วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ชอบโรงพยาบาลนะครับ แต่อยากถามความเห็นเพื่อนๆว่าอ่านบทความนี้แล้วคิดอย่างไรกันบ้างครับ เพราะในมุมมองหนึ่ง ไม่สบายแล้ว อย่างไรก็ต้องไปหาหมอ คงรอไปหาปีหน้าไม่ได้ครับ ไม่เหมือนซื้อบ้านซื้อรถ แต่อีกด้านหนึ่งก็คิดว่า ถ้าเศรษฐกิจเกิดแย่ลง แล้วจะไปโรงพยาบาลแพงๆใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลถูกๆที่ไกลอีกหน่อยดี
วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย โดย อรวรรณ บัณฑิตกุล นิตยสารผู้จัดการ( ตุลาคม 2546)http://gotomanager.com/news/details.aspx?id=8259
โดยธรรมชาติของตลาดหุ้นทั่วโลก หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลจะถูกจัดอยู่ในประเภท ของหุ้นที่เรียกว่า Defensive Stock ซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้มักจะไม่ได้รับผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็น ขาขึ้นหรือขาลง
ในทางเดียวกัน หุ้นประเภทนี้ก็ไม่เหมาะสมที่จะเป็นหุ้นสำหรับการเก็งกำไร
แต่สำหรับธุรกิจโรงพยาบาลในประเทศไทย จะมีลักษณะที่ผิดเพี้ยนจากธรรมชาติดังกล่าวอยู่พอสมควร
หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลในประเทศไทย เคยถูกเก็งกำไรอย่างหนักในช่วงปี 2534-2535 ด้วยเหตุผลที่นักลงทุนมองว่าเป็นช่วงของเศรษฐกิจขาขึ้น
"เมื่อคนมีรายได้ดีขึ้น ก็เริ่มคำนึงถึงเรื่องของสุขภาพ โอกาสที่คนจะเปลี่ยนพฤติกรรมจากที่เคยเข้าใช้บริการของโรงพยาบาลรัฐ มาเป็นโรงพยาบาลเอกชนจึงมีสูง ดังนั้น รายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน จึงมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น" เป็นเหตุผลที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ส่วนใหญ่ใช้ในการแนะนำ ให้นักลงทุนเข้ามาซื้อหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลในช่วงนั้น
หลังจากภาวะตลาดหุ้นได้ตกต่ำลงอย่างหนัก จากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ ตั้งแต่ต้นปี 2537 หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลจึงถูกผลกระทบไปด้วย ราคาหุ้นกลุ่มนี้ดิ่งลงอย่างรุนแรง และต่อเนื่อง
เมื่อฟองสบู่เศรษฐกิจของไทย เริ่มโป่งพองในช่วงปี 2538-2539 โรงพยาบาลหลายแห่งมีแผนขยายงานขนาดใหญ่ และอีกหลายแห่งเริ่มปรับแนวทางธุรกิจไปในรูปที่เป็นการผสมผสานกัน ระหว่างธุรกิจโรงพยาบาลและธุรกิจพัฒนอสังหาริมทรัพย์
การเข้ามาร่วมทุนในโรงพยาบาลศิครินทร์ของกลุ่มจุลดิศ ตลอดจนแผนการสร้างอาคารใหม่ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเดิม ถึง 3 เท่าของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ การขยายสาขาออกไปสร้างเชนในต่างจังหวัดของโรงพยาบาลรามคำแหง ฯลฯ เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด
การขยายงานในลักษณะดังกล่าว ทำให้ทุกโรงพยาบาลมีการก่อหนี้จำนวนมหาศาล 80-90% ของหนี้ที่กลุ่มโรงพยาบาลสร้างขึ้นในช่วงนี้ เป็นหนี้เงินกู้จากต่างประเทศ
ดังนั้น เมื่อประเทศไทยประกาศลอยตัวค่าเงินบาทในปี 2540 โรงพยาบาลเกือบทุกแห่งจึงต้องประสบกับปัญหาฐานะทางการเงิน จากตัวเลขหนี้สินที่เพิ่มขึ้นสูงลิ่ว
โรงพยาบาลที่มีผลประกอบการดีอย่างบำรุงราษฎร์ หรือโรงพยาบาลที่กำลังอยู่ในช่วงของการขยายงานอย่างศิครินทร์ และโรงพยาบาลพญาไท ต้องถูกย้ายเข้าไปอยู่ในหมวดหุ้นกลุ่มฟื้นฟูกิจการ หุ้นหลายตัวในกลุ่มนี้ถูกสั่งห้ามการซื้อขาย ส่วนตัวไหนที่ตลาดหลักทรัพย์ยังคงเปิดให้ซื้อขายต่อไปได้ ก็ซื้อขายกันด้วยบรรยากาศที่เงียบเหงาและราคาลดลงมาเหลือเพียงไม่ถึง 10% จากจุดที่เคยขึ้นไปสูงสุด
หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลเพิ่งเริ่มจะกลับมีความคึกคักกันอีกครั้งเมื่อต้นปีนี้ ด้วยความมั่นใจของนักลงทุนที่มองเห็นสัญญาณชัดเจนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มนี้กำลังอยู่ระหว่างการสร้างฐานการปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบใหม่
รวมระยะเวลาที่หุ้นกลุ่มนี้ต้องอยู่ในภาวะตกต่ำถึง 9 ปีเต็ม
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
frontosa
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 460
ผู้ติดตาม: 0

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 2

โพสต์

คิดว่าทำไมต้องกู้จากต่าง
ประเทศ รายรับก็เป็นเงินบาท เสี่ยงเปล่าๆ

หรือว่ามีเหตุผลอื่น :?:
hot
Verified User
โพสต์: 6853
ผู้ติดตาม: 0

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 3

โพสต์

รวมระยะเวลาที่หุ้นกลุ่มนี้ต้องอยู่ในภาวะตกต่ำถึง 9 ปีเต็ม
แสดงว่าอาจรุ่งอีก9ปีหรือ
mee
Verified User
โพสต์: 49
ผู้ติดตาม: 0

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ที่กู้ต่างประเทศ เพราะสมัยนั้นค่าเิงินค่อนข้างคงที่นะครับ และอัตราดอกเบี้ยต่างประเทศต่ำกว่ามาก
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 0

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 5

โพสต์

mee เขียน:ที่กู้ต่างประเทศ เพราะสมัยนั้นค่าเิงินค่อนข้างคงที่นะครับ และอัตราดอกเบี้ยต่างประเทศต่ำกว่ามาก
ต่ำครับ ขนาดสถาบันการเงินบางแห่งกู้ต่างประเทศมาปล่อยในประเทศเลยทีเดียว แต่ดันเป็นการกู้ระยะสั้นแล้วมาปล่อยระยะยาว มันเลยเกิด Mismatched Funding จนล้มครืนกันเลยครับ
Impossible is Nothing
hot
Verified User
โพสต์: 6853
ผู้ติดตาม: 0

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ระบบการเงินโลกตอนนี้มีช่องโว่งแบบนั้นอีกไหมคับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 1

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ที่ผมกลัวคือ หมอกะพยาบาล ที่มีคุณภาพจะไม่พอเอาอะครับ



เพราะส่วนหนึ่งหันมาลงทุนหุ้นกันเยอะขึ้น อิอิ (แซวเล่นครับ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ที่ผมเอาข่าวสมัยโบราณให้อ่านนี่ ไม่ได้คิดว่าจากวันนี้ไปอีกสองสามปี โรงพยาบาลจะเจอปัญหาเรื่องหนี้เพิ่มเท่าตัวครับ แต่สงสัยว่าถ้าเศรษฐกิจมันไม่ได้ดีขึ้น แต่กลับแย่ลง คนจะเปลี่ยนมาเข้าโรงพยาบาลที่ถูกกว่าไหมครับ
เพราะตอนนี้ ผมเดาเอาเองว่าคนมีรายได้สูงขึ้น เลยมารักษาตัวแบบแพงๆได้ แล้วแต่ละโรงก็มีการเปิดศูนย์รักษาโรคซับซ้อน (แพงโคตร) เลยเป็นตัวเร่งให้รายได้สูงขึ้นครับ ถ้าเกิดเศรษฐกิจมันกลับทิศ โรงพยาบาลจะกระทบเยอะไหมครับ
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 0

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 9

โพสต์

worapong เขียน:ที่ผมเอาข่าวสมัยโบราณให้อ่านนี่ ไม่ได้คิดว่าจากวันนี้ไปอีกสองสามปี โรงพยาบาลจะเจอปัญหาเรื่องหนี้เพิ่มเท่าตัวครับ แต่สงสัยว่าถ้าเศรษฐกิจมันไม่ได้ดีขึ้น แต่กลับแย่ลง คนจะเปลี่ยนมาเข้าโรงพยาบาลที่ถูกกว่าไหมครับ
เพราะตอนนี้ ผมเดาเอาเองว่าคนมีรายได้สูงขึ้น เลยมารักษาตัวแบบแพงๆได้ แล้วแต่ละโรงก็มีการเปิดศูนย์รักษาโรคซับซ้อน (แพงโคตร) เลยเป็นตัวเร่งให้รายได้สูงขึ้นครับ ถ้าเกิดเศรษฐกิจมันกลับทิศ โรงพยาบาลจะกระทบเยอะไหมครับ
กลับทิศนี่รุนแรงขนาดไหนครับ
Impossible is Nothing
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 1

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ถ้าคิดแค่ในส่วนของลูกค้า สำหรับลูกค้าระดับบนแล้ว ผมไม่คิดว่าน่าจะมีปัญหานะครับ ลูกค้ากลุ่มนี้เศรษฐกิจจะเป็นยังไง ก็ไม่มีผลกระทบ ปกติก็มีกะตังค์ซื้อของแบรนด์เนมอยู่แล้ว ยิ่งเป็นเรื่องของสุขภาพด้วย ราคาเท่าไรเท่ากันอยู่แล้วขอให้บริการดี มีคุณภาพไว้ก่อน

ส่วนลูกค้าระดับกลาง อาจมีส่วนบ้างที่คนกลุ่มหนึ่งจะหันไปใช้บริการประกันสังคมกันมากขึ้นซึ่งต้องติดตามดูว่ากฏระเบียบเงินช่วยเหลือตอนนี้เป็นยัีงไงต่อไป

แต่ในเรื่องที่จะย้ายไปเข้าโรงพยาบาลอื่นที่ถูกกว่า ผมคิดว่าไม่ค่อยมีส่วนเท่าไร น่าจะอยู่ที่การบริการของโรงพยาบาลมากกว่าที่มีผลทำให้ลูกค้าอยากเปลี่ยนไปใช้บริการของที่อื่น

ที่แน่ๆ คือ ถ้าหากเศรษฐกิจกลับทิศจริงๆ คงต้องดูว่าโรงพยาบาลไหนที่สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีกว่ากัน  8)

ผมมีหุ้นกลุ่มนี้อยู่ 1 ตัวครับ ความคิดเห็นอาจ bias บ้าง
ภาพประจำตัวสมาชิก
worapong
Verified User
โพสต์: 929
ผู้ติดตาม: 0

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ขอโพสเรื่องนี้เป็นครั้งสุดท้ายครับ เพราะชักเมื่อยมือ
คือผมไม่ได้คิดว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นหรือแย่ลงนะครับ เพราะผมมองไม่เป็น มองไม่ออก ไม่ได้เรียนด้านนี้มา เพียงแต่อ่านข่าวเจอว่า ถ้าเศรษฐกิจดี คนจะยอมจ่ายมากขึ้น เพื่อรับการรักษาพยาบาลที่ดี ซึ่งถ้าดูจากกำไรของโรงพยาบาลในวันนี้ เทียบกับช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีก็น่าจะบอกได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ผมเองก็เชื่อว่า ในระยะยาวแล้ว โรงพยาบาลที่เข้มแข็งน่าจะเติบโตได้เนื่องมาจากการที่คนไทยเป็นโรคหัวใจ มะเร็ง และสารพัดโรคที่คนเมืองพึงเป็น รวมทั้งพอคนมาอยู่หนาแน่น มาเบียดกันในห้าง รถเมล์ ที่ทำงาน เกิดมีคนเป็นหวัดจามทีนึง โรคมันก็ติดกันได้ รวมทั้งโรคที่เกิดจากฝรั่งเอาเชื้อใหม่ๆข้ามทวีปมาเผยแพร่ให้เมืองไทย ผมคิดว่าด้านความต้องการรักษาโรคน่าจะเพิ่มขึ้นอีกตลอดห้าหรือสิบปีข้างหน้า ถ้าทุกโรงพยาบาลไม่ได้ขยายตัวจนล้นเกิน ผมเชื่อว่ากำไรของโรงพยาบาลจะเติบโตขึ้นได้เรื่อยๆ ผู้ที่ถือหุ้นโรงพยาบาลที่ยังมีการเติบโต สามารถแข่งขันได้ แล้วก็ซื้อมาในราคาที่ถูกๆ ย่อมได้กำไรพอสมควรครับ อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลเล็กๆ ก็ต้องตายไปบ้าง เป็นธรรมดา เหมือนกับโชว์ห่วย ที่โดนเซเว่นแย่งตลาดไป แต่กลับมุ่งประเด็นโจมตีเฉพาะโลตัส ผมไม่แน่ใจว่ารายได้ของเซเว่นที่เห็นในงบนั้น มาจากเซเว่นในเมืองไทยเท่าไร แต่ตอนนี้ รายได้เค้าแสนล้านแล้ว บิ๊กซี แค่หกหมื่นล้านเองครับ โลตัสผมจำไม่ได้ แต่คงดีกว่าบิ๊กซีแบบสูสีครับ
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
bandi
Verified User
โพสต์: 108
ผู้ติดตาม: 0

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 12

โพสต์

วันนี้คุณตาของผมเพิ่งออกจากโรงพยาบาล อยู่ที่ร.พ. 22 วัน เสียค่าใช้จ่าย 3 แสนกว่าบาท
ก่อนหน้านี้ก็อยู่อีกร.พ. เสียค่าใช้จ่ายไปประมาณหนึ่งแสน เป็นร.พ. เอกชนทั้งคู่ รวมแล้วก็สี่แสนกว่า เหนื่อยละครับงานนี้
ถ้าอนาคตคุณตาป่วยอีกคงไม่เข้าร.พ.เอกชนอีก คงต้องไปใช้บริการของรัฐสู้ราคาไม่ไหวแล้วครับ
ความเสี่ยงไม่ได้อยู่ในตัวหุ้น
แต่อยู่ในตัวเรา
ภาพประจำตัวสมาชิก
naris
Verified User
โพสต์: 6726
ผู้ติดตาม: 1

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 13

โพสต์

bandi เขียน:วันนี้คุณตาของผมเพิ่งออกจากโรงพยาบาล อยู่ที่ร.พ. 22 วัน เสียค่าใช้จ่าย 3 แสนกว่าบาท
ก่อนหน้านี้ก็อยู่อีกร.พ. เสียค่าใช้จ่ายไปประมาณหนึ่งแสน เป็นร.พ. เอกชนทั้งคู่ รวมแล้วก็สี่แสนกว่า เหนื่อยละครับงานนี้
ถ้าอนาคตคุณตาป่วยอีกคงไม่เข้าร.พ.เอกชนอีก คงต้องไปใช้บริการของรัฐสู้ราคาไม่ไหวแล้วครับ
ดูไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ยังหนุ่มแน่น ชอบรักการเที่ยว แต่ไม่ค่อยออมนะครับ

เทรนของการโตของอุตสาหกรรมเกิดจาก2ส่วนคือ ใช้เงินต่อหัวมากกว่าเดิม และ จำนวนคนที่จะใช้มีมากขึ้น

กลุ่มโรงพยาบาล ชัดเจนทั้ง2ส่วนครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
woody
Verified User
โพสต์: 3763
ผู้ติดตาม: 0

วัฏจักรหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไทย

โพสต์ที่ 14

โพสต์

naris เขียน: ดูไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่ยังหนุ่มแน่น ชอบรักการเที่ยว แต่ไม่ค่อยออมนะครับ

เทรนของการโตของอุตสาหกรรมเกิดจาก2ส่วนคือ ใช้เงินต่อหัวมากกว่าเดิม และ จำนวนคนที่จะใช้มีมากขึ้น

กลุ่มโรงพยาบาล ชัดเจนทั้ง2ส่วนครับ
Revenue = Price X Quantity ...
Impossible is Nothing
โพสต์โพสต์