อ้าวบัตรพลาสติก แผ่วซะแล้วครับพี่เจ๋ง Q1/49 KTC
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
อ้าวบัตรพลาสติก แผ่วซะแล้วครับพี่เจ๋ง Q1/49 KTC
โพสต์ที่ 1
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่1(F45-1)11/05/2549 09:13
KTC : สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่1(F45-1)
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่1(F45-1)
บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
(หน่วย : พันบาท)
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ไตรมาสที่ 1
ปี 2549 2548
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 135,148 167,248
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.53 0.66
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว
ลงลายมือชื่อ _______________________
( นายชุติเดช ชยุติ )
ตำแหน่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส - Corporate Finance
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
KTC : สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่1(F45-1)
สรุปผลการดำเนินงานของบจ.ไตรมาสที่1(F45-1)
บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
(หน่วย : พันบาท)
สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม
ไตรมาสที่ 1
ปี 2549 2548
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 135,148 167,248
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.53 0.66
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว
ลงลายมือชื่อ _______________________
( นายชุติเดช ชยุติ )
ตำแหน่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส - Corporate Finance
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
อ้าวบัตรพลาสติก แผ่วซะแล้วครับพี่เจ๋ง Q1/49 KTC
โพสต์ที่ 4
ผมว่าคงต้องดูรายละเอียดของงบการเงินนะครับว่า ที่แย่เพราะอะไร คุณ Jeng ให้ทีมที่เป็นลูกศิษย์ช่วยศึกษาซิครับ จะได้หาความเห็นมาสนับสนุนกันหน่อย เผื่อจะได้ความเห็นจากผู้รู้ในห้องนี้เพิ่มเติม สนุกดีออก ได้ความรู้และประสบการณ์ทั้งจากหุ้นที่ดี และหุ้นที่ยังไม่แน่ใจว่าจะดีจริง หรือหุ้นแย่ ๆ จะได้ลงทุนด้วยความรอบคอบนะครับ
สำหรับความเห็นผมเบื้องต้นนะครับ คงต้องดูรายละเอียดในงบเพิ่มเติมนะครับ
ถ้าแย่เพราะหนี้เสียเริ่มส่งสัญญาณแย่ลง แบบนี้ก็ต้องระวังว่าไตรมาสหน้าจะแย่กว่าเดิมหรือไม่
ถ้าแย่เพราะSpread ลดลง แบบนี้ก็ต้องดูว่าจะหาทางเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียม หรือลดค่าใช้จ่ายลงอย่างไร
หรือแย่เพราะลูกค้ามีการใช้จ่ายลดลง เพราะเศรษฐกิจแย่ยง
หรือแย่เพราะมีลูกค้าผู้ถือบัตรลดลง
รวมถึงต้องดูด้วยว่าการแย่ลงมันชั่วคราว หรือมันมีโอกาสยาวนานมากขึ้น ตรงนี้ก็สำคัญมาก ๆ เพราะจะแสดงผลในระยะถัดไปว่า จะฟื้นได้เร็วหรือไม่ครับ
ผมยังไม่ได้อ่านรายละเอียดของงบ จึงยังไม่อยากให้ความเห็นเชิงลึกนะครับ แต่ผมคิดว่า แย่เพียง 1 ไตรมาส อาจจะบอกเพียงสัญญาณบางอย่าง ต้องดูต่ออีกสักไตรมาส ถ้าแย่ลงอีก แบบนี้ต้องระวังให้มากครับโดยเฉพาะถ้าแย่เพราะคุณภาพหนี้ที่ลดลงและต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้น แบบนี้ต้องระวังมาก ๆ ครับ
สำหรับความเห็นผมเบื้องต้นนะครับ คงต้องดูรายละเอียดในงบเพิ่มเติมนะครับ
ถ้าแย่เพราะหนี้เสียเริ่มส่งสัญญาณแย่ลง แบบนี้ก็ต้องระวังว่าไตรมาสหน้าจะแย่กว่าเดิมหรือไม่
ถ้าแย่เพราะSpread ลดลง แบบนี้ก็ต้องดูว่าจะหาทางเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียม หรือลดค่าใช้จ่ายลงอย่างไร
หรือแย่เพราะลูกค้ามีการใช้จ่ายลดลง เพราะเศรษฐกิจแย่ยง
หรือแย่เพราะมีลูกค้าผู้ถือบัตรลดลง
รวมถึงต้องดูด้วยว่าการแย่ลงมันชั่วคราว หรือมันมีโอกาสยาวนานมากขึ้น ตรงนี้ก็สำคัญมาก ๆ เพราะจะแสดงผลในระยะถัดไปว่า จะฟื้นได้เร็วหรือไม่ครับ
ผมยังไม่ได้อ่านรายละเอียดของงบ จึงยังไม่อยากให้ความเห็นเชิงลึกนะครับ แต่ผมคิดว่า แย่เพียง 1 ไตรมาส อาจจะบอกเพียงสัญญาณบางอย่าง ต้องดูต่ออีกสักไตรมาส ถ้าแย่ลงอีก แบบนี้ต้องระวังให้มากครับโดยเฉพาะถ้าแย่เพราะคุณภาพหนี้ที่ลดลงและต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้น แบบนี้ต้องระวังมาก ๆ ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
อ้าวบัตรพลาสติก แผ่วซะแล้วครับพี่เจ๋ง Q1/49 KTC
โพสต์ที่ 5
เอาข่าวเรื่องบัตรเครดิตของธนาคารคู่แข่งมาฝากว่า เขามองสถานการณ์เรื่องบัตรเครดิตอย่างไรนะครับ
แบงก์โอดธุรกรรมบัตรเครดิตลดหวังศก.ฟื้นกู้ยอดคืนช่วงปลายปี
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤษภาคม 2549
"แบงก์นครหลวงไทย-กรุงเทพ "ทำใจยอดธุรกรรมบัตรเครดิต 4 เดือนแรกของปีต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ทั้งยอดบัตรใหม่และยอดค่าใช้จ่าย เหตุปัจจัยการเมือง-น้ำมัน-ดอกเบี้ยกระทบ รอดูสถานการณ์ไตรมาส 2 หากยังไม่ขยับเตรียมทบทวนเป้าใหม่ แต่ยังไม่มีปัญหาหนี้เสียเพิ่มขึ้น
นายสุจิน สุวรรณเกต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการทำให้ใหญ่ สายงานธุรกิจบัตร ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารมียอดบัตรเครดิตใหม่เพียง 10,000 บัตรเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 80,000 บัตร ส่วนยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรโดยเฉลี่ยอยู่ที่บัตรละ 3,000 ต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 3,500 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากทั้งปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่ยุติ ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นมาก แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะยังไม่ปรับเป้าหมายยอดบัตรเครดิตในช่วงสิ้นปีใหม่แต่อย่างใด โดยคงไว้ที่ 320,000 บัตร จากปัจจุบันที่มีอยู่ 250,000 บัตร เนื่องจากคาดว่าในไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป สถานการณ์ต่าง ๆ น่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ
แต่อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมแล้วถือว่าทรงตัว โดยสิ้นเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา มียอดลูกค้าที่ขอทำบัตรใหม่เข้ามามากกว่าไตรมาสที่ 1 เพิ่มขึ้น 30% หรือเดือนละ 6,000 บัตร และมียอดการอนุมัติถึง 60% ของยอดผู้ขอทำบัตรใหม่ ซึ่งไตรมาสแรกอนุมัติไปแล้ว 10,000 บัตร รวมทั้งพยายามรุกตลาดมากขึ้นด้วยการเน้นการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ การอนุมัติบัตรใหม่ในปัจจุบันมีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเน้นฐานเงินเดือนและประวัติการค้างชำระเพื่อป้องกันความเสี่ยง ซึ่งทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) บัตรเครดิต ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 3% จากเดิมที่มี 3.7% เนื่องจากธนาคารมีระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการติดตามหนี้ที่ดี
ส่วนการชำระหนี้นั้น ยังถือว่าปกติอยู่ โดยลูกค้าได้ชำระเงินขั้นต่ำตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้สัดส่วนถึง 70% จ่ายเต็มจำนวน 30% แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ธนาคารมีต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 2-3% ทำให้มีส่วนต่างต่างดอกเบี้ยรับและจ่ายของบัตรเครดิตอยู่ที่ 13% ซึ่งหายไป 2-3% จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จากการที่ธนาคารพยายามตรึงดอกเบี้ยขั้นต่ำ 17.75% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดไว้
ด้านนายโชค ณ ระนอง ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมานี้ ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 17% โดยทำได้เพียง 15% เท่านั้น แม้ว่าจะดูเป็นตัวเลขไม่มากนัก แต่เมื่อเทียบกับฐานการใช้จ่ายผ่านบัตรของธนาคารแล้ว ถือว่าสูงพอสมควร เนื่องจากโดยเฉลี่ยธนาคารมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดือนละ 10,000-12,000 บาทต่อบัตร ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจัยทางการเมือง ราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายลง
ขณะเดียวกัน ธนาคารมีต้นทุนทางการเงินด้านบัตรเครดิตเพิ่มสูงขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 2548 ที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นมาประมาณ 2.5-3% ของต้นทุนทั้งหมด อีกทั้งต้องให้เครดิตกับร้านค้าในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บัตรเครดิตเช่นกัน เพราะธนาคารก็ต้องรับภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น
"ในไตรมาสที่ 2 นี้ ยังประเมินไม่ได้ว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง โดยต้องติดตามสถานการณ์ทั้งจากเรื่องการเมือง ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ย ว่าจะมีทิศทางอย่างไรต่อไป รวมทั้งดูว่า เศรษฐกิจไทยจะเดินไปในทิศทางใดด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ ธนาคารยืนยันว่าจะออกเคมเปญเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรอย่างต่อเนื่องต่อไป แม้ว่าจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก แต่ก็ถือว่าดีกว่าที่จะไม่ทำอะไรเลย"นายโชคกล่าว
นายโชค กล่าวว่า ธนาคารได้ติดตามสถานการณ์เป้าหมายบัตรเครดิตอย่างใกล้ชิดเช่นกันโดย หลังจากที่ไตรมาสแรกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ธนาคารจะพิจารณาทบทวนเพื่อปรับเป้าหมายบัตรเครดิตอีกครั้งหนึ่ง
แบงก์โอดธุรกรรมบัตรเครดิตลดหวังศก.ฟื้นกู้ยอดคืนช่วงปลายปี
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 พฤษภาคม 2549
"แบงก์นครหลวงไทย-กรุงเทพ "ทำใจยอดธุรกรรมบัตรเครดิต 4 เดือนแรกของปีต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้ ทั้งยอดบัตรใหม่และยอดค่าใช้จ่าย เหตุปัจจัยการเมือง-น้ำมัน-ดอกเบี้ยกระทบ รอดูสถานการณ์ไตรมาส 2 หากยังไม่ขยับเตรียมทบทวนเป้าใหม่ แต่ยังไม่มีปัญหาหนี้เสียเพิ่มขึ้น
นายสุจิน สุวรรณเกต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการทำให้ใหญ่ สายงานธุรกิจบัตร ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารมียอดบัตรเครดิตใหม่เพียง 10,000 บัตรเท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 80,000 บัตร ส่วนยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรโดยเฉลี่ยอยู่ที่บัตรละ 3,000 ต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 3,500 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากทั้งปัญหาทางการเมืองที่ยังไม่ยุติ ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นมาก แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะยังไม่ปรับเป้าหมายยอดบัตรเครดิตในช่วงสิ้นปีใหม่แต่อย่างใด โดยคงไว้ที่ 320,000 บัตร จากปัจจุบันที่มีอยู่ 250,000 บัตร เนื่องจากคาดว่าในไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป สถานการณ์ต่าง ๆ น่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ
แต่อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมแล้วถือว่าทรงตัว โดยสิ้นเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา มียอดลูกค้าที่ขอทำบัตรใหม่เข้ามามากกว่าไตรมาสที่ 1 เพิ่มขึ้น 30% หรือเดือนละ 6,000 บัตร และมียอดการอนุมัติถึง 60% ของยอดผู้ขอทำบัตรใหม่ ซึ่งไตรมาสแรกอนุมัติไปแล้ว 10,000 บัตร รวมทั้งพยายามรุกตลาดมากขึ้นด้วยการเน้นการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ การอนุมัติบัตรใหม่ในปัจจุบันมีความเข้มงวดมากขึ้น โดยเน้นฐานเงินเดือนและประวัติการค้างชำระเพื่อป้องกันความเสี่ยง ซึ่งทำให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) บัตรเครดิต ปัจจุบันลดลงเหลือเพียง 3% จากเดิมที่มี 3.7% เนื่องจากธนาคารมีระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการติดตามหนี้ที่ดี
ส่วนการชำระหนี้นั้น ยังถือว่าปกติอยู่ โดยลูกค้าได้ชำระเงินขั้นต่ำตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้สัดส่วนถึง 70% จ่ายเต็มจำนวน 30% แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ธนาคารมีต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 2-3% ทำให้มีส่วนต่างต่างดอกเบี้ยรับและจ่ายของบัตรเครดิตอยู่ที่ 13% ซึ่งหายไป 2-3% จากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น จากการที่ธนาคารพยายามตรึงดอกเบี้ยขั้นต่ำ 17.75% ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดไว้
ด้านนายโชค ณ ระนอง ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมานี้ ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของธนาคารไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 17% โดยทำได้เพียง 15% เท่านั้น แม้ว่าจะดูเป็นตัวเลขไม่มากนัก แต่เมื่อเทียบกับฐานการใช้จ่ายผ่านบัตรของธนาคารแล้ว ถือว่าสูงพอสมควร เนื่องจากโดยเฉลี่ยธนาคารมียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดือนละ 10,000-12,000 บาทต่อบัตร ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจัยทางการเมือง ราคาน้ำมันและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ส่งผลกระทบให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายลง
ขณะเดียวกัน ธนาคารมีต้นทุนทางการเงินด้านบัตรเครดิตเพิ่มสูงขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 2548 ที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นมาประมาณ 2.5-3% ของต้นทุนทั้งหมด อีกทั้งต้องให้เครดิตกับร้านค้าในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บัตรเครดิตเช่นกัน เพราะธนาคารก็ต้องรับภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น
"ในไตรมาสที่ 2 นี้ ยังประเมินไม่ได้ว่า ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง โดยต้องติดตามสถานการณ์ทั้งจากเรื่องการเมือง ราคาน้ำมัน และอัตราดอกเบี้ย ว่าจะมีทิศทางอย่างไรต่อไป รวมทั้งดูว่า เศรษฐกิจไทยจะเดินไปในทิศทางใดด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ ธนาคารยืนยันว่าจะออกเคมเปญเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรอย่างต่อเนื่องต่อไป แม้ว่าจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก แต่ก็ถือว่าดีกว่าที่จะไม่ทำอะไรเลย"นายโชคกล่าว
นายโชค กล่าวว่า ธนาคารได้ติดตามสถานการณ์เป้าหมายบัตรเครดิตอย่างใกล้ชิดเช่นกันโดย หลังจากที่ไตรมาสแรกยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ธนาคารจะพิจารณาทบทวนเพื่อปรับเป้าหมายบัตรเครดิตอีกครั้งหนึ่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 150
- ผู้ติดตาม: 0
อ้าวบัตรพลาสติก แผ่วซะแล้วครับพี่เจ๋ง Q1/49 KTC
โพสต์ที่ 6
thawattt เขียน:ผมว่าคงต้องดูรายละเอียดของงบการเงินนะครับว่า ที่แย่เพราะอะไร คุณ Jeng ให้ทีมที่เป็นลูกศิษย์ช่วยศึกษาซิครับ จะได้หาความเห็นมาสนับสนุนกันหน่อย เผื่อจะได้ความเห็นจากผู้รู้ในห้องนี้เพิ่มเติม สนุกดีออก ได้ความรู้และประสบการณ์ทั้งจากหุ้นที่ดี และหุ้นที่ยังไม่แน่ใจว่าจะดีจริง หรือหุ้นแย่ ๆ จะได้ลงทุนด้วยความรอบคอบนะครับ
สำหรับความเห็นผมเบื้องต้นนะครับ คงต้องดูรายละเอียดในงบเพิ่มเติมนะครับ
ถ้าแย่เพราะหนี้เสียเริ่มส่งสัญญาณแย่ลง แบบนี้ก็ต้องระวังว่าไตรมาสหน้าจะแย่กว่าเดิมหรือไม่
ถ้าแย่เพราะSpread ลดลง แบบนี้ก็ต้องดูว่าจะหาทางเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียม หรือลดค่าใช้จ่ายลงอย่างไร
หรือแย่เพราะลูกค้ามีการใช้จ่ายลดลง เพราะเศรษฐกิจแย่ยง
หรือแย่เพราะมีลูกค้าผู้ถือบัตรลดลง
รวมถึงต้องดูด้วยว่าการแย่ลงมันชั่วคราว หรือมันมีโอกาสยาวนานมากขึ้น ตรงนี้ก็สำคัญมาก ๆ เพราะจะแสดงผลในระยะถัดไปว่า จะฟื้นได้เร็วหรือไม่ครับ
ผมยังไม่ได้อ่านรายละเอียดของงบ จึงยังไม่อยากให้ความเห็นเชิงลึกนะครับ แต่ผมคิดว่า แย่เพียง 1 ไตรมาส อาจจะบอกเพียงสัญญาณบางอย่าง ต้องดูต่ออีกสักไตรมาส ถ้าแย่ลงอีก แบบนี้ต้องระวังให้มากครับโดยเฉพาะถ้าแย่เพราะคุณภาพหนี้ที่ลดลงและต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้น แบบนี้ต้องระวังมาก ๆ ครับ
ถ้าเอาสินทรัพย์ในปี 2549 และ 2548 มาหาร กับค่าต่างๆใน แต่ละปีของ งบกำไรขาดทุน แล้วคูณด้วย 100 เพื่อเพียบเป็น %
จะเห็นว่า
1. ค่าใช้จ่ายสำหรับการบริหารเพิ่มขึ้นผิดหูผิดตา ***
2. ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น
แต่ในคำอธิบายงบการเงินแจ้งไว้ว่า ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากการรุกการตลาด
และในอนาคตเมื่อ ลูกค้า active product ของ KTC จำทำให้มีรายได้จากดอกเบี้ยรับมาขึ้น
ในกรณี NPL เพิ่มจากจากเดิมเล้กน้อย แต่ไม่เท่ากับอัตราการเพิ่มของ ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานครับ
- david
- Verified User
- โพสต์: 852
- ผู้ติดตาม: 0
อ้าวบัตรพลาสติก แผ่วซะแล้วครับพี่เจ๋ง Q1/49 KTC
โพสต์ที่ 7
bigshow เขียน:ขายไปก่อนสิครับ เดี๋ยวต่ำกว่า 20 บาท ค่อยซื้อคืน
1.My Facebook page, https://www.facebook.com/pages/Kitichai ... 5514051589.
2.U may follow my stock comment via http://twitter.com/value_talk
3.กระทู้ที่โพสท์นี้เป็นความเห็นส่วนตัว การซื้อขายหุ้นขึ้นอยู่กับการใช้วิจารณญาณของแต่ละคน
2.U may follow my stock comment via http://twitter.com/value_talk
3.กระทู้ที่โพสท์นี้เป็นความเห็นส่วนตัว การซื้อขายหุ้นขึ้นอยู่กับการใช้วิจารณญาณของแต่ละคน