หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
โพสต์ที่ 1
หลังจากนั่งรถเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก็ได้ไปถึงโรงงาน
โรงงานมีขนาดใหญ่มาก มีเนื้อที่ประมาณ 147 ไร่
ตัว office และโรงงานอยู่ที่เดียวกัน
มาถึงก็เข้าห้องบรรยาย
เอาแบบสรุปๆ นะครับ ของเตํมๆ อ่านได้ในรายงานประจำปี
DRT เดิมเป็น บ.ลูกของ SCCC
จดทะเบียนเข้าตลาด พย 48 ราคา par 5 บาท ทุนจะทะเบียน 1 Gบาท(พันล้าน)
เปิดขายวันแรก 7 บาท วันที่ไป compay visit ราคาอยู่ที่
5.9X บาท
ตัวธุรกิจแบ่งเป็น 3 กลุ่ม
1. ไฟเบอร์ซิเมน
เป็นอันดับ 2 (16%)อันดับ 1 SCC (>50%) อันดับ 2 คือ กลุ่มมหภัณท์ (25%)
ตราสินค้า คือตราเพชร
--- กระเบื้องลอนคู่ มี 2 ความหนาคือ 4 mm และ 5 mm
5 mm ตราเพชร เป็นขนาดมาตฐาน ถ้าปลูกบ้านควรใช้แบบนี้
4 mm ตราบ้าน เป็นไฟต์ติ้งแบรนด์ ความแข็งแกร่งไม่ได้มาตรฐาน
(มอก. รองรับที่ 5 mm เท่านั้น)
--- กระเบื้องลอนเล็ก (7 ลอนครึ่ง)
4 mm (มอก รองรับที่ 3.8 mm)
--- กระเบื้องแผ่นเรียบ
มี 3 ความหนา 4 6 8 mm ตลาดใช้ที่ 4 mm เป็นส่วนใหญ่
--- ไม้ฝา
share เปํนอันดับ 2(20 กว่าๆ% ) อันดับ 1 กลุ่มมหภัณท์ ตราเฌอร่า (48 กว่าๆ %)
ใช้ทดแทนไม้ เลือย ตัด เจาะ ได้หมด มีความทนทานสุงกว่า
2. กระเบื้องคอนกรีต
เป็นอันดับ 2 (17%)อันดับ 1 คือ กลุ่ม SCC (กระเบื้องซีแพค 50%)
2.1 มีลอน(CT) ตราดเพชร สีใช้ระบบ WET ON WET มีสีให้เลือกมากที่สุด
2.1 เรียบ ตราอันดามัส
3. เจียระนัย (natural fiber cement board)ใช้ทำผนัง ไม่มีใยหินที่เป็นอันตราย เป็นผลิตภัณใหม่ วางตลาดปีนี้
สรุป
วัตถุดิบหลักคือ ปูนซิเมนต์ (40 กว่าๆ %)
ผู้ที่ตัดสินใจซื้อคือ เจ้าของโครงการ และ designner
ราคาปูนขึ้นมีผลเสีย
อสังหาไม่ดีมีผลเสีย
ดอกเบี้ยมีผลกระทบน้อย
อัตราแลกเปลี่ยนมีผลกระทบน้อย
margin เพิ่มได้โดยผลิดเต็มกำลังแล้ว stock ไว้ขายในช่วงขายดี
จุดแข็ง
กระเบื้องลอนคู่ มีสีมากที่สุด
กระเบื้องลอนคู่ สี 2 ช้น รับประกันสี 5 ปี (เจ้าเดียวในไทย)
มีผู้จำหน่ายมากราย
วัตถุดิบสามารถซื้อได้จากหลายเจ้า
สินค้ามีน้ำหนัก/ราคา สูงทำให้คู่แข่งจากต่างประเทศไม่สามารถแข่งขันได้เนื่องจากค่าขนส่งสูง
office และโรงงานอยู่ที่เดียวกัน ประหยัดค่าบริการ
มีสินค้าให้เลือกมาก (3กลุ่ม) รถมาขนทีเดียวได้สินค้าหลายกลุ่ม(เต็มคันรถ ประหยัดค่าน้ำมัน)
มีโรงงานปูนอยู่ติดกันทำให้ไม่ต้องสตอกวัตถุดิบมาก
จุดอ่อน
มี share น้อย ต้นทุนสูงกว่า
ปัจจุบันการผลิตเต็มกำลังแล้ว
อนาคต
เครื่องจักรจะผลิตได้ในไตรมาส 4
เยี่ยมชมโรงงาน
ไปดูเครื่องจักรผลิตกระเบื้อง CT
อยู่ในช่วงรัน test ทำให้มีของเสียมาก ดูๆ แล้วปกติดี
ไปดูเครื่องจักรผลิต ไม้ฝา + กระเบื้องลอนคู่
ก็ปกติดีทุกอย่าง
เท่าที่ดูเครื่องจักรใช้เทคโนโลยีต่ำ แต่ใช้เงินลงทุนสูงมาก
แล้วก็ถ้าจะทำธุรกิจนี้ต้องมีเนื้อที่ทำ stock มาก
เพราะต้องรอให้สี แห้งและ คอนกรีตเซตตัว
ประมาณว่า 147 ไร่นี่ โรงงาน 20 กว่าไร่ นอกนั้นเป็นกองผลิตภัณ
ส่วนกองผลิตภัณ นี่เท่าที่ดูยังไม่เต็มโรงงานยังมีที่ว่างอีกพอสมควร
โรงงานมีขนาดใหญ่มาก มีเนื้อที่ประมาณ 147 ไร่
ตัว office และโรงงานอยู่ที่เดียวกัน
มาถึงก็เข้าห้องบรรยาย
เอาแบบสรุปๆ นะครับ ของเตํมๆ อ่านได้ในรายงานประจำปี
DRT เดิมเป็น บ.ลูกของ SCCC
จดทะเบียนเข้าตลาด พย 48 ราคา par 5 บาท ทุนจะทะเบียน 1 Gบาท(พันล้าน)
เปิดขายวันแรก 7 บาท วันที่ไป compay visit ราคาอยู่ที่
5.9X บาท
ตัวธุรกิจแบ่งเป็น 3 กลุ่ม
1. ไฟเบอร์ซิเมน
เป็นอันดับ 2 (16%)อันดับ 1 SCC (>50%) อันดับ 2 คือ กลุ่มมหภัณท์ (25%)
ตราสินค้า คือตราเพชร
--- กระเบื้องลอนคู่ มี 2 ความหนาคือ 4 mm และ 5 mm
5 mm ตราเพชร เป็นขนาดมาตฐาน ถ้าปลูกบ้านควรใช้แบบนี้
4 mm ตราบ้าน เป็นไฟต์ติ้งแบรนด์ ความแข็งแกร่งไม่ได้มาตรฐาน
(มอก. รองรับที่ 5 mm เท่านั้น)
--- กระเบื้องลอนเล็ก (7 ลอนครึ่ง)
4 mm (มอก รองรับที่ 3.8 mm)
--- กระเบื้องแผ่นเรียบ
มี 3 ความหนา 4 6 8 mm ตลาดใช้ที่ 4 mm เป็นส่วนใหญ่
--- ไม้ฝา
share เปํนอันดับ 2(20 กว่าๆ% ) อันดับ 1 กลุ่มมหภัณท์ ตราเฌอร่า (48 กว่าๆ %)
ใช้ทดแทนไม้ เลือย ตัด เจาะ ได้หมด มีความทนทานสุงกว่า
2. กระเบื้องคอนกรีต
เป็นอันดับ 2 (17%)อันดับ 1 คือ กลุ่ม SCC (กระเบื้องซีแพค 50%)
2.1 มีลอน(CT) ตราดเพชร สีใช้ระบบ WET ON WET มีสีให้เลือกมากที่สุด
2.1 เรียบ ตราอันดามัส
3. เจียระนัย (natural fiber cement board)ใช้ทำผนัง ไม่มีใยหินที่เป็นอันตราย เป็นผลิตภัณใหม่ วางตลาดปีนี้
สรุป
วัตถุดิบหลักคือ ปูนซิเมนต์ (40 กว่าๆ %)
ผู้ที่ตัดสินใจซื้อคือ เจ้าของโครงการ และ designner
ราคาปูนขึ้นมีผลเสีย
อสังหาไม่ดีมีผลเสีย
ดอกเบี้ยมีผลกระทบน้อย
อัตราแลกเปลี่ยนมีผลกระทบน้อย
margin เพิ่มได้โดยผลิดเต็มกำลังแล้ว stock ไว้ขายในช่วงขายดี
จุดแข็ง
กระเบื้องลอนคู่ มีสีมากที่สุด
กระเบื้องลอนคู่ สี 2 ช้น รับประกันสี 5 ปี (เจ้าเดียวในไทย)
มีผู้จำหน่ายมากราย
วัตถุดิบสามารถซื้อได้จากหลายเจ้า
สินค้ามีน้ำหนัก/ราคา สูงทำให้คู่แข่งจากต่างประเทศไม่สามารถแข่งขันได้เนื่องจากค่าขนส่งสูง
office และโรงงานอยู่ที่เดียวกัน ประหยัดค่าบริการ
มีสินค้าให้เลือกมาก (3กลุ่ม) รถมาขนทีเดียวได้สินค้าหลายกลุ่ม(เต็มคันรถ ประหยัดค่าน้ำมัน)
มีโรงงานปูนอยู่ติดกันทำให้ไม่ต้องสตอกวัตถุดิบมาก
จุดอ่อน
มี share น้อย ต้นทุนสูงกว่า
ปัจจุบันการผลิตเต็มกำลังแล้ว
อนาคต
เครื่องจักรจะผลิตได้ในไตรมาส 4
เยี่ยมชมโรงงาน
ไปดูเครื่องจักรผลิตกระเบื้อง CT
อยู่ในช่วงรัน test ทำให้มีของเสียมาก ดูๆ แล้วปกติดี
ไปดูเครื่องจักรผลิต ไม้ฝา + กระเบื้องลอนคู่
ก็ปกติดีทุกอย่าง
เท่าที่ดูเครื่องจักรใช้เทคโนโลยีต่ำ แต่ใช้เงินลงทุนสูงมาก
แล้วก็ถ้าจะทำธุรกิจนี้ต้องมีเนื้อที่ทำ stock มาก
เพราะต้องรอให้สี แห้งและ คอนกรีตเซตตัว
ประมาณว่า 147 ไร่นี่ โรงงาน 20 กว่าไร่ นอกนั้นเป็นกองผลิตภัณ
ส่วนกองผลิตภัณ นี่เท่าที่ดูยังไม่เต็มโรงงานยังมีที่ว่างอีกพอสมควร
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณครับคุณ MO101
ฟังแล้วจินตนการเห็นภาพโรงงานเลยครับ
ไม่ทราบมีการพูดถึงความเสี่ยงเรื่องใยหินบ้างหรือเปล่าครับ
เข้าใจว่ากระเบื่องที่ทำ มีใยหินซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งนะครับ
ฟังแล้วจินตนการเห็นภาพโรงงานเลยครับ
ไม่ทราบมีการพูดถึงความเสี่ยงเรื่องใยหินบ้างหรือเปล่าครับ
เข้าใจว่ากระเบื่องที่ทำ มีใยหินซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งนะครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
โพสต์ที่ 3
พวกไม้ฝา เนี่ย
กับซิเมนต์บอร์ด ส่วนใหญ่ผมจะใช้ของตราห้าห่วง
นะคับ เพราะเคยซื้อและราคาไม่แพงมากนัก
ขนาดหนา4มม ราคาแผ่นละ160 บาท
ใช้แทน แผ่นยิบซั่ม เพราะ กันน้ำ หมดปัญหาเรื่อง
ปลวก และต่อยไม่แตก เวลาทะเลาะกันหรือเมา
เหล้า เลยเลือกที่จะใช้งาน ซึ่งราคาดูแล้วก็ไม่ได้
ต่างจากแผ่นยิบซั่มเท่าไร แต่การติดตั้งยากกว่านิดหน่อย
สินค้าพวกนี้ ความนิยมไม่รู้เป็นไงกัน
ไม้ฝา กับแผ่นซิเมนต์บอร์ด
กับซิเมนต์บอร์ด ส่วนใหญ่ผมจะใช้ของตราห้าห่วง
นะคับ เพราะเคยซื้อและราคาไม่แพงมากนัก
ขนาดหนา4มม ราคาแผ่นละ160 บาท
ใช้แทน แผ่นยิบซั่ม เพราะ กันน้ำ หมดปัญหาเรื่อง
ปลวก และต่อยไม่แตก เวลาทะเลาะกันหรือเมา
เหล้า เลยเลือกที่จะใช้งาน ซึ่งราคาดูแล้วก็ไม่ได้
ต่างจากแผ่นยิบซั่มเท่าไร แต่การติดตั้งยากกว่านิดหน่อย
สินค้าพวกนี้ ความนิยมไม่รู้เป็นไงกัน
ไม้ฝา กับแผ่นซิเมนต์บอร์ด
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
โพสต์ที่ 4
มีการพูดถึงครับ
โรงงานสะอาดมาก ตามมารฐาน ให้มีใยหินได้ 2 เส้นใย
ถ้าจำไม่ผิด รง มีอยุ่ประมาณ 0.1-0.2 กว่าๆ
ถือว่ามีสิ่งแวดล้อมที่ดีครับ
ส่วนสารก่อมะเร็งนี่คือใช้ผลิตภัณที่มีส่วนผสมของใยหินเป็นเวลา >10 ปี
ใยหินจะระเหิดออกมา (เสียดาย รง ไม่ได้ให้ดูแร่ใยหินว่าหน้าตาเป็นอย่างไร)
ทางยุโรปเลิกใช้สินค้าที่มีส่วนผสมของใยหินแล้ว
ทางไทย ยังใช้อยู่ พวกหลังคา กระเบื้องลอนคู่ (ไฟเบอร์ซิเมน) เนืองจากทำให้กระเบื้องเบาและแข็งแร็ง
ส่วนทาง DRT ได้พัฒนาผลิตภัณ เจียระนัย ที่ไม่มีสวนผสมของใยหินแล้ว
เท่าที่ฝังดูรู้สึกว่าจะไม่มีการขยายการผลิตกระเบื้องไฟเบอร์ซิเมนแล้วจะเน้นพวกไม่มีใยหินเป็นส่วนประกอบมากกว่า
นับว่าเป็นข่าวที่ดีครับ ที่มีบ.ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
โรงงานสะอาดมาก ตามมารฐาน ให้มีใยหินได้ 2 เส้นใย
ถ้าจำไม่ผิด รง มีอยุ่ประมาณ 0.1-0.2 กว่าๆ
ถือว่ามีสิ่งแวดล้อมที่ดีครับ
ส่วนสารก่อมะเร็งนี่คือใช้ผลิตภัณที่มีส่วนผสมของใยหินเป็นเวลา >10 ปี
ใยหินจะระเหิดออกมา (เสียดาย รง ไม่ได้ให้ดูแร่ใยหินว่าหน้าตาเป็นอย่างไร)
ทางยุโรปเลิกใช้สินค้าที่มีส่วนผสมของใยหินแล้ว
ทางไทย ยังใช้อยู่ พวกหลังคา กระเบื้องลอนคู่ (ไฟเบอร์ซิเมน) เนืองจากทำให้กระเบื้องเบาและแข็งแร็ง
ส่วนทาง DRT ได้พัฒนาผลิตภัณ เจียระนัย ที่ไม่มีสวนผสมของใยหินแล้ว
เท่าที่ฝังดูรู้สึกว่าจะไม่มีการขยายการผลิตกระเบื้องไฟเบอร์ซิเมนแล้วจะเน้นพวกไม่มีใยหินเป็นส่วนประกอบมากกว่า
นับว่าเป็นข่าวที่ดีครับ ที่มีบ.ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
- น้ำครึ่งแก้ว
- Verified User
- โพสต์: 1098
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
โพสต์ที่ 5
อืมมม ขอบคุณครับ
" ชีวิตไม่เคยขาดความหวาน "
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
โพสต์ที่ 6
อ่ะแฮ่ม ผมเป็นแฟนห้าห่วงมานาน ขอเล่าข้อมูลนิดหน่อย เผื่อมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่สนใจ DRT นะครับ
เซลส์ห้าห่วง บอกว่า ปีหน้าต้นปี มีกฎหมายให้ยกเลิกการผลิต กระเบื้องใยหิน 4 มม. โดยให้ผลิตเป็น 5 มม.แทน (ช่วยเช็คข่าวอีกทีด้วยนะครับ) ทุกยี่ห้อ แต่ให้ขายต่อได้ จนหมดสินค้า ซึ่งผมคิดว่า ตลาดกระเบื้องใยหิน คงหดตัวพอควร เพราะ กระเบื้อง 5 มม. แพงกว่ากันประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคงต้องดูกันต่อว่า จะมีกระเบื้อง non-fiber ชนิดใหม่มาแทนเร็วๆ นี้หรือไม่ ในราคาถูกสำหรับ mass market
และ นโยบายห้าห่วงในส่วนของ กระเบื้องหลังคา ตอนนี้ คือ จะ up brand ตัวเอง ให้เท่ากับช้าง ส่วนเฌอร่า เค้าจะวางไว้เหนือช้างตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะถือว่าเป็นเจ้าแรกที่ทำไม้สังเคราะห์ และคุณภาพดีกว่า
จากความคิดเห็นผม ที่อาจกระทบกับ DRT คือ
1. เรื่องการup brand ของห้าห่วงไปเท่าช้าง นั้น (อาจจะมีโฆษณา แต่เน้น innovation จน product เดิม ไม่ค่อยได้สนใจแล้ว จริงๆ ควร เน้น brand promotion มากๆ) กลุ่ม มหพันธ์ทำแค่ราคาเท่านั้นที่เห็นเด่นชัด ซึ่งผมว่าไม่ใช่คำตอบ (คงคิดว่า การเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ คือการก้าว เป็นผู้นำของ brand รวม ซึ่งมี product เก่าด้วย)
เมื่อห้าห่วงขึ้นราคาขาย ทำให้โอกาสของกระเบื้องตราเพชรมีมากขึ้น เพราะกระเบื้องใยหิน กลุ่มตลาดล่างมีมากกว่า ตลาดบน (ตลาดบนจะเน้นซีแพค ฯลฯ) แต่การแข่งขันเรื่องราคา และ ราคาน้ำมันที่สูง ยังฉุด profit margin ต่อไป
2. สำหรับไม้สังเคราะห์ เฌอร่าเป็นผู้นำอยู่แล้ว เพราะเป็นรายเดียวที่ใช้ เทคโนโลยี autoclave ทำให้ไม้ไม่ยืดไม่หด และ ไม่มีใยหิน (กลุ่มมหพันธ์เน้น green technology) ดังนั้นใครจะใช้ไม้สังเคราะห์พิจารณา เฌอร่าก่อนนะครับ แต่ราคาเค้าก็จะตั้งไว้สูงกว่าตราช้าง เพราะถือว่า คุณภาพดีกว่า แต่ product education น้อยไป brand promotion ก็น้อย (งบน้อยกว่ากันเยอะ ) ทำให้ไม่เปรี้ยงเท่าที่ควรจะเป็น ส่วนของ DRT เริ่มมีการโฆษณาขึ้นบ้าง
โดยรวมแล้ว ผมคิดว่า ถ้า DRT สู้จริงๆ เพิ่มงบเรื่อง branding และ คงราคาที่ตำกว่า ช้าง และ ห้าห่วง กลายเป็นขวัญใจชาวบ้านคนใหม่ โอกาสเติบโตยังสูงครับ เพราะ DRT "อาจจะ" กลายเป็นตาอยู่ ให้สองค่ายยักษ์ช้ำใจ
ปล. ความคิดเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาน
ปล. 2 ผมแปลกใจว่าทำไมราคากระเบื้องใยหินหลังคา ขึ้นตั้งกว่า แปดสิบเปอร์เซ็นต์จากต้นปี ทำไมงบออกมาไม่โดดเด่นเท่าไหร่ (ทั้งที่เป็นสัดส่วนรายได้กว่า 61.7%ของทั้งบริษัทในปี 2548 แต่คาดว่าสัดส่วนจะลดลงไป ซึ่งเป็นผลดีกับ profitmargin เพราะ รายได้ส่วนนี้แข่งด้านราคาสูง)
ปล. 3 ถ้าจำไม่ผิดโรงงานอยู่ สระบุรี ทางผ่านไป โคราชใช่มั้ยครับ?
ปล.4 ด่าน DR.T เป็นอะไรกับหุ้น DRT ครับ? :lol:
ปล. 5 ขอให้เพื่อนๆ รวยทุกท่านครับ :D :D :D
เซลส์ห้าห่วง บอกว่า ปีหน้าต้นปี มีกฎหมายให้ยกเลิกการผลิต กระเบื้องใยหิน 4 มม. โดยให้ผลิตเป็น 5 มม.แทน (ช่วยเช็คข่าวอีกทีด้วยนะครับ) ทุกยี่ห้อ แต่ให้ขายต่อได้ จนหมดสินค้า ซึ่งผมคิดว่า ตลาดกระเบื้องใยหิน คงหดตัวพอควร เพราะ กระเบื้อง 5 มม. แพงกว่ากันประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคงต้องดูกันต่อว่า จะมีกระเบื้อง non-fiber ชนิดใหม่มาแทนเร็วๆ นี้หรือไม่ ในราคาถูกสำหรับ mass market
และ นโยบายห้าห่วงในส่วนของ กระเบื้องหลังคา ตอนนี้ คือ จะ up brand ตัวเอง ให้เท่ากับช้าง ส่วนเฌอร่า เค้าจะวางไว้เหนือช้างตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะถือว่าเป็นเจ้าแรกที่ทำไม้สังเคราะห์ และคุณภาพดีกว่า
จากความคิดเห็นผม ที่อาจกระทบกับ DRT คือ
1. เรื่องการup brand ของห้าห่วงไปเท่าช้าง นั้น (อาจจะมีโฆษณา แต่เน้น innovation จน product เดิม ไม่ค่อยได้สนใจแล้ว จริงๆ ควร เน้น brand promotion มากๆ) กลุ่ม มหพันธ์ทำแค่ราคาเท่านั้นที่เห็นเด่นชัด ซึ่งผมว่าไม่ใช่คำตอบ (คงคิดว่า การเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ คือการก้าว เป็นผู้นำของ brand รวม ซึ่งมี product เก่าด้วย)
เมื่อห้าห่วงขึ้นราคาขาย ทำให้โอกาสของกระเบื้องตราเพชรมีมากขึ้น เพราะกระเบื้องใยหิน กลุ่มตลาดล่างมีมากกว่า ตลาดบน (ตลาดบนจะเน้นซีแพค ฯลฯ) แต่การแข่งขันเรื่องราคา และ ราคาน้ำมันที่สูง ยังฉุด profit margin ต่อไป
2. สำหรับไม้สังเคราะห์ เฌอร่าเป็นผู้นำอยู่แล้ว เพราะเป็นรายเดียวที่ใช้ เทคโนโลยี autoclave ทำให้ไม้ไม่ยืดไม่หด และ ไม่มีใยหิน (กลุ่มมหพันธ์เน้น green technology) ดังนั้นใครจะใช้ไม้สังเคราะห์พิจารณา เฌอร่าก่อนนะครับ แต่ราคาเค้าก็จะตั้งไว้สูงกว่าตราช้าง เพราะถือว่า คุณภาพดีกว่า แต่ product education น้อยไป brand promotion ก็น้อย (งบน้อยกว่ากันเยอะ ) ทำให้ไม่เปรี้ยงเท่าที่ควรจะเป็น ส่วนของ DRT เริ่มมีการโฆษณาขึ้นบ้าง
โดยรวมแล้ว ผมคิดว่า ถ้า DRT สู้จริงๆ เพิ่มงบเรื่อง branding และ คงราคาที่ตำกว่า ช้าง และ ห้าห่วง กลายเป็นขวัญใจชาวบ้านคนใหม่ โอกาสเติบโตยังสูงครับ เพราะ DRT "อาจจะ" กลายเป็นตาอยู่ ให้สองค่ายยักษ์ช้ำใจ
ปล. ความคิดเห็นส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาน
ปล. 2 ผมแปลกใจว่าทำไมราคากระเบื้องใยหินหลังคา ขึ้นตั้งกว่า แปดสิบเปอร์เซ็นต์จากต้นปี ทำไมงบออกมาไม่โดดเด่นเท่าไหร่ (ทั้งที่เป็นสัดส่วนรายได้กว่า 61.7%ของทั้งบริษัทในปี 2548 แต่คาดว่าสัดส่วนจะลดลงไป ซึ่งเป็นผลดีกับ profitmargin เพราะ รายได้ส่วนนี้แข่งด้านราคาสูง)
ปล. 3 ถ้าจำไม่ผิดโรงงานอยู่ สระบุรี ทางผ่านไป โคราชใช่มั้ยครับ?
ปล.4 ด่าน DR.T เป็นอะไรกับหุ้น DRT ครับ? :lol:
ปล. 5 ขอให้เพื่อนๆ รวยทุกท่านครับ :D :D :D
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
โพสต์ที่ 7
น่าจะใช่นะครับ ถนนใหญ่มากปล. 3 ถ้าจำไม่ผิดโรงงานอยู่ สระบุรี ทางผ่านไป โคราชใช่มั้ยครับ?
DR.T เป็นคนปล.4 ด่าน DR.T เป็นอะไรกับหุ้น DRT ครับ?
ส่วน DRT เป็นบ.กระเบื้อง
ความสัมพันธ์ไม่ทราบ
ขอบคุณสำหรับขอมูลครับ
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
โพสต์ที่ 8
รูปภาพที่ไป company visit DRT
http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx? ... query=ZHJ0
ข่าวอื่นๆ นอกจากนี้
DRT ปรับกลยุทธ์ลดต้นทุน จับมือ ปตท. ดันก๊าซธรรมชาติผลิตสินค้าแทนดีเซล
http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx? ... query=ZHJ0
http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx? ... query=ZHJ0
ข่าวอื่นๆ นอกจากนี้
DRT ปรับกลยุทธ์ลดต้นทุน จับมือ ปตท. ดันก๊าซธรรมชาติผลิตสินค้าแทนดีเซล
http://www.thaipr.net/nc/readnews.aspx? ... query=ZHJ0
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
โพสต์ที่ 11
ความจริงการส่งออกไปต่างประเทศ
ผมว่าก็เป็นไอเดียไม่เลว แต่ถ้าสามารถ
ขยายการผลิตไปประเทศที่จะส่งยิ่งดีใหญ่
เพราะลดค่าขนส่ง และการผลิตสามารถทำได้
เต็มที่ เวียดนามเป็นประเทศที่น่าสนใจมาก
ถ้าสามารถเข้าไปเปิดโรงงาน แล้วกระจายสินค้า
ไป ลาว กัมพูชา เวียดนาม ขาย20ปี
น่าจะยังมีความต้องการอยู่อีกยาวพอสมควร
ผมว่าก็เป็นไอเดียไม่เลว แต่ถ้าสามารถ
ขยายการผลิตไปประเทศที่จะส่งยิ่งดีใหญ่
เพราะลดค่าขนส่ง และการผลิตสามารถทำได้
เต็มที่ เวียดนามเป็นประเทศที่น่าสนใจมาก
ถ้าสามารถเข้าไปเปิดโรงงาน แล้วกระจายสินค้า
ไป ลาว กัมพูชา เวียดนาม ขาย20ปี
น่าจะยังมีความต้องการอยู่อีกยาวพอสมควร
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
โพสต์ที่ 12
ดูจากข่าว เป็น 1 ตุลาคม ครับ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
โพสต์ที่ 13
:lol: ก๊อบมาง่ายดี ขออนุญาติพี่แซมด้วยแล้วกันครับ
DRT ลั่นปีนี้รายได้ทะลุเป้า เร่งสายผลิตรองรับส่งออกโต โดย กระแสหุ้น
"กระเบื้องตราเพชร" ครึ่งปีแรกโตทะลุเป้าแล้ว ทั้งปีนี้ลุ้นโตถึง 20% จากรุกตลาดต่างจังหวัดและลุยส่งออกสำเร็จ เตรียมส่งสินค้าเจาะตลาดตะวันออกกลาง รองรับกำลังการผลิตใหม่ไตรมาส 4 ผู้บริหารเผยเตรียมประชุมบอร์ดปลายเดือนนี้ ชงจ่ายปันผลระหว่างกาลต่อเนื่อง นักวิเคราะห์ประเมินหุ้น DRT สัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นมีโอกาสปรับขึ้น กรอบแนวต้าน 6.90-7.20 บาท
นายไพฑูรย์ กิจสำเร็จ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า แนวโน้มการเติบโตของรายได้ปีนี้ อาจขยายตัวได้สูงถึง 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,108 ล้านบาท จะเป็นการเติบโตจากความต้องการสินค้าในตลาดภูมิภาคที่มีความต้องการสูง ประกอบกับการขยายตัวไปยังตลาดประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา และลาว ที่มีการขยายตัวของความต้องการสินค้ากระเบื้องและฝาบ้านถึง 100%
ส่งออกพุ่งดันรายได้โตทะลุเป้า
"บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากตลาดภูมิภาค 90% ของยอดขายรวม โดยครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทมีการขยับสัดส่วนการส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นถึง 100% บริษัทคาดว่าปี 50 สัดส่วนรายได้จากตลาดส่งออกต่างประเทศจะเติบโต 10% จากปีนี้มีสัดส่วนรายได้ 8% นายไพฑูรย์ กล่าว
ทั้งนี้ครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวม 1,245.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.40% และมีกำไรสุทธิ 168.99 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 651.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.82% และมีกำไรสุทธิ 91.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.93 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 55.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.09%
รุกขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง จะเน้นขยายตลาดในตลาดภูมิภาคต่อเนื่อง โดยขายผ่านตัวแทนจำหน่าย 600 ราย และรุกขยายไปยังตลาดต่างประเทศที่เป็นลูกค้าเก่า อาทิ ลาวและกัมพูชา จีน พม่า เกาหลีใต้ ไต้หวัน และมีแผนจะรุกไปยังตลาดในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตามบริษัทจะต้องรอให้แผนการขยายกำลังการผลิตแล้วเสร็จ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ก่อนจึงจะรุกไปยังตะวันออกกลางได้
นายไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทกำลังดำเนินการติดตั้งสายการผลิตที่ 8 รองรับตลาดประเภทไม้ฝาสังเคราะห์ ติดตั้งไปแล้ว 80% คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเดินเครื่องการผลิตได้ในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 42,000 ตันต่อปี เบื้องต้นคาดว่าจะสร้างรายได้ให้บริษัท 50 ล้านบาท ในปีนี้ และเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท ในปีหน้า ขณะที่การติดตั้งสายการผลิตกระเบื้องคอนกรีต CT5 เป็นสายการผลิตกระเบื้องคอนกรีตใหม่ล่าสุด ได้เริ่มเดินเครื่องการผลิตแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยกำลังการผลิต 45,000 ตันต่อปี เร่งแผนลดต้นทุนผลิตลง10%นอกจากนี้บริษัทยังคงดำเนินการด้านการลดต้นทุนการผลิต โดยเริ่มจากการเปลี่ยนใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงาน ในการผลิตแทนน้ำมันดีเซล จะทำให้บริษัทลดต้นทุนการผลิตได้ 10% จะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนพลังงานที่ใช้การผลิตในเดือนตุลาคม โดยใช้เงินลงทุนในการเปลี่ยนพลังงาน 7 ล้านบาท และประเมินว่าใช้เวลาประมาณ 1 ปี ในการคืนทุน
"เราตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าจะมีการเติบโตในทุกๆด้าน 10% ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาก็โตได้มากกว่าเป้าหมายแล้ว ในครึ่งปีหลังมีความเป็นไปได้ว่า จะมีการเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่กำหนด เนื่องจากความต้องการในตลาดภูมิภาคและต่างประเทศขยายตัวต่อเนื่อง"
สำหรับปัญหาการเมืองที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นตัวทำให้ภาคอสังหาฯซบเซานั้น มองว่า ตลาดอสังหาฯในต่างจังหวัดไม่ได้อิงกับการเมืองเป็นหลัก แต่จะเกี่ยวเนื่องกับอัตราดอกเบี้ยมากกว่า และที่ผ่านมาบริษัทก็ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวแต่อย่างใด และหากสถานการณ์ในประเทศไม่ดี บริษัทก็จะมีรายได้จากต่างประเทศเป็นตัวผลักดันผลประกอบการได้ "
นายไพฑูรย์กล่าวต่อว่า ในช่วงปลายเดือนนี้ บริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท และจะมีการพิจารณาการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยที่ผ่านมาในอดีต บริษัทมีการจ่ายปันผล 2 ครั้งต่อปีมาโดยตลอด และในปี 2548 บริษัทมีการจ่ายปันผล 0.60 บาทต่อหุ้นเป็นปันผลระหว่างกาล และจ่ายอีก 0.40 บาทในปลายปี รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 1 บาทต่อหุ้น
เทคนิคปรับขึ้นแนวต้าน6.90-7.20 บ.
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.สินเอเชีย ประเมินการลงทุนระยะสั้น หุ้น DRT ตามสัญญาณทางเทคนิคมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย โดยประเมินแนวต้าน 6.80 บาท และประเมินแนวรับ 6.50 บาท แนะเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากการซื้อขายที่ผ่านมาหุ้น DRT มีสภาพคล่องในการซื้อขายค่อนข้างน้อย
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขายของราคาหุ้น DRT ถือว่ามีสภาพคล่องน้อย อีกทั้งปริมาณการซื้อขายต่ำ ดังนั้นโอกาสการแกว่งตัวของราคาหุ้นแรงมีความเป็นไปได้สูง ทั้งนี้สัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นยังมีโอกาสขึ้นในกรอบแนวต้าน 6.90-7.20 บาท และแนวรับ 6.50-6.40 บาท แนะระมัดระวังการลงทุนลักษณะการเข้าเก็งกำไร
จากคุณ : samsam - [ 17 ส.ค. 49 08:21:44 ]
DRT ลั่นปีนี้รายได้ทะลุเป้า เร่งสายผลิตรองรับส่งออกโต โดย กระแสหุ้น
"กระเบื้องตราเพชร" ครึ่งปีแรกโตทะลุเป้าแล้ว ทั้งปีนี้ลุ้นโตถึง 20% จากรุกตลาดต่างจังหวัดและลุยส่งออกสำเร็จ เตรียมส่งสินค้าเจาะตลาดตะวันออกกลาง รองรับกำลังการผลิตใหม่ไตรมาส 4 ผู้บริหารเผยเตรียมประชุมบอร์ดปลายเดือนนี้ ชงจ่ายปันผลระหว่างกาลต่อเนื่อง นักวิเคราะห์ประเมินหุ้น DRT สัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นมีโอกาสปรับขึ้น กรอบแนวต้าน 6.90-7.20 บาท
นายไพฑูรย์ กิจสำเร็จ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT เปิดเผยว่า แนวโน้มการเติบโตของรายได้ปีนี้ อาจขยายตัวได้สูงถึง 20% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,108 ล้านบาท จะเป็นการเติบโตจากความต้องการสินค้าในตลาดภูมิภาคที่มีความต้องการสูง ประกอบกับการขยายตัวไปยังตลาดประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ กัมพูชา และลาว ที่มีการขยายตัวของความต้องการสินค้ากระเบื้องและฝาบ้านถึง 100%
ส่งออกพุ่งดันรายได้โตทะลุเป้า
"บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากตลาดภูมิภาค 90% ของยอดขายรวม โดยครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทมีการขยับสัดส่วนการส่งออกไปประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นถึง 100% บริษัทคาดว่าปี 50 สัดส่วนรายได้จากตลาดส่งออกต่างประเทศจะเติบโต 10% จากปีนี้มีสัดส่วนรายได้ 8% นายไพฑูรย์ กล่าว
ทั้งนี้ครึ่งปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวม 1,245.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.40% และมีกำไรสุทธิ 168.99 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 651.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.82% และมีกำไรสุทธิ 91.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.93 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 55.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.09%
รุกขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง จะเน้นขยายตลาดในตลาดภูมิภาคต่อเนื่อง โดยขายผ่านตัวแทนจำหน่าย 600 ราย และรุกขยายไปยังตลาดต่างประเทศที่เป็นลูกค้าเก่า อาทิ ลาวและกัมพูชา จีน พม่า เกาหลีใต้ ไต้หวัน และมีแผนจะรุกไปยังตลาดในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตามบริษัทจะต้องรอให้แผนการขยายกำลังการผลิตแล้วเสร็จ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ก่อนจึงจะรุกไปยังตะวันออกกลางได้
นายไพฑูรย์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้บริษัทกำลังดำเนินการติดตั้งสายการผลิตที่ 8 รองรับตลาดประเภทไม้ฝาสังเคราะห์ ติดตั้งไปแล้ว 80% คาดว่าจะแล้วเสร็จ และเดินเครื่องการผลิตได้ในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 42,000 ตันต่อปี เบื้องต้นคาดว่าจะสร้างรายได้ให้บริษัท 50 ล้านบาท ในปีนี้ และเพิ่มเป็น 300 ล้านบาท ในปีหน้า ขณะที่การติดตั้งสายการผลิตกระเบื้องคอนกรีต CT5 เป็นสายการผลิตกระเบื้องคอนกรีตใหม่ล่าสุด ได้เริ่มเดินเครื่องการผลิตแล้วเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยกำลังการผลิต 45,000 ตันต่อปี เร่งแผนลดต้นทุนผลิตลง10%นอกจากนี้บริษัทยังคงดำเนินการด้านการลดต้นทุนการผลิต โดยเริ่มจากการเปลี่ยนใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงาน ในการผลิตแทนน้ำมันดีเซล จะทำให้บริษัทลดต้นทุนการผลิตได้ 10% จะเริ่มดำเนินการเปลี่ยนพลังงานที่ใช้การผลิตในเดือนตุลาคม โดยใช้เงินลงทุนในการเปลี่ยนพลังงาน 7 ล้านบาท และประเมินว่าใช้เวลาประมาณ 1 ปี ในการคืนทุน
"เราตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าจะมีการเติบโตในทุกๆด้าน 10% ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาก็โตได้มากกว่าเป้าหมายแล้ว ในครึ่งปีหลังมีความเป็นไปได้ว่า จะมีการเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่กำหนด เนื่องจากความต้องการในตลาดภูมิภาคและต่างประเทศขยายตัวต่อเนื่อง"
สำหรับปัญหาการเมืองที่หลายฝ่ายมองว่าเป็นตัวทำให้ภาคอสังหาฯซบเซานั้น มองว่า ตลาดอสังหาฯในต่างจังหวัดไม่ได้อิงกับการเมืองเป็นหลัก แต่จะเกี่ยวเนื่องกับอัตราดอกเบี้ยมากกว่า และที่ผ่านมาบริษัทก็ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวแต่อย่างใด และหากสถานการณ์ในประเทศไม่ดี บริษัทก็จะมีรายได้จากต่างประเทศเป็นตัวผลักดันผลประกอบการได้ "
นายไพฑูรย์กล่าวต่อว่า ในช่วงปลายเดือนนี้ บริษัทจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัท และจะมีการพิจารณาการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยที่ผ่านมาในอดีต บริษัทมีการจ่ายปันผล 2 ครั้งต่อปีมาโดยตลอด และในปี 2548 บริษัทมีการจ่ายปันผล 0.60 บาทต่อหุ้นเป็นปันผลระหว่างกาล และจ่ายอีก 0.40 บาทในปลายปี รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 1 บาทต่อหุ้น
เทคนิคปรับขึ้นแนวต้าน6.90-7.20 บ.
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.สินเอเชีย ประเมินการลงทุนระยะสั้น หุ้น DRT ตามสัญญาณทางเทคนิคมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย โดยประเมินแนวต้าน 6.80 บาท และประเมินแนวรับ 6.50 บาท แนะเก็งกำไรระยะสั้นเท่านั้น เนื่องจากการซื้อขายที่ผ่านมาหุ้น DRT มีสภาพคล่องในการซื้อขายค่อนข้างน้อย
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขายของราคาหุ้น DRT ถือว่ามีสภาพคล่องน้อย อีกทั้งปริมาณการซื้อขายต่ำ ดังนั้นโอกาสการแกว่งตัวของราคาหุ้นแรงมีความเป็นไปได้สูง ทั้งนี้สัญญาณทางเทคนิคระยะสั้นยังมีโอกาสขึ้นในกรอบแนวต้าน 6.90-7.20 บาท และแนวรับ 6.50-6.40 บาท แนะระมัดระวังการลงทุนลักษณะการเข้าเก็งกำไร
จากคุณ : samsam - [ 17 ส.ค. 49 08:21:44 ]
-
- Verified User
- โพสต์: 6853
- ผู้ติดตาม: 0
หลังจากไป company visit บ.กระเบื้องหลังคาตราเพชร (DRT)
โพสต์ที่ 14
ถ้ารุกไปขายได้ต้องขายราคาแพงมากมากนะคับอย่างไรก็ตามบริษัทจะต้องรอให้แผนการขยายกำลังการผลิตแล้วเสร็จ ในช่วงไตรมาสที่ 4 ปีนี้ก่อนจึงจะรุกไปยังตะวันออกกลางได้
เพราะเราซื้อน้ำมันดิบจากเขามาแพง
เอากำไรคืนมาให้ได้นะคับ
เอากำลังใจช่วย