 แห่ง  โลตัส เอ็กซ์เพรส 90 แห่ง  ร้านคุ้มค่า 12 แห่ง และตลาดโลตัส  5 แห่ง
         ส่วนระบบซัพพลาย เชนที่ดี  DC จะไม่ใช่เป็นเพียงคลังสินค้าสำหรับเก็บสินค้า หรือขนส่งสินค้าไปยังลูกค้าหรือสาขาเท่านั้น  แต่ระบบซัพพลาย เชน จะต้องประกอบไปด้วย  การบริหารจัดการคลังสินค้า   การจัดเก็บสินค้า  การเลือกสรรรวมไปถึงการจัดแยกสินค้า  และสำคัญมากๆ คือเรื่องของเวลาที่ต้องให้ทันต่อความต้องการของสาขา ซึ่งเป็น 1 ในลูกค้าของDC ส่วนอีกกลุ่มที่จัดเป็นลูกค้าสำคัญของ DC คือซัพพลายเออร์  แต่ที่เทสโก้ โลตัส แล้วจะเรียกกลุ่มนี้ว่า Vendor  (ผู้ขาย)
         ที่DC วังน้อย เริ่มเปิดใช้ตั้งแต่  1  มิย.  2539  ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 150 ไร่ ซึ่งสมัยนั้นใช้เงินลงทุนนับพันล้านบาท   ในแต่ละวันมีสินค้าจากVendor หมุนเวียนสลับกัน เข้าออกมากกว่า 5,000 ราย  โดยสินค้าหลักจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ สินค้าที่มีอายุสั้น ส่วนใหญ่เป็นของสดเรียกว่า กลุ่ม  เฟรช  (Fresh)  เช่นอาหาร  ผลไม้  และเครื่องดื่ม  ส่วนสินค้าที่มีอายุยาวเก็บได้นาน เรียกว่า แอมเบี้ยน  (Ambients)  เช่น  ของใช้ภายในบ้าน กระดาษ  เป็นต้น  การทำงานจึงแข่งขันกับเวลาและเปิดตลอด 24 ชั่วโมง  ทำให้ต้องใช้แรงงานค่อนข้างสูงถึง 1,800 คน
         การจัดสรรสินค้าที่เข้า-ออกจึงต้องให้มีความลงตัวมากที่สุด  และไม่ใช่เพียงแค่อำนวยความสะดวกให้กับDC หรือพนักงาน แต่จะต้องคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภค และคุณภาพของสินค้าเป็นสำคัญ  ทุกอย่างจึงถูกกำหนดด้วยเรื่องของเวลาเป็นหลัก  ได้แก่   00.01 น. 06.00 น. จะเป็นช่วงเวลาของอาหารประเภทเนื้อ  หมู ที่มาจากโรงงานชำแหละ   หลังจากนั้นจนถึงเที่ยงวันจะเป็นเนื้อไก่  และอาหารสดอื่นๆ  ช่วงบ่ายเป็นผัก  ผลไม้    ส่วนเย็นเป็นขนมปังที่อบเสร็จจากเตาใหม่ๆ   ขณะที่แผนกแอมเบี้ยน สินค้าก็จะหมุนเวียนเข้าออกตลอดวันเช่นกัน
         ระบบบริหารสินค้าแบบสากล
         คุณสิทธิรัฐ   วัชราภรณ์    ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ  ศูนย์กระจายสินค้าวังน้อย เล่าให้ฟังว่า  ในแต่ละวันจะมีรถขนส่งสินค้าจากเวนเดอร์วิ่งเข้า รถขนสินค้าของโลตัสฯ วิ่งออก ไม่ต่ำกว่า 1,500 คัน การจัดระบบจึงต้องมีความเป็นมืออาชีพสูง   เรื่องของข้อมูลจึงสำคัญที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด  เพราะถ้าผิดพลาดจะไม่ใช่เพียง DC เท่านั้นที่ได้รับผลกระทบแต่จะรวมถึงสโตร์ต่างๆที่ไม่มีสินค้าจำหน่ายด้วย
         ระบบการกระจายสินค้าของเทสโก้ โลตัส  ประกอบไปด้วย 3 ระบบหลักคือ RAMS (Richer  automate  merchandising  system)   ระบบการบริหารสินค้า เช่นการเปิดใบสั่งซื้อ   ข้อมูลสินค้า   ประวัติการขาย  จะอยู่ในระบบนี้ทั้งหมด  RDM ( Retex   Distribution  Management)   เป็นการบริหารคลังสินค้า  เมื่อมีการรับนัดหมายการส่งสินค้า  รับสินค้า  การจัดเก็บ  การเบิก จะถูกระบบ RDM ควบคุมทุกขั้นตอนเพื่อกันการผิดพลาด   และ SCS (Stock  contral  system)   เป็นการรับ  เก็บ  ขาย และโอนข้อมูลสินค้าของสาขา   ซึ่งการทำงานทั้ง 3 ระบบจะต้องลิงค์ถึงกันหมด  และหากขาดข้อมูลส่วนใดส่วนหนึ่งไป ระบบจะแจ้ง
         กล่าวคือเมื่อ RAMS ส่งใบสั่งซื้อสินค้าไปให้กับเวนเดอร์ด้วยระบบ EDI (Electronic  Data  Interchange)   เวนเดอร์จะผลิตสินค้าเพื่อส่งกลับมาตามใบสั่งซื้อ โดยRDM จะเป็นผู้นัดหมายและรับสินค้า และแจ้งกลับไปยัง RAMS ว่าได้รับข้อมูลแล้ว  ข้อมูลก็จะส่งไปยังแผนกอื่นๆ เช่น การเงินเพื่อทำการชำระเงินตามเงื่อนไขต่อไป
         ขณะที่ขั้นตอนในDC   จะรับออเดอร์ดิสทริบิวชั่น  ซึ่งในข้อมูลจะระบุว่า สินค้าแต่ละสโตร์  แต่ละประเภทมีกี่ชนิด   กี่กล่อง  ซึ่งDC จะจองเบิกแต่ละโลเคชั่น และจัดสินค้าไปให้ทันทีส่วนระบบการจัดสรรสินค้าจะอยู่ในรูปแบบ First in  First out  โดยจะมี lable  barcode เป็นตัวกำหนด ทุกครั้งที่นำสินค้าเข้าตู้ขนส่ง จะมีการสแกนสินค้าทุกกล่อง   ทุกพาเลท  เมื่อคอนเฟิร์มสแกนชิพและปิดตู้  ข้อมูลจากระบบ RDM จะถูกรันไปที่ RAMS  และRAMS จะดาวน์โหลดไปที่ SCS เพื่อแจ้งข้อมูลรับทราบ  การขนส่งสินค้าจากเวนเดอร์ มายังDC  ก่อนที่จะกระจายไปยังสโตร์ต่างๆนั้น  สิ่งสำคัญที่สุดคือการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าของเวนเดอร์  ทั้งค่าน้ำมัน  ค่าบุคคลากร  และค่าเสื่อมต่างๆ ซึ่งไม่สามารถวัดเป็นตัวเลขได้
         ซึ่งทั้งระบบการจัดการทั้ง 3  นี้ เรียกกว่า Merchandise  Management หรือการบริหารสินค้า เป็นระบบสากลที่เทสโก้ โลตัสใช้ในทุกประเทศ  ยกเว้นที่อังกฤษที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงและคาดว่าจะเริ่มใช้ได้ในเร็วๆนี้  ซึ่งเทสโก้ โลตัสที่เมืองไทยเองก็เพิ่งเริ่มใช้ระบบนี้อย่างเต็มรูปแบบเมื่อปลายปี 2547 ที่ผ่านมาจากเดิมที่ใช้ระบบ  PCF (Product  contral  system) แทน RDM ซึ่งรูปแบบของระบบจะคล้ายกัน แต่ RDM จะเป็นการอัพเกรดระบบให้พัฒนาอีกก้าวหนึ่ง ทำให้การดู และอ่านข้อมูลง่ายขึ้น
         Drop & Hook สปีดเร็วตรงเวลา
         ส่วนการทำงานภายในDC  จะแบ่งออกเป็น  4 ส่วนคือ 1. แผนกจัดเก็บสินค้า  ซึ่งเป็นการรับออเดอร์มาเบิกสินค้าให้กับสาขา  2.  แผนกสินค้าส่งผ่าน หรือครอส ด็อก  สินค้าส่วนใหญ่ในแผนกนี้จะเป็นสินค้าที่มีอายุสั้น  ต้องคัดแยกและส่งไปสาขาภายใน 24 ชั่วโมง  3. แผนกเฟรชฟู้ด   เป็นสินค้าที่ต้องการความเย็นในการเก็บรักษา  ซึ่ง 95% จะเป็นสินค้าส่งผ่าน ส่วนอีก 5% เป็นผลไม้นำเข้า  4.  แผนกจัดส่งแยกชิ้น สำหรับจัดส่งสินค้าให้กับโลตัส เอ็กซ์เพรส ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่หากสั่งสินค้าเป็นแพคขนาดใหญ่
         อย่างไรก็ดี ปัญหาอย่างหนึ่งคือเรื่องของเวลา ที่จะเป็นจะต้องจัดส่งให้ทันการจำหน่ายในทุกๆวัน  การขนส่งสินค้าจึงใช้ระบบ Drop and  Hook   โดยการบริหารรถหัวลาก  กับตู้เทรเลอร์แยกกัน  ซึ่งปัจจุบันเทสโก้ โลตัสมีตู้ขนสินค้า 400 ตู้ ซึ่งบริษัทเป็นผู้ลงทุนเอง  ส่วนรถหัวลากเป็นการซัพคอนเท็กซ์จากบริษัทเอกชน ซึ่งมีรถหัวลากอยู่  150 คัน  ดังนั้นเพื่อให้รถหัวลากและตู้สินค้าไปถึงสโตร์แต่ละแห่งทั่วประเทศทันกำหนด  รถหัวลากจะขนตู้สินค้าไปไว้ที่สโตร์ และวิ่งกลับทันทีโดยไม่รอขนสินค้าลง
         และเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้และประหยัดในเที่ยวขากลับ ซึ่งรถหัวลากจะลากตู้เปล่า ทางบริษัทจึงรับขนสินค้าของเวนเดอร์ที่ผลิตสินค้าหรืออยู่ในเส้นทางขากลับมายังDC ในราคาพิเศษ  ซึ่งจะเป็นผลดีทั้งของเทสโก้ โลตัสและเวนเดอร์  โดยระบบดังกล่าวเรียกว่า แบล็ค ฮอล์  ซึ่งในอดีตระบบนี้ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากเวนเดอร์เท่าใดนัก  แต่ในปัจจุบันโดยเฉพาะช่วงที่น้ำมันมีราคาสูงเวนเดอร์ส่วนใหญ่ให้ความสนใจมากขึ้น โดยปัจจุบันเทสโก้ โลตัสมีเวนเดอร์ที่ร่วมทำแบล็ค ฮอล์มากกว่า 60 รายแล้ว
         ระบบการจัดการในการกระจายสินค้าไม่ใช่เพียงการจัดระบบภายในDC เท่านั้น  แม้แต่ในตู้ขนส่ง จะต้องมีการจัดการอุณหภูมิภายในตู้ให้เหมาะกับสินค้าแต่ละชนิด เพื่อควบคุมคุณภาพ โดยใน 1 ตู้เทรเลอร์  จะแบ่งออกเป็น 4 อุณหภูมิ คือ +25 องศา  +12 องศา   + 1 องศา  และ 25 องศา
         อย่างไรก็ตามระบบซัพพลาย เชน  ยังคงเป็นระบบห่วงโซ่  ที่ต้องเกิดจากการประสานงานของแต่ละแผนก  แต่ละองค์กร  และสิ่งสำคัญคือซัพพลาย เชนจะช่วยทำให้การบริหารจัดการสินค้าบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้  ซึ่งคำนวนค่าไม่ได้ด้วยตัวเงิน--จบ--

         --ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 4 - 7 ก.ย. 2548--

[naris]

เอ....ตกลงพี่มนมองตัวไหนอยู่เหรอครับ บอกน้องๆหน่อยดิ

[por_jai]

8) UMS

[wasun]

พวกบริษัทเชื้อเพลิงอย่าง PTT ESSO Shell ฯลฯ นี่เค้าบริหาร Logistics เอง หรือ outsource ครับ สงสัยมานาน .. และจริงๆแล้ว น้ำมันแต่ละยี่ห้อนี่ต่างกันจริงหรือเปล่า
อย่างถ้าน้ำมันของ Esso มีปัญหามาส่งไม่ทัน เค้าเอา Shell ใส่แทนไปก่อนได้หรือเปล่า
(ผมเดาเอาเองนะ ว่ามันอาจจะมีมั่ง)

ของ shell ใช้บริการ Logistic ของเครือปูนใหญ่ครับ
และก็มีบริษัท ที่อยู่ใน SET หลายบริษัทเหมือนกัน ที่ใช้บริการด้วย

http://www.ctlnetwork.com/html/service_clientlist.html

[varanchai]

ผมเองเคยทำงาน Support ระบบคอมพิวเตอร์ของพวกยักษ์ใหญ่ Retail เลยพอทราบเกี่ยวกับเรื่องการบริหาร Logistic ในแง่ของ Retail มาบ้าง สำหรับพวก Retail นี่การจัดการลดต้นทุนในทุกด้านเป็นสิ่งที่สำคัญมาก และการลดต้นทุนในการจัดส่งสินค้าก็เป็นประเด็นหนึ่งที่สำคัญ

บริษัท Retail ต่างชาติส่วนใหญ่เมื่อเข้ามาเปิดกิจการในเอเชียจะพัฒนาระบบ Logistic ของตัวเองไปด้วยโดยส่วนใหญ่จะใช้บริการจากพวกบริษัท Logistic ที่เป็นแบรนด์จากต่างชาติหรือตั้งของตัวเองขึ้นมา

จากที่ผมได้เห็นมากับตาในช่วงก่อนที่ยักษ์ใหญ่ Retail จะมีการจัดการทางด้าน Logistic ที่เหมาะสมพวกเขาจะมีปัญหาดังนี้
1. อัตราการจราจรเข้าออกสำหรับส่งของสูงมากทำให้รถติด
2. ค่าใช้จ่ายในการส่งของแต่ละครั้งไม่คุ้มต้นทุน ถ้าให้ Supplier มาส่งเองเพราะ 1 Shipment จะได้ของจาก Supplier เจ้าเดี่ยว ทำให้ไม่ได้ต้นทุนสินค้าถูกเท่าที่ควร
3. การจัดซื้อแบบกระจายแต่ละ Store จะไม่ได้อำนาจต่อรองที่ดีเท่าที่ควร

หลังจากที่มีการ Implement ระบบ Logistic สำเร็จแล้วมีข้อดีดังนี้
1. อัตราการจราจรลดลงไปมากประมาณ 50% ขึ้นได้
2. การรวมการสั่งซื้อและบริหารสินค้าคงคลังไปอยู่ที่ศูนย์กลาง ทำให้จัดการ push และ pull การสั่งซื้อที่เหมาะสมได้ และยังเพิ่มอำนาจในการต่อรองกับ Supplier และสามารถพัฒนาเทคโนโลยี B2B และ EDI (Electronic Data Interchange) มาใช้ในการสั่งซื้อได้คุ้มค่า (ยังไม่อยากเรียก Supply chain เพราะมันยังไม่ครบ chain)
3. เนื่องจากมีการจัดการกระจายสินค้าไปยังสาขาต่างๆที่ DC จึงทำให้สามารถบริหารเนื้อที่รถในการจัดส่งในขาไป และโอนสินค้าหรือรับสินค้ากลับในกรณีมีการคืนสินค้ากลับมาที่ DC ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และรถ 1 คันสามารถใส่สิ้นค้าหลากหลายยี่ห้อไปยังจุดหมายปลายทางเดียวได้ แทนที่จะสั่งสิบยี่ห้อต้องมาสิบคัน
4. ช่วย Supplier ลดต้นทุนในการส่งสินค้าไปยังสาขาต่างๆ ทำให้ต่อรองได้มากขึ้นและราคาสินค้าถูกลงไปอีก
5. การรวมการสั่งซื้อที่มี Volume ใหญ่ทำให้มีอำนาจต่อรองมากขึ้น ทั้งทางด้านราคา ส่วนลด การส่งเสริมการขายและ Payment Term

นี่แหละครับที่ธุรกิจเราตามเขาไม่ทันมาจากประสบการณ์ และการบริหารจัดการที่ยังต้องเรียนรู้จากเขา และ Scale เขาก็ใหญ่กว่า แต่ผมเชื่อว่าคนไทยหลายๆที่ได้เรียนรู้จะสามารถแข่งกับฝรังได้ในอนาคตครับ

นี่ก็จำๆมาจากการทำงานนะครับอาจจะถูกบ้างผิดบ้างต้องขออภัยด้วย  :D

[Dech]

ผมรู้จักบริษัทฯ ของคนไทยเล็กๆ แห่งนึงครับ

เขาใช้วิธีส่งด้วยรถใหญ่ไปตามศูนย์ภาคต่างๆ ก่อน

แล้วกระจายของด้วยรถกระบะทั่วไปในการส่งต่อไปแต่ละจังหวัด

แล้วรถกระบะอาจไปจ้างก่อน หรือไปส่งเองก็ได้ ขึ้นอยู่กันขนาดและจำนวนครับ
ให้เจ้าของรถเล็กที่มารับต่อไปบริหารจัดการเอง

วันเดียวถึงเหมือนกันนะครับ

[ch_army]

[quote="worapong"]ผมมีความรู้เรื่องนี้แค่หางอึ่งครับ แต่เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นหัวใจที่สำคัญข้อหนึ่งที่ทำให้วอลมาร์ตประสบความสำเร็จครับ โดยมันจะเป็นระบบสลับซับซ้อนที่จะมีทั้งการให้supplier ส่งของโดยตรงไปยังร้านค้า หรืออาจส่งของไปยัง DC ก่อน หรืออาจมีการถ่ายเทสินค้าข้าม DC โดยปกติแล้ว DC จะมีการทำงานตลอดเวลา โดยจัดคิวตามความเหมาะสมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด แซม วอลตันเคยบอกว่าเค้าต้องตกใจสุดขีดทุกครั้งที่มีการเสนอราคาของระบบพวกนี้ แต่ก็ต้องทำเพื่อกำไรที่มากขึ้น วิธีการตั้งร้านค้าก็มีผลต่อเรื่องlogisticครับ เช่น เมื่อวอลมาร์ตต้องการจะตั้งร้านค้าเพื่อครอบคลุมบริเวณใดบริเวณหนึ่ง เค้าก็จะมองหาทำเลที่จะตั้ง DC ไปด้วย และเมื่อตั้ง DC เสร็จแล้ว เค้าก็จะเอาวงเวียนกางรอบรัศมีที่จะเดินทางได้ภายในหนึ่งวัน หลังจากนั้น เค้าก็จะขยายร้านไปรอบๆขอบเขตของวงเวียนนั้น ซึ่งมันมีประสิทธิภาพมากๆ ไม่รู้ว่าจะตอบตรงคำถามมั๊ยครับ ถ้าสนใจลองหาอ่านจากหนังสือเกี่ยวกับวอลมาร์ตก็ได้ครับ มีเล่มแปลด้วย แต่จำชื่อไม่ได้แล้ว อ้อ ต้องซื้อที่ร้านซีเอ็ดของผมด้วยนะครับ

[Oatarm]

ผมแนะนำให้อ่าน Mountain moving เป็นการส่งกำลังบำรุงของกองทัพสหรัฐ ในสงครามอ่าว คำว่า Mountain moving มีความหมายว่า การส่งกำลังบำรุงสิ่งอุปกรณ์ต่างๆ จำนวนมากเปรียบเช่นภูเขา สามารถตอบสนองการปฏิบัติการได้อย่างต่อเนื่อง ทันเวลาได้อย่างไร ทั้งที่ระยะทาง จาก สหรัฐ-อิรัก เกือบครึ่งโลก ส่วนผมเอง พอรู้ระบบส่งกำลัง ของ ทบ.ไทยอยู่บ้าง ถ้าสนใจก็เมล์มานะครับ

[hot]

http://www.mitsui.co.th/thai/spectrum/t ... p?m=S&s=Tr