มีโจทย์คำนวนเล็กๆมาให้พี่ๆคิดกันเล่นๆครับ ได้ข้อคิดเล็กๆครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 19
- ผู้ติดตาม: 0
มีโจทย์คำนวนเล็กๆมาให้พี่ๆคิดกันเล่นๆครับ ได้ข้อคิดเล็กๆครับ
โพสต์ที่ 1
ที่ผมถามโจทย์อันนี้ขึ้นมา ก็สืบเนื่องมาจาก การที่ได้อ่านหนังสือ2-3เล่มที่เกี่ยวกับการลงทุน แบบ ท่านปู่บัฟเฟตต์นะครับ
มีความตอนหนึ่งในหนังสือ the new buffeteologyจะกล่าวไว้เกี่ยวกับ ROE ซึ่ง หนังสือได้บอกว่า ROE สูง และสม่ำเสมอ ในระยะยาว จะทำให้บริษัทนั้นน่าสนใจ
ผมก็เลยมานั่งดู ROE ระยะยาวของทุกบริษัท และ ดูความสัมพันธ์ ระหว่าง ROE กับ return ของเราในระยะยาว ทำให้ได้ข้อคิดข้อนี้มาครับ
ปัญหานี้ เหมือนปัญหา เด็กๆครับ คิดกันดูสนุกๆนะครับ
ผมจะสมมุติให้ ROE , Dividend payout ratio และ P/E เป็นตัวแปรที่สำคัญนะครับ เราจะหา return กันครับ<ไม่มี หนี้ ไม่มีสถานะใดๆ บริษัททั้งนั้นนะครับ ผมเข้าใจว่าต้องมีพี่ๆ มาขอผมแน่ๆ เอาเป็นว่าคิดกันสนุกๆนะครับ > แล้วบริษัทนี้ ก็ไม่มี ความเสี่ยงใดๆ ด้วยนะครับ
1. ผมจะให้ ROE คงที่ ที่10% ทุกปี เป็นเวลา 10ปีนะครับ p/e คงที่ ที่ 10 ตลอด10ปีเช่นกัน พี่ๆจะเลือกบริษัทไหน ระหว่างบริษัทที่จ่ายปันผล แต่เราต้องโดนหักภาษี 15% ด้วย กับ บริษัทที่ไม่จ่ายปันผลเลยครับ
2.แล้วถ้าเปลี่ยนเป็น p/e ที่5 ตลอด10ปี พี่จะเลือกบริษัท แบบไหนครับ ที่จ่ายหรือไม่จ่ายปันผล
3. ถ้า ROE เปลี่ยนเป็น 15% ตลอด10ปี p/e อยู่ที่5 พี่ๆจะลงทุนบริษัทที่จ่ายปันผล หรือไม่จ่ายครับ
ปันผลทั้งหมดเราจะลงทุนในหุ้นตัวเดิมทั้งหมดครับ <reinvest>
ถามแค่นี้ละกันครับ แล้วเดี๋ยวมาสรุปให้วันหลังนะครับ
ปล. ถ้าไม่ถูกต้องยังไง ก็ขอโทษด้วยนะครับ
มีความตอนหนึ่งในหนังสือ the new buffeteologyจะกล่าวไว้เกี่ยวกับ ROE ซึ่ง หนังสือได้บอกว่า ROE สูง และสม่ำเสมอ ในระยะยาว จะทำให้บริษัทนั้นน่าสนใจ
ผมก็เลยมานั่งดู ROE ระยะยาวของทุกบริษัท และ ดูความสัมพันธ์ ระหว่าง ROE กับ return ของเราในระยะยาว ทำให้ได้ข้อคิดข้อนี้มาครับ
ปัญหานี้ เหมือนปัญหา เด็กๆครับ คิดกันดูสนุกๆนะครับ
ผมจะสมมุติให้ ROE , Dividend payout ratio และ P/E เป็นตัวแปรที่สำคัญนะครับ เราจะหา return กันครับ<ไม่มี หนี้ ไม่มีสถานะใดๆ บริษัททั้งนั้นนะครับ ผมเข้าใจว่าต้องมีพี่ๆ มาขอผมแน่ๆ เอาเป็นว่าคิดกันสนุกๆนะครับ > แล้วบริษัทนี้ ก็ไม่มี ความเสี่ยงใดๆ ด้วยนะครับ
1. ผมจะให้ ROE คงที่ ที่10% ทุกปี เป็นเวลา 10ปีนะครับ p/e คงที่ ที่ 10 ตลอด10ปีเช่นกัน พี่ๆจะเลือกบริษัทไหน ระหว่างบริษัทที่จ่ายปันผล แต่เราต้องโดนหักภาษี 15% ด้วย กับ บริษัทที่ไม่จ่ายปันผลเลยครับ
2.แล้วถ้าเปลี่ยนเป็น p/e ที่5 ตลอด10ปี พี่จะเลือกบริษัท แบบไหนครับ ที่จ่ายหรือไม่จ่ายปันผล
3. ถ้า ROE เปลี่ยนเป็น 15% ตลอด10ปี p/e อยู่ที่5 พี่ๆจะลงทุนบริษัทที่จ่ายปันผล หรือไม่จ่ายครับ
ปันผลทั้งหมดเราจะลงทุนในหุ้นตัวเดิมทั้งหมดครับ <reinvest>
ถามแค่นี้ละกันครับ แล้วเดี๋ยวมาสรุปให้วันหลังนะครับ
ปล. ถ้าไม่ถูกต้องยังไง ก็ขอโทษด้วยนะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1399
- ผู้ติดตาม: 1
มีโจทย์คำนวนเล็กๆมาให้พี่ๆคิดกันเล่นๆครับ ได้ข้อคิดเล็กๆครับ
โพสต์ที่ 2
ถ้า pe คงที่แต่ไม่จ่ายเงินปันผล หมายความว่า
1 บริษัทเก็บเงินไว้ในโอ่งไม่ได้รับดอกเบี้ย
2 บริษัทนำเงินไปลงทุนแต่ไม่สามารถเพิ่ม e ได้
สรุปว่า คงไม่น่าเลือกทุกกรณีที่ pe คงที่ตลอดไป ยกเว้น pe=5 ปันผล เกิน 75% ของ e ครับ
1 บริษัทเก็บเงินไว้ในโอ่งไม่ได้รับดอกเบี้ย
2 บริษัทนำเงินไปลงทุนแต่ไม่สามารถเพิ่ม e ได้
สรุปว่า คงไม่น่าเลือกทุกกรณีที่ pe คงที่ตลอดไป ยกเว้น pe=5 ปันผล เกิน 75% ของ e ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 19
- ผู้ติดตาม: 0
มีโจทย์คำนวนเล็กๆมาให้พี่ๆคิดกันเล่นๆครับ ได้ข้อคิดเล็กๆครับ
โพสต์ที่ 4
อ่านๆดู อาจจะงงกับคำถาม ว่าต้องการอะไรใช่ไหมครับ
แต่ผมต้องการดูความสัมพันธ์ ระหว่าง ROE กับ expected return นะครับ
เหมือนที่กล่าวไปครับ ว่า อ่านในหนังสือ แล้วมาลองดูหุ้นทุกตัว ที่มี ROE ในระยะยาวที่ดี ซึ่งMary Buffet บอกไว้ว่าเป็นหนึ่งในหลักการลงทุนในหุ้นที่มีการแข่งขันแบบยั่งยืน ตามสไตล์ปู่ Warren Buffet
แล้วผมจะหาทำไม ผมจะหาก็เพราะว่า บางบริษัท ROE สูงมากและสม่ำเสมอ (20%+) แต่ P/E ก็สูงแล้วเราจะคุ้มไหนละที่ลงทุน
ส่วนบางบริษัท ROE ไม่สูงมาก แต่สม่ำเสมอเช่นกัน P/E ต่ำ จะคุ้มบ้างไหมหนอ หรือว่าต้อง ROE สูงมากๆอย่างเดียวตามแบบท่านปู่ บัฟเฟตต์
เพราะฉะนั้น เรามาดูความหมายแต่ละตัวแบบง่ายๆ ตามวิธีของผมก่อนนะครับ
ROE = NI / Equity < ถ้า ROE คงที่ แล้วequity เพิ่มขึ้น NI ก็ต้องเพิ่มขึ้นตามใช่ปะครับ>
Divident payout ratio = dividend/NI
P/E = Price / NI < ถ้า P/E คงที่ แล้ว NI เพิ่มขึ้น Price ก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วยใช่ปะครับ>
ผมจะตอบคำถามก่อนนะครับ แล้วค่อยอธิบาย ผมจะตอบแบบเน้นด้านคำนวนอย่างเดียวนะครับ ไม่เน้น คุณภามของกำไร บริษัท และความเสี่ยงใดๆ ทั้งสิ้น ด้านคุณภาพผมว่า ผมไม่สามารถจะตอบได้หมดครับ<ความรู้ยังไม่ถึง> ได้แค่คำนวนงูๆปลาๆ แต่จะแนบไว้หลังสุดนิดหน่อยตามความเห็นครับ
ตามข้อ1. ผมเลือกบริษัท ที่ ไม่จ่ายปันผลครับ แต่ก็ไม่ได้ดีกว่าบริษัทที่จ่ายปันผลเท่าไหร่ เพราะ ไม่จ่ายได้ 10%ต่อปีทบต้น แต่จ่ายปันผลได้ 8.5%ต่อปี ทบต้นเพราะ เสียภาษี
ข้อ2. ผมเลือกจ่ายปันผลครับ เพราะได้17% ทบต้น ไม่จ่ายได้เท่าเดิมครับ 10%
ข้อ3. ผมก็ยังเลือกจ่ายปันผลครับ เพราะได้ 17% ทบต้น ไม่จ่ายได้ 15%
ผมสรุปออกมาแล้วมันก็ง่ายมากครับ
1. บริษัทที่จ่ายปันผล 100% ทุกปี การที่มี ROE สูงๆ จะ 40 50 60% สม่ำเสมอในอนาคต ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยครับ เพราะไม่ได้มีการเพิ่ม equity นั้นเอง แต่ขึ้นอยู่กับ P/E ครับ ถ้า P/E คงที่ ที่ 5 เป็นเวลานาน ก็ได้กำไรเยอะ ถ้าP/E ที่10 ก็ได้น้อยครับ
2. ส่วนบริษัทที่ไม่จ่ายปันผลเลย ROE จะมีผลมากครับ ถ้า ROE สูงได้สม่ำเสมอ ในอนาคต P/E คงที่ที่เท่าไหร่ ก็ไม่สนครับ เราจะได้กำไรเท่ากับ ROE นั่นเอง
ข้อสรุป อาจจะดูเห่ยๆ หน่อยนะครับ เพราะผม เอา ROE มาร่วมวงในการคิดซึ่งไม่ค่อยมีใครทำ เพราะ ROE ส่วนใหญ่ไม่แน่นอน
แต่บริษัท หลายๆราย ก็รักษาROE ได้ในระดับที่สม่ำเสมอ ซึ่งดีกับผู้ถือหุ้นครับ
และเรายังสามารถเพิ่มวิธีการสร้างผลกำไรได้ในระดับหนึ่งครับ คือ
ถ้าเป็นบริษัทที่ ROE ต่ำติดดิน แต่ สม่ำเสมอ เราก็ยังหาประโยชน์ได้ครับ ถ้า ปันผล100% และ P/E ที่5เท่า ซึ่ง เราจะได้17% ทบต้น และ ยังมีความเสี่ยงไม่มากด้วยครับ เพราะ P/E ต่ำมากติดดิน < แต่บริษัทที่ว่าจะมีไหมหนอ>
บริษัทที่ ROE สูงมาก P/E ก็สูงมาก แต่สม่ำเสมอ และไม่จ่ายปันผล เราก็ยังลงทุนได้ครับ ถึงแม้ว่าอาจจะมีความเสี่ยง ที earning จะลดลงในอนาคตก็ตาม แต่เราก็ยังหวังว่า บริษัทจะรักษาไว้ได้และ ทำกำไรงามให้เราในที่สุด
ขอบคุณครับที่ติดตาม
แต่ผมต้องการดูความสัมพันธ์ ระหว่าง ROE กับ expected return นะครับ
เหมือนที่กล่าวไปครับ ว่า อ่านในหนังสือ แล้วมาลองดูหุ้นทุกตัว ที่มี ROE ในระยะยาวที่ดี ซึ่งMary Buffet บอกไว้ว่าเป็นหนึ่งในหลักการลงทุนในหุ้นที่มีการแข่งขันแบบยั่งยืน ตามสไตล์ปู่ Warren Buffet
แล้วผมจะหาทำไม ผมจะหาก็เพราะว่า บางบริษัท ROE สูงมากและสม่ำเสมอ (20%+) แต่ P/E ก็สูงแล้วเราจะคุ้มไหนละที่ลงทุน
ส่วนบางบริษัท ROE ไม่สูงมาก แต่สม่ำเสมอเช่นกัน P/E ต่ำ จะคุ้มบ้างไหมหนอ หรือว่าต้อง ROE สูงมากๆอย่างเดียวตามแบบท่านปู่ บัฟเฟตต์
เพราะฉะนั้น เรามาดูความหมายแต่ละตัวแบบง่ายๆ ตามวิธีของผมก่อนนะครับ
ROE = NI / Equity < ถ้า ROE คงที่ แล้วequity เพิ่มขึ้น NI ก็ต้องเพิ่มขึ้นตามใช่ปะครับ>
Divident payout ratio = dividend/NI
P/E = Price / NI < ถ้า P/E คงที่ แล้ว NI เพิ่มขึ้น Price ก็ต้องเพิ่มขึ้นด้วยใช่ปะครับ>
ผมจะตอบคำถามก่อนนะครับ แล้วค่อยอธิบาย ผมจะตอบแบบเน้นด้านคำนวนอย่างเดียวนะครับ ไม่เน้น คุณภามของกำไร บริษัท และความเสี่ยงใดๆ ทั้งสิ้น ด้านคุณภาพผมว่า ผมไม่สามารถจะตอบได้หมดครับ<ความรู้ยังไม่ถึง> ได้แค่คำนวนงูๆปลาๆ แต่จะแนบไว้หลังสุดนิดหน่อยตามความเห็นครับ
ตามข้อ1. ผมเลือกบริษัท ที่ ไม่จ่ายปันผลครับ แต่ก็ไม่ได้ดีกว่าบริษัทที่จ่ายปันผลเท่าไหร่ เพราะ ไม่จ่ายได้ 10%ต่อปีทบต้น แต่จ่ายปันผลได้ 8.5%ต่อปี ทบต้นเพราะ เสียภาษี
ข้อ2. ผมเลือกจ่ายปันผลครับ เพราะได้17% ทบต้น ไม่จ่ายได้เท่าเดิมครับ 10%
ข้อ3. ผมก็ยังเลือกจ่ายปันผลครับ เพราะได้ 17% ทบต้น ไม่จ่ายได้ 15%
ผมสรุปออกมาแล้วมันก็ง่ายมากครับ
1. บริษัทที่จ่ายปันผล 100% ทุกปี การที่มี ROE สูงๆ จะ 40 50 60% สม่ำเสมอในอนาคต ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยครับ เพราะไม่ได้มีการเพิ่ม equity นั้นเอง แต่ขึ้นอยู่กับ P/E ครับ ถ้า P/E คงที่ ที่ 5 เป็นเวลานาน ก็ได้กำไรเยอะ ถ้าP/E ที่10 ก็ได้น้อยครับ
2. ส่วนบริษัทที่ไม่จ่ายปันผลเลย ROE จะมีผลมากครับ ถ้า ROE สูงได้สม่ำเสมอ ในอนาคต P/E คงที่ที่เท่าไหร่ ก็ไม่สนครับ เราจะได้กำไรเท่ากับ ROE นั่นเอง
ข้อสรุป อาจจะดูเห่ยๆ หน่อยนะครับ เพราะผม เอา ROE มาร่วมวงในการคิดซึ่งไม่ค่อยมีใครทำ เพราะ ROE ส่วนใหญ่ไม่แน่นอน
แต่บริษัท หลายๆราย ก็รักษาROE ได้ในระดับที่สม่ำเสมอ ซึ่งดีกับผู้ถือหุ้นครับ
และเรายังสามารถเพิ่มวิธีการสร้างผลกำไรได้ในระดับหนึ่งครับ คือ
ถ้าเป็นบริษัทที่ ROE ต่ำติดดิน แต่ สม่ำเสมอ เราก็ยังหาประโยชน์ได้ครับ ถ้า ปันผล100% และ P/E ที่5เท่า ซึ่ง เราจะได้17% ทบต้น และ ยังมีความเสี่ยงไม่มากด้วยครับ เพราะ P/E ต่ำมากติดดิน < แต่บริษัทที่ว่าจะมีไหมหนอ>
บริษัทที่ ROE สูงมาก P/E ก็สูงมาก แต่สม่ำเสมอ และไม่จ่ายปันผล เราก็ยังลงทุนได้ครับ ถึงแม้ว่าอาจจะมีความเสี่ยง ที earning จะลดลงในอนาคตก็ตาม แต่เราก็ยังหวังว่า บริษัทจะรักษาไว้ได้และ ทำกำไรงามให้เราในที่สุด
ขอบคุณครับที่ติดตาม
-
- Verified User
- โพสต์: 19
- ผู้ติดตาม: 0
มีโจทย์คำนวนเล็กๆมาให้พี่ๆคิดกันเล่นๆครับ ได้ข้อคิดเล็กๆครับ
โพสต์ที่ 5
ผมขอยกตัวอย่าง เป็นหุ้นๆ หนึ่งขึ้นมาเลยนะครับ
เช่น Bat-3k
มี Roe อยู่ในช่วง 10-13% คงที่มาเป็นเวลานาน ผมก็เลยคิดว่า บริษัทน่าจะรักษา Roe ได้สูงอีกต่อไปในอนาคต ที่ 10% เป็นอย่างน้อย<ไม่แน่นอนครับ>
บริษัท ที่ราคา 55 p/e จะอยู่ที่ ประมาณ 5.28 payout ratio ประมาณ 30%
ผมคิด return ตามสูตรได้ 11.83% ทบต้น ต่อปี ซึ่งก็ไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ <ผมหวังที่ 15%+> แต่ ก็มี margin of safety เยอะพอควร คือ p/e ต่ำ ROe ที่คิดก็ต่ำสุด ถ้าต่อไปในอนาคต P/E ขยับขึ้น กำไรผมก็มากขึ้นตามครับ
คือผมได้อะไรจากสูตรนี้ ผมว่าผมได้ return คร่าวๆครับ ถ้าให้คิด DCF คงวุ่นวายกว่านี้
แต่ที่สำคัญ คือผมไม่ได้ซื้อหุ้นเพราะ การคำนวนนี้นะครับ ไม่เลย การคำนวนนี้ เป็นแค่การคำนวนคร่าวๆ ซึ่ง ไม่แน่นอนเหมือนกัน เพราะ earning เปลี่ยนได้ตลอดครับ ถ้า บริษัทไม่ใช่ธุรกิจที่มีการแข่งขันอย่างยั่งยืน
ต้องดูที่คุณภาพของบริษัท และการทำกำไรด้วยครับ
ปล. ทั้งหมดที่เขียนขึ้นนี้ อาจจะมีข้อผิดพลาดบ้างประการใดก็ขออภัยด้วยครับ คือสงสัย แล้วก็ทำ พอทำเสร็จ ก็โพสต์เลยครับ ใช้เวลา ไม่กี่ชม. เอง
สูตรที่ใช้เวลาไม่กี่ ชม. คงไม่ได้สุดยอดประการใด ทำเพราะความสนุกเท่านั้น เพราะผมมองเวลาของการลงทุนไว้ที่ ชั่วชีวิตครับ คงต้องรวบรวมความรู้จากพี่ๆ ไปเรื่อยๆครับ
ขอบคุณครับ
เช่น Bat-3k
มี Roe อยู่ในช่วง 10-13% คงที่มาเป็นเวลานาน ผมก็เลยคิดว่า บริษัทน่าจะรักษา Roe ได้สูงอีกต่อไปในอนาคต ที่ 10% เป็นอย่างน้อย<ไม่แน่นอนครับ>
บริษัท ที่ราคา 55 p/e จะอยู่ที่ ประมาณ 5.28 payout ratio ประมาณ 30%
ผมคิด return ตามสูตรได้ 11.83% ทบต้น ต่อปี ซึ่งก็ไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ <ผมหวังที่ 15%+> แต่ ก็มี margin of safety เยอะพอควร คือ p/e ต่ำ ROe ที่คิดก็ต่ำสุด ถ้าต่อไปในอนาคต P/E ขยับขึ้น กำไรผมก็มากขึ้นตามครับ
คือผมได้อะไรจากสูตรนี้ ผมว่าผมได้ return คร่าวๆครับ ถ้าให้คิด DCF คงวุ่นวายกว่านี้
แต่ที่สำคัญ คือผมไม่ได้ซื้อหุ้นเพราะ การคำนวนนี้นะครับ ไม่เลย การคำนวนนี้ เป็นแค่การคำนวนคร่าวๆ ซึ่ง ไม่แน่นอนเหมือนกัน เพราะ earning เปลี่ยนได้ตลอดครับ ถ้า บริษัทไม่ใช่ธุรกิจที่มีการแข่งขันอย่างยั่งยืน
ต้องดูที่คุณภาพของบริษัท และการทำกำไรด้วยครับ
ปล. ทั้งหมดที่เขียนขึ้นนี้ อาจจะมีข้อผิดพลาดบ้างประการใดก็ขออภัยด้วยครับ คือสงสัย แล้วก็ทำ พอทำเสร็จ ก็โพสต์เลยครับ ใช้เวลา ไม่กี่ชม. เอง
สูตรที่ใช้เวลาไม่กี่ ชม. คงไม่ได้สุดยอดประการใด ทำเพราะความสนุกเท่านั้น เพราะผมมองเวลาของการลงทุนไว้ที่ ชั่วชีวิตครับ คงต้องรวบรวมความรู้จากพี่ๆ ไปเรื่อยๆครับ
ขอบคุณครับ
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
มีโจทย์คำนวนเล็กๆมาให้พี่ๆคิดกันเล่นๆครับ ได้ข้อคิดเล็กๆครับ
โพสต์ที่ 6
ข้อสรุป อาจจะดูเห่ยๆ หน่อยนะครับ เพราะผม เอา ROE มาร่วมวงในการคิดซึ่งไม่ค่อยมีใครทำ[/b] เพราะ ROE ส่วนใหญ่ไม่แน่นอน แต่บริษัท หลายๆราย ก็รักษาROE ได้ในระดับที่สม่ำเสมอ ซึ่งดีกับผู้ถือหุ้นครับ
โฮะ ๆ ๆ ๆ
ผมก็ทำครับ ใครว่าเห่ยก็ว่าไป ผมไม่ว่านะ....
บัฟเฟตต์ก็ทำ
เพียงแต่เน้นความสำคัญไปที่ ROE ในอนาคต......
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
มีโจทย์คำนวนเล็กๆมาให้พี่ๆคิดกันเล่นๆครับ ได้ข้อคิดเล็กๆครับ
โพสต์ที่ 7
เกรแฮม ชอบหุ้นที่คุณภาพปานกลางแต่ ราคาสุดยอดแล้วผมจะหาทำไม ผมจะหาก็เพราะว่า บางบริษัท ROE สูงมากและสม่ำเสมอ (20%+) แต่ P/E ก็สูงแล้วเราจะคุ้มไหนละที่ลงทุน
บัฟเฟตต์ ชอบหุ้นที่คุณภาพสุดยอด แม้ราคาจะปานกลาง(หรือยุติธรรม)
ผมติดนิสัยชอบ margin of safety ของปู่เกรแฮมไม่หาย แก้ยังไงก็ไม่หาย.......
ไว้ให้ผมเก่งๆก่อน คงได้ใช้บริการของปู่บัฟ.....
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด