เป็นห่วง ผู้ถือหุ้น CAWOW จริงๆ
-
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นห่วง ผู้ถือหุ้น CAWOW จริงๆ
โพสต์ที่ 1
จากปัจุบัน fitness นี้เร่งหารายได้มากๆ ด้วยวืธีการ
hard (core) sale เเละ ยังพยายามให้ลูกค้าเก่า สมัครเป็นสมาชิก ตลอดชีพด้วยเพิ่มเงินประมาณ30000 บาท
ทำให้ผมกังวลว่า บริษัท กำลังนำรายได้ในอนาคต มาใช้ก่อน ขณะที่ต้นทุนคงที่ ก็ยังอยู่ เเละ รายได้นี้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
ไม่รู้ว่าทำอย่างงี้เเล้ว อนาคตจะไปรอดไหม
:?: :?: :?:
hard (core) sale เเละ ยังพยายามให้ลูกค้าเก่า สมัครเป็นสมาชิก ตลอดชีพด้วยเพิ่มเงินประมาณ30000 บาท
ทำให้ผมกังวลว่า บริษัท กำลังนำรายได้ในอนาคต มาใช้ก่อน ขณะที่ต้นทุนคงที่ ก็ยังอยู่ เเละ รายได้นี้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว
ไม่รู้ว่าทำอย่างงี้เเล้ว อนาคตจะไปรอดไหม
:?: :?: :?:
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นห่วง ผู้ถือหุ้น CAWOW จริงๆ
โพสต์ที่ 4
อืม ขอมองต่างมุมสักนิด
โดยเฉลี่ย จะมีคนกี่คนที่เข้าใช้บริการฟิตเนส อย่างต่อเนื่อง เช่นอาทิตย์ละสามสี่ครั้ง เป็นประจำ ต่อเนื่องหลายๆปี
เชื่อว่าน้อยมากๆ ขนาดตัวเอง เล่นกีฬาสม่ำเสมอ ยังเข้าฟิตเนสไม่คุ้ม เพราะไปออกกำลังที่สวนลุม หรือที่อื่นที่เป็น outdoor แทน
ถ้าลองทำวิจัยอย่างจริงจัง อาจพบความจริงที่จะเป็น hidden value ของธุรกิจนี้ก็ได้ ว่าสมัคร เมมเบอร์ สิบคน หกเดือนผ่านไป เหลือมาใช้บริการกี่คน
ตรงนี้เท่ากับเป็นเงินกินเปล่าๆ
ยิ่งพวกที่สมัครตลอดชีพ ไม่มีทางได้เงินคืน แต่ตัวเองจะไปใช้บริการหรือเปล่า ไม่รู้ อาจจะครึ่งต่อครึ่งของจำนวนคนสมัครเลยก็ได้ เท่ากับทาง Cawow ได้เงินกินเปล่าไปฟรีๆ
ความจริง สนใจหุ้นตัวนี้อยู่ คิดว่าแนวโน้มคนกรุงจะหันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น คิดว่าโมเดลธุรกิจดี แต่ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับผ้บริหาร
โดยเฉลี่ย จะมีคนกี่คนที่เข้าใช้บริการฟิตเนส อย่างต่อเนื่อง เช่นอาทิตย์ละสามสี่ครั้ง เป็นประจำ ต่อเนื่องหลายๆปี
เชื่อว่าน้อยมากๆ ขนาดตัวเอง เล่นกีฬาสม่ำเสมอ ยังเข้าฟิตเนสไม่คุ้ม เพราะไปออกกำลังที่สวนลุม หรือที่อื่นที่เป็น outdoor แทน
ถ้าลองทำวิจัยอย่างจริงจัง อาจพบความจริงที่จะเป็น hidden value ของธุรกิจนี้ก็ได้ ว่าสมัคร เมมเบอร์ สิบคน หกเดือนผ่านไป เหลือมาใช้บริการกี่คน
ตรงนี้เท่ากับเป็นเงินกินเปล่าๆ
ยิ่งพวกที่สมัครตลอดชีพ ไม่มีทางได้เงินคืน แต่ตัวเองจะไปใช้บริการหรือเปล่า ไม่รู้ อาจจะครึ่งต่อครึ่งของจำนวนคนสมัครเลยก็ได้ เท่ากับทาง Cawow ได้เงินกินเปล่าไปฟรีๆ
ความจริง สนใจหุ้นตัวนี้อยู่ คิดว่าแนวโน้มคนกรุงจะหันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น คิดว่าโมเดลธุรกิจดี แต่ยังไม่มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับผ้บริหาร
just one life, use it!
- metro
- Verified User
- โพสต์: 861
- ผู้ติดตาม: 0
เป็นห่วง ผู้ถือหุ้น CAWOW จริงๆ
โพสต์ที่ 7
ผมเคยทำงานที่ CAWOW มาก่อนครับ เลยขอมองกลับกันนิดนึงครับ
ผมว่ามองว่า MEMBER สมัครตลอดชีพเป็นข้อเสียเต็มๆ คือ ต่อให้รับเงินมาก่อนจริง แต่รายรับสมาชิกท่านนั้นก็หมดลงแค่วันที่จ่ายเงิน ในอนาคตไม่มีการรับเงินอีก จะได้ก็แค่ค่าต่อสมาชิกปีละ 100 บาท แต่รายจ่ายของ CAWOW จะออกมาเป็นรูปแบบ Fix Cost เสียเป็นส่วนใหญ่ สมมติว่า MEMBER ทุกท่านสมัครแบบตลอดชีพจะเท่ากับว่าในอนาคตจะไม่มีรายรับ อีกต่อไป เมื่อถึงจุดหนึ่ง CAWOW ก็จะมีแต่รายจ่ายแต่ไม่มีราบรับครับ ก็จะกลายเป็นว่าธุรกิจมีแต่จ่ายเงินออกไป
ส่วน Model ธุรกิจผมว่ามันกินกันเป็น Area ครับ เพราะลูกค้าที่จะมาออกกำลังกายต้องเดินทางสะดวกครับ ใกล้บ้าน ดังนั้นถึงจุดอิ่มตัวได้เร็วในพื้นที่นั้นๆ ผมยกตัวอย่าง อย่างสาขาปิ่นเกล้า ช่วงแรกยอด Presale จะดีมากๆ เนื่องจากค่อนข้างใหม่ ค่าสมาชิกในช่วงแรก คือ 999 บาท (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) แล้วพอใกล้เปิด ราคาขึ้นไปถึงเดือนละ 1500-1700 บาทครับ ส่วน สมาชิกแบบตลอดชีพ คือ 50,000 บาท แต่ปัจจุบันธุรกิจถึงจุดอิ่มตัวเพราะคนที่สนใจใน Area นั้นได้มาสมัครหมดแล้ว จึงไม่สามารถขายสมาชิกได้ ราคาลดลงเหลือ 800 บาทต่อเดือน และ สมาชิกแบบตลอดชีพเหลือเพียง 30,000 กว่าบาท ที่ต้องลดราคาลงเพื่อดึงให้อุปสงค์ที่อิ่มตัวนั้นเพิ่มขึ้น แต่เหมือนกับว่าเป็นการสู้เฮือกสุดท้ายก่อนจะสิ้นใจนะครับ
แล้วพอลองมาดูกลุ่มลุกค้าในเส้นทางรถไฟฟ้าเกือบจะเต็มตั้งแต่เปิด สุขุมวิท 23 เพราะใน Area สีลมก็เสร็จสาขาสีลมไปเกือบหมด พอสาขาสุขุมวิท 23 เปิด ก็ดึงความต้องการใน Zone อโศก ทองหล่อ เอกมัย พระโขนง เพลินจิต ก็ถูกดึงไปหมด จากประเด็นนี้การเปิดสาขาในเอกมัย และ Club Woman จึงน่าอิ่มตัวเร็วขึ้นครับ
ส่วนสาขาอื่นๆที่กำลังจะเปิด ผมมองว่ายังไงก็คงจะเหมือนกับสาขาปิ่นเกล้า ที่จะถึงจุดอิ่มตัวภายใน 2 ปี แต่ต่างจังหวัดน่าจะถึงจุดอิ่มตัวนานกว่าครับ แต่สุดท้ายก็จะวนมาวัฏจักรเดียวกันครับ
ผมว่ามองว่า MEMBER สมัครตลอดชีพเป็นข้อเสียเต็มๆ คือ ต่อให้รับเงินมาก่อนจริง แต่รายรับสมาชิกท่านนั้นก็หมดลงแค่วันที่จ่ายเงิน ในอนาคตไม่มีการรับเงินอีก จะได้ก็แค่ค่าต่อสมาชิกปีละ 100 บาท แต่รายจ่ายของ CAWOW จะออกมาเป็นรูปแบบ Fix Cost เสียเป็นส่วนใหญ่ สมมติว่า MEMBER ทุกท่านสมัครแบบตลอดชีพจะเท่ากับว่าในอนาคตจะไม่มีรายรับ อีกต่อไป เมื่อถึงจุดหนึ่ง CAWOW ก็จะมีแต่รายจ่ายแต่ไม่มีราบรับครับ ก็จะกลายเป็นว่าธุรกิจมีแต่จ่ายเงินออกไป
ส่วน Model ธุรกิจผมว่ามันกินกันเป็น Area ครับ เพราะลูกค้าที่จะมาออกกำลังกายต้องเดินทางสะดวกครับ ใกล้บ้าน ดังนั้นถึงจุดอิ่มตัวได้เร็วในพื้นที่นั้นๆ ผมยกตัวอย่าง อย่างสาขาปิ่นเกล้า ช่วงแรกยอด Presale จะดีมากๆ เนื่องจากค่อนข้างใหม่ ค่าสมาชิกในช่วงแรก คือ 999 บาท (ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) แล้วพอใกล้เปิด ราคาขึ้นไปถึงเดือนละ 1500-1700 บาทครับ ส่วน สมาชิกแบบตลอดชีพ คือ 50,000 บาท แต่ปัจจุบันธุรกิจถึงจุดอิ่มตัวเพราะคนที่สนใจใน Area นั้นได้มาสมัครหมดแล้ว จึงไม่สามารถขายสมาชิกได้ ราคาลดลงเหลือ 800 บาทต่อเดือน และ สมาชิกแบบตลอดชีพเหลือเพียง 30,000 กว่าบาท ที่ต้องลดราคาลงเพื่อดึงให้อุปสงค์ที่อิ่มตัวนั้นเพิ่มขึ้น แต่เหมือนกับว่าเป็นการสู้เฮือกสุดท้ายก่อนจะสิ้นใจนะครับ
แล้วพอลองมาดูกลุ่มลุกค้าในเส้นทางรถไฟฟ้าเกือบจะเต็มตั้งแต่เปิด สุขุมวิท 23 เพราะใน Area สีลมก็เสร็จสาขาสีลมไปเกือบหมด พอสาขาสุขุมวิท 23 เปิด ก็ดึงความต้องการใน Zone อโศก ทองหล่อ เอกมัย พระโขนง เพลินจิต ก็ถูกดึงไปหมด จากประเด็นนี้การเปิดสาขาในเอกมัย และ Club Woman จึงน่าอิ่มตัวเร็วขึ้นครับ
ส่วนสาขาอื่นๆที่กำลังจะเปิด ผมมองว่ายังไงก็คงจะเหมือนกับสาขาปิ่นเกล้า ที่จะถึงจุดอิ่มตัวภายใน 2 ปี แต่ต่างจังหวัดน่าจะถึงจุดอิ่มตัวนานกว่าครับ แต่สุดท้ายก็จะวนมาวัฏจักรเดียวกันครับ