ถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่าเล่นหุ้น แบบไหน
- maeteeb
- Verified User
- โพสต์: 783
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่าเล่นหุ้น แบบไหน
โพสต์ที่ 1
คืออยากถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่า
คิดว่าการเล่นหุ้นมีค่ายอธรรมและธรรมมะไหม
คือประมาณว่า ถ้าเทียบกับ STAR WARS
ฝ่ายอธรรม จะเป็น พวก the Sith ขณะที่ฝ่ายธรรม เป็น พวก Jedi หรือเปล่า
สมมุต ว่าใช่ก่อนนะครับ
ถ้าใช่แล้ว VI ควรถูกจัดอยู่ในแนวไหนครับเพราะตราบใดที่เรายังหวังการทำกำไรจาก Capital gain แล้วท้ายที่สุดผมก็รู้สึกว่าเรากำลังทำกำไรจากการโยนความเสี่ยงให้ผู้อื่น เหมือนกัน
ที่ถามเช่นนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่อยู่ข้าง VI นะครับ
เผอิญมีคนมาหยันจากการเล่นหุ้นปั่นแปะว่ารวยเร็วกว่าเยอะนะครับ
ผมก็เลยนั่งคิดถึงคำเปรียบเปรยเรื่องกระต่ายกับเต่าครับ
ว่าไม่เป็นไรขอเป็นกระต่ายที่เดินช้าอย่างมีความสุข
แต่ในใจก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ท้ายที่สุดแล้ว
การที่เราพยายามชนะนายตลาดแทนที่จะชนะเจ้ามือนี่จะมีเหตุผลพอที่จะเรียกว่าเรามีธรรมะมากกว่าได้หรือไม่ครับ
หรือจริงๆแล้วต้องปรับปรุงใช้ประโยคทีว่า
All's fair in love and war
เป็น
All's fair in love, war and making money in stock market
คิดว่าการเล่นหุ้นมีค่ายอธรรมและธรรมมะไหม
คือประมาณว่า ถ้าเทียบกับ STAR WARS
ฝ่ายอธรรม จะเป็น พวก the Sith ขณะที่ฝ่ายธรรม เป็น พวก Jedi หรือเปล่า
สมมุต ว่าใช่ก่อนนะครับ
ถ้าใช่แล้ว VI ควรถูกจัดอยู่ในแนวไหนครับเพราะตราบใดที่เรายังหวังการทำกำไรจาก Capital gain แล้วท้ายที่สุดผมก็รู้สึกว่าเรากำลังทำกำไรจากการโยนความเสี่ยงให้ผู้อื่น เหมือนกัน
ที่ถามเช่นนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่อยู่ข้าง VI นะครับ
เผอิญมีคนมาหยันจากการเล่นหุ้นปั่นแปะว่ารวยเร็วกว่าเยอะนะครับ
ผมก็เลยนั่งคิดถึงคำเปรียบเปรยเรื่องกระต่ายกับเต่าครับ
ว่าไม่เป็นไรขอเป็นกระต่ายที่เดินช้าอย่างมีความสุข
แต่ในใจก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ท้ายที่สุดแล้ว
การที่เราพยายามชนะนายตลาดแทนที่จะชนะเจ้ามือนี่จะมีเหตุผลพอที่จะเรียกว่าเรามีธรรมะมากกว่าได้หรือไม่ครับ
หรือจริงๆแล้วต้องปรับปรุงใช้ประโยคทีว่า
All's fair in love and war
เป็น
All's fair in love, war and making money in stock market
- house
- Verified User
- โพสต์: 683
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่าเล่นหุ้น แบบไหน
โพสต์ที่ 2
เอ่อ พึ่งเคยเจอนะนี่
เอาเป็นว่า
1 เราสนับสนุนกิจการที่ เจ้าของมีธรรมมาภิบาล ไม่เอาเปรียบรายย่อย
2 กิจการนั้นมีึความสามารถในการแข่งขัน สามารถสร้างงาน(ให้ลูกจ้าง) สร้างรายได้(ผ่านภาษี)ให้ประเทศ
3 เราถือครองหุ้นในระยะยาว เป็นกำลังหลักในการลดความผันผวนรวมของตลาด และทำให้ดัชนีสูงขึ้นอย่างมั่นคง เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตา
4 เราไม่สนับสนุน ผู้บรืหารที่เอาเปรียบคนอื่น เราจะไม่ให้น้ำหล่อเลี้ยงเขา เพื่อให้เติบโตไปเอาเปรียบคนอื่นๆอีก น่าเสียดายว่าเราไม่สามารถห้าม คนอื่นๆให้คิดแบบเดียวกับเราได้
5 เราไม่ได้โยนความเสี่ยงให้ผู้อื่น การซื้อขายเกิดเมื่อ เรา และ ผู้ซื้อ พอใจในราคาที่ตกลงกัน ไม่มีใครเอาปืนจ่อหัวให้เข้ามาซื้อ ใครจะรู้ว่าเขาอาจเห็นในสิ่งที่เราไม่เห็นก็ได้
May good Stock be with You! :D
เอาเป็นว่า
1 เราสนับสนุนกิจการที่ เจ้าของมีธรรมมาภิบาล ไม่เอาเปรียบรายย่อย
2 กิจการนั้นมีึความสามารถในการแข่งขัน สามารถสร้างงาน(ให้ลูกจ้าง) สร้างรายได้(ผ่านภาษี)ให้ประเทศ
3 เราถือครองหุ้นในระยะยาว เป็นกำลังหลักในการลดความผันผวนรวมของตลาด และทำให้ดัชนีสูงขึ้นอย่างมั่นคง เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตา
4 เราไม่สนับสนุน ผู้บรืหารที่เอาเปรียบคนอื่น เราจะไม่ให้น้ำหล่อเลี้ยงเขา เพื่อให้เติบโตไปเอาเปรียบคนอื่นๆอีก น่าเสียดายว่าเราไม่สามารถห้าม คนอื่นๆให้คิดแบบเดียวกับเราได้
5 เราไม่ได้โยนความเสี่ยงให้ผู้อื่น การซื้อขายเกิดเมื่อ เรา และ ผู้ซื้อ พอใจในราคาที่ตกลงกัน ไม่มีใครเอาปืนจ่อหัวให้เข้ามาซื้อ ใครจะรู้ว่าเขาอาจเห็นในสิ่งที่เราไม่เห็นก็ได้
May good Stock be with You! :D
ทำให้เต็มที่ เพื่อจะไม่เสียใจภายหลัง
-
- Verified User
- โพสต์: 1822
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่าเล่นหุ้น แบบไหน
โพสต์ที่ 5
ผมเอาของหลายคนมายำรวมกันครับ แล้วแต่ว่าช่วงไหนเหมาะกับแบบไหน
ว่าแต่คิดได้งัยว่ามีธรรมะกับอธรรม 555
ผมคิดแค่ว่าถ้าผมอยากมีบริษัทอะไร ก็เลือกซื้อหุ้นบริษัทนั้น ซึ่งต้องรายได้ดี กำไรดี และก็ผู้บริหารดี
ว่าแต่คิดได้งัยว่ามีธรรมะกับอธรรม 555
ผมคิดแค่ว่าถ้าผมอยากมีบริษัทอะไร ก็เลือกซื้อหุ้นบริษัทนั้น ซึ่งต้องรายได้ดี กำไรดี และก็ผู้บริหารดี
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่าเล่นหุ้น แบบไหน
โพสต์ที่ 7
[quote="maeteeb"]คืออยากถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่า
คิดว่าการเล่นหุ้นมีค่ายอธรรมและธรรมมะไหม
คือประมาณว่า ถ้าเทียบกับ STAR WARS
ฝ่ายอธรรม จะเป็น พวก the Sith
คิดว่าการเล่นหุ้นมีค่ายอธรรมและธรรมมะไหม
คือประมาณว่า ถ้าเทียบกับ STAR WARS
ฝ่ายอธรรม จะเป็น พวก the Sith
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- maeteeb
- Verified User
- โพสต์: 783
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่าเล่นหุ้น แบบไหน
โพสต์ที่ 9
ขอบคุณทุกๆคนครับ
คือตัวผมก็พยายามเป็นนักลงทุนที่ดีนะคับ
พยายามคิดเสมือนตัวเองเป็นเจ้าเข้าเจ้าของกับเขา
แต่ก็อดคิดเร่องนี้ไ่ม่ได้เหมือนกัน
เวลาจะขายของให้กับนายตลาด
ทั้งๆที่ก็โดนนายตลาดเล่นซะอ่วมอยู่หลายครา
คือตัวผมก็พยายามเป็นนักลงทุนที่ดีนะคับ
พยายามคิดเสมือนตัวเองเป็นเจ้าเข้าเจ้าของกับเขา
แต่ก็อดคิดเร่องนี้ไ่ม่ได้เหมือนกัน
เวลาจะขายของให้กับนายตลาด
ทั้งๆที่ก็โดนนายตลาดเล่นซะอ่วมอยู่หลายครา
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่าเล่นหุ้น แบบไหน
โพสต์ที่ 12
มาแจมมั่ง ... :Dคืออยากถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่า
คิดว่าการเล่นหุ้นมีค่ายอธรรมและธรรมมะไหม
คือประมาณว่า ถ้าเทียบกับ STAR WARS
ฝ่ายอธรรม จะเป็น พวก the Sith ขณะที่ฝ่ายธรรม เป็น พวก Jedi หรือเปล่า
สมมุต ว่าใช่ก่อนนะครับ
ถ้าใช่แล้ว VI ควรถูกจัดอยู่ในแนวไหนครับเพราะตราบใดที่เรายังหวังการทำกำไรจาก Capital gain แล้วท้ายที่สุดผมก็รู้สึกว่าเรากำลังทำกำไรจากการโยนความเสี่ยงให้ผู้อื่น เหมือนกัน
ที่ถามเช่นนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่อยู่ข้าง VI นะครับ
เผอิญมีคนมาหยันจากการเล่นหุ้นปั่นแปะว่ารวยเร็วกว่าเยอะนะครับ
ผมก็เลยนั่งคิดถึงคำเปรียบเปรยเรื่องกระต่ายกับเต่าครับ
ว่าไม่เป็นไรขอเป็นกระต่ายที่เดินช้าอย่างมีความสุข
แต่ในใจก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ท้ายที่สุดแล้ว
การที่เราพยายามชนะนายตลาดแทนที่จะชนะเจ้ามือนี่จะมีเหตุผลพอที่จะเรียกว่าเรามีธรรมะมากกว่าได้หรือไม่ครับ
หรือจริงๆแล้วต้องปรับปรุงใช้ประโยคทีว่า
All's fair in love and war
เป็น
All's fair in love, war and making money in stock market
สมมติว่านักลงทุนหันมาเป็นนักลงทุนระยะยาวกันหมด
ประเภทซื้อทีเอาใส่ตู้เซฟ อีก 10 ปีค่อยแง้มเอามาดู (ปรากฎว่าเจ๊งถูกถอดออกจากตลาดไปแล้ว :lovl: ล้อเล่นๆ)
ตลาดก็คงไม่มีสภาพคล่องจริงมั้ยครับ
นักลงทุนประเภทเก็งกำไรหรือซื้อๆขายๆก็มีข้อดีคือมีส่วนช่วยสร้างสภาพคล่อง
หรือจะเรียกว่า นายตลาด ก็แล้วแต่
นอกจากนี้ยังช่วยให้น้องมาร์อีกไม่รู้กี่โบรก ไม่ต้องตกงาน ... จริงมั้ยครับ
จะไปว่าเค้าเป็นผู้ร้ายได้อย่างไร
ไม่ว่าจะเรียกว่าลงทุนหรือเก็งกำไร
นักลงทุน/เก็งกำไร ก็ต้องการผลตอบแทนจาก การลงทุน/เก็งกำไร ทั้งนั้น
นักลงทุนซื้อเพราะเราคาดหวังว่าจะได้ Capital Gain + Dividend ในอนาคตอาจจะอีก 1 ปีข้างหน้า 5 ปีข้างหน้า หรือ 10 ปีข้างหน้า
นักเก็งกำไรอาจจะคาดหวัง Captial Gain จากวันนี้ พรุ่งนี้หรือแม้แต่ชั่วโมงนี้
ในความคิดผมไม่มีใครเป็นผู้ร้าย ตราบใดที่ทั้ง 2 ฝ่ายยังทำตามกฎการซื้อขายอย่างถูกต้อง
แต่ละฝ่ายมีแนวทางของตัวเองครับ ตราบใดที่เค้ายังคิดว่าเค้ายังสามารถทำกำไรได้จากแนวทางของเค้า
ส่วนคนที่มาซื้อของต่อจากเรา ก็หมายความว่าเค้าเห็นโอกาสในการทำกำไรในอนาคต
เค้าเต็มใจที่จะเข้ามารับความเสี่ยง เพื่อผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุนที่ไม่มีความเสี่ยง
ไม่ต้องห่วงว่าเราเป็นผู้ร้ายโยนความเสี่ยงให้ผู้อื่นครับ
เพราะตอนที่เราจะซื้อหุ้น เราก็รับความเสี่ยงมาเช่นเดียวกัน
ถ้าจะมีผู้ร้ายก็คงเป็นพวกที่ชอบสร้างราคา สร้างข่าวลือ เพื่อให้ตัวเองได้รับผลประโยชน์มากกว่านะครับ ...
- Little Boy
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1318
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่าเล่นหุ้น แบบไหน
โพสต์ที่ 13
หากให้เปรียบเทียบว่าฝ่ายใดเป็น ธรรมมะ หรือฝ่ายใดเป็น อธรรม ผมว่ามันคงแรงไป แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบดูหนังหรืออ่านนิยายกำลังภายในสักหน่อย ผมขอเปรียบเทียบ VI กับ เล่นหุ้นแบบเทคนิค ว่าเปรียบเสมือนฝ่ายกระบี่กับฝ่ายลมปราณ (กระบวนท่า กับ กำลังภายใน)
เล่นหุ้นแบบเทคนิค หรือหุ้นปั่นนั้น ก็คงจะเปรียบเช่น ฝ่ายกระบี่ หรือกระบวนท่า ที่เน้นสนใจถึงกระบวนท่าจู่โจมที่คล่องแคล่ว การมีกระบวนท่าต้านรับที่รัดกุม (กราฟแนวรับ แนวต้าน) เคลื่อนไหวดุจสายฟ้า (สั่งซื้อขายรวดเร็ว)เรียนรู้ง่าย ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าเป็นผู้ที่เรียนรู้ระดับสูง(เจ้ามือ) จะเข้าสู่ขั้น ไร้กระบวนท่า กระบวนท่าอยู่ที่ใจ อยากจะทุบ อยากจะลาก ได้ดั่งใจ แต่ถ้าฝีมือยังไม่ถึงขั้น ก็อาจจะพ่ายแพ้ แขนขาด ขาขาด หรือถึงขั้นเสียชีวิต ออกจากตลาดหุ้นไป
ส่วนการเล่นหุ้นแบบ VI ผมเปรียบเหมือนฝ่ายลมปราน หรือกำลังภายในครับ ที่ค่อยๆ ฝึกฝนสั่งสมไปทีละนิดทีละน้อย เหมือนพระวัดเส้าหลิน ที่มีเพียง 72 ท่า แต่ระดับฝีมือก็แตกต่างกันตรงที่กำลังภายใน เจ้าอาวาสก็ใช้กระบวนท่าเดียวกับศิษย์ใหม่ในการปราบมาร แต่กำลังภายในสูงส่งยิ่ง VI เราก็มีกระบวนท่าในการพิจารณาหุ้นเพียงไม่กี่ท่า (PE PB ผู้บริหารที่มีธรรมาภิบาล ฯ) แต่ต่างกันที่ระยะเวลาในการฝึกปรือ เพื่อให้ลมปรานสูงส่งขึ้น แต่ก็มีบ้างเหมือนกันครับ ที่บางครั้งในระหว่างฝึกมีปัจจัยภายนอกมารบกวน (เหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่น สงคราม) ทำให้ธาตุไฟเข้าแทรก กำลังภายในสูญสิ้น อันนี้น่ากลัวครับ แต่ผมคิดว่าชาว VI คงจะรอบคอบพอที่จะเลือกฝึกลมปราณในสถานที่ปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยที่คาดไม่ถึง ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงก็คงแค่บาดเจ็บ แต่คงไม่ถึงขั้นต้องออกจากตลาดหุ้นไป
ปล. ผมขออนุญาติเปรียบ วอร์เรน บัฟเฟต เสมือนปรมาจารย์ตั๊กม้อ ผู้ก่อตั้งวัดเส้าหลินอันยิ่งใหญ่ และท่านดร.นิเวศน์ เสมือน เตียซำฮง ผู้ซึ่งเดิมเป็นศิษย์ฆราวาสวัดเส้าหลิน ที่ต่อมาได้นำแนวทางเดิมมาเพิ่มเติม และค้นคิดจนก่อเกิดสำนักบู้ตึ้ง และไทเก็ก ที่โลกไม่อาจลืม
เล่นหุ้นแบบเทคนิค หรือหุ้นปั่นนั้น ก็คงจะเปรียบเช่น ฝ่ายกระบี่ หรือกระบวนท่า ที่เน้นสนใจถึงกระบวนท่าจู่โจมที่คล่องแคล่ว การมีกระบวนท่าต้านรับที่รัดกุม (กราฟแนวรับ แนวต้าน) เคลื่อนไหวดุจสายฟ้า (สั่งซื้อขายรวดเร็ว)เรียนรู้ง่าย ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าเป็นผู้ที่เรียนรู้ระดับสูง(เจ้ามือ) จะเข้าสู่ขั้น ไร้กระบวนท่า กระบวนท่าอยู่ที่ใจ อยากจะทุบ อยากจะลาก ได้ดั่งใจ แต่ถ้าฝีมือยังไม่ถึงขั้น ก็อาจจะพ่ายแพ้ แขนขาด ขาขาด หรือถึงขั้นเสียชีวิต ออกจากตลาดหุ้นไป
ส่วนการเล่นหุ้นแบบ VI ผมเปรียบเหมือนฝ่ายลมปราน หรือกำลังภายในครับ ที่ค่อยๆ ฝึกฝนสั่งสมไปทีละนิดทีละน้อย เหมือนพระวัดเส้าหลิน ที่มีเพียง 72 ท่า แต่ระดับฝีมือก็แตกต่างกันตรงที่กำลังภายใน เจ้าอาวาสก็ใช้กระบวนท่าเดียวกับศิษย์ใหม่ในการปราบมาร แต่กำลังภายในสูงส่งยิ่ง VI เราก็มีกระบวนท่าในการพิจารณาหุ้นเพียงไม่กี่ท่า (PE PB ผู้บริหารที่มีธรรมาภิบาล ฯ) แต่ต่างกันที่ระยะเวลาในการฝึกปรือ เพื่อให้ลมปรานสูงส่งขึ้น แต่ก็มีบ้างเหมือนกันครับ ที่บางครั้งในระหว่างฝึกมีปัจจัยภายนอกมารบกวน (เหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่น สงคราม) ทำให้ธาตุไฟเข้าแทรก กำลังภายในสูญสิ้น อันนี้น่ากลัวครับ แต่ผมคิดว่าชาว VI คงจะรอบคอบพอที่จะเลือกฝึกลมปราณในสถานที่ปลอดภัย เพื่อหลีกเลี่ยงปัจจัยที่คาดไม่ถึง ซึ่งถ้าเกิดขึ้นจริงก็คงแค่บาดเจ็บ แต่คงไม่ถึงขั้นต้องออกจากตลาดหุ้นไป
ปล. ผมขออนุญาติเปรียบ วอร์เรน บัฟเฟต เสมือนปรมาจารย์ตั๊กม้อ ผู้ก่อตั้งวัดเส้าหลินอันยิ่งใหญ่ และท่านดร.นิเวศน์ เสมือน เตียซำฮง ผู้ซึ่งเดิมเป็นศิษย์ฆราวาสวัดเส้าหลิน ที่ต่อมาได้นำแนวทางเดิมมาเพิ่มเติม และค้นคิดจนก่อเกิดสำนักบู้ตึ้ง และไทเก็ก ที่โลกไม่อาจลืม
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่าเล่นหุ้น แบบไหน
โพสต์ที่ 15
จริงๆแล้ว ผมก็คาดหวัง Capital Gain จากพรุ่งนี้ อาทิตย์นี้ หรืออาทิตย์หน้า ทุกครั้งที่ลงทุน แต่ทำไม่สำเร็จซักทีเลยครับHVI เขียน:นักลงทุนซื้อเพราะเราคาดหวังว่าจะได้ Capital Gain + Dividend ในอนาคตอาจจะอีก 1 ปีข้างหน้า 5 ปีข้างหน้า หรือ 10 ปีข้างหน้า
นักเก็งกำไรอาจจะคาดหวัง Captial Gain จากวันนี้ พรุ่งนี้หรือแม้แต่ชั่วโมงนี้
เลยต้องถือมานานหลายปีแล้ว
หรือว่าผมเป็นนักเก็งกำไร งงกับตัวเองจริงๆ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1301
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่าเล่นหุ้น แบบไหน
โพสต์ที่ 16
ผมว่าผลลัพธ์ที่ต้องการก็คือการทำกำไรเหมือนกัน แต่สิ่งที่ต่างก็เพียงขั้นตอนในการตัดสินใจลงทุน เริ่มตั้งแต่วัดดวง เชื่อคนอื่น ดูกราฟ และดูผลประกอบการ ทุกวิธีการก็เป็นการมองไปข้างหน้า โดยใช้ข้อมูลย้อนหลังเหมือนกัน ตั้งแต่ ถ้าถูกก็ได้กำไร เชื่อคนที่บอกเพราะคราวที่แล้วเขาบอกแล้วเราไม่ซื้อหุ้นก็ขึ้นจริงๆ กราฟในรูปแบบนี้ในอดีตจะตามมาด้วยการขึ้นอีกไม่น้อยกว่า...เปอร์เซ็นต์ บริษัทนี้มีการเติบโตมาเรื่อยๆผู้บริหารก็คงเก่งอนาคตก็คงยังดำเนินงานได้ดีต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่าเล่นหุ้น แบบไหน
โพสต์ที่ 17
[quote]
จริงๆแล้ว
จริงๆแล้ว
- Frodo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 271
- ผู้ติดตาม: 0
ถามความเห็นพี่ๆ เพื่อนนะครับ ว่าเล่นหุ้น แบบไหน
โพสต์ที่ 18
ในพอร์ตผมก็มีทุกแบบเลย ทั้งถือยาว ทั้งเล่นเอามันส์
ก็งงเหมือนกันว่าเป็นแบบไหน เอาเป็นว่า เป็นแบบที่ผมเป็นแล้วกันครับ
ส่วนเรื่องฝ่ายธรรมะ ฝ่ายอธรรมนั้น ผมว่าโลกนี้มันไม่ค่อยมีขาวกับดำหรอกครับ มีแต่เทาอ่อนกับเทาแก่เป็นส่วนใหญ่
ก็งงเหมือนกันว่าเป็นแบบไหน เอาเป็นว่า เป็นแบบที่ผมเป็นแล้วกันครับ
ส่วนเรื่องฝ่ายธรรมะ ฝ่ายอธรรมนั้น ผมว่าโลกนี้มันไม่ค่อยมีขาวกับดำหรอกครับ มีแต่เทาอ่อนกับเทาแก่เป็นส่วนใหญ่