*SE-EDตั้งเป้าปี 49 รายได้โต 12-18%เป็น4 พันลบ./อัตรากำไรสุทธิ 5.5-6.5%
Source - IQ Biz
Wednesday, 15 March 2006 18:40
นายทนง โชติสรยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีเอ็ด ยูเคชั่น (SE-ED) เปิดเผยว่า ในปี 49 บริษัทตั้งเป้ารายได้ของบริษัทจะเติบโต 12-18% เป็น 3.8 - 4 พันล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 3.3 พันล้านบาท โดยในเดือนมกราคมปี 49 บริษัทมียอดขายมากจากหนังสือ แดจังกึม, แฮร์รี่พอตเตอร์ และหนังสือธรรมะ แต่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ยอดขายลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนมกราคม
และปีนี้ บริษํท ตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ที่ 5.5-6.5% ภายใต้ปัจจัยการเมืองที่กดดัน และจะพยายามเพิ่ม Net Margin ให้อยู่ที่ 7% จากปีก่อนที่มี Net Margin 5% โดยการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นรวมทั้งการขยายสาขาที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้า
นายทนง กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทจะหันมาให้ความสำคัญในการเปิดสาขาในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยบริษัทตั้งเป้าจะขยายสาขา 20-30 สาขา โดยในจำนวนดังกล่าวจะเป็นการเปิดในต่างจังหวัด 6 แห่ง ได้แก่ สมุทรสาคร อุทัยธานี ยโสธร ปราจีนบุรี สตูล และประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งในเบื้องต้นอาจะเป็นการเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้า
ณ สิ้นปี 2548 SE-ED มีสาขาในตัวเมืองต่างจังหวัด 23 จังหวัด
นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนปรับปรุงศูนย์กระจายสินค้าเฟส 4 ซึ่งจะใช้งบลงทุน 20-25 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มในสิ้นเดือนมีนาคมและเสร็จสิ้นในไตรมาส 3 ปี 49 ซึ่งการปรับปรุงดังกล่าวจะทำให้มีพื้นที่มากขึ้นเป็น 9 พันตารางเมตร จากปัจจุบัน 7 พันตารางเมตร อีกทั้งยังเป็นการรองรับการเติบโตของบริษัทในปี 2550-2551
ขณะที่ การนำเข้าหนังสือต่างประเทศมาขาย ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่ขายยาก เนื่องจากมีค่าขนส่งสูง และหากขายไม่ได้ก็จะขาดทุน เพราะมีต้นทุนสูง
นายทนง กล่าวว่า การซื้อหุ้นคืนจำนวน 19 ล้านหุ้น หรือ 122 ล้านบาท ขณะนี้บอร์ดบริษัทยังไม่มีมติเรื่องดังกล่าว แต่หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ในเดือนกันยายนปี 50 ก็จะต้องมีการลดทุนจดทะเบียน ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ
นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลังบริษัทจะพยายามให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การเปิดรับจองตั๋วต่างๆในร้านSE-ED เช่น ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วคอนเสิร์ต ฯลฯ หลังจากที่บริษัทได้ปรับปรุงร้านให้เป็นระบบออนไลน์เพื่อเสริมธุรกิจแล้ว จากปัจจุบันที่ร้าน SE-ED บางแห่งได้มีการเปิดให้บริการรับชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ และชั่วโมงอินเตอร์เน็ตแล้ว
นายทนง กล่าวว่า ส่วนการที่แกรมมี่เข้ามาถือหุ้นใน SE-ED ที่ผ่านมาไม่กังวลเนื่องจากคุณไพบูลย์ ดำรงค์ชัยธรรม แสดงเจตนาที่จะไม่ถือหุ้นเกิน 50% แต่ที่เข้ามาถือหุ้นเพราะเห็นว่าบริษัทมีอัตราการเติบโตที่ดีในอนาคต ส่วนในอนาคตจะมีการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างกันหรือไม่นั้น คงจะเป็นแผนในระยะยาวมากกว่า
SE-EDลุยขยายสาขา ตจว.เพิ่ม คาดยอดขายพุ่ง-กำไรโต 6.5%
Source - กระแสหุ้น
Thursday, 16 March 2006 04:07
"ซีเอ็ดยูเคชั่น" วางเป้ายอดขายโต 4 พันล้าน หวังดันอัตรากำไรสุทธิโต 6.5% โอดปัญหาการเมืองกระทบยอดขายเดือน ก.พ. แต่มั่นใจตลาดหนังสือยังโต 10-15% จากยอดร้านหนังสือเครือข่ายยังโตและกิจการกระตุ้นการอ่าน ล่าสุดเตรียมเดินหน้าเปิดสาขาเพิ่ม 30 สาขา เน้นตลาดต่างจังหวัด
นายทนง โชติสรยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SE-ED เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายของบริษัทปีนี้อยู่ที่ประมาณ 3,800 - 4,000 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโตขึ้นประมาณ 12-18% จากปี 2548 ที่ผ่านมาบริษัทมียอดขาย 3,391.13 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 187.91 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าจะรักษาอัตราการกำไรสุทธิของปี 49 ให้อยู่ที่ประมาณ 6.5% ในขณะที่ตั้งเป้า อัตราการกำไรสุทธิ ปี 50 อยู่ที่ประมาณ 6.5-7% เนื่องจากบริษัทจะเน้นการพัฒนาระบบสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้ในการบริหารให้น้อยลง "ยอดขายเดือน ม.ค.มีอัตราการเติบโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์ชุมนุมที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อยอดขายในเดือน ก.พ. และกระทบธุรกิจร้านค้าย่อยเกือบทั้งหมด เพราะธุรกิจนี้ส่วนหนึ่งต้องขึ้นอยู่กับความมั่นใจของผู้บริโภค" นายทนงกล่าว
อย่างไรก็ดียังคงประเมินแนวโน้มตลาดหนังสือโดยรวมในปีนี้จะยังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องอยู่ในระดับ 10-15% เนื่องจากอัตราการเติบโตของร้านหนังสือเครือข่ายยังมียอดขยายสาขาเพิ่มขึ้น รวมทั้งหนังสือใหม่ที่เป็นกระแสยังสามารถกระตุ้นความสนใจของผู้บริโภคแต่ละพื้นที่ได้ อาทิ หนังสือธรรมะหรือหนังสือเด็ก รวมทั้งยังไม่มีการสนับสนุนการส่งเสริมการอ่านอย่างต่อเนื่องจากทั้งหน่วยงานภาครัฐบาลและเอกชน สำหรับแผนการขยายสาขาของบริษัทในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 20- 30 สาขา จากปี 2548 ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดสาขาใหม่ประมาณ 26 สาขา และมีสาขาทั้งหมด 190 สาขา และจุดขายทั้งหมด 399 จุดขาย แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 94 สาขา และต่างจังหวัด 96 สาขา โดยในปีนี้บริษัทจะเน้นเปิดสาขาในพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯค่อนข้างจำกัดในขณะที่สาขาพื้นที่ต่างจังหวัดปัจจุบันนี้ยังน้อย
นอกจากนี้บริษัทเตรียมงบประมาณ 20-25 ล้านบาท ในการลงทุนปรับปรุงระบบการทำงานของศูนย์กระจายสินค้า ระยะที่ 4 ซึ่งจะเริ่มต้นหลังเดือน มี.ค.นี้ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณช่วงไตรมาส 3/49 และจะสามารถรองรับการให้บริการได้ถึง 600 สาขา รวมทั้งการให้บริการในรูปแบบต่างๆ ได้ดีขึ้นในอนาคต รวมทั้งบริษัทจะพัฒนาระบบสารสนเทศ ระยะที่ 2 เพื่อระบบรองรับการเชื่อมโยงศูนย์กระจายสินค้าและระบบหน้าร้านค้า
เพื่อนๆที่ถือซีเอ็ด คาดว่าปีนี้กำไรจะทำได้เท่าไหร่ครับ จากคำให้สัมภาษณ์คุณทนง
คิดเป็นพีอีได้กี่เท่า โดยที่ซีเอ็ดมีหุ้นประมาณ 328 ล้าน รวมวอร์หักหุ้นซื้อคืน