สภาพคล่อง

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 1

โพสต์

น้อยลงไปมากนะครับสำหรับ snc
เป็นเพราะมีเพื่อนๆช่วยกันซื้อแล้วเก็บหรือเปล่าครับ
น้อง yoyo มีชื่อ update หรือยังครับ :o

ภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 16/03/2549 ประเภทการปิดสมุด : XD

จำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด 637   % การถือหุ้นแบบไร้ใบหุ้น 98.94



ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวนหุ้น (หุ้น) % หุ้น

1 บริษัท เอสเอ็นซี โฮลดิ้ง จำกัด  101,000,100 50.50

2 นายสมชัย ไทยสงวนวรกุล  5,812,500 2.91

3 น.ส.อนงค์นารถ พงษ์ศาโรจน์  5,698,300 2.85

4 นายสมชัย ไทยสงวนวรกุล  5,671,800 2.84

5 นางจรัสศรี พงศ์พิโรดม  5,650,100 2.83

6 นางจรัสศรี พงศ์พิโรดม  4,000,000 2.00

7 นายประชา ดำรงค์สุทธิพงศ์  3,990,000 2.00

8 นายพิทักษ์ พิเศษสิทธิ์  3,760,000 1.88

9 นายสุเทพ ปัญญากร  3,300,000 1.65

10 น.ส.พิไลลักษณ์ ขุนรักพรหม  2,400,000 1.20

11 นายสกล งามเลิศชัย  2,248,600 1.12

12 น.ส.ธนพร กิจบัญชา  2,040,400 1.02

13 MR.BANG SOO LEE  2,000,000 1.00

14 บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน)  1,831,800 0.92

15 นายเคอิชิน นาคาโมโตะ  1,800,000 0.90

16 นางชาณา เหตระกูล  1,563,600 0.78

17 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด  1,535,100 0.77

18 นายฟูมิอากิ ทาคาฮาชิ  1,293,750 0.65

19 นางกิ่งกนก พิทยานุคุณ  1,290,000 0.65

20 นายบุญรอด ลีละอมรวิเชษฐ์  1,275,700 0.64

21 พันตรีฑิฆัมพร ชมเดช  1,234,500 0.62

22 นายสมบุญ เกิดหลิน  1,200,000 0.60

23 นายพีรนาถ โชควัฒนา  1,128,000 0.56

24 กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย อีควิตี้ฟันด์  1,022,600 0.51
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ผมช่วยไปหน่อยเดียวเองครับ
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 3

โพสต์

CK เขียน:ผมช่วยไปหน่อยเดียวเองครับ
อันดับที่ 25 ใช่ไหมครับพี่ :D

พี่ CK ยังถือเลย น่าสนใจแล้วครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เทียบกับรุ่นใหญ่ๆแล้ว ผมมีไม่เท่าไหร่หรอกครับพี่ลูกอีสาน ... ยังห่างไกลกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ .. โดยเฉพาะเบอร์ 11  :lol:
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 5

โพสต์

โหย ผมแหย่ไว้หน่อยเองครับ ท่านลูกอิสาน

อิอิ ก็ซื้อตามท่านลูกอิสานแหละครับ

ขายหมูไป 5 บาทกว่าๆ เลยต้องมาซื้อคืนตอนมันตกลงมา

ปันผลก็ไม่ได้ :wall:
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 6

โพสต์

:shock: เจอคนรัก snc ซะแล้วซิ

ผมก็แหย่ไปอีกครั้งเหมือนกัน ตามน้อง yoyo ไป
หวังว่าคงพากันไปรวยๆนะครับ  :lol:  :lol:

งานนี้ลุงขวดกับพี่พีนำทางไปแล้ว
เดินตามผู้ใหญ่คงปลอดภัย ถ้าผิดพลาดก็เผ่น..ตัวใครตัวมัน ไม่โทษกันอยู่แล้ว  :lol:  :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ผมขอเดาว่า q2 snc จะมีกำไรประมาณ 40-43 ลบ.ครับ
เดาสนุกๆ ยอดขายเพิ่มจากปีที่แล้ว 40% กำไรสุทธิ 9%


เอ.... พอมีใครทราบไหมครับ ว่าออร์เดอร์ 3,000 ล้านที่รอลุ้นเป็นอย่างไรบ้างครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ตามคาดครับ q2-2006 กำไร 40.25 ลบ.
พรุ่งนี้คงประกาศว่าปันผลเท่าไหร่
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Rollin Belia
ผู้ติดตาม: 0

สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 9

โพสต์

any of you guys go golfing? I've been thinking about doing just that... I heard it actually improves your PERSONALITY! Is this true?
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 10

โพสต์

Rollin Belia เขียน:any of you guys go golfing? I've been thinking about doing just that... I heard it actually improves your PERSONALITY! Is this true?
I dunno...but it think it's b.u.l.l.s.h.i.t.
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 1

Re: สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 11

โพสต์

สภาพคล่องของหุ้น
บทความโดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร


ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งของการลงทุนที่ดูเหมือนว่า Value Investor "พันธุ์แท้" จำนวนมากอาจจะไม่พูดถึงเลย ก็คือ สภาพคล่องในการซื้อขายของหุ้น

เหตุผลก็อาจจะเป็นเพราะนี่คือปัจจัยที่ “ไม่เกี่ยวกับพื้นฐาน” ของกิจการ หนังสือเกี่ยวกับการลงทุนแบบ VI มีน้อยมากที่จะกล่าวถึง สภาพคล่องของหุ้น คนที่สนใจเรื่องสภาพคล่องของหุ้นมากที่สุดน่าจะเป็น นักวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มองว่าปริมาณการซื้อขายหุ้นในแต่ละวันนั้น ถือว่าเป็นข้อมูลสำคัญสุดยอดที่จะบอกว่าราคาหุ้นจะไปทางไหนในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็ตาม หุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำอย่างต่อเนื่องยาวนานนั้น ก็เป็นหุ้นที่นักเทคนิคหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงหรือวิเคราะห์ ว่าที่จริงนักเทคนิคนั้นมองว่าหุ้นประเภทนี้ใช้หลักการทางเทคนิคไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ในฐานะของ VI ความเข้าใจในเรื่องของสภาพคล่องน่าจะมีประโยชน์พอสมควร และต่อไปนี้ เป็นมุมมองของผมต่อเรื่องสภาพคล่องของหุ้น

ประเด็นแรก ก็คือ สภาพคล่องของหุ้นนั้นมองได้เป็นสองมิติ นั่นคือ มิติแรก มองจากนักลงทุนที่จะซื้อขายหุ้นหรือพูดง่ายๆ มองจากตัวเราเองว่าเรามีเงินลงทุนเท่าไรและจะซื้อหุ้นแต่ละตัวในวงเงินเท่าไร ตัวอย่างเช่น พอร์ตของเรามีอยู่ 10 ล้านบาท และเราจะไม่ลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งเกิน 2-3 ล้านบาท แบบนี้ เราก็จะต้องดูว่าหุ้นที่เราสนใจจะลงทุนนั้นมีการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณเท่าไร ถ้าพบว่าหุ้นตัวนั้นมีการซื้อขายประมาณวันละเพียงหนึ่งแสนบาท นั่นก็แปลว่าเราอาจจะต้องใช้เวลาในการขายหุ้นให้หมดถึง 20-30 วัน ถ้าเราลงทุนในหุ้นตัวนั้น 2-3 ล้านบาท และสมมติว่าไม่มีคนอื่นขายเลยนอกจากเรา ในสถานการณ์แบบนี้ ก็ต้องถือว่าหุ้นมีสภาพคล่องต่ำเกินไป การซื้อหุ้นอาจจะอันตรายถ้าเราคาดการณ์ผิดและจำเป็นต้องขายทิ้ง เพราะในการขายหุ้นจำนวนมากเมื่อเทียบกับปริมาณการซื้อขายหุ้นต่อวัน จะทำให้ราคาหุ้นตกต่ำลงมากอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การซื้อหุ้นแบบนี้เราจะต้องมั่นใจมากว่าราคามันต่ำกว่ามูลค่ามากและเราพร้อมที่จะถือมันไว้ตลอดไป หรืออย่างน้อยก็ต้องถือได้ 3-5 ปีขึ้นไป นอกจากนั้น ในระหว่างที่ถือหุ้นอยู่ มันควรจะมีปันผลให้เราอย่างน้อย 4-5% ต่อปีโดยไม่ลดลงและมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

มิติที่สองเกี่ยวกับสภาพคล่อง ก็คือ ปริมาณการซื้อขายของหุ้นเมื่อเทียบกับจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท นี่เป็นการวัดอย่างคร่าวๆ ว่าคนที่เข้ามาซื้อหุ้นของบริษัทนั้น ซื้อแล้วถือไว้นานแค่ไหนโดยเฉลี่ย ตัวอย่างเช่น ถ้าบริษัทมีมูลค่าหุ้นทั้งบริษัทหรือเรียกว่า Market Cap . เท่ากับ 1,000 ล้านบาท และหุ้นของบริษัทมีการซื้อขายในตลาดหุ้นเฉลี่ยวันละ 10 ล้านบาท นี่ก็แปลว่าคนที่ซื้อและถือหุ้นของบริษัทไว้นั้น เขาจะทยอยขายหุ้นและใช้เวลาขายหมดภายใน 100 วัน หรือประมาณ 3 เดือนกว่าๆ หรือพูดอีกแบบหนึ่ง ก็คือ คนที่ลงทุนในบริษัทนี้ โดยเฉลี่ยแล้วลงทุนเพียง 3 เดือนเศษๆ ก็ขายทิ้งแล้ว ไม่ได้เป็นนักลงทุนระยะยาวที่เน้นที่ผลประกอบการและรอกินปันผลที่บริษัทอาจจะจ่ายปีละครั้ง

คำถามที่อาจจะตามมา ก็คือ คนที่ลงทุนถือหุ้นนั้น ต้องถือไว้นานเท่าไรจึงจะถือว่าเป็นนักลงทุนระยะยาว คำตอบนั้น ก็คือ มันเป็นเรื่องอัตวิสัยของแต่ละคน บางคนบอกว่า 3 เดือนถือว่ายาว แต่บางคนบอกว่า 3 ปี ถึงจะเรียกว่ายาว อย่างไรก็ตาม เราสามารถพูดโดยเปรียบเทียบได้ เพราะเรามีค่าเฉลี่ยระยะเวลาของการถือหุ้นของบริษัททุกแห่งในตลาดหลักทรัพย์ในแต่ละปีหรือในแต่ละช่วงเวลา ยกตัวอย่างเช่น มูลค่าหุ้นทั้งหมดในตลาดในช่วงนี้ คือ 8.5 ล้านล้านบาท ปริมาณการซื้อขายหุ้นต่อวันโดยเฉลี่ยประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท ดังนั้น จะใช้เวลาขายหุ้นหมดเท่ากับประมาณ 340 วันทำการ หรือคิดเป็นประมาณ 1 ปีกับ 4 เดือน ดังนั้น เราก็สามารถพูดได้ว่า หุ้นตัวไหนที่มีการซื้อขายหุ้นที่ทำให้คนถือหุ้นเฉลี่ยน้อยกว่า 1 ปี 4 เดือน ก็ถือว่าหุ้นตัวนั้นมีผู้ถือที่เป็นนักลงทุนระยะสั้นกว่าค่าเฉลี่ย และหุ้นที่มีการซื้อขายน้อยและทำให้คนถือหุ้นเฉลี่ยเกิน 1 ปี 4 เดือน ถือว่าผู้ถือหุ้นถือหุ้นลงทุนนานกว่าค่าเฉลี่ย

ประเด็นของการถือหุ้นสั้นหรือถือหุ้นยาวของนักลงทุนในหุ้นแต่ละตัว ก็คือ มันเป็นการบอกถึง "ดีกรี" หรืออัตราในการ "เก็งกำไร" ของนักลงทุนในหุ้นแต่ละตัว นั่นก็คือ หุ้นที่มีสภาพคล่องสูงมาก วัดจากปริมาณการซื้อขายต่อวันเทียบกับมูลค่าหุ้นทั้งหมดของบริษัท เช่น หุ้นบางตัวที่มีการซื้อขายต่อวันเท่ากับ 100 ล้านบาท ในขณะที่ Market Cap. เท่ากับ 1,000 ล้านบาท ซึ่งแปลว่าผู้ถือหุ้นถือหุ้นลงทุนเพียง 10 วันโดยเฉลี่ยก็ขายทิ้งแล้ว แบบนี้ก็ถือว่าหุ้นตัวนี้เป็นหุ้นที่มีการเก็งกำไรร้อนแรง ตรงกันข้าม หุ้นบางตัวนั้น ผู้ถือหุ้นถือไว้โดยเฉลี่ยถึง 3 ปี แบบนี้ ก็ต้องบอกว่าเป็นหุ้นที่ไม่มีการเก็งกำไรหรืออาจจะบอกว่าเป็นหุ้นที่คนไม่สนใจที่จะซื้อขายเนื่องด้วยเหตุผลต่างๆ

เป็นเรื่องยากที่จะขีดเส้นว่าหุ้นตัวไหนเป็นหุ้น "เก็งกำไร" และหุ้นตัวไหนไม่มีอาการอย่างนั้น ส่วนตัวผมเอง กำหนดว่า หุ้นที่มีปริมาณการซื้อขายหุ้นต่อวันโดยเฉลี่ยตั้งแต่ 1% ของมูลค่าหุ้นทั้งหมดถือว่าเข้าข่ายเป็น "หุ้นเก็งกำไร" ยิ่งมากกว่านั้นก็ยิ่งมีการเก็งกำไรสูงเท่านั้น และยิ่งหุ้นมีการเก็งกำไรสูงเท่าไร ราคาหุ้นก็มีแนวโน้มที่จะสูงเกินกว่าราคาที่ควรจะเป็น ดังนั้น โอกาสที่หุ้นเก็งกำไรสูงจะเป็นหุ้น Value จึงมีน้อย ผมจึงมักหลีกเลี่ยงและถ้ามีก็จะขายทิ้ง หุ้นที่เข้าข่ายเก็งกำไรสูงลิ่วกลุ่มหนึ่ง ก็คือ หุ้นที่เพิ่งเข้าซื้อขายหุ้นใหม่ในตลาดหลังจากการทำ IPO ซึ่งมักจะมีปริมาณการซื้อขายสูงมาก ดังนั้น ผมจึงมักหลีกเลี่ยงที่จะลงทุน และถ้าผมได้จองซื้อหุ้นไว้ผมก็มักจะขายทิ้งค่อนข้างเร็ว ถ้าผมสนใจหุ้นเหล่านี้ ผมจะรอจนปริมาณการซื้อขายหุ้นลดลงจนต่ำกว่า 1% ต่อวันซึ่งเป็นจุดที่ผมคิดว่าหุ้นไม่มีการเก็งกำไรมากจนเกินไป

กลับมาที่สภาพคล่องของหุ้นเมื่อเทียบกับขนาดของพอร์ตหรือการลงทุนของเรา ในอดีตที่ผมเริ่มลงทุนใหม่ๆ นั้น ปัญหามีน้อยมาก ผมสามารถลงทุนได้ในหุ้นเกือบทุกตัว เนื่องจากเม็ดเงินลงทุนที่ยังน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป การลงทุนในหุ้นที่มีสภาพคล่องต่ำมากก็ทำได้ยากลำบากขึ้น เนื่องจากผมไม่สามารถลงทุนเป็นเม็ดเงินมากเมื่อเทียบกับปริมาณการซื้อขายต่อวันของหุ้นได้ การลงทุนด้วยเงินที่น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับพอร์ตโดยรวมนั้น ทำให้เราจะต้องหาหุ้นลงทุนจำนวนมากตัวซึ่งจะทำให้พอร์ตของเราไม่ Focus หรือไม่มีจุดเน้นกลายเป็น "เบี้ยหัวแตก" และทำให้ผลตอบแทนของเราต่ำลง เนื่องจากเราจะไม่เอาใจใส่กับมันเท่าที่ควร ดังนั้น ในระยะหลังๆ ผมก็มักจะหลีกเลี่ยงถ้าหุ้นมีสภาพคล่องน้อยเกินไป และนี่ก็เกิดขึ้นเฉพาะในหุ้นตัวเล็กๆ ทั้งหลายซึ่งบางครั้งเป็นหุ้นที่ดีและเป็นหุ้น Value หุ้นเหล่านี้บางตัวอาจจะให้ผลตอบแทนได้เป็นร้อยๆ เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลาอันสั้นได้ และนั่นก็เป็นข้อได้เปรียบของ VI ที่ยังมีพอร์ตไม่ใหญ่นักเมื่อเทียบกับนักลงทุนกลุ่มอื่นๆ โดยเฉพาะสถาบันการลงทุนเช่นกองทุนรวมที่มีข้อจำกัดมากกว่า และนี่ก็อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พอร์ตเล็กนั้นโตวัยกว่าพอร์ตใหญ่เมื่อองค์ประกอบอย่างอื่นเช่นความสามารถในการลงทุนและการกล้ารับความเสี่ยงของนักลงทุนเท่ากัน


ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 1

Re: สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 12

โพสต์

“นกุล ไชยนิล” ยึดสภาพคล่องเป็นธีมการลงทุน
ธีมการลงทุนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มาดูว่าของนกุล ไชยนิลผู้บริหารซีมโก้จะยึดอะไรเป็นธีมของเขา
วันที่: 2011-09-28


หากมีการจัดทำเนียบผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์มือทองของธุรกิจกองทุนรวมไทย เชื่อว่าชื่อของ “นกุล ไชยนิล” รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.ซีมิโก้ จะติดหนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน โดยแนวคิดในการทำกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (กอง 1) ของเขาจะเน้นคุณภาพของสินทรัพย์และวางโครงสร้างการรับประกันค่าเช่าขั้นต่ำ ไว้ให้นักลงทุน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงมุมมองที่ค่อนข้างระมัดระวังสอดคล้องกับการลงทุนส่วน ตัวได้เป็นอย่างดี

นกุล เริ่มต้นเล่าให้ฟังว่า ส่วนตัวเน้นการเก็บเงินเป็นหลักตามแนวทางที่คุณแม่ใช้ประกอบกับเป็นคนที่ชอบ เสี่ยงจึงสะท้อนผ่านพอร์ตการลงทุนที่ลงทุนในเงินฝาก 60% ตั๋วแลกเงิน (B/E) 20% กองทุนรวม 10% และหุ้น 10% พอร์ตแบบนี้เหมาะกับคนที่ไม่มั่นใจในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลง ค่อนข้างรวดเร็วหากเกิดอะไรขึ้นมาก็ล้อมค่อนข้างยากเพราะมีฐานที่มั่นคง ถึงแม้วันข้างหน้าอาจจะตกงานก็ยังมีพอกินพอใช้ธรรมดา ไม่ได้มีชีวิตอยู่แบบวันต่อวัน พอร์ตการลงทุนนี้ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 5% เมื่อก่อนอาจจะต่ำกว่านี้แต่เมื่อดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นผลตอบแทนของพอร์ตก็ปรับ ตัวดีขึ้นตามไปด้วย แม้ด้วยวัยน่าจะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในสัดส่วนที่มากกว่านี้ได้แต่ตัวเอง เป็นคนไม่ชอบเสี่ยงจะให้ลงทุนในหุ้นเพิ่มก็ไม่ไหว เพราะในบางครั้งคนเราก็ต้องการใช้เงินปัจจุบันทันด่วน ถ้าเบิกไม่ได้ ต้องรีบขายผิดจังหวะก็อาจขาดทุนได้ ดังนั้นธีม (Theme) การลงทุนส่วนตัวจะเน้นเรื่องสภาพคล่องเป็นหลักสำคัญ ผลตอบแทนน่าพอใจให้เอาชนะเงินเฟ้อได้นิดหน่อยก็เพียงพอแล้ว เพราะพอร์ตการลงทุนแบบนี้โตจากการเก็บเป็นหลัก

“ถ้าคิดเงินที่เก็บเข้า ไปเป็นการเติบโตของพอร์ตการลงทุนจริงๆ ก็โตกว่าเงินเฟ้ออยู่แล้ว ในอดีตช่วงที่ดอกเบี้ยต่ำๆ เงินที่เคยลงทุนในตั๋วแลกเงิน (B/E) 20% ก็จะลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าแทน แต่ในช่วงดอกเบี้ยขาขึ้นแล้วธนาคารพาณิชย์เริ่มออกตั๋ว B/E ระดมเงิน ผลตอบแทนก็ดีกว่าจึงโยกจากกองทุนตราสารหนี้มาไว้ใน B/E แทน เพราะตัวเองก็มีกำลังพอที่จะลงทุนใน B/E ได้ด้วย โดยการเลือกกองทุนตราสารหนี้จะไม่ได้ดูที่ผลตอบแทนสูงสุดเป็นหลัก แต่จะดูไส้ในของตราสารหนี้ที่ไปลงทุนว่ามีคุณภาพมีอันดับเครดิตที่ดีหรือไม่ เป็นหลักมากกว่า แต่ตอนนี้กำลังมองว่าจะแบ่งในส่วนของเงินฝากที่มีอยู่ 60% ไปลงทุนในทองคำแท่งครึ่งหนึ่ง เพราะมองว่าแนวโน้มราคาทองคำยังเป็นขาขึ้นและมีสภาพคล่องที่ดีในการลงทุน เช่นเดียวกัน”

นกุล ยังบอกอีกว่า ในส่วนของหุ้น 10% ที่ลงทุนอยู่จะเน้นหุ้นธนาคารพาณิชย์ 4 แบงก์ใหญ่ และเป็นหุ้นในกลุ่มยานยนต์ที่ผลประกอบการดีแม้สภาพคล่องน้อยก็จริงแต่ก็ได้ รับปันผลต่อเนื่อง โดยเงินในส่วนของหุ้นที่ลงทุนอยู่ในปัจจุบัน โดยหุ้นแบงก์เองเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูงแล้วตัวเองก็ไม่ได้ลงทุนเก็งกำไร ระยะสั้นแต่จะถือรอรอบให้ได้กำไรแล้วค่อยขายแต่ละรอบก็กำไรไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งปัจจุบันเงินที่ลงทุนในหุ้นเป็นเงินกำไรที่ลงทุนอยู่ไม่มีเงินต้นแล้ว ผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจะเอากลับไปลงทุนใหม่หมดไม่มีการเอาออกมาใช้ ลงทุนให้ครอบคลุมเงินต้นพอครอบคลุมแล้วก็เอาเงินต้นออกเหลือแต่กำไรไว้ลงทุน เพราะเราไม่เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นแล้ว เวลาขาดทุนก็จะขาดทุนแค่กำไร ไม่ได้ขาดทุนเงินต้น เวลาหุ้นตกก็ไม่เครียดเพราะไม่กินทุนเพราะสิ่งที่เอามาลงทุน คือ ส่วนของกำไรแล้ว

“ขาดทุนหรือกำไรเป็นเรื่องของโชคชะตา จังหวะของชีวิต แต่สภาพคล่องเมื่อเรามีปัญหา อะไรที่เปลี่ยนมาใช้ประโยชน์และสามารถช่วยเหลือเราได้ทันเวลานั่นสำคัญที่ สุด เพราะชีวิตยังต้องดำเนินต่อไป ขาดทุนวันนี้แต่ถ้ายังมีชีวิตอยู่เรายังสามารถกลับมาทำกำไรได้ แต่ถ้าไม่มีชีวิตจะทำไง ขาดทุนก็ต้องขาดทุนไป คนสมัยนี้ไม่ค่อยคิดเรื่องนี้ มัวแต่ห่วงเรื่องผลขาดทุนหรือกำไร แต่ไม่ห่วงการมีอยู่ของตัวเอง สมองเราไม่ได้ตาย ขาดทุนหุ้นคุณจะไม่มีโอกาสกลับมาทำงาน กลับมาสร้างประโยชน์ กลับทำกำไรหรือ ดังนั้นสำคัญคือ ณ จุดที่เกิดปัญหาการเงิน แล้วคุณมีทรัพย์สินอะไรที่เปลี่ยนมาเป็นเงินสดแล้ว เอากลับมาช่วยคุณได้นั่นสำคัญที่สุด”

นกุล มองว่า สภาพคล่องไม่เพียงจะมีประโยชน์ในเรื่องของการแก้ปัญหาอย่างเดียว แต่ยังมีประโยชน์ในเรื่องของจังหวะการลงทุนอีกด้วย หากเราไปเจอโอกาสการลงทุนที่ดีที่ต้องรีบลงทุน แล้วอาจต้องยอมขาดทุนเพื่อเปลี่ยนสินทรัพย์นั้นมาเป็นสภาพคล่องให้เร็วที่ สุดเพื่อมาเอากำไรที่มากกว่า แล้วมาชดเชยตัวที่คุณขาดทุนไปก็ได้เช่นกัน ส่วนตัวตั้งใจจะเกษียณในช่วงอายุ 45 - 46 ปี จึงจำเป็นต้องสร้างเงินที่มีขนาดใหญ่เพียงพอในระดับหนึ่งขึ้นมาก้อนหนึ่ง ด้วย ซึ่งคงเน้นการเก็บเงินให้มากขึ้นรวมทั้งการปรับพอร์ตการลงทุนโดยจะเปลี่ยน เงินฝากครึ่งหนึ่งมาเป็นทองคำด้วยเพื่อเพิ่มผลตอบแทนในขณะที่ยังตอบโจทย์ใน เรื่องสภาพคล่องได้ดีเหมือนเดิม แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้คาดหมายว่าพอร์ตการลงทุนจากผลตอบแทนมากนักแต่คงเน้นการ เติบโตจากการเก็บออมเป็นหลักหากอยากจะประสบความสำเร็จในเรื่องการลงทุนควรจะ ต้องแบ่งเงินให้เป็น แล้วก็รู้จักเพิ่มความมั่งคั่งของพอร์ตโดยการออมเพิ่มเก็บเพิ่มเหมือนคน โบราณทำกัน

“เพราะถ้าจะให้พอร์ตโตจากผลตอบแทนคุณต้องหาผลตอบแทนที่สูง ในระดับ 15% ถามว่าจะไปหาจากไหน นอกจากลงทุนในหุ้นแล้วคุณจะได้ 15% ทุกรอบมั้ย ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้นแบ่งเงินให้เป็นแล้วรู้จักเก็บออมเพิ่มสำคัญสุด”


โดย : สรวิศ อิ่มบำรุง
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
pak
Verified User
โพสต์: 5659
ผู้ติดตาม: 1

Re: สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 13

โพสต์

สภาพคล่อง (อังกฤษ: Market liquidity) หมายถึง...

ความสามารถในการเปลี่ยนสิ่งของหรือสินทรัพย์ไปเป็นเงินสด เช่นการขายของพอขายของก็จะได้เงินสดกลับมา การที่จะมีสภาพคล่องสูงหรือต่ำนั้นขึ้นอยู่กับการที่จะเปลี่ยนของหรือสินทรัพย์ชนิดนั้นไปเป็นเงินได้ในระยะเวลาเท่าใด และเป็นของทีมีอุปสงค์และอุปทานมากพอสมควร ของที่มีสภาพคล่องสูงสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ทันที ส่วนของทีมีสภาพคล่องต่ำจะไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ในทันทีแต่ต้องใช้ระยะเวลาซักพักหนึ่งขึ้นอยู่กับว่าเป็นของหรือสินทรัพย์ประเภทใด เช่นการขายหุ้นจะต้องทำการขายที่ตลาดหลักทรัพย์ทั้งนี้ก็ต้องดูสภาพคล่องในการตั้งราคาซึ้อขายหุ้นด้วยคือการตั้ง BID เพื่อซื้อ และ OFFER เพื่อขาย พอ MATCH กันก็หมายถึงรายการของผู้ที่ต้องการซื้อมาเจอกับรายการของผู้ที่ต้องการขายก็จะเกิดรายการซื้อขายขึ้น ผู้ซื้อก็ต้องชำระค่าหุ้นและผู้ขายหุ้นก็จะได้เงินสดกลับมา เพียงแต่สภาพคล่องของหุ้นจะไม่ได้เงินในทันทีที่ขายดังนั้นหุ้นจึงมีสภาพคล่องที่ไม่สูงมาก


จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
nut776
Verified User
โพสต์: 3350
ผู้ติดตาม: 0

Re: สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 14

โพสต์

เบอร์ 11 คุณสกล นี่อยู่ในบอร์ดป่าวคับ
ผมเห็นหลาย oppday svi แกก็ดังอยู่
show me money.
aonanfield
Verified User
โพสต์: 365
ผู้ติดตาม: 0

Re: สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 15

โพสต์

เบอร์ 11 คุณสกล นี่อยู่ในบอร์ดป่าวคับ
ผมเห็นหลาย oppday svi แกก็ดังอยู่
Login ลุงขวดอะครับ คุณ nut776 :D
Green
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2846
ผู้ติดตาม: 1

Re: สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 16

โพสต์

ว่าแต่ว่า แต่ก่อน snc กำไรไตรมาสละ 40 ล้านบาทเองหรอ
สงสัยถ้าตอนนี้ทำได้แค่ 40 ล้าน สงสัยมีวงแตกแน่ๆ
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.

Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3352
ผู้ติดตาม: 1

Re: สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 17

โพสต์

เห็นการโพสต์สมัยก่อนแล้วก็คิดถึงนะครับ มีอะไร คิดอะไรก็เขียนแสดงความคิดเห็น เขียนกันได้ตรงๆ ไม่ต้องมาอ้อมค้อม มากลัวคนจับผิด

เดี๋ยวนี้เจอหน้าคุยกันยังต้องระมัดระวังตัวกันเลยมั้ง 555

ความโลภ ความโกรธ ความหลงของคนเรานี่มันน่ากลัวจริงๆ เลยนะครับ


ปล พี่ผักนี่ขยันขุดกระทู้จริงๆ เลยนะครับ เลยได้ย้อนกลับไปดูสิ่งดีๆ ในอดีตอยู่เรื่อยๆ
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
อินทรีย์ทองแดง
Verified User
โพสต์: 513
ผู้ติดตาม: 0

Re: สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 18

โพสต์

อย่าไปซีเรียสมากครับคุณปิกาโต๊ส ทุกอย่างมันมีขึ้นและลง มีซ้ายและก็มีขวา มีหน้าก็มีหลัง
ทุกสิ่งในโลกมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อย่าไปยึดติดในอดีต บางครั้งเราก็น่าจะทำตัวเหมือนน้ำครับ
แปรเปลี่ยนไปตามภาชนะ อยู่ได้ในทุกสถานการณ์ รับได้กับทุกสภาพ แต่บางครั้งก็ไม่ควรเอาอย่างน้ำ ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ แต่เราจะเป็นปลาที่ว่ายทวนกระแสน้ำ ไปวางไข่แพร่พันธุ์
อย่าซีเรียสครับ อย่าซีเรียส มันไม่ดีต่อตัวเองนะครับ
ได้เวลาเหล่าอินทรีย์ ผงาดบนฟากฟ้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
picatos
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3352
ผู้ติดตาม: 1

Re: สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 19

โพสต์

อินทรีย์ทองแดง เขียน:อย่าไปซีเรียสมากครับคุณปิกาโต๊ส ทุกอย่างมันมีขึ้นและลง มีซ้ายและก็มีขวา มีหน้าก็มีหลัง
ทุกสิ่งในโลกมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อย่าไปยึดติดในอดีต บางครั้งเราก็น่าจะทำตัวเหมือนน้ำครับ
แปรเปลี่ยนไปตามภาชนะ อยู่ได้ในทุกสถานการณ์ รับได้กับทุกสภาพ แต่บางครั้งก็ไม่ควรเอาอย่างน้ำ ไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำ แต่เราจะเป็นปลาที่ว่ายทวนกระแสน้ำ ไปวางไข่แพร่พันธุ์
อย่าซีเรียสครับ อย่าซีเรียส มันไม่ดีต่อตัวเองนะครับ
ไม่ได้ซีเรียสอะไรครับพี่ทองแดง เข้าใจในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นครับ

พี่ทองแดงเป็นอย่างไรบ้างครับ? สบายดีนะครับ?
วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เรากำลังทำอะไรอยู่?
อินทรีย์ทองแดง
Verified User
โพสต์: 513
ผู้ติดตาม: 0

Re: สภาพคล่อง

โพสต์ที่ 20

โพสต์

ไม่ใคร่จะสบายเท่าไหร่ครับ ดั๊นทะลึ่งถือเงินสดเป็นสัดส่วนสูงเชียว
ดีแล้วครับที่ไม่ซีเรียส มีอะไรคุยกันครับ อยากระบายอะไรก็เอามันในเวปนี้เลย
เพื่อนๆกันท้างน้าน :wink:
ได้เวลาเหล่าอินทรีย์ ผงาดบนฟากฟ้า
โพสต์โพสต์