RS น่าจะ turn around ได้แล้วนะ

[Eyore]

ตอนแรกผมดู

กำไร Q1 = 7.845     ลบ.
กำไร Q2 = 35.308   ลบ.
กำไร Q3 = 69.36     ลบ.
รวม 9M = 112.513  ลบ.
8 กพ 50 ราคา 4.4 บาท BV 1.25 PBV 3.52
กำไร 9 เดือน 112 บาท
เฮียฮ้อบอกกำไรปีนี้ 180-200 ลบ.
่ถ้าทำได้ 200 ล้านจริงๆ EPS = 0.28 PE = 15.71

ก็ไม่เห็นมีอะไร

แต่ ผมไปเจอข่าวนี้

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2549
เรื่อง      ชี้แจงคุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
เรียน      กรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สำเนาถึง      เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์

ตามที่คุณ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ปีนี้อาร์เอส จะมีกำไรประมาณ 180 - 200 ล้านนั้นบริษัทขอชี้แจงที่มาของการคาดการณ์กำไรสุทธิดังกล่าวดังนี้

1.      บริษัทฯ จะมีการออกอัลบั้ม VCD คอนเสิร์ตโปงลางสะออน ซึ่งคาดว่าจะทำยอดขายไม่ต่ำกว่าอัลบั้มที่แล้วซึ่งเคยทำยอดขายได้กว่า 1 ล้านแผ่น ในเวลา 2 เดือน
2.      บริษัทฯ จะมีการนำภาพยนตร์ออกฉาย 2 เรื่องคือ ผีคนเป็นซึ่งฉายไปแล้วในเดือนตุลาคมและทำรายได้บอกซ์ออฟฟิส 35 ล้านบาท และเรื่องแสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า ในขณะที่ไตรมาสที่สาม ไม่มีภาพยนตร์ออกฉายเลย
3.      กำไรสุทธิ 3 ไตรมาสรวมกันอยู่ที่ 112.5 ล้านบาท และคาดว่ากำไรสุทธิของไตรมาสที่สี่ จะไม่น้อยกว่าไตรมาสที่สามซึ่งอยู่ที่ 69.3 ล้านบาท ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้วข้างต้น ในข้อ 1 และ 2
ด้วยที่มาทั้ง 3 ข้อดังกล่าวข้างต้นจึงทำให้บริษัทฯ คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 180 - 200 ล้านบาท

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
     ขอแสดงความนับถือ

     (นางพรพรรณ  เตชรุ่งชัยกุล)
     รองกรรมการผู้จัดการ

[Eyore]

ผมเลยไปหาข้อมูลมาได้ดังนี้

สรุปอันดับหนังทำเงิน ประจำสุดสัปดาห์ที่ 4 – 7 ม.ค. 2550

1.(1) Night at the Museum 13.2 ล้านบาท ยอดรวม 62.0 ล้านบาท / 11 วัน
2.(-) Blood Diamond 4.9 ล้านบาท ยอดรวม 4.9 ล้านบาท / 4 วัน
3.(9) Open Season 2.9 ล้านบาท ยอดรวม 3.2* ล้านบาท / 4 วัน
4.(2) มากับพระ 2.2 ล้านบาท ยอดรวม 11.0 ล้านบาท / 11 วัน
5.(4) The Holiday 1.5 ล้านบาท ยอดรวม 15.3 ล้านบาท / 18 วัน
6.(3) แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า 1.4 ล้านบาท ยอดรวม 96.6 ล้านบาท / 39 วัน
7.(7) A Battle of Wits 1.3 ล้านบาท ยอดรวม 5.9 ล้านบาท / 11 วัน
8.(6) คนไฟบิน 0.8 ล้านบาท ยอดรวม 15.2 ล้านบาท / 18 วัน
9.(5) Eragon 0.7 ล้านบาท ยอดรวม 55.0 ล้านบาท / 25 วัน
10.(-) The Black Dahlia 0.7 ล้านบาท ยอดรวม 0.7 ล้านบาท / 4 วัน

* รวมรายรับจากการฉายรอบพิเศษ

ตามติดด้วยตารางรายได้อันดับหนังช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อีก 1 ตาราง

สรุปอันดับหนังทำเงิน ประจำสุดสัปดาห์ที่ 28 – 31 ธ.ค. 2549

1.(-) Night at the Museum 32.6 ล้านบาท ยอดรวม 32.6 ล้านบาท / 4 วัน
2.(-) มากับพระ 5.4 ล้านบาท ยอดรวม 5.4 ล้านบาท / 4 วัน
3.(3) แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า 4.2 ล้านบาท ยอดรวม 91.9 ล้านบาท / 32 วัน
4.(4) The Holiday 3.0 ล้านบาท ยอดรวม 12.2 ล้านบาท/11 วัน
5.(1) Eragon 2.9 ล้านบาท ยอดรวม 52.7 ล้านบาท/ 18 วัน
6.(2) คนไฟบิน 2.7 ล้านบาท ยอดรวม 12.6 ล้านบาท / 11 วัน
7.(-) A Battle of Wits 2.6 ล้านบาท ยอดรวม 2.6 ล้านบาท / 4 วัน
8.(-) Arang 0.4 ล้านบาท ยอดรวม 0.4 ล้านบาท / 4 วัน
9.(-) Open Season 0.2 ล้านบาท ยอดรวม 0.2 ล้านบาท / ฉายรอบพิเศษ
10.(6) Deja Vu 0.2 ล้านบาท ยอดรวม 20.2 ล้านบาท / 27 วัน

หมายเหตุ–เป็นรายได้จากการประมาณการณ์ ซึ่งเป็นรายได้จากการลงโรงฉายในเขตกรุงเทพ, ปริมณฑล และเชียงใหม่

และ

“สุรชัย” เผยปี 50 มีแผนผลิตภาพยนตร์ 5-6 เรื่อง โดยคาดว่าใช้งบผลิตเรื่องละไม่เกิน 20 ล้านบาท โดยเชื่อว่าในปีหน้าธุรกิจภาพยนตร์สร้างกำไรให้บริษัทกว่า 200-300 ล้านบาท หลังปรับกลยุทธ์การตลาด                

[Jeng]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ด้วยที่มาทั้ง 3 ข้อดังกล่าวข้างต้นจึงทำให้บริษัทฯ คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 180 - 200 ล้านบาท 

ด้วย มาร์เก็ตแค๊บตอนนี้ ที่ราคา 4.4 บาท คือ 3080 ล้านบาท

ปีนี้ทั้งปีจะกำไร แค่นี้

แล้วจะเทินไปไหนนี่

[Eyore]

ผมเลยคิดว่า ต้นทุนเรื่องละ 20 ล้าน
ถ้าคิดค่าโฆษณาซัก 5 ลบ.

รวมกับ 27-28-29 ตุลาคม 2549 - คอนเสร์ท เดอะ โชว์ มาส โก สะออน
และแผ่นโปงลางขายได้ซัก 300,000 แผ่น กำไรแผ่นละซัก 50 บาท

ถ้ากำไรทั่วไป Q4 = 50 + ผีคนเป็น 10 + แสบสนิท 65 + โปงลาง 15 = 140 ลบ. รวมทั้งปี 250 ลบ.

EPS 0.35 ที่ราคานี้ PE 12.57 เองนะ

BEC 25,        GRAMMY 19.8,       MAJOR 17.47,        WORK 15.18

ผมเลยคิดว่า

RS น่าจะ turn around แล้วล่ะ
เพื่อนๆว่าไงครับ

[Eyore]

นอกจากเพื่อนๆคิดว่าบริษัทต่างๆดังกล่าวนั้น PE สูงเกินไปแล้ว

งั้น RS ราคานี้คงเป็นราคาที่เหมาะสมแล้วล่ะครับ

[Eyore]

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ด้วยที่มาทั้ง 3 ข้อดังกล่าวข้างต้นจึงทำให้บริษัทฯ คาดการณ์ว่ากำไรสุทธิของทั้งปีจะอยู่ที่ประมาณ 180 - 200 ล้านบาท 

ด้วย มาร์เก็ตแค๊บตอนนี้ ที่ราคา 4.4 บาท คือ 3080 ล้านบาท

ปีนี้ทั้งปีจะกำไร แค่นี้

แล้วจะเทินไปไหนนี่

เรื่องราคานี่เดาไม่ได้นะ

แต่ถ้าเรื่องผลประกอบการนี่ turn around แน่ๆ เพราะขาดทุนติดต่อกันมาหลายปี

[sunrise]

ปีหน้าล่ะครับ

จะประสบความสำเร็จทุกเรื่องหรือเปล่าครับ
หรือว่าจะเจอปัญหา หรือเปล่าครับ

ผมว่ามันน่ากลัวอยู่นา
แต่ต้องการบ้านเพิ่มครับ  :D

[Blueblood]

ปีหน้าคาดว่ากำไรระดับ 400 ล้านครับ เหตุผลลองตามอ่านในร้อยคนร้อยหุ้นได้

[Eyore]

อันนี้(คาดว่า)จะเป็นตัวทำเงินปีนี้ครับ



อาร์เอสไอ ดรีม เซ็นสัญญา ไชโย โปรดักชั่นส์ ซื้อลิขสิทธิ์ “Project Ultraman” ภาพยนตร์ทีวี ซีรี่ย์ส ชุดใหม่ พร้อมรับหน้าที่ดูแลด้านการตลาดตลอด 5 ปีเต็มในไทย ย้ำเป็นปรากฏการณ์ใหม่ด้านเทคนิคการถ่ายทำ ที่สมจริง สวยงาม อลังการ และเทคนิค CG ระดับภาพยนตร์ฮอลลีวูด ที่คาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดถ่ายทำแล้วเสร็จกว่า 80% พร้อมลงจอเอาใจแฟนพันธุ์แท้อุลตร้าแมนและผู้ชมชาวไทยที่แรกก่อนเปิดตัวสู่ตลาดโลก ในเดือนเมษายน 2550 นี้

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อาร์เอสไอ ดรีม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า อาร์เอส ไอดรีม เซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ ทีวี ซีรี่ย์สชุด “Project Ultraman” จากบริษัท ไชโย โปรดักชั่นส์ จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์อุลตร้าแมนอย่างเป็นทางการทั่วโลกยกเว้นประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัทจะทำหน้าที่ดูแลด้านเผยแพร่ และการตลาด ในรูปแบบต่างๆ ครบวงจร อาทิ ฟรีทีวี เคเบิลทีวี บรอดแบรนด์อินเตอร์เน็ต โฮมวีดีโอ นิวมีเดีย ดิจิตอลมีเดีย ให้กับ “Project Ultraman” ทั้งหมดในประเทศไทย เป็นเวลา 5 ปีเต็ม

“บริษัทยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัท ไชโย โปรดักชั่นส์ ฯ ให้ความไว้วางใจมอบลิขสิทธิ์ Project Ultraman ให้บริษัทเป็นผู้ดูแล พร้อมกับดำเนินการด้านการตลาด การร่วมมือกันครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่านโยบายของบริษัทยังคงเดินหน้าที่จะเป็นผู้ให้บริการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบที่สุดรายหนึ่งในประเทศ ซึ่ง Project Ultraman เป็นภาพยนตร์ ทีวี ซีรี่ย์ส ที่มีความโดดเด่น โดยเฉพาะกับคนไทยที่รู้จักและคุ้นเคยกับอุลตร้าแมนเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทมีความเชื่อมั่น และคาดว่า Project Ultraman จะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี” นายสุรชัยกล่าว

ด้านนายพีระศิษฎ์ แสงเดือนฉาย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไชโย โปรดักชั่นส์ จำกัด ผู้ถือลิขสิทธิ์ “อุลตร้าแมน” กล่าวว่า “Project Ultraman” เป็นภาพยนตร์ ทีวี ซีรี่ย์ส ซึ่งได้ศิลปินนักแสดงชื่อดังเข้าร่วมแสดงด้วย Ekin Cheng หรือ เจิ้งอี้เจี้ยน เป็น Ultraman Elite (อุลตร้าแมน อีลิท), เรย์ แมคโดนัลด์ เป็น Dark Ultraman (ดาร์ค อุลตร้าแมน) และ แมทธิว ดีน เป็น Ultraman Millennium (อุลตร้าแมน มิลเลเนียม) ร่วมด้วย พอลล่า เทเลอร์, สะอาด เปี่ยมพงษ์ศานต์ และ นิรุตติ์ ศิริจรรยา ใช้งบประมาณกว่า 150 ล้านบาทในการถ่ายทำด้วยเทคนิคพิเศษพร้อมการตัดต่อด้วยคอมพิวเตอร์ กราฟฟิคเช่นเดียวกับภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ทำให้มีความสมจริง อีกทั้งยังถ่ายทำที่ประเทศทิเบต ประเทศจีน ทำให้มีความสวยงาม และมีความยาวรวม 52 ตอน โดยบริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวและออกฉายในทั่วโลก โดยในประเทศไทยบริษัทได้มอบหมายให้อาร์เอสไอ ดรีม เป็นผู้ดูแลและดำเนินการด้านลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องและเป็นทางการ

ด้านนายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์เอสไอ ดรีม เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า “Project Ultraman” นับเป็นภาพยนตร์ ทีวี ซีรี่ย์ส ที่ถูกจับตามองมากที่สุดเรื่องหนึ่ง นอกเหนือจากเทคนิคการถ่ายทำ และตัดต่อที่ดีเยี่ยมแล้ว “Project Ultraman” ถือเป็นปรากฎการณ์ครั้งใหม่ในรอบ 25 ปี ของฮีโร่ที่คนไทยและคนทั่วโลกรู้จักและเฝ้ารอ ซึ่งขณะนี้การถ่ายทำและตัดต่อแล้วเสร็จกว่า 80% และพร้อมที่จะฉายในเมืองไทยได้ในราวเดือนเมษายน 2550 พร้อมกันนี้บริษัทมีแผนที่จะรุกตลาดด้วยกลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา จัดกิจกรรมด้านการตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีในปีหน้า โดยทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาท เพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างการรับรู้กับผู้บริโภคอย่างเต็มที่

ตามไปดูรูป
http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=61411

อันนี้นางเอก

[max77]

ปั่นล้วนๆ

[miracle]

turn aroundเพราะอะไร
นอกจากงบแล้วขอให้ดูพื้นฐานประกอบด้วย
ไม่งั้นเดี๋ยวได้ตกอยู่ในวังวนเดิม

[energizer]

น่าดูๆ ผมหมายถึงซีรี่นะ มีพอลลล่า เล่นด้วยอะ น่ารักๆ
เชียร์ขาดใจเลย

[Eyore]

เมื่อตอนต้นปีนะ คิดว่าตัวนี้ท่าทางจะเจ๋ง

พองบออกมา... หงายหลังตึง

ตั้งสำรองอะไรเป็นร้อยล้าน

ความหวังมลาย

Q1 ปีนี้น่าจะใกล้เคียงปีที่แล้วนะผมว่า แม้ว่าผู้บริหารบอกรายได้เพิ่ม

เพราะ Q1 ไม่มีหนังเข้าเลย

งาน Event ก็ไม่น่าจะมี

คงต้องรอดูไปเรื่อยๆ

รอดู Q2 ผีไม้จิ้มฟัน...ไปไม่รอด เมล์นรก...ท่าทางรุ่ง
Event ยังไม่ค่อยมี

ปล. มีเสียงกระซิบมาว่าตัวนี้ทำงบมั่วๆนะ ก็ดูๆไป ระวังไป

[Dech]

รอลุ้น เก็งกำไรได้มั่งครับ แต่เป็น้รื่องของปีหน้านะครับ

[mymoney]

เท่าที่ผมตามข้อมูล (และจากการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร) ธุรกิจภาพยนตร์ของอาร์เอสใช้วิธีคุมต้นทุนสร้างให้อยู่ในงบ แล้วหาสปอนเซอร์มาร่วมแชร์ค่าใช้จ่าย วิธีนี้ใช้กับเรื่อง "รักจัง" เป็นเรื่องแรก (สปอนเซอร์คือ ais) ด้วยแนวคิดแบบนี้ ผู้บริหารบอกว่า หนังแต่ละเรื่องที่สร้างจะคุ้มทุนตั้งแต่ที่ยังไม่ฉาย เพราะฉะนั้นเมื่อเข้าโรงฉายแล้ว ฉายได้เงินเท่าไหร่ แบ่งกับโรง ที่เหลือเป็นกำไรเนื้อๆครับ ถ้าทำได้ตามนี้จริง เท่ากับว่าหนังแต่ละเรื่องของอาร์เอสปิดประตูขาดทุน กำไรมากหรือน้อยเท่านั้นเอง

ส่วนเรื่องงบการเงิน ที่ว่ามีการตั้งสำรอง ต้องรบกวนขอช่วยอธิบายด้วยครับ เผื่อเป็นข้อมูลช่วยในการตัดสินใจว่าจะเอายังไงกับตัวนี้ดี

ป.ล.ผมมีอาร์เอสอยู่ครับ ติดมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วครับ

[metro]

ถ้ากลับจากขาดทุนมาเป็นกำไรได้ก็ถือว่าดีครับ

แต่ที่จะมองว่า Turn Around  ได้คงต้องมองระยะยาวๆนะครับ ไม่ใช่ว่ากำไรมาดีปีนี้ ปีหน้ากำไรลดลง คงไม่ใช่อะไรที่จะมาลงทุนยาวๆได้ครับ ถ้าจะลงทุนคงแบบฉาบฉวยแบบรายไตรมาสเลยนะครับ

ลองมาวิเคราะห์หุ้นแบบมองแต่ตัวเลขดูนะครับ

RS 4 ปีที่ผ่านมา รายรับโตทุกปีครับ แต่อัตราการทำกำไรค่อนข้างผันผวน อยู่ในระดับต่ำสุดที่ "ติดลบ 15.76 เปอร์เซ็น" และสูงสุดที่ "5.50 เปอร์เซ็นต์" ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่า RS คงไม่มีปัญหาเรื่องการเพิ่มรายรับ แต่คงมีปัญหาเรื่องการควบคุมต้นทุนหรือควบคุมอัตราการทำกำไรขั้นต้นนะครับ ซึ่งถ้าระดับการทำกำไรต่างกันถึงระดับติดลบ 15.76 เปอร์เซ็นต์ มาถึงระกับการทำกำไรเพียง 5.50 เปอร์เซ็นต์ อัตราการห่างของเปอร์เซ็นต์ระหว่างจุดสูงสุดถึงจุดต่ำสุดใน 4 ปีที่ผ่านมานั้นมากถึง 21.26 เปอร์เซ็นต์ หุ้นตัวนี้คงเป็นอะไรที่คาดการณ์กำไรในอนาคตลำบากละครับ ถ้าจะมองว่าถือแล้วลงทุนยาวๆคงจะไม่ใช่ครับ คงเป็นประเภทได้แล้วทิ้งมากกว่า

ลองศึกษากำไรย้อนหลังของธุรกิจ Grammy หรือ Gmmm ที่คล้ายๆกับ RS จะทราบถึง model ของรายรับและกำไรได้เลยครับ Pattern จะคล้ายๆกันคือ รายรับแนวโน้มจะมากขึ้น แต่เปอร์เซ็นต์ของกำไรจะลดลงเรื่อยๆทำให้ EPS ที่ออกมาสาละวันเตี้ยลงครับ

[naris]

ซื้อขายหุ้น(ลงทุน)ต้องไม่ลืมดูTIMINGนะครับ

[NinjaTurtle]

หลักทรัพย์ RS  
 หัวข้อข่าว เอกสารแนบ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม  
 วันที่/เวลา 23 เม.ย. 2550 09:18:01  
 
 
 
                                                       เอกสารแนบ 1


       รายละเอียดเบื้องต้นของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น


ชนิดของใบสำคัญแสดงสิทธิ   :  ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ชนิดระบุชื่อผู้ถือและเปลี่ยนมือได้

ตลาดรองของใบสำคัญแสดงสิทธิ : บริษัทฯจะนำใบสำคัญแสดงสิทธิ ไปจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จด
ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ตลาดรองของหุ้นสามัญที่เกิดจากการใช้สิทธิ  :  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

จำนวนที่ออกและเสนอขาย  :      175,000,000 หน่วย

ราคาเสนอขายต่อหน่วย  :    หน่วยละ 0 บาท (ศูนย์บาท)

อายุของใบสำคัญแสดงสิทธิ  :    3 ปี นับจากวันออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ

อัตราการใช้สิทธิ  : ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย ต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น (อาจเปลี่ยนแปลงได้ภาย
หลังตามเงื่อนไขการปรับสิทธิ)

ราคาการใช้สิทธิ  :   ใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย สามารถใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ ใน
ราคาหุ้นละ 1.80 บาท (หนึ่งบาทแปดสิบสตางค์) (อาจเปลี่ยนแปลงได้ภายหลังตามเงื่อนไข
การปรับสิทธิ)

จำนวนหุ้นสามัญที่ออกเพื่อรองรับ  :  175,000,000 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท)
คิดเป็นร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดจำนวน 700,000,000 หุ้น ณ วันที่
31 มีนาคม 2550

ระยะเวลาเสนอขาย  :  เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียน
ผู้ถือหุ้น ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น   ซึ่งจะกำหนดอีกครั้งภายหลังวันที่ได้รับอนุญาตจาก
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

วันออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ  :  ภายใน 6 เดือน หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากสำนัก
งานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

วิธีการจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ  :
จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่มีรายชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันปิดสมุดทะเบียน
พักการโอนหุ้น   ซึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งภายหลังจากวันที่ได้รับอนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการ
กำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์    ทั้งนี้ จะจัดสรรในอัตรา 4 หุ้น (สี่หุ้น) เดิม ต่อ 1 หน่วย
(หนึ่งหน่วย) ใบสำคัญแสดงสิทธิ  (เศษที่เกิดจากการคำนวณให้ปัดเศษดังกล่าวทิ้ง) ในกรณีที่มีใบ
สำคัญแสดงสิทธิคงเหลือจากการจัดสรรตามสัดส่วนตามจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่บริษัทนำออกเสนอ
ขาย บริษัทจะพิจารณาการยกเลิกใบสำคัญแสดงสิทธิในส่วนที่เหลือดังกล่าวต่อไป

ระยะเวลาการใช้สิทธิ  : ใช้สิทธิในวันทำการสุดท้ายของทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุของใบสำคัญ
แสดงสิทธิ  ในกรณีที่วันใช้สิทธิดังกล่าวตรงกับวันหยุดทำการของบริษัทให้เลื่อนวันใช้สิทธิเป็นวัน
ทำการถัดไป

โดยกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก จะเกิดขึ้นหลัง 1 ปี นับจากวันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ

วันกำหนดใช้สิทธิครั้งสุดท้าย  :  เมื่อสิ้นอายุใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายเป็น
ไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ระยะเวลาแสดงความจำนงในการใช้สิทธิครั้งสุดท้าย : ไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย

การปรับสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ  : ในกรณีที่มีเหตุแห่งการปรับสิทธิตามประกาศคณะกรรมการกำกับ
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ กจ. 13/2547  เรื่องการขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายใบ
สำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นที่ออกใหม่และหุ้นที่ออกใหม่เพื่อรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิ ข้อ 12 (4) (ข)
ให้คณะกรรมการบริษัทฯ หรือ บุคคลที่คณะกรรมการมอบหมาย  เป็นผู้พิจารณากำหนดเงื่อนไข และ
รายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปรับหรือเปลี่ยนแปลงอัตราการใช้สิทธิ และราคาการใช้สิทธิ


เงื่อนไขอื่น  : ให้คณะกรรมการบริษัทฯ  หรือ บุคคลที่คณะกรรมการมอบหมาย เป็นผู้มีอำนาจในการ
กำหนดและเปลี่ยนแปลง หลักเกณฑ์ ข้อกำหนด เงื่อนไข และ รายละเอียดอื่นๆ ของใบสำคัญแสดง
สิทธินี้ และ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นสามัญ เพื่อกำหนดสิทธิในการได้รับจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ
ตลอดจนมีอำนาจในการกำหนดเหตุแห่งการออกหุ้นใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิ
และ/หรือ อัตราการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ    การเข้าเจรจา ตกลง ลงนามในเอกสาร
และสัญญาต่างๆที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง  การดำเนินการต่างๆ อันจำเป็นและสมควรอันเกี่ยวเนื่องกับ
ใบสำคัญแสดงสิทธิและการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการนำใบสำคัญ
แสดงสิทธิ และหุ้นสามัญที่ออกเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิเข้าจดทะเบียนเป็น
หลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตลอดจนดำเนินการขออนุญาตต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งมีอำนาจในการดำเนินการใดๆตามที่จำเป็นและเกี่ยวเนื่องกับการออกใบสำคัญแสดงสิทธิ
ในครั้งนี้

ผลกระทบด้านการลดลงของสัดส่วนการถือหุ้น (Control Dilution)

ผู้ถือหุ้นเดิมจะไม่ได้รับผลกระทบจากการลดลงของสัดส่วนการถือหุ้นและสิทธิออกเสียงในขณะออก
และเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ เนื่องจากเป็นการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น
อย่างไรก็ตาม หากมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นครบถ้วนตามใบสำคัญแสดงสิทธิโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ถือหุ้นเดิม
ทั้งจำนวน จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมลดลง ประมาณร้อยละ 20

ผลกระทบต่อราคาตลาดของหุ้น (Price Dilution)

ผลกระทบต่อราคาตลาดของหุ้น (Price Dilution) เมื่อมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
ประมาณ  ร้อยละ 12.07

ผลกระทบด้านการลดลงของส่วนแบ่งกำไร (Earning Dilution)

กำไรสุทธิ ณ 31 ธ.ค. 2549                   154,662,702  บาท
จำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด                 700,000,000  หุ้น
กำไรต่อหุ้น ณ 31 ธ.ค. 2549                         0.22  บาท
จำนวนหุ้นรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่ออก            175,000,000  หุ้น
จำนวนหุ้นทั้งหมดหลังออกใบสำคัญแสดงสิทธิ          875,000,000  หุ้น
กำไรต่อหุ้นหลังออกหุ้นใหม่                             0.18  บาท
Earning Dilution  (ประมาณ)                    20.00%

[007-s]

จากที่ดู วอแรนท์ที่ออกมา ขอถามผู้ติดตามผลงาน อาร์เอสหน่อยค่ะ ว่าท่านใด คิดว่า ปีนี้ กำไรบริษัทจะโตได้ 50% ขึ้นไป จากปีที่ผ่านมาบ้าง

[NinjaTurtle]

แหงะจาก 154 เป็น 308 ล้าน คงยากหนะพี่สายลับสาวสวย (นอกจากเล่นกลบัญชี ฮิฮิ ดร.ภาพร คงจะได้ข้อมูลไปเขียนต่อได้อีก )

ขอคำแนะนำด้วยครับว่าทำไมถึงตั้งโจทย์เป็น 50%  เพราะจำนวน W ที่ออกหรือครับ

[007-s]

[quote="NinjaTurtle"]

ขอคำแนะนำด้วยครับว่าทำไมถึงตั้งโจทย์เป็น 50%

[NinjaTurtle]

ขอบคุณครับที่มาอธิบายความในใจ บุญกุศลขอให้ซือเจ้สวยวันสวยคืน