หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 1
หุ้นตัวนี้คือ UEC หรือ ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง
ผมมองว่าราคาน่าสนใจ ความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ
เป็นหนึ่งในหุ้นของคุณไพบูลย์ เฉลิมทรัพยากร
อดีตเจ้าของ UGP ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ UMS UECมุมมองธุรกิจท่านค่อนข้างน่าสนใจ คล้ายๆกับแนว VI
เท่าที่อ่านจุดเด่นน่าจะเป็นอย่างนี้..
1.เป็นผู้นำอุตสหกรรม มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คู่แข่งเข้ามาได้ยาก ไม่สามารถใช้ราคาแข่งขึ้นได้ เพราะมีประเด็นเรื่องความปลอดภัยเข้ามาเกี่ยวข้อง (ลูกค้าคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัย มากกว่าราคา) และก่อตั้งบริษัทมาแล้วอย่างยาวนาน
2.กำไรขยายตัวทุกปี ได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมพลังงานซึ่งมีความผันผวนต่ำ นอกจากนั้นยังรับประโยชน์จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สารพัดโครงการ ที่กำลังจะสร้างโรงงาน
3.ผู้ถือหุ้นมีวิสัยทัศน์ มีการคานอำนาจอยู่ในตัว
4.กระแสเงินสดค่อนข้างดีมาก ไม่ต้องการเงินหมุนเวียนมาก ไม่มีหนี้เงินกู้ แต่มีเงินสดถึง 130 ล้าน ไม่รวมเงินระดมทุน หากรับเงินขายหุ้นจะมีเงินสดประมาณ 460 ล้าน หรือ 3 บาทต่อหุ้น (ราคาหุ้นในตลาด 6.3 บ.)
5.จากเงินสดที่มี คาดว่าจะจ่ายปันผลหนัก
6. พีอีต่ำ
7.สภาพคล่องของหุ้นค่อนข้างดี (มูลค่าตลาดสูงสุดใน mai) เจ้าของ ลูกสาว ลูกชาย เก็บหุ้นเข้าพอร์ตหลายครั้ง
8.ปีหน้า จ่ายภาษีลดลง เพราะเข้าตลาด mai
จุดด้อย คือ กำไรปีนี้สูงกว่าปกติ เพราะมีสัญญาขายสินค้าในตอนที่ราคาเหล็กแพง แต่ตอนผลิตส่งมอบ ราคาเหล็กลดลง
มีเพื่อนๆสนใจตัวนี้บ้างใหมครับ
มีประเด็นอะไรที่ต้องคำนึงถึงอีกหรือเปล่า
ผมมองว่าราคาน่าสนใจ ความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ
เป็นหนึ่งในหุ้นของคุณไพบูลย์ เฉลิมทรัพยากร
อดีตเจ้าของ UGP ปัจจุบันผู้ถือหุ้นใหญ่ UMS UECมุมมองธุรกิจท่านค่อนข้างน่าสนใจ คล้ายๆกับแนว VI
เท่าที่อ่านจุดเด่นน่าจะเป็นอย่างนี้..
1.เป็นผู้นำอุตสหกรรม มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน คู่แข่งเข้ามาได้ยาก ไม่สามารถใช้ราคาแข่งขึ้นได้ เพราะมีประเด็นเรื่องความปลอดภัยเข้ามาเกี่ยวข้อง (ลูกค้าคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัย มากกว่าราคา) และก่อตั้งบริษัทมาแล้วอย่างยาวนาน
2.กำไรขยายตัวทุกปี ได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมพลังงานซึ่งมีความผันผวนต่ำ นอกจากนั้นยังรับประโยชน์จากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สารพัดโครงการ ที่กำลังจะสร้างโรงงาน
3.ผู้ถือหุ้นมีวิสัยทัศน์ มีการคานอำนาจอยู่ในตัว
4.กระแสเงินสดค่อนข้างดีมาก ไม่ต้องการเงินหมุนเวียนมาก ไม่มีหนี้เงินกู้ แต่มีเงินสดถึง 130 ล้าน ไม่รวมเงินระดมทุน หากรับเงินขายหุ้นจะมีเงินสดประมาณ 460 ล้าน หรือ 3 บาทต่อหุ้น (ราคาหุ้นในตลาด 6.3 บ.)
5.จากเงินสดที่มี คาดว่าจะจ่ายปันผลหนัก
6. พีอีต่ำ
7.สภาพคล่องของหุ้นค่อนข้างดี (มูลค่าตลาดสูงสุดใน mai) เจ้าของ ลูกสาว ลูกชาย เก็บหุ้นเข้าพอร์ตหลายครั้ง
8.ปีหน้า จ่ายภาษีลดลง เพราะเข้าตลาด mai
จุดด้อย คือ กำไรปีนี้สูงกว่าปกติ เพราะมีสัญญาขายสินค้าในตอนที่ราคาเหล็กแพง แต่ตอนผลิตส่งมอบ ราคาเหล็กลดลง
มีเพื่อนๆสนใจตัวนี้บ้างใหมครับ
มีประเด็นอะไรที่ต้องคำนึงถึงอีกหรือเปล่า
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 3
ต้องภาวนาให้อุตสาหกรรมพลังงานและปิโตรเคมีขยายตัวต่อเนื่อง
และราคาเหล็กไม่พุ่งขึ้นเหมือนที่เคย ไม่งั้นก็แป๊ปดีๆนี่เอง..อาจจะดีกว่าแป๊ปตรงที่ไม่ต้องกู้เงินมาเพิ่มสินค้าคงคลังนะครับ
คงต้องดูงานในมือที่จะส่งมอบในปีหน้าเป็นปัจจัยครับ
และราคาเหล็กไม่พุ่งขึ้นเหมือนที่เคย ไม่งั้นก็แป๊ปดีๆนี่เอง..อาจจะดีกว่าแป๊ปตรงที่ไม่ต้องกู้เงินมาเพิ่มสินค้าคงคลังนะครับ
คงต้องดูงานในมือที่จะส่งมอบในปีหน้าเป็นปัจจัยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 4
เท่าที่ดู ราคาเหล็กที่ผันผวนไม่ค่อยมีผลกับกำไรเท่าไหร่
ต้องไปถามดูว่า มี hedging ไว้หรือไม่
ความเสี่ยงคือ ผู้บริหารมีหลายคน เก่งๆ ทั้งนั้น
คุณไพบูลย์เองก็ถือหุ้นอย่างเดียว ไม่ได้ลง detail
ราคา 5.60 น่าซื้อมาก ผมตกรถไปอย่างน่าเจ็บใจ :'O
ต้องไปถามดูว่า มี hedging ไว้หรือไม่
ความเสี่ยงคือ ผู้บริหารมีหลายคน เก่งๆ ทั้งนั้น
คุณไพบูลย์เองก็ถือหุ้นอย่างเดียว ไม่ได้ลง detail
ราคา 5.60 น่าซื้อมาก ผมตกรถไปอย่างน่าเจ็บใจ :'O
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 5
ผมคาดการณ์ปันผลสนุกๆ
คาดว่าจะจ่ายในช่วง 0.5-1 บ.
หากคิดที่ค่าเฉลี่ย 0.75 บาท
ผู้ถือหุ้นจะได้รับผลตอบแทนเงินปันผลรวมเครดิตภาษี 17% ภายใน 2-3 เดือนไม่เกินนี้ หากคนที่เสียภาษีฐาน 10% ก็ยังได้รับผลตอบแทน 16% ภายในเวลาสั้นๆ และที่จริงบริษัทสามารถจ่ายปันผล 1 บ. โดยที่ไม่ต้องใช้เงินจาก ipo เลยครับ
คาดว่าจะจ่ายในช่วง 0.5-1 บ.
หากคิดที่ค่าเฉลี่ย 0.75 บาท
ผู้ถือหุ้นจะได้รับผลตอบแทนเงินปันผลรวมเครดิตภาษี 17% ภายใน 2-3 เดือนไม่เกินนี้ หากคนที่เสียภาษีฐาน 10% ก็ยังได้รับผลตอบแทน 16% ภายในเวลาสั้นๆ และที่จริงบริษัทสามารถจ่ายปันผล 1 บ. โดยที่ไม่ต้องใช้เงินจาก ipo เลยครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 7
ถ้าเงินได้ไม่ถึงฐานที่ต้องเสียภาษี จะเครดิตภาษีคืนได้ 43% ของเงินปันผลครับ แต่หากเสียภาษี 10% จะได้เครดิตคืน 33%hot เขียน:ตกลงหุ้นตัวนี้ปันผลเครดิตภาษีได้ใช่ไหมคับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 8
UEC ต่างกับ PAP พอสมควรครับ
เพราะว่า
1.ต้นทุนเหล็กคิดเป็นแค่ 22-43% ของต้นทุนสินค้าเท่านั้นเองสำหรับ UEC ในขณะที่ PAP ต้นทุนเหล็กคิดเป็น 87-89% ของต้นทุนรวม ที่เป็นอย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะว่า UEC ผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากกว่า ในขณะที่ PAP แปรรูปอย่างง่ายๆ ทำให้มีต้นทุนวัตถุดิบสูง
2.สินค้าของ PAP ส่วนใหญ่แข่งขันกันที่ราคา ในขณะที่สินค้า UEC เป็น made to order ซึ่งลูกค้าจะคำนึงถึงมาตรฐานก่อนเรื่องราคา
และแม้ในปีทีผ่านมา ราคาเหล็กจะเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ แต่ UEC ก็ยังมีกำไรสุทธิเฉลี่ยที่ 11.5 % (ไม่รวมการตัดขาดทุน 32 ล. จากโครงการระยะยาว เนื่องจากวัตถุดิบราคาสูงขึ้น) หากไม่รวมรายการนี้ กำไรปกติจะสูงกว่า 11.5%
จาก 56-1
ในช่วงตั้งแต่ปี 48-52 จะเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมี มีการขยายกำลังการผลิตเป็นจำนวนมาก ส่งผลดีต่อ UEC แต่อย่างไรก็ตามรายได้ส่วนนี้คิดเป็นแค่ประมาณ 20% ของรายได้รวม
รายได้ที่มีสัดส่วนมากกว่า 50% คือจากอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่เป็นวัฎจักรชัดเจนเหมือนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ทำให้มีความมั่นคงของรายได้มากกว่า
เพราะว่า
1.ต้นทุนเหล็กคิดเป็นแค่ 22-43% ของต้นทุนสินค้าเท่านั้นเองสำหรับ UEC ในขณะที่ PAP ต้นทุนเหล็กคิดเป็น 87-89% ของต้นทุนรวม ที่เป็นอย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะว่า UEC ผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มมากกว่า ในขณะที่ PAP แปรรูปอย่างง่ายๆ ทำให้มีต้นทุนวัตถุดิบสูง
2.สินค้าของ PAP ส่วนใหญ่แข่งขันกันที่ราคา ในขณะที่สินค้า UEC เป็น made to order ซึ่งลูกค้าจะคำนึงถึงมาตรฐานก่อนเรื่องราคา
และแม้ในปีทีผ่านมา ราคาเหล็กจะเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ แต่ UEC ก็ยังมีกำไรสุทธิเฉลี่ยที่ 11.5 % (ไม่รวมการตัดขาดทุน 32 ล. จากโครงการระยะยาว เนื่องจากวัตถุดิบราคาสูงขึ้น) หากไม่รวมรายการนี้ กำไรปกติจะสูงกว่า 11.5%
จาก 56-1
ในช่วงตั้งแต่ปี 48-52 จะเป็นช่วงที่อุตสาหกรรมปิโตรเคมี มีการขยายกำลังการผลิตเป็นจำนวนมาก ส่งผลดีต่อ UEC แต่อย่างไรก็ตามรายได้ส่วนนี้คิดเป็นแค่ประมาณ 20% ของรายได้รวม
รายได้ที่มีสัดส่วนมากกว่า 50% คือจากอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งมีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่เป็นวัฎจักรชัดเจนเหมือนอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ทำให้มีความมั่นคงของรายได้มากกว่า
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 10
แก้เป็น รวมรายการตัดขาดทุน ครับ(ไม่รวมการตัดขาดทุน 32 ล. จากโครงการระยะยาว เนื่องจากวัตถุดิบราคาสูงขึ้น)
สินค้าของ UEC ค่อนข้างหลากหลายครับ
1.สินค้าภาชนะความดัน เช่น ถังแก็ส ถังน้ำมัน แอมโมเนีย ไนโตรเจน CO2
2.ชิ้นส่วนเครื่องจักร เช่นชิ้นส่วนเตาเผา ปล่องไอเสีย เสื้อพัดลม
3.โครงสร้างเหล็ก เช่น โครงโรงงาน คาน เหล็กรับท่อ
4.ถังเก็บสารเคมี เช่น ถังเก็บน้ำมันขนาดยักษ์ ไซโลเม็ดพลาสติค
5.การติดตั้งเครื่องจักร เน้นการติดตั้งท่อ และอุปกรณ์ขุดน้ำมัน
โครงการใหม่..
1.โครงสร้างเหล็กเพิ่มเติม
2.อุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อน Heat Exchanger
3.ภาชนะความดันสูง High pressure vessel
4.ถังแก็ส NGV
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 11
เหล้าใหม่ในขวดเก่า
มารู้จักกับคุณไพบูลย์ให้มากขึ้นครับ
มารู้จักกับคุณไพบูลย์ให้มากขึ้นครับ
จากประสบการณ์ที่ไพบูลย์มีความสามารถในการอ่านขาด ว่าบริษัทจะมีศักยภาพในการเติบโตต่อไป ทำให้อดไม่ได้ที่จะถามถึงหลักในการเข้าซื้อกิจการที่เป็นสไตล์ไพบูลย์ ซึ่งการเข้าลงทุนในธุรกิจใดๆ ก็แล้วแต่ ไพบูลย์จะดูว่าธุรกิจที่กำลังจะเข้าไปนั้น มีศักยภาพมากน้อยแค่ไหนจากนี้ไปอีก 5 ปีข้างหน้า และมองย่อยถึงปีหน้าธุรกิจนี้จะไปในทิศทางไหน และอีก 6เดือนข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
สาเหตุที่มีการมองโอกาสทางธุรกิจเพียง 5 ปีนั้น เป็นเพียงการตั้งเป้าหมายที่จะให้เห็นภาพที่มีความชัดเจนขึ้นบ้าง แต่ในความเป็นจริงแล้วจะต้องมีการมองยาวไปถึง 10 ปีขึ้นไป เพียงแต่ว่าการมอวงจรของธุรกิจในช่วงสั้น
กว่าจะเห็นอะไรได้ชัดเจนมากกว่าการมองสิ่งที่อยู่ห่างออกไป "การโฟกัสภาพการทำธุรกิจจากนี้ไปอีก 5 ปีข้างหน้า ทำให้ผมมองเห็นภาพเบลอๆว่าธุรกิจที่ซื้อมานี้เป็นเพศชายหรือเพศหญิง ถ้าสามารถเห็นอย่างนั้นแล้ว จะทำให้ง่ายต่อการบริหารธุรกิจ ซึ่งทั้งสองลักษณะบุคลิกก็จะมีความแตกต่างกันไปด้วย นโยบายของบริษัทก็จะไม่เหมือนกัน"
ไพบูลย์ยอมรับว่า การซื้อเข้าไปลงทุนในธุรกิจใดก็ตาม ไม่ได้ดูแค่ว่า เป็นบริษัทที่มีผลขาดทุน เพื่อที่จะได้หักคอซื้อมาในราคาที่ถูก หรือเพื่อที่จะนำมาปั้นและให้พลิกฟื้นกลับมาเป็นกำไร อย่างที่หลายๆ คนนิยมทำกันในปัจจุบัน ซึ่งแบบนี้ไม่ใช่สไตล์ของไพบูลย์ สำหรับหัวใจสำคัญด้านการลงทุนของไพบูลย์ จะอยู่ที่การมองโอกาสทางธุรกิจในอนาคตถึงแม้จะซื้อมาในราคาสูง แต่ถ้าเขามองเห็นสิ่งนั้นเมื่อไร มักจะไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปเฉยๆ โดยที่ไม่ทำอะไรชีวิตการลงทุนของไพบูลย์ จะผูกติดอยู่กับธุรกิจพลังงานเป็นหลักเนื่องจากนิสัยส่วนตัวที่มีความชอบ ในสายอุตสาหกรรมพลังงานเป็นอย่างมาก เช่น เริ่มตั้งแต่ UGPมาถึง UMS และล่าสุด UEC ซึ่ง 3 U ที่ไพบูลย์ปั้นขึ้นมาล้วน จะอยู่ในสายพลังงานทั้งนั้น และไม่เคยออกนอกสายเลย
"คนเราไม่ได้เก่งทุกอย่าง ผมก็ถนัดที่อยู่ในสายพลังงาน ถ้าให้ไปลงทุนธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่สิ่งที่ชอบ ผมก็จะไม่ไป เพราะถือว่าเป็นความเสี่ยงที่มากอย่างหนึ่งของการทำธุรกิจการเข้าไปซื้อกิจการในหมวดรีแฮปโก้ที่มีคนนิยมทำกัน แต่สำหรับผมไม่ถนัด เพราะไม่รู้ลึกซึ้งถึงข้างในว่ามีอะไรอยู่บ้าง "
สูตรสำเร็จการลงทุน โมเดลที่อยู่ในสมองของไพบูลย์ จะมีความแตกต่างจากนักเทคโอเวอร์กิจการรายอื่นๆที่มักทำกัน คือการตั้งเป้าในสิ่งที่จะรีเทิร์นกลับมา เม็ดเงินที่จะได้กลับคืนมาหลังการลงทุนซึ่งไพบูลย์กล่าวว่า การคิดเป็นนี้จะทำให้คุณมองไม่เห็นโอกาสหรือความเสี่ยงต่างๆ ของธุรกิจที่เข้าไปลงทุน เพราะความคิดจะถูกจับจองอยู่ที่ผลตอบแทนที่จะกลับมา และความเฟ้อฝันที่ว่าจะต้องได้รับผลตอบแทนในระดับสูงกว่าการลงทุน เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่จะหลุดออกมาจากมันสมองของคนที่ชื่อไพบูลย์ อย่างแน่นอน สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของไพบูลย์จะเป็นอะไรที่พื้นฐานมากๆ ซึ่งหลายคนฟังแล้วอาจจะหัวเราะ ในความคิดของเขา เนื่องจากเป็นสิ่งที่ทุกคนๆ รู้กันอยู่แล้ว และเป็นสิ่งที่ทุกคนคิดได้ คิดออก แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้ตามที่คิดหรือไม่ อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง สิ่งแรกที่จะต้องนำมาเป็นประเด็นแรก หลังจากที่มีคนชักชวนให้เข้าไปลงทุนในบริษัทนั้นๆ คือ อนาคตของบริษัทมีมากแค่ไหน ปัจจัยความเสี่ยงมีมากเท่าไร ความเสี่ยงที่มองไม่เห็นที่อาจจะเกิดขึ้นกับธุรกิจและบริษัทคืออะไร รวมถึงความผิดพลาดในการทำธุรกิจจะเกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง
"การทำธุรกิจ ไม่มีคำว่าฟลุ๊ค ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่บนพื้นฐาน หว่านเมล็ดข้าวลงไปในดิน ก็เกิดขึ้นมาเป็นต้นข้าว ไม่มีออกมาเป็นส้มโอ ทุกอย่างเป็นไปตามหลักเหตุและผลซึ่งผลของปัจจุบันคือเหตุของอดีตที่เคยกระทำไว้"
ทั้งนี้เป็นที่แน่นอนเลยว่า การประเมินความเสี่ยง การวิเคราะห์สิ่งต่างๆ จะต้องมีทีมงานที่ดี ซึ่งไพบูลย์ก็ยอมรับว่า ไม่ได้ทำคนเดียว ต้องมีทีม ซึ่งทีมที่เป็นมือให้กับไพบูลย์นั้น คงไม่ใช่ใครอื่นไกล คือบรรดาลูกทั้ง 3 คนของไพบูลย์นั่นเอง ซึ่งแต่ละคนก็มีความสามารถเฉพาะด้านที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งจบบัญชีMBA ประกันภัย MBA และ FS การลงทุนแต่ละครั้งของไพบูลย์ไม่จำเป็นต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารงานด้วยและกล้าบอกว่าไม่จำเป็น จะขอก็เพียงแต่ที่นั่งในฐานะกรรมการของบริษัท เพื่อต้องที่จะรับรู้อะไรบ้างอย่างของบริษัทนั้น รวมถึงการให้ความคิดเห็นอะไรบ้างอย่างที่ผู้บริหารของบริษัทนั้นฟัง และนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์กับบริษัท "ผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องเข้าไปบริหารงานในบริษัทที่เข้าไปลงทุน ขอเพียงแค่ดูที่นโยบายหลักของบริษัท รวมถึงผู้บริหารในองค์กรนั้น ต้องพูดภาษาเดียวกัน ซึ่งก็เปรียบเหมือนการแต่งงานกัน ไม่สวยไม่เป็นไร ถ้าคุยกันรู้เรื่อง แต่ถ้าสวยแล้วคุยไม่รู้เรื่องแบบนี้ก็คงไม่" ไพบูลย์กล่าวย้ำว่า การพูดจาเข้าใจกันกับผู้บริหารในองค์กรเป็นสิ่งที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ ที่ทำให้ไม่ต้องเข้าไปร่วมบริหาร ถ้านโยบายความคิดอ่าน หรือวัฒนธรรมการทำงานของผู้บริหารไม่ต่างกันมากนัก คงจะไปด้วยกันได้ อย่างไรก็ตาม ก็มีอยู่บ่อยครั้งที่ไพบูลย์เคยเข้าไปคิดจะลงทุนในองค์กรหนึ่ง แต่ด้วยความคิดเห็นไม่ตรงกัน นโยบายที่ไปด้วยกันไม่ได้ ทำให้มีการถอยหลังออกมาก็มีอยู่หลายครั้งเมื่อกัน เหล่านี้เป็นสไตล์การลงทุนอีกข้อหนึ่งของไพบูลย์
ไพบูลย์ยอมรับว่า เขาไม่ใช่ผู้ก่อตั้ง UEC ซึ่งผู้ก่อตั้ง คือ นายไทยลักษณ์ ลี้ถาวร นายนิตย์ พู่พิทยาสถาพร และนายหลู ชุน ยัง ซึ่งเป็นวิศวกรชาวไต้หวัน เมื่อปี 2525 โดยในช่วงปี 2532 ไพบูลย์ ก็เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของบริษัท เนื่องด้วยเพราะบริษัทมีปัญหาด้านสถานะทางการเงิน
"ตอนนั้นที่ผมเข้ามาลงทุนในUEC วันแรกที่ผมเข้ามา ผมมองว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทที่มีศักยภาพที่ดี ถึงแม้จะมีผลการดำเนินงานขาดทุน ประกอบกับตอนนั้นผู้ถือหุ้นใหญ่ก็ต้องการขายหุ้น ผมเลยซื้อขึ้นมา และผมไม่เคยจะไปเทคโอเวอร์บริษัทไหนเลย จะมีเพียงแต่ผู้ถือหุ้นต้องการขายออกมาเท่านั้น ผมไม่ถนัดเทคโอเวอร์"ไพบูลย์ เป็นนักบริหารที่ไม่เคยทำให้นักลงทุนที่ถือหุ้นบริษัทเจ็บตัว ซึ่งตัวอย่างจากอดีต UGP เป็นสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดี รวมถึงปัจจุบันที่ UMS เป็นบริษัทอันดับ 1 ที่มีรายได้และกำไรสุทธิสูงสุดในตลาด mai ชื่อไพบูลย์คงจะทำให้นักลงทุนสนใจที่จะเข้าลงทุนใน UEC ที่กำลังจะเข้าเทรดด้วยเช่นกัน
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 222
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 12
ราคาขายนี่จะตามราคาเหล็กเหรอครับ? งั้น UEC ก็คงจะผลักภาระต้นให้ลูกค้าได้เหมือนกันเนอะ แต่ที่บอกตอนส่งมอบราคาเหล็กลดลง งี้ก็หมายความว่าหลังทำสัญญานี่กว่าจะส่งมองก็ทิ้งช่วงซักพักเลยใช่มั้ยครับ?จุดด้อย คือ กำไรปีนี้สูงกว่าปกติ เพราะมีสัญญาขายสินค้าในตอนที่ราคาเหล็กแพง แต่ตอนผลิตส่งมอบ ราคาเหล็กลดลง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 14
จากหนังสือชี้ชวนอีกเช่นเคยครับUnexpected เขียน: ราคาขายนี่จะตามราคาเหล็กเหรอครับ? งั้น UEC ก็คงจะผลักภาระต้นให้ลูกค้าได้เหมือนกันเนอะ แต่ที่บอกตอนส่งมอบราคาเหล็กลดลง งี้ก็หมายความว่าหลังทำสัญญานี่กว่าจะส่งมองก็ทิ้งช่วงซักพักเลยใช่มั้ยครับ?
ปกติเมื่อบริษัททำสัญญากับลูกค้า จะใช้ราคาเหล็กในตลาดขณะนั้นคำนวณเป็นต้นทุนและบวกกำไรที่ต้องการ หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสัญญาได้อีกแล้วครับ (เว้นแต่สัญญาเขียนไว้) ดังนั้นหากราคาวัตถุดิบเปลี่ยนไป จะมีความเสี่ยงดังนี้ครับ
1.สัญญา 3-6 เดือน UEC จะซื้อวัตถุดิบเหล็กไว้ประมาณ 80% ของความต้องการใช้ ทำให้มีความเสี่ยงค่อนข้างน้อย สัญญาระยะสั้นนี้มีสัดส่วนประมาณ 30%
2.สัญญา 6 ด.-1 ปี ต้องอาศัยประสบการณ์ของผู้บริหารในการจัดซื้อวัตถุดิบ สัญญาระยะกลางนี้ มีสัดส่วน 50%
3.สัญญา 1 ปีขึ้นไป จะมีความเสี่ยงที่สุด มีสัดส่วนประมาณ 15% ปีที่ผ่านมาบริษัทขาดทุน 32 ล.เพราะต้นทุนสูงขึ้น (cost overrun) ก็จากโครงการระยะยาวนี้ละครับ
สาเหตที่ไม่ซื้อวัตถุดิบทั้งหมดไว้ เพราะต้องใช้เงินทุนหมุนเวียน และสถานที่เก็บมาก ปกติเมื่อทำสัญญา ลูกค้าจะจ่ายมัดจำ 10% และเมื่อต้องซื้อวัตถุดิบ จะจ่ายให้อีก 30% ของจำนวนเงินตามสัญญา
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 15
ผมสงสัยว่าทำไมกำไรของงานตามสัญญา
ในงบ Q3/48 สูงถึง 33% แต่ในขณะที่กำไรของ Q3/47 ต่ำเพียง 17%
เรื่องเงินสดสุทธิ 134 ล้าน อย่าลืมลบเจ้าหนี้กรมสรรพากรและค่าใช้จ่ายค้างจ่ายออก 55 ล้านนะครับ ส่วนเงินฝากประจำ 68 ล้านเป็นเงินค้ำประกันวงเงินสินเชื่อ
[quote]5. สินทรัพย์ใช้เป็นหลักประกันวงเงินสินเชื่อ
ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 และ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 บริษัทมีวงเงินสินเชื่อจากธนาคารในประเทศหลายแห่งจำนวนเงินรวม 328.5 ล้านบาท ซึ่งค้ำประกันด้วยการจำนองที่ดิน อาคารโรงงาน เครื่องจักรและอุปกรณ์
ในงบ Q3/48 สูงถึง 33% แต่ในขณะที่กำไรของ Q3/47 ต่ำเพียง 17%
เรื่องเงินสดสุทธิ 134 ล้าน อย่าลืมลบเจ้าหนี้กรมสรรพากรและค่าใช้จ่ายค้างจ่ายออก 55 ล้านนะครับ ส่วนเงินฝากประจำ 68 ล้านเป็นเงินค้ำประกันวงเงินสินเชื่อ
[quote]5. สินทรัพย์ใช้เป็นหลักประกันวงเงินสินเชื่อ
ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 และ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 บริษัทมีวงเงินสินเชื่อจากธนาคารในประเทศหลายแห่งจำนวนเงินรวม 328.5 ล้านบาท ซึ่งค้ำประกันด้วยการจำนองที่ดิน อาคารโรงงาน เครื่องจักรและอุปกรณ์
-
- Verified User
- โพสต์: 43
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 16
ท่านได้คิดไหมว่าการที่ UEC จ่ายเงินปันผล1 บาท ก่อนเข้าเทรดในตลาด ไม่ถือว่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้ถือหุ้นที่ซื้อในราคา IPO หรือ ผมติดใจประเด็นนี้อย่างเดียว ส่วนอื่นของ UEC นับว่าดีทีเดียว งบการเงินสะอาดและดูมั่นคงดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 17
ผมสงสัยว่าทำไมกำไรของงานตามสัญญา
ในงบ Q3/48 สูงถึง 33% แต่ในขณะที่กำไรของ Q3/47 ต่ำเพียง 17%
คิดว่าน่าจะเป็นเพราะการบันทึกต้นทุนวัตถุดิบสูงกว่าประมาณการจำนวน 32 ลบ.ครับ เพราะกำไรเฉลี่ยทั้ง 4 ไตรมาสเป็น 22.5% (รวมขาดทุน 32ลบ.แล้ว) จะเห็นได้ว่าปกติแล้ว UEC มีกำไรขั้นต้นค่อนข้างสูงครับ อาจจะเป็นธรรมชาติของธุรกิจนี้
ขาดทุน 32 ลบ. เกิดจากสัญญาระยะยาว 3 ปีที่บริษัททำไว้ปี 2545 ก่อนที่ราคาเหล็กจะเพิ่มขึ้นอย่างมากใน 1-2 ปีนี้ ทำให้เกิดผลขาดทุน แต่ในอนาคตคาดว่าจะเกิดขึ้นน้อยลงเพราะผู้บริหารมีประสบการณ์แล้ว
ไปอ่านงบดุลอีกรอบ ได้เจอข้อมูลใหม่ว่า ที่จริง UEC มีเงินสดสุทธิ 200 ลบ. ครับ (ไม่รวมเงิน ipo 320 ลบ. แต่รวมเงิน 68 ลบ. ด้วยเพราะ UEC ยังไม่เบิกเงินกู้เลยครับ) และที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นทั้งบริษัทมีหนี้แค่ 200 ลบ. เป็นหนี้สินหมุนเวียนเท่านั้น ไม่มีหนี้ระยะยาวเลย แค่เงินสดที่มีก็เท่ากับหนี้แล้ว :shock: ไม่รวมสินทรัพย์หมุนเวียนประมาณ 500 ลบ. ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้>> near cashเรื่องเงินสดสุทธิ 134 ล้าน อย่าลืมลบเจ้าหนี้กรมสรรพากรและค่าใช้จ่ายค้างจ่ายออก 55 ล้านนะครับ ส่วนเงินฝากประจำ 68 ล้านเป็นเงินค้ำประกันวงเงินสินเชื่อ
การที่ไม่นำเงินสดไปลบหนิ้สินหมุนเวียน เพราะปกติบริษิทส่วนใหญ่จะมีสินทรัพย์หมุนเวียนที่จะนำไปหักลบกับหนี้สินหมุนเวียนไปอยู่แล้ว กรณี UEC หากไม่รวมเงินสด สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นๆ ก็มากกว่าหนี้ทั้งบริษัทถึง 2 เท่า!!
ลองเปรียบเทียบกันตัวอื่นๆที่คล้ายๆกัน คือ MCS
MCS มีเงินสดประมาณ 500 ล้าน (รวมเงิน ipo) มีสินทรัพย์หมุนเวียนอื่นๆประมาณ 800 ล้าน แต่มีหนี้สินหมุนเวียนถึง 1,000 ลบ. ดังนั้นเงินสดของ MCS ต้องนำไปจ่ายหนี้หลายส่วนครับ ไม่ใช่เงินสดปราศจากพันธะอย่าง UEC
ประเด็นนี้ผมเพิ่งทราบเหมือนกันครับ ผู้บริหารคงชั่งใจแล้วครับว่า เข้าระดมทุนในตลาดคุ้มกว่าการกู้เงินแบงค์ เพราะประหยัดทั้งดอกเบี้ยและได้ลดภาษี 10% แลกกับการเสียความเป็นเจ้าของบริษัท 30%5. สินทรัพย์ใช้เป็นหลักประกันวงเงินสินเชื่อ
ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 และ วันที่ 31 ธันวาคม 2547 บริษัทมีวงเงินสินเชื่อจากธนาคารในประเทศหลายแห่งจำนวนเงินรวม 328.5 ล้านบาท ซึ่งค้ำประกันด้วยการจำนองที่ดิน อาคารโรงงาน เครื่องจักรและอุปกรณ์ เงินฝากธนาคารประมาณ 60 ล้านบาท ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 และวันที่ 31 ธันวาคม 2547 และค้ำประกันโดยกรรมการบางท่าน
หุ้นจะดีหรือไม่ดี ก็มีเหตุมีผลความเป็นจริงตามพื้นฐานของกิจการครับ ไม่ใช่เพราะมีใครมาพูดว่าหุ้นตัวนี้ดีหรือไม่ดี และผมแค่เสนอทางเลือกให้เพื่อนๆ เท่านั้นนะครับ โดยไม่ต้องสนใจหรอกครับ ว่าผมจะมีหุ้นอยู่หรือเปล่า อ่าน ฟัง แล้วใช้วิจารณญาณของตัวเองนะครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 18
อันนี้เข้าใจได้ไม่ยากครับ คือส่วนใหญ่กว่าที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทจะก่อตั้ง ดำเนินกิจการ อาจจะเคยล้มลุกคลุกคลาน ต้องต่อสู้ฟันฝ่าสารพัด กว่าบริษัทจะเติบโต มั่นคง จนเข้ามาจดทะเบียนได้ บริษัทเหล่านี้อาจจะมีเงินสดหรือกำไรสะสม ที่ทำมาทั้งชีวิต คงเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผลแน่ๆ หากจะแบ่งกำไรส่วนนี้ไปให้ผู้ถือหุ้นใหม่ ซึ่งไม่เคยช่วยด้านการบริหาร หรือด้านเงินทุนเลยท่านได้คิดไหมว่าการที่ UEC จ่ายเงินปันผล1 บาท ก่อนเข้าเทรดในตลาด ไม่ถือว่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้ถือหุ้นที่ซื้อในราคา IPO หรือ ผมติดใจประเด็นนี้อย่างเดียว ส่วนอื่นของ UEC นับว่าดีทีเดียว งบการเงินสะอาดและดูมั่นคงดี
ดังนั้นแทบทุกบริษัท หากมีเงินสดหรือกำไรสะสมพอ ก่อนเข้าตลาด เป็นธรรมเนียมปฎิบัติหรือเปล่าผมไม่แน่ใจ ที่จะจ่ายปันผลออกให้หนักๆ ให้ผู้ถือหุ้นเดิม หลายๆบริษัทถึงกับจ่ายทั้งหมดของเงินที่มี นำกำไรสะสมมาจ่าย บางรายเงินสดมีไม่พอถึงกับไปกู้เงินแบงค์มาจ่ายปันผลด้วยซ้ำ แทบทุกรายเป็นอย่างนี้
ถามว่าเอาเปรียบหรือเปล่า แฟร์หรือเปล่า ก็ต้องแล้วแต่มุมมองครับ ถ้าไม่จ่ายปันผลก่อน ในมุมมองผู้ถือหุ้นใหญ่ เค้าก็มองว่าไม่แฟร์เช่นกันครับ
กรณี UEC บริษัทจ่ายปันผลแทบทุกปีๆละ 70% ของกำไร แต่ปีที่แล้วจ่าย 98% ของกำไรหรือ 1บ./หุ้น (ก่อน ipo มี 100 ล.หุ้น) เป็นการจ่ายปันผลจากผลกำไรแค่ 1 ปีเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริง UEC มีเงินสดและกำไรสะสม พอที่จะจ่ายได้ถึง 3 บ./หุ้น
ในมุมมองส่วนตัวผมคิดว่า UEC แฟร์ ถึงแฟร์มาก เพราะตั้งแต่ลงทุนมา ไม่เคยเจอบริษัทที่เพิ่งจดทะเบียน มีเงินสด/หุ้น(ยังไม่รวมเงิน ipo) มากขนาดนี้เลยครับ
:D ยินดีนะครับ ที่เพื่อนๆมีมุมมองหลากหลาย จะได้มองกันทุกด้าน และอย่าเพิ่งว่าผม แก้ต่างให้ UEC นะครับ เพราะว่าผมก็ย่อมมีมุมมองส่วนตัวตามที่รับรู้มา เช่นเดียวกัน
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 20
:lol: :lol: เพิ่งโพสต์รูปเป็น
รูปด้านบนเป็น Waste Heat Recovery Plant
Siam City Cement Co.,Ltd.
Saraburi, Thailand
ต่อไปเลยนะครับเป็นตัวอย่าง
Esso (Thailand) Co., Ltd.
Client : Foster Wheeler International Corporation (FW)
70 M Dia. API Storage Tank in BCP Project
(Bangchak Petroleum Public Company Limited),
Bangkok, Thailand
Installation of 82t Reactor & Stack
รูปด้านบนเป็น Waste Heat Recovery Plant
Siam City Cement Co.,Ltd.
Saraburi, Thailand
ต่อไปเลยนะครับเป็นตัวอย่าง
Esso (Thailand) Co., Ltd.
Client : Foster Wheeler International Corporation (FW)
70 M Dia. API Storage Tank in BCP Project
(Bangchak Petroleum Public Company Limited),
Bangkok, Thailand
Installation of 82t Reactor & Stack
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 21
steel structure
VCM Spherical Storage in Apex Petrochemical Co.,Ltd.
Capacity 5,500 w.m., I.D.=21.9 M.
Rayong, Thailand
Process Piping
in Bangkok-Polyethylene Public Company Limited,
Rayong, Thailand.
PENTENE GAS Storage Tank (50 tons)
VCM Spherical Storage in Apex Petrochemical Co.,Ltd.
Capacity 5,500 w.m., I.D.=21.9 M.
Rayong, Thailand
Process Piping
in Bangkok-Polyethylene Public Company Limited,
Rayong, Thailand.
PENTENE GAS Storage Tank (50 tons)
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 22
เรื่องเงินสด ผมมองเหมือนพี่ฉัตรชัย คือมองความสามารถในการสร้างเงินสดสุทธิจากการดำเนินงาน มากกว่าปริมาณเงินสดในบริษัทครับ
โครงการพวกนี้ เมื่อสร้างแล้ว ยังต้องมีค่าใช้จ่ายอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นสนับสนุนการดำเนินงาน เช่นเงินเดือนพนักงานที่รับเพิ่ม วัตถุดิบ การอบรม การ Test Run ฯลฯ เรื่องพวกนี้สิ้นเปลืองเงินสดทั้งสิ้น ...ยังไม่รวมพวกเรื่องการบานปลายของงบประมาณนะครับ (ผมเผื่อให้ 10-20%)
แน่นอนว่าระหว่างดำเนินการ FCF ติดลบแน่นอน และจะสร้างเงินสดได้หรือไม่ขึ้นกับความสามารถของส่วนที่ขยายงาน
ดังนั้นผมไม่คิดว่าแม้จะมีเงินก่อน IPO มาก ...เงินนั้นจะปันผลได้ทั้งหมด เพราะโครงการรออยู่ครับ
บริษัทที่มีการขยายงาน และทำให้กำไรสะดุดมีเยอะครับ เท่าที่ผมจำได้ เริ่มตั้งแต่ FANCY YUASA PTL AJ กำไรสะดุดทั้งสิ้น อย่าง FANCY ใช้เงินระดมทุนล้วนๆ ก็สบายหน่อย ปลอดดอกเบี้ย แต่หลายปี ยังไม่ฟื้นเลย YUASA PTL นี่ใช้เงินกู้ด้วย กำไรช่วงแรกๆโตไม่ทันดอกเบี้ย YUASA นี่ฟุบไปเลย ตั้งแต่ได้โรงงานใหม่ PTL ผมก็ลุ้นอยู่ครับ .. AJ กู้ล้วนๆ ตอนนี้ ย่ำแย่ครับ
พวกนี้ต่างจาก WG หรือประกันภัยต่างๆ ที่ได้เงินสดจากการดำเนินงานทั้งนั้น ไม่ต้องรบกวนผู้ถือหุ้นครับ ดังนั้นหากพิจารณาเงินสดแล้วอย่าลืมดูว่ามีแผนอะไรด้วยครับ
พูดถึง MCS มีเงินสด แต่แผนดำเนินงานที่จะใช้เงินนั้นออกไปยังไม่ชัดเจน ถือว่าอนาคตยังไม่แน่นอนเหมือนกันครับ
โครงการพวกนี้ เมื่อสร้างแล้ว ยังต้องมีค่าใช้จ่ายอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นสนับสนุนการดำเนินงาน เช่นเงินเดือนพนักงานที่รับเพิ่ม วัตถุดิบ การอบรม การ Test Run ฯลฯ เรื่องพวกนี้สิ้นเปลืองเงินสดทั้งสิ้น ...ยังไม่รวมพวกเรื่องการบานปลายของงบประมาณนะครับ (ผมเผื่อให้ 10-20%)
แน่นอนว่าระหว่างดำเนินการ FCF ติดลบแน่นอน และจะสร้างเงินสดได้หรือไม่ขึ้นกับความสามารถของส่วนที่ขยายงาน
ดังนั้นผมไม่คิดว่าแม้จะมีเงินก่อน IPO มาก ...เงินนั้นจะปันผลได้ทั้งหมด เพราะโครงการรออยู่ครับ
บริษัทที่มีการขยายงาน และทำให้กำไรสะดุดมีเยอะครับ เท่าที่ผมจำได้ เริ่มตั้งแต่ FANCY YUASA PTL AJ กำไรสะดุดทั้งสิ้น อย่าง FANCY ใช้เงินระดมทุนล้วนๆ ก็สบายหน่อย ปลอดดอกเบี้ย แต่หลายปี ยังไม่ฟื้นเลย YUASA PTL นี่ใช้เงินกู้ด้วย กำไรช่วงแรกๆโตไม่ทันดอกเบี้ย YUASA นี่ฟุบไปเลย ตั้งแต่ได้โรงงานใหม่ PTL ผมก็ลุ้นอยู่ครับ .. AJ กู้ล้วนๆ ตอนนี้ ย่ำแย่ครับ
พวกนี้ต่างจาก WG หรือประกันภัยต่างๆ ที่ได้เงินสดจากการดำเนินงานทั้งนั้น ไม่ต้องรบกวนผู้ถือหุ้นครับ ดังนั้นหากพิจารณาเงินสดแล้วอย่าลืมดูว่ามีแผนอะไรด้วยครับ
พูดถึง MCS มีเงินสด แต่แผนดำเนินงานที่จะใช้เงินนั้นออกไปยังไม่ชัดเจน ถือว่าอนาคตยังไม่แน่นอนเหมือนกันครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 23
สรุปครับ ถ้าคิดว่า UEC มีอนาคตที่ดีจะต้องประกอบด้วย
1. อุตสาหกรรมพลังงาน และปิโตรเคมีเติบโต
2. ราคาเหล็กไม่แพงขึ้นจนต้นทุนส่วนที่ไม่ได้ Hedge ไว้สูงขึ้น
3. โครงการลงทุนต่างๆ ใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิด Overbudget
4. ได้ยอดขายตามคาด
ซึ่งผมมองว่าเป็นไปได้ทั้ง + และ - ถือว่า Fair ในการลงทุนกับหุ้นที่เพิ่งจะ IPO ครับ แต่คงไม่ใช่ Super safe อย่างพวกที่อยู่ในตลาดมานานแล้วและมีการสร้างกระแสเงินสดที่ดี โดยมีค่าใช้จ่ายลงทุนไม่มากนัก
1. อุตสาหกรรมพลังงาน และปิโตรเคมีเติบโต
2. ราคาเหล็กไม่แพงขึ้นจนต้นทุนส่วนที่ไม่ได้ Hedge ไว้สูงขึ้น
3. โครงการลงทุนต่างๆ ใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิด Overbudget
4. ได้ยอดขายตามคาด
ซึ่งผมมองว่าเป็นไปได้ทั้ง + และ - ถือว่า Fair ในการลงทุนกับหุ้นที่เพิ่งจะ IPO ครับ แต่คงไม่ใช่ Super safe อย่างพวกที่อยู่ในตลาดมานานแล้วและมีการสร้างกระแสเงินสดที่ดี โดยมีค่าใช้จ่ายลงทุนไม่มากนัก
-
- Verified User
- โพสต์: 1266
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 25
คุณ ลูกอิสาน โพสต์รูปเป็นแล้วคงสนุกขึ้นอีกเยอะ ส่วนผมยังโพสต์ไม่เป็นครับ ว่าเรื่อง UEC ต้องขอบคุณท่านลูกอิสานที่มักจะเอาของดีที่ผ่านตะแกรงขั้นแรกของท่านมาให้ช่วยพิจารณากัน
ในความเห็นผม ดูกำไร uec เพิ่งมาโตแบบก้าวกระโดดปีนี้ เอาเข้าตลาดจึงเหมาะในการเคาะ ราคา IPO ...8.10 ..
ธุรกิจปิโตร พลังงาน ในภูมิภาคส่วนมากจะมีแผนขยายกำลังการผลิตในช่วง 2 ปีข้างหน้า หลังจากนั้น คงอาจจะต้องพักอีกยาว เนื่องจาก จะมี Supply เพิ่มขึ้นมาก หลังจากนั้น การขยายการผลิตคงไม่มีให้เห็นง่ายๆ ฉะนั้นอีกสองสามปี กำไร uec อาจจะถดถอยก็ได้ครับ
อีกอย่างธุรกิจUECก็ขึ้นกับการประมูลงานด้วย แต่ไม่ทราบว่ามีคู่แข่งในธุรกิจ หรือไม่ แข็งแกร่งปานใด
ความน่าสนใจ UEC ก็มีครับ เช่น โครงการถัง NGV แต่ช่วงนี้อยู่ในขั้นศึกษาความเป็นไปได้ ถ้าทำจริงคงเริ่มปี 2550
ราคาวัตถุดิบคือเหล็ก น่าจะทรงตัวในระดับต่ำจนถึงQ1 ปีหน้าเป็นอย่างน้อย ได้ข่าวว่า ผู้ผลิตเหล็กในจีน จะดั๊มพ์ราคาขายลงอีก น่าจะเป็นผลดีต่อ UEC
สำหรับเรื่องราคาหุ้น มีการขายให้ผู้บริหารในราคา 6.07 .....ดังนั้นถ้า อ่อนตัวลงมาหรือต่ำกว่าราคานี้ ผมว่าน่าจะปลอดภัยครับ
ในความเห็นผม ดูกำไร uec เพิ่งมาโตแบบก้าวกระโดดปีนี้ เอาเข้าตลาดจึงเหมาะในการเคาะ ราคา IPO ...8.10 ..
ธุรกิจปิโตร พลังงาน ในภูมิภาคส่วนมากจะมีแผนขยายกำลังการผลิตในช่วง 2 ปีข้างหน้า หลังจากนั้น คงอาจจะต้องพักอีกยาว เนื่องจาก จะมี Supply เพิ่มขึ้นมาก หลังจากนั้น การขยายการผลิตคงไม่มีให้เห็นง่ายๆ ฉะนั้นอีกสองสามปี กำไร uec อาจจะถดถอยก็ได้ครับ
อีกอย่างธุรกิจUECก็ขึ้นกับการประมูลงานด้วย แต่ไม่ทราบว่ามีคู่แข่งในธุรกิจ หรือไม่ แข็งแกร่งปานใด
ความน่าสนใจ UEC ก็มีครับ เช่น โครงการถัง NGV แต่ช่วงนี้อยู่ในขั้นศึกษาความเป็นไปได้ ถ้าทำจริงคงเริ่มปี 2550
ราคาวัตถุดิบคือเหล็ก น่าจะทรงตัวในระดับต่ำจนถึงQ1 ปีหน้าเป็นอย่างน้อย ได้ข่าวว่า ผู้ผลิตเหล็กในจีน จะดั๊มพ์ราคาขายลงอีก น่าจะเป็นผลดีต่อ UEC
สำหรับเรื่องราคาหุ้น มีการขายให้ผู้บริหารในราคา 6.07 .....ดังนั้นถ้า อ่อนตัวลงมาหรือต่ำกว่าราคานี้ ผมว่าน่าจะปลอดภัยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 27
ums ราคาปัจจุบันเป็นราคาที่สูงกว่าการขายipo
ตอนเข้าตลาด
uec ราคาปัจจุบันเป็นราคาที่ต่ำกว่าการขายipo
ตอนเข้าตลาด
ราคาuec ทำไมดูเหมือนสูงกว่าums ละคับ
หรือผู้บริหารมองกิจการuec มีกำไรมากกว่าums
ในปัจจุบันหรือคับ
ตอนเข้าตลาด
uec ราคาปัจจุบันเป็นราคาที่ต่ำกว่าการขายipo
ตอนเข้าตลาด
ราคาuec ทำไมดูเหมือนสูงกว่าums ละคับ
หรือผู้บริหารมองกิจการuec มีกำไรมากกว่าums
ในปัจจุบันหรือคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 28
uec ทำธุรกิจมีกำไร ไม่ขาดทุนแน่เพราะไม่มีคู่แข่ง
แต่ กำไรที่ได้มา จะคุ้มกับมูลค่าหุ้นในตลาดหรือเปล่าคับ นอกจากแข่งขัน
กับ
1.กำไรต่อหุ้น
2.ภาวะดอกเบี้ยเงินฝากที่กำลังจะขึ้นใน2ปี
3.ภาวะการประมูลงานที่อาจมีคู่แข่งขึ้นถ้ากำไร
สูงเป็นสิ่งล่อใจ คู่แข่ง
4.เป็นการค้าที่ต่างจากกรณีums ตรงที่ คาดเดา
ลำบาก
แต่ กำไรที่ได้มา จะคุ้มกับมูลค่าหุ้นในตลาดหรือเปล่าคับ นอกจากแข่งขัน
กับ
1.กำไรต่อหุ้น
2.ภาวะดอกเบี้ยเงินฝากที่กำลังจะขึ้นใน2ปี
3.ภาวะการประมูลงานที่อาจมีคู่แข่งขึ้นถ้ากำไร
สูงเป็นสิ่งล่อใจ คู่แข่ง
4.เป็นการค้าที่ต่างจากกรณีums ตรงที่ คาดเดา
ลำบาก
-
- Verified User
- โพสต์: 593
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 29
โครงการใหม่ ๆ ที่จะลงทุน มีความน่าสนใจมากครับ
-อย่างโครงการทำถัง NGV ก็เป็นหัวข้อนึงที่ผมเคยคุยกับเพื่อนเล่น ๆ ไว้
UEC มืออาชีพจริง ๆ เขาลงมือ หาทุนเรียบร้อย
-High Pressure ก็น่าสนใจ เพราะคู่แข่งในประเทศไม่มี
ปัจจุบันหลายบริษัทต้องซื้อของนอกแบบไม่มีทางเลือก โดนค่าขนส่งซะน่วม
-Heat Exchanger นี่ผมไม่มีไอเดียเลยจริง ๆ
แต่เงินที่ได้ไปเริ่มจากการซื้อที่ สร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักร Test-run
กว่าจะเห็นเป็นกำไรที่มาจากเงินลงทุนใหม่จริง ๆ ต้องใช้เวลาพอสมควรครับ
ผมว่า เหมาะมากกับนักลงทุนแท้ ๆ ชอบ Project เหล่านี้ แล้วลงทุนระยะยาวครับ
หาจังหวะเข้าถูก ๆ แล้วเก็บนานครับ
เงินมีสิทธิเติบโตหลายเท่า แต่ต้องใช้เวลา 3-5 ปีเป็นอย่างน้อย
ระหว่างรอลุ้นก็กินปันผลจาก Project ที่มีอยู่แล้วไปพลาง ๆ
-อย่างโครงการทำถัง NGV ก็เป็นหัวข้อนึงที่ผมเคยคุยกับเพื่อนเล่น ๆ ไว้
UEC มืออาชีพจริง ๆ เขาลงมือ หาทุนเรียบร้อย
-High Pressure ก็น่าสนใจ เพราะคู่แข่งในประเทศไม่มี
ปัจจุบันหลายบริษัทต้องซื้อของนอกแบบไม่มีทางเลือก โดนค่าขนส่งซะน่วม
-Heat Exchanger นี่ผมไม่มีไอเดียเลยจริง ๆ
แต่เงินที่ได้ไปเริ่มจากการซื้อที่ สร้างโรงงาน ซื้อเครื่องจักร Test-run
กว่าจะเห็นเป็นกำไรที่มาจากเงินลงทุนใหม่จริง ๆ ต้องใช้เวลาพอสมควรครับ
ผมว่า เหมาะมากกับนักลงทุนแท้ ๆ ชอบ Project เหล่านี้ แล้วลงทุนระยะยาวครับ
หาจังหวะเข้าถูก ๆ แล้วเก็บนานครับ
เงินมีสิทธิเติบโตหลายเท่า แต่ต้องใช้เวลา 3-5 ปีเป็นอย่างน้อย
ระหว่างรอลุ้นก็กินปันผลจาก Project ที่มีอยู่แล้วไปพลาง ๆ
ต้องเรียนรู้ให้ได้
Li .. Zhi .. Ren
Li .. Zhi .. Ren
-
- Verified User
- โพสต์: 593
- ผู้ติดตาม: 0
หุ้นตัวนี้น่าสนใจหรือเปล่าครับ..
โพสต์ที่ 30
ถ้าจำไม่ผิด ipo 40 ล้านที่ 8.1
แต่อีก 3 ล้าน ขายให้ผู้บริหาร 6.05-6.1 เพื่อดึงให้มีส่วนร่วม
ซื้อได้ถูกกว่านี้ หรือใกล้เคียงก็ไม่น่าแพงเกินไป ถ้าจะลงทุนยาวนะครับ
แต่ระยะสั้นในปีหน้า มองแนวโน้มการทำกำไรได้เท่าไรครับ
ถ้ามองออกก่อนซื้อ ก็น่าจะดีนะครับ
ใครมองออกช่วยบอกหน่อยนะ ถ้าตกลงมาอีกจะได้ซื้อด้วย
แต่อีก 3 ล้าน ขายให้ผู้บริหาร 6.05-6.1 เพื่อดึงให้มีส่วนร่วม
ซื้อได้ถูกกว่านี้ หรือใกล้เคียงก็ไม่น่าแพงเกินไป ถ้าจะลงทุนยาวนะครับ
แต่ระยะสั้นในปีหน้า มองแนวโน้มการทำกำไรได้เท่าไรครับ
ถ้ามองออกก่อนซื้อ ก็น่าจะดีนะครับ
ใครมองออกช่วยบอกหน่อยนะ ถ้าตกลงมาอีกจะได้ซื้อด้วย
ต้องเรียนรู้ให้ได้
Li .. Zhi .. Ren
Li .. Zhi .. Ren