SMM ดีไหมครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 1
ประเภทกิจการและลักษณะการดำเนินงาน
บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ("บริษัท" หรือ "SMM") สามารถแบ่งประเภทธุรกิจออกเป็น 3
ประเภท ได้แก่
1. ธุรกิจสิ่งพิมพ์ ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจหลัก ซึ่งแบ่งเป็น หนังสือการ์ตูนจากประเทศต่างๆ พ็อคเก็ตบุ๊คส์ไทยและพ็อคเก็ตบุ๊คส์
แปลจากต่างประเทศ นิยายจีนกำลังภายใน และนิตยสาร
2. ธุรกิจร้านหนังสือ ภายใต้ชื่อ Siam Inter Book Friend ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 20 สาขาในกรุงเทพฯ เป็นร้านหนังสือที่
เน้นการขายหนังสือการ์ตูน และหนังสือที่เกี่ยวกับหนังสือที่ผลิตโดยบริษัทเป็นหลัก โดยมีหนังสือของสำนักพิมพ์อื่นด้วย
3. ธุรกิจสื่อวิทยุ บริษัทได้เป็นผู้ริเริ่มและเป็นผู้นำในปัจจุบันของการผลิตรายการวิทยุกีฬา 24 ชั่วโมง ที่เป็นที่รู้จักกัน
ในชื่อของ "สปอร์ต เรดิโอ " (Sport Radio) ตั้งแต่ปี 2542 โดยในปัจจุบัน บริษัทได้ขยายเครือข่ายสถานีวิทยุออกไปซึ่งส่งผล
ให้บริษัทมีสถานีเครือข่ายทั้งหมด 7 สถานี ครอบคลุม 53 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 2 สถานี FM ต่างจังหวัด
4 สถานี FM และ 1 สถานี AM
เห็นหลายท่านชอบธุรกิจหนังสือ
ถ้าเทียบกับSe-ed จะเป็นไงบ้างครับ
บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ("บริษัท" หรือ "SMM") สามารถแบ่งประเภทธุรกิจออกเป็น 3
ประเภท ได้แก่
1. ธุรกิจสิ่งพิมพ์ ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจหลัก ซึ่งแบ่งเป็น หนังสือการ์ตูนจากประเทศต่างๆ พ็อคเก็ตบุ๊คส์ไทยและพ็อคเก็ตบุ๊คส์
แปลจากต่างประเทศ นิยายจีนกำลังภายใน และนิตยสาร
2. ธุรกิจร้านหนังสือ ภายใต้ชื่อ Siam Inter Book Friend ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 20 สาขาในกรุงเทพฯ เป็นร้านหนังสือที่
เน้นการขายหนังสือการ์ตูน และหนังสือที่เกี่ยวกับหนังสือที่ผลิตโดยบริษัทเป็นหลัก โดยมีหนังสือของสำนักพิมพ์อื่นด้วย
3. ธุรกิจสื่อวิทยุ บริษัทได้เป็นผู้ริเริ่มและเป็นผู้นำในปัจจุบันของการผลิตรายการวิทยุกีฬา 24 ชั่วโมง ที่เป็นที่รู้จักกัน
ในชื่อของ "สปอร์ต เรดิโอ " (Sport Radio) ตั้งแต่ปี 2542 โดยในปัจจุบัน บริษัทได้ขยายเครือข่ายสถานีวิทยุออกไปซึ่งส่งผล
ให้บริษัทมีสถานีเครือข่ายทั้งหมด 7 สถานี ครอบคลุม 53 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 2 สถานี FM ต่างจังหวัด
4 สถานี FM และ 1 สถานี AM
เห็นหลายท่านชอบธุรกิจหนังสือ
ถ้าเทียบกับSe-ed จะเป็นไงบ้างครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
พอไหวไหมกำไรประมาณนี้
โพสต์ที่ 2
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่2(F45-1)
บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 2 งวด 6 เดือน
ปี 2548 2547 2548 2547
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 19,206 16,985 38,561 32,785
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.09 0.10 0.18 0.19
บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 2 งวด 6 เดือน
ปี 2548 2547 2548 2547
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 19,206 16,985 38,561 32,785
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.09 0.10 0.18 0.19
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
ต่ำกว่าจอง
โพสต์ที่ 3
เรื่อง รายงานการใช้เงินทุนที่ได้รับจากการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชน (แก้ไข)
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่ บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) เสนอขายหุ้นสามัญในเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 70
ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.65 บาท รวมเป็นเงิน 185.50 ล้านบาท และทางบริษัทฯ ได้รับเงินสุทธิจำนวน 176.85
ล้านบาท หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์นั้น บริษัทฯ ขอรายงานการใช้เงินทุนจำนวน 176.85
ล้านบาท ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2548 ดังนี้
วัตถุประสงค์การใช้เงิน จำนวนเงินตามหนังสือชี้ชวน จำนวนเงินที่จ่ายไปแล้ว
จำนวนเงินที่ยังไม่ได้ใช้
1. ขยายร้านสาขาของบริษัท 60.00 ล้านบาท 10.73 ล้านบาท 49.27
ล้านบาท
2. ขยายการลงทุนในสื่อวิทยุ 25.00 ล้านบาท 10.49 ล้านบาท 14.51
ล้านบาท
3. พัฒนาธุรกิจใหม่ 25.00 ล้านบาท 18.11 ล้านบาท 6.89 ล้านบาท
4. คืนเงินกู้สถาบันการเงิน 50.00 ล้านบาท 50.00 ล้านบาท 0
5. เงินทุนหมุนเวียน 16.85 ล้านบาท 37.27 ล้านบาท -20.42
ล้านบาท
รวม 176.85 ล้านบาท 126.60 ล้านบาท
50.25 ล้านบาท
ทั้งนี้ การใช้เงินเพื่อเงินทุนหมุนเวียนดังกล่าวมากกว่าวัตถุประสงค์ที่เเจ้งไว้ 20.42 ล้านบาท โดยเป็นเงินของ 2
ส่วน ดังนี้ 1) ส่วนของการขยายร้านสาขา จำนวน 10.42 ล้านบาท ทำให้เหลือเงินที่ยังไม่ได้ใช้ จำนวน 38.85
ล้านบาท 2) ส่วนของการขยายการลงทุนในสื่อวิทยุ จำนวน 10 ล้านบาท ทำให้เหลือเงินที่ยังไม่ได้ใช้จำนวน 4.51
ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้เพื่อขยายธุรกิจหนังสือ คือ
นำไปซื้อกระดาษมาเพื่อจัดพิมพ์หนังสือทั้งหมดของบริษัทฯ ซึ่งเดิมนั้นบริษัทฯ ซื้อกระดาษจากผู้รับจ้างผลิต อีกทั้งบริษัทฯ
เห็นว่าจำนวนเงินที่นำไปใช้นี้ไม่กระทบวัตถุประสงค์การขยายร้านสาขาเเละการขยายการลงทุนในสื่อวิทยุตามที่แจ้งไว้ใ
นหนังสือชี้ชวน ทั้งนี้ เงินที่เหลือจำนวน 50.25
ล้านบาทจะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์และตามความเหมาะสมทางธุรกิจต่อไป
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่ บริษัท สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) เสนอขายหุ้นสามัญในเดือนมีนาคม 2548 จำนวน 70
ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.65 บาท รวมเป็นเงิน 185.50 ล้านบาท และทางบริษัทฯ ได้รับเงินสุทธิจำนวน 176.85
ล้านบาท หลังจากหักค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหลักทรัพย์นั้น บริษัทฯ ขอรายงานการใช้เงินทุนจำนวน 176.85
ล้านบาท ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2548 ดังนี้
วัตถุประสงค์การใช้เงิน จำนวนเงินตามหนังสือชี้ชวน จำนวนเงินที่จ่ายไปแล้ว
จำนวนเงินที่ยังไม่ได้ใช้
1. ขยายร้านสาขาของบริษัท 60.00 ล้านบาท 10.73 ล้านบาท 49.27
ล้านบาท
2. ขยายการลงทุนในสื่อวิทยุ 25.00 ล้านบาท 10.49 ล้านบาท 14.51
ล้านบาท
3. พัฒนาธุรกิจใหม่ 25.00 ล้านบาท 18.11 ล้านบาท 6.89 ล้านบาท
4. คืนเงินกู้สถาบันการเงิน 50.00 ล้านบาท 50.00 ล้านบาท 0
5. เงินทุนหมุนเวียน 16.85 ล้านบาท 37.27 ล้านบาท -20.42
ล้านบาท
รวม 176.85 ล้านบาท 126.60 ล้านบาท
50.25 ล้านบาท
ทั้งนี้ การใช้เงินเพื่อเงินทุนหมุนเวียนดังกล่าวมากกว่าวัตถุประสงค์ที่เเจ้งไว้ 20.42 ล้านบาท โดยเป็นเงินของ 2
ส่วน ดังนี้ 1) ส่วนของการขยายร้านสาขา จำนวน 10.42 ล้านบาท ทำให้เหลือเงินที่ยังไม่ได้ใช้ จำนวน 38.85
ล้านบาท 2) ส่วนของการขยายการลงทุนในสื่อวิทยุ จำนวน 10 ล้านบาท ทำให้เหลือเงินที่ยังไม่ได้ใช้จำนวน 4.51
ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้เพื่อขยายธุรกิจหนังสือ คือ
นำไปซื้อกระดาษมาเพื่อจัดพิมพ์หนังสือทั้งหมดของบริษัทฯ ซึ่งเดิมนั้นบริษัทฯ ซื้อกระดาษจากผู้รับจ้างผลิต อีกทั้งบริษัทฯ
เห็นว่าจำนวนเงินที่นำไปใช้นี้ไม่กระทบวัตถุประสงค์การขยายร้านสาขาเเละการขยายการลงทุนในสื่อวิทยุตามที่แจ้งไว้ใ
นหนังสือชี้ชวน ทั้งนี้ เงินที่เหลือจำนวน 50.25
ล้านบาทจะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์และตามความเหมาะสมทางธุรกิจต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 674
- ผู้ติดตาม: 0
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 4
ตัวนี้ผมดูแล้วรู้สึกเหมือน pong ครับ
เป็นกิจการที่ผมได้เห็นอยู่ทุกวันแต่ไม่รู้สึกว่ามันน่าจะกำไรขนาดนี้
ยอดขายโตสามปีที่ผ่านมาโตขึ้นมาก แต่ผมไม่เห็นจะรู้สึกว่าเห็นหนังสือ
ของค่ายนี้เยอะขึ้นเท่าไร
แต่ผมก็มีตัวนี้อยู่เหมือนกันครับ หวังว่าคงไม่เดินตามรอย pong นะครับ
(ถ้าจะถือตัวนี้ต้องจับตาดูลูกหนี้ กับ สินค้าคงเหลือให้ดีเลยครับ
เงินสดที่ได้จาก ipo หมดไปอย่างรวดเร็วมากกับสองรายการนี้)
ไม่รู้ว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นมันจริงหรือหลอก
เป็นกิจการที่ผมได้เห็นอยู่ทุกวันแต่ไม่รู้สึกว่ามันน่าจะกำไรขนาดนี้
ยอดขายโตสามปีที่ผ่านมาโตขึ้นมาก แต่ผมไม่เห็นจะรู้สึกว่าเห็นหนังสือ
ของค่ายนี้เยอะขึ้นเท่าไร
แต่ผมก็มีตัวนี้อยู่เหมือนกันครับ หวังว่าคงไม่เดินตามรอย pong นะครับ
(ถ้าจะถือตัวนี้ต้องจับตาดูลูกหนี้ กับ สินค้าคงเหลือให้ดีเลยครับ
เงินสดที่ได้จาก ipo หมดไปอย่างรวดเร็วมากกับสองรายการนี้)
ไม่รู้ว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นมันจริงหรือหลอก
-
- Verified User
- โพสต์: 942
- ผู้ติดตาม: 0
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 5
หนังสือการ์ตูน กะ กำลังภายใน ขายได้เรื่อยๆ ครับ ไม่มีคู่แข่งมากนัก (การ์ตูน มีวิบูลย์กิจ)
อ้อ ผมว่าพวกหนังสือการ์ตูน เป็นธุรกิจที่ขายได้ดีเหมือนกันนะครับ
ขายของกะเด็กๆ เนี่ยะ กำลังซื้อสูง :lol:
ค่าลิขสิทธิ์ไม่สูงเหมือนพวกหนังด้วย คู่แข่งก็ไม่มากเท่า
กลัวเรื่องผูกขาดการพิมพ์กับกิเลนนิดนึง
แต่ไม่ได้ดูเรื่องต้นทุนการผลิตโดยละเอียดนะครับ
ถ้าเจ้าของไม่ขี้โกง น่าจะธุรกิจน้ำซึมบ่อทราย ไปได้เรื่อยๆ มังครับ
อ้อ ผมว่าพวกหนังสือการ์ตูน เป็นธุรกิจที่ขายได้ดีเหมือนกันนะครับ
ขายของกะเด็กๆ เนี่ยะ กำลังซื้อสูง :lol:
ค่าลิขสิทธิ์ไม่สูงเหมือนพวกหนังด้วย คู่แข่งก็ไม่มากเท่า
กลัวเรื่องผูกขาดการพิมพ์กับกิเลนนิดนึง
แต่ไม่ได้ดูเรื่องต้นทุนการผลิตโดยละเอียดนะครับ
ถ้าเจ้าของไม่ขี้โกง น่าจะธุรกิจน้ำซึมบ่อทราย ไปได้เรื่อยๆ มังครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1477
- ผู้ติดตาม: 0
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 6
จำได้ว่าตัวนี้แจกปันผลหลัง IPO ไม่นาน ผมเลยกาหัวกระดาษซะเรยยย
I do not sleep. I dream.
-
- Verified User
- โพสต์: 1273
- ผู้ติดตาม: 0
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 8
ผมอยากเสริมว่าส่วนหนังสือที่จัดพิมย์จะมีภาคต่อของ ONE For Sorrow Two For Joy "บินสู่ฝัน" อันลือลั่น จนกลายเป็นอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดของ วอลท์ ดิสนีย์ ออกมา ชื่อเรื่อง Seven for a Secret พวกนี้ขายเล่มละ 295 ได้ทีละมากๆกว่ากาตุน ต้องจับตาดูยอดขายว่าจะติดอันดับหนึ่งในร้าน SE-ED เหมือน 2005 Q1 ที่ผ่านมาหรือเปล่า หนังสือ One for Sorrow Two for Joy นั้นขายดีรองจาก Harry Potter ในอังกฤษละ
ในเดือนตุลาจะมีจัดงาน ให้ดูจาก Website www.smm.co.th ได้ ผมเชื่อว่า Q4 ปีนี้ยอดขายน่าจะดี เพราะเหมือนมีการวางแผนไว้เพื่อระบายสินค้า ผมเห็นเหมือนกันว่าลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้นใน Q2 จาก 257 ล. มาเป็น 326 ล. ต้องดูความสามารถผู้บริหารในการระบาย Stock ละ
แต่ถ้าดู Q2 Net Profit Margin จาก 10.81% ใน Q1 มาเป็น 11.40% ถือว่าน่าพอใจ ชอบธุรกิจนี้ตรงนี้แหละ เปรียบเทียบ Net Profit Margin กับ SE-ED หรือ พวกที่ขายมือถือที่ได้แค่ 3-4% นั้น ผมว่าอันนี้ดีกว่ามาก โดยส่วนตัวผมมักจะเลือก บจ. ที่มี Net Profit Margin = Net profit / Sales = 8-10% จะแน่ใจว่าสามารถต้านแรงเงินเฟ้อ และเวลา Econ ตกต่ำได้
อีกอย่าง ดูที่หนี้สินก็น้อย เหลือแค่ 200 ล. ปีหนึ่งทำกำไรได้ 70-85 ล. จ่ายปันผล 0.15 x 240 ล.หุ้น = 36 ล. ก็ยังเหลือ 50 ล. ภายในห้าปีก็หมดหนี้แล้ว
EPS ครึ่งปีอยู่ที่ 0.18 ทั้งปีอย่างต่ำก็ได้ 0.30 แน่นอนเพราะ Q3 & Q4 ต้องทำที่ 0.12 ไม่ยากเลย 0.30 x 8 เท่า PE = 2.40 ราคาอย่างต่ำที่ควรจะเป็น ปีนี้จ่ายปันผลอย่างต่ำก็เท่าปีก่อนที่ 0.15 --> 0.15 / 2.00(ราคา 28/9/05) = 7.5%
ดูตาม Ratio ต่างๆ บริษัทนี้ลงทุนได้แน่นอน หากดูด้านคุณภาพ ธุรกิจนี้เข้าใจง่าย เพราะลูกผมก็อ่านกาตูนและนิยาย SMM Margin ก็ดี แต่สินค้าหมุนนี่ซิ ก็ต้องจับตาดู ลูกหนี้ กับ Inventory ให้ดี ส่วนผู้บริหารนั้น ตระกูล นิรันตราย ดูว่าจะเป็นคนซื่อตรงนะ ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมช่วยเสริมหน่อย ธุรกิจ Sport Radio นั้นน่าจะค่อยๆดีขึ้นเพราะ Premier Leage และ ปีหน้าจะมี บอลโลกมาหนุนอีกแรง
ออ ช่วงนี้มีเจ้ามือใหญ่มาทยอยเก็บที่ 1.98 - 2.00 ทางกราฟเทคนิคจะเห็นว่า RSI อยู่ที 40-50 มากว่า 2 เดือนแล้ว ต้องดูว่าแรงซื้อจะสามารถดัน RSI ให้ผ่าน 60 ได้หรือไม่ ถ้าผ่านก็มีหวังเห็นราคาขึ้นไปที่ 2.10 แน่นอน แนวต้านต่อไปก็ 2.14, 2.20, 2.30, 2.40 (ราคาที่เคยทำไว้เมือเดือน พ.ค.)
ในเดือนตุลาจะมีจัดงาน ให้ดูจาก Website www.smm.co.th ได้ ผมเชื่อว่า Q4 ปีนี้ยอดขายน่าจะดี เพราะเหมือนมีการวางแผนไว้เพื่อระบายสินค้า ผมเห็นเหมือนกันว่าลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้นใน Q2 จาก 257 ล. มาเป็น 326 ล. ต้องดูความสามารถผู้บริหารในการระบาย Stock ละ
แต่ถ้าดู Q2 Net Profit Margin จาก 10.81% ใน Q1 มาเป็น 11.40% ถือว่าน่าพอใจ ชอบธุรกิจนี้ตรงนี้แหละ เปรียบเทียบ Net Profit Margin กับ SE-ED หรือ พวกที่ขายมือถือที่ได้แค่ 3-4% นั้น ผมว่าอันนี้ดีกว่ามาก โดยส่วนตัวผมมักจะเลือก บจ. ที่มี Net Profit Margin = Net profit / Sales = 8-10% จะแน่ใจว่าสามารถต้านแรงเงินเฟ้อ และเวลา Econ ตกต่ำได้
อีกอย่าง ดูที่หนี้สินก็น้อย เหลือแค่ 200 ล. ปีหนึ่งทำกำไรได้ 70-85 ล. จ่ายปันผล 0.15 x 240 ล.หุ้น = 36 ล. ก็ยังเหลือ 50 ล. ภายในห้าปีก็หมดหนี้แล้ว
EPS ครึ่งปีอยู่ที่ 0.18 ทั้งปีอย่างต่ำก็ได้ 0.30 แน่นอนเพราะ Q3 & Q4 ต้องทำที่ 0.12 ไม่ยากเลย 0.30 x 8 เท่า PE = 2.40 ราคาอย่างต่ำที่ควรจะเป็น ปีนี้จ่ายปันผลอย่างต่ำก็เท่าปีก่อนที่ 0.15 --> 0.15 / 2.00(ราคา 28/9/05) = 7.5%
ดูตาม Ratio ต่างๆ บริษัทนี้ลงทุนได้แน่นอน หากดูด้านคุณภาพ ธุรกิจนี้เข้าใจง่าย เพราะลูกผมก็อ่านกาตูนและนิยาย SMM Margin ก็ดี แต่สินค้าหมุนนี่ซิ ก็ต้องจับตาดู ลูกหนี้ กับ Inventory ให้ดี ส่วนผู้บริหารนั้น ตระกูล นิรันตราย ดูว่าจะเป็นคนซื่อตรงนะ ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมช่วยเสริมหน่อย ธุรกิจ Sport Radio นั้นน่าจะค่อยๆดีขึ้นเพราะ Premier Leage และ ปีหน้าจะมี บอลโลกมาหนุนอีกแรง
ออ ช่วงนี้มีเจ้ามือใหญ่มาทยอยเก็บที่ 1.98 - 2.00 ทางกราฟเทคนิคจะเห็นว่า RSI อยู่ที 40-50 มากว่า 2 เดือนแล้ว ต้องดูว่าแรงซื้อจะสามารถดัน RSI ให้ผ่าน 60 ได้หรือไม่ ถ้าผ่านก็มีหวังเห็นราคาขึ้นไปที่ 2.10 แน่นอน แนวต้านต่อไปก็ 2.14, 2.20, 2.30, 2.40 (ราคาที่เคยทำไว้เมือเดือน พ.ค.)
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 10
ผมว่าหนังสือการ์ตูนนี่เป็นหนังสือที่เราจะซื้อโดยไม่ต้องคิดนะ ผมเคยไปเฝ้าอยู่หน้าร้าน ของ Smm อยู่พักนึง หนังสือที่ขายดีคือหนังสือการ์ตูนนี่แหละประมาณว่า เดินตรงไปหยิบมา แล้วจ่ายตังเลย กันหลายคน เทียบกับอีกร้านนึงที่มีคนยืนอ่านจนพนักงานนั่งตบยุงกันแล้ว เห็นชัดๆเลยว่าที่ไหนขายดีกว่า อีกอย่าง Smm มีการ์ตูนฮิตอยู่หลายเรื่องเหมือนกันนะ เช่น
One piece
หุ่นเชิดสังหาร
ได ตะลุยแดนเวทมนต์
จอมเกบลู
สปรีแกน
มังกรคู่สู้สิบทิศ
หนังสือการ์ตูนผู้หญิง
ฯลฯ
แล้วยังมีเรื่องใหม่ๆอีกมาก (ที่ยกตัวอย่างมานี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเก่า เนื่องจากผมตามอ้านกันมาตั้งแต่ยังเด็กๆ จนตอนนี้เด็กเรียกว่าน้าแล้ว ก็ยังอยากอ่านอยู่) 8)
One piece
หุ่นเชิดสังหาร
ได ตะลุยแดนเวทมนต์
จอมเกบลู
สปรีแกน
มังกรคู่สู้สิบทิศ
หนังสือการ์ตูนผู้หญิง
ฯลฯ
แล้วยังมีเรื่องใหม่ๆอีกมาก (ที่ยกตัวอย่างมานี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเก่า เนื่องจากผมตามอ้านกันมาตั้งแต่ยังเด็กๆ จนตอนนี้เด็กเรียกว่าน้าแล้ว ก็ยังอยากอ่านอยู่) 8)
- Hero_man
- Verified User
- โพสต์: 270
- ผู้ติดตาม: 0
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 11
พูดถึงหนังสือการ์ตุนค่ายนี้ผมก็ติดตามอยู่เหมือนกันครับ เรื่องหน้ากากเสือ มาสค์ไรเดอร์สปิริต ไออิ &มาโกโตะ จอมราชันย์อหังการ์ 8) ลืมไปมีอีกเรื่อง (ไม่วางแผงนานแล้ว) คิไคเดอร์02
กระแสน้ำเปลี่ยนใจปลา..
กาลเวลาเปลี่ยนใจคน...
กาลเวลาเปลี่ยนใจคน...
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 13
สมัยของพี่
ชั้นประถม----โดเรมอน----อาราเร่----อิคคิวซัง
ชั้นม.ต้น-----คอบบร้า-----โคทาโร่
ชั้นม.ปลาย---ดรากอนบอล
มหาวิทยาลัย-----XXXXXXX 555555(แปลว่าไม่ได้อ่าน ไม่ใช่เรท)
อย่างงี้เขาเรียกตกยุค หรือเปล่าครับ
ชั้นประถม----โดเรมอน----อาราเร่----อิคคิวซัง
ชั้นม.ต้น-----คอบบร้า-----โคทาโร่
ชั้นม.ปลาย---ดรากอนบอล
มหาวิทยาลัย-----XXXXXXX 555555(แปลว่าไม่ได้อ่าน ไม่ใช่เรท)
อย่างงี้เขาเรียกตกยุค หรือเปล่าครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 715
- ผู้ติดตาม: 0
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 14
สำหรับช่วงนี้นะครับ การที่ ราคาการ์ตูน ขยับแพงขึ่น รวมทั้ง หนังสือนิยาย ที่ราคาแพงขึ้นเช่นกัน ผมคิดว่ามันทำให้การบริโภค ลดลง เพราะว่า มันมีทางเลือกอื่นนะครับ เช่น การ์ตูนก็เช่าเอาได้ ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ได้ซื้อเก็บสะสม(เพราะผมก็เป็นคนที่อ่านการ์ูตูนเยอะ) หนังสือนิยาย ก็เช่าเอาได้ หรือไม่ก็ยืมเพื่อนมาอ่าน
ตอนนี้ไม่ค่อยกล้าซื้อ SMM เพราะเรื่องราคาหนังสือที่แพงขึ้นนี่แหละครับ กลัวว่าคนจะซืออ่านน้อยลง
ตอนนี้ไม่ค่อยกล้าซื้อ SMM เพราะเรื่องราคาหนังสือที่แพงขึ้นนี่แหละครับ กลัวว่าคนจะซืออ่านน้อยลง
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 16
ราคาหนังสือปรับเพิ่มมาจาก ระดับ 25 บาทที่เป็นช่วงที่หนังสือการ์ตูนที่ได้รับลิขสิทธิ์เข้ามาทำตลาดใหญ่ๆๆๆ
ตลาดนี้ถือว่าเป็นการผูกขาดเลย เพราะว่า ลิขสิทธิ์ให้แก่ผู้พิมพ์เพียงเจ้าเดียว และถ้าพิมพ์เพิ่มมักจะเป็นเจ้าเก่าที่พิมพ์เพิ่มด้วย
อันนี้ถือว่าเป็นจุดแข็ง
จุดตายอยู่ที่ ตอนนี้มีร้านการ์ตูนให้เช่า ถ้าเรื่องไหนไม่อยากจะเก็บก็เช่า แล้วคิดเอาเองล่ะกัน ถ้าไปไหนก็เจอร้านการ์ตูนให้เช่า อันนี้ก็จะทดแทนได้ส่วนหนึ่ง และถ้าเกิดบ้าจี้ไปเก็บค่าลิขสิทธิ์และ งานนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ คิดต่อเนื่อง ร้านเช่าเป็นตัวแทนคนอ่านในระดับหนึ่ง เท่าที่คุยถ้าเรื่องไหนเช่ากันบ่อยมากๆ วันแรกที่ออกในร้านต้องมีอย่างน้อยสามเล่ม ถ้าเป็นแบบนี้ซักร้อยร้าน หนังสือก็ขายได้มากแล้วอ่ะ ไม่ต้องรอนานด้วยอ่ะ
ตลาดนี้ถือว่าเป็นการผูกขาดเลย เพราะว่า ลิขสิทธิ์ให้แก่ผู้พิมพ์เพียงเจ้าเดียว และถ้าพิมพ์เพิ่มมักจะเป็นเจ้าเก่าที่พิมพ์เพิ่มด้วย
อันนี้ถือว่าเป็นจุดแข็ง
จุดตายอยู่ที่ ตอนนี้มีร้านการ์ตูนให้เช่า ถ้าเรื่องไหนไม่อยากจะเก็บก็เช่า แล้วคิดเอาเองล่ะกัน ถ้าไปไหนก็เจอร้านการ์ตูนให้เช่า อันนี้ก็จะทดแทนได้ส่วนหนึ่ง และถ้าเกิดบ้าจี้ไปเก็บค่าลิขสิทธิ์และ งานนี้จะเกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ คิดต่อเนื่อง ร้านเช่าเป็นตัวแทนคนอ่านในระดับหนึ่ง เท่าที่คุยถ้าเรื่องไหนเช่ากันบ่อยมากๆ วันแรกที่ออกในร้านต้องมีอย่างน้อยสามเล่ม ถ้าเป็นแบบนี้ซักร้อยร้าน หนังสือก็ขายได้มากแล้วอ่ะ ไม่ต้องรอนานด้วยอ่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 17
ขอถามคุณmiracleหน่อยครับ ตอนนี้ทางบริษัทไม่ได้เก็บค่าเช่าหนังสือใช่ไหมครับ
อย่างนี้ก็เท่ากับว่าทางบริษัทสามารถจะมีรายได้จากส่วนนี้ได้ในอนาคต
ใช่เปล่า
.. การ์ตูนนี่เหมือนยาเสพติดสำหรับเด็กและวัยรุ่นชนิดหนึ่งรึเปล่า
ผมเห็นคนที่อ่านจะติด แถมอ่านเร็วด้วย
อย่างนี้ก็เท่ากับว่าทางบริษัทสามารถจะมีรายได้จากส่วนนี้ได้ในอนาคต
ใช่เปล่า
.. การ์ตูนนี่เหมือนยาเสพติดสำหรับเด็กและวัยรุ่นชนิดหนึ่งรึเปล่า
ผมเห็นคนที่อ่านจะติด แถมอ่านเร็วด้วย
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 18
ผมว่าคอการ์ตูนจริงๆ นี่เขาซื้อเพื่อเก็บเป็นคอลเลคชั่นกันนะครับ ส่วนร้านเช่านั้นผมว่า จริงๆแล้วน่าจะเป็นโอกาศนะครับ เพราะ เรื่องไหนที่ไม่มั่นใจว่าสนุก ก็จะไปเข่ามาอ่านก่อน อ่านไปอ่านมาก็เลยซื้อมันซะเลย อีกอย่างพวกวารสารของ Smm ก็น่าสนใจนะครับ วันนี้แฟนผมยังซื้อ Slimming ไปอ่านเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 19
ไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์ตรงจุดนั้น
เพราะเหตุในไม่ทราบ
แต่ว่า ไม่เก็บก็ดีแล้ว จะได้เดโมให้คนอื่นได้
ถ้าเก็บคงจะสู้อีกเจ้าไม่ได้ ที่มีการ์ตูนอยู่ในมือมากกว่า
และเป็นเจ้าที่ทุกคนบ่นถึงมากที่สุด
ไม่ขอกล่าวถึงล่ะกัน เพราะเจ้านี้คนบ่นกันมากจริงๆ ดองไว้หลายเรื่องมาก
การออกหนังสือการ์ตูนได้แต่ละเล่มนั้น ต้องดูที่สัญญาด้วยอ่ะ ว่าออกไปแล้ว จะโดนค่าลิขสิทธิ์จากทางญี่ปุ่นเท่าไร จุดนี้ก็น่าคิด และพิมพ์ได้จำนวนเท่าไร พิมพ์ซ้ำก็ต้องแจ้งให้ทางโน้นทราบเหมือนกัน
แต่การ์ตูนมันสร้างจินตนาการไม่ว่ายุคไหนยุคไหน
ตอนนี้เด็กๆก็ยังติดการ์ตูนอยู่อ่ะ เท่าที่สังเกต
ส่วนเรื่องวิทยุที่ทางตัวนี้ทำนั้นไม่รู้เรื่องจริงๆๆ บอกไม่ได้ ใครมีความรู้ด้านนั้นบอกกันด้วยอ่ะ จุดนี้เป็นจุดตายของตัวนี้อ่ะ
เพราะเหตุในไม่ทราบ
แต่ว่า ไม่เก็บก็ดีแล้ว จะได้เดโมให้คนอื่นได้
ถ้าเก็บคงจะสู้อีกเจ้าไม่ได้ ที่มีการ์ตูนอยู่ในมือมากกว่า
และเป็นเจ้าที่ทุกคนบ่นถึงมากที่สุด
ไม่ขอกล่าวถึงล่ะกัน เพราะเจ้านี้คนบ่นกันมากจริงๆ ดองไว้หลายเรื่องมาก
การออกหนังสือการ์ตูนได้แต่ละเล่มนั้น ต้องดูที่สัญญาด้วยอ่ะ ว่าออกไปแล้ว จะโดนค่าลิขสิทธิ์จากทางญี่ปุ่นเท่าไร จุดนี้ก็น่าคิด และพิมพ์ได้จำนวนเท่าไร พิมพ์ซ้ำก็ต้องแจ้งให้ทางโน้นทราบเหมือนกัน
แต่การ์ตูนมันสร้างจินตนาการไม่ว่ายุคไหนยุคไหน
ตอนนี้เด็กๆก็ยังติดการ์ตูนอยู่อ่ะ เท่าที่สังเกต
ส่วนเรื่องวิทยุที่ทางตัวนี้ทำนั้นไม่รู้เรื่องจริงๆๆ บอกไม่ได้ ใครมีความรู้ด้านนั้นบอกกันด้วยอ่ะ จุดนี้เป็นจุดตายของตัวนี้อ่ะ
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
SMM ดีไหมครับ
โพสต์ที่ 21
แพงก็จริง ขึ้นตามต้นทุน stepละ5 บาท
แต่บ้างเรื่องก็เกินไป ปรับปรุงนิดหน่อย 70 บาท
อันนี้แฟนตัวจริงเสียงจริงเท่านั้นที่ซื้อไปอ่านอ่ะ
บ้างเรื่องไม่มีในตลาดต้องไปหาซื้อที่สวน เล่มละ 40 บาท มากกว่าราคาปกก็มีอ่ะ
เห็นแล้วการ์ตูนไม่มีวันตาย นอกจากบริหารงานห่วยแตก
แต่บ้างเรื่องก็เกินไป ปรับปรุงนิดหน่อย 70 บาท
อันนี้แฟนตัวจริงเสียงจริงเท่านั้นที่ซื้อไปอ่านอ่ะ
บ้างเรื่องไม่มีในตลาดต้องไปหาซื้อที่สวน เล่มละ 40 บาท มากกว่าราคาปกก็มีอ่ะ
เห็นแล้วการ์ตูนไม่มีวันตาย นอกจากบริหารงานห่วยแตก