ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 1
ผมจะได้หลีกเลี่ยงหุ้นเหล่านั้น :roll:
ขอประเดิมเลยคือ ลดการซื้อนิตยสารและหนังสือครับ
ไม่ได้ทุบ aprint se-ed นะครับ เอาตามที่เราคิดจริงๆ
ขอประเดิมเลยคือ ลดการซื้อนิตยสารและหนังสือครับ
ไม่ได้ทุบ aprint se-ed นะครับ เอาตามที่เราคิดจริงๆ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 4
จริงๆมันจะมีการลดปริมาณ กับการเปลี่ยนไปหาสินค้าทางเลือกที่ถูกกว่า อย่างเคยชอบพักที่รร.รถไฟที่หัวหิน ก็เปลี่ยนไปเที่ยวเพชรบุรีแทน
นี่คือสิ่งที่ผมเองลด
มือถือ
หนังสือพิมพ์ นิตยสาร (หนังสือยังซื้อ)
โรงหนัง
ใช้รถส่วนตัวน้อยลง
กาแฟสตาร์บัคส์
นี่คือสิ่งที่ผมเองลด
มือถือ
หนังสือพิมพ์ นิตยสาร (หนังสือยังซื้อ)
โรงหนัง
ใช้รถส่วนตัวน้อยลง
กาแฟสตาร์บัคส์
- 2 dogs
- Verified User
- โพสต์: 726
- ผู้ติดตาม: 0
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 13
ลดการกินเนื้อสัตว์ที่ราคาแพง กินแต่ ไก่กะไข่
ลดการกินข้าวที่ราคาแพง หันหาข้าวราคาถูก
ลดการเข้า 7-11 เน้นซื้อยกlot ใช้ได้ข้ามปี ถูกกว่า
ยกเลิกประกันภัยทุกชนิด
ลดการซื้อของฟุ่มเฟือยในห้าง แต่ยังเดินนะ
เจ็บป่วยยอมนอนป่วยอยู่บ้าน ไม่ไปโรงพยาบาล ถ้าไปก็ของรัฐ ไม่เข้าเอกชน
ลดการกินพิซซ่า อาหาร junk food ไอศครีม
ลดการซื้อหนังสือ แต่ยังยืนอ่านฟรีนะ
ลดการไปเที่ยว ลดการพักโรงแรม เน้นราคาถูกไว้ก่อนถ้าไป
หยุดขับรถ ใช้รถเมล์แทน
ไม่ซื้อเสื้อผ้าราคาแพง เกิน350 ไม่สน
ดูหนังแผ่นแทนหนังโรง โหลดbitแทนซื้อแผ่นเพลง
ลดการใช้ไฟฟ้า ลดการใช้แอร์
ลดโทรศัพท์ รายนาที เพิ่มโทรครั้งเดียว3บาท
ยกเลิกบัตรเครดิต
ยกเลิกเช่าห้องราคาแพง มาอยู่คอนโดเก่าๆ ถูกๆ
ขายบ้านหลังใหญ่ หาคอนโดถูกๆ เช่า
ลาออกจากงานที่ไม่คุ้มค่ารถเดินทาง
หางานใกล้บ้าน
เลิก UBC เลิกcable
อาบน้ำเหลือวันละ1ครั้ง
กินข้าวน้อยลงครึ่งนึง เหลือไว้กินมื้อหน้า
หยุดกินเบเกอรี่ราคาแพง กินชิ้นละ3-5บาทแทนชิ้นละ20
เลิกสมาชิกfitness วิ่งแถวบ้านแทน
ทำอาหารกินเอง ไม่ซื้อนอกบ้าน
บวชพระลดค่าใช้จ่าย
เลิกสังสรรค์ที่ต้องเสียตังเช่น ร้านอาหาร karaoke bar pub
กลับไปตั้งวงที่บ้าน ซื้อเบียร์ถูกๆ แทนเหล้า
เลิกสูบบุหรี่ เลิก กาแฟ เครื่องดื่มที่เสียตัง กินน้ำเปล่ากรองแทน
ย้ายที่เรียนจากราคาแพงไปถูก หรือเลิกเรียน
ไม่กวดวิชา แพง อ่านเอาเอง
ใช้ผ้าอ้อมแทนไดเปอร์ กินนมแม่แทนนมผง
เลิกซื้อของเล่นราคาแพงให้ลูก เล่นของหาได้ในบ้าน ถูกๆ
มีเสนอเพิ่มอีกไหมครับ
ลดการกินข้าวที่ราคาแพง หันหาข้าวราคาถูก
ลดการเข้า 7-11 เน้นซื้อยกlot ใช้ได้ข้ามปี ถูกกว่า
ยกเลิกประกันภัยทุกชนิด
ลดการซื้อของฟุ่มเฟือยในห้าง แต่ยังเดินนะ
เจ็บป่วยยอมนอนป่วยอยู่บ้าน ไม่ไปโรงพยาบาล ถ้าไปก็ของรัฐ ไม่เข้าเอกชน
ลดการกินพิซซ่า อาหาร junk food ไอศครีม
ลดการซื้อหนังสือ แต่ยังยืนอ่านฟรีนะ
ลดการไปเที่ยว ลดการพักโรงแรม เน้นราคาถูกไว้ก่อนถ้าไป
หยุดขับรถ ใช้รถเมล์แทน
ไม่ซื้อเสื้อผ้าราคาแพง เกิน350 ไม่สน
ดูหนังแผ่นแทนหนังโรง โหลดbitแทนซื้อแผ่นเพลง
ลดการใช้ไฟฟ้า ลดการใช้แอร์
ลดโทรศัพท์ รายนาที เพิ่มโทรครั้งเดียว3บาท
ยกเลิกบัตรเครดิต
ยกเลิกเช่าห้องราคาแพง มาอยู่คอนโดเก่าๆ ถูกๆ
ขายบ้านหลังใหญ่ หาคอนโดถูกๆ เช่า
ลาออกจากงานที่ไม่คุ้มค่ารถเดินทาง
หางานใกล้บ้าน
เลิก UBC เลิกcable
อาบน้ำเหลือวันละ1ครั้ง
กินข้าวน้อยลงครึ่งนึง เหลือไว้กินมื้อหน้า
หยุดกินเบเกอรี่ราคาแพง กินชิ้นละ3-5บาทแทนชิ้นละ20
เลิกสมาชิกfitness วิ่งแถวบ้านแทน
ทำอาหารกินเอง ไม่ซื้อนอกบ้าน
บวชพระลดค่าใช้จ่าย
เลิกสังสรรค์ที่ต้องเสียตังเช่น ร้านอาหาร karaoke bar pub
กลับไปตั้งวงที่บ้าน ซื้อเบียร์ถูกๆ แทนเหล้า
เลิกสูบบุหรี่ เลิก กาแฟ เครื่องดื่มที่เสียตัง กินน้ำเปล่ากรองแทน
ย้ายที่เรียนจากราคาแพงไปถูก หรือเลิกเรียน
ไม่กวดวิชา แพง อ่านเอาเอง
ใช้ผ้าอ้อมแทนไดเปอร์ กินนมแม่แทนนมผง
เลิกซื้อของเล่นราคาแพงให้ลูก เล่นของหาได้ในบ้าน ถูกๆ
มีเสนอเพิ่มอีกไหมครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 14
อืมมมม ...... ตัวผมตอนนี้ก็กำลังปฏิบัติอยู่ครับ พอดีเลย :lol: :lol: :lol:
1. อาหาร กินถูกลง แต่ยังต้องการคุณภาพ ผมปกติสั่ง S&P มากินบ่อยมากครับจำเมนูได้หมด แต่ตอนนี้สั่งลดลง ... เนื่องจากต้องการประหยัด และ S&P ขึ้นราคาหลายรายการครับ แบบส่งถึงบ้านนะครับ ไปกินที่ร้านไม่รู้ขึ้นราคาหรือเปล่า
ดังนั้นผมพสรุปได้ว่า S&P ไม่ใช่ว่าจะเป็นสินค้าที่ขึ้นราคาได้เสมอนะครับ โดยเฉพาะถ้ามีลูกค้าแบบผมเยอะๆ และ ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี
สำหรับตัวผมถ้าเศรษฐกิจดี ผมก็คงสั่งเหมือนเดิม แต่นี่คงเพราะมีปัจจัยกระทบมากกว่า 1 อย่าง
ช่วงนี้ผมหันมา ซื้ออาหารมาทำเองมากขึ้น BigC Lotus 7-11 น่าจะได้ประโยชน์จากผม
น้ำดื่ม ปกติ ผมไม่ทาน น้ำดำ โค้ก แป๊บซี่ ... เลิกมาได้พักใหญ่ และต่อให้เศรษฐกิจตกแค่ไหน ผมคงไม่กลับไปกิน เพราะกินน้ำเปล่าถูกกว่า ... ส่วนชาเขียวนี่กระทบแน่ เพราะผมเริ่มเบื่อ และซื้อลดลงเพราะแพงด้วย
2. เสื้อผ้า .... ผมซื้อแบบคิดมากขึ้น ไอ้เข้ และ สินค้าแบรนด์ จะคิดแล้วคิดอีก
3. เครื่องใช้ไฟฟ้า คิดแล้วคิดอีกเหมือนกันครับ จะซื้อก็ลด Spec ลงมา แต่คงไม่ถึงกับตัดทิ้งซะหมด ... มือถือที่เคยคิดว่าอยากซื้อใหม่ ก็รอไปก่อน
4. อสังหาริมทรัพย์ ... ในใจคิดว่า เอ จะมีของถูกให้ในอนาคตอันใกล้มั้ยนะ ... ก็เลยยังไม่ซื้อ ตอนนี้ รอไปก่อน ฝันว่าจะมีของถูกกว่า ไม่รู้จะมีจริงหรือไม่ ซึ่งเห็นหลายท่านก็คิดแบบนี้ ไม่รู้จะฝันกลางวันหมู่หรือเปล่า :lovl: :lovl: :lovl:
5. เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่งบ้าน อันนี้ผมลดของจริงเลยครับ คือ ไม่คิดจะซื้อใหม่ถ้าไม่จำเป็น
6. หนังสือ ผมซื้อแบบคิดมากขึ้น แต่ว่าผมถือว่าความรู้เป็นสิ่งจำเป็น ผมไม่ตัดงบหนังสือมากมายครับ
7. สุขภาพ และ รักษาพยาบาล ผมแทบจะเรียกได้ว่า ผมคงไว้เหมือนเดิมหมด ผมเชื่อว่า สุขภาพสำคัญที่สุด เงินทองมากมายจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าสุขภาพของเราไม่ดี ผมยังคงงบส่วนนี้ไว้แบบไม่ลดลงครับ
8. ค่าพลังงาน ผมคิดมากขึ้น เริ่มคิดจะประหยัดไฟฟ้ามากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ก็ทำไม่ได้มากครับ ผมว่าอาจเป้นเพราะเดิมก็ประหยัดอยู่แล้ว จะให้ใช้ตะเกียงก็ไม่รู้จะทนได้ไงไหว .... น้ำมันและค่าเดินทาง ปกติ ผมก็ประหยัด แต่ตอนนี้จะประหยัดกว่าเก่านิดหน่อย
9. บันเทิง ... ผมลดค่าใช้จ่าย โดยการหาความสุขจาก Internet มากขึ้น ดูหนังสั้นๆ ขำๆ ของพวกชาวเน็ตที่ทำกันเองมากขึ้น แต่จริงๆค่าใช้จ่ายส่วนนี้พูดยาก เพราะผมไม่ค่อยได้ใช้จ่ายหมวดนี้มากอยู่แล้ว
อืมม ... มีไรอีกหว่า นึกไม่ค่อยออกครับ
1. อาหาร กินถูกลง แต่ยังต้องการคุณภาพ ผมปกติสั่ง S&P มากินบ่อยมากครับจำเมนูได้หมด แต่ตอนนี้สั่งลดลง ... เนื่องจากต้องการประหยัด และ S&P ขึ้นราคาหลายรายการครับ แบบส่งถึงบ้านนะครับ ไปกินที่ร้านไม่รู้ขึ้นราคาหรือเปล่า
ดังนั้นผมพสรุปได้ว่า S&P ไม่ใช่ว่าจะเป็นสินค้าที่ขึ้นราคาได้เสมอนะครับ โดยเฉพาะถ้ามีลูกค้าแบบผมเยอะๆ และ ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี
สำหรับตัวผมถ้าเศรษฐกิจดี ผมก็คงสั่งเหมือนเดิม แต่นี่คงเพราะมีปัจจัยกระทบมากกว่า 1 อย่าง
ช่วงนี้ผมหันมา ซื้ออาหารมาทำเองมากขึ้น BigC Lotus 7-11 น่าจะได้ประโยชน์จากผม
น้ำดื่ม ปกติ ผมไม่ทาน น้ำดำ โค้ก แป๊บซี่ ... เลิกมาได้พักใหญ่ และต่อให้เศรษฐกิจตกแค่ไหน ผมคงไม่กลับไปกิน เพราะกินน้ำเปล่าถูกกว่า ... ส่วนชาเขียวนี่กระทบแน่ เพราะผมเริ่มเบื่อ และซื้อลดลงเพราะแพงด้วย
2. เสื้อผ้า .... ผมซื้อแบบคิดมากขึ้น ไอ้เข้ และ สินค้าแบรนด์ จะคิดแล้วคิดอีก
3. เครื่องใช้ไฟฟ้า คิดแล้วคิดอีกเหมือนกันครับ จะซื้อก็ลด Spec ลงมา แต่คงไม่ถึงกับตัดทิ้งซะหมด ... มือถือที่เคยคิดว่าอยากซื้อใหม่ ก็รอไปก่อน
4. อสังหาริมทรัพย์ ... ในใจคิดว่า เอ จะมีของถูกให้ในอนาคตอันใกล้มั้ยนะ ... ก็เลยยังไม่ซื้อ ตอนนี้ รอไปก่อน ฝันว่าจะมีของถูกกว่า ไม่รู้จะมีจริงหรือไม่ ซึ่งเห็นหลายท่านก็คิดแบบนี้ ไม่รู้จะฝันกลางวันหมู่หรือเปล่า :lovl: :lovl: :lovl:
5. เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่งบ้าน อันนี้ผมลดของจริงเลยครับ คือ ไม่คิดจะซื้อใหม่ถ้าไม่จำเป็น
6. หนังสือ ผมซื้อแบบคิดมากขึ้น แต่ว่าผมถือว่าความรู้เป็นสิ่งจำเป็น ผมไม่ตัดงบหนังสือมากมายครับ
7. สุขภาพ และ รักษาพยาบาล ผมแทบจะเรียกได้ว่า ผมคงไว้เหมือนเดิมหมด ผมเชื่อว่า สุขภาพสำคัญที่สุด เงินทองมากมายจะไม่มีประโยชน์เลย ถ้าสุขภาพของเราไม่ดี ผมยังคงงบส่วนนี้ไว้แบบไม่ลดลงครับ
8. ค่าพลังงาน ผมคิดมากขึ้น เริ่มคิดจะประหยัดไฟฟ้ามากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ก็ทำไม่ได้มากครับ ผมว่าอาจเป้นเพราะเดิมก็ประหยัดอยู่แล้ว จะให้ใช้ตะเกียงก็ไม่รู้จะทนได้ไงไหว .... น้ำมันและค่าเดินทาง ปกติ ผมก็ประหยัด แต่ตอนนี้จะประหยัดกว่าเก่านิดหน่อย
9. บันเทิง ... ผมลดค่าใช้จ่าย โดยการหาความสุขจาก Internet มากขึ้น ดูหนังสั้นๆ ขำๆ ของพวกชาวเน็ตที่ทำกันเองมากขึ้น แต่จริงๆค่าใช้จ่ายส่วนนี้พูดยาก เพราะผมไม่ค่อยได้ใช้จ่ายหมวดนี้มากอยู่แล้ว
อืมม ... มีไรอีกหว่า นึกไม่ค่อยออกครับ
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- Verified User
- โพสต์: 306
- ผู้ติดตาม: 0
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 15
:lol: :lol: :lol: อันนี้ผมก็คิดว่าจะลด แต่พอไปซื้อของที่ห้างแล้วเดินผ่านร้านทีไร ก็อยากกินทู๊กที แล้วก็นึกในใจ เอาเถอะร้อยนึง นานๆกินที :lol: :lol: :lol:Boring Stock Lover เขียน:กาแฟสตาร์บัคส์
- 2 dogs
- Verified User
- โพสต์: 726
- ผู้ติดตาม: 0
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 16
มาอ่านหัวข้ออีกที ถ้าดูแล้วที่ลดยากที่สุด
คือลดปริมาณข้าวที่กินแต่ละมื้อเหลือครึ่งเดียว
ด้วยเหตุนี้ ข้าวสาร มาม่า ไก่ ไข่ พืชผักที่ราคาถูก จะไม่ได้รับผลกระทบ
รวมไปถึงน้ำเปล่าด้วย
ที่น่าสนคือผลไม้ที่ถูก dumpราคาจนน่าใจหายเช่น
ลิ้นจี่ ลำไย ทุเรียน จะสามารถใช้แทนข้าวได้หรือไม่ ด้วยราคาที่ใกล้เคียงกัน
คือลดปริมาณข้าวที่กินแต่ละมื้อเหลือครึ่งเดียว
ด้วยเหตุนี้ ข้าวสาร มาม่า ไก่ ไข่ พืชผักที่ราคาถูก จะไม่ได้รับผลกระทบ
รวมไปถึงน้ำเปล่าด้วย
ที่น่าสนคือผลไม้ที่ถูก dumpราคาจนน่าใจหายเช่น
ลิ้นจี่ ลำไย ทุเรียน จะสามารถใช้แทนข้าวได้หรือไม่ ด้วยราคาที่ใกล้เคียงกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 17
:lol:ฐิติ เขียน:
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 18
ลดซื้อๆขายๆหุ้น ประหยัดค่าคอมฯ :lol:
ของราคากลางๆ เดี๊ยง
ของถูกๆ กับ ของแพงไฮโซ น่าจะรอด
ของราคากลางๆ เดี๊ยง
ของถูกๆ กับ ของแพงไฮโซ น่าจะรอด
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 20
สิ่งที่ผมลดเพียงอย่างเดียวก็คือ ลดการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวครับ ลดลงตั้งแต่กลางปีก่อนแล้ว
ปรกติเวลาส่งลูกไปโรงเรียนเสร็จแล้ว ก็จะกลับบ้าน แล้วขับไปรับอีกครั้งในตอนเย็น
แต่พอราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ผมก็ไม่ขับกลับบ้านแล้วครับ ใช้เวลาอยู่ใจกลางเมืองตลอดวัน ถ้าจะเดินทางไปไหน ก็อาศัยรถประจำทางแทนครับ
อย่างอื่นก็ไม่รู้จะลดอะไร เพราะปรกติก็ไม่ค่อยใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟื่อยอยู่แล้ว
ปรกติเวลาส่งลูกไปโรงเรียนเสร็จแล้ว ก็จะกลับบ้าน แล้วขับไปรับอีกครั้งในตอนเย็น
แต่พอราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ผมก็ไม่ขับกลับบ้านแล้วครับ ใช้เวลาอยู่ใจกลางเมืองตลอดวัน ถ้าจะเดินทางไปไหน ก็อาศัยรถประจำทางแทนครับ
อย่างอื่นก็ไม่รู้จะลดอะไร เพราะปรกติก็ไม่ค่อยใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟื่อยอยู่แล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 21
ผมพยายามใช้เท่าที่จำเป็นครับ
ที่จะลดก่อน คงเป็น ของกินตามร้านที่มีราคาสูง มากินของดีเท่าๆกัน ที่บ้าน หรือโรงอาหารที่ทำงานเป็นหลัก
พวกของกินเล่นอร่อยๆ ก็ลดลง เช่น น้ำหวาน ขนมต่างๆ pizza fastfood
เสื้อผ้าใหม่ๆ ชะลอไปก่อน
โทรศัพท์มือถือด้วยครับ จำกัดการโทรไม่ให้เกินวงเงิน
สินค้า high technology ที่ไม่จำเป็น หยุดซื้อไว้ก่อนเช่นกัน
ที่สำคัญ หยุดการก่อหนี้ใหม่ ไม่มีการกู้ใหม่ในตอนนี้ ที่ค้างอยู่พยายามผ่อนให้หมดเร็วๆ
ฯลฯ
ที่จะลดก่อน คงเป็น ของกินตามร้านที่มีราคาสูง มากินของดีเท่าๆกัน ที่บ้าน หรือโรงอาหารที่ทำงานเป็นหลัก
พวกของกินเล่นอร่อยๆ ก็ลดลง เช่น น้ำหวาน ขนมต่างๆ pizza fastfood
เสื้อผ้าใหม่ๆ ชะลอไปก่อน
โทรศัพท์มือถือด้วยครับ จำกัดการโทรไม่ให้เกินวงเงิน
สินค้า high technology ที่ไม่จำเป็น หยุดซื้อไว้ก่อนเช่นกัน
ที่สำคัญ หยุดการก่อหนี้ใหม่ ไม่มีการกู้ใหม่ในตอนนี้ ที่ค้างอยู่พยายามผ่อนให้หมดเร็วๆ
ฯลฯ
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 24
อย่างพนันหมากแข้งนี้สมควรลด ละ เลิกที่สุด :lol: :lol:CK เขียน: ก็ต้องลดหมากสิครับ
รักในหลวงครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 269
- ผู้ติดตาม: 0
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 25
สำหรับผมถ้ากำลังซื้อลดสินค้าฟุ่มเฟือย ไปก่อนเพื่อนเลยครับ ได้แก่ กาแฟนี่แน่ๆ สินค้าอาหาร อาจกระทบแต่ช้าหน่อย แต่ผมว่าธุรกิจพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้ายังไงคนก็ต้องใช้นะ น่าจะกระทบหลังสุดเลย ธุรกิจห้าง พวกเก็บค่าเช่า(ไม่นับพวกให้เช่าที่ดินทำอุตสาหกรรมนะ) จะกระทบช้ากว่าเพื่อน แต่ถ้ากำลังซื้อต่ำเป็นเวลานานมากมาก ก็จะเหลือสาธารณูปโภคนะ ผมว่า
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 26
ถ้าทำได้อย่างท่าน 2 dogs สงสัยว่าจะประหยัดได้เงิน อาจเสียภรรยา ..ทนอดไม่ไหว :lol: :lol:
ของท่านคัดท้ายก็น่าสนใจ เพิ่งทราบว่าเป็นขาประจำ s&p ผมไม่เคยสั่งทาน แต่เพื่อนบ้านสั่งกินบ่อย ชุดสีเขียว
ถ้าคนประหยัดจริงมีหุ้นหลายตัวที่อาจจะกระทบอีก เช่น
-กลุ่มเครื่องประดับ pranda sawang gfm
-กลุ่มบ้านและที่ดิน คงไม่มีอารมณ์ซื้อบ้านนะครับ ดอกแพง รายจ่ายก็เพิ่มขึ้นมาก
- กลุ่มยานยนต์ ราคาหุ้นลงมารับแล้ว ก่อนยอดขายตกเสียอีก
แต่กลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ บริษัทที่ยอดขายลดลงมาก แต่ต้นทุนกลับเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน เรียกว่าเจอ 2 เด้ง ไม่รู้มีหุ้นอะไรบ้างครับ
ของท่านคัดท้ายก็น่าสนใจ เพิ่งทราบว่าเป็นขาประจำ s&p ผมไม่เคยสั่งทาน แต่เพื่อนบ้านสั่งกินบ่อย ชุดสีเขียว
ถ้าคนประหยัดจริงมีหุ้นหลายตัวที่อาจจะกระทบอีก เช่น
-กลุ่มเครื่องประดับ pranda sawang gfm
-กลุ่มบ้านและที่ดิน คงไม่มีอารมณ์ซื้อบ้านนะครับ ดอกแพง รายจ่ายก็เพิ่มขึ้นมาก
- กลุ่มยานยนต์ ราคาหุ้นลงมารับแล้ว ก่อนยอดขายตกเสียอีก
แต่กลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ บริษัทที่ยอดขายลดลงมาก แต่ต้นทุนกลับเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน เรียกว่าเจอ 2 เด้ง ไม่รู้มีหุ้นอะไรบ้างครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 777
- ผู้ติดตาม: 0
ยุครัดเข็มขัด
โพสต์ที่ 27
สิ่งที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม น่าจะเป็น "น้ำมัน"
จากอดีต ณ ราคาราว 16 บาท/ลิตร มาเป็นประมาณ 30 บาท/ลิตร
เพิ่มขึ้นใกล้ๆจะ 80-90 %!!!
แน่นอนว่า ต้นทุนการขนส่งของสินค้าและวัตถุดิบต่างๆ ย่อมเพิ่ม
ขึ้นตามไปด้วย แทบจะทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่า การเกษตร, การขนส่ง,
หรือ การประมง เป็นต้น
เมื่อย้อนมามองทางด้าน การบริโภคสินค้า บ้านเรามีกรมการค้าภาย
ในคอยดูแลอยู่ มิให้สินค้าอุปโภคบริโภค หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าราคา
สูงเกินไป เราจึงไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนักโดยตรง 8)
แต่ผมเชื่อว่า ช่วงนี้ผู้บริโภคคนไทยก็ระมัดระวังการใช้จ่ายกันพอ
สมควร แทนที่กินข้าวนอกบ้านบ่อยๆ หรือ ไปเอ็นเตอร์เทนฯบ่อยๆ
ก็อาจไปบ้าง แต่นานๆครั้ง ของใช้อะไรที่ฟุ่มเฟือยมากก็ลดลงไป
ถ้าเป็นหุ้น...
ใครเล่นก็ต้องเล่นตัวพื้นฐานกิจการแข็งแรงมั่นคงจริงๆ
เราไม่ควรลงทุนในหุ้นที่เป็นกิจการ Luxury Products & Services
มากนัก!!
จากอดีต ณ ราคาราว 16 บาท/ลิตร มาเป็นประมาณ 30 บาท/ลิตร
เพิ่มขึ้นใกล้ๆจะ 80-90 %!!!
แน่นอนว่า ต้นทุนการขนส่งของสินค้าและวัตถุดิบต่างๆ ย่อมเพิ่ม
ขึ้นตามไปด้วย แทบจะทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่า การเกษตร, การขนส่ง,
หรือ การประมง เป็นต้น
เมื่อย้อนมามองทางด้าน การบริโภคสินค้า บ้านเรามีกรมการค้าภาย
ในคอยดูแลอยู่ มิให้สินค้าอุปโภคบริโภค หรือ เครื่องใช้ไฟฟ้าราคา
สูงเกินไป เราจึงไม่ได้รับผลกระทบอะไรมากนักโดยตรง 8)
แต่ผมเชื่อว่า ช่วงนี้ผู้บริโภคคนไทยก็ระมัดระวังการใช้จ่ายกันพอ
สมควร แทนที่กินข้าวนอกบ้านบ่อยๆ หรือ ไปเอ็นเตอร์เทนฯบ่อยๆ
ก็อาจไปบ้าง แต่นานๆครั้ง ของใช้อะไรที่ฟุ่มเฟือยมากก็ลดลงไป
ถ้าเป็นหุ้น...
ใครเล่นก็ต้องเล่นตัวพื้นฐานกิจการแข็งแรงมั่นคงจริงๆ
เราไม่ควรลงทุนในหุ้นที่เป็นกิจการ Luxury Products & Services
มากนัก!!
-
- Verified User
- โพสต์: 2496
- ผู้ติดตาม: 0
ข้าวยากหมากแพง ผู้บริโภคจะลดใช้จ่ายอะไร อันดับแรกๆครับ
โพสต์ที่ 28
ดิฉันมักไม่ลดอะไรค่ะ เพราะปกติจะค่อนข้าง ควบคุมการใช้จ่ายอยู่แล้ว
คือให้อยู่ในสัดส่วนที่ตั้งไว้ ในแต่ละหมวด
หากหมวดไหน ใช้มากไปจะไปลดสัดส่วนหมวดอื่นลงแทน
เพื่อคุม ให้สัดส่วน ของรายจ่ายรวม อยู่ในจุดที่ตั้งไว้ เมื่อเทียบกะรายรับหลัก
โดยกำหนด ระดับของรายรับหลัก ที่คาดหวังไว้
และบอกตัวเองเสมอว่า ต้องทำให้รายรับหลัก เป็นไปตามที่ตั้งไว้
หากมีเหตุอันใด กระทบต่อรายรับหลัก ให้ลดลง
ต้องแก้ที่ หารายรับอื่น มาเสริม ให้ได้ตามเป้า หรือพัฒนาตนเอง ให้รายรับหลัก กลับมาดังเดิม
แต่หาก กรณีนี้ เกิดจากข้าวยากหมากแพง เป็นผลทำให้ต้อง ปรับเพิ่มสัดส่วน รายจ่ายรวม
ดิฉันก็ไม่แก้ด้วยวิธีการ ลดการใช้จ่าย
อันเนื่องมาจากเหตุผลเบื้องแรก ที่ว่า ดิฉันได้ควบคุม การใช้จ่ายอย่างเหมาะสมอยู่แล้ว
แต่จะหันมา พัฒนาตน เพื่อให้ รายรับหลัก เพิ่มขึ้น ให้ดีกว่าที่เคย ซึ่งเชื่อว่าเป็นวิธีที่ง่ายกว่า และดีกว่า ในระยะยาว
คือให้อยู่ในสัดส่วนที่ตั้งไว้ ในแต่ละหมวด
หากหมวดไหน ใช้มากไปจะไปลดสัดส่วนหมวดอื่นลงแทน
เพื่อคุม ให้สัดส่วน ของรายจ่ายรวม อยู่ในจุดที่ตั้งไว้ เมื่อเทียบกะรายรับหลัก
โดยกำหนด ระดับของรายรับหลัก ที่คาดหวังไว้
และบอกตัวเองเสมอว่า ต้องทำให้รายรับหลัก เป็นไปตามที่ตั้งไว้
หากมีเหตุอันใด กระทบต่อรายรับหลัก ให้ลดลง
ต้องแก้ที่ หารายรับอื่น มาเสริม ให้ได้ตามเป้า หรือพัฒนาตนเอง ให้รายรับหลัก กลับมาดังเดิม
แต่หาก กรณีนี้ เกิดจากข้าวยากหมากแพง เป็นผลทำให้ต้อง ปรับเพิ่มสัดส่วน รายจ่ายรวม
ดิฉันก็ไม่แก้ด้วยวิธีการ ลดการใช้จ่าย
อันเนื่องมาจากเหตุผลเบื้องแรก ที่ว่า ดิฉันได้ควบคุม การใช้จ่ายอย่างเหมาะสมอยู่แล้ว
แต่จะหันมา พัฒนาตน เพื่อให้ รายรับหลัก เพิ่มขึ้น ให้ดีกว่าที่เคย ซึ่งเชื่อว่าเป็นวิธีที่ง่ายกว่า และดีกว่า ในระยะยาว