'จเรรัฐ' ปั้นดีวันขึ้นหุ้นเก็งกำไรตั้งกฎห้ามรายใหญ่ถือเกิน 1 ปี
28 พฤศจิกายน 2549 07:34 น.
อ้างเพิ่มสภาพคล่อง ดึงรายย่อยซื้อหุ้น คาดยื่นไฟลิ่ง 15 ธ.ค.นี้
'จเรรัฐ ' เปิดกลยุทธ์ ปั้นหุ้นดราก้อน วัน ขึ้นแท่นหุ้นเก็งกำไร หวังดึงรายย่อยร่วมวง เตรียมยื่นไฟลิ่ง 15 ธันวาคม นี้ ออกหุ้นเพิ่มทุนขายพีพี รอบ 2 ช่วยเพิ่มสภาพคล่องหุ้นในตลาด ส่วนเงินที่ได้จากขายหุ้นเอาไปเพิ่มทุนให้เอโฮสต์ เป็น 300 ล้านบาท เพื่อคงสถานะบริษัทจดทะเบียน เปิดเงื่อนไขพิสดาร ห้ามรายใหญ่ที่ซื้อหุ้นพีพี ถือนานเกิน 1 ปี
นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย บริษัท ดราก้อน วัน กล่าวว่า ปีหน้าบริษัทตั้งเป้าที่จะมีจำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อยจำนวน 5 พันราย จากปัจจุบันคาดว่าไตรมาสที่ 4 จะมีผู้ถือหุ้น 2 พันราย โดยบริษัทจะใช้กลยุทธ์การเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง(พีพี) ให้กับนักลงทุนที่เป็นพันธมิตร และนักลงทุนกลุ่มดังกล่าว สามารถขายหุ้นได้ตลอดเวลา โดยไม่ได้มีระยะเวลาห้ามขายหุ้น(ไซเลนท์ พีเรียด) และกำหนดข้อตกลงห้ามถือหุ้นนานเกิน 1 ปี เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องหุ้น
รวมทั้งตั้งเป้าหมายให้มูลค่าตลาด(มาร์เก็ตแคป)ของหุ้นดราก้อน วัน จะเพิ่มขึ้นเป็น 4 พันล้านบาท ภายในปีหน้า จากไม่ถึง 1 พันล้านบาท และมูลค่าการซื้อขายหุ้นจะไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ต่อวัน และจะต้องมีจำนวนหุ้นหมุนเวียนในตลาด ไม่ต่ำกว่า 20% และไม่ห่วงว่าสำนักงาน ก.ล.ต.จะมีการจับตาหุ้นที่มีจำนวนหุ้นหมุนเวียนในตลาดระดับสูงก็ตาม ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จะทำให้กองทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทมากขึ้นด้วย
"กลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาซื้อหุ้นแบบพีพีล็อตแรกไปแล้ว 60 ล้านหุ้น จากจำนวนทั้งหมด 200 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท เป็นกลุ่มพันธมิตรที่เชื่อใจได้ และเขาสามารถขายหุ้นได้ทันที บริษัทเชื่อว่า เมื่อผลประกอบการในงวดไตรมาสที่ 4 ออกมาราคาหุ้นน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น และกลุ่มพันธมิตรที่ซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบพีพี อาจจะเทขายออกมา เพราะตามปกติถ้าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปสูงกว่าราคาจองซื้อ และมีกำไรในระดับที่เขารับได้ ก็ต้องขายออกมา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการลงทุน ในส่วนของบริษัท ก็จะทำให้มีจำนวนนักลงทุนรายย่อยเข้าซื้อขายหุ้นมากขึ้น สภาพคล่องสูงขึ้นทำให้เข้าออกหุ้นได้ง่ายเวลาเพิ่มทุนก็จะได้ราคาที่ดี" นายจเรรัฐ กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจจะใช้วิธีการเปิดเผยถึงความคืบหน้าของการดำเนินการของบริษัทผ่านสื่อมวลชน เพื่อให้นักลงทุนได้ข้อมูล และกล้าตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัท และเชื่อว่าในอนาคตราคาหุ้นของบริษัทน่าจะปรับตัวสอดคล้องกับพื้นฐานบริษัทไปพร้อมกัน สำหรับการถือหุ้น โดยส่วนตัวจะถือหุ้นในสัดส่วนที่ลดลงเหลือ 25% จาก 30% หลังจากที่หุ้นเพิ่มทุนแบบพีพีเข้ามาเทรดในตลาดหุ้น ซึ่งนโยบายการถือหุ้นก็จะอยู่ในระดับดังกล่าวต่อไปเพื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และสามารถควบคุมได้
นายจเรรัฐ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการบริษัท ดราก้อน วัน คาดว่าจะสรุปยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล(ไฟลิ่ง)ประมาณ 15 ธันวาคม นี้ โดยบริษัทจะใช้เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (พีพี) มาใช้ในการเพิ่มทุนให้บริษัทแอพพลิเคชั่น โฮสติ้ง เซอร์วิส หรือเอโฮสต์ เพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านบาท จากเดิมอยู่ที่ 23 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทดำรงฐานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ต่อไป
ทั้งนี้การเสนอขายแบบพีพี บริษัทได้มีการขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นไว้จำนวน 200 ล้านหุ้น และได้แบ่งขายไปแล้ว 60 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท ซึ่งเสนอขายให้นักลงทุนทั้งใน และต่างชาติ และจะได้รับเงินประมาณ 150 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาใช้ในการซื้อกิจการของบริษัทแห่งหนึ่งในธุรกิจไอทีจะประกาศในช่วงต้นปี 2550 ส่วนหุ้นที่เหลืออีก 140 ล้านหุ้น จะทยอยขาย และบางส่วนจะนำมาใช้ในการเพิ่มทุนของบริษัทเอโฮสต์ แต่ยังไม่ได้ระบุจำนวน และราคาที่จะใช้ รวมทั้งเงินสดที่อยู่ในบริษัทอีกประมาณ 100 ล้านบาท
แผนการทำธุรกิจในปีหน้า บริษัทคาดว่าจะซื้อกิจการของบริษัทในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกันเดือนละ 1 บริษัท ตั้งงบประมาณไว้ 1 พันล้านบาท โดยจะนำเงินมาจากการขายหุ้นเพิ่มทุนในส่วนที่เหลือ แต่ถ้ายังไม่เพียงพอบริษัทก็สามารถเพิ่มทุนได้เรื่อยๆ และในงวดไตรมาสที่ 1/2550 บริษัทจะซื้อกิจการอีก 4 บริษัท
ทั้งนี้ในงวดไตรมาสที่ 4/2549 บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ที่เกิดจากบริษัท ดราก้อน วัน และบริษัทในเครือ ทั้งหมด ซึ่งโครงสร้างรายได้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือ รายได้รวมของ บริษัทจะมาจากธุรกิจที่ปรึกษาภายใต้บริษัทดราก้อน วัน จำนวน 10% การลงทุนซื้อกิจการต่างๆ 75% ดอกเบี้ยเงินฝาก 5% และเงินปันผลจากบริษัทเอโฮสต์ อีก 15%