ถามความสัมพันธ์ระหว่าง ROE กับ P/E ครับ
- Coca-Cola
- Verified User
- โพสต์: 326
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความสัมพันธ์ระหว่าง ROE กับ P/E ครับ
โพสต์ที่ 1
ROE (Return on Equity) = กำไร/เงินลงทุน
.......*** แปลว่า "เงินลงทุนหนึ่งบาท จะได้ กำไรกี่บาท"
PE = เงินลงทุน/กำไร
.......*** หมายความว่า "ต้องได้กำไร(ที่คงที่) เป็นจำนวนกี่ครั้ง(ในรอบปี) จึงจะเท่ากับส่วนเงินทุนที่ใส่เข้าไป"
ผมจึงคิดว่า ROE เป็นส่วนกลับของ P/E หรือปล่าวครับ
เพราะตอนที่เรียนกับพี่ JENG ก็เห็นพี่เค้านำทั้ง 2 ตัวนี้ มาประสานกัน จนได้ค่าหนึ่งๆ ที่เราต้องการออกมา
////ช่วยกันสรุปให้ผมหน่อยนะครับ ผมจะได้เข้าใจสักที////
ส่วน eps (Earnning per share) กำไรของผู้ลงทุนทั้งหมด/จำนวนหุ้นทั้งหมด
......*** หมายความว่า หุ้นหนึ่งตัวจะสามารถทำกำไรได้เท่าไร
ดังนั้น eps นี้ จะไม่ได้กล่าวถึงราคาหุ้นเลย จะเป็นเพียงแต่บอกว่า หุ้นจำนวน 1 หุ้น จะสามารถสร้างกำไรได้เท่าไร ซึ่งเรานำค่า eps มาใช้ มาคิดคำนวนกับค่า P/E ก็จะได้ค่า P ออกมา เราก็จะรู้ว่า ราคาซื้อขายขณะนั้นควรเป็นราคาเท่าไร
ที่ผมเขียนนี่ ถูกต้องหรือเปล่า ผมยังอ่านไม่กระจ่างพอเลยครับ.........
.......*** แปลว่า "เงินลงทุนหนึ่งบาท จะได้ กำไรกี่บาท"
PE = เงินลงทุน/กำไร
.......*** หมายความว่า "ต้องได้กำไร(ที่คงที่) เป็นจำนวนกี่ครั้ง(ในรอบปี) จึงจะเท่ากับส่วนเงินทุนที่ใส่เข้าไป"
ผมจึงคิดว่า ROE เป็นส่วนกลับของ P/E หรือปล่าวครับ
เพราะตอนที่เรียนกับพี่ JENG ก็เห็นพี่เค้านำทั้ง 2 ตัวนี้ มาประสานกัน จนได้ค่าหนึ่งๆ ที่เราต้องการออกมา
////ช่วยกันสรุปให้ผมหน่อยนะครับ ผมจะได้เข้าใจสักที////
ส่วน eps (Earnning per share) กำไรของผู้ลงทุนทั้งหมด/จำนวนหุ้นทั้งหมด
......*** หมายความว่า หุ้นหนึ่งตัวจะสามารถทำกำไรได้เท่าไร
ดังนั้น eps นี้ จะไม่ได้กล่าวถึงราคาหุ้นเลย จะเป็นเพียงแต่บอกว่า หุ้นจำนวน 1 หุ้น จะสามารถสร้างกำไรได้เท่าไร ซึ่งเรานำค่า eps มาใช้ มาคิดคำนวนกับค่า P/E ก็จะได้ค่า P ออกมา เราก็จะรู้ว่า ราคาซื้อขายขณะนั้นควรเป็นราคาเท่าไร
ที่ผมเขียนนี่ ถูกต้องหรือเปล่า ผมยังอ่านไม่กระจ่างพอเลยครับ.........
CI(Celebrity Investment) <----- oh! My GOD ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามความสัมพันธ์ระหว่าง ROE กับ P/E ครับ
โพสต์ที่ 2
[quote="Coca-Cola"]ROE (Return on Equity) =
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ถามความสัมพันธ์ระหว่าง ROE กับ P/E ครับ
โพสต์ที่ 3
ROE= กำไร/ส่วนของเจ้าของ
แสดงว่าผู้ถือหุ้นลงทุนไป 100 บาท จะได้กำไรต่อปีกี่บาท
หากเราซื้อหุ้นที่ p/bv(ราคา/มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น) เท่ากับ 1 เราจะได้รับผลตอบแทนตามข้างต้น แต่ในความเป็นจริง ราคาหุ้นในตลาดตอนที่เราซื้อมักซื้อขายกันที่ราคาต่ำหรือสูงกว่า bv ก็ได้ (ส่วนใหญ่มักสูงกว่า) ดังนั้นเราต้องนำ p/bv ไปหารเพื่อให้ได้ ROE ที่แท้จริง เสมือนว่าราคาที่เราซื้อมี p/bv เท่ากับ 1 เท่า
เช่นหุ้นตัวนึ่งมี roe เท่ากับ 20%
แต่หุ้นตัวนี้ซื้อขายกันที่ p/bv 2 เท่า
ดังนั้น roe ที่เราได้รับจริงๆคือ 20/2= 10 %
หุ้นอีกตัว roe เท่ากับ 20%
แต่เราซื้อได้ที่ b/bv 0.5 เท่า
ดังนั้น roe ที่เราได้รับจริงคือ 20*.5= 40%
น่าจะเข้าใจถูกนะครับ ไม่ถูกต้องอย่างไรก็ทักท้วงด้วยครับ
แสดงว่าผู้ถือหุ้นลงทุนไป 100 บาท จะได้กำไรต่อปีกี่บาท
หากเราซื้อหุ้นที่ p/bv(ราคา/มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น) เท่ากับ 1 เราจะได้รับผลตอบแทนตามข้างต้น แต่ในความเป็นจริง ราคาหุ้นในตลาดตอนที่เราซื้อมักซื้อขายกันที่ราคาต่ำหรือสูงกว่า bv ก็ได้ (ส่วนใหญ่มักสูงกว่า) ดังนั้นเราต้องนำ p/bv ไปหารเพื่อให้ได้ ROE ที่แท้จริง เสมือนว่าราคาที่เราซื้อมี p/bv เท่ากับ 1 เท่า
เช่นหุ้นตัวนึ่งมี roe เท่ากับ 20%
แต่หุ้นตัวนี้ซื้อขายกันที่ p/bv 2 เท่า
ดังนั้น roe ที่เราได้รับจริงๆคือ 20/2= 10 %
หุ้นอีกตัว roe เท่ากับ 20%
แต่เราซื้อได้ที่ b/bv 0.5 เท่า
ดังนั้น roe ที่เราได้รับจริงคือ 20*.5= 40%
หุ้นบางตัวดูเหมือนมี roe สูงมาก แต่หากซื้อขายกันที่ b/bv สูงๆ roe ที่เราจะได้รับจริงๆ จะต่ำกว่ามาก เหมือนซื้อของดี ที่ราคาแพงมาก ย่อมไม่คุ้มค่าROE/(p/bv) = (กำไร/ส่วนของเจ้าของ)/(ราคา/ส่วนของเจ้าของ)
=กำไร/ราคา หรือส่วนกลับของ PE นั่นเอง โดยที่ PE = ราคา/กำไร
น่าจะเข้าใจถูกนะครับ ไม่ถูกต้องอย่างไรก็ทักท้วงด้วยครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- Coca-Cola
- Verified User
- โพสต์: 326
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความสัมพันธ์ระหว่าง ROE กับ P/E ครับ
โพสต์ที่ 5
ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณ พี่ HVI และพี่ ลูกอีสาน มากครับ ที่เข้ามาให้คำแนะนำ ....ต้องขออ่านทบทวนหลายๆ รอบ และเซฟเก็บไว้
อืมมม เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ผมโพสต์ถามต่ออะครับ แต่มันหายไปซะแล้ว จะเป็นการถามเรื่อง ROE ที่เป็นเนื้อหาต่อยอดมา เด๋วต้องขอกลับไปตามหาก่อนว่ามีจดย่อไว้ในหนังสือก่อนโพสต์บ้างหรือเปล่า
พี่ลูกอีสานครับ ตอนแรกผมก็นึกว่า P/B ไม่ค่อยจะสำคัญซะแล้ว พึ่งรู้ว่าเราสามารถนำไปใช้คำณวนหา "ROE ที่แท้จริงสำหรับเรา" ได้ด้วย เคยเข้าใจว่า เห็น ROE ตัวเลขเท่าไร ก็มั่นใจเถอะว่า นั่นเป็นตัวเลขของเรา ขณะเข้าไปซื้อ ตอนนี้ผมรู้วิธีคำณวน พอเอากลับไปดูหุ้นที่ซื้อลงทุนไว้ (อาการมันเป็นอย่างนี้เลยพี่) ต้องหลบลี้หนีหน้าเพื่อนๆ เพราะเคยโอ่! ไว้ ว่าได้ ROE ตั้งเท่านี
เพราะผมมองว่า Asset = Debt + Equity ซึ่งจะทำให้ ส่วนทุนผู้ถือหุ้น สิ่งที่ติดมาด้วยก็คือปันผล ส่วนหนี้สิน สิ่งที่ติดมาด้วยก็คือ ปันผลที่ถูกลบออกด้วยดอกเบี้ยเงินกู้ เพียงแต่ปันผลกจากการนำหนี้สินมาเป็นทุน จะถูกนำไปถัวเฉลี่ยให้กับทุนผู้ถือหุ้น ก็เหมือนได้ 2 เด้ง ซึ่งส่งผลให้ eps สูงขึ้น
ในขณะที่ ถ้าหนี้สินระยะยาว ถูกแทนที่ด้วยเงินจากการขายหุ้นเพิ่มทุน ก็จะเกิดปริมาณหุ้นที่มาแชร์ส่วนของเงินปันผล ทำให้เงินปันผลต่อหุ้น(eps) ต่ำลง
แต่ก็ยังมีเรื่องของสัดส่วน หนี้สิน/ทุน ที่ต้องนำมาคำณวนอีก ว่ามีมากหรือน้อย ถ้าสูงเกิน 1 เมื่อเกิดภาวะวิกฤติกับบริษัท เช่น่ยอดคงค้างสูง การซื้อขายหยุดชะงัก การค้าถูกแช่เย็น3เดือนเพราะเกิดการปนเปื้อนพิษในอาหารสูง ก็มีสิทธิทำให้บริษัทเสียหายขนาดหนักได้ เพราะบริษัทหยุดนิ่งแต่ดอกเบี้ยจ่ายไม่เคยหยุดนิ่ง
พี่ๆ คิดว่าไงครับ ที่ผมเข้าใจเช่นนี้ ถูกต้องหรือไม่ครับ
อืมมม เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ผมโพสต์ถามต่ออะครับ แต่มันหายไปซะแล้ว จะเป็นการถามเรื่อง ROE ที่เป็นเนื้อหาต่อยอดมา เด๋วต้องขอกลับไปตามหาก่อนว่ามีจดย่อไว้ในหนังสือก่อนโพสต์บ้างหรือเปล่า
พี่ลูกอีสานครับ ตอนแรกผมก็นึกว่า P/B ไม่ค่อยจะสำคัญซะแล้ว พึ่งรู้ว่าเราสามารถนำไปใช้คำณวนหา "ROE ที่แท้จริงสำหรับเรา" ได้ด้วย เคยเข้าใจว่า เห็น ROE ตัวเลขเท่าไร ก็มั่นใจเถอะว่า นั่นเป็นตัวเลขของเรา ขณะเข้าไปซื้อ ตอนนี้ผมรู้วิธีคำณวน พอเอากลับไปดูหุ้นที่ซื้อลงทุนไว้ (อาการมันเป็นอย่างนี้เลยพี่) ต้องหลบลี้หนีหน้าเพื่อนๆ เพราะเคยโอ่! ไว้ ว่าได้ ROE ตั้งเท่านี
อย่างนี้สมมุติว่าถ้าได้ ROE เท่ากับตัวเลขหนึ่งๆ แต่ถ้ามีการขายหุ้นเพิ่มทุนเพื่อนำมาแทนที่หนี้สินระยะยาว, eps ก็น่าจะมีตัวเลขที่ต่ำลงหรือไม่ครับพี่ HVI
ROE, E ในที่นี้คือส่วนของ Equity (Asset = Debt + Equity)
เพราะผมมองว่า Asset = Debt + Equity ซึ่งจะทำให้ ส่วนทุนผู้ถือหุ้น สิ่งที่ติดมาด้วยก็คือปันผล ส่วนหนี้สิน สิ่งที่ติดมาด้วยก็คือ ปันผลที่ถูกลบออกด้วยดอกเบี้ยเงินกู้ เพียงแต่ปันผลกจากการนำหนี้สินมาเป็นทุน จะถูกนำไปถัวเฉลี่ยให้กับทุนผู้ถือหุ้น ก็เหมือนได้ 2 เด้ง ซึ่งส่งผลให้ eps สูงขึ้น
ในขณะที่ ถ้าหนี้สินระยะยาว ถูกแทนที่ด้วยเงินจากการขายหุ้นเพิ่มทุน ก็จะเกิดปริมาณหุ้นที่มาแชร์ส่วนของเงินปันผล ทำให้เงินปันผลต่อหุ้น(eps) ต่ำลง
แต่ก็ยังมีเรื่องของสัดส่วน หนี้สิน/ทุน ที่ต้องนำมาคำณวนอีก ว่ามีมากหรือน้อย ถ้าสูงเกิน 1 เมื่อเกิดภาวะวิกฤติกับบริษัท เช่น่ยอดคงค้างสูง การซื้อขายหยุดชะงัก การค้าถูกแช่เย็น3เดือนเพราะเกิดการปนเปื้อนพิษในอาหารสูง ก็มีสิทธิทำให้บริษัทเสียหายขนาดหนักได้ เพราะบริษัทหยุดนิ่งแต่ดอกเบี้ยจ่ายไม่เคยหยุดนิ่ง
พี่ๆ คิดว่าไงครับ ที่ผมเข้าใจเช่นนี้ ถูกต้องหรือไม่ครับ
CI(Celebrity Investment) <----- oh! My GOD ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความสัมพันธ์ระหว่าง ROE กับ P/E ครับ
โพสต์ที่ 6
เพิ่มทุน Shares หรือ S ในที่นี้จะเพิ่มขึ้นทำให้ตัวหารมากขึ้นCoca-Cola เขียน: อย่างนี้สมมุติว่าถ้าได้ ROE เท่ากับตัวเลขหนึ่งๆ แต่ถ้ามีการขายหุ้นเพิ่มทุนเพื่อนำมาแทนที่หนี้สินระยะยาว, eps ก็น่าจะมีตัวเลขที่ต่ำลงหรือไม่ครับ
ถ้า E เท่าเดิม ก็จะทำให้ EPS ลดลง หรือที่เรียกว่า Dilution Effect
ลองกลับไปทำความเข้าใจระหว่างคำว่าเงินปันผล (Dividend) และ Earning ใหม่ครับเพราะผมมองว่า Asset = Debt + Equity ซึ่งจะทำให้ ส่วนทุนผู้ถือหุ้น สิ่งที่ติดมาด้วยก็คือปันผล ส่วนหนี้สิน สิ่งที่ติดมาด้วยก็คือ ปันผลที่ถูกลบออกด้วยดอกเบี้ยเงินกู้ เพียงแต่ปันผลกจากการนำหนี้สินมาเป็นทุน จะถูกนำไปถัวเฉลี่ยให้กับทุนผู้ถือหุ้น ก็เหมือนได้ 2 เด้ง ซึ่งส่งผลให้ eps สูงขึ้น
Earning หรือ Net Profit ที่ว่านี้หักดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายแล้วครับ (ในงบกำไร/ขาดทุน)
ไม่ว่าวิธีไหนที่ทำให้ Shares เพิ่ม ไม่ว่าจะแปลงหนี้เป็นทุน
Exercise Warrant หรือ ออกหุ้นเพิ่มทุน มีผลทำให้ EPS ลดทั้งนั้นครับ
ถ้า E ยังเท่าเดิม
EPS คือ Earning Per Shareในขณะที่ ถ้าหนี้สินระยะยาว ถูกแทนที่ด้วยเงินจากการขายหุ้นเพิ่มทุน ก็จะเกิดปริมาณหุ้นที่มาแชร์ส่วนของเงินปันผล ทำให้เงินปันผลต่อหุ้น(eps) ต่ำลง
ไม่ใช่ปันผลต่อหุ้นหรือ DPS (Dividend Per Share)
ต้องดูธรรมชาติของธุรกิจด้วยครับแต่ก็ยังมีเรื่องของสัดส่วน หนี้สิน/ทุน ที่ต้องนำมาคำณวนอีก ว่ามีมากหรือน้อย ถ้าสูงเกิน 1 เมื่อเกิดภาวะวิกฤติกับบริษัท เช่น่ยอดคงค้างสูง การซื้อขายหยุดชะงัก การค้าถูกแช่เย็น3เดือนเพราะเกิดการปนเปื้อนพิษในอาหารสูง ก็มีสิทธิทำให้บริษัทเสียหายขนาดหนักได้ เพราะบริษัทหยุดนิ่งแต่ดอกเบี้ยจ่ายไม่เคยหยุดนิ่ง
เป็นต้นว่ากลุ่มสาธารณูปโภค หนี้ย่อมสูงเป็นธรรมดา
เนื่องจากต้องมีการลงทุนสูง
แต่ธรรมชาติของธุรกิจมักจะมีรายได้มั่นคง ก็ไม่ต้องกังวลมากนัก
อันที่จริง D/E สูงกว่า 1 ก็ยังไม่ถือว่าเสี่ยงมากนัก
โดยเฉพาะหากบริษัทอยู่ในช่วงขยายกิจการ
"Winners never quit, and quitters never win."
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความสัมพันธ์ระหว่าง ROE กับ P/E ครับ
โพสต์ที่ 7
8) นี่เป็นความรู้ใหม่สำหรับผมเลยลูกอิสาน เขียน:หากเราซื้อหุ้นที่ p/bv(ราคา/มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้น) เท่ากับ 1 เราจะได้รับผลตอบแทนตามข้างต้น แต่ในความเป็นจริง ราคาหุ้นในตลาดตอนที่เราซื้อมักซื้อขายกันที่ราคาต่ำหรือสูงกว่า bv ก็ได้ (ส่วนใหญ่มักสูงกว่า) ดังนั้นเราต้องนำ p/bv ไปหารเพื่อให้ได้ ROE ที่แท้จริง เสมือนว่าราคาที่เราซื้อมี p/bv เท่ากับ 1 เท่า
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณน้องเฮ็ชด้วยที่มาเล็กเช่อร์
แบบไม่หวงวิชา เลยย..
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
ถามความสัมพันธ์ระหว่าง ROE กับ P/E ครับ
โพสต์ที่ 8
เอา ROE ตั้งหารด้วย P/BV
มันก็กลายเป็น E/P หรือส่วนกลับของ P/E ใช่มั๊ยครับ
มันก็กลายเป็น E/P หรือส่วนกลับของ P/E ใช่มั๊ยครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความสัมพันธ์ระหว่าง ROE กับ P/E ครับ
โพสต์ที่ 9
ใช่ครับyoyo เขียน:เอา ROE ตั้งหารด้วย P/BV
มันก็กลายเป็น E/P หรือส่วนกลับของ P/E ใช่มั๊ยครับ
R/BV / P/BV
R/BV * BV/P
R/P
E/P
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ถามความสัมพันธ์ระหว่าง ROE กับ P/E ครับ
โพสต์ที่ 10
และ E/P หรือส่วนกลับ P/E นี่เองสามารถใช้ในการหามูลค่าของหุ้นที่แท้จริง (Intrinsic Value ) ได้ครับ โดยที่
คัดลอกจากตระแกรงร่อนหุ้นของพี่วิบูลย์หน้าแรกๆครับ ใครสนใจเข้าไปอ่านกันได้ครับการหา Intrinsic Value มีสามวิธีดังต่อไปนี้
1) Reproduction Cost of Asset
2) Earning Power Value
3) Discount Cashflow Model
2) Earning Power Value
คือการหามูลค่าบริษัทจากผลตอบแทนของเงินลงทุนในรูปผลการดำเนินงานเช่นบริษัทหนึ่งมีกำไร 100 ล้านบาท สมมุติเรามีเงินหนึ่งก้อนและเราสามารถทำผลตอบแทนจากเงินก้อนนี้ได้ 7% ต่อปี ดังนั้นมูลค่าของเงินลงทุนของเราที่ต้องใช้ซื้อบริษัทนี้ คือ 100/.07 เท่ากับ 1429 ล้านบาท นั่นคือมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทนั้น
(จะสังเกตเห็นว่า %ผลตอบแทนนี้คือส่วนกลับของ P/E)
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว