รอยต่อมหันตภัยหวัดนกติดต่อคนสู่คน !!!!
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
รอยต่อมหันตภัยหวัดนกติดต่อคนสู่คน !!!!
โพสต์ที่ 1
รอยต่อมหันตภัยหวัดนกติดต่อคนสู่คน สธ.รุกตั้งแบบจำลองฆ่าตัดตอนไวรัส
ขณะที่การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกกำลังลุกลามไปทั่วโลก สิ่งสำคัญที่ทุกคนกำลังเฝ้าดูคือ สถานการณ์การระบาดจากคนสู่คนที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้น หลายคนคงสนใจว่าสถานการณ์การระบาดจากคนสู่คนล่าสุดเป็นอย่างไร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำอะไรกันบ้าง ในโอกาสนี้ "ประชาชาติธุรกิจ" ได้เข้าร่วมการเสวนาเรื่อง "แบบจำลองสถานการณ์ในประเทศไทยสู่การป้องกันโรคไข้หวัดนก" ซึ่งจัดโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงอยากนำข้อมูลบางส่วนมาถ่ายทอดให้ทราบ
นายแพทย์คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในระบบสากลแบ่งระยะการเกิดโรคมีทั้งหมด 6 ระยะ ปัจจุบันอยู่ในช่วงระยะที่ 3 มีคนติดโรคเพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตก ซึ่งถือเป็นรอยต่อที่สำคัญมาก เพราะเป็นจุดเปลี่ยนผ่านไประยะที่ 4 ถ้าเป็นระยะที่ 4 เริ่มมีคนในครอบครัวเดียวกันป่วยมากขึ้น
"ปัจจุบันเรากำลังเข้าไปสู่ระยะที่ 4 เรามีการเกิดโรคในเวียดนามทุกเดือน และจำนวนมากขึ้นไม่หยุด และที่น่ากังวลในเวียดนามมีคนป่วยเกิดขึ้นในครอบครัวเดียวกัน หลายๆ ครอบครัว ถ้านับรวมกันได้ทั้งหมด 12 ครอบครัว พี่ชาย น้องชาย แม่ น้องสาว พี่สาว พยาบาลก็ติดเชื้อ สมาชิกในครอบครัวเดียวกัน 5 คนติดหมดเลย ในกัมพูชามีเกิดในครอบครัวเดียวกัน 4 ราย ตายหมด ในครอบครัวเดียวกันมีพี่สาว น้องสาว ประเทศไทยมีที่กำแพงเพชร ที่อินโดนีเซียล่าสุด 3 ราย ตายทั้งหมดเลย พ่อ และลูกสาว 2 คน ที่น่ากังวลคือ ที่ครอบครัวนี้ที่อินโดนีเซียไม่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกเลย อาศัยอยู่ในวิลล่า ไม่มีโอกาสไปชำแหละสัตว์ปีกเลย ทำไมพ่อ และลูกสาวอีก 2 คนป่วยและตายจากไข้หวัดนก ตรงนี้คนที่อยู่ในวงในบอกว่า ออกอาการแล้วจะเปลี่ยนจากระยะ 3 ไประยะที่ 4 แล้ว แต่มันจะเปลี่ยนผ่านจริงๆ เมื่อไรไม่รู้ต้องระวังมาก" นายแพทย์คำนวณกล่าว และว่า
กระทรวงสาธารณสุขในฐานะที่รับผิดชอบต้องแจ้งฝ่ายบริหาร และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการในการควบคุมโรคจะทำอย่างเดิมไม่ได้แล้ว และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางสำนักระบาดวิทยาได้ร่วมกับทีมนักวิจัยจากต่างสหรัฐอเมริกา และอังกฤษทำแบบจำลองสถาน การณ์สู่การป้องกันโรคไข้หวัดนกขึ้น ซึ่งแบบจำลองนี้ทำให้เปลี่ยนวิธีคิดของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก จากที่ไม่มีใครเคยเชื่อว่าเราจะหยุดการระบาดได้
เมื่อปี พ.ศ.2500 มีการระบาดใหญ่ครั้งที่ 2 ของโรคไข้หวัดใหญ่ภายใน 6 เดือนระบาดไปทั่วโลก ถ้าคิดกรอบแบบเก่าทุกประเทศก็จะแก้ปัญหาแบบตัวใครตัวมัน คือ ต้องสำรองวัคซีนและยาให้มากที่สุด ปัจจุบันฝรั่งเศสสั่งยาต้านไวรัสไว้รักษาคน 14 ล้านคน อังกฤษ 20 ล้านคน อเมริกาเป็นล้านล้านคน
แบบจำลองที่คิดนี้ ต้องการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมหยุดการระบาดที่ระยะที่ 4 ไม่ให้ไปถึงระยะที่ 5 ได้ ถ้าทำ 4 ประการนี้ ได้แก่ 1)ต้องเร่งพัฒนาลงทุนในเรื่องการเฝ้าระวัง 1)ต้องตรวจพบผู้ป่วยตั้งแต่รายแรกๆ ได้ 2)ต้องมียาต้านไวรัสให้กับผู้ป่วย และคนในครอบครัวผู้ป่วย คนในที่ทำงานของคนเหล่านั้น เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่ออกไป วิธีการให้แบบนี้เหวี่ยงแหเล็กน้อย ต้องมีประวัติชัดเจนว่าสัมผัสกับผู้ป่วย กิน 10 เม็ด วันละ 1 เม็ด ติดต่อกัน ถ้าทำอย่างนี้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 วันจากผู้ป่วยรายแรกๆ จะสามารถฆ่าตัดตอนไวรัสได้ แต่ตอนนี้มีบริษัทเดียวที่ผลิตยาต้านไวรัสได้ และเป็นยาที่มีลิขสิทธิ์กำลังการผลิตของเขา คือ มีคนสั่งจอง 460 ล้านเม็ด ซึ่งจะต้องผลิตถึงปลายปี 2549 ถึงจะได้ครบทั้งหมด
3)การแยกกัก การหยุดกิจกรรมที่ผู้คนมาชุมนุมกัน ถ้าเกิดโรคเข้าสู่ระยะที่ 4 อาจจะต้องมีการหยุดเรียน หยุดโรงงาน 4)พอมีคนไข้คนแรกต้องเอาเชื้อไวรัสมาให้ได้ โดยร่วมมือองค์การอนามัยโลก (WHO) และทุกห้องปฏิบัติ (LAB) ช่วยกันคิดค้นวัคซีนออกมา โดยทุกประเทศต้องพร้อมแบ่งปันกันโดยไม่ห่วง ตรงจุดนี้ไทยต้องเตรียมความพร้อมเองด้วย ขณะเดียวกันทีมปศุสัตว์ก็ต้องเข้าไปทำลายแหล่งรังโรค
"อีกวิธีการหนึ่ง ถ้าสถานการณ์เลวร้าย อาจต้องให้ทุกคนในวงรัศมี 1 ก.ม. หรือ 5 ก.ม. หรือ 10 ก.ม. แล้วให้ยา ผมคิดว่าทีมวิจัยคงไปเลียนแบบวิธีการที่ขีดวงฆ่าสัตว์ปีกที่กรมปศุสัตว์ทำ ขีดวง 5 ก.ม. เฉือนหมด แต่วิธีการนี้ผมคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะใช้ยาต้านไวรัสมาก เพราะฉะนั้นเราต้องมุ่งเน้นเรื่องการให้ยาเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เราติดตามได้ ถ้าจะทำแบบนี้เราต้องมียาอยู่ในมือประมาณ 1-3 ล้านเม็ด นี่คือครอบคลุมประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านด้วย หากไฟมาจากนอกบ้านไม่ได้อยู่ในบ้านเรา แบบจำลองนี้ก็บอกว่าใช้ได้ แต่ประเทศไทยต้องไปร่วมมือพัฒนาศักยภาพของประเทศเพื่อนบ้าน ลาว เขมร ให้เฝ้าระวังโรค สอบสวนโรค มีแผนรับมือ และต้องสร้างคลังยาสำหรับอนุภูมิภาค เช่น เขมรเกิดระบาด คลังยาต้องส่งไป 10,000 เม็ดภายใน 24 ช.ม." นายแพทย์คำนวณกล่าว และว่า
นายแพทย์ศุภมิตร ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเวชกรรมป้องกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กำลังเปลี่ยน แผนยุทธศาสตร์ที่เตรียมรับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ และแผนยุทธศาสตร์ไข้หวัดนกที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีเมื่อต้นปีจากกระดาษให้กลายมาเป็นการปฏิบัติ มี 5 ยุทธศาสตร์ โดยนำแบบจำลองเข้ามาแปลงเป็นแผนเชิงรุกด้วย ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเฝ้าระวังในคน และในสัตว์ โดยนำแบบจำลองเข้ามาแปลงเป็นแผนเชิงรุก ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเตรียมเวชภัณฑ์ วัสดุ อุปกรณ์ เช่น การจัดหายาต้านไวรัส เป้าหมายภายใน 3 ปีจะสต๊อกยาให้ใช้รักษาคนได้ 3 แสนคนเศษ หากมีการระบาดย่อยเกิดขึ้น และขณะนี้กำลังสั่งซื้อยาเข้ามา และได้รับยาบางส่วนแล้ว ถ้าได้ตามแผนจะมียาประมาณ 7 แสนเม็ด ใช้ได้ 70,000 คน ปีต่อไปถ้าได้งบประมาณจะทำให้มียาประมาณ 3 ล้านเม็ด
ส่วนวัคซีนแยกเป็น 2 อย่าง คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ธรรมดา และวัคซีนป้องกันการระบาดใหญ่ วัคซีนที่มีและหาได้ถ้ามีเงินพอ คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ธรรมดา รัฐบาลให้งบประมาณอย่างน้อยปีละ 200,000 โดส เพื่อใช้ในกลุ่มเสี่ยง ตอนนี้ก็กำลังจัดซื้อและมีการใช้อยู่ในขณะนี้ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ และอาสาสมัครที่ไปกำจัดไก่ ตอนนี้ประสานงานกับกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ และกำลังขยายการใช้วัคซีนไปอีกกลุ่ม คือ กลุ่มคนชรา ค่อยๆ ทำความคุ้นเคยในการใช้วัคซีน แต่การขยายไปสู่กลุ่มคนที่เป็นโรคประจำตัว และคนชรากำลังเจรจากับสำนักประกันสุขภาพ รวมทั้งต้องร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านศึกษาพัฒนาวัคซีนขึ้นมาเองด้วย
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเตรียมความพร้อมที่จะควบคุมการระบาดฉุกเฉิน หากเกิดการระบาดระยะที่ 4 ต่อระยะที่ 5 คือ การระบาดขยายตัว ทางด้านการแพทย์จะต้องเตรียมพัฒนาคน สถานพยาบาล การดูแลผู้ป่วยให้สามารถรับผู้ป่วยจำนวนมากได้ ในโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม ต้องเขียนรายละเอียดออกมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนารายละเอียด ต้องจัดระบบการให้ยา และวัคซีนด้วยว่า ใครควรจะได้รับวัคซีนก่อน รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในชุมชน เรื่องการตั้งศูนย์อำนวยการ การเตรียมมาตรการฉุกเฉิน การปิดสถานที่ถ้าจำเป็น เพื่อให้ผู้เสียชีวิตน้อยมาก จะจัดการอย่างไรจะลดความตระหนกของประชาชน กำลังเขียนแผนละเอียดอยู่
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง ให้ข่าวสารความรู้ประชาชน ต้องเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้เลย การประสานงานบัญชาการระหว่างองค์กรต้องเตรียมไว้
ยุทธศาสตร์ที่ 5 การบริหารจัดการแบบบูรณาการ ตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขพยายามเอาสิ่งที่อยู่ในแผนยุทธศาสตร์มาใส่ในงานประจำปีให้หลายกระทรวงทำไปด้วยกัน ดังนั้น จึงกำลังทำเครื่องมืออีกอันหนึ่งขึ้นมาให้มีรายละเอียดกิจกรรม แจกแจงหน่วยงานมากขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้กระทรวงต่างๆ แปลงแผนยุทธศาสตร์เข้าไปสู่แผนปฏิบัติงานได้ดีขึ้น รวมทั้งต้องเตรียมความพร้อมระดับภูมิภาค ถ้าหากภูมิภาคไม่พร้อมประเทศไทยก็เกิดปัญหาด้วย เพราะฉะนั้นขณะนี้กำลังประสานกับประเทศเพื่อนบ้านผ่านการประชุมในเวทีต่างๆ
ขณะที่การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกกำลังลุกลามไปทั่วโลก สิ่งสำคัญที่ทุกคนกำลังเฝ้าดูคือ สถานการณ์การระบาดจากคนสู่คนที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้น หลายคนคงสนใจว่าสถานการณ์การระบาดจากคนสู่คนล่าสุดเป็นอย่างไร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำอะไรกันบ้าง ในโอกาสนี้ "ประชาชาติธุรกิจ" ได้เข้าร่วมการเสวนาเรื่อง "แบบจำลองสถานการณ์ในประเทศไทยสู่การป้องกันโรคไข้หวัดนก" ซึ่งจัดโดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จึงอยากนำข้อมูลบางส่วนมาถ่ายทอดให้ทราบ
นายแพทย์คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในระบบสากลแบ่งระยะการเกิดโรคมีทั้งหมด 6 ระยะ ปัจจุบันอยู่ในช่วงระยะที่ 3 มีคนติดโรคเพิ่มขึ้นอย่างน่าวิตก ซึ่งถือเป็นรอยต่อที่สำคัญมาก เพราะเป็นจุดเปลี่ยนผ่านไประยะที่ 4 ถ้าเป็นระยะที่ 4 เริ่มมีคนในครอบครัวเดียวกันป่วยมากขึ้น
"ปัจจุบันเรากำลังเข้าไปสู่ระยะที่ 4 เรามีการเกิดโรคในเวียดนามทุกเดือน และจำนวนมากขึ้นไม่หยุด และที่น่ากังวลในเวียดนามมีคนป่วยเกิดขึ้นในครอบครัวเดียวกัน หลายๆ ครอบครัว ถ้านับรวมกันได้ทั้งหมด 12 ครอบครัว พี่ชาย น้องชาย แม่ น้องสาว พี่สาว พยาบาลก็ติดเชื้อ สมาชิกในครอบครัวเดียวกัน 5 คนติดหมดเลย ในกัมพูชามีเกิดในครอบครัวเดียวกัน 4 ราย ตายหมด ในครอบครัวเดียวกันมีพี่สาว น้องสาว ประเทศไทยมีที่กำแพงเพชร ที่อินโดนีเซียล่าสุด 3 ราย ตายทั้งหมดเลย พ่อ และลูกสาว 2 คน ที่น่ากังวลคือ ที่ครอบครัวนี้ที่อินโดนีเซียไม่มีการเลี้ยงสัตว์ปีกเลย อาศัยอยู่ในวิลล่า ไม่มีโอกาสไปชำแหละสัตว์ปีกเลย ทำไมพ่อ และลูกสาวอีก 2 คนป่วยและตายจากไข้หวัดนก ตรงนี้คนที่อยู่ในวงในบอกว่า ออกอาการแล้วจะเปลี่ยนจากระยะ 3 ไประยะที่ 4 แล้ว แต่มันจะเปลี่ยนผ่านจริงๆ เมื่อไรไม่รู้ต้องระวังมาก" นายแพทย์คำนวณกล่าว และว่า
กระทรวงสาธารณสุขในฐานะที่รับผิดชอบต้องแจ้งฝ่ายบริหาร และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องปรับเปลี่ยนระบบการบริหารจัดการในการควบคุมโรคจะทำอย่างเดิมไม่ได้แล้ว และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางสำนักระบาดวิทยาได้ร่วมกับทีมนักวิจัยจากต่างสหรัฐอเมริกา และอังกฤษทำแบบจำลองสถาน การณ์สู่การป้องกันโรคไข้หวัดนกขึ้น ซึ่งแบบจำลองนี้ทำให้เปลี่ยนวิธีคิดของนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก จากที่ไม่มีใครเคยเชื่อว่าเราจะหยุดการระบาดได้
เมื่อปี พ.ศ.2500 มีการระบาดใหญ่ครั้งที่ 2 ของโรคไข้หวัดใหญ่ภายใน 6 เดือนระบาดไปทั่วโลก ถ้าคิดกรอบแบบเก่าทุกประเทศก็จะแก้ปัญหาแบบตัวใครตัวมัน คือ ต้องสำรองวัคซีนและยาให้มากที่สุด ปัจจุบันฝรั่งเศสสั่งยาต้านไวรัสไว้รักษาคน 14 ล้านคน อังกฤษ 20 ล้านคน อเมริกาเป็นล้านล้านคน
แบบจำลองที่คิดนี้ ต้องการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมหยุดการระบาดที่ระยะที่ 4 ไม่ให้ไปถึงระยะที่ 5 ได้ ถ้าทำ 4 ประการนี้ ได้แก่ 1)ต้องเร่งพัฒนาลงทุนในเรื่องการเฝ้าระวัง 1)ต้องตรวจพบผู้ป่วยตั้งแต่รายแรกๆ ได้ 2)ต้องมียาต้านไวรัสให้กับผู้ป่วย และคนในครอบครัวผู้ป่วย คนในที่ทำงานของคนเหล่านั้น เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่ออกไป วิธีการให้แบบนี้เหวี่ยงแหเล็กน้อย ต้องมีประวัติชัดเจนว่าสัมผัสกับผู้ป่วย กิน 10 เม็ด วันละ 1 เม็ด ติดต่อกัน ถ้าทำอย่างนี้ได้ภายในระยะเวลา 2-3 วันจากผู้ป่วยรายแรกๆ จะสามารถฆ่าตัดตอนไวรัสได้ แต่ตอนนี้มีบริษัทเดียวที่ผลิตยาต้านไวรัสได้ และเป็นยาที่มีลิขสิทธิ์กำลังการผลิตของเขา คือ มีคนสั่งจอง 460 ล้านเม็ด ซึ่งจะต้องผลิตถึงปลายปี 2549 ถึงจะได้ครบทั้งหมด
3)การแยกกัก การหยุดกิจกรรมที่ผู้คนมาชุมนุมกัน ถ้าเกิดโรคเข้าสู่ระยะที่ 4 อาจจะต้องมีการหยุดเรียน หยุดโรงงาน 4)พอมีคนไข้คนแรกต้องเอาเชื้อไวรัสมาให้ได้ โดยร่วมมือองค์การอนามัยโลก (WHO) และทุกห้องปฏิบัติ (LAB) ช่วยกันคิดค้นวัคซีนออกมา โดยทุกประเทศต้องพร้อมแบ่งปันกันโดยไม่ห่วง ตรงจุดนี้ไทยต้องเตรียมความพร้อมเองด้วย ขณะเดียวกันทีมปศุสัตว์ก็ต้องเข้าไปทำลายแหล่งรังโรค
"อีกวิธีการหนึ่ง ถ้าสถานการณ์เลวร้าย อาจต้องให้ทุกคนในวงรัศมี 1 ก.ม. หรือ 5 ก.ม. หรือ 10 ก.ม. แล้วให้ยา ผมคิดว่าทีมวิจัยคงไปเลียนแบบวิธีการที่ขีดวงฆ่าสัตว์ปีกที่กรมปศุสัตว์ทำ ขีดวง 5 ก.ม. เฉือนหมด แต่วิธีการนี้ผมคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะใช้ยาต้านไวรัสมาก เพราะฉะนั้นเราต้องมุ่งเน้นเรื่องการให้ยาเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เราติดตามได้ ถ้าจะทำแบบนี้เราต้องมียาอยู่ในมือประมาณ 1-3 ล้านเม็ด นี่คือครอบคลุมประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านด้วย หากไฟมาจากนอกบ้านไม่ได้อยู่ในบ้านเรา แบบจำลองนี้ก็บอกว่าใช้ได้ แต่ประเทศไทยต้องไปร่วมมือพัฒนาศักยภาพของประเทศเพื่อนบ้าน ลาว เขมร ให้เฝ้าระวังโรค สอบสวนโรค มีแผนรับมือ และต้องสร้างคลังยาสำหรับอนุภูมิภาค เช่น เขมรเกิดระบาด คลังยาต้องส่งไป 10,000 เม็ดภายใน 24 ช.ม." นายแพทย์คำนวณกล่าว และว่า
นายแพทย์ศุภมิตร ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านเวชกรรมป้องกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กำลังเปลี่ยน แผนยุทธศาสตร์ที่เตรียมรับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ และแผนยุทธศาสตร์ไข้หวัดนกที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีเมื่อต้นปีจากกระดาษให้กลายมาเป็นการปฏิบัติ มี 5 ยุทธศาสตร์ โดยนำแบบจำลองเข้ามาแปลงเป็นแผนเชิงรุกด้วย ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเฝ้าระวังในคน และในสัตว์ โดยนำแบบจำลองเข้ามาแปลงเป็นแผนเชิงรุก ยุทธศาสตร์ที่ 2 การเตรียมเวชภัณฑ์ วัสดุ อุปกรณ์ เช่น การจัดหายาต้านไวรัส เป้าหมายภายใน 3 ปีจะสต๊อกยาให้ใช้รักษาคนได้ 3 แสนคนเศษ หากมีการระบาดย่อยเกิดขึ้น และขณะนี้กำลังสั่งซื้อยาเข้ามา และได้รับยาบางส่วนแล้ว ถ้าได้ตามแผนจะมียาประมาณ 7 แสนเม็ด ใช้ได้ 70,000 คน ปีต่อไปถ้าได้งบประมาณจะทำให้มียาประมาณ 3 ล้านเม็ด
ส่วนวัคซีนแยกเป็น 2 อย่าง คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ธรรมดา และวัคซีนป้องกันการระบาดใหญ่ วัคซีนที่มีและหาได้ถ้ามีเงินพอ คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ธรรมดา รัฐบาลให้งบประมาณอย่างน้อยปีละ 200,000 โดส เพื่อใช้ในกลุ่มเสี่ยง ตอนนี้ก็กำลังจัดซื้อและมีการใช้อยู่ในขณะนี้ เช่น บุคลากรทางการแพทย์ และอาสาสมัครที่ไปกำจัดไก่ ตอนนี้ประสานงานกับกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรฯ และกำลังขยายการใช้วัคซีนไปอีกกลุ่ม คือ กลุ่มคนชรา ค่อยๆ ทำความคุ้นเคยในการใช้วัคซีน แต่การขยายไปสู่กลุ่มคนที่เป็นโรคประจำตัว และคนชรากำลังเจรจากับสำนักประกันสุขภาพ รวมทั้งต้องร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านศึกษาพัฒนาวัคซีนขึ้นมาเองด้วย
ยุทธศาสตร์ที่ 3 การเตรียมความพร้อมที่จะควบคุมการระบาดฉุกเฉิน หากเกิดการระบาดระยะที่ 4 ต่อระยะที่ 5 คือ การระบาดขยายตัว ทางด้านการแพทย์จะต้องเตรียมพัฒนาคน สถานพยาบาล การดูแลผู้ป่วยให้สามารถรับผู้ป่วยจำนวนมากได้ ในโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสนาม ต้องเขียนรายละเอียดออกมา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนารายละเอียด ต้องจัดระบบการให้ยา และวัคซีนด้วยว่า ใครควรจะได้รับวัคซีนก่อน รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในชุมชน เรื่องการตั้งศูนย์อำนวยการ การเตรียมมาตรการฉุกเฉิน การปิดสถานที่ถ้าจำเป็น เพื่อให้ผู้เสียชีวิตน้อยมาก จะจัดการอย่างไรจะลดความตระหนกของประชาชน กำลังเขียนแผนละเอียดอยู่
ยุทธศาสตร์ที่ 4 การประชาสัมพันธ์ในวงกว้าง ให้ข่าวสารความรู้ประชาชน ต้องเตรียมตัวตั้งแต่ตอนนี้เลย การประสานงานบัญชาการระหว่างองค์กรต้องเตรียมไว้
ยุทธศาสตร์ที่ 5 การบริหารจัดการแบบบูรณาการ ตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขพยายามเอาสิ่งที่อยู่ในแผนยุทธศาสตร์มาใส่ในงานประจำปีให้หลายกระทรวงทำไปด้วยกัน ดังนั้น จึงกำลังทำเครื่องมืออีกอันหนึ่งขึ้นมาให้มีรายละเอียดกิจกรรม แจกแจงหน่วยงานมากขึ้น เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้กระทรวงต่างๆ แปลงแผนยุทธศาสตร์เข้าไปสู่แผนปฏิบัติงานได้ดีขึ้น รวมทั้งต้องเตรียมความพร้อมระดับภูมิภาค ถ้าหากภูมิภาคไม่พร้อมประเทศไทยก็เกิดปัญหาด้วย เพราะฉะนั้นขณะนี้กำลังประสานกับประเทศเพื่อนบ้านผ่านการประชุมในเวทีต่างๆ
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
รอยต่อมหันตภัยหวัดนกติดต่อคนสู่คน !!!!
โพสต์ที่ 3
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
รอยต่อมหันตภัยหวัดนกติดต่อคนสู่คน !!!!
โพสต์ที่ 5
อืม ใกล้จะเป็นจริงเข้าไปทุกขณะ
1. จะเกิดเชื้อโรคที่ทำให้คนตายไป 2 ใน 3 ของโลก คือตายไป 4 พันล้านคน
2. จะเกิดแผ่นดินไหว เกาะญี่ปุ่นหายไป 2 ใน 3
3. ประเทศไทย กรุงเทพจะหายไป
4. จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่สังหารหมู่มวลมนุษย์มากอย่างไม่เคยมาก่อน
5. จีนจะใช้อาวุธเชื้อโรค ยิงขึ้นไปบนฟ้า ให้ลมพา เชื้อโรคไปตกที่เมกา
6. อิหร่านจะใช้กำแพงมนุษย์ 1 ล้านคน เดินจากอิหร่าน ผ่านยุโรป เพื่อไปเมกา ( ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปได้ไง มันไม่ได้ติดกันนี่ )
เท่าที่จำได้นะครับ ฟังหูไว้หู เคยอ่านของนอสตราดามุส ไม่ใช่ ฉบับดร.เจริญนะครับ
เรื่องที่ทายไว้แล้วเกิดขึ้นหลังจากอ่านไปแล้วคือ
1. รัสเซียจะแตก
2. จีนจะขึ้นมาแทน
อยากหาเล่มนี้จัง อ่านแล้วปลง
เขียนจากความทรงจำ อ่านกันเล่นๆนะครับ โอกาสผิดพลาดมาก
จำได้ว่าอ่านสมัยปี 2531
1. จะเกิดเชื้อโรคที่ทำให้คนตายไป 2 ใน 3 ของโลก คือตายไป 4 พันล้านคน
2. จะเกิดแผ่นดินไหว เกาะญี่ปุ่นหายไป 2 ใน 3
3. ประเทศไทย กรุงเทพจะหายไป
4. จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่สังหารหมู่มวลมนุษย์มากอย่างไม่เคยมาก่อน
5. จีนจะใช้อาวุธเชื้อโรค ยิงขึ้นไปบนฟ้า ให้ลมพา เชื้อโรคไปตกที่เมกา
6. อิหร่านจะใช้กำแพงมนุษย์ 1 ล้านคน เดินจากอิหร่าน ผ่านยุโรป เพื่อไปเมกา ( ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปได้ไง มันไม่ได้ติดกันนี่ )
เท่าที่จำได้นะครับ ฟังหูไว้หู เคยอ่านของนอสตราดามุส ไม่ใช่ ฉบับดร.เจริญนะครับ
เรื่องที่ทายไว้แล้วเกิดขึ้นหลังจากอ่านไปแล้วคือ
1. รัสเซียจะแตก
2. จีนจะขึ้นมาแทน
อยากหาเล่มนี้จัง อ่านแล้วปลง
เขียนจากความทรงจำ อ่านกันเล่นๆนะครับ โอกาสผิดพลาดมาก
จำได้ว่าอ่านสมัยปี 2531