MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
Re: MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 3
ลงงง แล้วววว มาเตือนครับ อิอิ จะได้ไม่ลืมซื้อ เดี๋ยวลืมดู ...Groundhog เขียน:จะได้แบ่งเงินไว้ซื้อถูก
เป็นช่วงลดราคาปลายปีหรือครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 5
ต่อราคาหลักสตางค์ ระวังเงินจะหายเป็นบาทครับ หุๆๆๆ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 8
ขออนุญาตกระแนะกระแหนหน่อยนะครับ เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ TMD กับ PAP มาแล้ว ไม่ได้บทเรียนอะไรบ้างเลยหรือครับ ผมว่ามันเหมือนกันเปี๊ยบเลย
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 9
[quote="สุมาอี้"]ขออนุญาตกระแนะกระแหนหน่อยนะครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- Verified User
- โพสต์: 3763
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 10
พี่สุมาอี้ครับ รบกวนขยายความเพิ่มเติมให้หน่อยนะครับ คือยังไม่ค่อยเข้าใจหน่ะครับ ว่าเหมือนกับ TMD และ PAP ด้านไหนบ้าง ถ้าพี่สุมาอี้จะมองที่ Inventory นี่ ขออนุญาติอธิบายนิดนึงนะครับว่า MCS จะสั่งเหล็กต่อเมื่อได้ order แล้วเท่านั้น ฉะนั้นจะมีการ lock ราคาซื้อวัตถุดิบ และราคาขายให้ลูกค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Impossible is Nothing
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 12
ผมว่าความเสี่ยงmcs
ไม่ไช่ที่ธุรกิจที่เขาทำ
หรือ อย่างอื่น
แต่คล้ายกรณีoishi
บริษัทนี้ก้าวกระโดดของรายได้ และธุรกิจมา
จุดนี้ได้ จุดสำคัญคือ ผู้บริหาร
ถือหุ้นบริษัทแบบนี้ ต้องนั่ง
ไหว้เจ้าให้
ผู้บริหารสุขภาคแข็งแรง
อย่างเดียว
ฮฺ
ไม่ไช่ที่ธุรกิจที่เขาทำ
หรือ อย่างอื่น
แต่คล้ายกรณีoishi
บริษัทนี้ก้าวกระโดดของรายได้ และธุรกิจมา
จุดนี้ได้ จุดสำคัญคือ ผู้บริหาร
ถือหุ้นบริษัทแบบนี้ ต้องนั่ง
ไหว้เจ้าให้
ผู้บริหารสุขภาคแข็งแรง
อย่างเดียว
ฮฺ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 14
[quote="hot"]
ถือหุ้นบริษัทแบบนี้
ถือหุ้นบริษัทแบบนี้
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 15
ผมไม่กล้าฟันธงหรอกครับ เพราะไม่มีความรู้เรื่องอุตสาหกรรมเหล็ก
แต่อยากให้ข้อสังเกตว่า ที่หุ้นที่มีเหล็กเป็นวัตถุดิบตอนนี้มี PE ต่ำมากทั้งสิ้นมิน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่น่าจะเป็นเพราะตลาดทราบอะไรบางอย่างล่วงหน้าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหล็กมากกว่า
PE ที่ต่ำขนาดนี้อาจเป็น "fair price" แล้วก็ได้!
เวลาเราเห็นหุ้นพีอีต่ำ ควรตั้งคำถามด้วยว่าแล้วตลาดปล่อยให้มันต่ำอย่างนั้นได้อย่างไร ถ้าจะตอบว่ามันต่ำเพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามันต่ำนี่ผมว่าไม่ใช่แน่ๆ ตอนเช้าๆ ถ้าใครไปที่ร้านแมคโดนัลด์สาขาสีลม ลองนับดูคนที่นั่งส่องตารางหุ้นในนสพ. อยู่จะตกใจว่ามีอย่างน้อย 3-5 คน ไม่มีทางที่คนส่วนใหญ่จะไม่เห็นว่า PE มันต่ำอยู่ เหตุที่ PE มันต่ำ น่าจะเป็นเพราะการซื้อและขายของคนที่เขารู้เรื่องอะไรบางอย่างเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นกำหนดราคาหุ้นตัวนั้นไว้มากกว่า
ในตลาดหุ้นมีคนมากมายเทรดหุ้นอยู่ ทั้ง insider และคนที่เข้าใจบริษัทเหล่านั้นเป็นอย่างดี คนเหล่านี้ไม่เคยบอกใครว่าเขาเทรดอยู่ ไม่เคยโผล่หน้าเข้ามาในนี้ ไม่เคยเจออย่าคิดว่าไม่มี
ถ้าคุณจะซื้อหุ้นเหล่านี้ด้วยเหตุผลเพียงแค่พีอีมันต่ำ ผมไม่เห็นด้วย แต่ถ้าคุณมีเหตุผลพอที่จะบอกว่าตลาดกำลังเข้าใจผิด และคุณคิดว่ากำไรในอีก 12 เดือนข้างหน้าของบริษัทเหล่านั้นจะไม่ลดลงอย่างทีตลาดคาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน จึงซื้อ อันนี้ ผมจะไม่ห้ามเลยครับ
แต่อยากให้ข้อสังเกตว่า ที่หุ้นที่มีเหล็กเป็นวัตถุดิบตอนนี้มี PE ต่ำมากทั้งสิ้นมิน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่น่าจะเป็นเพราะตลาดทราบอะไรบางอย่างล่วงหน้าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหล็กมากกว่า
PE ที่ต่ำขนาดนี้อาจเป็น "fair price" แล้วก็ได้!
เวลาเราเห็นหุ้นพีอีต่ำ ควรตั้งคำถามด้วยว่าแล้วตลาดปล่อยให้มันต่ำอย่างนั้นได้อย่างไร ถ้าจะตอบว่ามันต่ำเพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามันต่ำนี่ผมว่าไม่ใช่แน่ๆ ตอนเช้าๆ ถ้าใครไปที่ร้านแมคโดนัลด์สาขาสีลม ลองนับดูคนที่นั่งส่องตารางหุ้นในนสพ. อยู่จะตกใจว่ามีอย่างน้อย 3-5 คน ไม่มีทางที่คนส่วนใหญ่จะไม่เห็นว่า PE มันต่ำอยู่ เหตุที่ PE มันต่ำ น่าจะเป็นเพราะการซื้อและขายของคนที่เขารู้เรื่องอะไรบางอย่างเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นกำหนดราคาหุ้นตัวนั้นไว้มากกว่า
ในตลาดหุ้นมีคนมากมายเทรดหุ้นอยู่ ทั้ง insider และคนที่เข้าใจบริษัทเหล่านั้นเป็นอย่างดี คนเหล่านี้ไม่เคยบอกใครว่าเขาเทรดอยู่ ไม่เคยโผล่หน้าเข้ามาในนี้ ไม่เคยเจออย่าคิดว่าไม่มี
ถ้าคุณจะซื้อหุ้นเหล่านี้ด้วยเหตุผลเพียงแค่พีอีมันต่ำ ผมไม่เห็นด้วย แต่ถ้าคุณมีเหตุผลพอที่จะบอกว่าตลาดกำลังเข้าใจผิด และคุณคิดว่ากำไรในอีก 12 เดือนข้างหน้าของบริษัทเหล่านั้นจะไม่ลดลงอย่างทีตลาดคาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน จึงซื้อ อันนี้ ผมจะไม่ห้ามเลยครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 17
อืมม เห็นด้วยครับ ใครชอบหุ้น P/E ต่ำ P/BV ต่ำ .. ผมขอแนะนำ ...สุมาอี้ เขียน:แต่อยากให้ข้อสังเกตว่า ที่หุ้นที่มีเหล็กเป็นวัตถุดิบตอนนี้มี PE ต่ำมากทั้งสิ้นมิน่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่น่าจะเป็นเพราะตลาดทราบอะไรบางอย่างล่วงหน้าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเหล็กมากกว่า
PE ที่ต่ำขนาดนี้อาจเป็น "fair price" แล้วก็ได้!
เวลาเราเห็นหุ้นพีอีต่ำ ควรตั้งคำถามด้วยว่าแล้วตลาดปล่อยให้มันต่ำอย่างนั้นได้อย่างไร ถ้าจะตอบว่ามันต่ำเพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่ามันต่ำนี่ผมว่าไม่ใช่แน่ๆ ตอนเช้าๆ ถ้าใครไปที่ร้านแมคโดนัลด์สาขาสีลม ลองนับดูคนที่นั่งส่องตารางหุ้นในนสพ. อยู่จะตกใจว่ามีอย่างน้อย 3-5 คน ไม่มีทางที่คนส่วนใหญ่จะไม่เห็นว่า PE มันต่ำอยู่ เหตุที่ PE มันต่ำ น่าจะเป็นเพราะการซื้อและขายของคนที่เขารู้เรื่องอะไรบางอย่างเกี่ยวกับหุ้นตัวนั้นกำหนดราคาหุ้นตัวนั้นไว้มากกว่า
ATC P/E 2.86 P/BV 1.35 DIV 11.53%
VNT P/E 3.97 P/BV 0.93 DIV 3.33%
PSL P/E 2.23 P/BV 1.78 DIV 8.50%
TTA P/E 2.75 P/BV 2.10 DIV 17.12%
RCL P/E 3.14 P/BV 1.24 DIV 7.82%
นี่ซิ แน่จริง
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 19
ถ้า mcs มีดีแค่ pe ต่ำผมคงไม่สนใจหรอกครับ
เพราะก็เข็ดมาเหมือนกันกับหุ้น pe ต่ำ
ผมว่าข้อดีของ mcs คือเป็นหุ้นที่สามารถประเมินกำไรได้ไม่ยาก
แม้จะดูเหมือนมีความเสี่ยงเรื่องลูกค้ารายเดียวกับ supplier น้อย ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเพราะความเสี่ยงส่วนนี้ถูก offset ไปด้วยการทำสัญญาจากลูกค้าล่วงหน้าเต็มกำลังการผลิตเป็นปี ซื้อของก็ล่วงหน้านาน
การที่อยู่ๆลูกค้าจะหนีไปซื้อของเจ้าอื่นก็ไม่มีเหตุผลที่ concrete พอเนื่องจากเหล็กที่ mcs ส่งให้ญี่ปุ่นนั้นเป็นเหล็กเกรดสูงมาก ช่างเชื่อมต้องมีใบอนุญาตของญี่ปุ่น การตรวจงานของลูกค้าเองก็เข้มงวดมาก เรื่องคุณภาพที่ mcs ผลิตส่งให้ก็ไม่ได้เป็นรองบริษัทที่ผลิตในญี่ปุ่นเอง แต่ราคาขายกลับถูกกว่า 10-15% ทำให้จุดขายสินค้าของ MCS ก็คือ "ถูกและดี" ลูกค้าที่ญี่ปุ่นเองก็คงไม่อยากไปซื้อที่อื่นหรอกครับ ส่วนข้อด้อยอย่างนึงจากการที่ลูกค้ามาสั่งซื้อของที่ไทย ก็เห็นจะเป็นเรื่องของสินค้ามีตำหนิ แก้แบบหรือจำเป็นต้องซ่อมแซม เนื่องจากเป็นสินค้าขนาดใหญ่มากจะขนกลับมาที่ไทยก็ไม่คุ้ม ทำให้ส่วนนี้ต้องให้เป็นส่วนลดกับลูกค้า แต่ดร. ชิเองก็เห็นถึงปัญหาจุดนี้จึงไปตั้ง service center ที่ญี่ปุ่นพร้อมที่จะเปิดเร็วๆนี้ ข้อด้อยจุดนี้ก็จะลดลงได้
ผมอาจจะเข้าข้างตัวเองมากไปหน่อย
แต่ผมก็ยังนึกถึงข้อเสียที่มีเหตุผลแข็งๆไม่ได้ซักที
เจอแต่ข้อด้อยที่คนมักจะบอกว่า เป็นหุ้นเหล็ก มีลูกค้ารายเดียว มี supplier รายเดียว
แต่ถ้ามีบริษัทที่มันสามารถปิดจุดอ่อนเหล่านี้ได้ ผมว่าข้อด้อยเพียงแค่นี้ผมก็เต็มใจที่จะซื้อครับ
เพราะก็เข็ดมาเหมือนกันกับหุ้น pe ต่ำ
ผมว่าข้อดีของ mcs คือเป็นหุ้นที่สามารถประเมินกำไรได้ไม่ยาก
แม้จะดูเหมือนมีความเสี่ยงเรื่องลูกค้ารายเดียวกับ supplier น้อย ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรเพราะความเสี่ยงส่วนนี้ถูก offset ไปด้วยการทำสัญญาจากลูกค้าล่วงหน้าเต็มกำลังการผลิตเป็นปี ซื้อของก็ล่วงหน้านาน
การที่อยู่ๆลูกค้าจะหนีไปซื้อของเจ้าอื่นก็ไม่มีเหตุผลที่ concrete พอเนื่องจากเหล็กที่ mcs ส่งให้ญี่ปุ่นนั้นเป็นเหล็กเกรดสูงมาก ช่างเชื่อมต้องมีใบอนุญาตของญี่ปุ่น การตรวจงานของลูกค้าเองก็เข้มงวดมาก เรื่องคุณภาพที่ mcs ผลิตส่งให้ก็ไม่ได้เป็นรองบริษัทที่ผลิตในญี่ปุ่นเอง แต่ราคาขายกลับถูกกว่า 10-15% ทำให้จุดขายสินค้าของ MCS ก็คือ "ถูกและดี" ลูกค้าที่ญี่ปุ่นเองก็คงไม่อยากไปซื้อที่อื่นหรอกครับ ส่วนข้อด้อยอย่างนึงจากการที่ลูกค้ามาสั่งซื้อของที่ไทย ก็เห็นจะเป็นเรื่องของสินค้ามีตำหนิ แก้แบบหรือจำเป็นต้องซ่อมแซม เนื่องจากเป็นสินค้าขนาดใหญ่มากจะขนกลับมาที่ไทยก็ไม่คุ้ม ทำให้ส่วนนี้ต้องให้เป็นส่วนลดกับลูกค้า แต่ดร. ชิเองก็เห็นถึงปัญหาจุดนี้จึงไปตั้ง service center ที่ญี่ปุ่นพร้อมที่จะเปิดเร็วๆนี้ ข้อด้อยจุดนี้ก็จะลดลงได้
ผมอาจจะเข้าข้างตัวเองมากไปหน่อย
แต่ผมก็ยังนึกถึงข้อเสียที่มีเหตุผลแข็งๆไม่ได้ซักที
เจอแต่ข้อด้อยที่คนมักจะบอกว่า เป็นหุ้นเหล็ก มีลูกค้ารายเดียว มี supplier รายเดียว
แต่ถ้ามีบริษัทที่มันสามารถปิดจุดอ่อนเหล่านี้ได้ ผมว่าข้อด้อยเพียงแค่นี้ผมก็เต็มใจที่จะซื้อครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 21
[quote="hot"]จริงคับ ถ้าลงทุนเพราะp/eต่ำเป็นเรื่องเหมือน
กับดับ
กับดับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 22
cei กำไรงามติดต่อกันสิบเอ็ดปี ราคาหุ้นเมื่อสามปีก่อนอยู่ที่ 30 กว่าบาท พอมีเรื่องกับลูกค้าราคาร่วงมาเหลือ 1 บาทกว่าๆ น่ากลัวมากเหมือนกันนะครับ p/e ที่เคยต่ำๆ กลับพลิกตาลปัตรหมด ติดลบด้วยซ้ำเพราะขาดทุน
เรื่องลูกค้าน้อยรายเป็นความเสี่ยงในระยะยาวที่น่ากลัวเหมือนกันครับ และยิ่งยาวยิ่งเสี่ยง(ผมเข้าใจว่าช่วงสั้นๆปีสองปี msc คงยังไม่ค่อยเสี่ยง)
ขนาดผัวเมียที่รักกันมากยังมีโอกาสทะเลาะกันและเลิกกัน บริษัทย่อมมีโอกาสเหมือนกันไม่วันใดก็วันหนึ่งในวันข้างหน้า
อย่างไรก็ตามทุกปัญหาย่อมมีทางแก้
ถามว่า ถ้าเกิด mcs มีปัญหากับคาจิมา mcs พอจะหาลูกค้าใหม่ได้ไหมครับ และบริษัทมีการหาช่องทางอื่นไว้หรือยังครับ
เรื่องลูกค้าน้อยรายเป็นความเสี่ยงในระยะยาวที่น่ากลัวเหมือนกันครับ และยิ่งยาวยิ่งเสี่ยง(ผมเข้าใจว่าช่วงสั้นๆปีสองปี msc คงยังไม่ค่อยเสี่ยง)
ขนาดผัวเมียที่รักกันมากยังมีโอกาสทะเลาะกันและเลิกกัน บริษัทย่อมมีโอกาสเหมือนกันไม่วันใดก็วันหนึ่งในวันข้างหน้า
อย่างไรก็ตามทุกปัญหาย่อมมีทางแก้
ถามว่า ถ้าเกิด mcs มีปัญหากับคาจิมา mcs พอจะหาลูกค้าใหม่ได้ไหมครับ และบริษัทมีการหาช่องทางอื่นไว้หรือยังครับ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 23
[quote="สามัญชน"]cei กำไรงามติดต่อกันสิบเอ็ดปี
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 24
metco อาจไม่ค่อยเสี่ยงเพราะว่าบริษัทแม่ถือหุ้นตั้ง 62 %
ส่วน mcs ถ้าคาจิมาถือหุ้นเยอะๆความเสี่ยงคงลดลงไป ไม่ทราบว่านายไนยวน ชิ 2 MR.CHING-PO CHI 3 MRS.YOKO KI มีส่วนเกี่ยวข้องกับคาจิมาไหม แต่ในงบการเงินไม่มีรายการที่เกี่ยวข้องกัน แปลว่าคงไม่เกี่ยวกับคาจิมา
ส่วน mcs ถ้าคาจิมาถือหุ้นเยอะๆความเสี่ยงคงลดลงไป ไม่ทราบว่านายไนยวน ชิ 2 MR.CHING-PO CHI 3 MRS.YOKO KI มีส่วนเกี่ยวข้องกับคาจิมาไหม แต่ในงบการเงินไม่มีรายการที่เกี่ยวข้องกัน แปลว่าคงไม่เกี่ยวกับคาจิมา
ถ้าเป็นจริงผมว่า mcs น่าสนใจมากครับจริงๆ ลูกค้ามีเยอะแต่ทำให้คาจิมา เจ้าเดียวก็แย่แล้ว ไม่ใช่มีลูกค้าแค่เจ้าเดียว แกว่างั้นนะ จริงๆไม่รู้เป็นยังไงเหมือนกันครับ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 25
ท่านกราวฮอกครับ บอกราคาบ่ได้ดอก เพราะนายตลาดเดาใจยาก
แตถ้านายตลาดหอบหุ้นมาขายในราคาเป็นมิตรก็ซื้อๆไว้ เอาเวลาเก็งราคาไม่กี่สตางค์ไปทำอย่างอื่นประเสริฐกว่าครับ
เรื่อง CEI ทำลูกค้าหาย.. อันนี้ผมคิดว่าเป็นการจงใจย้ายฐานครับ เพราะบริษัทแม่ของ CEI เป็นไต้หวัน พวกงานอิเลกทรอนิกส์ ไฟฟ้า ถือเป็นงานง่าย เท่าที่ผมประเมินดูกรรมวิธีประกอบพัดลม ก็มีงานไฟฟ้า งานตัวถัง งานสีและตกแต่ง ใช้เวลา 1-2 ไตรมาส ก็ย้ายการผลิตได้สมบูรณ์ครับ
ในขณะที่งานเหล็ก ดูจะเป็นงานหนักกว่ายากกว่า เหมือนคุณ yoyo บอก
เรื่องย้ายฐานการผลิต ผมยังไม่ทิ้งประเด็นเสียทีเดียว ยังสังเกตุเรื่องเงิน 500 ล้านบาทในMCS หากเอาไปซื้อกิจการที่อื่น โดยร่วมทุนกับบริษัทอื่น ..โดย MCS ถือหุ้นส่วนน้อย หรือไม่ได้รวมงบการเงิน... เป็นสัญญาณร้ายมากครับ
คำถามพี่สามัญชน ตอนนี้มีงานจาก บ.นันทวัน (ไทยโอบายาชิ) เข้ามาแล้วครับ
แตถ้านายตลาดหอบหุ้นมาขายในราคาเป็นมิตรก็ซื้อๆไว้ เอาเวลาเก็งราคาไม่กี่สตางค์ไปทำอย่างอื่นประเสริฐกว่าครับ
เรื่อง CEI ทำลูกค้าหาย.. อันนี้ผมคิดว่าเป็นการจงใจย้ายฐานครับ เพราะบริษัทแม่ของ CEI เป็นไต้หวัน พวกงานอิเลกทรอนิกส์ ไฟฟ้า ถือเป็นงานง่าย เท่าที่ผมประเมินดูกรรมวิธีประกอบพัดลม ก็มีงานไฟฟ้า งานตัวถัง งานสีและตกแต่ง ใช้เวลา 1-2 ไตรมาส ก็ย้ายการผลิตได้สมบูรณ์ครับ
ในขณะที่งานเหล็ก ดูจะเป็นงานหนักกว่ายากกว่า เหมือนคุณ yoyo บอก
เรื่องย้ายฐานการผลิต ผมยังไม่ทิ้งประเด็นเสียทีเดียว ยังสังเกตุเรื่องเงิน 500 ล้านบาทในMCS หากเอาไปซื้อกิจการที่อื่น โดยร่วมทุนกับบริษัทอื่น ..โดย MCS ถือหุ้นส่วนน้อย หรือไม่ได้รวมงบการเงิน... เป็นสัญญาณร้ายมากครับ
คำถามพี่สามัญชน ตอนนี้มีงานจาก บ.นันทวัน (ไทยโอบายาชิ) เข้ามาแล้วครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 26
[quote="jaychou"]
เรื่องย้ายฐานการผลิต ผมยังไม่ทิ้งประเด็นเสียทีเดียว ยังสังเกตุเรื่องเงิน 500 ล้านบาทในMCS หากเอาไปซื้อกิจการที่อื่น โดยร่วมทุนกับบริษัทอื่น
เรื่องย้ายฐานการผลิต ผมยังไม่ทิ้งประเด็นเสียทีเดียว ยังสังเกตุเรื่องเงิน 500 ล้านบาทในMCS หากเอาไปซื้อกิจการที่อื่น โดยร่วมทุนกับบริษัทอื่น
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 27
ผมมีเรื่องสงสัยอยู่เรื่อง
กำไรไตรมาสหนึ่ง ไม่เกิน70ล้าน
แต่มีเงินสะสม ไตรมาสละร้อยกว่าล้าน
กระแสเงินสดที่เพิ่มมาแต่ละไตรมาส
มากจากไหนหมายถึงส่วนต่างจากกำไร
และยอดกระแสเงินสดที่เพิ่มแบบนี้จะมีทุกไตรมาส
เลยหรือคับ
กำไรไตรมาสหนึ่ง ไม่เกิน70ล้าน
แต่มีเงินสะสม ไตรมาสละร้อยกว่าล้าน
กระแสเงินสดที่เพิ่มมาแต่ละไตรมาส
มากจากไหนหมายถึงส่วนต่างจากกำไร
และยอดกระแสเงินสดที่เพิ่มแบบนี้จะมีทุกไตรมาส
เลยหรือคับ
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 28
กระแสเงินสดส่วนหนึ่งได้มาจากการที่ supplier ให้เครดิตยาวมากครับ
ถ้าจำตัวเลขไม่ผิด supplier ให้เครดิตยาวกว่าที่ mcs ให้กับลูกค้าประมาณ 30 วันได้ครับ
เพราะงั้นเลยทำให้ยิ่งขยายงานเงินสดเลยยิ่งเยอะครับ
แต่ถามว่าจะเป็นแบบนี้ไปตลอดมั๊ย ก็คงต้องบอกว่า 500 ล้านที่ว่าจริงๆแล้วไม่ใช่ free cash ครับ จำเป็นจะต้องเอาไปจ่ายหนี้ที่ซื้อเหล็กเค้ามาด้วย
ส่วนเรื่องความเสี่ยงลูกค้ารายเดียวก็เป็นอย่างที่พี่คัดท้ายว่ามาจะครับ
คือดร.ชิแกถูกถามคำถามนี้บ่อยมากๆ ผมเองก็เป็นคนนึงที่ถาม
แกบอกว่าตอนนี้ทำให้ Kajima เจ้าเดียวก็ไม่พอแล้ว
แต่กำลังการผลิตที่จะเพิ่มอีก 10000 ตัน (ซึ่งจะทำให้ mcs มีกำลังการผลิตเป็นอันดับ 5 ในญี่ปุ่น) จะทำส่งให้กับลูกค้าเจ้าอื่น ซึ่งก็มี Takenaka(top5ของบริษัทก่อสร้างญี่ปุ่น) รอจะซื้ออยู่แล้ว
หรือถ้าเกิด worst case Kajima ไม่กินเส้นกับแกขึ้นมาไม่ซื้อของ mcs แล้ว
ก็ไม่น่าห่วงเพราะทุกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเหล็กประเภทนี้มีความต้องการอยู่ที่ 6-12 ล้านตัน การหาลูกค้าใหม่ไม่ใช่เรื่องยากเลย ปีล่าสุดอยู่ที่ 7 ล้านตันต่อปี กำลังการผลิตของรายใหญ่สุดอยู่ที่ 1แสนตันหรือประมาณ 1.4% ของความต้องการทั้งหมดเท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่มีใคร dominate ตลาดได้แท้จริง การที่ลูกค้าจะเลือกซื้อนั้น ปัจจัยเรื่องคุณภาพผ่านมาตรฐานและราคาเป็นปัจจัยสำคัญ
ตอนนี้กำลังการผลิต mcs 40000 ตัน ทำส่งให้ Kajima หมด แกบอกว่าต่อให้เพิ่มเป็น 1แสน แกก็มั่นใจว่า mcs มีลูกค้ารองรับอยู่แล้ว เพราะคุณภาพผ่านและราคาถูก
ขึ้นอยู่กับจะเชื่อเรื่องที่แกพูดรึเปล่าเท่านั้นเองครับ ถ้าเชื่อผมว่าไม่เสี่ยงเท่าไหร่ แต่ถ้าคิดว่าดร. แกโม้เกินจริงก็ไม่ควรซื้อ mcs ครับ 8)
ถ้าจำตัวเลขไม่ผิด supplier ให้เครดิตยาวกว่าที่ mcs ให้กับลูกค้าประมาณ 30 วันได้ครับ
เพราะงั้นเลยทำให้ยิ่งขยายงานเงินสดเลยยิ่งเยอะครับ
แต่ถามว่าจะเป็นแบบนี้ไปตลอดมั๊ย ก็คงต้องบอกว่า 500 ล้านที่ว่าจริงๆแล้วไม่ใช่ free cash ครับ จำเป็นจะต้องเอาไปจ่ายหนี้ที่ซื้อเหล็กเค้ามาด้วย
ส่วนเรื่องความเสี่ยงลูกค้ารายเดียวก็เป็นอย่างที่พี่คัดท้ายว่ามาจะครับ
คือดร.ชิแกถูกถามคำถามนี้บ่อยมากๆ ผมเองก็เป็นคนนึงที่ถาม
แกบอกว่าตอนนี้ทำให้ Kajima เจ้าเดียวก็ไม่พอแล้ว
แต่กำลังการผลิตที่จะเพิ่มอีก 10000 ตัน (ซึ่งจะทำให้ mcs มีกำลังการผลิตเป็นอันดับ 5 ในญี่ปุ่น) จะทำส่งให้กับลูกค้าเจ้าอื่น ซึ่งก็มี Takenaka(top5ของบริษัทก่อสร้างญี่ปุ่น) รอจะซื้ออยู่แล้ว
หรือถ้าเกิด worst case Kajima ไม่กินเส้นกับแกขึ้นมาไม่ซื้อของ mcs แล้ว
ก็ไม่น่าห่วงเพราะทุกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเหล็กประเภทนี้มีความต้องการอยู่ที่ 6-12 ล้านตัน การหาลูกค้าใหม่ไม่ใช่เรื่องยากเลย ปีล่าสุดอยู่ที่ 7 ล้านตันต่อปี กำลังการผลิตของรายใหญ่สุดอยู่ที่ 1แสนตันหรือประมาณ 1.4% ของความต้องการทั้งหมดเท่านั้น เพราะฉะนั้นไม่มีใคร dominate ตลาดได้แท้จริง การที่ลูกค้าจะเลือกซื้อนั้น ปัจจัยเรื่องคุณภาพผ่านมาตรฐานและราคาเป็นปัจจัยสำคัญ
ตอนนี้กำลังการผลิต mcs 40000 ตัน ทำส่งให้ Kajima หมด แกบอกว่าต่อให้เพิ่มเป็น 1แสน แกก็มั่นใจว่า mcs มีลูกค้ารองรับอยู่แล้ว เพราะคุณภาพผ่านและราคาถูก
ขึ้นอยู่กับจะเชื่อเรื่องที่แกพูดรึเปล่าเท่านั้นเองครับ ถ้าเชื่อผมว่าไม่เสี่ยงเท่าไหร่ แต่ถ้าคิดว่าดร. แกโม้เกินจริงก็ไม่ควรซื้อ mcs ครับ 8)
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
MCS จ๋า...............จะลงถึงเมื่อไรจ๊ะ
โพสต์ที่ 30
ใช่จุดสำคัญที่เข้าตลาดมาหรือเปล่าคับแกบอกว่าต่อให้เพิ่มเป็น 1แสน แกก็มั่นใจว่า mcs มีลูกค้ารองรับอยู่แล้ว
เพราะ ที่ผ่านมา ยังไม่ยอมเพิ่มการผลิต
แต่พอเข้าตลาดมา
ต่อให้เพิ่มการผลิตเป็น1 แสนตัน
เข้าตลาดมาทำให้อินเมจของบริษัท
เปลี่ยนขนาดนั้นเลยหรือคับ