ผมอยากเดินตามรอย VI

[bandi]

ครั้งแรกที่ผมสนใจตลาดหุ้น
ผมนั่งอยู่หน้าทีวีเห็นตัววิ่งด้านล่างสุดของจอภาพก็เกิดความสงสัยในใจ
จึงค้นหาคำตอบจนรู้ว่ามันคือราคาหลักทรัพย์ ในขณะนั้นผมสะดุดตาที่ bbc
ก็คิดเล่นๆตามประสาเด็กที่มีตั้งเก็บอยู่ สามหมื่นบาท ถ้าซื้อตัวนี้สักพันหุ้น(ตอนนั้นราคา 21 บาท)
คงเป็นโชคชะตาที่ต้องการให้ผมเข้าตลาด เมื่อราคาวนมาอีกรอบราคาอยู่ที่ 22.5 อีกไม่กี่วันต่อมาขึ้นไปที่ 28 บาท
ผมคิดในใจทำไมดีแบบนี้ ซื้อแค่แป็ปเดียวก็มีกำไร

อีกครั้งเพื่อนชวนผมไปจองซื้อหุ้นบางจาก 31 บาท แล้วก็บอกให้ขาย 50กว่าบาท
ผมก็เลยติดใจ 5555 ตัดสินใจเปิดพอร์ต ต่อมายังจอง"ผลิตไฟฟ้า"ได้อีก 22 บาทถูกมากๆครับ เอาหมูไปปล่อยแถวๆ 60กว่า
ทีนี้ยิ่งได้ใจ (เราก็น่าจะเป็นเซียนได้)
หลังจากนั้นผมก็เริ่มเล่น(แบบบ้านบ้าน) คงไม่ต้องบอกต่อพี่คงทราบ

ขอถามเลยละกัน
ก่อนจะซื้อพี่ๆใช้อะไรพิจารณาหุ้นเป็นอันดับแรก?

[beammy]

ครั้งแรกที่ผมสนใจตลาดหุ้น
ผมนั่งอยู่หน้าทีวีเห็นตัววิ่งด้านล่างสุดของจอภาพก็เกิดความสงสัยในใจ
จึงค้นหาคำตอบจนรู้ว่ามันคือราคาหลักทรัพย์ ในขณะนั้นผมสะดุดตาที่ bbc
ก็คิดเล่นๆตามประสาเด็กที่มีตั้งเก็บอยู่ สามหมื่นบาท ถ้าซื้อตัวนี้สักพันหุ้น(ตอนนั้นราคา 21 บาท)
คงเป็นโชคชะตาที่ต้องการให้ผมเข้าตลาด เมื่อราคาวนมาอีกรอบราคาอยู่ที่ 22.5 อีกไม่กี่วันต่อมาขึ้นไปที่ 28 บาท
ผมคิดในใจทำไมดีแบบนี้ ซื้อแค่แป็ปเดียวก็มีกำไร

อีกครั้งเพื่อนชวนผมไปจองซื้อหุ้นบางจาก 31 บาท แล้วก็บอกให้ขาย 50กว่าบาท
ผมก็เลยติดใจ 5555 ตัดสินใจเปิดพอร์ต ต่อมายังจอง"ผลิตไฟฟ้า"ได้อีก 22 บาทถูกมากๆครับ เอาหมูไปปล่อยแถวๆ 60กว่า
ทีนี้ยิ่งได้ใจ (เราก็น่าจะเป็นเซียนได้)
หลังจากนั้นผมก็เริ่มเล่น(แบบบ้านบ้าน) คงไม่ต้องบอกต่อพี่คงทราบ

ขอถามเลยละกัน
ก่อนจะซื้อพี่ๆใช้อะไรพิจารณาหุ้นเป็นอันดับแรก?

พิจารณาว่า จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อหุ้นครับ

เพราะมีอยู่ในใจหมดแล้ว ฮ่าๆๆๆ

ถ้าตอบแบบตรงประเด็น ผมจะมองหาบริษัทที่สามารถรักษา "กำไรสุทธิ" ไว้ได้ และเติบโตอย่างน้อย 15% ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

นั่นคือคร่าวๆ ครับ ...

[bandi]

beammy wrote:
พิจารณาว่า จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อหุ้นครับ


ผมใช้เงินออมจากการทำงานเดือนละประมาณ 20000 บาท

[beammy]

beammy wrote:
พิจารณาว่า จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อหุ้นครับ

ผมใช้เงินออมจากการทำงานเดือนละประมาณ 20000 บาท

ออมได้ขนาดนั้น เก็บไว้ลงทุนหุ้นที่ยังมีการเจริญเติบโต
ดูดีมากครับ ...

[javoel]

คิดว่าเป็น VI เเล้วดีจริงหรือครับ? ลงทุนเเบบตัวของตัวเองดีที่สุด  เสียก็ชีวิตเรา ได้ก็เข้ากระเป๋าเราครับ ผมว่ามันไม่มีทางเดินที่เเน่นอนหรอกครับ เเม้เเต่หลักธรรม พระพุทธเจ้าก็ยังบอกให้ปรับเปลี่ยนได้ตามยุคสมัย ตามสมควรเเละภาวการณ์
 สำหรับผม vI ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ  ใน web นี้ ก็เป็นการหาข้อมูล อ่านความคิดเห็น เเลกเปลี่ยนความคิดเห็ฯ เเละสอบถามจุดสงสัย เหนือสิ่งอื่นใดเเล้วการตัดสินใจก็ตัวใครตัวมันครับ

[bandi]

นิยามของ vi ในความคิดของผมหมายถึงการลงทุนที่คุ้มค่า การมองหาบริษัทที่สามารถทำกำไรได้ต่อเนื่อง มีผลตอบแทนให้ แล้วรวมลงทุนกับบริษัทได้ด้วยราคายุติธรรม

คิดว่าเป็น VI เเล้วดีจริงหรือครับ?

ดีจริงหรือไม่ ไม่รู้แต่ผมดูจากผู้ที่ประสบความสำเร็จในปัจจุบัน แล้วใช้วิธีที่เขาใช้ในอดีต
เพราะที่ผ่านมาผมซื้อหุ้นมั่ว ซื้อตามเพื่อน ซื้อตามบทวิเคราะห์รายวัน ซื้อเพรามีข่าวว่ามันจะขึ้น พอซื้อได้แล้วก็กังวลว่าจะขึ้นหรือจะลง ถ้าขึ้นจะขายไหม จะขายที่ราคาเท่าไหร่ ถ้าลงแหละจะทำอย่างไร จะซื้อเพิ่มหรือขายขาดทุน ทำให้เครียด
ปัจจุบันก็กำลังศึกษาวิธีการที่อาจาร์ยเกรแฮม บัฟเฟตต์ ฯลฯ สอนแต่ยังไม่ได้พบวิธีที่แน่นอน ผมจึงอยากถาม vi รุ่นพี่แต่ละท่านว่ามีวิธีค้นหากันอย่างไร เช่นดู pe pb dvd. Yield งบการเงิน ฯลฯพิจารณาอะไรก่อน?

[javoel]

จริงๆแล้ว ผมก็ศึกษาเเละเชื่อมั่นในเเนวทางของ VI (จากประสบการณ์อันน้อยนิดของผมนะครับ) ได้ศึกษาในระดับหนึ่ง รู้ศึกษา คำว่า VI ผูกมัดผมเกินไป เเล้วความคิดไม่ค่อยมีอิสระ ผมจึงสรุปคำว่า VI ตามแบบของผม ว่า ลงทุนในสิ่งที่เรารู้ เราถนัด เราชอบเเละมีความสุขพร้อมกับผลกำไร 1x% ต่อปี  ผมคิดว่าน vi เป็นเเค่ทางเลือกการลงทุนอีกมุมหนึ่งซึ่ง(น่าจะ)ดีพอที่เราจะศึกษาเเละทดลองปฏิบัติดู ไม่ควรยึดติดเกินไปจนเราลืมความเป็นตัวของตัวเอง ลืมว่าเราถนัดในหลักการลงทุนเเบบไหนครับ

[bandi]

ขอบคุณครับ คุณ javoel ที่ให้คำแนะนำ

เมื่อวานผมไปงานสัมนา tvi day มาได้พบกับวิทยากรคุณภาพ 3 ท่าน คือ พี่web พี่ chatchai และพี่วิบูลย์ บรรยากาศดี มีนักลงทุนเข้าฟังมากๆๆๆๆๆจนล้นห้อง ต้องจัดที่นั่งด้านนอกเพิ่ม แต่ก็ยังไม่พอ คนที่มาช้าก็ต้องยืนฟัง(ผมโชคดีได้นั่ง) พิธีกร(woody)เก่งสร้างบรรยากาศแบบเป็นกันเอง สนุกๆ ไม่ซีเรียส พี่web นี่มุกเยอะชอบเรียกเสียงหัวเราะ พี่chatchai เป็นแบบเรียบง่ายเน้น margin of safety พี่วิบูลย์ แกบอกว่าทำการบ้านมาดี (ไม่รู้ทำเมื่อไหร่)555

ผมสรุปว่าการลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่ได้ฟังมาคือต้องเปลี่ยนทัศนคติก่อน การซื้อหุ้นคือการร่วมลงทุนไม่ใช่ซื้อกระดาษ
เหมือนเรามีเพื่อนอยู่400 - 500 คนมาชวนเราลงทุน เพราะฉะนั้นเราควรรู้ว่าเพื่อนเราชวนเราลงทุนทำอะไร เพื่อนเรามีความสามารถทำได้ไหม ทำแล้วจะเจริญก้าวหน้าไหม เราสามารถไว้ใจเพื่อนเราได้ไหม เราต้องควบคุมสติให้ดีอย่าคล้อยตามอารมณ์ตลาดง่ายๆ ใช้เหตุผล

การเป็นนักลงทุนจะต้องติดตามข่าวสาร สังเกต วิเคราะห์ด้วยเหตุผลไม่ใช่อารมณ์ ขยันศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม

[อองตวน]

แบบว่าถ้าเราเอาเงินมาทำธุรกิจแบบเดียวกัน เราคงเจ๊งก่อน หรือเปล่าถ้าไม่ทำเองดีกั่ว

ถ้าใช่ ก็ถามต่อว่า ไอ้ที่ทำเหมือนๆกันอยู่เนี่ย ถ้าเกิดวิกฤตเลวร้ายแบบสุดๆไม่ทันตั้งตัว ตัวไหนมันน่าจะรอดกว่ากัน

จากนั้นก็ ไปอ่านความเห็นชาวบ้านตามเว็บตามรีเสิร์ช แล้วทำวิเคราะห์ quantitative เอง รอราคาที่พอใจก็เริ่มเก็บ