วันนี้ว่างๆๆ เข้าไปเจอข่าวใน Biz Week เลย Copy มาให้อ่านกันน่ะครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์บ้างน่ะครับ อย่างไรโปรดใช้วิจารณยานในการอ่านข่าวด้วยนะครับ
************
เปิดตัว 'ผู้บริหาร..รวยหุ้น'
ตรวจสอบการซื้อขายหุ้นของบรรดา 'บิ๊ก' บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ พบว่าในรอบ 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ของปีนี้ กรรมการ และผู้บริหารระดับสูง 'ขายหุ้น' ออกมารวมกัน 'หลายพันล้านบาท' ซึ่งมากเป็นประวัติการณ์
นับตั้งแต่ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจเกือบทุกตัวบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าในปี 2548-2549 เศรษฐกิจประเทศไทยจะเผชิญหน้ากับอัตราการเติบโตที่ลดลง แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่ชะลอตัว
ผู้บริหารระดับสูงของบจ.ส่วนใหญ่จึงเร่งระบายหุ้นออกมาก่อน เพื่อสะสมเงินสดไปรอช้อนซื้อ 'ของถูก' ในอนาคตตอนที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลง
ซึ่งผู้บริหารส่วนใหญ่จะให้เหตุผลว่า...ขายหุ้นเพราะต้องการเพิ่มสภาพคล่องให้กับหุ้นของตัวเอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือพวกเขา 'ร่ำรวย' กลับออกไปแล้ว
จากการศึกษาข้อมูลพบประเด็นที่น่าสังเกตว่าบริษัทไหนที่ผู้บริหารขายหุ้นออกมาจำนวนมาก และขายต่อเนื่อง..ราคาหุ้นจะมีทิศทางลดลงในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า
ยกตัวอย่างเช่นหุ้น PLE, PSL, TTA, YNP, EWC, BANPU, NWR, SOLAR, TRAF, UTP, ML, UBC, GRAMMY และ PICNI จะยกเว้นก็เพียงหุ้นบางกลุ่ม และบางตัว เช่น หุ้นกลุ่มชินคอร์ป, AMATA และ TICON ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้น
จากสถิติที่ผ่านมาพบว่า น.ส.นิชิต้า ชาห์ กรรมการบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) รักษาแชมป์ขายหุ้นออกจากพอร์ตเป็นมูลค่าสูงที่สุด จำนวน 13.50 ล้านหุ้น หรือกว่า 614 ล้านบาท
พล.ต.อ.ชวลิต ยอดมณี ประธานกรรมการบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) เป็นอีกคนที่ขายหุ้น AMATA ออกมาจำนวนมาก รวมจำนวน 27.48 ล้านหุ้น ได้เงินกลับออกไปไม่น้อยกว่า 330 ล้านบาท
ทางด้านทีมผู้บริหารจาก บริษัท ยานภัณฑ์ (YNP) ก็ขายหุ้นออกมาตลอด รวมมูลค่าสูงถึง 563 ล้านบาท นำทีมโดย นางจำลอง พันธ์พาณิชย์ ประธานกรรมการบริหารขายออกมาครั้งเดียว 21.22 ล้านหุ้น มูลค่า 307 ล้านบาท...โดยมี ชาญ เลิศประเสริฐภากร กรรมการบริหาร ร่วมขายด้วย 16.06 ล้านหุ้น มูลค่า 241 ล้านบาท
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือ การถอนตัวของ ภิรมย์ ปริยวัต อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสเทิร์นไวร์ (EWC) เฉพาะเดือน 'กันยายน 2548' เดือนเดียวเขาขายหุ้นได้เงินสดออกไปแล้ว 258 ล้านบาท
บริษัท เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) ผู้บริหารก็ขายหุ้นออกมาอย่างหนัก นำโดย เสวก ศรีสุชาต ประธานกรรมการบริษัท ขายยกล็อตให้กองทุนต่างชาติครั้งเดียว 24 ล้านหุ้น ได้เงินไป 231 ล้านบาท...ตามด้วย อำนวย กาญจโนภาศ รองประธานกรรมการ ขายตลอดทั้งปี รวม 43.46 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 13.26 บาท ได้เงินไปก่อน 575 ล้านบาท
...แต่ในช่วงกลางปี 'อำนวย' ได้ทยอยซื้อหุ้น PLE กลับเข้าพอร์ตในราคาเฉลี่ย 10.32 บาทต่อหุ้น เป็นจำนวน 24 ล้านหุ้น จ่ายเงินออกไป 248 ล้านบาท
สรุปว่า 'อำนวย' รับรายได้จากส่วนต่างของมูลค่าซื้อขายในรอบ 9 เดือน ทั้งสิ้น 327 ล้านบาท
ส่วนค่าย โพสต์ พับลิชชิ่ง (POST) หลังการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งมี จีเอ็มเอ็ม มีเดีย (GMMM) เข้ามาถือหุ้น 23.60% พบว่าสุทธิชัย-สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ขายหุ้น POST ไปแล้วกว่า 23.52 ล้านหุ้น มูลค่า 194 ล้านบาท
...ยกเว้นหุ้นในส่วนของ สุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ 11.67% ที่ยังไม่ขาย
และในกลุ่มจิราธิวัฒน์นี้เอง ยังปรากฏชื่อ วันชัย จิราธิวัฒน์ ขายหุ้น โรงแรมเซ็นทรัล (CENTEL) ถึง 10 ครั้ง รวมมูลค่า 13.64 ล้านบาท
ส่วนค่ายของ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) ซึ่งรายได้รวมปีนี้กำลังตกหนัก ก็ถูก สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ชิงขายออกมา...ในช่วงที่ราคายังสูง จำนวน 4 แสนหุ้น ที่ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 17.42 บาท ได้เงินไปแล้ว 6.97 ล้านบาท
ตรวจสอบต่อไป พบการขายหุ้นของคณะผู้บริหารของ ไทคอน อินดัสเทรียล (TICON) ที่ขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง คิดมูลค่ารวมกันถึง 223 ล้านบาท โดยมี ไว เชง ควน ประธานกรรมการบริหาร ขายหุ้นออกมามากที่สุดที่ราคา 13 บาทต่อหุ้น ได้เงินไป 169 ล้านบาท
โดยเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ไว เชง ควน คนนี้ได้เข้าเก็บหุ้น TICON ไว้ก่อน 4.37 ล้านหุ้น ที่ราคาเฉลี่ยเพียง 9.47 บาทต่อหุ้น..เข้าตำรา 'ซื้อถูก..ขายแพง' ทำกำไรกันเห็นๆ
ด้านของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร' (CPF) ก็น่าสนใจ ผู้บริหารขายหุ้นออกมามากเช่นเดียวกัน...ตลอดทั้งปีมูลค่ากว่า 128 ล้านบาท
ดร.วีรวัฒน์ กาญจนดุล ขายมากที่สุดถึง 16.09 ล้านหุ้น มูลค่า 67 ล้านบาท ตามมาด้วยเจ้าสัว พงษ์เทพ เจียรวนนท์ ขายจำนวน 9.67 ล้านหุ้น ได้เงินไป 39 ล้านบาท
...สวนทางกับ อดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ที่ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตเพิ่ม 9.02 ล้านหุ้น เป็นเงิน 36 ล้านบาท
ด้านผู้บริหารบ้านปู (BANPU) นำโดย สุนทร ว่องกุศลกิจ รองประธานกรรมการ ก็ขายหุ้นออกมาช่วงราคาวิ่งไปที่ 183 บาท 'ครั้งเดียว' จำนวน 4.80 แสนหุ้น มูลค่ากว่า 87 ล้านบาท
ขณะที่ พลพัฒ กรรณสูต ขายหุ้นเนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) ตุนเงินสดกว่า 80 ล้านบาท จากการขายหุ้นออกมาตลอดทั้งก่อน และหลังการเพิ่มทุนของบริษัท
กาญจนา จิตฤดีอำไพ เป็นอีกคนที่ขายหุ้น ยูนิวินิช น้ำมันปาล์ม (UVAN) รวม 1.95 ล้านหุ้น ได้เงินไปกว่า 58 ล้านบาท ล่าสุดเริ่มมีความเคลื่อนไหวในหุ้นน้ำมันพืชไทย (TVO) ของตระกูล 'วิทยฐานกรณ์' ที่ทีมนักวิเคราะห์เริ่มมองเห็นความเสี่ยงจากการเผชิญสถานการณ์ทางอ้อมจากไข้หวัดนก ซึ่งโครงสร้างรายได้กว่า 70% ของ TVO รับรู้จากการขายวัตถุดิบให้แก่ธุรกิจ 'อาหารสัตว์'
อาจเป็นเหตุผลให้ทีมผู้บริหารชิงขายหุ้นออกมาก่อน 3.70 ล้านหุ้น รับเงินได้แล้ว 44 ล้านบาท โดย วรางคณา หิรัญชัยพฤกษ์ เทขายวันเดียว 1.60 ล้านหุ้น ได้เงินสดทันที 19.20 ล้านบาท ตามติดด้วย 'วิชัย-สุดารัตน์ วิทยฐานกรณ์' ขายรวมกัน 2.10 ล้านหุ้น รวยไปคนละ 13.20 ล้านบาท และ 12 ล้านบาท...ตามลำดับ
ทางด้านทีมผู้บริหาร 'กลุ่มชินคอร์ป' ยังคงหอบ 'เงินสด' ออกจากตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง...หลังคณะผู้บริหารในเครือ...ต่างได้รับการจัดสรร 'วอร์แรนท์' กันถ้วนหน้า โดยรอบเกือบ 10 เดือนที่ผ่านมา ผู้บริหารกลุ่มชินทยอยขายหุ้นตุนเงินเบ็ดเสร็จ 274 ล้านบาท
นำโดย ดร.ดำรง เกษมเศรษฐ์ รวยที่สุด! หลังผ่านการเทขายหุ้นชินคอร์ป (SHIN) จำนวน 2.44 ล้านหุ้น รับไป 90 ล้านบาท ตามด้วย นิวัตน์ธำรง บุญทรงไพศาล และ ศิริเพ็ญ สีตสุวรรณ ขายหุ้น SHIN ได้เงินสดเข้ากระเป๋าคนละประมาณ 21 ล้านบาท
ถัดมาเป็นคิวของหุ้น 'เอไอเอส' (ADVANC) โดนผู้บริหารขายออกมารวม 95 ล้านบาท วิกรม ศรีประทักษ์ ขายมากที่สุดมากว่า 4.31 แสนหุ้น รวยทันที 45 ล้านบาท
ส่วนน้องสาวนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขายหุ้น ADVANC จำนวน 2.77 แสนหุ้น ได้เงินไป 29 ล้านบาท สมประสงค์ บุญยะชัย ขายทั้ง SHIN และ ADVANC ได้เงินไปรวม 28 ล้านบาท
ยังแกะรอยต่อไปถึงการ 'เก็บหุ้น' ของผู้บริหารระดับสูง โดยพบว่า ครอบครัวมหากิจศิริ หว่านเงินซื้อหุ้นตัวเองด้วยมูลค่ามากที่สุด ถึงกว่า 603 ล้านบาท จากการซื้อหุ้นไทยน๊อคซ์ (TNX) จำนวน 622.12 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 0.97 บาท
ทางด้านหุ้นสิงห์ พาราเทค (SINGHA) มี สมจิตร โบว์เสรีวงศ์ ผู้บริหารเพียงรายเดียวในบริษัท ที่ก้มหน้าก้มตาเก็บหุ้นขาเดียว...ตลอดทั้งปี รวมจำนวน 18.73 ล้านหุ้น ใช้เงินไปแล้ว 151 ล้านบาท
ขณะที่ผู้บริหารและเครือญาติของสมจิตร กลับเทรดหุ้น SINGHA กันสนุกตลอดทั้งปี เริ่มตั้งแต่ ดร.วิภาภรณ์ โบว์เสรีวงศ์ ซื้อๆขายๆรวม 43 ครั้ง...ซื้อ 125 ล้านบาท และขายออก 181 ล้านบาท รับส่วนต่างไป 55 ล้านบาท ศิริลักษณ์ โบว์เสรีวงศ์ เทรดรวม 49 ครั้ง คิดเป็นมูลค่าซื้อ 222 ล้านบาท และขาย 223 ล้านบาท เป็นต้น
ขณะที่สองพี่น้องตระกูลไทเก้น 'โฟรเด้-โอเล่ย์ ไทเก้น' ก็โยกรายได้จากการขายหุ้นโทรีเซนไทย (TTA) ออกมาเฉพาะในปีนี้ กว่า 321 ล้านบาท เพื่อเอามาเริ่มต้นใหม่กับกิจการ 'ไรมอน แลนด์' (RAIMON) โดยในรอบ 9 เดือนเศษ ครอบครัวไทเก้น ซื้อหุ้น RAIMON ไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท
ทางด้านบริษัท น้ำตาลขอนแก่น (KSL) ของครอบครัว 'ชินธรรมมิตร์' ที่กำลังดันตัวเลข 'กำไร' จากโครงการผลิตเอทานอล ซึ่งจะเริ่มผลิตจริงตั้งแต่ปี 2549 ก็พบการไล่เก็บหุ้นไปแล้ว 12.54 ล้านหุ้น ในวงเงิน 58 ล้านบาท โดยมี ตระการ ชุนหโรจน์ฤทธิ์ ซื้อมากที่สุด 18 ล้านบาท
ส่วน สมชาย ชินธรรมมิตร์ กรรมการบริษัท ซื้อด้วย 23 ล้านบาท ดวงแข-ชสัช ชินธรรมมิตร์ ซื้อหุ้น KSL ไปคนละ 12.55 ล้านบาท และ 3.86 ล้านบาทตามลำดับ
ปิดท้ายที่ การสะสมหุ้นของ ชัยสิทธิ์ วิริยะเมตตากุล ซึ่งรอบปีนี้ไล่เก็บทั้งหุ้น โรงพยาบาลวิภาวดี (VIBHA), พีเอเอี (PAE) และ ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม (TFD) ใช้เงินซื้อหุ้นเหล่านี้ไปแล้วกว่า 84 ล้านบาท
(1.) รายชื่อผู้บริหาร 'ขายหุ้น' (เรียงตามมูลค่าขาย)
ผู้บริหาร หุ้น มูลค่า
นิชิต้า ชาห์ PSL 614,250,000
อำนวย กาญจโนภาศ PLE 575,729,424
ชวลิต ยอดมณี AMATA 330,553,536
โฟรเด้ - โอเล่ย์ ไทเก้น TTA 321,627,843
จำลอง พันธ์พาณิชย์ YNP 307,748,000
ภิรมย์ ปริยวัต EWC 258,445,000
ชาญ เลิศประเสริฐภากร YNP 240,990,655
สุชาติ อารีกุล NFC 233,784,799
เสวก ศรีสุชาต PLE 231,600,000
สุทธิชัย - สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ POST 194,017,935
ไว เชง ควน TICON 169,000,000
ครอบครัวตวงทอง* TLI 125,635,020
ดำรง เกษมเศรษฐ์ SHIN 90,409,856
สุนทร ว่องกุศลกิจ BANPU 87,840,000
พลพัฒ กรรณสูต NWR 80,208,926
ดร.วีรวัฒน์ กาญจนดุล CPF 67,761,748
กาญจนา จิตฤดีอำไพ UVAN 58,642,440
อนันต์ พฤกษานุศักดิ์ STA 52,158,420
วิกรม ศรีประทักษ์ ADVANC 45,594,845
เสริมสิน สมะลาภา SE-ED 40,390,985
พงษ์เทพ เจียรวนนท์ CPF 39,241,566
ดิเรก วานิชบุตร TICON 36,172,500
โจฮานเนส เบอร์นาร์ดุ๊ส ฟันเดอร์ลินเดน POST 29,427,380
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ADVANC 29,009,854
สมประสงค์ บุญยะชัย ADVANC , SHIN 28,510,982
ดารุณี กฤตบุญญาลัย OISHI 28,496,050
เกรียงศักดิ์ รุ่งธนเกียรติ RK 27,000,000
ชุมพล ณ ลำเลียง SCC 26,480,000
ไชยยศ สินเจริญกุล STA 24,039,600
นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล SHIN 21,555,863
ศิริเพ็ญ สีตสุวรรณ SHIN 21,529,375
สวัสดิ์ หอรุ่งเรือง MS 20,188,380
(2.)รายชื่อผู้บริหาร 'ซื้อหุ้น' (เรียงตามมูลค่าซื้อ)
ผู้บริหาร หุ้น มูลค่า
ครอบครัวมหากิจศิริ TNX 603,900,520
โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ EWC 279,700,000
สมจิตร โบว์เสรีวงศ์ SINGHA 151,112,377
โฟรเด้ - โอเล่ย์ ไทเก้น RAIMON 100,316,912
สุรพล คุณานันทกุล SIAM 98,000,000
ชัยสิทธ์ วิริยะเมตตากุล VIBHA , PAE , TFD 84,372,576
ประทีป ตั้งมติธรรม SPALI 60,307,576
ไวยวุฒิ สินเจริญกุล STA 54,752,257
ไว เชง ควน TICON 41,415,000
อนุกูล ตันติมาสน์ CK 38,646,900
อดิเรก ศรีประทักษ์ CPF 35,967,298
กำจร ชื่นชูจิตต์ UTP , TTI 34,674,801
กมล เอี้ยวศิวิกูล MIDA 29,896,984
สมชาย ชินธรรมมิตร์ KSL 23,568,145
อนันต์ กาญจนพาสน์ BLAND 18,688,915
ตระการ ชุณหโรจน์ฤทธิ์ KSL 18,481,600
สมศักดิ์ อมรรัตนชัยกุล ASIAN 18,160,754
สมใจนึก เองตระกูล TIP 16,600,000
เกรียงไกร เศรษฐไกรกุล RS 16,000,000
ณรงค์ แสงสุริยะ CK 13,280,000
ดวงแข ชินธรรมมิตร์ KSL 12,553,012
** เปิดตัว 'ผู้บริหาร..รวยหุ้น' **
-
- Verified User
- โพสต์: 4
- ผู้ติดตาม: 0
คำชี้แจงจาก PSL อันเนื่องมาจากบทความ "เปิดตัวผู้บริหาร.
โพสต์ที่ 2
28 ตุลาคม 48
ริมถนนนักลงทุน
๐ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฉบับที่ 72 ประจำวันที่ 28 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2548 ๐ "ภูมิพัฒน์ ธนาวรพิทักษ์" ในฐานะ "กลุ่มทุนใหม่" ที่เข้าซื้อกิจการ "อกริเพียว โฮลดิ้งส์" (APURE) บ่นอุบหลังถูก "ตลาดหลักทรัพย์" สั่งจับตาพร้อมให้ส่ง "หนังสือชี้แจง" แบบถี่ยิบ ฐานเข้าข่าย "สร้างราคา(หุ้น)" แบบมี "สัมพันธ์ลึก" กับสาย "การเมือง" จนตอนนี้ "เสี่ยภูมิพัฒน์" ลั่น...บ่ยั้น วันๆท่องอยู่คาถาเดียว "ท้าพิสูจน์กันที่ผลงานจะดีฝ่า"
๐ "เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้" (METRO) อีกหุ้นปั้นของทนายดัง "วิชัย ทองแตง" ดวงขึ้นตั้งแต่ "เทรด...วันแรก" เพราะราคาไต่ขึ้นไปปิดที่ "8.65 บาท" สูงกว่าไอพีโอที่ 7 บาท ถึง 23% ๐ ที่แน่ๆ งานนี้ยังไง "ทนายวิชัย" ก็มีกำไร...แต่เท่าไรยังไม่ชัวร์ ก่อนหน้านั้น ก็ไปลุยไฟกับหุ้น "ไออีซี" (IEC) ได้ตังค์ไปกินขนมเล่นๆ "หนึ่งล้านบาท"
๐ "น้า...นิมิต หมดราคี" แห่ง "124 คอมมูนิเคชั่น" หลังไฟลิ่งผ่านการ "โอเค" จาก "ก.ล.ต." ก็ยิ้มแก้มแทบปริ รีบออกมาชมการทำงานของ "ก.ล.ต." แบบน่าคิด...ว่าทำงานได้รวดเร็วเหลือเกิน ๐ ที่ชมก็ไม่ได้อะไรหรอก แค่สงสัยว่า..."แล้วทำไมทีบริษัท(ลูกค้า)ของ 124 ที่เตรียมเข้าตลาดหุ้น เหตุใดจึงนานเชียวววว"
๐ ก๊วนทุนใหม่ใน "ปิคนิค" ระบมกันระนาว ทั้ง "จึงรุ่งเรืองกิจ" และ "รักศรีอักษร" หลังดอดเข้าไป "อุ้ม...ปิคนิค" ๐ แต่ภารกิจ "แบบเจ็บๆ" ครั้งนี้ ไหงไม่ได้เห็น "อาการบ่น" จากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ แต่กลับมีแต่เสียงเครือๆ "รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นอีหรอบนี้ เข้าไปไม่ใช่ว่าชอบ แต่มันเกิดจากความจำใจต่างหาก"
๐ มีเสียงร่ำลือว่า...กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่กำลัง "ลุ้น" ให้ "ผู้กล้า" ลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเอ็มดี (ณัฐชัย อร่ามรัศมีวานิช) โดยด่วน...เผื่อภาพลบๆ มันจะดีขึ้นมั่ง
๐ ส่วน "กลุ่มลาภวิสุทธิสิน" ก็เริ่มขยับออกรอบ เมื่อ "ธีรัชชานนท์" โอนหุ้นจำนวน 60.42 ล้านหุ้น (2.05%) ไปให้พี่สาว "สุภาพร" ส่งผลให้ "ธีรัชชานนท์" เหลือหุ้นเพียง 3.21% จึงพ้นขีดรายงานการซื้อขายต่อ "ก.ล.ต." (5%) นับจากนี้จะขาย "เกลี้ยงพอร์ต" หรือทยอย "ปล่อยของ" คงตามหาราคากันยาก
๐ หลัง "กรุงเทพธุรกิจ BizWeek" สัปดาห์ก่อนไป "ล้วงพอร์ต" ลงทุนหุ้นของ "วิริยะ ประกันภัย" กว่า 4.5 พันล้านบาท ๐ ไม่ทันไร ก็มีกระแสข่าวว่า ทางผู้ใหญ่ใน "แบงก์ชาติ" กำลังตามจี้ผ่าน "กรมการประกันภัย" ให้ตรวจสอบว่ามี "พิรุธ" หรือไม่อย่างไร ๐ เพราะ "ข้อสังเกต" มันโยงใยกันมันส์เชียว ตั้งแต่ "ธงชัย จิรอลงกรณ์" (รองเอ็มดี วิริยะ) "สว่าง มั่นคงเจริญ" รวมถึงการกู้เงินจาก "แบงก์กรุงไทย"
๐ "พรีเชียส ชิพปิ้ง" (PSL) ฝากชี้แจงกรณีข่าว "เปิดตัวผู้บริหาร...รวยหุ้นแห่งปี รอบ 9 เดือนรับไป...หลายพันล้านบาท" เมื่อฉบับที่แล้ว ว่าทาง "นิชิต้า" ไม่ได้ดำรงตำแหน่งอยู่ใน "คณะผู้บริหาร" ของ PSL ...แต่เป็นเพียงหนึ่งใน "กรรมการ" ของ PSL เท่านั้น ๐ ส่วนประเด็นการขายหุ้น PSL ของ "นิชิต้า ชาห์" จำนวน 13.5 ล้านหุ้น แท้จริงแล้วเป็นการ "โอนหุ้น" ไปยัง "บ.โกลเบล็ก คอร์ปอเรชั่น" ซึ่งมี "นิชิต้า" เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ (99.99%) เพื่อเปลี่ยนมือจากการถือในนาม "นิชิต้า" เป็นการถือหุ้นผ่านกลุ่มบริษัท ๐ จึงไม่มี "การซื้อขายที่แท้จริง" เกิดขึ้น
ริมถนนนักลงทุน
๐ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฉบับที่ 72 ประจำวันที่ 28 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2548 ๐ "ภูมิพัฒน์ ธนาวรพิทักษ์" ในฐานะ "กลุ่มทุนใหม่" ที่เข้าซื้อกิจการ "อกริเพียว โฮลดิ้งส์" (APURE) บ่นอุบหลังถูก "ตลาดหลักทรัพย์" สั่งจับตาพร้อมให้ส่ง "หนังสือชี้แจง" แบบถี่ยิบ ฐานเข้าข่าย "สร้างราคา(หุ้น)" แบบมี "สัมพันธ์ลึก" กับสาย "การเมือง" จนตอนนี้ "เสี่ยภูมิพัฒน์" ลั่น...บ่ยั้น วันๆท่องอยู่คาถาเดียว "ท้าพิสูจน์กันที่ผลงานจะดีฝ่า"
๐ "เมโทรสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้" (METRO) อีกหุ้นปั้นของทนายดัง "วิชัย ทองแตง" ดวงขึ้นตั้งแต่ "เทรด...วันแรก" เพราะราคาไต่ขึ้นไปปิดที่ "8.65 บาท" สูงกว่าไอพีโอที่ 7 บาท ถึง 23% ๐ ที่แน่ๆ งานนี้ยังไง "ทนายวิชัย" ก็มีกำไร...แต่เท่าไรยังไม่ชัวร์ ก่อนหน้านั้น ก็ไปลุยไฟกับหุ้น "ไออีซี" (IEC) ได้ตังค์ไปกินขนมเล่นๆ "หนึ่งล้านบาท"
๐ "น้า...นิมิต หมดราคี" แห่ง "124 คอมมูนิเคชั่น" หลังไฟลิ่งผ่านการ "โอเค" จาก "ก.ล.ต." ก็ยิ้มแก้มแทบปริ รีบออกมาชมการทำงานของ "ก.ล.ต." แบบน่าคิด...ว่าทำงานได้รวดเร็วเหลือเกิน ๐ ที่ชมก็ไม่ได้อะไรหรอก แค่สงสัยว่า..."แล้วทำไมทีบริษัท(ลูกค้า)ของ 124 ที่เตรียมเข้าตลาดหุ้น เหตุใดจึงนานเชียวววว"
๐ ก๊วนทุนใหม่ใน "ปิคนิค" ระบมกันระนาว ทั้ง "จึงรุ่งเรืองกิจ" และ "รักศรีอักษร" หลังดอดเข้าไป "อุ้ม...ปิคนิค" ๐ แต่ภารกิจ "แบบเจ็บๆ" ครั้งนี้ ไหงไม่ได้เห็น "อาการบ่น" จากกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่ แต่กลับมีแต่เสียงเครือๆ "รู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นอีหรอบนี้ เข้าไปไม่ใช่ว่าชอบ แต่มันเกิดจากความจำใจต่างหาก"
๐ มีเสียงร่ำลือว่า...กลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่กำลัง "ลุ้น" ให้ "ผู้กล้า" ลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเอ็มดี (ณัฐชัย อร่ามรัศมีวานิช) โดยด่วน...เผื่อภาพลบๆ มันจะดีขึ้นมั่ง
๐ ส่วน "กลุ่มลาภวิสุทธิสิน" ก็เริ่มขยับออกรอบ เมื่อ "ธีรัชชานนท์" โอนหุ้นจำนวน 60.42 ล้านหุ้น (2.05%) ไปให้พี่สาว "สุภาพร" ส่งผลให้ "ธีรัชชานนท์" เหลือหุ้นเพียง 3.21% จึงพ้นขีดรายงานการซื้อขายต่อ "ก.ล.ต." (5%) นับจากนี้จะขาย "เกลี้ยงพอร์ต" หรือทยอย "ปล่อยของ" คงตามหาราคากันยาก
๐ หลัง "กรุงเทพธุรกิจ BizWeek" สัปดาห์ก่อนไป "ล้วงพอร์ต" ลงทุนหุ้นของ "วิริยะ ประกันภัย" กว่า 4.5 พันล้านบาท ๐ ไม่ทันไร ก็มีกระแสข่าวว่า ทางผู้ใหญ่ใน "แบงก์ชาติ" กำลังตามจี้ผ่าน "กรมการประกันภัย" ให้ตรวจสอบว่ามี "พิรุธ" หรือไม่อย่างไร ๐ เพราะ "ข้อสังเกต" มันโยงใยกันมันส์เชียว ตั้งแต่ "ธงชัย จิรอลงกรณ์" (รองเอ็มดี วิริยะ) "สว่าง มั่นคงเจริญ" รวมถึงการกู้เงินจาก "แบงก์กรุงไทย"
๐ "พรีเชียส ชิพปิ้ง" (PSL) ฝากชี้แจงกรณีข่าว "เปิดตัวผู้บริหาร...รวยหุ้นแห่งปี รอบ 9 เดือนรับไป...หลายพันล้านบาท" เมื่อฉบับที่แล้ว ว่าทาง "นิชิต้า" ไม่ได้ดำรงตำแหน่งอยู่ใน "คณะผู้บริหาร" ของ PSL ...แต่เป็นเพียงหนึ่งใน "กรรมการ" ของ PSL เท่านั้น ๐ ส่วนประเด็นการขายหุ้น PSL ของ "นิชิต้า ชาห์" จำนวน 13.5 ล้านหุ้น แท้จริงแล้วเป็นการ "โอนหุ้น" ไปยัง "บ.โกลเบล็ก คอร์ปอเรชั่น" ซึ่งมี "นิชิต้า" เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ (99.99%) เพื่อเปลี่ยนมือจากการถือในนาม "นิชิต้า" เป็นการถือหุ้นผ่านกลุ่มบริษัท ๐ จึงไม่มี "การซื้อขายที่แท้จริง" เกิดขึ้น