ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 1
ตามสถาบันการศึกษาหลักๆก็บอกว่าเกือบร้อยเปอร์เซนต์
ฟังที่ดร.พูดในงานสัมนาก็มีข้อมูลงานวิจัยของฝรั่งบอกว่ามีมากถึง 95-99%
แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะสูงขนาดนั้น อาจจะต่ำกว่า 50% เสียด้วยซ้ำ ผมไม่มีข้อมูลหลักฐานงานวิจัยยืนยัน มีแต่เพียงความรู้สึกและเหตุผลบางประการเท่านั้นเอง
ก่อนที่จะคุยกันต่อ ผมขอทบทวนนิยามของคำว่า ตลาดมีประสิทธิภาพ ก่อนนะครับ เพื่อจะได้เป็นที่ตกลงกันและเข้าใจตรงกันในขั้นต้นเสียก่อน
นักวิชาการกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่มากและใหญ่จนเกือบจะกินปริมาณของนักวิชาการทั้งหมด(ไม่รวมกลุ่มที่เชื่อมั่นในแนวทาง VI) บอกว่า
ราคาหุ้นแต่ละตัวนั้น ได้สะท้อนข้อดีข้อเสียจากข่าวสารหรือสิ่งอื่นๆมาหมดแล้ว คนที่ว่าดีก็จะซื้อส่วนคนที่ว่าแย่ก็จะขาย ดังนั้น ณ.เวลานั้นๆ ราคานั้นๆจึงเหมาะสมแล้ว ซึ่งแปลว่า ตลาดมีประสิทธิภาพและใครๆก็ไม่สามารถทำกำไรได้มากๆจากการวิเคราะห์หรือจากการกระทำใดๆ ถ้าอยากจะได้กำไรมากๆ คุณก็จะต้องยอมรับความเสี่ยงที่มากตามไปด้วยโดยไปเล่นหุ้นที่เบต้าสูงๆ
เราจะคุยกันภายใต้นิยามว่าอย่างนี้นะครับถ้าเปลี่ยนนิยามใหม่ก็คงต้องคุยกันใหม่
ฟังที่ดร.พูดในงานสัมนาก็มีข้อมูลงานวิจัยของฝรั่งบอกว่ามีมากถึง 95-99%
แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะสูงขนาดนั้น อาจจะต่ำกว่า 50% เสียด้วยซ้ำ ผมไม่มีข้อมูลหลักฐานงานวิจัยยืนยัน มีแต่เพียงความรู้สึกและเหตุผลบางประการเท่านั้นเอง
ก่อนที่จะคุยกันต่อ ผมขอทบทวนนิยามของคำว่า ตลาดมีประสิทธิภาพ ก่อนนะครับ เพื่อจะได้เป็นที่ตกลงกันและเข้าใจตรงกันในขั้นต้นเสียก่อน
นักวิชาการกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่มากและใหญ่จนเกือบจะกินปริมาณของนักวิชาการทั้งหมด(ไม่รวมกลุ่มที่เชื่อมั่นในแนวทาง VI) บอกว่า
ราคาหุ้นแต่ละตัวนั้น ได้สะท้อนข้อดีข้อเสียจากข่าวสารหรือสิ่งอื่นๆมาหมดแล้ว คนที่ว่าดีก็จะซื้อส่วนคนที่ว่าแย่ก็จะขาย ดังนั้น ณ.เวลานั้นๆ ราคานั้นๆจึงเหมาะสมแล้ว ซึ่งแปลว่า ตลาดมีประสิทธิภาพและใครๆก็ไม่สามารถทำกำไรได้มากๆจากการวิเคราะห์หรือจากการกระทำใดๆ ถ้าอยากจะได้กำไรมากๆ คุณก็จะต้องยอมรับความเสี่ยงที่มากตามไปด้วยโดยไปเล่นหุ้นที่เบต้าสูงๆ
เราจะคุยกันภายใต้นิยามว่าอย่างนี้นะครับถ้าเปลี่ยนนิยามใหม่ก็คงต้องคุยกันใหม่
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 2
ในเบื้องต้นก็เป็นที่ทราบกันแล้วว่า นักลงทุน VI บอกว่าไม่เห็นด้วยกับทฤษฎีนี้ และสามารถทำกำไรได้สูงๆโดยที่ความเสี่ยงไม่ได้เพิ่มขึ้นและกลับลดลงด้วยซ้ำ ( โดยใช้ช่องว่าง 1-5%ที่ตลาดไม่มีประสิทธิภาพ )
ผมจะไม่คุยในประเด็นนี้ เพราะผมเองก็เห็นด้วยกับ VI
ที่จะคุยเป็นประเด็นเรื่องปริมาณ ว่าตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่
ผมคิดว่าตลาดมีประสิทธิภาพน้อยกว่า 50 % เสียอีกเพราะว่า
1. ราคาหุ้นในตลาดนั้นไม่ได้ถูกกำหนดโดยจำนวนคน ว่ามีกี่คนเห็นว่าถูกหรือมีกี่คนที่เห็นว่าแพงแล้วมาโหวตกันเป็นราคาหุ้น ( จำนวนคนฝั่งไหนมากกว่าฝั่งนั้นก็ชนะไป ) แต่ถูกกำหนดด้วยจำนวนเงินต่างหาก คนหนึ่งคนก็สามารถทำราคาชนะคนร้อยคนได้ ถ้าคนๆนั้นมีเงินมากกว่าคนร้อยคนที่ว่า และถ้าหนึ่งคนที่ว่านั้นเป็นฝ่ายคิดผิด ราคาหุ้นนั้นจะสะท้อนข้อมูลข่าวสารตามนิยามได้อย่างไร
2. เมื่อเป็นดังนี้ก็แปลว่าราคาสุดท้ายของวันหรือระหว่างวัน ไม่ได้เกิดจากคำนิยามแต่อย่างไร
3. ราคา ณ.เวลาใดๆก็ตาม ไม่ได้แปลว่าทุกคนที่เกี่ยวข้อง(ทั้งที่มีหุ้นแล้วหรือไม่มี หรือกำลังจะขายหรือกำลังจะซื้อ)เห็นด้วย ซึ่งแปลว่าตลาดมีประสิทธิภาพตามนิยามนี้ผิด เพราะมันไม่จริงนั่นเอง
ผมจะไม่คุยในประเด็นนี้ เพราะผมเองก็เห็นด้วยกับ VI
ที่จะคุยเป็นประเด็นเรื่องปริมาณ ว่าตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่
ผมคิดว่าตลาดมีประสิทธิภาพน้อยกว่า 50 % เสียอีกเพราะว่า
1. ราคาหุ้นในตลาดนั้นไม่ได้ถูกกำหนดโดยจำนวนคน ว่ามีกี่คนเห็นว่าถูกหรือมีกี่คนที่เห็นว่าแพงแล้วมาโหวตกันเป็นราคาหุ้น ( จำนวนคนฝั่งไหนมากกว่าฝั่งนั้นก็ชนะไป ) แต่ถูกกำหนดด้วยจำนวนเงินต่างหาก คนหนึ่งคนก็สามารถทำราคาชนะคนร้อยคนได้ ถ้าคนๆนั้นมีเงินมากกว่าคนร้อยคนที่ว่า และถ้าหนึ่งคนที่ว่านั้นเป็นฝ่ายคิดผิด ราคาหุ้นนั้นจะสะท้อนข้อมูลข่าวสารตามนิยามได้อย่างไร
2. เมื่อเป็นดังนี้ก็แปลว่าราคาสุดท้ายของวันหรือระหว่างวัน ไม่ได้เกิดจากคำนิยามแต่อย่างไร
3. ราคา ณ.เวลาใดๆก็ตาม ไม่ได้แปลว่าทุกคนที่เกี่ยวข้อง(ทั้งที่มีหุ้นแล้วหรือไม่มี หรือกำลังจะขายหรือกำลังจะซื้อ)เห็นด้วย ซึ่งแปลว่าตลาดมีประสิทธิภาพตามนิยามนี้ผิด เพราะมันไม่จริงนั่นเอง
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 3
4. โดยเฉพาะหุ้นที่มีสภาพคล่องน้อยๆ นิยามนี้ยิ่งใช้ไม่ได้ เพราะเป็นความเห็นเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเอง บ่อยครั้งที่เป็นของคนๆเดียว
5. หรือต่อให้มีสภาพคล่องมากมาย ยกตัวอย่าง หุ้น A มีหุ้นอยู่ 1,000 ล้านหุ้น ราคา 100 บาท ในแต่ละวันมีการซื้อขายกัน 50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีสภาพคล่องมากมายสำหรับตลาดเมืองไทยและเป็นจำนวนที่เหลือเฟือมาก
6. ที่ราคา 100 บาทนี้ซึ่งซื้อขายกันมากถึงขนาดนี้ ก็ยังไม่ใช่ความเห็นของคนทั้งหมดอยู่ดี แต่เป็นความเห็นของคนที่ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 5% เท่านั้นเอง ในขณะที่เจ้าของอีก 95% ซึ่งไม่ได้ขายหุ้นนั้น เขาไม่เห็นด้วยกับราคานี้ เขาจึงไม่ขายมันออกมา แต่ความเห็นของเขาไม่ได้มีผลกับราคาหุ้นเลย ความเห็นของเจ้าของ 5% ต่างหากที่กลายเป็นตัวแทนความเห็นของทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามหลักสถิติเช่นเดียวกัน
7. ดังนั้นถ้าตลาดจะมีประสิทธิภาพ การซื้อขายหุ้นจะต้องมากกว่า 50% ของทั้งหมดและต้องมีการกระจายอย่างทั่วถึงด้วยเพื่อไม่ให้เรื่องจำนวนเงินมากหรือน้อยทำให้เกิดการถ่วงน้ำหนักของความเห็น
8. ดังนั้นตามนิยามนี้ ผมจึงว่าตลาดมีประสิทธิภาพน้อยกว่า 50% เสียอีก และเผลอๆจะมากถึง 20 % หรือเปล่าก็ไม่รู้
5. หรือต่อให้มีสภาพคล่องมากมาย ยกตัวอย่าง หุ้น A มีหุ้นอยู่ 1,000 ล้านหุ้น ราคา 100 บาท ในแต่ละวันมีการซื้อขายกัน 50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีสภาพคล่องมากมายสำหรับตลาดเมืองไทยและเป็นจำนวนที่เหลือเฟือมาก
6. ที่ราคา 100 บาทนี้ซึ่งซื้อขายกันมากถึงขนาดนี้ ก็ยังไม่ใช่ความเห็นของคนทั้งหมดอยู่ดี แต่เป็นความเห็นของคนที่ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 5% เท่านั้นเอง ในขณะที่เจ้าของอีก 95% ซึ่งไม่ได้ขายหุ้นนั้น เขาไม่เห็นด้วยกับราคานี้ เขาจึงไม่ขายมันออกมา แต่ความเห็นของเขาไม่ได้มีผลกับราคาหุ้นเลย ความเห็นของเจ้าของ 5% ต่างหากที่กลายเป็นตัวแทนความเห็นของทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามหลักสถิติเช่นเดียวกัน
7. ดังนั้นถ้าตลาดจะมีประสิทธิภาพ การซื้อขายหุ้นจะต้องมากกว่า 50% ของทั้งหมดและต้องมีการกระจายอย่างทั่วถึงด้วยเพื่อไม่ให้เรื่องจำนวนเงินมากหรือน้อยทำให้เกิดการถ่วงน้ำหนักของความเห็น
8. ดังนั้นตามนิยามนี้ ผมจึงว่าตลาดมีประสิทธิภาพน้อยกว่า 50% เสียอีก และเผลอๆจะมากถึง 20 % หรือเปล่าก็ไม่รู้
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- Verified User
- โพสต์: 674
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 4
ถ้านำผลตอนแทนของคนที่เชื่อว่าสามารถทำกำไรเหนือตลาดมารวมกัน (คนที่เชื่อว่าตลาดไม่มีประสิทธิภาพ)
ก็คงจะได้คำตอบออกมาว่าตลาดมีประสิทธิภาพสูงมากล่ะครับ
คนที่ทำผลตอบแทนต่ำกว่าตลาดก็จะบอกว่าดวงไม่ดี
คนที่ทำผลตอบแทนสูงกว่าตลาดก็จะบอกว่าตนเองมีฝีมือ
วอเรน เป็นแค่คนที่ดวงดีมาก ๆ คนหนึ่งตามทฤษฎีของตลาดที่มีประสิทธิภาพครับ
แต่ผมเองก็ไม่เชื่อนะครับ ถ้าเชื่อคงไปซื้อ set index fund หมดแล้ว
ก็คงจะได้คำตอบออกมาว่าตลาดมีประสิทธิภาพสูงมากล่ะครับ
คนที่ทำผลตอบแทนต่ำกว่าตลาดก็จะบอกว่าดวงไม่ดี
คนที่ทำผลตอบแทนสูงกว่าตลาดก็จะบอกว่าตนเองมีฝีมือ
วอเรน เป็นแค่คนที่ดวงดีมาก ๆ คนหนึ่งตามทฤษฎีของตลาดที่มีประสิทธิภาพครับ
แต่ผมเองก็ไม่เชื่อนะครับ ถ้าเชื่อคงไปซื้อ set index fund หมดแล้ว
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 5
เป็นเรื่องแปลกที่คนอย่าง Bill Miller ที่ตัวเอง beat ตลาดติดต่อกัน 15 ปีซ้อนกลับเป็นคนที่มุมมองเอนเอียงไปในทางที่เชื่อว่าตลาดมีประสิทธิภาพ
Bill Miller บอกว่า ตลาดไม่ได้ถึงกับมีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ตลาดมีประสิทธิภาพสูง (อาจถึง 90%) หลักฐานที่เห็นได้ชัดก็คือ มีคนจำนวนน้อยมากๆ ที่สามารถเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว
แต่เขาบอกว่าคำว่าตลาดมีประสิทธิภาพนั้นไม่ได้แปลว่าราคาหุ้นจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงตลอดเวลาแต่หมายถึงราคาตลาดจะซึมซับข่าวอย่างรวดเร็ว เร็วจนไม่มีทางชนะตลาดได้โดยใช้ข่าว (Informationally efficient) ฉะนั้นเรายังสามารถเอาชนะตลาดได้ถ้าหาก "การตีความ" ข่าวของเรานั้นแม่นยำกว่าทำได้ดีกว่าของตลาด ตลาด"เร็ว"จริงแต่ตลาดไม่ค่อย"แม่น"ครับ
ผมว่าคำถามเรื่องประสิทธิภาพของตลาดนั้นไม่ใช่คำถามที่มีคำตอบแบบ Yes/No ประสิทธิภาพของตลาดนั้นจะมีอยู่ระดับหนึ่งเสมอ ไม่ใช่ 0% และไม่ใช่ 100% ถ้าเป็นยุคหุ้น 250 จุด อันนี้ผมว่าตลาดมีประสิทธิภาพต่ำมาก เพราะยุคนั้นผู้คนละทิ้งตลาดไปหมด แต่ถ้าเป็นยุคนี้ที่มีนักวิเคราะห์เกาะติดหุ้น PTT นับ 20 คน มือสมัครเล่นอีกกว่า 1000 คน ตลาดน่าจะมีประสิทธิภาพค่อนข้างสูงทีเดียว เพียงแต่ไม่ถึงกับ 100%
Bill Miller บอกว่า ตลาดไม่ได้ถึงกับมีประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ตลาดมีประสิทธิภาพสูง (อาจถึง 90%) หลักฐานที่เห็นได้ชัดก็คือ มีคนจำนวนน้อยมากๆ ที่สามารถเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว
แต่เขาบอกว่าคำว่าตลาดมีประสิทธิภาพนั้นไม่ได้แปลว่าราคาหุ้นจะสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงตลอดเวลาแต่หมายถึงราคาตลาดจะซึมซับข่าวอย่างรวดเร็ว เร็วจนไม่มีทางชนะตลาดได้โดยใช้ข่าว (Informationally efficient) ฉะนั้นเรายังสามารถเอาชนะตลาดได้ถ้าหาก "การตีความ" ข่าวของเรานั้นแม่นยำกว่าทำได้ดีกว่าของตลาด ตลาด"เร็ว"จริงแต่ตลาดไม่ค่อย"แม่น"ครับ
ผมว่าคำถามเรื่องประสิทธิภาพของตลาดนั้นไม่ใช่คำถามที่มีคำตอบแบบ Yes/No ประสิทธิภาพของตลาดนั้นจะมีอยู่ระดับหนึ่งเสมอ ไม่ใช่ 0% และไม่ใช่ 100% ถ้าเป็นยุคหุ้น 250 จุด อันนี้ผมว่าตลาดมีประสิทธิภาพต่ำมาก เพราะยุคนั้นผู้คนละทิ้งตลาดไปหมด แต่ถ้าเป็นยุคนี้ที่มีนักวิเคราะห์เกาะติดหุ้น PTT นับ 20 คน มือสมัครเล่นอีกกว่า 1000 คน ตลาดน่าจะมีประสิทธิภาพค่อนข้างสูงทีเดียว เพียงแต่ไม่ถึงกับ 100%
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- worapong
- Verified User
- โพสต์: 929
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 6
วอร์เรนเคยบอกว่า ตลอดเวลา 50 ปีที่ผ่านมา มีเวลาที่น่าลงทุน 40ปี และมีเวลาที่ไม่น่าลงทุน 10ปี (ตัวเลขคงราวๆนี้นะครับ) นั่นคือในหลายช่วงเวลาที่มีหุ้นบางตัวมีราคาถูกกว่ามูลค่าที่แท้จริง แต่บางช่วงก็ไม่มีหรืออาจถูกไม่มากพอ ผมคิดว่าเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่พอจะหาหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงได้ครับ
เรื่องตลาดมีประสิทธิภาพนั้น ผมคิดว่าเมืองไทยเรานั้น ตลาดมีประสิทธิภาพต่ำกว่าอเมริกา เพราะมีหุ้นอีกหลายตัวเลยที่ไม่มีคนสนใจวิเคราะห์ ซึ่งทำให้มันมีราคาไม่เหมาะสมกับมูลค่า และเมื่อดูจากผลตอบแทนในช่วง10ปีที่ผ่านมาก็ยิ่งแน่ใจว่าตลาดไร้ประสิทธิภาพ ไม่งั้นวีไอบางคน(ที่เก่งมากๆ)จะได้ผลตอบแทนทบต้นปีละ50%ได้อย่างไร
เรื่องตลาดมีประสิทธิภาพนั้น ผมคิดว่าเมืองไทยเรานั้น ตลาดมีประสิทธิภาพต่ำกว่าอเมริกา เพราะมีหุ้นอีกหลายตัวเลยที่ไม่มีคนสนใจวิเคราะห์ ซึ่งทำให้มันมีราคาไม่เหมาะสมกับมูลค่า และเมื่อดูจากผลตอบแทนในช่วง10ปีที่ผ่านมาก็ยิ่งแน่ใจว่าตลาดไร้ประสิทธิภาพ ไม่งั้นวีไอบางคน(ที่เก่งมากๆ)จะได้ผลตอบแทนทบต้นปีละ50%ได้อย่างไร
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
circle of competence
waiting for the perfect pitch
- jody4003
- Verified User
- โพสต์: 372
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 7
ผมไม่รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่คำนวนได้ว่ากี่เปอร์เซ็นต์ ทุกคนไม่ได้ทำvaluationหลักทรัพย์หนึ่งๆบนพื้นฐานเดียวกัน
นักลงทุนรายย่อย ก็ประเมินจากผลตอบแทนของหลักทรัพย์นั้นๆ
หรือ temasek ซื้อ Shin ก็(อาจจะ)ไม่ได้ประเมิน return จาก Advanc อย่างเดียว หากแต่ประเมินจาก synergy ที่จะส่งผมบวกไปสู่ SingTel ใน Singapore ในฐานะ partner
ดังนั้น ผมเองก็ไม่เชื่อว่า market efficiency มันจะเกี่ยวอะไรด้วยในหลักการลงทุน ยิ่งบอกว่า ลงทุนราคาใดก็คือราคายุติธรรม ดูเหมือนว่ายิ่งเป็นการ mislead คนที่อ่านคร่าวๆไปกันใหญ่
แต่ผมว่ามันก็ไม่ได้ผิดซะทีเดียว นี่อาจจะเป็นเพียงตัววัดว่า ตลาดมีการกระจายข่าวได้เร็วและทั่วถึงขนาดไหนเท่านั้น
นักลงทุนรายย่อย ก็ประเมินจากผลตอบแทนของหลักทรัพย์นั้นๆ
หรือ temasek ซื้อ Shin ก็(อาจจะ)ไม่ได้ประเมิน return จาก Advanc อย่างเดียว หากแต่ประเมินจาก synergy ที่จะส่งผมบวกไปสู่ SingTel ใน Singapore ในฐานะ partner
ดังนั้น ผมเองก็ไม่เชื่อว่า market efficiency มันจะเกี่ยวอะไรด้วยในหลักการลงทุน ยิ่งบอกว่า ลงทุนราคาใดก็คือราคายุติธรรม ดูเหมือนว่ายิ่งเป็นการ mislead คนที่อ่านคร่าวๆไปกันใหญ่
แต่ผมว่ามันก็ไม่ได้ผิดซะทีเดียว นี่อาจจะเป็นเพียงตัววัดว่า ตลาดมีการกระจายข่าวได้เร็วและทั่วถึงขนาดไหนเท่านั้น
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 8
จะเอาแล้วหรือครับคุณ worapong ผมกะว่าจะรอตลาด "ท้องเสีย" อีกสักหนหนึ่ง :roll:worapong เขียน:ผมคิดว่าเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่พอจะหาหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงได้ครับ
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1250
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 9
ผมว่าตลาดเหมือน คนอ่ะ
มีอารมณ์ แต่ ก็มีประสิทธิภาพ เท่าไหร่ ไม่รู้ เวลาทำงานก็ทำเวลา งอแงก็ งอแง
ทั้ง Vi และ Vs ก็ใช้แนวต่างกัน ใช้ประโยชน์จากทั้งประสิทธิภาพแล้วก็อารมณ์ แต่ก็เห็นมีกำไรทั้งคู่ วัดกัน ตำแหน่ง/ตำแหน่ง
ก็เฉือนกันไม่ลง ต่างคนต่างเป็น ปรมาจารย์ที่ตัวเอง ถนัด
ทั้ง ดร.น กับ หมอฟัน
หรือ คนขายส้มตำ กับ พี่สุมาอี้
มีอารมณ์ แต่ ก็มีประสิทธิภาพ เท่าไหร่ ไม่รู้ เวลาทำงานก็ทำเวลา งอแงก็ งอแง
ทั้ง Vi และ Vs ก็ใช้แนวต่างกัน ใช้ประโยชน์จากทั้งประสิทธิภาพแล้วก็อารมณ์ แต่ก็เห็นมีกำไรทั้งคู่ วัดกัน ตำแหน่ง/ตำแหน่ง
ก็เฉือนกันไม่ลง ต่างคนต่างเป็น ปรมาจารย์ที่ตัวเอง ถนัด
ทั้ง ดร.น กับ หมอฟัน
หรือ คนขายส้มตำ กับ พี่สุมาอี้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 10
ผมเชื่อว่าตลาด มีประสิทธิภาพครับ แต่เป็น weak form
หมายถึงราคามักมีผลมาจากข่าว
แต่ข่าวนั้นเป็นเช่น ว่าผลประกอบการดี ->ราคาหุ้นขึ้น
ผลประกอบการแย่ ->หุ้นตก
ถ้าไม่มีข่าวเลย ก็หมายถึง เราก็ไม่รู้ผลประกอบการเลย เราจะซื้อหุ้นได้ยังไงครับ
VI ก็เป็นmarket efficient แบบหนึ่งคือ พอเรารู้ว่าผลประกอบการดีเราก็ซื้อหุ้นไงครับ
แสดงว่าเรา react ตามข่าว แต่ข่าวของเราเป็นinfo ที่เราได้มาก่อนถ้าเราทำการบ้านมา
เราก็เลยซื้อทีหุ้นที่ราคาแพงกว่าก่อนที่เราจะรู้ข่าวดีครับ
แต่ถ้าตีความหมายว่าตลาดจะตีราคาถูกทุกครั้งหรือไม่
ผมตอบได้เลยว่าไม่ ก็คือตลาด efficient แต่ไม่ 100% ครับ
หมายถึงราคามักมีผลมาจากข่าว
แต่ข่าวนั้นเป็นเช่น ว่าผลประกอบการดี ->ราคาหุ้นขึ้น
ผลประกอบการแย่ ->หุ้นตก
ถ้าไม่มีข่าวเลย ก็หมายถึง เราก็ไม่รู้ผลประกอบการเลย เราจะซื้อหุ้นได้ยังไงครับ
VI ก็เป็นmarket efficient แบบหนึ่งคือ พอเรารู้ว่าผลประกอบการดีเราก็ซื้อหุ้นไงครับ
แสดงว่าเรา react ตามข่าว แต่ข่าวของเราเป็นinfo ที่เราได้มาก่อนถ้าเราทำการบ้านมา
เราก็เลยซื้อทีหุ้นที่ราคาแพงกว่าก่อนที่เราจะรู้ข่าวดีครับ
แต่ถ้าตีความหมายว่าตลาดจะตีราคาถูกทุกครั้งหรือไม่
ผมตอบได้เลยว่าไม่ ก็คือตลาด efficient แต่ไม่ 100% ครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 11
แล้วคนที่ไม่ซื้อไม่ขาย แต่ถืออยู่แล้ว คิดว่ายังไงครับสามัญชน เขียน: ราคาหุ้นแต่ละตัวนั้น ได้สะท้อนข้อดีข้อเสียจากข่าวสารหรือสิ่งอื่นๆมาหมดแล้ว คนที่ว่าดีก็จะซื้อส่วนคนที่ว่าแย่ก็จะขาย ดังนั้น ณ.เวลานั้นๆ ราคานั้นๆจึงเหมาะสมแล้ว
เราจะคุยกันภายใต้นิยามว่าอย่างนี้นะครับถ้าเปลี่ยนนิยามใหม่ก็คงต้องคุยกันใหม่
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 12
ตรงนี้แหละครับที่ทำให้ความเชื่อเรื่องตลาดมีประสิทธิภาพเกิดคำถามขึ้นมา เพราะคนที่ไม่ขายแปลว่าเขามองว่าราคามันต้องสูงกว่านี้ และถ้ากลุ่มนี้มีมากถึง95% กลุ่มนี้ก็น่าจะเป็นตัวแทนประชากรมากกว่ากลุ่ม 5%ด้วยซ้ำตามข้อ 6.แล้วคนที่ไม่ซื้อไม่ขาย แต่ถืออยู่แล้ว คิดว่ายังไงครับ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 13
ชอบครับจงอย่าปฏิเสธการมีเงิน แต่ก็อย่ามองว่าเงินคือสิ่งสำคัญจนต้องมีมากมาย แต่ก็จงอย่าปฏิเสธการมีเงินมากมาย เพราะมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร 555
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 14
ทฤษฎี EMH เขาบอกว่า ถ้าตลาดมีประสิทธิภาพเราจะเห็นคนส่วนใหญ่ buy and hold พอร์ตที่มีการกระจายอย่างดีครับ เนื่องจากเขาเชื่อว่าเขาไม่อาจเอาชนะตลาดได้ เขาจึงถือหุ้นเหล่านั้นไว้เฉยๆสามัญชน เขียน: ตรงนี้แหละครับที่ทำให้ความเชื่อเรื่องตลาดมีประสิทธิภาพเกิดคำถามขึ้นมา เพราะคนที่ไม่ขายแปลว่าเขามองว่าราคามันต้องสูงกว่านี้ และถ้ากลุ่มนี้มีมากถึง95% กลุ่มนี้ก็น่าจะเป็นตัวแทนประชากรมากกว่ากลุ่ม 5%ด้วยซ้ำตามข้อ 6.
ตลาดที่มีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นหรือตลาดอย่างอื่น ราคาที่ซื้อขายกันนั้นมิใช่ราคาที่ผู้ซื้อหรือผู้บริโภคทุกคนเห็นว่าเป็นมูลค่าที่เหมาะสม แต่เป็นราคาที่ marginal buyer คนเดียวเท่านั้นที่เห็นว่าเป็นมูลค่าที่เหมาะสม
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 208
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 15
ผมว่าตลาดมีประสิทธิภาพในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน ยกตัวอย่างเช่น
- ใครจะไปรู้ว่า ptt จะขึ้นจาก 35 บาทเป็น 240-260 บาท ถ้าตลาดมีประสิทธิภาพจริง คนที่ซื้อ ptt ตอนแรกคงกอดไม่มีปล่อยแล้ว
- ใครจะไปรู้นอกจากเจ้ามือว่าหุ้นปั่นมันจะขึ้นหรือลง
- หุ้นมักจะมีราคาเปลี่ยนแปลงตอนประกาศงบไตรมาสล่าสุด ถ้าตลาดมีประสิทธิภาพจริง ราคาน่าจะมาก่อนที่จะประกาศงบด้วยซ้ำ
ดังนั้นตลาดจะไม่มีประสิทธิภาพระยะยาว ฟันธง :lol:
- ใครจะไปรู้ว่า ptt จะขึ้นจาก 35 บาทเป็น 240-260 บาท ถ้าตลาดมีประสิทธิภาพจริง คนที่ซื้อ ptt ตอนแรกคงกอดไม่มีปล่อยแล้ว
- ใครจะไปรู้นอกจากเจ้ามือว่าหุ้นปั่นมันจะขึ้นหรือลง
- หุ้นมักจะมีราคาเปลี่ยนแปลงตอนประกาศงบไตรมาสล่าสุด ถ้าตลาดมีประสิทธิภาพจริง ราคาน่าจะมาก่อนที่จะประกาศงบด้วยซ้ำ
ดังนั้นตลาดจะไม่มีประสิทธิภาพระยะยาว ฟันธง :lol:
ตลาดหุ้นให้โอกาสกับคนโง่ๆเสมอ
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 16
ตลาดมีประสิทธิภาพครับ เมื่อมองด้วยช่วงระยะเวลาที่ยาวพอ
ตลาดไม่มีประสิทธิภาพเลยในระยะสั้น
ถ้าคนถือหุ้นยาวไม่เชื่อว่าตลาดมีประสิธิภาพในระยะยาว อย่าถือหุ้นในระยะยาว เพราะราคาสามารถต่ำกว่าราคาที่ซื้อเมื่อหลายปีก่อน ทั้งที่ผลประกอบการดีต่อเนื่องมาโดยตลอด
WG ถ้าผมจำไม่ผิด สมัยราคา 23 บาท PE อยู่ที่ 5 เท่า ตอนนี้ตลาดให้ PE เพิ่ม 50% มาอยู่ที่ 7.xx เท่า
ถ้าไม่เชื่อเรื่องตลาดมีประสิทธิภาพในระยะยาว ก็ต้องหันไปหา random walk theory แล้วก็หาวิธีลงทุนตามรูปแบบนั้น
ตลาดไม่มีประสิทธิภาพเลยในระยะสั้น
ถ้าคนถือหุ้นยาวไม่เชื่อว่าตลาดมีประสิธิภาพในระยะยาว อย่าถือหุ้นในระยะยาว เพราะราคาสามารถต่ำกว่าราคาที่ซื้อเมื่อหลายปีก่อน ทั้งที่ผลประกอบการดีต่อเนื่องมาโดยตลอด
WG ถ้าผมจำไม่ผิด สมัยราคา 23 บาท PE อยู่ที่ 5 เท่า ตอนนี้ตลาดให้ PE เพิ่ม 50% มาอยู่ที่ 7.xx เท่า
ถ้าไม่เชื่อเรื่องตลาดมีประสิทธิภาพในระยะยาว ก็ต้องหันไปหา random walk theory แล้วก็หาวิธีลงทุนตามรูปแบบนั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 208
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 17
ถ้าไม่เชื่อเรื่องตลาดมีประสิทธิภาพในระยะยาว ก็ต้องหันไปหา random walk theory แล้วก็หาวิธีลงทุนตามรูปแบบนั้น
ผมหันไปหา warrent buffet ดีกว่า เพราะเค้าบอกว่าถ้าตลาดมีประสิทธิภาพจริง เค้าคงต้องเอากะลาไปขอทานตามถนน
ผมหันไปหา warrent buffet ดีกว่า เพราะเค้าบอกว่าถ้าตลาดมีประสิทธิภาพจริง เค้าคงต้องเอากะลาไปขอทานตามถนน
ตลาดหุ้นให้โอกาสกับคนโง่ๆเสมอ
-
- Verified User
- โพสต์: 1288
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 18
เท่าที่ผมคิดนะคับ พี่หมอสามัญชน เขียน:4. โดยเฉพาะหุ้นที่มีสภาพคล่องน้อยๆ นิยามนี้ยิ่งใช้ไม่ได้ เพราะเป็นความเห็นเพียงไม่กี่คนเท่านั้นเอง บ่อยครั้งที่เป็นของคนๆเดียว
5. หรือต่อให้มีสภาพคล่องมากมาย ยกตัวอย่าง หุ้น A มีหุ้นอยู่ 1,000 ล้านหุ้น ราคา 100 บาท ในแต่ละวันมีการซื้อขายกัน 50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่ามีสภาพคล่องมากมายสำหรับตลาดเมืองไทยและเป็นจำนวนที่เหลือเฟือมาก
6. ที่ราคา 100 บาทนี้ซึ่งซื้อขายกันมากถึงขนาดนี้ ก็ยังไม่ใช่ความเห็นของคนทั้งหมดอยู่ดี แต่เป็นความเห็นของคนที่ถือหุ้นอยู่ทั้งหมด 5% เท่านั้นเอง ในขณะที่เจ้าของอีก 95% ซึ่งไม่ได้ขายหุ้นนั้น เขาไม่เห็นด้วยกับราคานี้ เขาจึงไม่ขายมันออกมา แต่ความเห็นของเขาไม่ได้มีผลกับราคาหุ้นเลย ความเห็นของเจ้าของ 5% ต่างหากที่กลายเป็นตัวแทนความเห็นของทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามหลักสถิติเช่นเดียวกัน
7. ดังนั้นถ้าตลาดจะมีประสิทธิภาพ การซื้อขายหุ้นจะต้องมากกว่า 50% ของทั้งหมดและต้องมีการกระจายอย่างทั่วถึงด้วยเพื่อไม่ให้เรื่องจำนวนเงินมากหรือน้อยทำให้เกิดการถ่วงน้ำหนักของความเห็น
8. ดังนั้นตามนิยามนี้ ผมจึงว่าตลาดมีประสิทธิภาพน้อยกว่า 50% เสียอีก และเผลอๆจะมากถึง 20 % หรือเปล่าก็ไม่รู้
ถ้าเอาตัวเลข 100% ของหุ้นบริษัทหนึ่งๆมา แล้วบอกว่า คนเทรด แค่5%(หรือเท่าไหร่ก็ตามที่ไม่ถึง100) ไม่สะท้อนประสิทธิภาพ ผมว่ามันก็ไม่ถูกในโลกความเป็นจริงนักนะครับ
เพราะนับผู้บริหารหลักๆซึ่งถือหุ้นกันแบบไม่ต้องการขาย ไปด้วย
ซึ่งผมว่า หุ้นคนพวกนี้ ถ้านับรวมไปด้วย ยังไงก็ไม่มีทางมีประสิทธิฺภาพครับ เพราะเจ้าของทุกคน ก็ไม่ได้มาเทรดหุ้นกันทุกคนครับ
จุดต่างไอเดียนี้ คือตรงนี้ล่ะมั้งครับ เท่าที่ผมมองเห็นนะครับ
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 19
สำนักเทมเปิ้ลบ๊อกซิ่ง
จะไม่ถามว่า
"ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์"
แต่จะถามว่า
"ตัวเราเอง มีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์"
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
โพสสนุกๆ คั่นรายการนะครับ
รออ่านแบบเป็นวิชาการกันต่อ
จะไม่ถามว่า
"ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์"
แต่จะถามว่า
"ตัวเราเอง มีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์"
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
โพสสนุกๆ คั่นรายการนะครับ
รออ่านแบบเป็นวิชาการกันต่อ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 20
เฮียคค.ยอดเหมือนเคยครับ
ไม่ต้องไปสนใจตลาด สนใจแต่ตัวเราเองดีกว่า
"ตลาดมีประสิทธิภาพมากหรือน้อย หรือจะสู้ เรามีประสิทธิภาพมากหรือน้อย"
เราสามารถเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์มากๆ ประสิทธิภาพย่อมสูงตามมาด้วย
ตลาดมีประสิทธิภาพแน่นอนครับ แต่ไม่ตลอดเวลา และไม่เป็นกับหุ้นทุกบริษัท และเมื่อใดหุ้นนั้นๆไม่มีคนเข้าใจในข้อมูลพื้นฐานหรือไม่สนใจ ราคาจะไม่สะท้อนข้อมูลนั้นๆ(ของคค.เรโช เขาเรียกว่า ความรู้ไม่ทันความโลภ อิ อิ ใช่เปล่า) แต่บางที่ก็สะท้อนข้อมูลรุนแรงเกินไป จนเห็นราคาหุ้นแซงหน้ามูลค่าอย่างเห้นได้ชัด
สุดท้าย ทำอย่างไรก็ได้ให้ ตัวเรามีประสิทธิภาพสูง ไว้ก่อนเป็นดี
ไม่ต้องไปสนใจตลาด สนใจแต่ตัวเราเองดีกว่า
"ตลาดมีประสิทธิภาพมากหรือน้อย หรือจะสู้ เรามีประสิทธิภาพมากหรือน้อย"
เราสามารถเก็บเกี่ยวความรู้และประสบการณ์มากๆ ประสิทธิภาพย่อมสูงตามมาด้วย
ตลาดมีประสิทธิภาพแน่นอนครับ แต่ไม่ตลอดเวลา และไม่เป็นกับหุ้นทุกบริษัท และเมื่อใดหุ้นนั้นๆไม่มีคนเข้าใจในข้อมูลพื้นฐานหรือไม่สนใจ ราคาจะไม่สะท้อนข้อมูลนั้นๆ(ของคค.เรโช เขาเรียกว่า ความรู้ไม่ทันความโลภ อิ อิ ใช่เปล่า) แต่บางที่ก็สะท้อนข้อมูลรุนแรงเกินไป จนเห็นราคาหุ้นแซงหน้ามูลค่าอย่างเห้นได้ชัด
สุดท้าย ทำอย่างไรก็ได้ให้ ตัวเรามีประสิทธิภาพสูง ไว้ก่อนเป็นดี
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 21
ที่เค้าบอกตลาดมีประสิทธิภาพมากนี่น่าจะหมายถึง ตลาดที่อเมริกานะครับ หรือ developing countries ต่างๆ จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าครับ
ส่วน emerging market ส่วนใหญ่ ประสิทธิภาพต่ำครับ มีหลาย factors ครับที่เห็นๆก็ขนาดของตลาด ยังเล็กไป ถูกลากขึ้นลากลงโดยไม่มีเหตุผลได้ :D หรือ เรื่อง CG ที่ยังมีน้อยอยู่ครับ เรื่องการถือหุ้นในสัดส่วนใหญ่ของทีมบริหารก็มีส่วนเหมือนกันครับ
ส่วน emerging market ส่วนใหญ่ ประสิทธิภาพต่ำครับ มีหลาย factors ครับที่เห็นๆก็ขนาดของตลาด ยังเล็กไป ถูกลากขึ้นลากลงโดยไม่มีเหตุผลได้ :D หรือ เรื่อง CG ที่ยังมีน้อยอยู่ครับ เรื่องการถือหุ้นในสัดส่วนใหญ่ของทีมบริหารก็มีส่วนเหมือนกันครับ
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 22
เคยอ่านว่า
การใช้ model ดังๆ อย่างเช่น capm ในการประเมินราคา ได้แค่ 14% เท่านั้นเอง
(ปล.สำหรับคนเรียนfinance r^2 14%)
ผมเชื่อตลาดมีประสิทธิภาพแบบอ่อนครับ
คือพอมีข้อมูลเพิ่มทำให้ราคาเปลี่ยนไปตามข้อมูล
เพียงแต่ไม่มันได้เป๊ะๆเท่านั้นเอง
เช่นเรารู้ข้อมูลใหม่ก็สามารถประเมินราคาใหม่ได้ อาจจะซื้อเพิ่มหรือ อาจจะชายอะไรอย่างนี้น่ะครับ
การใช้ model ดังๆ อย่างเช่น capm ในการประเมินราคา ได้แค่ 14% เท่านั้นเอง
(ปล.สำหรับคนเรียนfinance r^2 14%)
ผมเชื่อตลาดมีประสิทธิภาพแบบอ่อนครับ
คือพอมีข้อมูลเพิ่มทำให้ราคาเปลี่ยนไปตามข้อมูล
เพียงแต่ไม่มันได้เป๊ะๆเท่านั้นเอง
เช่นเรารู้ข้อมูลใหม่ก็สามารถประเมินราคาใหม่ได้ อาจจะซื้อเพิ่มหรือ อาจจะชายอะไรอย่างนี้น่ะครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 23
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ราคาหุ้นแต่ละตัวนั้น ได้สะท้อนข้อดีข้อเสียจากข่าวสารหรือสิ่งอื่นๆมาหมดแล้ว คนที่ว่าดีก็จะซื้อส่วนคนที่ว่าแย่ก็จะขาย ดังนั้น ณ.เวลานั้นๆ ราคานั้นๆจึงเหมาะสมแล้ว ซึ่งแปลว่า ตลาดมีประสิทธิภาพและใครๆก็ไม่สามารถทำกำไรได้มากๆจากการวิเคราะห์หรือจากการกระทำใดๆ ถ้าอยากจะได้กำไรมากๆ คุณก็จะต้องยอมรับความเสี่ยงที่มากตามไปด้วยโดยไปเล่นหุ้นที่เบต้าสูงๆ
9 % ครับ หุ้นที่มีราคาเหมาะสมกับตลาด ไม่ถูก ไม่แพง ซื้อก็ได้ ขายก็ดี ถือก็ไม่เป็นไร
หุ้นน่าจะขึ้นมากๆ แต่กลับลงอย่างหนัก ทำให้เป็นโอกาสซื้อ มีประมาณ 1 %
หุ้นที่น่าจะลง แล้วก็ลงมาเยอะ แต่ยังไม่เยอะพอที่น่าจะเข้าซื้อ มีประมาณ 50 %
หุ้นน่าจะลงมากๆ แต่กลับขึ้นตลอด อาจจะทำให้นักลงทุนติดดอย มีประมาณ 40 %
-
- Verified User
- โพสต์: 187
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 24
ผมคิดว่าในระยะสั้น ตลาดไม่มีประสิทธิภาพครับ เพราะขึ้นกับอารมณ์มากเกินไป ทั้งโลภ กลัว เซ็ง จ้อง เสียดาย เสียใจ เครียดมากเลยต้องซื้อ ต้องขาย รู้สึกว่าเราไม่ทำอะไรจะเสียโอกาส ฯลฯ ทำให้เกิดโอกาสสำหรับ vi vs
แต่ระยะยาวแล้ว (ประมาณ 2 ปีขึ้นไป /ความเห็นส่วนตัว) ตลาดมีประสิทธิภาพครับ เพราะถ้าบริษัททำกำไรได้ดี ปันผลสูง ราคาหุ้นยังไงต้องขึ้น เพราะถ้าปันผล 8-10 % (กิจการที่ดีพอใช้น่ะครับ) ต้องมีคนเข้ามาเก็บแน่
เช่นหุ้นในเวปนี้หลายตัวที่แม้ราคาจะผันผวนบ้างแต่ระยะยาวแล้ว trend เป็นขาขึ้น เพราะผลประกอบการดี มีปันผล ธุรกิจใช้ได้ ฯลฯ
เหมือนสโลแกนของพี่คนนึงที่ว่า "ระยะสั้นตามข่าว (อารมณ์ การเก็งกำไร ความโลภ ความกลัว) ระยะยาวตามกำไร (ผลประกอบการ/ปันผล/ธุรกิจ)"
เห็นด้วยกับพี่คลายเครียดครับ ว่า ต้องทำให้เรามีประสิทธิภาพมากกว่า ไม่ต้องสนใจตลาดว่ามันมีหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน แต่เราต้องหาประโยชน์จากมัน (Mr.Market) อย่าเป็น Mr.Market ซะเอง "พูดง่าย แต่ก็ทำยากเหมือนกันนะครับ"
แต่ระยะยาวแล้ว (ประมาณ 2 ปีขึ้นไป /ความเห็นส่วนตัว) ตลาดมีประสิทธิภาพครับ เพราะถ้าบริษัททำกำไรได้ดี ปันผลสูง ราคาหุ้นยังไงต้องขึ้น เพราะถ้าปันผล 8-10 % (กิจการที่ดีพอใช้น่ะครับ) ต้องมีคนเข้ามาเก็บแน่
เช่นหุ้นในเวปนี้หลายตัวที่แม้ราคาจะผันผวนบ้างแต่ระยะยาวแล้ว trend เป็นขาขึ้น เพราะผลประกอบการดี มีปันผล ธุรกิจใช้ได้ ฯลฯ
เหมือนสโลแกนของพี่คนนึงที่ว่า "ระยะสั้นตามข่าว (อารมณ์ การเก็งกำไร ความโลภ ความกลัว) ระยะยาวตามกำไร (ผลประกอบการ/ปันผล/ธุรกิจ)"
เห็นด้วยกับพี่คลายเครียดครับ ว่า ต้องทำให้เรามีประสิทธิภาพมากกว่า ไม่ต้องสนใจตลาดว่ามันมีหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน แต่เราต้องหาประโยชน์จากมัน (Mr.Market) อย่าเป็น Mr.Market ซะเอง "พูดง่าย แต่ก็ทำยากเหมือนกันนะครับ"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 25
โค้ด: เลือกทั้งหมด
เห็นด้วยกับพี่คลายเครียดครับ ว่า ต้องทำให้เรามีประสิทธิภาพมากกว่า ไม่ต้องสนใจตลาดว่ามันมีหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน แต่เราต้องหาประโยชน์จากมัน (Mr.Market) อย่าเป็น Mr.Market ซะเอง "พูดง่าย แต่ก็ทำยากเหมือนกันนะครับ"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1735
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 27
คุณเจ๋ง คุณติมซำ ให้ข้อคิดดีมากๆเลยครับ
โดยเฉพาะที่คุณติมซำว่า
ระยะสั้น ให้ตามอารมณ์ตลาด
ระยะยาว ให้ตามผลประกอบการณ์
สำหรับสำนักเทมเปิ้ลบ๊อกซิ่ง
ไม่เคยมีสิ่งที่เรียกว่า MR MARKET อยู๋ในตลาดหุ้น
เพราะเงินที่อำนาจซื้อนำ หรือหุ้นที่อำนาจขายนำ
ไม่ได้ปั่นหุ้น
แต่เขาปั่นความโลภกับความกลัว(mr market)ที่อยู่ในใจคน
ที่แท้นายตลาดก็อยู่ในใจของเราเองนั่นแหละ
:roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll:
โดยเฉพาะที่คุณติมซำว่า
ระยะสั้น ให้ตามอารมณ์ตลาด
ระยะยาว ให้ตามผลประกอบการณ์
สำหรับสำนักเทมเปิ้ลบ๊อกซิ่ง
ไม่เคยมีสิ่งที่เรียกว่า MR MARKET อยู๋ในตลาดหุ้น
เพราะเงินที่อำนาจซื้อนำ หรือหุ้นที่อำนาจขายนำ
ไม่ได้ปั่นหุ้น
แต่เขาปั่นความโลภกับความกลัว(mr market)ที่อยู่ในใจคน
ที่แท้นายตลาดก็อยู่ในใจของเราเองนั่นแหละ
:roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll: :roll:
-
- Verified User
- โพสต์: 46
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 28
ถ้ามองในอีกแง่มุมนึงนะครับ ซึ่งใช้ปัจจัยสำคัญในการพิจารณคือเวลา ราคาซื้อและราคาขาย (หรือโดยส่วนใหญ่สำหรับชาว VI แล้วคือที่ราคาที่เราถืออยู่หลังจากที่ได้ซื้อมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว) นักลงทุนเน้นคุณค่าสามารถทำกำไรจากการที่ตลาด ไม่มีประสิทธิภาพในระยะสั้นนั่นก็คือการเข้าไปซื้อในขณะที่ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าของบริษัท ซึ่งการกระทำนี้ตั้งอยู่ในสมมุติฐานว่า
ตลาดจะมีประสิทธิภาพในระยะยาว และหุ้นที่เราซื้อมาจะสะท้อนคุณค่าที่แท้จรีงของบริษัทออกมา หากตลาดไม่มีประสิทธิภาพแล้ว หลังจากซื้อแล้วเราจะหวังได้อย่างไรครับว่าราคาหุ้นที่ต่ำกว่าคุณค่าที่เราซื้อในวันนี้จะเพิ่มขึ้นสู่ราคาที่สมเหตุสมผล และราคาหุ้นที่สูงเกินไปก็จะต่ำลง ผมคิดว่าหากวอร์เรน บัฟเฟต์ไม่คิดว่า ในระยะยาวแล้วตลาดจะมีประสิทธิภาพ แล้วจะทำให้หุ้นที่เขาซื้อกลับมาอยู่ในราคาที่ควรจะเป็น แทนที่จะอยู่ในราตาที่ถูกตั้งไว้ต่ำอย่างไร้ประสิทธิภาพโดยตลาดในระยะสั้นตลอดไปแล้ว เขาคงไม่ซื้อหุ้นราคาต่ำเหล่านี้หรอกครับ เพราะว่าเขาก็คงบอกไม่ได้เหมือนกันว่าราคาหุ้นจะเป็นอย่างไรหลังจากที่ซื้อ หากตลาดไม่มีประสิทธิภาพ
ตลาดจะมีประสิทธิภาพในระยะยาว และหุ้นที่เราซื้อมาจะสะท้อนคุณค่าที่แท้จรีงของบริษัทออกมา หากตลาดไม่มีประสิทธิภาพแล้ว หลังจากซื้อแล้วเราจะหวังได้อย่างไรครับว่าราคาหุ้นที่ต่ำกว่าคุณค่าที่เราซื้อในวันนี้จะเพิ่มขึ้นสู่ราคาที่สมเหตุสมผล และราคาหุ้นที่สูงเกินไปก็จะต่ำลง ผมคิดว่าหากวอร์เรน บัฟเฟต์ไม่คิดว่า ในระยะยาวแล้วตลาดจะมีประสิทธิภาพ แล้วจะทำให้หุ้นที่เขาซื้อกลับมาอยู่ในราคาที่ควรจะเป็น แทนที่จะอยู่ในราตาที่ถูกตั้งไว้ต่ำอย่างไร้ประสิทธิภาพโดยตลาดในระยะสั้นตลอดไปแล้ว เขาคงไม่ซื้อหุ้นราคาต่ำเหล่านี้หรอกครับ เพราะว่าเขาก็คงบอกไม่ได้เหมือนกันว่าราคาหุ้นจะเป็นอย่างไรหลังจากที่ซื้อ หากตลาดไม่มีประสิทธิภาพ
-
- Verified User
- โพสต์: 1558
- ผู้ติดตาม: 0
ตลาดมีประสิทธิภาพกี่เปอร์เซนต์กันแน่ ?????
โพสต์ที่ 30
ในความคิดผมไม่เชื่อว่าตลาดมีประสิทธิภาพเลยแม้แต่น้อย ราคาที่ซื้อขายมันมันอยู่ที่อารมณ์คนจะให้ ซึ่งผันผวนมาก ยิ่งเวลาที่แย่ที่สุด และดีที่สุดของตลาด จะยิ่งเห็นว่าตลาดไม่มีประสิทธิภาพจริงๆ ที่แหละโอกาสในการทำกำไรอันงดงาม