คุณลูกอีสานพ้นน้ำแล้วแต่...
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
คุณลูกอีสานพ้นน้ำแล้วแต่...
โพสต์ที่ 2
วันนี้ตอนเช้า ผมซื้อเพิ่มอีกหน่อยครับ
ต้นทุนเฉลี่ยลดลงอีกเล็กน้อย
เหตุผลที่ซื้อเพิ่มเพราะไปอ่าน 56-1 งบการเงิน รอบ 2
อ่านแล้วคิดว่า thl มีความเสี่ยงค่อนข้างน้อยกว่าที่ตลาดคาดคิดครับ
งบดุลค่อนข้างดีเพราะมีเงินสดประมาณ 250 ล้าน มีหนี้เงินกู้แค่ 100 ล้าน
ทั้งที่เพิ่งลงทุนเหมืองทอง คงเป็นผลจากการเพิ่มทุนรอบล่าสุดทำให้มีจำนวนหุ้น 757 ล้านหุ้น นอกจากนั้นยังมีที่ดินโครงการคอนโด ราคาตลาดประมาณ 4-500 ร้อยล้าน
ความสงสัยว่าจะมีทองจริงหรือเปล่า ลองอ่านจาก 56-1 ของบริษัทครับ
กว่าที่ทั้ง 2 ธนาคารจะให้กู้ได้ ผมก็คิดว่าคงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงาน รับรองว่ามีทองอยู่จริงๆ และที่จริงขั้นตอนนี้น่าจะกินเวลาค่อนข้างนาน ไม่นับการสำรวจ การขอสัมปทานบัตร ซึ่งคงใช้เวลาหลายปี
ดังนั้นความเสี่ยงที่ว่ามีทองจริงหรือเปล่า ไม่น่าจะเป็นปัญหา
ส่วนที่ว่าอาจจะโดน sp ยาว คิดดูแล้วก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างต่ำ
เพราะบริษัทมีแผนงานชัดเจน ที่จะทำให้ผลประกอบการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ไม่เลื่อนลอยเหมือนบริษัทในกลุ่มฟื้นฟูตัวอื่นๆ
จากข้อมูลบริษัทประมาณการกำไร 4 ปีแรก ปีละ 380 ล้าน หรือ 0.5 บาทต่อหุ้น แต่ผมขอประมาณแบบอนุรักษ์นิยมที่ 300 ล้านหรือ 0.4 บาทต่อหุ้น ที่ราคาตลาด 1.89 บาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นปี 49 ได้เท่ากับ 4.73 เท่า
ซึ่งเป็นพีอีค่อนข้างต่ำ
ถ้าหุ้นเทรดที่พีอี 6 เท่า ราคาน่าจะเป็น 2.4-2.5 บาท
ก่อนหน้านี้ thl ราคาเคยขึ้นไปที่ 8-9 บาทนะครับ (ก่อนเพิ่มทุน)
เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ จะซื้อจะขาย รับผิดชอบตัวเองนะครับ
ส่วนผม หากเกิดเหตการณ์เลวร้ายที่สุด ผมก็ตัดลงทุนตัวนี้เป็น 0 แค่นั้นเอง
ต้นทุนเฉลี่ยลดลงอีกเล็กน้อย
เหตุผลที่ซื้อเพิ่มเพราะไปอ่าน 56-1 งบการเงิน รอบ 2
อ่านแล้วคิดว่า thl มีความเสี่ยงค่อนข้างน้อยกว่าที่ตลาดคาดคิดครับ
งบดุลค่อนข้างดีเพราะมีเงินสดประมาณ 250 ล้าน มีหนี้เงินกู้แค่ 100 ล้าน
ทั้งที่เพิ่งลงทุนเหมืองทอง คงเป็นผลจากการเพิ่มทุนรอบล่าสุดทำให้มีจำนวนหุ้น 757 ล้านหุ้น นอกจากนั้นยังมีที่ดินโครงการคอนโด ราคาตลาดประมาณ 4-500 ร้อยล้าน
ความสงสัยว่าจะมีทองจริงหรือเปล่า ลองอ่านจาก 56-1 ของบริษัทครับ
ตามเงื่อนไขของสถาบันการเงินที่อนุมัติเงินกู้ให้กับโครงการพัฒนาเหมืองแร่ทองคำของบริษัท เงื่อนไขที่สำคัญ คือ กำหนดให้มีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาด้านเหมืองแร่เข้าทำการประเมินศักยภาพและปริมาณสินแร่ทองคำ ความล่าช้าในการดำเนินการของบริษัทที่เข้าประเมินปริมาณสินแร่ทองคำ ได้ส่งผลต่อระยะเวลาในการอนุมัติเงินกู้ต้องล่าช้าตามไปด้วย บริษัทฯ ได้รับแจ้งผลอนุมัติเงินกู้ให้กับโครงการพัฒนาเหมืองแร่ทองคำของบริษัทจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ในปลายไตรมาสที่ 4 ของปี 2547 ในระหว่างการรออนุมัติเงินกู้จากสถาบันการเงิน บริษัทฯ ได้เริ่มงานก่อสร้างสาธารณูปโภคของโครงการ และปัจจุบันได้มีการดำเนินงานอย่างเต็มกำลังในทุกๆ ด้าน เพื่อที่จะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตให้ได้โดยเร็ว เพื่อรับผลประโยชน์จากราคาทองคำที่อยู่ในระดับที่สูงในปัจจุบัน
เงินทุนสำหรับการก่อสร้างและพัฒนาเหมืองแร่ทองคำในเบื้องต้น ประมาณ 20ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยกำลังการผลิตสินแร่ปีละ 365,000 ตัน โดยใน 4 ปีแรกจะสามารถผลิตทองคำได้เฉลี่ยประมาณปีละ 45,000 ออนซ์ และบริษัทฯ จะมีรายได้ประมาณ 72 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นกำไรประมาณ 38 ล้านเหรียญสหรัฐ ค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินสดในการผลิตทองคำประมาณออนซ์ละ 150 เหรียญสหรัฐ ประมาณเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินการโครงการถึงปัจจุบันประมาณ 11.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
กว่าที่ทั้ง 2 ธนาคารจะให้กู้ได้ ผมก็คิดว่าคงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงาน รับรองว่ามีทองอยู่จริงๆ และที่จริงขั้นตอนนี้น่าจะกินเวลาค่อนข้างนาน ไม่นับการสำรวจ การขอสัมปทานบัตร ซึ่งคงใช้เวลาหลายปี
ดังนั้นความเสี่ยงที่ว่ามีทองจริงหรือเปล่า ไม่น่าจะเป็นปัญหา
ส่วนที่ว่าอาจจะโดน sp ยาว คิดดูแล้วก็มีความเป็นไปได้ค่อนข้างต่ำ
เพราะบริษัทมีแผนงานชัดเจน ที่จะทำให้ผลประกอบการดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ไม่เลื่อนลอยเหมือนบริษัทในกลุ่มฟื้นฟูตัวอื่นๆ
จากข้อมูลบริษัทประมาณการกำไร 4 ปีแรก ปีละ 380 ล้าน หรือ 0.5 บาทต่อหุ้น แต่ผมขอประมาณแบบอนุรักษ์นิยมที่ 300 ล้านหรือ 0.4 บาทต่อหุ้น ที่ราคาตลาด 1.89 บาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นปี 49 ได้เท่ากับ 4.73 เท่า
ซึ่งเป็นพีอีค่อนข้างต่ำ
ถ้าหุ้นเทรดที่พีอี 6 เท่า ราคาน่าจะเป็น 2.4-2.5 บาท
ก่อนหน้านี้ thl ราคาเคยขึ้นไปที่ 8-9 บาทนะครับ (ก่อนเพิ่มทุน)
เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ จะซื้อจะขาย รับผิดชอบตัวเองนะครับ
ส่วนผม หากเกิดเหตการณ์เลวร้ายที่สุด ผมก็ตัดลงทุนตัวนี้เป็น 0 แค่นั้นเอง
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
คุณลูกอีสานพ้นน้ำแล้วแต่...
โพสต์ที่ 5
ผลิตได้ปีล่ะ 45,000 ออนซ์ เทียบแล้วประมาณ 28.4*45,000 = 1,278,000 g หรือ 1,278 กก.เงินทุนสำหรับการก่อสร้างและพัฒนาเหมืองแร่ทองคำในเบื้องต้น ประมาณ 20ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยกำลังการผลิตสินแร่ปีละ 365,000 ตัน โดยใน 4 ปีแรกจะสามารถผลิตทองคำได้เฉลี่ยประมาณปีละ 45,000 ออนซ์ และบริษัทฯ จะมีรายได้ประมาณ 72 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นกำไรประมาณ 38 ล้านเหรียญสหรัฐ ค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินสดในการผลิตทองคำประมาณออนซ์ละ 150 เหรียญสหรัฐ ประมาณเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินการโครงการถึงปัจจุบันประมาณ 11.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทอง 1 บาท 15.2 g ====>>> ได้ 1,278,000/15.2 = 84,078.94 บาท
ราคา 1 บาทในทองตลาดประมาณ 9000 บาท เป็นเงิน 84,078.94*9,000=756,710,460 บาท
ได้เงินจากทองปีละประมาณ 700 กว่าล้านบาท OK เลยถ้าทำได้ตามนี้
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 304
- ผู้ติดตาม: 0
คุณลูกอีสานพ้นน้ำแล้วแต่...
โพสต์ที่ 7
จริงๆแล้วลึกๆผมก็คิดว่าโครงการนี้น่าจะเกิดเลยใส่ไปหมดเม็กซ์เลยที่ 2.50 ตอนมันPANICลงมาที่ 1.65-1.75 เลยไม่มีกระสุนไปซื้ออีก ตอนนี้เลยได้แต่ร้องเพลงรอ คิดแล้วยังเสียดายไม่หายเลย
ยังไงก็ตามถึงวันนี้ผมยังเชื่อว่าไอ้ประกาศฯฉบับนั้นมันมีวาระซ้อนเร้นอยู่(อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว)ต้องมีคนได้ประโยชน์เป็นเงินในจำนวนที่ไม่น้อยเลย
อย่างไรก็ตามผมก็พร้อมที่จะตัดเป็น 0 เหมือนกัน ครับ
และขอไปด้วยคนครับ ถ้ามีการจัด company visit รุ่น"ขุดทอง" อยากเห็นกับตาตัวเองจริงๆ :roll: :roll: :roll:
ยังไงก็ตามถึงวันนี้ผมยังเชื่อว่าไอ้ประกาศฯฉบับนั้นมันมีวาระซ้อนเร้นอยู่(อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัว)ต้องมีคนได้ประโยชน์เป็นเงินในจำนวนที่ไม่น้อยเลย
อย่างไรก็ตามผมก็พร้อมที่จะตัดเป็น 0 เหมือนกัน ครับ
และขอไปด้วยคนครับ ถ้ามีการจัด company visit รุ่น"ขุดทอง" อยากเห็นกับตาตัวเองจริงๆ :roll: :roll: :roll: