((((( จะแปลกไหม ถ้าหนมไหว้พระจันทร์ )))))
-
- Verified User
- โพสต์: 185
- ผู้ติดตาม: 0
((((( จะแปลกไหม ถ้าหนมไหว้พระจันทร์ )))))
โพสต์ที่ 1
จะแปลกไหม ถ้าหนมไหว้พระจันทร์
จะไปเทรดที่ P/E 22 เท่า แบบหนมปัง
จะไปเทรดที่ P/E 22 เท่า แบบหนมปัง
-
- ผู้ติดตาม: 0
((((( จะแปลกไหม ถ้าหนมไหว้พระจันทร์ )))))
โพสต์ที่ 2
ภัตตาคารก๊อกไจเจ่าเหลาไม่อยู่ในตลาดหุ้นนี่นา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
((((( จะแปลกไหม ถ้าหนมไหว้พระจันทร์ )))))
โพสต์ที่ 4
ผลประกอบการออกมา อีกซักสองไตรมาส
พีอีหนมปัง อาจจะเหลือแค่สิบเท่าก็ได้
:roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll:
คุณนักดูดาวรู้จัก ก็อกไจโหลวซะด้วย
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
พีอีหนมปัง อาจจะเหลือแค่สิบเท่าก็ได้
:roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll:
คุณนักดูดาวรู้จัก ก็อกไจโหลวซะด้วย
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
((((( จะแปลกไหม ถ้าหนมไหว้พระจันทร์ )))))
โพสต์ที่ 5
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ทำไมคุณ LOSO ถึงชอบเปลี่ยนชื่อไปมาระหว่าง
LOSO กับ Britannica เหรอครับสงสัย
-
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
((((( จะแปลกไหม ถ้าหนมไหว้พระจันทร์ )))))
โพสต์ที่ 6
งานนี้แปลได้สองความหมายนะครับคลายเครียด เขียน:ผลประกอบการออกมา อีกซักสองไตรมาส
พีอีหนมปัง อาจจะเหลือแค่สิบเท่าก็ได้
:roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll:
คุณนักดูดาวรู้จัก ก็อกไจโหลวซะด้วย
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
คือ e มากขึ้น หรือว่า p ลดลง
เหอๆๆ
- LOSO
- Verified User
- โพสต์: 2512
- ผู้ติดตาม: 0
((((( จะแปลกไหม ถ้าหนมไหว้พระจันทร์ )))))
โพสต์ที่ 7
เอสแอนด์พีรุกตลาดพิซซ่า ผนึกพันธมิตรปั้น"ซานอตติ"
เอส แอนด์ พี จับมือพันธมิตร ขยายไลน์ร้านอาหารบุกตลาดพิซซ่าสไตล์อิตาเลียน มั่นใจตลาดเปิดกว้าง ชูคุณภาพเป็นหัวหอกนำร่อง คาดปีแรกขอชิมลางแค่ยอดขาย 25 ล้าน เล็งผุดสาขาให้ครบ 30 แห่งภายใน 3 ปี
นายประเวศวุฒิ ไรวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค เอส แอนด์ พีมีนโยบายจะขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดร่วมทุนกับบริษัท ซานอตติ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งบริษัท เอส แอนด์ พิซซานอตติ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ในสัดส่วนที่เท่ากัน เพื่อให้บริการพิซซ่า ภายใต้แบรนด์พิซซานอตติ โดยจะเน้นลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ร้านพิซซานอตติได้เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมี 6 สาขา และตั้งเป้าจะเปิดอีกกว่า 30 จุด ภายใน 3-4 ปี ส่วนในแง่ของเมนูจะมีทั้งพิซซ่าสไตล์อิตาเลียน อาหารทานเล่น พาสต้า สลัด อาหารจานหลัก ฯลฯ ซึ่งจะเน้นวัตถุดิบที่มีคุณภาพเพื่อสร้างความแตกต่างจากพิซซ่าที่มีอยู่ ที่สำคัญราคาที่ไม่สูงมาก เริ่มต้นที่ 200-380 บาท พร้อมกับการจัดส่งพิซซ่าถึงบ้าน
คาดว่ารายได้ในปีแรกจะกว่า 25 ล้านบาท และภายใน 3 ปี ยอดขายจะขึ้นสูงถึง 90 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันตลาดพิซซ่ามีคู่แข่งไม่มากนัก และเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง มูลค่าตลาดรวมกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท แต่พิซซ่าสไตล์อิตาเลียนมีส่วนแบ่งอยู่ 15-20% ซึ่งถือว่าน้อยมาก และคาดว่าตลาดนี้จะเติบโตได้อีกมาก
พร้อมกันนี้นายประเวศวุฒิยังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีปัจจัยลบต่างๆ เข้ามากระทบอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น แต่บริษัทก็พยายามจะตรึงราคาสินค้าและบริการต่างๆ ไว้ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ ขณะเดียวกันก็หันไปให้ความสำคัญในการลดต้นทุนการดำเนินงานภายในลง อาทิ ค่าไฟ การขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้าลง ลูกค้าของร้านก็ลดลง อย่างไรก็ตาม ผลจากที่ในไตรมาสแรกได้มีการจัดโปรโมชั่นลดราคา 20% ในวันพุธ เพื่อเสริมจากโปรโมชั่นเดิมที่มีอยู่ ก็ช่วยให้ยอดขายออกมาเป็นที่น่าพอใจ และในปีนี้บริษัทมีการโฆษณาเและโปรโมชั่นเพิ่มขึ้นเป็น 3% ของยอดขาย พร้อมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค และกระตุ้นยอดขาย
*** คาดว่าปีนี้บริษัทจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีที่ผ่านมาที่มียอดขายรวมกว่า 3,300 ล้านบาท" ***
http://www.matichon.co.th/prachachart/p ... 2006/05/04
เอส แอนด์ พี จับมือพันธมิตร ขยายไลน์ร้านอาหารบุกตลาดพิซซ่าสไตล์อิตาเลียน มั่นใจตลาดเปิดกว้าง ชูคุณภาพเป็นหัวหอกนำร่อง คาดปีแรกขอชิมลางแค่ยอดขาย 25 ล้าน เล็งผุดสาขาให้ครบ 30 แห่งภายใน 3 ปี
นายประเวศวุฒิ ไรวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภค เอส แอนด์ พีมีนโยบายจะขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดร่วมทุนกับบริษัท ซานอตติ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งบริษัท เอส แอนด์ พิซซานอตติ (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ในสัดส่วนที่เท่ากัน เพื่อให้บริการพิซซ่า ภายใต้แบรนด์พิซซานอตติ โดยจะเน้นลูกค้าที่ชื่นชอบอาหารอิตาเลียนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
ทั้งนี้ ร้านพิซซานอตติได้เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันมี 6 สาขา และตั้งเป้าจะเปิดอีกกว่า 30 จุด ภายใน 3-4 ปี ส่วนในแง่ของเมนูจะมีทั้งพิซซ่าสไตล์อิตาเลียน อาหารทานเล่น พาสต้า สลัด อาหารจานหลัก ฯลฯ ซึ่งจะเน้นวัตถุดิบที่มีคุณภาพเพื่อสร้างความแตกต่างจากพิซซ่าที่มีอยู่ ที่สำคัญราคาที่ไม่สูงมาก เริ่มต้นที่ 200-380 บาท พร้อมกับการจัดส่งพิซซ่าถึงบ้าน
คาดว่ารายได้ในปีแรกจะกว่า 25 ล้านบาท และภายใน 3 ปี ยอดขายจะขึ้นสูงถึง 90 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันตลาดพิซซ่ามีคู่แข่งไม่มากนัก และเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง มูลค่าตลาดรวมกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท แต่พิซซ่าสไตล์อิตาเลียนมีส่วนแบ่งอยู่ 15-20% ซึ่งถือว่าน้อยมาก และคาดว่าตลาดนี้จะเติบโตได้อีกมาก
พร้อมกันนี้นายประเวศวุฒิยังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีปัจจัยลบต่างๆ เข้ามากระทบอย่างต่อเนื่องทั้งในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น แต่บริษัทก็พยายามจะตรึงราคาสินค้าและบริการต่างๆ ไว้ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ ขณะเดียวกันก็หันไปให้ความสำคัญในการลดต้นทุนการดำเนินงานภายในลง อาทิ ค่าไฟ การขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
"ภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อสินค้าลง ลูกค้าของร้านก็ลดลง อย่างไรก็ตาม ผลจากที่ในไตรมาสแรกได้มีการจัดโปรโมชั่นลดราคา 20% ในวันพุธ เพื่อเสริมจากโปรโมชั่นเดิมที่มีอยู่ ก็ช่วยให้ยอดขายออกมาเป็นที่น่าพอใจ และในปีนี้บริษัทมีการโฆษณาเและโปรโมชั่นเพิ่มขึ้นเป็น 3% ของยอดขาย พร้อมกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค และกระตุ้นยอดขาย
*** คาดว่าปีนี้บริษัทจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีที่ผ่านมาที่มียอดขายรวมกว่า 3,300 ล้านบาท" ***
http://www.matichon.co.th/prachachart/p ... 2006/05/04