Update/SE-ED หั่นเป้ารายได้ปีนี้จาก 4 พันลบ.เหลือ 3.6-3.8 พันลบ. เหตุโดนพิษ ศก.ฉุดกำลังซื้อชะลอตัว
บอสใหญ่ SE-ED โอด Net Margin ปีนี้หดเหลือ 4.5-5% จากที่ตั้งเป้า
5.5-6.5%พร้อมหั่นเป้ารายได้รวมลงจาก 4 พันล้านบาท เหลือเพียง 3.6 - 3.8
พันล้านบาท หลังโดนพิษเศรษฐกิจฉุดกำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัว ยันจ่ายปันผลได้ไม่
ต่ำกว่า 0.10 บาท/หุ้นทุกไตรมาส เหตุธุรกิจแกร่ง-เงินสดล้นมือ พร้อมวางเป้าเป็น
หุ้นปันผล ระบุให้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 7-8% ต่อปี
นายทนง โชติสรยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีเอ็ดยูเคชั่น (SE-ED) กล่าวว่า
บริษัทฯได้ปรับลดประมาณการรายได้ปีนี้จาก 4,000 ล้านบาท เหลือเพียง3,600-3,800 ล้าน
บาท เติบโต 8 - 12% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้ 3,391.13ล้านบาท ขณะเดียวกันได้ปรับลด
อัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) จากที่ตั้งเป้าไว้ 5.5-6.5% เหลือเพียง 4.5-5% เนื่องจากได้รับ
ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทำให้กำลังซื้อชะลอตัว โดยมั่นใจว่าหลังจากปรับลดประมาณการดัง
กล่าวจะมีรายได้ตามเป้าได้ เนื่องจากครึ่งปีแรกมีรายได้แล้ว 1,780.80 ล้านบาท
'ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมามีการลงทุนมาตลอดประมาณ 40 กว่าล้านบาท โดยการลงทุนนี้
ยังไม่สามารถรับรู้รายได้และกำไรกลับคืนมาได้เต็มที่ จึงทำให้ Net Margin ลดลง แต่เชื่อว่า
หลังจากนี้มีการลงทุนหลายอย่างเพื่อลดต้นทุน ฉะนั้น Net Margin น่าดีขึ้น' นายทนง กล่าว
ทั้งนี้ ยังมีแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ non-book ให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัด
ส่วนเพียง 1% โดยล่าสุดบริษัทได้ผลิตและวางจำหน่ายเสื้อนาโน ในงานฉลองครองสิริราชสมบัติ
ครบ 60 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งถือว่ามียอดจองเข้ามาตามเป้าที่ 1.4 แสนตัว ซึ่งถือ
เป็นสัญญาณที่ดี ในการขยายสัดส่วนรายได้จาก non-book ให้เพิ่มขึ้น โดยยังมีการเปิดสาขาซี
เอ็ด ในแฟชั่น ไอซ์แลนด์ เพื่อรองรับ non-book อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งน่าจะทำให้สัดส่วนรายได้
เพิ่มขึ้นอย่างเด่นชัด
อย่างไรก็ดี ยืนยันที่จะจ่ายปันผลให้กับนักลงทุนไม่ต่ำกว่า 0.10 บาท/หุ้นในทุกไตร
มาส เนื่องจากสภาพคล่องมีจำนวนมาก และปัจจุบันมีกระแสเงินสดอยู่ในมือเป็นหลักร้อยล้าน
บาท นอกจากนี้ยังตั้งเป้าผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) ให้ได้ 20% ต่อปี ขณะเดียวกันยังตั้ง
เป้าผลตอบแทนจากทุน (ROE) ไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปี โดยที่ผ่านมาก็ทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
ตลอด ซึ่งมั่นใจว่าในปีนี้จะทำได้เช่นกัน
โดยบริษัทฯวางเป้าหุ้น SE-ED บนกระดานเป็นหุ้นปันผล (Dividend Stock) และ
เป็นหุ้นที่มีอัตราการเติบโต (Growth Stock) โดยจะมีการให้ผลตอบแทนจากเงินปันผล 7-8%
ต่อปี ทั้งนี้ในฐานะผู้บริหารพอใจกับราคาหุ้นที่ซื้อขายบนกระดานในปัจจุบัน เนื่องจากการสำรวจ
ล่าสุดของหน่วยงานทางตลาดหลักทรัพย์ SE-ED อยู่ที่อันดับ 38 ของบริษัทฯที่ให้ผลตอบแทนสูง
สุดของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และเป็นอันดับหนึ่ง ของบริษัทที่ให้ผลตอบแทนสูง
สุดในกลุ่มสื่อสิ่งพิมพ์
'ปันผลเราจะพยายามจ่ายให้ได้ ไม่ต่ำกว่า 0.10 บาท/หุ้น ในทุกไตรมาส ซึ่งในส่วน
ไตรมาส 4 อาจจะมีการจ่ายมากกว่าไตรมาสอื่น หากผลประกอบการออกมาดี'นายทนง กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจหนังสืออันดับ 1 ด้วยสัด
ส่วน 20-30% ของมูลค่าตลาดรวมที่ 10,000 กว่าล้านบาทโดยแม้จะมีผู้ประกอบการรายใหม่
เพิ่มเข้ามา แต่จากการขยายสาขาทั่วประเทศต่อเนื่อง ทำให้ SE-ED ยังรักษามาร์เก็ตแชร์
อันดับ 1 ได้
สำหรับการขยายสาขาในปีนี้ มีแผนเปิดสาขาเพิ่ม 30-40 แห่ง โดยจะเน้นกระจายใน
ต่างจังหวัด แถบหัวเมืองใหญ่เป็นหลัก โดยตั้งแต่ต้นปีได้ทยอยเปิดไปแล้ว 13 สาขา และทยอย
เปิดเพิ่มให้ได้ตามเป้า โดยมั่นใจว่าในสิ้นปีนี้จะมีสาขาครบ 240 แห่ง เพิ่มจากปีก่อนที่มีสาขา
200 แห่ง โดยใช้งบลงทุนในการก่อสร้างประมาณ 1.5 ล้านบาท/สาขา ซึ่งมาจากกระแสเงินสด
ของบริษัทเป็นหลัก
ส่วนตลาดหนังสือรวมในปีนี้ คาดการณ์ตลาดหนังสือโดยรวมในปีนี้ยังเติบโต 8-10%
โดยแม้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่ก็มีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนุนให้
ภาพรวมของธุรกิจขยายตัว
นายทนง กล่าวว่า บริษัทฯ ยังไม่ตั้งเป้าผลการดำเนินงานในปี 2550 ไว้ชัดเจนมากนัก
เนื่องจากต้องรอประเมินสถานการณ์หลายด้านที่มีผลต่อกำลังซื้อผู้บริโภคแต่ยอมรับว่าหาก
สถานการณ์ทางการเมืองยังไม่มีความชัดเจนเช่นในปัจจุบันอาจทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัว
ลงและย่อมกระทบกับผลการดำเนินงานปีหน้าให้ลดลงจากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่3.6-3.8
พันล้านบาท
ทั้งนี้ยืนยันว่าบริษัทฯ ยังไม่มีนโยบายเพิ่มทุนในเวลาอันใกล้นี้เนื่องจากปัจจุบันมี
กระแสเงินสด (Cash Flow) หลักร้อยล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการลงทุนและดำเนินธุรกิจใน
อนาคต
'เรายังไม่มีแผนเพิ่มทุน เพราะฉะนั้นก็ยังไม่มีแผนโรดโชว์ ตอนนี้เงินในมือเรายัง
เหลืออยู่มาก เพียงพอต่อการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มเติม'นายทนง กล่าว
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ จะเริ่มใช้สารสนเทศการจัดการรูปแบบใหม่ ซึ่งจะสามารถดึง
ข้อมูลจากฐาน ข้อมูลบัญชี และคลังสินค้าเข้าไว้ด้วยกันรวมถึงสามารถออนไลน์ระหว่างสาขาได้
ทันที ซึ่งระบบสารสนเทศภายในองค์กรดังกล่าวจะทำให้บริษัทสามารถลดต้นทุนในการดำเนิน
งานได้ถึง 30%
นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2550 บริษัทฯจะเปิดบริการสั่งซื้อหนังสือออนไลน์ ผ่าน
ทางเวปไซต์ www.se-ed.com อย่างเต็มรูปแบบ โดยจะเป็นการให้บริการค้นหาหนังสือ และสั่ง
ซื้อหนังสือได้โดยไม่ต้องมาใช้บริการที่ร้านและจะมีการจัดส่งหนังสือที่ต้องการไม่เกิน 3 วันซึ่ง
ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบ โดยวางเป้ามีรายได้จากบริการดังกล่าวในปีแรกประมาณ
100 ล้านบาท