แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 1
หลักทรัพย์ MK
หัวข้อข่าว ผลประกอบการไตรมาสที่3/48
วันที่/เวลา 17 พ.ย. 2548 13:09:00
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)
ข่าวผลประกอบการไตรมาส 3 / 2548
มั่นคงเคหะการ เผยยอดขายต่อเนื่อง โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2548
-มั่นใจ ยิ้มรับกำไรเติบโตถึง 102 % จากปีที่ผ่านมา -
มั่นคงเคหะการ แถลงผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2548 ประสบความสำเร็จ
โชว์อัตราการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 3 ที่เติบโต
อย่างต่อเนื่องถึง 53% จาก 74.69 ล้านบาท ของปีที่ผ่านมาเป็น 114.17 ล้านบาท
เมื่อเทียบผลประกอบการงวด 9 เดือน อัตราการเติบโตของกำไรสูงถึง 102 %
จาก 182.36 ล้านบาทมาเป็น 368.83 ล้านบาท รายได้ 9 เดือนปีนี้โตกว่ารายได้
ทั้งปี 47 แล้ว
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)
หนึ่งในบริษัทพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรชั้นแนวหน้าของไทยภายใต้แบรนด์ "ชวนชื่น"
ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายใน
ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2548 ถึง 513.52 ล้านบาท โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ถึง 63 % จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หากเทียบผลประกอบการงวด 9 เดือน
อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายสูงถึง 92% จะเห็นได้ว่ารายได้จากการขาย
สำหรับงวด 9 เดือนในปีนี้ ที่ 1,700.46 ล้านบาท นั้นสูงกว่ารายได้จากการขายของปี 2547
ซึ่งรวมทั้งปีอยู่ที่ 1,643.53 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในไตรมาส 3/2548 นี้ บริษัทฯ ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรได้
ใกล้เคียงกับ 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ดังเห็นได้จากอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น 40.99 % เมื่อเทียบกับ
40.66 % ในไตรมาส 2 และ 40.37 % ในไตรมาส 1 ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ใน ไตรมาส 3/2548 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา คือ 75.74 ล้านบาท
สำหรับงวด 9 เดือนปี 2548 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย
(SG&A to Sales) ลดลงเป็น 15.00% จาก 23.17% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เนื่องจากบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายถึง 92% ในขณะที่ค่าใช้จ่าย
ในการขายและบริหารสูงขึ้น 24%
"เนื่องจากทางบริษัทฯ สามารถทำกำไรและด้วยประสิทธิภาพของการจัดการที่สูงขึ้นนี้
ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 3/2548 มีการเติบโตถึง 53% จาก
74.69 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็น 114.17 ล้านบาท หากเทียบ
ผลประกอบการงวด 9 เดือน อัตราการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานปกติสูงถึง
102% จาก182.36 ล้านบาทมาเป็น 368.83 ล้านบาท เมื่อรวมกำไรรายการพิเศษ
จากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนปี 2548 เท่ากับ
622.71 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) 0.72 บาท (0.43 บาทจากการดำเนินงานปกติ
และ 0.29 บาทจากรายการพิเศษ) นอกจากนี้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio)
ลดลงจาก 0.7 เท่าเมื่อไตรมาสที่ผ่านมา เป็น 0.63 เท่าคือ โดยหนี้สินลดลงจาก 2,796 ล้านบาท
เป็น 2,602 ล้านบาท จากการชำระคืนหนี้ สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้นจาก 4,023 ล้านบาท
เป็น 4,139 ล้านบาท จากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น" ประธานกรรมการบริหาร
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมในข้างท้าย
ผู้มีอำนาจลงนามสารสนเทศ
คุณศิริพร ต่อสุขพรสิริ
ลงวันที่ : 17 พฤศจิกายน 2548
หัวข้อข่าว ผลประกอบการไตรมาสที่3/48
วันที่/เวลา 17 พ.ย. 2548 13:09:00
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)
ข่าวผลประกอบการไตรมาส 3 / 2548
มั่นคงเคหะการ เผยยอดขายต่อเนื่อง โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2548
-มั่นใจ ยิ้มรับกำไรเติบโตถึง 102 % จากปีที่ผ่านมา -
มั่นคงเคหะการ แถลงผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2548 ประสบความสำเร็จ
โชว์อัตราการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 3 ที่เติบโต
อย่างต่อเนื่องถึง 53% จาก 74.69 ล้านบาท ของปีที่ผ่านมาเป็น 114.17 ล้านบาท
เมื่อเทียบผลประกอบการงวด 9 เดือน อัตราการเติบโตของกำไรสูงถึง 102 %
จาก 182.36 ล้านบาทมาเป็น 368.83 ล้านบาท รายได้ 9 เดือนปีนี้โตกว่ารายได้
ทั้งปี 47 แล้ว
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)
หนึ่งในบริษัทพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรชั้นแนวหน้าของไทยภายใต้แบรนด์ "ชวนชื่น"
ที่ดำเนินธุรกิจมากว่า 50 ปี เปิดเผยว่า ทางบริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายใน
ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2548 ถึง 513.52 ล้านบาท โดยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ถึง 63 % จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หากเทียบผลประกอบการงวด 9 เดือน
อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายสูงถึง 92% จะเห็นได้ว่ารายได้จากการขาย
สำหรับงวด 9 เดือนในปีนี้ ที่ 1,700.46 ล้านบาท นั้นสูงกว่ารายได้จากการขายของปี 2547
ซึ่งรวมทั้งปีอยู่ที่ 1,643.53 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในไตรมาส 3/2548 นี้ บริษัทฯ ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรได้
ใกล้เคียงกับ 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ดังเห็นได้จากอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น 40.99 % เมื่อเทียบกับ
40.66 % ในไตรมาส 2 และ 40.37 % ในไตรมาส 1 ส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
ใน ไตรมาส 3/2548 อยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา คือ 75.74 ล้านบาท
สำหรับงวด 9 เดือนปี 2548 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย
(SG&A to Sales) ลดลงเป็น 15.00% จาก 23.17% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เนื่องจากบริษัทฯ มีอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายถึง 92% ในขณะที่ค่าใช้จ่าย
ในการขายและบริหารสูงขึ้น 24%
"เนื่องจากทางบริษัทฯ สามารถทำกำไรและด้วยประสิทธิภาพของการจัดการที่สูงขึ้นนี้
ส่งผลให้กำไรจากการดำเนินงานปกติในไตรมาส 3/2548 มีการเติบโตถึง 53% จาก
74.69 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็น 114.17 ล้านบาท หากเทียบ
ผลประกอบการงวด 9 เดือน อัตราการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานปกติสูงถึง
102% จาก182.36 ล้านบาทมาเป็น 368.83 ล้านบาท เมื่อรวมกำไรรายการพิเศษ
จากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 9 เดือนปี 2548 เท่ากับ
622.71 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น (EPS) 0.72 บาท (0.43 บาทจากการดำเนินงานปกติ
และ 0.29 บาทจากรายการพิเศษ) นอกจากนี้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio)
ลดลงจาก 0.7 เท่าเมื่อไตรมาสที่ผ่านมา เป็น 0.63 เท่าคือ โดยหนี้สินลดลงจาก 2,796 ล้านบาท
เป็น 2,602 ล้านบาท จากการชำระคืนหนี้ สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้นจาก 4,023 ล้านบาท
เป็น 4,139 ล้านบาท จากกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น" ประธานกรรมการบริหาร
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมในข้างท้าย
ผู้มีอำนาจลงนามสารสนเทศ
คุณศิริพร ต่อสุขพรสิริ
ลงวันที่ : 17 พฤศจิกายน 2548
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 2
หลักทรัพย์ MK
หัวข้อข่าว สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่3(F45-3)
วันที่/เวลา 14 พ.ย. 2548 18:24:00
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่3(F45-3)
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2548 2547 2548 2547
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 114,879 75,696 622,712 185,463
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.13 0.09 0.72 0.21
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว"
ลงลายมือชื่อ _______________________
( นางสาวชุติมา ตั้งมติธรรม )
ตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
หัวข้อข่าว สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่3(F45-3)
วันที่/เวลา 14 พ.ย. 2548 18:24:00
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่3(F45-3)
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน (หน่วย : พันบาท)
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2548 2547 2548 2547
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 114,879 75,696 622,712 185,463
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.13 0.09 0.72 0.21
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว"
ลงลายมือชื่อ _______________________
( นางสาวชุติมา ตั้งมติธรรม )
ตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 3
หลักทรัพย์ MK
หัวข้อข่าว ชี้แจงสาเหตุกำไร(ขาดทุน)ที่แตกต่างจากงวดก่อนณ 30/9/48
วันที่/เวลา 14 พ.ย. 2548 18:24:00
ที่ บช. 19/2548
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2548
เรื่อง ชี้แจงสาเหตุกำไร(ขาดทุน) ที่แตกต่างจากงวดก่อน ณ 30 กันยายน 2548
เรียน ผู้อำนวยการฝ่ายบริษัทจดทะเบียน
จากการที่ผลการดำเนินงานงวดวันที่ 30 กันยายน 2548 ของบริษัทฯ มีผลแตก
ต่างเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเกินกว่า 20% มีสาเหตุมาจากการรับรู้รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นจาก
ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจาก 314.31 ล้านบาท เป็น 513.52 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ส่งผลให้บริษัท ฯ มี
อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 133.12 ล้านบาท เป็น 210.48 ล้านบาท และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 75.69
ล้านบาท เป็น 114.88 ล้านบาท
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( นางสาวศิริพร ต่อสุขพรสิริ )
ผู้จัดการฝ่ายบัญชี
หัวข้อข่าว ชี้แจงสาเหตุกำไร(ขาดทุน)ที่แตกต่างจากงวดก่อนณ 30/9/48
วันที่/เวลา 14 พ.ย. 2548 18:24:00
ที่ บช. 19/2548
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2548
เรื่อง ชี้แจงสาเหตุกำไร(ขาดทุน) ที่แตกต่างจากงวดก่อน ณ 30 กันยายน 2548
เรียน ผู้อำนวยการฝ่ายบริษัทจดทะเบียน
จากการที่ผลการดำเนินงานงวดวันที่ 30 กันยายน 2548 ของบริษัทฯ มีผลแตก
ต่างเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเกินกว่า 20% มีสาเหตุมาจากการรับรู้รายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นจาก
ไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจาก 314.31 ล้านบาท เป็น 513.52 ล้านบาท ในไตรมาสนี้ส่งผลให้บริษัท ฯ มี
อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 133.12 ล้านบาท เป็น 210.48 ล้านบาท และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 75.69
ล้านบาท เป็น 114.88 ล้านบาท
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
( นางสาวศิริพร ต่อสุขพรสิริ )
ผู้จัดการฝ่ายบัญชี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 4
เอาข่าวเก่าไปดู กันก่อน นะครับ
มั่นคงเคหะการแถลงผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2548 เติบโตอย่างโดดเด่นสวนกระแสเศรษฐกิจยุค น้ำมันแพง เติบโตอย่างน่าทึ่ง 817% หรือจาก 12.21 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็น 111.96 ล้านบาท ในปีนี้ มั่นใจบ้านในเครือมั่นคงตรงใจลูกค้าทั้งด้านราคาและทำเล ปีที่ผ่านมาหลังเปิด 3 โครงการ ชวนชื่น วัชรพล ชวนชื่น อ่อนนุช และสิรีนเฮ้าส์ บางนา ทำยอดขายได้กว่า 200 ล้านบาท
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2548 ของ บริษัทฯ เติบโตอย่างโดดเด่นตามคาดหมายด้วยกำไรจากการดำเนินงานปกติที่เติบโตถึง 817% คือจาก 12.21 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็น 111.96 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมรายการพิเศษจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วกำไรสุทธิจะสูงถึง 364.42 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 13.27 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ผลประกอบการซึ่งเติบโตอย่างน่าประทับใจนี้เป็นผลมาจากรายได้จากการขายซึ่งเติบโตถึง 431.59 ล้านบาท หรือเทียบเท่า 255 % จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากไตรมาส 1 ของปี 2547 การรับรู้รายได้จากการขายจะค่อนข้างต่ำเพียง168.98 ล้านบาท เนื่องจากมีการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2546 ในขณะที่ไตรมาส 1 ของปี 2548 บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายถึง 600.57 ล้านบาท รายได้ที่สูงขึ้นนี้ส่งผลให้กำไรเบื้องต้นสูงขึ้น 177.83 ล้านบาท นอกจากนี้อัตราส่วนกำไรเบื้องต้นยังสูงขึ้นจาก 38.25 % เป็น 40.37 %
โครงการหลักที่ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดรับรู้รายได้ได้เป็นอย่างดีในไตรมาสนี้ ได้แก่ โครงการชวนชื่นแคราย ชวนชื่นปิ่นเกล้า และชวนชื่นแจ้งวัฒนะ ซึ่งสามารถสร้างยอดรับรู้รายได้รวมกันถึง 386 ล้านบาท จากยอดรับรู้รวมในไตรมาสที่ 1 600.57 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลยอดนิยม และสร้างบนพื้นฐานของความคุ้มค่า คุ้มประโยชน์ใช้สอย ทำให้เรามั่นใจว่า เราจะสามารถบรรลุเป้าการรับรู้รายได้ที่เราตั้งไว้ในปี 2548 2,300 ล้านบาทนั้นได้ตามคาดอย่างแน่นอน เนื่องจากโครงการที่เพิ่งเปิดในปลายปี 2547 จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการชวนชื่นวัชรพล ชวนชื่นอ่อนนุช และสิรีนเฮ้าส์บางนา และยังมีโครงการที่กำลังจะเปิดขายในปลายปี 2548 นี้อีกจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท อันได้แก่ เรสซิเด้นซ์พาร์ค 4 ชวนชื่นรีเจ้นท์ และชวนชื่นพระราม 2 ล้วนแต่ตอบรับความต้องการของลูกค้าในแง่ความคุ้มค่าของราคา ประโยชน์ใช้สอย และความสะดวกในทุกทำเลเช่นกัน นายชวน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสแรกของปี 2547 บริษัทฯ ยังมีการขาดทุนสะสมอยู่จึงยังไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ ซึ่งการขาดทุนสะสมนี้ได้หมดลงในไตรมาส 4 ของปี 2547 ดังนั้น ในไตรมาส 1 ของปี 2548 บริษัทฯ จึงเสียภาษีเงินได้เป็นเงินทั้งสิ้น 36.19 ล้านบาท ส่วนหนี้สินรวมของบริษัทลดลงจาก 3,179.01 ล้านบาท ณ สิ้นปีที่ผ่านมา เหลือ 2,773.84 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะเป็นผลมาจากการชำระหนี้ด้วยกระแสเงินสดจากการดำเนินงานแล้ว บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งลุล่วง จึงส่งผลให้หนี้สินลดลง และสามารถรับรู้กำไรจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดังกล่าวรวมเป็นเงิน 252.46 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) จึงลดลงจาก 0.87 เท่าในไตรมาส 4 ของปี 2547 เป็น 0.69 เท่า ณ ปัจจุบัน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าวสรุป
มั่นคงเคหะการแถลงผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2548 เติบโตอย่างโดดเด่นสวนกระแสเศรษฐกิจยุค น้ำมันแพง เติบโตอย่างน่าทึ่ง 817% หรือจาก 12.21 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็น 111.96 ล้านบาท ในปีนี้ มั่นใจบ้านในเครือมั่นคงตรงใจลูกค้าทั้งด้านราคาและทำเล ปีที่ผ่านมาหลังเปิด 3 โครงการ ชวนชื่น วัชรพล ชวนชื่น อ่อนนุช และสิรีนเฮ้าส์ บางนา ทำยอดขายได้กว่า 200 ล้านบาท
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2548 ของ บริษัทฯ เติบโตอย่างโดดเด่นตามคาดหมายด้วยกำไรจากการดำเนินงานปกติที่เติบโตถึง 817% คือจาก 12.21 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเป็น 111.96 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมรายการพิเศษจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้วกำไรสุทธิจะสูงถึง 364.42 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ 13.27 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา ผลประกอบการซึ่งเติบโตอย่างน่าประทับใจนี้เป็นผลมาจากรายได้จากการขายซึ่งเติบโตถึง 431.59 ล้านบาท หรือเทียบเท่า 255 % จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากไตรมาส 1 ของปี 2547 การรับรู้รายได้จากการขายจะค่อนข้างต่ำเพียง168.98 ล้านบาท เนื่องจากมีการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2546 ในขณะที่ไตรมาส 1 ของปี 2548 บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายถึง 600.57 ล้านบาท รายได้ที่สูงขึ้นนี้ส่งผลให้กำไรเบื้องต้นสูงขึ้น 177.83 ล้านบาท นอกจากนี้อัตราส่วนกำไรเบื้องต้นยังสูงขึ้นจาก 38.25 % เป็น 40.37 %
โครงการหลักที่ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดรับรู้รายได้ได้เป็นอย่างดีในไตรมาสนี้ ได้แก่ โครงการชวนชื่นแคราย ชวนชื่นปิ่นเกล้า และชวนชื่นแจ้งวัฒนะ ซึ่งสามารถสร้างยอดรับรู้รายได้รวมกันถึง 386 ล้านบาท จากยอดรับรู้รวมในไตรมาสที่ 1 600.57 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลยอดนิยม และสร้างบนพื้นฐานของความคุ้มค่า คุ้มประโยชน์ใช้สอย ทำให้เรามั่นใจว่า เราจะสามารถบรรลุเป้าการรับรู้รายได้ที่เราตั้งไว้ในปี 2548 2,300 ล้านบาทนั้นได้ตามคาดอย่างแน่นอน เนื่องจากโครงการที่เพิ่งเปิดในปลายปี 2547 จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการชวนชื่นวัชรพล ชวนชื่นอ่อนนุช และสิรีนเฮ้าส์บางนา และยังมีโครงการที่กำลังจะเปิดขายในปลายปี 2548 นี้อีกจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท อันได้แก่ เรสซิเด้นซ์พาร์ค 4 ชวนชื่นรีเจ้นท์ และชวนชื่นพระราม 2 ล้วนแต่ตอบรับความต้องการของลูกค้าในแง่ความคุ้มค่าของราคา ประโยชน์ใช้สอย และความสะดวกในทุกทำเลเช่นกัน นายชวน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสแรกของปี 2547 บริษัทฯ ยังมีการขาดทุนสะสมอยู่จึงยังไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ ซึ่งการขาดทุนสะสมนี้ได้หมดลงในไตรมาส 4 ของปี 2547 ดังนั้น ในไตรมาส 1 ของปี 2548 บริษัทฯ จึงเสียภาษีเงินได้เป็นเงินทั้งสิ้น 36.19 ล้านบาท ส่วนหนี้สินรวมของบริษัทลดลงจาก 3,179.01 ล้านบาท ณ สิ้นปีที่ผ่านมา เหลือ 2,773.84 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะเป็นผลมาจากการชำระหนี้ด้วยกระแสเงินสดจากการดำเนินงานแล้ว บริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งลุล่วง จึงส่งผลให้หนี้สินลดลง และสามารถรับรู้กำไรจากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดังกล่าวรวมเป็นเงิน 252.46 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) จึงลดลงจาก 0.87 เท่าในไตรมาส 4 ของปี 2547 เป็น 0.69 เท่า ณ ปัจจุบัน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าวสรุป
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 5
Press Releases - 19/7/2548
มั่นคงเคหะการเชิญร่วมออกแบบ สวนชวนชื่น
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของไทยที่ดำเนินกิจการมายาวนานกว่า 48 ปี ภายใต้แบรนด์ ชวนชื่น ขอเชิญผู้ที่สนใจร่วมส่งผลงานเข้าร่วมประกวดในโครงการประกวดออกแบบ สวนชวนชื่น ซึ่งเป็นโครงการประกวดตกแต่งสวนภายในรั้วบ้านไม่จำกัดรูปแบบ สามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีความเป็นไปได้ในการนำมาจัดจริง ภายใต้งบประมาณ 100,000 บาท โดยกำหนดเปิดรับผลงานตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 กันยายน 2548 ประกาศผลในเดือนตุลาคม 2548 และจัดแสดงผลงานในเดือนพฤศจิกายน 2548 โดยจัดแบ่งรายละเอียดรางวัลดังนี้
1. รางวัลชนะเลิศ จำนวน 1 รางวัลๆ ละ 50,000 บาท
2. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 1 รางวัลๆ ละ 30,000 บาท
3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 1 รางวัลๆ ละ 15,000 บาท
4. รางวัลชมเชย จำนวน 5 รางวัลๆ ละ 5,000 บาท
ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถเข้าชมรายละเอียดการประกวดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.mk.co.th/garden_awards.htm หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บมจ.มั่นคงเคหะการ โทรศัพท์ 02-216-6600 ต่อ 117
มั่นคงเคหะการเชิญร่วมออกแบบ สวนชวนชื่น
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของไทยที่ดำเนินกิจการมายาวนานกว่า 48 ปี ภายใต้แบรนด์ ชวนชื่น ขอเชิญผู้ที่สนใจร่วมส่งผลงานเข้าร่วมประกวดในโครงการประกวดออกแบบ สวนชวนชื่น ซึ่งเป็นโครงการประกวดตกแต่งสวนภายในรั้วบ้านไม่จำกัดรูปแบบ สามารถใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ มีความเป็นไปได้ในการนำมาจัดจริง ภายใต้งบประมาณ 100,000 บาท โดยกำหนดเปิดรับผลงานตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 กันยายน 2548 ประกาศผลในเดือนตุลาคม 2548 และจัดแสดงผลงานในเดือนพฤศจิกายน 2548 โดยจัดแบ่งรายละเอียดรางวัลดังนี้
1. รางวัลชนะเลิศ จำนวน 1 รางวัลๆ ละ 50,000 บาท
2. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จำนวน 1 รางวัลๆ ละ 30,000 บาท
3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จำนวน 1 รางวัลๆ ละ 15,000 บาท
4. รางวัลชมเชย จำนวน 5 รางวัลๆ ละ 5,000 บาท
ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถเข้าชมรายละเอียดการประกวดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.mk.co.th/garden_awards.htm หรือติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ บมจ.มั่นคงเคหะการ โทรศัพท์ 02-216-6600 ต่อ 117
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 6
Press Releases - 28/7/2548
มั่นคงเคหะการจัดโปรโมชั่นหนุนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคโอนทันทีไม่มีดาวน์
มั่นคงเคหะการ หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยจัดโปรโมชั่นพิเศษช่วยให้ลูกค้าซื้อบ้านได้สบายขึ้น รับกระแสเศรษฐกิจยุคน้ำมันแพง ยกขบวนบ้านสร้างเสร็จก่อนขายคุณภาพจากทุกทำเลทองมานำเสนอแบบจองทำสัญญาไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์โอนได้ทันที กู้ SCB ดอกเบี้ยปีแรกแค่ 2% แถมฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ตบท้ายด้วยการมอบบัตรกำนัลมูลค่า 100,000 บาท เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน
นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชั้นแนวหน้าของไทยภายใต้แบรนด์ ชวนชื่น เปิดเผยว่า ท่ามกลางกระแสน้ำมันที่มีราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องระวังในเรื่องการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น ดังนั้น มั่นคงเคหะการ ในฐานะผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่ดำเนินกิจการมากว่า 48 ปี พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือให้ผู้ที่อยากจะมีบ้านไม่ต้องรับภาระหนักจนเกินไป จึงได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ 1) ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2) ฟรีค่าจดจำนอง 3)ไม่ต้องดาวน์เพียงแค่จองและทำสัญญาก็สามารถโอนได้ทันที โดยสามารถยื่นกู้ได้เต็มจำนวน 4) สำหรับบ้านสร้างเสร็จก่อนขายในทำเลที่เป็นที่นิยม ประกอบด้วย โครงการชวนชื่นอ่อนนุช, เรสซิเด้นซ์พาร์ค(รามอินทรา กม.8), ชวนชื่นวัชรพลและชวนชื่นกอล์ฟอเวนิว(ปทุมธานี) บริษัทฯ ยังมอบ Gift Voucher มูลค่า 100,000 บาท เพื่อเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พร้อมมอบให้แก่ลูกค้าตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 พฤศจิกายนศกนี้ และพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่โอนฯ ภายในเดือนกันยายนนี้ ทางบริษัทฯได้ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์จัดแคมเปญพิเศษปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ย 2% นานถึง 1 ปี หลังจากนั้นคิด MLR-0.5% ตลอดอายุสัญญา
ทั้งนี้ เกี่ยวกับมุมมองเรื่องตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ของไทยในช่วงครึ่งปีหลังนั้น นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า มั่นคงเคหะการเชื่อมั่นว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังจะไม่กระทบมากนัก เรียกได้ว่ายังคงเติบโต แต่อาจจะไม่รวดเร็วดังเช่นปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยโดยรวมของเศรษฐกิจ แต่ผู้ซื้อบ้านก็ยังคงซื้อบ้านอย่างต่อเนื่อง หากเรามีการเสริมความคล่องตัวให้การซื้อของลูกค้าสะดวกสบายมากขึ้น ก็ไม่น่าจะกระทบในเรื่องการตัดสินใจซื้อแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามองว่าผู้ซื้อที่ตัดสินใจซื้อในช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่ได้เปรียบ เพราะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงขายบ้านในราคาก่อนปรับราคาค่าวัสดุ เพราะเป็นราคาจากต้นทุนเดิม แต่หลังจากนี้อีกไม่นาน เราจะเริ่มเห็นการปรับตัวของราคาขายที่เพิ่มสูงขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของต้นทุนจากราคาน้ำมัน ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่อยากจะบอกไปยังผู้ที่กำลังตัดสินใจจะเลือกซื้อบ้านว่า หากเรามีความพร้อมก็ให้ตัดสินใจในช่วงนี้ เพราะหากรอต่อไปคงต้องซื้อบ้านในราคาที่สูงขึ้นแน่นอน
ต่อประเด็นคำถามเกี่ยวกับภาวะการแข่งขันในปัจจุบันนั้น นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม กล่าวว่า ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ผู้บริโภคคงต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในการเลือกที่อยู่อาศัยในทำเลที่ดี การคมนาคมสะดวก คุณภาพงานก่อสร้างที่ดีในราคาที่สมเหตุผล ซึ่งบริษัทฯเชื่อมั่นว่าสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างลงตัว เพราะโครงการต่างๆ ของมั่นคงเคหะการล้วนตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ขายในราคาที่สมเหตุสมผล ออกแบบได้อย่างลงตัวกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย และยังให้ความสำคัญกับพื้นที่สวนภายในบ้านเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้าของเรา อีกทั้ง การจัดโปรโมชั่นที่ช่วยเสริมการตัดสินใจซื้อในแบบสบายๆ ครั้งนี้ น่าจะเป็นที่ต้องการของผู้ที่กำลังต้องการบ้านได้เป็นอย่างดี
มั่นคงเคหะการจัดโปรโมชั่นหนุนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคโอนทันทีไม่มีดาวน์
มั่นคงเคหะการ หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทยจัดโปรโมชั่นพิเศษช่วยให้ลูกค้าซื้อบ้านได้สบายขึ้น รับกระแสเศรษฐกิจยุคน้ำมันแพง ยกขบวนบ้านสร้างเสร็จก่อนขายคุณภาพจากทุกทำเลทองมานำเสนอแบบจองทำสัญญาไม่ต้องจ่ายเงินดาวน์โอนได้ทันที กู้ SCB ดอกเบี้ยปีแรกแค่ 2% แถมฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ตบท้ายด้วยการมอบบัตรกำนัลมูลค่า 100,000 บาท เพื่อให้ลูกค้าเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้าน
นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชั้นแนวหน้าของไทยภายใต้แบรนด์ ชวนชื่น เปิดเผยว่า ท่ามกลางกระแสน้ำมันที่มีราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องระวังในเรื่องการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น ดังนั้น มั่นคงเคหะการ ในฐานะผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่ดำเนินกิจการมากว่า 48 ปี พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือให้ผู้ที่อยากจะมีบ้านไม่ต้องรับภาระหนักจนเกินไป จึงได้จัดโปรโมชั่นพิเศษ 1) ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2) ฟรีค่าจดจำนอง 3)ไม่ต้องดาวน์เพียงแค่จองและทำสัญญาก็สามารถโอนได้ทันที โดยสามารถยื่นกู้ได้เต็มจำนวน 4) สำหรับบ้านสร้างเสร็จก่อนขายในทำเลที่เป็นที่นิยม ประกอบด้วย โครงการชวนชื่นอ่อนนุช, เรสซิเด้นซ์พาร์ค(รามอินทรา กม.8), ชวนชื่นวัชรพลและชวนชื่นกอล์ฟอเวนิว(ปทุมธานี) บริษัทฯ ยังมอบ Gift Voucher มูลค่า 100,000 บาท เพื่อเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พร้อมมอบให้แก่ลูกค้าตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 พฤศจิกายนศกนี้ และพิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่โอนฯ ภายในเดือนกันยายนนี้ ทางบริษัทฯได้ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์จัดแคมเปญพิเศษปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ย 2% นานถึง 1 ปี หลังจากนั้นคิด MLR-0.5% ตลอดอายุสัญญา
ทั้งนี้ เกี่ยวกับมุมมองเรื่องตลาดรวมอสังหาริมทรัพย์ของไทยในช่วงครึ่งปีหลังนั้น นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า มั่นคงเคหะการเชื่อมั่นว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังจะไม่กระทบมากนัก เรียกได้ว่ายังคงเติบโต แต่อาจจะไม่รวดเร็วดังเช่นปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยโดยรวมของเศรษฐกิจ แต่ผู้ซื้อบ้านก็ยังคงซื้อบ้านอย่างต่อเนื่อง หากเรามีการเสริมความคล่องตัวให้การซื้อของลูกค้าสะดวกสบายมากขึ้น ก็ไม่น่าจะกระทบในเรื่องการตัดสินใจซื้อแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรามองว่าผู้ซื้อที่ตัดสินใจซื้อในช่วงนี้ จะเป็นช่วงที่ได้เปรียบ เพราะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงขายบ้านในราคาก่อนปรับราคาค่าวัสดุ เพราะเป็นราคาจากต้นทุนเดิม แต่หลังจากนี้อีกไม่นาน เราจะเริ่มเห็นการปรับตัวของราคาขายที่เพิ่มสูงขึ้นตามการเพิ่มขึ้นของต้นทุนจากราคาน้ำมัน ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่อยากจะบอกไปยังผู้ที่กำลังตัดสินใจจะเลือกซื้อบ้านว่า หากเรามีความพร้อมก็ให้ตัดสินใจในช่วงนี้ เพราะหากรอต่อไปคงต้องซื้อบ้านในราคาที่สูงขึ้นแน่นอน
ต่อประเด็นคำถามเกี่ยวกับภาวะการแข่งขันในปัจจุบันนั้น นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม กล่าวว่า ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ผู้บริโภคคงต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในการเลือกที่อยู่อาศัยในทำเลที่ดี การคมนาคมสะดวก คุณภาพงานก่อสร้างที่ดีในราคาที่สมเหตุผล ซึ่งบริษัทฯเชื่อมั่นว่าสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างลงตัว เพราะโครงการต่างๆ ของมั่นคงเคหะการล้วนตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ขายในราคาที่สมเหตุสมผล ออกแบบได้อย่างลงตัวกับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย และยังให้ความสำคัญกับพื้นที่สวนภายในบ้านเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้แก่ลูกค้าของเรา อีกทั้ง การจัดโปรโมชั่นที่ช่วยเสริมการตัดสินใจซื้อในแบบสบายๆ ครั้งนี้ น่าจะเป็นที่ต้องการของผู้ที่กำลังต้องการบ้านได้เป็นอย่างดี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 7
Press Releases - 17/8/2548
มั่นคงเคหะการโชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 48 โตขึ้น 50%
มั่นคงเคหะการโชว์ผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2548 ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ด้วยรายได้ที่เติบโตถึง 45% และกำไรที่เติบโตถึง 50% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เหตุจากความสามารถในการทำกำไรและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการอย่างมีศักยภาพ พร้อมเผยโฉมโครงการบ้านคุณภาพบนทำเลทองอีก 3 โครงการในช่วงตุลาคม ศกนี้ รวมมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท พร้อมจัดโปรโมชั่นต่อเนื่องหวังเป็นแรงเสริมดึงกำลังซื้อลูกค้าในช่วงปลายปี มั่นใจปลายปีจะสร้างยอดขายได้ตรงตามเป้าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจดังเช่นปัจจุบัน
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชั้นแนวหน้าของไทยภายใต้แบรนด์ ชวนชื่น เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2548 ของ บริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1 กล่าวคือ บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายถึง 586.37 ล้านบาท เติบโตถึง 45% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หากเทียบผลประกอบการงวด 6 เดือน อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายจะสูงถึง 107% ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้น จากอัตราส่วนกำไรเบื้องต้นที่สูงขึ้นจาก 38.89 % ในไตรมาส 2 ปี 2547 เป็น 40.66 % ณ ปัจจุบัน ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาส 1 (40.37 %) โดยนอกจากความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้นแล้ว บริษัทฯ ยังบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จะเห็นได้จากอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A to Sales) ที่ลดลงเป็น 12.92% จาก 17.82% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งผลจากความสามารถในการทำกำไรและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่สูงขึ้นนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่เติบโตถึง 50% คือจาก 95.46 ล้านบาทในไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมาเป็น 142.71 ล้านบาท หากเทียบผลประกอบการงวด 6 เดือน อัตราการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานปกติจะสูงถึง 137% (จาก 107.67 ล้านบาทเป็น 254.66 ล้านบาท) แม้ว่าในปีที่แล้วบริษัทฯ ยังมีขาดทุนสะสมอยู่จึงยังไม่ต้องเสียภาษีเงินได้และต้องเสียภาษีเงินได้ 26.48 ล้านบาทในไตรมาสนี้ก็ตาม
บริษัทฯ ยังคงรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) ได้ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา คือ 0.7 เท่า โดยมีหนี้สิน 2,796 ล้านบาทใกล้เคียงระดับเดิม สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงเล็กน้อยจาก 4,035 ล้านบาท เป็น 4,023 ล้านบาท แม้บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิ 143.41 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในไตรมาสที่ผ่านมา อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับต่ำนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการบริหารความเสี่ยง ซึ่งบริษัทฯ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจดังเช่นปัจจุบัน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าว
ทั้งนี้ เกี่ยวกับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ของมั่นคงเคหะการในช่วงปลายปี 2548 นั้น นายชวน ตั้งมติธรรม กล่าวเสริมว่า เราวางแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง 2548 ซึ่งประกอบด้วย โครงกาเรสซิเด้นซ์พาร์ค4 มูลค่าโครงการ 230 ล้านบาท, โครงการชวนชื่นรีเจ้นท์ มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท และโครงการชวนชื่นพระราม2 มูลค่าโครงการ 770 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 โครงการมีมูลค่ารวมกว่า 1,600 ล้านบาท โดยมั่นคงเคหะการเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าว จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า เพราะทั้ง 3 โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ประกอบกับบริษัทฯ ได้วางแผนจัดโปรโมชั่นเพื่อเสริมความคล่องตัวในการซื้อของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดได้จัดโปรโมชั่นพิเศษฟรีค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ และไม่ต้องดาวน์เพียงแค่จองและทำสัญญาก็สามารถโอนได้ทันที โดยสามารถยื่นกู้ได้เต็มจำนวน ซึ่งในส่วนของบ้านสร้างเสร็จก่อนขายในทำเลที่เป็นที่นิยม ประกอบด้วย โครงการชวนชื่นอ่อนนุช, ชวนชื่นวัชรพล, เรสซิเด้นซ์พาร์ค(รามอินทรา กม. 8) และชวนชื่นกอล์ฟอเวนิว (ปทุมธานี) บริษัทฯ ได้ยังมอบ Gift Voucher มูลค่า 100,000 บาท เพื่อเลือกซื้อของแต่งบ้านได้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พร้อมมอบให้แก่ลูกค้าตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 พฤศจิกายน ศกนี้
มั่นคงเคหะการโชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 48 โตขึ้น 50%
มั่นคงเคหะการโชว์ผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2548 ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ด้วยรายได้ที่เติบโตถึง 45% และกำไรที่เติบโตถึง 50% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เหตุจากความสามารถในการทำกำไรและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการอย่างมีศักยภาพ พร้อมเผยโฉมโครงการบ้านคุณภาพบนทำเลทองอีก 3 โครงการในช่วงตุลาคม ศกนี้ รวมมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท พร้อมจัดโปรโมชั่นต่อเนื่องหวังเป็นแรงเสริมดึงกำลังซื้อลูกค้าในช่วงปลายปี มั่นใจปลายปีจะสร้างยอดขายได้ตรงตามเป้าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจดังเช่นปัจจุบัน
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชั้นแนวหน้าของไทยภายใต้แบรนด์ ชวนชื่น เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2548 ของ บริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1 กล่าวคือ บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายถึง 586.37 ล้านบาท เติบโตถึง 45% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา หากเทียบผลประกอบการงวด 6 เดือน อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายจะสูงถึง 107% ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังมีความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้น จากอัตราส่วนกำไรเบื้องต้นที่สูงขึ้นจาก 38.89 % ในไตรมาส 2 ปี 2547 เป็น 40.66 % ณ ปัจจุบัน ซึ่งใกล้เคียงกับไตรมาส 1 (40.37 %) โดยนอกจากความสามารถในการทำกำไรที่สูงขึ้นแล้ว บริษัทฯ ยังบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จะเห็นได้จากอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A to Sales) ที่ลดลงเป็น 12.92% จาก 17.82% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งผลจากความสามารถในการทำกำไรและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่สูงขึ้นนี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานปกติที่เติบโตถึง 50% คือจาก 95.46 ล้านบาทในไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมาเป็น 142.71 ล้านบาท หากเทียบผลประกอบการงวด 6 เดือน อัตราการเติบโตของกำไรจากการดำเนินงานปกติจะสูงถึง 137% (จาก 107.67 ล้านบาทเป็น 254.66 ล้านบาท) แม้ว่าในปีที่แล้วบริษัทฯ ยังมีขาดทุนสะสมอยู่จึงยังไม่ต้องเสียภาษีเงินได้และต้องเสียภาษีเงินได้ 26.48 ล้านบาทในไตรมาสนี้ก็ตาม
บริษัทฯ ยังคงรักษาอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) ได้ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา คือ 0.7 เท่า โดยมีหนี้สิน 2,796 ล้านบาทใกล้เคียงระดับเดิม สำหรับส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงเล็กน้อยจาก 4,035 ล้านบาท เป็น 4,023 ล้านบาท แม้บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิ 143.41 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในไตรมาสที่ผ่านมา อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับต่ำนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการบริหารความเสี่ยง ซึ่งบริษัทฯ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจดังเช่นปัจจุบัน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าว
ทั้งนี้ เกี่ยวกับแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ของมั่นคงเคหะการในช่วงปลายปี 2548 นั้น นายชวน ตั้งมติธรรม กล่าวเสริมว่า เราวางแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง 2548 ซึ่งประกอบด้วย โครงกาเรสซิเด้นซ์พาร์ค4 มูลค่าโครงการ 230 ล้านบาท, โครงการชวนชื่นรีเจ้นท์ มูลค่าโครงการ 600 ล้านบาท และโครงการชวนชื่นพระราม2 มูลค่าโครงการ 770 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 3 โครงการมีมูลค่ารวมกว่า 1,600 ล้านบาท โดยมั่นคงเคหะการเชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าว จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า เพราะทั้ง 3 โครงการตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ประกอบกับบริษัทฯ ได้วางแผนจัดโปรโมชั่นเพื่อเสริมความคล่องตัวในการซื้อของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดได้จัดโปรโมชั่นพิเศษฟรีค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ และไม่ต้องดาวน์เพียงแค่จองและทำสัญญาก็สามารถโอนได้ทันที โดยสามารถยื่นกู้ได้เต็มจำนวน ซึ่งในส่วนของบ้านสร้างเสร็จก่อนขายในทำเลที่เป็นที่นิยม ประกอบด้วย โครงการชวนชื่นอ่อนนุช, ชวนชื่นวัชรพล, เรสซิเด้นซ์พาร์ค(รามอินทรา กม. 8) และชวนชื่นกอล์ฟอเวนิว (ปทุมธานี) บริษัทฯ ได้ยังมอบ Gift Voucher มูลค่า 100,000 บาท เพื่อเลือกซื้อของแต่งบ้านได้ตรงตามที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พร้อมมอบให้แก่ลูกค้าตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 พฤศจิกายน ศกนี้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 8
Press Releases - 23/9/2548
มั่นคงเคหะการแนะนำโครงการบ้านคุณภาพใหม่ล่าสุดเรสซิเด้นซ์พาร์ค 4 ชวนชื่นซิตี้
สานต่อความสำเร็จเรสซิเด้นซ์พาร์ค 1-3 อย่างต่อเนื่อง พร้อมชูจุดขาย บ้านสั่งสร้าง เพื่อสนองความต้องการอย่างลงตัว มั่นคงเคหะการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวเรสซิเด้นซ์พาร์ค 4 ชวนชื่นซิตี้ ย่านถนนรามอินทรา ต่อยอดความสำเร็จจากการขายโครงการเรสซิเด้นซ์พาร์ค 1-3 ที่มีจุดขายด้านทำเลที่ตั้งและราคาขายที่ตรงใจลูกค้า พร้อมสร้างความยืดหยุ่นในการสร้างบ้านด้วยการพัฒนาโครงการในรูปแบบ บ้านสั่งสร้าง เพื่อให้ลูกค้าเลือกแบบและเปลี่ยนแปลงต่อเติมบ้านได้ตรงกับความต้องการ โดยกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนกันยายน ศกนี้
นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุดในย่านรามอินทรา กม.8 (ถนนคู้บอน) ซอยสยามธรณี ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว เรสซิเด้นซ์พาร์ค 4 ชวนชื่นซิตี้ มีเนื้อที่โครงการประมาณ 13 ไร่ จำนวน 74 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 54-90 ตารางวา ที่โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งที่สามารถเดินทางเข้า-ออกได้อย่างสะดวกสบายคล่องตัวด้วยถนนตัดผ่านหลายเส้นทาง อาทิ ถนนรามอินทรา นวมินทร์ คู้บอน พระยาสุเรนทร์และถนนวงแหวนรอบนอก อีกทั้งยังมีเส้นทางรถบีอาร์ที โดยเริ่มต้นจากแยกรามอินทรา กม.8 เชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตซึ่งเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้อีกทางเลือกหนึ่ง ทั้งยังพรั่งพร้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน อาทิ โรงพยาบาล สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจทั้งซาฟารีเวิลด์ สวนสยาม สนามกอล์ฟปัญญาและสนามกอล์ฟกองทัพบก โดยกำหนดราคาขายเริ่มต้นเพียง 2.85 ล้านบาท และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนกันยายน ศกนี้
มั่นคงเคหะการยังคงสานต่อนโยบายการพัฒนาโครงการโดยเน้นในเรื่องความคุ้มค่าของราคาควบคู่ไปกับทำเลที่ตั้งที่สะดวกในการเดินทาง ซึ่งจุดขายเหล่านี้ส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อโครงการอย่างต่อเนื่องแม้ในภาวะเศรษฐกิจดังเช่นปัจจุบัน ทั้งนี้ โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์เรสซิเด้นซ์พาร์คของเรา ถือเป็นหนึ่งในโครงการระดับแนวหน้าที่สามารถสร้างยอดขายได้ตรงตามเป้าที่กำหนด บริษัทฯ จึงพัฒนาโครงการในส่วนต่อเนื่องเป็นเฟสที่ 4 ภายใต้ชื่อ เรสซิเด้นซ์พาร์ค 4 ชวนชื่นซิตี้ เพื่อเสนอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกคุณภาพแก่ผู้ที่กำลังหาซื้อบ้านเดี่ยวที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ด้วยรูปแบบของ บ้านสั่งสร้าง เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเลือกแบบบ้านและทำเลที่ตั้งแปลงได้ตรงความต้องการ อีกทั้งยังมีบริการเปลี่ยนแปลงต่อเติมแบบบ้านให้เหมาะสมกับความต้องการ จากแบบบ้านที่มีให้เลือกหลายแบบ หลายสไตล์ เช่น แบบธาริณี, แบบกุสุมาและแบบมัลลิกา ซึ่งเป็นแบบบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงเปิดตัวโครงการเรสซิเด้นซ์พาร์ค 4 ชวนชื่นซิตี้ มั่นคงเคหะการได้จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายโดยมอบส่วนลด50,000 บาท ต่อยูนิตสำหรับที่ดินเปล่า และสำหรับบ้านสั่งสร้างรับทันทีเครื่องปรับอากาศขนาด 18000 BTU มูลค่า 30,000 บาท ถังน้ำและปั๊มน้ำมูลค่า 15,000 บาท และ Wall Paper คุณภาพทั้งหลังฟรี ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ 0-2789-3020 กด 05
มั่นคงเคหะการแนะนำโครงการบ้านคุณภาพใหม่ล่าสุดเรสซิเด้นซ์พาร์ค 4 ชวนชื่นซิตี้
สานต่อความสำเร็จเรสซิเด้นซ์พาร์ค 1-3 อย่างต่อเนื่อง พร้อมชูจุดขาย บ้านสั่งสร้าง เพื่อสนองความต้องการอย่างลงตัว มั่นคงเคหะการเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวเรสซิเด้นซ์พาร์ค 4 ชวนชื่นซิตี้ ย่านถนนรามอินทรา ต่อยอดความสำเร็จจากการขายโครงการเรสซิเด้นซ์พาร์ค 1-3 ที่มีจุดขายด้านทำเลที่ตั้งและราคาขายที่ตรงใจลูกค้า พร้อมสร้างความยืดหยุ่นในการสร้างบ้านด้วยการพัฒนาโครงการในรูปแบบ บ้านสั่งสร้าง เพื่อให้ลูกค้าเลือกแบบและเปลี่ยนแปลงต่อเติมบ้านได้ตรงกับความต้องการ โดยกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนกันยายน ศกนี้
นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ทำการเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุดในย่านรามอินทรา กม.8 (ถนนคู้บอน) ซอยสยามธรณี ซึ่งเป็นโครงการบ้านเดี่ยว เรสซิเด้นซ์พาร์ค 4 ชวนชื่นซิตี้ มีเนื้อที่โครงการประมาณ 13 ไร่ จำนวน 74 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 54-90 ตารางวา ที่โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งที่สามารถเดินทางเข้า-ออกได้อย่างสะดวกสบายคล่องตัวด้วยถนนตัดผ่านหลายเส้นทาง อาทิ ถนนรามอินทรา นวมินทร์ คู้บอน พระยาสุเรนทร์และถนนวงแหวนรอบนอก อีกทั้งยังมีเส้นทางรถบีอาร์ที โดยเริ่มต้นจากแยกรามอินทรา กม.8 เชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตซึ่งเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางให้อีกทางเลือกหนึ่ง ทั้งยังพรั่งพร้อมด้วยแหล่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน อาทิ โรงพยาบาล สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า ตลาดสด และแหล่งพักผ่อนหย่อนใจทั้งซาฟารีเวิลด์ สวนสยาม สนามกอล์ฟปัญญาและสนามกอล์ฟกองทัพบก โดยกำหนดราคาขายเริ่มต้นเพียง 2.85 ล้านบาท และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายเดือนกันยายน ศกนี้
มั่นคงเคหะการยังคงสานต่อนโยบายการพัฒนาโครงการโดยเน้นในเรื่องความคุ้มค่าของราคาควบคู่ไปกับทำเลที่ตั้งที่สะดวกในการเดินทาง ซึ่งจุดขายเหล่านี้ส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อโครงการอย่างต่อเนื่องแม้ในภาวะเศรษฐกิจดังเช่นปัจจุบัน ทั้งนี้ โครงการบ้านเดี่ยวแบรนด์เรสซิเด้นซ์พาร์คของเรา ถือเป็นหนึ่งในโครงการระดับแนวหน้าที่สามารถสร้างยอดขายได้ตรงตามเป้าที่กำหนด บริษัทฯ จึงพัฒนาโครงการในส่วนต่อเนื่องเป็นเฟสที่ 4 ภายใต้ชื่อ เรสซิเด้นซ์พาร์ค 4 ชวนชื่นซิตี้ เพื่อเสนอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกคุณภาพแก่ผู้ที่กำลังหาซื้อบ้านเดี่ยวที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ด้วยรูปแบบของ บ้านสั่งสร้าง เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเลือกแบบบ้านและทำเลที่ตั้งแปลงได้ตรงความต้องการ อีกทั้งยังมีบริการเปลี่ยนแปลงต่อเติมแบบบ้านให้เหมาะสมกับความต้องการ จากแบบบ้านที่มีให้เลือกหลายแบบ หลายสไตล์ เช่น แบบธาริณี, แบบกุสุมาและแบบมัลลิกา ซึ่งเป็นแบบบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงเปิดตัวโครงการเรสซิเด้นซ์พาร์ค 4 ชวนชื่นซิตี้ มั่นคงเคหะการได้จัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายโดยมอบส่วนลด50,000 บาท ต่อยูนิตสำหรับที่ดินเปล่า และสำหรับบ้านสั่งสร้างรับทันทีเครื่องปรับอากาศขนาด 18000 BTU มูลค่า 30,000 บาท ถังน้ำและปั๊มน้ำมูลค่า 15,000 บาท และ Wall Paper คุณภาพทั้งหลังฟรี ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ 0-2789-3020 กด 05
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 9
Press Releases - 18/10/2548
มั่นคงเคหะการเปิดตัวแบบบ้านโมเดิร์นไทยสไตล์ 4 แบบ เพื่อเพิ่มทางเลือกแก่ลูกค้า
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของไทย หลังรับสัญญาณตอบรับแบบฉุดไม่อยู่จากกลุ่มลูกค้าที่เชื่อมั่นในแบรนด์ ชวนชื่น ขอแนะนำแบบบ้านใหม่สไตล์โมเดิร์นไทยสไตล์ 4 แบบ สำหรับโครงการชวนชื่นพระราม2 โครงการบ้านเดี่ยวคุณภาพ ขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป ในย่านถนนพระราม2 ซึ่งกำหนดจะเปิดขายในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
จากนโยบายในการพัฒนาแบบบ้านออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยึดถือแนวทางการออกแบบที่เน้นในเรื่องความเหมาะสมกับสภาพอากาศของเมืองไทย และเน้นที่ประโยชน์ใช้สอย การจัดแต่ละส่วนของบ้านอย่างลงตัวเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุขสูงสุดในทุกมุม
ทั้งนี้ แบบบ้านใหม่ทั้ง 4 แบบ ประกอบด้วย
- แบบบ้าน กัลปพฤกษ์
บ้านขนาด 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 188 ตารางเมตร ที่ตกแต่งผนังด้านนอกด้วยลูกกรงไม้ ผนังไม้ ประดับด้วยกระเบื้องดินเผาและเสากลม ภายในประกอบด้วยห้องรับแขกที่เชื่อมกับเฉลียงห้องพักผ่อนภายนอก ทั้งนี้เพื่อตอบสนองกิจกรรมสันทนาการในครอบครัว มีครัวไทยที่แยกเป็นสัดส่วนด้านหลัง ห้องนอนใหญ่ พร้อมมุมพักผ่อนและ WALK-IN CLOSET ห้องน้ำขนาดใหญ่พรั่งพร้อมด้วยอ่างอาบน้ำและ SHOWER แยกส่วนเปียกแห้ง มีระเบียงชมวิวขนาดใหญ่ ส่วนห้องนอนเล็กพร้อมระเบียงสำหรับชมวิว
- แบบบ้าน ชมพฤกษ์
บ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 188 ตารางเมตร ภายนอกประดับด้วยผนังไม้ เสากลมมุก ทางเข้าประดับด้วยกระเบื้องดินเผาและบัวปูนปั้น ภายในประกอบด้วยห้องรับแขกขนาดกว้าง 3.5x7.4 เมตร ตกแต่งเป็นพิเศษด้วย Bay Window หน้าต่างทรงสูง ห้องอาหารเปิดออกสู่ธรรมชาติภายนอกเฉลียง พร้อมครัวไทยด้านหลัง ห้องนอนใหญ่พร้อมมุมพักผ่อนและ Walk in Closet ห้องน้ำขนาดใหญ่ พรั่งพร้อมด้วยอ่างอาบน้ำและ Shower แยกส่วนเปียกแห้ง มีระเบียงชมวิว พร้อมที่วางแอร์เป็นสัดส่วน
- แบบบ้าน ชัยพฤกษ์
แบบบ้านสไตล์ไทยประยุกต์เพื่อวิถีชีวิตสมัยใหม่ บ้านขนาด 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 209 ตารางเมตร ภายนอกตกแต่งผนังไม้ ลูกกรงไม้ และกระเบื้องดินเผา ห้องรับแขกโปร่งด้วย Bay Window หน้าต่างทรงสูง ส่วนห้องอาหารเปิดออกสู่เฉลียงด้านข้างให้ใกล้ชิดธรรมชาติ ต่อเนื่องกับส่วนเตรียมอาหาร ครัวไทยแยกเป็นสัดส่วนด้านหลัง พิเศษเพิ่มห้องน้ำชั้นล่างและพื้นที่สำหรับจัดสวน พร้อมห้องคนรับใช้และห้องน้ำในตัว ห้องนอนใหญ่พร้อม Walk in Closet ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีทั้งอ่างอาบน้ำและ SHOWER และระเบียงชมวิว
- แบบบ้าน ราชพฤกษ์
บ้านขนาด 2 ชั้น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 250 ตารางเมตร ภายนอกตกแต่งด้วยเสากลม กระเบื้องดินเผา ผนังไม้และลูกกรงไม้ พิเศษมุมเฉลียงด้านข้างขนาดใหญ่พิเศษ ภายในประกอบด้วยส่วนรับแขกและห้องพักผ่อนภายในเปิดออกสู่เฉลียงภายนอกที่เชื่อมถึงกัน ส่วนเตรียมอาหารต่อเนื่องกับครัวไทยซึ่งกั้นสัดส่วนชัดเจน ห้องอาหารสัมผัสบรรยากาศแสงแดดยามเช้าด้วยหน้าต่าง SKY LIGHT พร้อมห้องคนใช้และห้องน้ำในตัว เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยถึง 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ
โดยทุกแบบบ้านได้ออกแบบให้มีเฉลียงชมสวนขนาดใหญ่ด้านข้าง เพื่อสัมผัสธรรมชาติภายนอกแบบรอบทิศกับพื้นที่บริเวณบ้านมากยิ่งขึ้น
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2789-3020
มั่นคงเคหะการเปิดตัวแบบบ้านโมเดิร์นไทยสไตล์ 4 แบบ เพื่อเพิ่มทางเลือกแก่ลูกค้า
บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของไทย หลังรับสัญญาณตอบรับแบบฉุดไม่อยู่จากกลุ่มลูกค้าที่เชื่อมั่นในแบรนด์ ชวนชื่น ขอแนะนำแบบบ้านใหม่สไตล์โมเดิร์นไทยสไตล์ 4 แบบ สำหรับโครงการชวนชื่นพระราม2 โครงการบ้านเดี่ยวคุณภาพ ขนาด 100 ตารางวาขึ้นไป ในย่านถนนพระราม2 ซึ่งกำหนดจะเปิดขายในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้
จากนโยบายในการพัฒนาแบบบ้านออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ยึดถือแนวทางการออกแบบที่เน้นในเรื่องความเหมาะสมกับสภาพอากาศของเมืองไทย และเน้นที่ประโยชน์ใช้สอย การจัดแต่ละส่วนของบ้านอย่างลงตัวเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุขสูงสุดในทุกมุม
ทั้งนี้ แบบบ้านใหม่ทั้ง 4 แบบ ประกอบด้วย
- แบบบ้าน กัลปพฤกษ์
บ้านขนาด 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 188 ตารางเมตร ที่ตกแต่งผนังด้านนอกด้วยลูกกรงไม้ ผนังไม้ ประดับด้วยกระเบื้องดินเผาและเสากลม ภายในประกอบด้วยห้องรับแขกที่เชื่อมกับเฉลียงห้องพักผ่อนภายนอก ทั้งนี้เพื่อตอบสนองกิจกรรมสันทนาการในครอบครัว มีครัวไทยที่แยกเป็นสัดส่วนด้านหลัง ห้องนอนใหญ่ พร้อมมุมพักผ่อนและ WALK-IN CLOSET ห้องน้ำขนาดใหญ่พรั่งพร้อมด้วยอ่างอาบน้ำและ SHOWER แยกส่วนเปียกแห้ง มีระเบียงชมวิวขนาดใหญ่ ส่วนห้องนอนเล็กพร้อมระเบียงสำหรับชมวิว
- แบบบ้าน ชมพฤกษ์
บ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 188 ตารางเมตร ภายนอกประดับด้วยผนังไม้ เสากลมมุก ทางเข้าประดับด้วยกระเบื้องดินเผาและบัวปูนปั้น ภายในประกอบด้วยห้องรับแขกขนาดกว้าง 3.5x7.4 เมตร ตกแต่งเป็นพิเศษด้วย Bay Window หน้าต่างทรงสูง ห้องอาหารเปิดออกสู่ธรรมชาติภายนอกเฉลียง พร้อมครัวไทยด้านหลัง ห้องนอนใหญ่พร้อมมุมพักผ่อนและ Walk in Closet ห้องน้ำขนาดใหญ่ พรั่งพร้อมด้วยอ่างอาบน้ำและ Shower แยกส่วนเปียกแห้ง มีระเบียงชมวิว พร้อมที่วางแอร์เป็นสัดส่วน
- แบบบ้าน ชัยพฤกษ์
แบบบ้านสไตล์ไทยประยุกต์เพื่อวิถีชีวิตสมัยใหม่ บ้านขนาด 2 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 209 ตารางเมตร ภายนอกตกแต่งผนังไม้ ลูกกรงไม้ และกระเบื้องดินเผา ห้องรับแขกโปร่งด้วย Bay Window หน้าต่างทรงสูง ส่วนห้องอาหารเปิดออกสู่เฉลียงด้านข้างให้ใกล้ชิดธรรมชาติ ต่อเนื่องกับส่วนเตรียมอาหาร ครัวไทยแยกเป็นสัดส่วนด้านหลัง พิเศษเพิ่มห้องน้ำชั้นล่างและพื้นที่สำหรับจัดสวน พร้อมห้องคนรับใช้และห้องน้ำในตัว ห้องนอนใหญ่พร้อม Walk in Closet ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีทั้งอ่างอาบน้ำและ SHOWER และระเบียงชมวิว
- แบบบ้าน ราชพฤกษ์
บ้านขนาด 2 ชั้น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 250 ตารางเมตร ภายนอกตกแต่งด้วยเสากลม กระเบื้องดินเผา ผนังไม้และลูกกรงไม้ พิเศษมุมเฉลียงด้านข้างขนาดใหญ่พิเศษ ภายในประกอบด้วยส่วนรับแขกและห้องพักผ่อนภายในเปิดออกสู่เฉลียงภายนอกที่เชื่อมถึงกัน ส่วนเตรียมอาหารต่อเนื่องกับครัวไทยซึ่งกั้นสัดส่วนชัดเจน ห้องอาหารสัมผัสบรรยากาศแสงแดดยามเช้าด้วยหน้าต่าง SKY LIGHT พร้อมห้องคนใช้และห้องน้ำในตัว เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยถึง 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ
โดยทุกแบบบ้านได้ออกแบบให้มีเฉลียงชมสวนขนาดใหญ่ด้านข้าง เพื่อสัมผัสธรรมชาติภายนอกแบบรอบทิศกับพื้นที่บริเวณบ้านมากยิ่งขึ้น
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายการตลาด บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2789-3020
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 10
มั่นคงเคหะการมอบทุนหนุนจดทะเบียนนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร เพื่อพัฒนาภาพรวม จ.นนทบุรี สู่การเป็นเมืองที
Thursday, 08 September 2005
กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--โฟร์ดี คอมมิวนิเคชั่น
เพราะว่าอยู่ในวงการอสังหาฯ มานาน เลยเห็นพัฒนาการของวงการมาหลายสมัย ล่าสุดมั่นคงเคหะการของ ชวน ตั้งมติธรรม เลยร่วมมอบทุนสนับสนุน จ. นนทบุรี ในการผลักดันให้ผู้ซื้อรวมตัวกันจดทะเบียนนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร เพื่อความเป็นเมืองน่าอยู่อาศัยภายใต้คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีตามแผนวิสัยทัศน์ของจังหวัดในโครงการ นนทบุรีที่อยู่อาศัยชั้นดีของคนทุกระดับ พร้อมสรรพภาพบริการที่ได้มาตรฐาน
มั่นคงเคหะการมั่นใจตลาดบ้านยังสดใส จัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช
Tuesday, 08 November 2005
กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
มั่นคงเคหะการมั่นใจตลาดบ้านยังสดใส จัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช หวังเพิ่มยอดขายปลายปีรับนโยบายบูมสุวรรณภูมิของรัฐอย่างต่อเนื่อง
-จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย พร้อมจัดกิจกรรมประกวดสวนและแจกคู่มือจัดสวน-
มั่นคงเคหะการเปิดตัวโครงการชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช รับกระแสรัฐเร่งบูมสุวรรณภูมิเต็มพิกัด เผยยอดขายช่วงแรกทะลุเป้า เสริมด้วยอานิสงค์แรงซื้อกระหน่ำจากงานมหกรรมบ้านและคอนโดเร่งหนีดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับขึ้น ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจัดกิจกรรมประกวดสวนชวนชื่น เพื่อสนับสนุนวงการภูมิสถาปัตย์ไทย และเปิดตัวหนังสือคู่มือการจัดสวน Urban Garden เพื่อแจกแก่ผู้เข้าชมโครงการของบริษัทฯ ในทุกทำเลเป็นเวลา 1 ปี หวังชูจุดขายหลักการเป็นโครงการที่เน้นในเรื่องสวนส่วนกลางที่ร่มรื่น สนามเด็กเล่นทึ่ครบครัน พร้อมสระว่ายน้ำฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการเป็นชุมชนสมบูรณ์แบบในทำเลสุวรรณภูมิ
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของไทย ภายใต้แบรนด์ ชวนชื่น เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวโครงการล่าสุดที่ตั้งอยู่ในทำเลสุวรรณภูมิ มูลค่าโครงการ1,050 ล้านบาท บนพื้นที่ 54 ไร่ รวม 247 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 50-75 ตารางวา ด้วยราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นทำเลที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงสุดอยู่ในปัจจุบัน เป็นผลมาจากการเร่งพัฒนาทำเลดังกล่าวให้กลายเป็นเมืองหลักทางธุรกิจแห่งใหม่ของประเทศ จึงทำให้โครงการบ้านจัดสรรในพื้นที่ใกล้เคียงมีกำลังซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สังเกตจากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มียอดขายแล้วถึง 20% และในช่วงจังหวะที่กำลังซื้อมีเข้ามาแบบเกินคาด บริษัทฯ จึงได้วางแผนการตลาดและการขายเพื่อสนับสนุนการซื้อโดยการจัดโปรโมชั่นแถมฟรีเครื่องปรับอากาศ 18,000 BTU 1 เครื่อง และ 13,000 BTU 1 เครื่อง, บัตรของขวัญในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มูลค่า 100,000 บาท, ถังเก็บน้ำใต้ดิน 1,600 ลิตร, ปั๊มน้ำ, วอลเปเปอร์ พร้อมจัดสวนฟรีสำหรับบ้านสร้างก่อนขาย โดยจะจัดโปรโมชั่นดังกล่าวจนถึงเดือนธันวาคม ศกนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการจัดการประกวดออกแบบสวนในชื่อ สวนชวนชื่น ที่มุ่งเน้นพัฒนาทักษะของวงการภูมิสถาปัตย์ของไทย โดยได้นำผลงานออกแบบสวนของผู้ที่ชนะเลิศและรองทั้ง 2 อันดับ มาจัดในพื้นที่บ้านสร้างเสร็จก่อนขายของโครงการอย่างสวยงาม พร้อมทั้งจัดทำคู่มือการตกแต่งสวน Urban Garden ขึ้นเพื่อสนองนโยบายหลักของมั่นคงเคหะการ ที่เน้นในเรื่องการสร้างสรรค์บ้านเพื่อเป็นพื้นฐานคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และจะทำการแจกแก่ผู้ที่เข้าชมโครงการชวนชื่นเป็นระยะเวลา 1 ปี หรือจนกว่าคู่มือจะหมด โดยโครงการชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช ถือเป็นโครงการที่โดดเด่นเรื่องระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางที่พรั่งพร้อมไปทั้งสระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ สนามเด็กเล่นพร้อมเครื่องเล่นมากมาย ท่ามกลางสวนส่วนกลางที่สวยงาม ซึ่งปัจจุบันได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ที่ตัดสินใจซื้อ ณ วันนี้ สามารถใช้ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ได้ทันที
เกี่ยวกับมุมมองต่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเขตสุวรรณภูมิ นายชวน ตั้งมติธรรม ได้แสดงความคิดเห็นว่า ในปี 2548 ถือเป็นปีทองของโครงการบ้านจัดสรรในเขตสุวรรณภูมิ ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลในการเร่งพัฒนาสุวรรณภูมิให้เป็นเขตธุรกิจแห่งใหม่ของประเทศ ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้ที่ต้องเกี่ยวข้องกับวงการธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้ยอดขายบ้านโดยรวมในเขตดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 เดือนสุดท้ายนี้ เพราะนอกจากปัจจัยเสริมด้านทำเลแล้ว ปัจจัยลบด้านดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลับเป็นตัวเร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้าให้ทำการซื้อภายในปีนี้ และในปีหน้าเชื่อว่าการแข่งขันในทำเลดังกล่าว จะยิ่งทวีความรุนแรง ซึ่งบริษัทฯ ได้เตรียมวางแผนการตลาดไว้อย่างดี ประกอบกับความโดดเด่นเรื่องราคาและคุณภาพของบ้านชวนชื่น ย่อมสามารถแข่งขันได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ โครงการชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช เป็นโครงการบ้านเดี่ยวคุณภาพมูลค่ากว่า 1,050 ล้านบาท บนพื้นที่ 54ไร่ รวม 247 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 50-75 ตารางวา ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 3.5 ล้านบาท ครบครับด้วยระบบสาธารณูปโภค อาทิ สระว่ายน้ำฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ สวนส่วนกลางที่ร่มรื่นด้วยไม้นานาพันธุ์ และสนามเด็กเล่นที่ครบครันด้วยเครื่องเล่นหลากหลาย โดดเด่นด้วยทำเลใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิศูนย์กลางคมนาคมแห่งใหม่ของไทย สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ติดถนนวงแหวนรอบนอกและติดถนนสุขาภิบาล 2 มีแบบบ้านให้เลือกรวม 15 แบบ ในสไตล์ Modern Thai Contemporary ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-789-3020
Thursday, 08 September 2005
กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--โฟร์ดี คอมมิวนิเคชั่น
เพราะว่าอยู่ในวงการอสังหาฯ มานาน เลยเห็นพัฒนาการของวงการมาหลายสมัย ล่าสุดมั่นคงเคหะการของ ชวน ตั้งมติธรรม เลยร่วมมอบทุนสนับสนุน จ. นนทบุรี ในการผลักดันให้ผู้ซื้อรวมตัวกันจดทะเบียนนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร เพื่อความเป็นเมืองน่าอยู่อาศัยภายใต้คุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีตามแผนวิสัยทัศน์ของจังหวัดในโครงการ นนทบุรีที่อยู่อาศัยชั้นดีของคนทุกระดับ พร้อมสรรพภาพบริการที่ได้มาตรฐาน
มั่นคงเคหะการมั่นใจตลาดบ้านยังสดใส จัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช
Tuesday, 08 November 2005
กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
มั่นคงเคหะการมั่นใจตลาดบ้านยังสดใส จัดกิจกรรมเปิดตัวโครงการชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช หวังเพิ่มยอดขายปลายปีรับนโยบายบูมสุวรรณภูมิของรัฐอย่างต่อเนื่อง
-จัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย พร้อมจัดกิจกรรมประกวดสวนและแจกคู่มือจัดสวน-
มั่นคงเคหะการเปิดตัวโครงการชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช รับกระแสรัฐเร่งบูมสุวรรณภูมิเต็มพิกัด เผยยอดขายช่วงแรกทะลุเป้า เสริมด้วยอานิสงค์แรงซื้อกระหน่ำจากงานมหกรรมบ้านและคอนโดเร่งหนีดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับขึ้น ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจัดกิจกรรมประกวดสวนชวนชื่น เพื่อสนับสนุนวงการภูมิสถาปัตย์ไทย และเปิดตัวหนังสือคู่มือการจัดสวน Urban Garden เพื่อแจกแก่ผู้เข้าชมโครงการของบริษัทฯ ในทุกทำเลเป็นเวลา 1 ปี หวังชูจุดขายหลักการเป็นโครงการที่เน้นในเรื่องสวนส่วนกลางที่ร่มรื่น สนามเด็กเล่นทึ่ครบครัน พร้อมสระว่ายน้ำฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการเป็นชุมชนสมบูรณ์แบบในทำเลสุวรรณภูมิ
นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของไทย ภายใต้แบรนด์ ชวนชื่น เปิดเผยว่า ภายหลังจากบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวโครงการล่าสุดที่ตั้งอยู่ในทำเลสุวรรณภูมิ มูลค่าโครงการ1,050 ล้านบาท บนพื้นที่ 54 ไร่ รวม 247 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 50-75 ตารางวา ด้วยราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นทำเลที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงสุดอยู่ในปัจจุบัน เป็นผลมาจากการเร่งพัฒนาทำเลดังกล่าวให้กลายเป็นเมืองหลักทางธุรกิจแห่งใหม่ของประเทศ จึงทำให้โครงการบ้านจัดสรรในพื้นที่ใกล้เคียงมีกำลังซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สังเกตจากยอดขายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ มียอดขายแล้วถึง 20% และในช่วงจังหวะที่กำลังซื้อมีเข้ามาแบบเกินคาด บริษัทฯ จึงได้วางแผนการตลาดและการขายเพื่อสนับสนุนการซื้อโดยการจัดโปรโมชั่นแถมฟรีเครื่องปรับอากาศ 18,000 BTU 1 เครื่อง และ 13,000 BTU 1 เครื่อง, บัตรของขวัญในการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์มูลค่า 100,000 บาท, ถังเก็บน้ำใต้ดิน 1,600 ลิตร, ปั๊มน้ำ, วอลเปเปอร์ พร้อมจัดสวนฟรีสำหรับบ้านสร้างก่อนขาย โดยจะจัดโปรโมชั่นดังกล่าวจนถึงเดือนธันวาคม ศกนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการจัดการประกวดออกแบบสวนในชื่อ สวนชวนชื่น ที่มุ่งเน้นพัฒนาทักษะของวงการภูมิสถาปัตย์ของไทย โดยได้นำผลงานออกแบบสวนของผู้ที่ชนะเลิศและรองทั้ง 2 อันดับ มาจัดในพื้นที่บ้านสร้างเสร็จก่อนขายของโครงการอย่างสวยงาม พร้อมทั้งจัดทำคู่มือการตกแต่งสวน Urban Garden ขึ้นเพื่อสนองนโยบายหลักของมั่นคงเคหะการ ที่เน้นในเรื่องการสร้างสรรค์บ้านเพื่อเป็นพื้นฐานคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น และจะทำการแจกแก่ผู้ที่เข้าชมโครงการชวนชื่นเป็นระยะเวลา 1 ปี หรือจนกว่าคู่มือจะหมด โดยโครงการชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช ถือเป็นโครงการที่โดดเด่นเรื่องระบบสาธารณูปโภคส่วนกลางที่พรั่งพร้อมไปทั้งสระว่ายน้ำแบบฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ สนามเด็กเล่นพร้อมเครื่องเล่นมากมาย ท่ามกลางสวนส่วนกลางที่สวยงาม ซึ่งปัจจุบันได้สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ที่ตัดสินใจซื้อ ณ วันนี้ สามารถใช้ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ได้ทันที
เกี่ยวกับมุมมองต่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในเขตสุวรรณภูมิ นายชวน ตั้งมติธรรม ได้แสดงความคิดเห็นว่า ในปี 2548 ถือเป็นปีทองของโครงการบ้านจัดสรรในเขตสุวรรณภูมิ ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากรัฐบาลในการเร่งพัฒนาสุวรรณภูมิให้เป็นเขตธุรกิจแห่งใหม่ของประเทศ ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้ที่ต้องเกี่ยวข้องกับวงการธุรกิจดังกล่าว ส่งผลให้ยอดขายบ้านโดยรวมในเขตดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2 เดือนสุดท้ายนี้ เพราะนอกจากปัจจัยเสริมด้านทำเลแล้ว ปัจจัยลบด้านดอกเบี้ยเงินกู้ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลับเป็นตัวเร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้าให้ทำการซื้อภายในปีนี้ และในปีหน้าเชื่อว่าการแข่งขันในทำเลดังกล่าว จะยิ่งทวีความรุนแรง ซึ่งบริษัทฯ ได้เตรียมวางแผนการตลาดไว้อย่างดี ประกอบกับความโดดเด่นเรื่องราคาและคุณภาพของบ้านชวนชื่น ย่อมสามารถแข่งขันได้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ โครงการชวนชื่น วงแหวน-อ่อนนุช เป็นโครงการบ้านเดี่ยวคุณภาพมูลค่ากว่า 1,050 ล้านบาท บนพื้นที่ 54ไร่ รวม 247 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 50-75 ตารางวา ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 3.5 ล้านบาท ครบครับด้วยระบบสาธารณูปโภค อาทิ สระว่ายน้ำฟรีฟอร์มขนาดใหญ่ สวนส่วนกลางที่ร่มรื่นด้วยไม้นานาพันธุ์ และสนามเด็กเล่นที่ครบครันด้วยเครื่องเล่นหลากหลาย โดดเด่นด้วยทำเลใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิศูนย์กลางคมนาคมแห่งใหม่ของไทย สามารถเข้าออกได้ 2 ทาง ติดถนนวงแหวนรอบนอกและติดถนนสุขาภิบาล 2 มีแบบบ้านให้เลือกรวม 15 แบบ ในสไตล์ Modern Thai Contemporary ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-789-3020
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 11
MKฝันขายบ้านโครงการเก่าหมดในปี49
โดย กระแสหุ้น
"มั่นคงเคหะการ" ปลื้มยอดขายบ้านการบินไทยพุ่ง คาดช่วยเพิ่มรายได้ปีนี้อย่างน้อย 100-200 ล. ตั้งเป้าขายบ้านในทุกโครงการให้หมดภายในปี49 เพื่อนำเงินไปลงทุนซื้อที่ดินลุยพัฒนาโครงการใหม่
นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า สำหรับโครงการบ้านพักสวัสดิการของพนักงาน บมจ. การบินไทย (THAI) ได้รับความสนใจจากพนักงานเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันมียอดการโอนบ้านแล้วกว่า 80% ของยอดการจองซื้อบ้านของพนักงานทั้งหมด โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว ซึ่งบริษัทตั้งเป้าว่าจะโอนบ้านให้หมดภายในปีนี้ อีกทั้งคาดว่าในปีนี้จะรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวประมาณ 100-200 ล้านบาท "โครงการดังกล่าวก็ยังมีการเปิดให้มีการจองซื้ออย่างต่อเนื่อง แต่พนักงานบางส่วนก็ยังคงรอความชัดเจนในการย้ายสนามบินว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ซึ่งบริษัทคาดว่าภายหลังจากที่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวแล้วจะมียอดจองเพิ่มขึ้น โดยการรับรู้รายได้จากโครงการก็จะทยอยรับรู้เรื่อยๆ โดยในปีนี้คาดว่าจะรับรู้ได้ประมาณ 100-200 ล้านบาท"
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ นายชูเกียรติมองว่า ภายหลังที่ผู้ประกอบการในหลายบริษัทหันมารุกตลาดในบ้านระดับกลาง-ล่างว่า น่าจะเป็นการเพิ่มมูลค่าทางตลาดให้เติบโตเพิ่มขึ้น เพราะผู้ประกอบการรายใหญ่เริ่มให้ความสำคัญในกลุ่มบ้านระดับกลางและล่างมากขึ้น อาทิ บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ หรือ QH แต่ อย่างไรก็ดีเชื่อว่าภาวะการแข่งขันคงจะไม่รุนแรงมากนัก อย่างไรก็ตามบริษัทได้เพิ่มกลยุทธ์ด้านการเลือกทำเลที่ดี และเพิ่มโปรโมชั่นการขายที่หลากหลาย โดยเน้นขายบ้านในราคาถูก คุณภาพดี ซึ่งในปี 2548 นี้ บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายที่ 2,400 ล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดขาย 2,030 ล้านบาท
นายชูเกียรติ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดงานในมือประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวและแฝดเกือบทั้งหมด ซึ่งบริษัทตั้งเป้าขายให้หมดภายในปี 2549 เพราะในปีหน้าจะมีโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายบ้านดังกล่าวไปซื้อที่ดินเพิ่มด้วย
โดย กระแสหุ้น
"มั่นคงเคหะการ" ปลื้มยอดขายบ้านการบินไทยพุ่ง คาดช่วยเพิ่มรายได้ปีนี้อย่างน้อย 100-200 ล. ตั้งเป้าขายบ้านในทุกโครงการให้หมดภายในปี49 เพื่อนำเงินไปลงทุนซื้อที่ดินลุยพัฒนาโครงการใหม่
นายชูเกียรติ ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า สำหรับโครงการบ้านพักสวัสดิการของพนักงาน บมจ. การบินไทย (THAI) ได้รับความสนใจจากพนักงานเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันมียอดการโอนบ้านแล้วกว่า 80% ของยอดการจองซื้อบ้านของพนักงานทั้งหมด โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว ซึ่งบริษัทตั้งเป้าว่าจะโอนบ้านให้หมดภายในปีนี้ อีกทั้งคาดว่าในปีนี้จะรับรู้รายได้จากโครงการดังกล่าวประมาณ 100-200 ล้านบาท "โครงการดังกล่าวก็ยังมีการเปิดให้มีการจองซื้ออย่างต่อเนื่อง แต่พนักงานบางส่วนก็ยังคงรอความชัดเจนในการย้ายสนามบินว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ซึ่งบริษัทคาดว่าภายหลังจากที่มีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวแล้วจะมียอดจองเพิ่มขึ้น โดยการรับรู้รายได้จากโครงการก็จะทยอยรับรู้เรื่อยๆ โดยในปีนี้คาดว่าจะรับรู้ได้ประมาณ 100-200 ล้านบาท"
สำหรับแนวโน้มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ นายชูเกียรติมองว่า ภายหลังที่ผู้ประกอบการในหลายบริษัทหันมารุกตลาดในบ้านระดับกลาง-ล่างว่า น่าจะเป็นการเพิ่มมูลค่าทางตลาดให้เติบโตเพิ่มขึ้น เพราะผู้ประกอบการรายใหญ่เริ่มให้ความสำคัญในกลุ่มบ้านระดับกลางและล่างมากขึ้น อาทิ บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ หรือ QH แต่ อย่างไรก็ดีเชื่อว่าภาวะการแข่งขันคงจะไม่รุนแรงมากนัก อย่างไรก็ตามบริษัทได้เพิ่มกลยุทธ์ด้านการเลือกทำเลที่ดี และเพิ่มโปรโมชั่นการขายที่หลากหลาย โดยเน้นขายบ้านในราคาถูก คุณภาพดี ซึ่งในปี 2548 นี้ บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายที่ 2,400 ล้านบาท จากปีก่อนที่มียอดขาย 2,030 ล้านบาท
นายชูเกียรติ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันบริษัทมียอดงานในมือประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยวและแฝดเกือบทั้งหมด ซึ่งบริษัทตั้งเป้าขายให้หมดภายในปี 2549 เพราะในปีหน้าจะมีโครงการใหม่ๆเพิ่มขึ้น อีกทั้งบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการขายบ้านดังกล่าวไปซื้อที่ดินเพิ่มด้วย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 12
บทวิเคราะห์บ้าง
23 Sep 05
นอกจากนี้ เพื่อเสนอให้กับผู้ที่กำลังหาซื้อบ้านเดี่ยว ที่สามมารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ในรูปแบบของ "บ้านสั่งสร้าง" เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเลือกแบบบ้านและทำเลที่ตั้งแปลงได้ตรงความต้องการ อีกทั้งยังมีบริการเปลี่ยนแปลงต่อเติมแบบบ้านให้เหมาะสมกับความต้องการ จากแบบบ้านที่มีให้เลือกหลายแบบ หลายสไตล์ เช่น แบบธาริณี, แบบกุสุมาและแบบมัลลิกา ซึ่งเป็นแบบบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
ด้านรายงานบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด ประเมินว่า ครึ่งแรกของปี 2548 ต่อเนื่องถึงกว่า 2 เดือนแรกของ ไตรมาสที่ 3/48 MK ไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ ทำให้ยอดจองบ้าน (Presale) ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวมาจาก 13 โครงการเดิมที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยในงวด ครึ่งแรกของปี 2548 มียอด จองบ้านที่ 1.14 พันล้านบาท ขณะที่ในช่วง 2 เดือนแรกของ ไตรมาสที่ 3/48 พบว่ายอดจองบ้านมีการชะลอตัว โดยมียอดรวมอยู่ที่ 230 ล้านบาท และคาดว่าในงวด ไตรมาสที่ 3/48 ของ MK น่าจะปิดยอด ได้ที่ระดับ 380-400 ล้านบาท สำหรับกำหนดการเปิดตัวโครงการใหม่มีอยู่จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.47 พันล้านบาท จะมีการเปิดตัวโครงการแรกได้แก่ Residence Park รามอินทรา ก.ม.8 มูลค่าโครางการ 220 ล้านบาท ในช่วงปลายเดือน ก.ย.48 ส่วนอีก 2 โครงการ ได้แก่ ชวนชื่น-รีเจ้น มูลค่า 600 ล้านบาท และ ชวนชื่น-พระราม 2 มูลค่า 650 ล้านบาท มีกำหนดเปิดตัวในเดือน ต.ค. และ พ.ย. 48 คาดว่าน่าจะทำให้เห็นการฟื้นตัวของ Presale ในงวด ไตรมาสที่ 4/48 อย่างชัดเจน ฝ่ายวิจัยยังคงสมมุติฐาน ยอดจองบ้านสำหรับปี 2548 ไว้ที่ 2.4 พันล้านบาทตามเดิม
ส่วนในไตรมาสที่ 2/48 ที่ผ่านมา MK มียอดจองบ้าน ที่ยังไม่ถูกบันทึกเป็นรายได้รวม 773 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าทั้งหมดน่าจะถูกบันทึกเป็นรายได้ภายในปี 2548 นอกจากนี้ ยอดจองบ้านที่เกิด ขึ้นในงวด ไตรมาสที่ 3 และการขายบ้านแบบ Prebuild ในงวดไตรมาสที่ 4 บางส่วนก็น่าจะสามารถบันทึกรายได้ทางบัญชีทันในงวดปี 2548 เหตุผลดังกล่าวทำให้คาดว่าเป้าหมายการบันทึกรายได้ทางบัญชีที่ 2.26 พันล้านบาทในปี 2548 ยังมีความเป็นไปได้ ส่วนประสิทธิภาพการทำกำไร Gross Margin ยังคงอยู่เหนือ 40% ได้
23 Sep 05
นอกจากนี้ เพื่อเสนอให้กับผู้ที่กำลังหาซื้อบ้านเดี่ยว ที่สามมารถตอบโจทย์การอยู่อาศัยในปัจจุบันได้อย่างลงตัว ในรูปแบบของ "บ้านสั่งสร้าง" เพื่อให้ลูกค้ามีโอกาสเลือกแบบบ้านและทำเลที่ตั้งแปลงได้ตรงความต้องการ อีกทั้งยังมีบริการเปลี่ยนแปลงต่อเติมแบบบ้านให้เหมาะสมกับความต้องการ จากแบบบ้านที่มีให้เลือกหลายแบบ หลายสไตล์ เช่น แบบธาริณี, แบบกุสุมาและแบบมัลลิกา ซึ่งเป็นแบบบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
ด้านรายงานบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส จำกัด ประเมินว่า ครึ่งแรกของปี 2548 ต่อเนื่องถึงกว่า 2 เดือนแรกของ ไตรมาสที่ 3/48 MK ไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ ทำให้ยอดจองบ้าน (Presale) ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวมาจาก 13 โครงการเดิมที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยในงวด ครึ่งแรกของปี 2548 มียอด จองบ้านที่ 1.14 พันล้านบาท ขณะที่ในช่วง 2 เดือนแรกของ ไตรมาสที่ 3/48 พบว่ายอดจองบ้านมีการชะลอตัว โดยมียอดรวมอยู่ที่ 230 ล้านบาท และคาดว่าในงวด ไตรมาสที่ 3/48 ของ MK น่าจะปิดยอด ได้ที่ระดับ 380-400 ล้านบาท สำหรับกำหนดการเปิดตัวโครงการใหม่มีอยู่จำนวน 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.47 พันล้านบาท จะมีการเปิดตัวโครงการแรกได้แก่ Residence Park รามอินทรา ก.ม.8 มูลค่าโครางการ 220 ล้านบาท ในช่วงปลายเดือน ก.ย.48 ส่วนอีก 2 โครงการ ได้แก่ ชวนชื่น-รีเจ้น มูลค่า 600 ล้านบาท และ ชวนชื่น-พระราม 2 มูลค่า 650 ล้านบาท มีกำหนดเปิดตัวในเดือน ต.ค. และ พ.ย. 48 คาดว่าน่าจะทำให้เห็นการฟื้นตัวของ Presale ในงวด ไตรมาสที่ 4/48 อย่างชัดเจน ฝ่ายวิจัยยังคงสมมุติฐาน ยอดจองบ้านสำหรับปี 2548 ไว้ที่ 2.4 พันล้านบาทตามเดิม
ส่วนในไตรมาสที่ 2/48 ที่ผ่านมา MK มียอดจองบ้าน ที่ยังไม่ถูกบันทึกเป็นรายได้รวม 773 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าทั้งหมดน่าจะถูกบันทึกเป็นรายได้ภายในปี 2548 นอกจากนี้ ยอดจองบ้านที่เกิด ขึ้นในงวด ไตรมาสที่ 3 และการขายบ้านแบบ Prebuild ในงวดไตรมาสที่ 4 บางส่วนก็น่าจะสามารถบันทึกรายได้ทางบัญชีทันในงวดปี 2548 เหตุผลดังกล่าวทำให้คาดว่าเป้าหมายการบันทึกรายได้ทางบัญชีที่ 2.26 พันล้านบาทในปี 2548 ยังมีความเป็นไปได้ ส่วนประสิทธิภาพการทำกำไร Gross Margin ยังคงอยู่เหนือ 40% ได้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 13
19 Oct 05
ด้านบทวิเคราะห์ บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องมาจากภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับมีโครงการที่ปิดไปถึง 3 โครงการในไตรมาส 2/48 ยอดขาย(รวมที่รับรู้และยังไม่รับรู้) ของ MK จึงชะลอตัวลงเหลือเพียง 360 ล้านบาทในไตรมาส 3/48 จากที่ทำได้ 514 ล้านบาทในไตรมาส 2/48 แม้ว่าจะมีการเปิดโครงการใหม่ 1 โครงการมูลค่า 240 ล้านบาทในไตรมาสนี้ แต่ก็ยังทำยอดขายได้ไม่มากนักเนื่องจากมาเปิดช่วงปลายเดือนกันยายนแล้ว ยอดขายที่ยังไม่รับรู้เพิ่มเป็น 1.25 พันล้านบาทจาก 890 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 2/48
อย่างไรก็ตามคาดว่ารายได้ของ MK จะโต 63% เทียบกับปีก่อนเป็น 513 ล้านบาทในไตรมาส 3/48 เนื่องจากมียอดขายที่ยังไม่รับรู้ยกมามาก ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3/48 คาดว่าจะโต 28% เทียบกับปีก่อนเป็น 97 ล้านบาทจากรายได้และอัตรากำไรที่ยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้คาดว่ายอดขายของ MK จะกระเตื้องขึ้นในไตรมาส 4/48 เนื่องจากมีโครงการที่เพิ่งเปิดไป 1 โครงการและจะมีการเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการมูลค่ารวม 1.37 พันล้านบาทในเดือนพฤศจิกายน ประกอบกับในไตรมาสนี้โดยปกติแล้วเป็นช่วงเวลาที่ขายดีที่สุดของปี นอกจากนี้ MK จะตั้งบูธขายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้อย่างมาก คาดว่ายอดขาย(รวมที่รับรู้และไม่รับรู้) ในไตรมาส 4/48 จะเท่ากับ 500 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ยอดขายทั้งปีอยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท
ดังนั้น ด้วยระดับยอดขายที่ยังไม่รับรู้ในปัจจุบัน คาดว่า MK จะรับรู้รายได้ตามที่ประมาณการไว้ที่ 2.17 พันล้านบาทในปีนี้ โดยยังคงประมาณการกำไรปกติสำหรับปี 2548 ที่ 428 ล้านบาท ด้วยนโยบายการจ่ายปันผลที่ 30% ของกำไร และคาดว่า MK จะจ่ายปันผล 0.15 บาทต่อ
ด้านบทวิเคราะห์ บล. กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องมาจากภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับมีโครงการที่ปิดไปถึง 3 โครงการในไตรมาส 2/48 ยอดขาย(รวมที่รับรู้และยังไม่รับรู้) ของ MK จึงชะลอตัวลงเหลือเพียง 360 ล้านบาทในไตรมาส 3/48 จากที่ทำได้ 514 ล้านบาทในไตรมาส 2/48 แม้ว่าจะมีการเปิดโครงการใหม่ 1 โครงการมูลค่า 240 ล้านบาทในไตรมาสนี้ แต่ก็ยังทำยอดขายได้ไม่มากนักเนื่องจากมาเปิดช่วงปลายเดือนกันยายนแล้ว ยอดขายที่ยังไม่รับรู้เพิ่มเป็น 1.25 พันล้านบาทจาก 890 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 2/48
อย่างไรก็ตามคาดว่ารายได้ของ MK จะโต 63% เทียบกับปีก่อนเป็น 513 ล้านบาทในไตรมาส 3/48 เนื่องจากมียอดขายที่ยังไม่รับรู้ยกมามาก ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3/48 คาดว่าจะโต 28% เทียบกับปีก่อนเป็น 97 ล้านบาทจากรายได้และอัตรากำไรที่ยังคงแข็งแกร่ง นอกจากนี้คาดว่ายอดขายของ MK จะกระเตื้องขึ้นในไตรมาส 4/48 เนื่องจากมีโครงการที่เพิ่งเปิดไป 1 โครงการและจะมีการเปิดโครงการใหม่อีก 2 โครงการมูลค่ารวม 1.37 พันล้านบาทในเดือนพฤศจิกายน ประกอบกับในไตรมาสนี้โดยปกติแล้วเป็นช่วงเวลาที่ขายดีที่สุดของปี นอกจากนี้ MK จะตั้งบูธขายในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้อย่างมาก คาดว่ายอดขาย(รวมที่รับรู้และไม่รับรู้) ในไตรมาส 4/48 จะเท่ากับ 500 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ยอดขายทั้งปีอยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท
ดังนั้น ด้วยระดับยอดขายที่ยังไม่รับรู้ในปัจจุบัน คาดว่า MK จะรับรู้รายได้ตามที่ประมาณการไว้ที่ 2.17 พันล้านบาทในปีนี้ โดยยังคงประมาณการกำไรปกติสำหรับปี 2548 ที่ 428 ล้านบาท ด้วยนโยบายการจ่ายปันผลที่ 30% ของกำไร และคาดว่า MK จะจ่ายปันผล 0.15 บาทต่อ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 14
ใหม่ๆ หลัง ผลประกอบการ ไตรมาส 3 48 นี้เอง
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... 0Note1.pdf
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... _mk_t1.pdf
เชิญพิจารณาตามสบาย เหนื่อยแล้วครับ ไว้ว่ากันต่อ
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... 0Note1.pdf
http://www.settrade.com/brokerpage/IPO/ ... _mk_t1.pdf
เชิญพิจารณาตามสบาย เหนื่อยแล้วครับ ไว้ว่ากันต่อ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 15
ราคาหุ้น 2.26 คิดเป็นซื้อทั้งบริษัท 1958 ในขณะที่ 9 เดือนทำกำไรได้ .43 คิดเป็นกำไรปกติ 368 ล้าน
บริษัทมี สินทรัพย์ ทั้งหมด 6741 ล้าน
เป็นสำนักงาน ( ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ) 1579
และ
ที่ดินและงานก่อสร้างพัฒนาเพื่อขาย 3042 ล้าน
ที่ดินรอการพัฒนาและเพื่อขาย-สุทธิ 1865 ล้าน
และอื่น รวมแล้ว 4945 ล้านบาท
จากหมายเหตุข้อ 4.5
4.5 สินค้าคงเหลือ
บริษัทตีราคาสินค้าคงเหลือในราคาทุน หรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า
ที่ดินพัฒนาเพื่อขายประกอบด้วยต้นทุนของที่ดิน ดอกเบี้ยจากเงินกู้ที่เกี่ยวข้องและรายจ่ายใน
การพัฒนาทั้งสิ้นสุทธิจากต้นทุนของที่ดินที่ขายแล้ว หรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า
แสดงว่า ที่ดินและงานก่อสร้างพัฒนาเพื่อขาย 3042 ล้าน รวมดอกเบี้ยไว้แล้ว ใช่หรือไม่
ที่ดินรอการพัฒนาและเพื่อขาย-สุทธิ 1865 ล้าน เป็นค่าที่ดินอย่างเดียว ไม่มีดอกเบี้ยใช่หรือไม่
...............................................................................................
เรื่องที่ดูแล้วผมยังไม่ค่อยเข้าใจคือ ทำไมต้องมีรายการพิเศษ
มาจากไหนอะ ดูยอดขาย ดูกำไร ดูสินทรัยพ์ ดูหนี้สิน ตัวเลขอะไรก็สวยไปหมด
อย่างไรก็ตามดูเงินสดไม่ค่อยสวยเลยนะ
เงินสดที่ได้จากการดำเนินงาน 458 ล้าน
พอเอาไปจ่ายหนี้ 451 ล้าน
ทำให้เงินสดปลายงวดเหลือ 35 ล้าน
...............................................................................................
อยากถามนิดครับ กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้คืออะไร 253 ล้าน เป็นตัวเลขที่ดูแล้วทำให้กำไรเพิ่มขึ้น จากกำไร ปกติ .43 เป็น .72
แต่จริงๆเงินสดไม่ได้เพิ่มขึ้น
บริษัทมี สินทรัพย์ ทั้งหมด 6741 ล้าน
เป็นสำนักงาน ( ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ ) 1579
และ
ที่ดินและงานก่อสร้างพัฒนาเพื่อขาย 3042 ล้าน
ที่ดินรอการพัฒนาและเพื่อขาย-สุทธิ 1865 ล้าน
และอื่น รวมแล้ว 4945 ล้านบาท
จากหมายเหตุข้อ 4.5
4.5 สินค้าคงเหลือ
บริษัทตีราคาสินค้าคงเหลือในราคาทุน หรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า
ที่ดินพัฒนาเพื่อขายประกอบด้วยต้นทุนของที่ดิน ดอกเบี้ยจากเงินกู้ที่เกี่ยวข้องและรายจ่ายใน
การพัฒนาทั้งสิ้นสุทธิจากต้นทุนของที่ดินที่ขายแล้ว หรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า
แสดงว่า ที่ดินและงานก่อสร้างพัฒนาเพื่อขาย 3042 ล้าน รวมดอกเบี้ยไว้แล้ว ใช่หรือไม่
ที่ดินรอการพัฒนาและเพื่อขาย-สุทธิ 1865 ล้าน เป็นค่าที่ดินอย่างเดียว ไม่มีดอกเบี้ยใช่หรือไม่
...............................................................................................
เรื่องที่ดูแล้วผมยังไม่ค่อยเข้าใจคือ ทำไมต้องมีรายการพิเศษ
มาจากไหนอะ ดูยอดขาย ดูกำไร ดูสินทรัยพ์ ดูหนี้สิน ตัวเลขอะไรก็สวยไปหมด
อย่างไรก็ตามดูเงินสดไม่ค่อยสวยเลยนะ
เงินสดที่ได้จากการดำเนินงาน 458 ล้าน
พอเอาไปจ่ายหนี้ 451 ล้าน
ทำให้เงินสดปลายงวดเหลือ 35 ล้าน
...............................................................................................
อยากถามนิดครับ กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้คืออะไร 253 ล้าน เป็นตัวเลขที่ดูแล้วทำให้กำไรเพิ่มขึ้น จากกำไร ปกติ .43 เป็น .72
แต่จริงๆเงินสดไม่ได้เพิ่มขึ้น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 16
เรื่องสินค้าคงเหลือ ยังไม่มีคำตอบครับJeng เขียน: 4.5 สินค้าคงเหลือ
บริษัทตีราคาสินค้าคงเหลือในราคาทุน หรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า
ที่ดินพัฒนาเพื่อขายประกอบด้วยต้นทุนของที่ดิน ดอกเบี้ยจากเงินกู้ที่เกี่ยวข้องและรายจ่ายใน
การพัฒนาทั้งสิ้นสุทธิจากต้นทุนของที่ดินที่ขายแล้ว หรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า
แสดงว่า ที่ดินและงานก่อสร้างพัฒนาเพื่อขาย 3042 ล้าน รวมดอกเบี้ยไว้แล้ว ใช่หรือไม่
ที่ดินรอการพัฒนาและเพื่อขาย-สุทธิ 1865 ล้าน เป็นค่าที่ดินอย่างเดียว ไม่มีดอกเบี้ยใช่หรือไม่
...............................................................................................
เรื่องที่ดูแล้วผมยังไม่ค่อยเข้าใจคือ ทำไมต้องมีรายการพิเศษ
มาจากไหนอะ ดูยอดขาย ดูกำไร ดูสินทรัยพ์ ดูหนี้สิน ตัวเลขอะไรก็สวยไปหมด
อย่างไรก็ตามดูเงินสดไม่ค่อยสวยเลยนะ
เงินสดที่ได้จากการดำเนินงาน 458 ล้าน
พอเอาไปจ่ายหนี้ 451 ล้าน
ทำให้เงินสดปลายงวดเหลือ 35 ล้าน
...............................................................................................
อยากถามนิดครับ กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้คืออะไร 253 ล้าน เป็นตัวเลขที่ดูแล้วทำให้กำไรเพิ่มขึ้น จากกำไร ปกติ .43 เป็น .72
แต่จริงๆเงินสดไม่ได้เพิ่มขึ้น
ส่วนหนี้กำไรพิเศษในหมายเหตุบอกไว้ดังนี้ครับ
25. กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้
ก) ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2545 บริษัทได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ที่รับโอนหนี้มาจากสถาบันการเงินที่ปิดกิจการ โดยวิธีลดยอดดอกเบี้ยค้างจ่ายและกำหนดเงื่อนไขการชำระคืนใหม่ ตามสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ลงวันที่ 18 กรกฎาคม 2545 และสำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548 และ 2547 บริษัทได้ปฏิบัติเป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ดังกล่าวข้างต้น ในการนี้บริษัทมีกำไรเพิ่มสำหรับงวดสามเดือนจำนวน 0.71 ล้านบาท และ 1.00 ล้านบาท ตามลำดับ และสำหรับงวดเก้าเดือนจำนวน 2.19 ล้านบาท และ 3.10 ล้านบาท ตามลำดับ และได้แสดงไว้เป็น ส่วนหนึ่งของ รายการพิเศษ ในงบกำไรขาดทุนรวมและงบกำไรขาดทุนสำหรับแต่ละงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548 และ 2547
ข) ในไตรมาส 2 ของปี 2548 บริษัทไถ่ถอนหุ้นกู้คืนจำนวน 22 หน่วย ในราคามูลค่าที่ตราไว้ ทำให้บริษัทมีผลกำไรสุทธิจากการจ่ายชำระหนี้ดังกล่าวข้างต้น 0.01 ล้านบาท
ค) ในไตรมาส 2 ของปี 2548 บริษัทได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ บรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2545 ซึ่งบริษัทได้ปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าวลุล่วงแล้ว ในการนี้บริษัทจึงรับรู้รายการกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้จำนวน 251.68 ล้านบาท
รายการในข้อ ก) ข) และ ค) บริษัทได้แสดงไว้เป็นส่วนหนึ่งของ รายการพิเศษ ในงบกำไรขาดทุน สำหรับงวดสามเดือนและเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2548 และ 2547
ส่วนเรื่องกระแสเงินสด ที่หายไปเยอะ ผมว่าเอาไปลดหนี้ระยะยาว ดีแล้วนะครับ
ในหมายเหตุข้อ 19 ครับ บอกไว้ว่า
กันยายน 2548 ธันวาคม 2547
เงินกู้ยืมจากธนาคาร 880,616 971,184
เงินกู้ยืมที่มีการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว 922,399 1,528,457
ค่าสิทธิการเช่ากำหนดชำระเป็นรายปี
จนถึงเดือนมีนาคม 2561 (หมายเหตุ 13) 36,850 39,050
รวม 1,839,865 2,538,691
หัก ส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี (43,643) (67,345)
สุทธิ 1,796,222 2,471,346
หนี้ระยะยาวหายไปเยอะนะครับ ดีแล้ว เพราะดอกเบี้ยกำลังขาขึ้น เดี่ยวจะลำบากอีก สรุปแล้วหนี้หายไป 675 ล้าน เลยนะครับ อย่างงี้ไม่ดีหรือครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 17
โค้ด: เลือกทั้งหมด
หนี้ระยะยาวหายไปเยอะนะครับ ดีแล้ว เพราะดอกเบี้ยกำลังขาขึ้น เดี่ยวจะลำบากอีก สรุปแล้วหนี้หายไป 675 ล้าน เลยนะครับ อย่างงี้ไม่ดีหรือครับ
อืม ยกตัวอย่าง
บริษัท A ทำโครงการอยู่ 10 โครงการ แต่ละโครงการต้องไปขอกู้จากแบงค์
และแต่ละโครงการทยอยรับรู้รายได้
เมื่อมีการโอนจะมีการทยอยลดหนี้ไปด้วยครับ
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะโอนไปกี่บาท ก็ลดหนี้ไปในตัว
กำไรที่ได้ควรตกเป็นของผู้ถือหุ้นครับ
แต่ถ้ามีหนี้ระยะยาวที่ต้องไปจ่าย
ก็ต้องบอกว่า มีการนำทีดิน อาจจะเป็นสนามกอร์ฟ หรือหลักทรัพย์อื่นๆ ไปขอกู้เงินมาเพิ่ม เพราะลำพังโครงการกู้ต่อไม่ได้แล้ว
เมื่อทำโครงการมีกำไร ก็เลยต้องนำเงิน ไปโป๊ะหนี้ระยะยาวที่ว่าครับ
คำถาม หนี้ระยะยาว มีอีกกี่บาทที่ต้องไปลด
แล้วต้องทำกำไรอีกกี่ปีถึงจะหมด
...........................................................................................
เหตุการปกติของการทำบ้านเป็นอย่างนี้ครับ
คือ เมื่อมีการโอนบ้าน ลูกค้าก็จะได้บ้าน แบงค์ก็จะได้รับการชำระเงินกู้ ในขณะที่บริษัทจะได้เงินทุนพร้อมกำไรกลับมา
ถ้าเลิกกิจการ ก็เอา เงินทุนบวกกำไรมาคืน
ถ้าไม่เลิกกิจการ ก็อาจจะนำกำไรมาปันผล และเงินทุนก็ยังอยู่ครับ เอาเงินทุนนั้นๆ ไปซื้อทีดิน แปลงใหม่
........................................................................................
ข้อสังเกตุของ MK ขายได้ตั้งเยอะ มีกำไรด้วย แต่เงินสดมะมี จ่ายหนี้หมด แล้วก็ไม่ได้ซื้อที่ดินเพิ่ม
อืม คือที่ก็ซื้อเพิ่มครับ มัดจำไป 9.1 ล้าน แต่เมื่อเทียบกับยอดขาย 1700 ล้าน กำไร ปกติ 368 ล้าน กำไรสุทธิ 662 ล้าน เงินสดเหลือ 35 ล้าน
แต่ใช้หนี้ไปตั้งเยอะ แล้วมีหนี้อีกเยอะหรือไม่ที่ต้องใช้
เราจะแยกออกได้อย่างไรว่าหนี้ที่ผูกพันโครงการ กับหนี้ที่ผูกพันกับที่ดินที่ไม่ได้ทำโครงการ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 18
ขอบคุณครับพี่ อย่างงี้ต้องเอาไปถามผู้บริหารJeng เขียน: ไม่ดีครับ เพราะกำไรที่ได้แทนที่จะเข้ากระเป่าผู้ถือหุ้นกลับต้องไปลดหนี้ระยะยาว
.....
...........................................................................................
เหตุการปกติของการทำบ้านเป็นอย่างนี้ครับ
คือ เมื่อมีการโอนบ้าน ลูกค้าก็จะได้บ้าน แบงค์ก็จะได้รับการชำระเงินกู้ ในขณะที่บริษัทจะได้เงินทุนพร้อมกำไรกลับมา
ถ้าเลิกกิจการ ก็เอา เงินทุนบวกกำไรมาคืน
ถ้าไม่เลิกกิจการ ก็อาจจะนำกำไรมาปันผล และเงินทุนก็ยังอยู่ครับ เอาเงินทุนนั้นๆ ไปซื้อทีดิน แปลงใหม่
........................................................................................
ข้อสังเกตุของ MK ขายได้ตั้งเยอะ มีกำไรด้วย แต่เงินสดมะมี จ่ายหนี้หมด แล้วก็ไม่ได้ซื้อที่ดินเพิ่ม
อืม คือที่ก็ซื้อเพิ่มครับ มัดจำไป 9.1 ล้าน แต่เมื่อเทียบกับยอดขาย 1700 ล้าน กำไร ปกติ 368 ล้าน กำไรสุทธิ 662 ล้าน เงินสดเหลือ 35 ล้าน
แต่ใช้หนี้ไปตั้งเยอะ แล้วมีหนี้อีกเยอะหรือไม่ที่ต้องใช้
เราจะแยกออกได้อย่างไรว่าหนี้ที่ผูกพันโครงการ กับหนี้ที่ผูกพันกับที่ดินที่ไม่ได้ทำโครงการ
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 19
ข้อมูลเยอะขนาดนี้น่าจะนำไปไว้ในร้อยคนร้อยหุ้นนะครับ จะได้เก็บไว้ดูนานๆได้
หุ้น MK เป็นอดีตที่ขมขื่นของผม ผมขาดทุนตัวนี้ตัวเดียวเป็นตัวเลขเจ็ดหลักครับ เลยค่อนข้างจะได้บทเรียนพอสมควร
อย่างไรก็ตามนั่นก็เป็นอดีตเมื่อสองปีที่แล้ว ณ.ราคาปัจจุบันและสถานการณ์ปัจจุบัน ผมคิดว่า MK อยู่ในกลุ่มหุ้นก้นบุหรี่ครับ คือมี pb ค่อนข้างต่ำ จุดที่ทำให้bv สูงอยู่ที่สินค้าคงเหลือ ซึ่งอันตรายเหมือนกันถ้าเกิดอะไรขึ้นกับสินค้าคงเหลือ(ในส่วนที่เป็นที่ดินคงไม่เป็นไร แต่ส่วนที่เป็นทรัพย์สินอื่นเช่นบ้าน ทาวน์เฮาส์ก็น่ากลัวหน่อยๆ อ้อ...เห็นว่าส่วนที่เป็นที่ดินก็อยู่ในทำเลที่ไม่ค่อยดีนักนะครับและไม่แน่ใจว่าซื้อมาแพงเกินไปหรือไม่)
เมื่อเทียบยอดขายกับสินค้าคงเหลือ ถ้าเหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงในอนาคต บริษัทจะใช้เวลาที่จะระบายสินค้าคงเหลือทั้งหมดนานถึงสิบไตรมาสหรือสองปีครึ่ง โดยที่มีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่ผลิตสินค้าใหม่อีกเลย(คือไม่สร้างบ้านเพิ่มและซื้อที่เพิ่ม)ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเหมือนกันนะครับ
ถ้าให้ผมเดาใจนักลงทุนที่ผมชอบสามคนผมก็เดาว่า บัฟเฟตต์และลินช์คงไม่ซื้อหุ้นตัวนี้ แต่เกรแฮมน่าจะซื้อนะ
หุ้น MK เป็นอดีตที่ขมขื่นของผม ผมขาดทุนตัวนี้ตัวเดียวเป็นตัวเลขเจ็ดหลักครับ เลยค่อนข้างจะได้บทเรียนพอสมควร
อย่างไรก็ตามนั่นก็เป็นอดีตเมื่อสองปีที่แล้ว ณ.ราคาปัจจุบันและสถานการณ์ปัจจุบัน ผมคิดว่า MK อยู่ในกลุ่มหุ้นก้นบุหรี่ครับ คือมี pb ค่อนข้างต่ำ จุดที่ทำให้bv สูงอยู่ที่สินค้าคงเหลือ ซึ่งอันตรายเหมือนกันถ้าเกิดอะไรขึ้นกับสินค้าคงเหลือ(ในส่วนที่เป็นที่ดินคงไม่เป็นไร แต่ส่วนที่เป็นทรัพย์สินอื่นเช่นบ้าน ทาวน์เฮาส์ก็น่ากลัวหน่อยๆ อ้อ...เห็นว่าส่วนที่เป็นที่ดินก็อยู่ในทำเลที่ไม่ค่อยดีนักนะครับและไม่แน่ใจว่าซื้อมาแพงเกินไปหรือไม่)
เมื่อเทียบยอดขายกับสินค้าคงเหลือ ถ้าเหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงในอนาคต บริษัทจะใช้เวลาที่จะระบายสินค้าคงเหลือทั้งหมดนานถึงสิบไตรมาสหรือสองปีครึ่ง โดยที่มีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่ผลิตสินค้าใหม่อีกเลย(คือไม่สร้างบ้านเพิ่มและซื้อที่เพิ่ม)ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเหมือนกันนะครับ
ถ้าให้ผมเดาใจนักลงทุนที่ผมชอบสามคนผมก็เดาว่า บัฟเฟตต์และลินช์คงไม่ซื้อหุ้นตัวนี้ แต่เกรแฮมน่าจะซื้อนะ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 20
หมอสามัญชนครับ
เรื่องบ้านมีจุดตายเรื่องเดียวคือ ซื้อทีดินผิด ทำอะไรไม่ได้ หรือซื้อมาถูกต้อง ทั้งทำเล และราคา ต่อมา มีอะไรบางอย่าง เปลียนไป ทำให้ที่ดินทำอะไรไม่ได้
ตอนที่แย่ๆ โครงการอื่นขายไม่ออก ก็ต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอด เอาที่ดินแปลงนั้นๆ ไปกู้แบงค์
ดอกมันก็ทับไปทับมา
สุดท้ายก็ไปทำโครงการใหม่ หาเงินมาจ่ายหนี้เดิม
เรื่องแบบนี้ พี่พยายามดูงบดุล งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด
แยกไม่ออกครับ ว่าหนี้ที่มี ผูกพันกับโครงการอย่างไร
เรื่องบ้านมีจุดตายเรื่องเดียวคือ ซื้อทีดินผิด ทำอะไรไม่ได้ หรือซื้อมาถูกต้อง ทั้งทำเล และราคา ต่อมา มีอะไรบางอย่าง เปลียนไป ทำให้ที่ดินทำอะไรไม่ได้
ตอนที่แย่ๆ โครงการอื่นขายไม่ออก ก็ต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอด เอาที่ดินแปลงนั้นๆ ไปกู้แบงค์
ดอกมันก็ทับไปทับมา
สุดท้ายก็ไปทำโครงการใหม่ หาเงินมาจ่ายหนี้เดิม
เรื่องแบบนี้ พี่พยายามดูงบดุล งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด
แยกไม่ออกครับ ว่าหนี้ที่มี ผูกพันกับโครงการอย่างไร
แก้ไขล่าสุดโดย Jeng เมื่อ เสาร์ พ.ย. 19, 2005 11:52 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- Verified User
- โพสต์: 424
- ผู้ติดตาม: 0
แค่นี้ มั่นคง ...มั้ย
โพสต์ที่ 23
เงินสดน้อยจริงครับ
เพราะสร้างบ้านสมัยนี้จะเป็นการสร้างก่อน
อย่างที่เขาโฆษณาครับ
บ้านไม่ได้เห็นไม่ได้เลือกอย่าซื้อ
แต่บริษัทที่ทำแบบนี้ได้ ต้องมีเงินทุนหนา
สายป่านยาว
ส่วนหนี้สินต่อทุนก็ดีครับ
เพราะสร้างบ้านสมัยนี้จะเป็นการสร้างก่อน
อย่างที่เขาโฆษณาครับ
บ้านไม่ได้เห็นไม่ได้เลือกอย่าซื้อ
แต่บริษัทที่ทำแบบนี้ได้ ต้องมีเงินทุนหนา
สายป่านยาว
ส่วนหนี้สินต่อทุนก็ดีครับ