ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
- Isabuy
- Verified User
- โพสต์: 45
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 1
เนื่องจากผมเริ่มลงทุนในหุ้นมาได้ประมาณ 2 ปี ได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับหุ้นมาหลายเล่ม และคิดว่าอยากลงทุนในหุ้นโดยดูจากประวัติความต่อเนื่องการปันผล กำไร การเติบโตของบริษัท ความแข็งแกร่งของบริษัทต่อคู่แข่ง เนื่องจากไม่ค่อยชอบตัวเลขจากรายงานประจำปีซักเท่าไหร่ ตอนนี้พิจารณาหุ้นไว้ 5 ตัว คือ BAFS LH THRE SSC PRANDA วางแผนไว้ว่าจะซื้อหุ้นในกลุ่มนี้ไปเรื่อยๆ เป็นการซื้อแบบ bath average ทุกเดือนๆ อยากทราบว่าเป็นการลงทุนที่ถือใช้ได้มั้ยครับ
- david
- Verified User
- โพสต์: 852
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 3
[quote="Capo"]แหะ ๆ ไม่ได้เข้ามาให้ความเห็นนะครับ
แต่สงสัยว่า bath average
แต่สงสัยว่า bath average
1.My Facebook page, https://www.facebook.com/pages/Kitichai ... 5514051589.
2.U may follow my stock comment via http://twitter.com/value_talk
3.กระทู้ที่โพสท์นี้เป็นความเห็นส่วนตัว การซื้อขายหุ้นขึ้นอยู่กับการใช้วิจารณญาณของแต่ละคน
2.U may follow my stock comment via http://twitter.com/value_talk
3.กระทู้ที่โพสท์นี้เป็นความเห็นส่วนตัว การซื้อขายหุ้นขึ้นอยู่กับการใช้วิจารณญาณของแต่ละคน
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 5
Bath cost average การทยอยอาบน้ำอย่างสม่ำเสมอในช่วงระยะเวลาที่ห่างเท่าๆ กันIsabuy เขียน:bath cost average เลียนแบบ dollars cost average ของเบนจามิน เกรแฮม บิดาของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ซึ่ง อ.ดร.นิเวศน์ ท่านได้แนะนำไว้ในหนังสือ
ต่อไปหุ้นของ อาบอบนวด(มีคนอาบให้) กับ หุ้นพวกครีมอาบน้ำ แชมพู เครื่องใช้ในห้องน้ำ จะขึ้นเอาๆ ขึ้นเอาแน่ๆ ถ้ามีคนใช้วิธีนี้เยอะๆ Bath cost average การทยอยอาบน้ำอย่างสม่ำเสมอในช่วงระยะเวลาที่ห่างเท่าๆ กัน ขอให้ระมัดระวังกับการลงทุนวิธีนี้นะครับ อิอิ
ปล. ผมเคยได้ยินแต่ Baht Cost Everage
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 6
Bath Average นึกว่าเอากำไรมาเฉลี่ยลงอ่าง คือได้ปันผลมาก็เอามาลงอ่างอะไรอย่างนี้รึเปล่า
ขอมองแบบตัวproduct แล้วกันนะครับ
ช่วงนี้ บาทแข็ง น้ำมันแพง ดอกเบี้ยสูงขึ้น
สินค้าฟุ่มเฟือย ส่งออก ก็คงขอเลี่ยงก่อนดีกว่า
ขอมองแบบตัวproduct แล้วกันนะครับ
ช่วงนี้ บาทแข็ง น้ำมันแพง ดอกเบี้ยสูงขึ้น
สินค้าฟุ่มเฟือย ส่งออก ก็คงขอเลี่ยงก่อนดีกว่า
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 7
เข้ามาแซวเล่นๆ อย่าเคืองกันเลยนะครับ อิอิ
แต่เข้ามาใบ้หุ้นขนาดนี้ ช่วยอธิบายด้วยว่า ทั้งห้าตัวมีอะไรดีครับ จะได้ช่วยกันศึกษา
ผมคิดว่าวิธีนี้เหมาะสำหรับ คนที่มีรายได้เข้ามาเป็นระยะเวลาสม่ำเสมอ เช่น เงินเดือน หรือ คิดลงทุนหุ้นแข็งแกร่งมากกว่า (เพื่อรับปันผล) ไม่เน้น Growth Stock
ช่วยชี้แนะให้ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้กับวิธีนี้ด้วยครับ ว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร
แต่เข้ามาใบ้หุ้นขนาดนี้ ช่วยอธิบายด้วยว่า ทั้งห้าตัวมีอะไรดีครับ จะได้ช่วยกันศึกษา
ผมคิดว่าวิธีนี้เหมาะสำหรับ คนที่มีรายได้เข้ามาเป็นระยะเวลาสม่ำเสมอ เช่น เงินเดือน หรือ คิดลงทุนหุ้นแข็งแกร่งมากกว่า (เพื่อรับปันผล) ไม่เน้น Growth Stock
ช่วยชี้แนะให้ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้กับวิธีนี้ด้วยครับ ว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
-
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 8
ท่านซีเคเคยทำวิจัยเรื่อง trading system วิธี baht cost average
พบว่ามีหุ้นบางตัวที่ทำผลตอบแทนที่ดีมากด้วยวิธีนี้ครับ
ให้เจ้าตัวมาคุยดีก่า
ที่น่าสนใจก็คือบางโบร๊กก็เปิดบัญชีที่ใช้การลงทุนแบบนี้ได้
และมีหุ้นที่ว่านี้อยู่ในลิสต์ด้วยครับ
พบว่ามีหุ้นบางตัวที่ทำผลตอบแทนที่ดีมากด้วยวิธีนี้ครับ
ให้เจ้าตัวมาคุยดีก่า
ที่น่าสนใจก็คือบางโบร๊กก็เปิดบัญชีที่ใช้การลงทุนแบบนี้ได้
และมีหุ้นที่ว่านี้อยู่ในลิสต์ด้วยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 9
ไม่ถึงขนาดวิจัยครับท่านประธานเจ แค่ experimental
baht cost average เป็นการลงทุนที่ผลตอบแทนไม่ได้สูงมาก
แต่ถ้าเลือกหุ้นได้ดี จะได้ผลตอบแทนค่อนข้างดี ในระยะเวลานานๆ
baht cost average ถ้าจะให้ดี จะต้องมีเงื่อนไขหลายอย่าง เช่น
1. หุ้นที่เลือกจะต้องมี dca ในระยะยาว ยิ่งมากยิ่งดี
2. หุ้นนั้นจะมีปันผลหรือไม่ก็ได้ แต่ asset+ปันผลควรมีแนวโน้มเพิ่มทุกปี
3. หุ้นนั้นจะต้องมี volume พอสมควร (ไม่งั้นจะต้องไล่ราคาตอนซื้อ)
4. เวลาเข้าซื้อ ต้องกำหนดวันเวลาชัดเจน ห้ามขาดส่ง เพราะเห็นว่าราคาสูง
5. เวลาเข้าซื้อ ให้กำหนดจำนวนเงินเข้าซื้อ ไม่ใช่จำนวนหุ้น
6. ถ้าได้ปันผล ควร reinvest เท่านั้น ไม่ควรเอาออกมาใช้
7. ควรลงทุนเป็นระยะเวลานานมาก เกิน 10 ปี และเป็นเงินเย็น
ตอนทดสอบกับ CPF และ SUC พบว่าได้ผลดีครับ
กำไรสูงกว่าเงินเฟ้อ+อัตราดอกเบี้ย ในรอบสิบปีใดๆ
ส่วนหุ้นที่คุณเลือกมา ก็เข้าข่ายหลายตัวครับ
ในความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่ากองทุนเล่นหุ้นได้ค่อนข้างเก่ง
(กองที่ดีๆ อย่างของกสิกร ทำกำไรเฉลี่ยได้ 20%-25% ต่อปี
ชนะ SET index ทุกปี)
ดังนั้น การใช้ baht cost average ก็น่าจะได้ผลดี
กับการซื้อกองทุนด้วยครับ อาจจะดีกว่าเราเลือกหุ้นเองครับ
ปล. เคยแนะนำให้คนในออฟฟิศลองทำดูเมื่อสามปีก่อน
SET Index บวกไป 100% แต่ NAV เขาโต 200%ได้
baht cost average เป็นการลงทุนที่ผลตอบแทนไม่ได้สูงมาก
แต่ถ้าเลือกหุ้นได้ดี จะได้ผลตอบแทนค่อนข้างดี ในระยะเวลานานๆ
baht cost average ถ้าจะให้ดี จะต้องมีเงื่อนไขหลายอย่าง เช่น
1. หุ้นที่เลือกจะต้องมี dca ในระยะยาว ยิ่งมากยิ่งดี
2. หุ้นนั้นจะมีปันผลหรือไม่ก็ได้ แต่ asset+ปันผลควรมีแนวโน้มเพิ่มทุกปี
3. หุ้นนั้นจะต้องมี volume พอสมควร (ไม่งั้นจะต้องไล่ราคาตอนซื้อ)
4. เวลาเข้าซื้อ ต้องกำหนดวันเวลาชัดเจน ห้ามขาดส่ง เพราะเห็นว่าราคาสูง
5. เวลาเข้าซื้อ ให้กำหนดจำนวนเงินเข้าซื้อ ไม่ใช่จำนวนหุ้น
6. ถ้าได้ปันผล ควร reinvest เท่านั้น ไม่ควรเอาออกมาใช้
7. ควรลงทุนเป็นระยะเวลานานมาก เกิน 10 ปี และเป็นเงินเย็น
ตอนทดสอบกับ CPF และ SUC พบว่าได้ผลดีครับ
กำไรสูงกว่าเงินเฟ้อ+อัตราดอกเบี้ย ในรอบสิบปีใดๆ
ส่วนหุ้นที่คุณเลือกมา ก็เข้าข่ายหลายตัวครับ
ในความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่ากองทุนเล่นหุ้นได้ค่อนข้างเก่ง
(กองที่ดีๆ อย่างของกสิกร ทำกำไรเฉลี่ยได้ 20%-25% ต่อปี
ชนะ SET index ทุกปี)
ดังนั้น การใช้ baht cost average ก็น่าจะได้ผลดี
กับการซื้อกองทุนด้วยครับ อาจจะดีกว่าเราเลือกหุ้นเองครับ
ปล. เคยแนะนำให้คนในออฟฟิศลองทำดูเมื่อสามปีก่อน
SET Index บวกไป 100% แต่ NAV เขาโต 200%ได้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 10
baht cost average น่าสนใจครับ
แล้วอย่าลืมมารายงานผลนะครับ ว่า ผลเป็นอย่างไรบ้าง
แล้วอย่าลืมมารายงานผลนะครับ ว่า ผลเป็นอย่างไรบ้าง
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 11
เลยอยากจะขอคำแนะนำจากพี่ CK หน่อยครับ
CK wrote:
เวลาเข้าซื้อ ให้กำหนดจำนวนเงินเข้าซื้อ ไม่ใช่จำนวนหุ้น
1.ใช้จำนวนหุ้นไม่ได้เหรอครับ ช่วยอธิบายเหตุผลได้ไหมครับ
CK wrote:
หุ้นที่เลือกจะต้องมี dca ในระยะยาว ยิ่งมากยิ่งดี
2.ผมกำลังจะลองกับ SE-ED และ SSC ครับ พี่ว่า 2 บริษัทนี้มี dca ใช้ได้ไหมครับ
3. ถ้าพี่มีคำแนะนำอื่นก็ช่วยบอกด้วยนะครับ
ขอบพระคุณครับ
CK wrote:
เวลาเข้าซื้อ ให้กำหนดจำนวนเงินเข้าซื้อ ไม่ใช่จำนวนหุ้น
1.ใช้จำนวนหุ้นไม่ได้เหรอครับ ช่วยอธิบายเหตุผลได้ไหมครับ
CK wrote:
หุ้นที่เลือกจะต้องมี dca ในระยะยาว ยิ่งมากยิ่งดี
2.ผมกำลังจะลองกับ SE-ED และ SSC ครับ พี่ว่า 2 บริษัทนี้มี dca ใช้ได้ไหมครับ
3. ถ้าพี่มีคำแนะนำอื่นก็ช่วยบอกด้วยนะครับ
ขอบพระคุณครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 12
แง พิมพ์ตอบตั้งนาน หายไปไหนอ่ะ
1. ทำไมต้อง fix จำนวนเงิน ไม่ใช่จำนวนหุ้น
เพราะซื้อแบบ fix จำนวนเงิน ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยสูงขึ้นครับ
ทั้งนี้เพราะ fix จำนวนหุ้น ทำให้เราต้องจ่ายเงินมากเพื่อซื้อหุ้นตอนแพง
และได้หุ้นน้อยกว่าที่ควร ตอนหุ้นราคาถูก
ดูตัวอย่าง SE-ED ครับ สมมุติว่าราคาเดือนแรก 7.00 เดือนสอง 6.00
a. ซื้อแบบ fix จำนวนหุ้น 3,800 หุ้น
จะได้ทุนเฉลี่ย 6.50 บาทบวกคอม ได้หุ้น 7,600 หุ้น
b. ซื้อแบบ fix จำนวนเงิน 25,000 บาทต่อเดือน
จะได้หุ้น 3,500 เดือนแรก ทุน 7 บาท และ 4,100 เดือนสอง ทุน 6 บาท
รวม 3,800 หุ้นเท่ากัน
แต่ทุนเฉลี่ยลดเหลือ 6.46 บาท (เพราะที่ทุน 6 บาทมีหุ้นมากกว่า)
SE-ED และ SSC คงจะโอเคมังครับ แต่ SCC volume น้อยไปนิด
ถ้าพอร์ทใหญ่คงจะไม่ไหวครับ
อ้อ เรื่อง fix จำนวนเงิน ไม่ได้แปลว่าเพิ่มไม่ได้นะครับ
เราอาจจะตั้ง fix ไว้ที่ 10% ของรายได้รวม
ถ้าเงินเดือน 10,000 ก็ซื้อเดือนละ 1,000 บาท
เงินเดือนขึ้นเป็น 50,000 ก็ซื้อเดือนละ 5,000 บาท
1. ทำไมต้อง fix จำนวนเงิน ไม่ใช่จำนวนหุ้น
เพราะซื้อแบบ fix จำนวนเงิน ทำให้ต้นทุนเฉลี่ยสูงขึ้นครับ
ทั้งนี้เพราะ fix จำนวนหุ้น ทำให้เราต้องจ่ายเงินมากเพื่อซื้อหุ้นตอนแพง
และได้หุ้นน้อยกว่าที่ควร ตอนหุ้นราคาถูก
ดูตัวอย่าง SE-ED ครับ สมมุติว่าราคาเดือนแรก 7.00 เดือนสอง 6.00
a. ซื้อแบบ fix จำนวนหุ้น 3,800 หุ้น
จะได้ทุนเฉลี่ย 6.50 บาทบวกคอม ได้หุ้น 7,600 หุ้น
b. ซื้อแบบ fix จำนวนเงิน 25,000 บาทต่อเดือน
จะได้หุ้น 3,500 เดือนแรก ทุน 7 บาท และ 4,100 เดือนสอง ทุน 6 บาท
รวม 3,800 หุ้นเท่ากัน
แต่ทุนเฉลี่ยลดเหลือ 6.46 บาท (เพราะที่ทุน 6 บาทมีหุ้นมากกว่า)
SE-ED และ SSC คงจะโอเคมังครับ แต่ SCC volume น้อยไปนิด
ถ้าพอร์ทใหญ่คงจะไม่ไหวครับ
อ้อ เรื่อง fix จำนวนเงิน ไม่ได้แปลว่าเพิ่มไม่ได้นะครับ
เราอาจจะตั้ง fix ไว้ที่ 10% ของรายได้รวม
ถ้าเงินเดือน 10,000 ก็ซื้อเดือนละ 1,000 บาท
เงินเดือนขึ้นเป็น 50,000 ก็ซื้อเดือนละ 5,000 บาท
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 13
ขอบคุณพี่ CK มากครับ
- s3410312
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 180
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 14
สวัสดีครับพี่ ck ขออนุญาติท่านเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ
ขอคำแนะนำจากพี่ ck ครับ คิด ๆ อยู่เหมือนกันว่าจะใช้วิธี average นี้้กับกองทุน SET50 INDEX แต่ก็ทำใจไม่ค่อยจะได้ตอนมันแพง ทุกวันนี้ต้องใช้วิธีแบบดู index เอาถ้าตก ก็ซื้อ แต่ไม่เคยขายออก เพราะกะจะถือยาววววว ถ้า index ขึ้นก็ไม่ซื้อ รอมันลง พี่ ck คิดว่าไงครับ อีกอย่าง ตอนนานขนาด 10 ปี up เลยหรือครับ
ขอบคุณล่วงหน้าด้วยครับ
ขอคำแนะนำจากพี่ ck ครับ คิด ๆ อยู่เหมือนกันว่าจะใช้วิธี average นี้้กับกองทุน SET50 INDEX แต่ก็ทำใจไม่ค่อยจะได้ตอนมันแพง ทุกวันนี้ต้องใช้วิธีแบบดู index เอาถ้าตก ก็ซื้อ แต่ไม่เคยขายออก เพราะกะจะถือยาววววว ถ้า index ขึ้นก็ไม่ซื้อ รอมันลง พี่ ck คิดว่าไงครับ อีกอย่าง ตอนนานขนาด 10 ปี up เลยหรือครับ
ขอบคุณล่วงหน้าด้วยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ขอคำแนะนำเป็นวิทยาทานด้วยครับ
โพสต์ที่ 15
ก็ได้ครับ ผลตอบแทนอาจจะดีกว่าหรือแย่กว่าซื้อ fix ทุกเดือนได้ครับs3410312 เขียน:สวัสดีครับพี่ ck ขออนุญาติท่านเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ
ขอคำแนะนำจากพี่ ck ครับ คิด ๆ อยู่เหมือนกันว่าจะใช้วิธี average นี้้กับกองทุน SET50 INDEX แต่ก็ทำใจไม่ค่อยจะได้ตอนมันแพง ทุกวันนี้ต้องใช้วิธีแบบดู index เอาถ้าตก ก็ซื้อ แต่ไม่เคยขายออก เพราะกะจะถือยาววววว ถ้า index ขึ้นก็ไม่ซื้อ รอมันลง พี่ ck คิดว่าไงครับ อีกอย่าง ตอนนานขนาด 10 ปี up เลยหรือครับ
ขอบคุณล่วงหน้าด้วยครับ
ประเด็นหลักของการซื้อแบบ average cost คือตัดตัวแปรที่เราไม่รู้ออกไป
นั่นก็คือการแกว่งตัวของราคา
ถ้าคุณเข้าใจแนวโน้มการแกว่งตัวของราคา
หรือรู้ว่า ราคาไหนมี margin of safety สูง
การใช้ baht cost average กลับทำให้ผลตอบแทนแย่ลงครับ
ดังนั้น จึงไม่เป็นที่นิยม ทั้งสำหรับ vi พันธุ์แท้ และ trader พันธุ์แท้