ย้อนมอง 10 ปีชีวิตการลงทุน ของ "ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" Value Investor คนแรกๆ ของเมืองไทย 10 ปีพิสูจน์ให้เห็นว่า การย่ำตามรอย "วอร์เรน บัฟเฟตต์" เจ้าตำรับหุ้นมูลค่า คือเส้นทางที่ถูกต้อง การันตีด้วยดีกรี "รวยหุ้น 26 เท่า" ของเงินลงทุนก้อนแรก ที่สาวก VI ในวงการยกให้เป็น "เซียนหุ้นมูลค่า"
ผลจากการลงทุนระยะยาวและมีเงินลงทุนในหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยสไตล์การลงทุนแบบ "หุ้นมูลค่า" (Value Investment) ของ "ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" ทำให้มูลค่าหุ้นในพอร์ต (เฉพาะเงินลงทุนครั้งแรก) ซึ่งครบรอบ 10 ปีนับตั้งแต่เริ่มลงทุน เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากเงินลงทุนกว่า 10 ล้านบาท เมื่อครั้งเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 เพิ่มขึ้น 26 เท่าตัวในวันนี้
"ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" นักลงทุนหุ้นมูลค่า อธิบายว่า ผลตอบแทนของพอร์ตลงทุนที่เพิ่มขึ้นนี้ เป็นการคำนวณเฉพาะเงินลงทุนก้อนแรกที่เริ่มลงทุนกว่า 10 ล้านบาทเท่านั้น เมื่อผลตอบแทนทบต้นไปเรื่อยๆ เป็นระยะเวลา 10 ปี ก็ทำให้พอร์ตลงทุนเงินก้อนแรกเติบโตเป็น 26 เท่ากว่า หรือเฉลี่ยราว 40% ต่อปี
โดยไม่ได้คิดผลตอบแทนจากเงินลงทุนที่ได้ "ใส่เพิ่ม" เข้าไปอีกในช่วง 4-5ปีหลังมานี้
วันนี้พอร์ตลงทุนของดร.นิเวศน์ จึงไม่ได้มีมูลค่าแค่ 260 ล้านบาทเท่านั้น
แต่สาวก VI ประเมินกันว่า มูลค่าของพอร์ตน่าจะสูงถึง 500-600 ล้านบาทไปแล้ว จากเงินลงทุนที่เขาได้ใส่เพิ่มเข้าไปอีกในช่วงปีหลังๆ บวกกับผลตอบแทนทบต้นที่เพิ่มขึ้น
ไม่เพียงเท่านั้น สาวก VI คาดว่า ปัจจุบัน ดร.นิเวศน์ เก็บกินเงินปันผลจากหุ้นที่มีในพอร์ตกว่า 10 บริษัทราวๆ 10 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นผลตอบแทนจากปันผลประมาณ 10% ต่อปี
"การลงทุนช่วง 10 ปีมานี้ เป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์มาก เพราะผลจากการลงทุนทบต้นให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นถึง 26 เท่าตัว หรือคิดเป็นผลตอบแทนเฉลี่ย 40% ต่อปี แม้ผมจะขาดทุนไป 1 ปี แต่ไม่ได้ขาดทุนจริง เพราะเป็นการลงทุนระยะยาว เงินลงทุนทั้งหมดอยู่ในหุ้นตลอด
เพียงแต่ปีนั้นกำไรลดลง เพราะก่อนหน้านั้นตลาดหุ้นได้เพิ่มขึ้นถึง 117% ผมได้กำไร 147% แต่มาปี 2546-2547 กำไรของพอร์ตลดลง เพราะราคาหุ้นได้ขึ้นไปมากในปีก่อนหน้า" เจ้าตำรับนักลงทุนหุ้นมูลค่าแบบของตลาดหุ้นไทย กล่าว
ดร.นิเวศน์บอกว่า ในรอบ 50 ปีการลงทุนของ "วอร์เรน บัฟเฟตต์" สุดยอดเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก ได้รับผลตอบแทนทบต้นประมาณ 30% ต่อปี แต่เขาได้ผลตอบแทนทบต้นราว 40% ต่อปี จึงรู้สึกมหัศจรรย์มาก
แม้การลงทุนเป็นเรื่องยาก แต่ ดร.นิเวศน์ เชื่อว่า หากลงทุนในหุ้นตลอดเวลา ในทุกๆ 3 ปี ผลตอบแทนจะทบต้น และพอร์ตจะเติบโตเร็วเป็นเท่าตัว
ในปี 2549 ผ่านไปสดๆ ร้อนๆ ดร.นิเวศน์ มีกำไรจากการลงทุน 30% เทียบกับตลาดหุ้นไทยที่ให้ผลขาดทุน
แต่ก็ใช่ว่าผลตอบแทนจากการลงทุนจะเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงเช่นนี้เรื่อยไป เนื่องจากมูลค่าพอร์ตที่ใหญ่ขึ้นมาก จะทำให้การเติบโตได้ไม่มากนัก
"จากนี้ไปผมหวังกำไรแค่ 15% ต่อปี ก็ถือว่าหรูแล้ว แต่ถ้ามองผลตอบแทนทบต้นย้อนหลังช่วงก่อนหน้า จะเห็นว่าทำกำไรได้สูงมาก"
10 ปีที่ผ่านมา ดร.นิเวศน์ ยืนหยัดในหลักการลงทุนในหุ้นระยะยาว เลือกลงทุนในหุ้นที่ดี ถูกตัว แล้วถือเก็บไว้ โดยไม่ต้องทำอะไร
"การลงทุนแบบนี้ เมื่อได้หุ้นถูกตัวแล้วอย่าไปยุ่งกับมัน เหตุที่ผมได้ผลตอบแทน 26 เท่าในเวลา 10 ปี ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในหุ้นเก่าๆ ที่โตขึ้นมาเอง ไม่ได้ไปทำอะไร แม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลง ก็ไม่ได้สนใจ เพราะหุ้นเราไม่ได้ตกหรือตกน้อยกว่า จึงไม่ต้องขายหรือเดือดร้อน ฉะนั้นยิ่งเราลงทุนระยะยาวจะไม่ขาดทุน เพราะมีต้นทุนที่ต่ำ ทำให้ได้กำไรหลายร้อยเปอร์เซ็นต์
วอร์เรน บัฟเฟตต์ ใช้แนวทางลงทุนแบบนี้ ในชีวิตการลงทุนของเขา 50 ปี ซื้อหุ้นไม่กี่ตัว เช่นหุ้น โคคา-โคลา ซึ่งต้องนับว่าเป็นบริษัทที่มหัศจรรย์มาก เพราะเติบโตได้มาก คิดดูว่า หากชาวจีนร่ำรวยขึ้น กินโค้กกันพันล้านคน ลงทุนในหุ้นตัวนี้ก็จะมั่นใจได้ว่า ระยะยาวจะเติบโตไปอีกมาก"
แต่การลงทุนแบบหุ้นมูลค่าก็ให้ผลขาดทุนได้ ถ้าหากไม่ "ถูกจังหวะ" ..
"มีคนบอกว่า ผมโชคดีที่เข้าตลาดหุ้นในช่วงที่หุ้นตกและเกิดวิกฤติ พอร์ตจึงโตเร็ว แต่ถ้าดูช่วงที่ผมลงทุนจะเห็นว่า ตอนนั้นดัชนี 832 จุด แต่วันนี้หุ้นลงมาอยู่ที่ 600 จุดกว่า แสดงว่าดัชนีหุ้นไม่ได้ขึ้นเลย ไม่ได้กำไร อย่างมากเสมอตัว ไม่ได้ดอกผล แต่การที่ผมเข้าลงทุนถูกปี แม้ตลาดหุ้นมีความเสี่ยง แต่ลงทุนระยะยาวจะเสี่ยงน้อยกว่า
ดัชนีหุ้นเริ่มจาก 100 จุด วันนี้ 600 กว่าจุด เป็นเวลา 30 ปี คิดเป็นผลตอบแทนทบต้น 5-6% บวกเงินปันผลก็ได้เกือบ 10% ต่อปี ถือว่าใช้ได้ เทียบกับตลาดหุ้นสหรัฐ 100 ปี เฉลี่ยผลตอบแทน 11% ต่อปี"
ฉะนั้น หากผู้ลงทุนเข้าลงทุนในตลาดหุ้นถูกจังหวะเวลา ก็ถือว่าได้เปรียบ
คิดง่ายๆ จากช่วงหุ้นตกอย่างรุนแรง จนดัชนีลงไปอยู่ที่ 200 จุด เมื่อ 5 ปีก่อน ตอนนี้มาอยู่ที่ 600 จุด เท่ากับเพิ่มขึ้น 3 เท่า ในช่วงเวลา 5 ปี
แล้วเข้าตลาดหุ้นช่วงไหนถึงจะดี..??
ดร.นิเวศน์ บอกว่า โดยส่วนตัวเขาจะใช้ดูค่า พี/อี ของหุ้นเป็นตัวบอกว่าราคาหุ้นถูกหรือแพง เช่น ค่าพี/อี 15 เท่า ถือว่าค่อนข้างแพง
"ตลาดหุ้นช่วงนี้ค่าพี/อี 10 เท่า เฉลี่ย 30 ปี ค่าพี/อี 10 เท่า ถามว่าหุ้นราคาถูกมั้ย ต้องบอกว่าไม่ถูก ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐอยู่ที่ 13-14 เท่า เฉลี่ย 100 ปี ตอนที่ดัชนี 200 จุด ค่าพี/อี 5-6 เท่า ถือว่า เป็นจังหวะที่ดีเพราะราคาต่ำมาก ซื้อหุ้นที่มั่นคงอย่าง "ปูนใหญ่" มาถึงวันนี้รวยเละ เพราะราคาขึ้นมา 10 เท่า"
เขามองว่า ช่วงดัชนี 600 กว่าจุดอย่างในขณะนี้ อยู่ในข่าย "ลงทุนได้" ยิ่งถ้าถือลงทุนยาวจะได้ผลตอบแทนที่ดี
"จากสถิติบอกว่า การลงทุนในหุ้นจะให้ความมั่นคงและปลอดภัยมากสุด มากกว่าการฝากเงินและซื้อพันธบัตร เพราะจะมีความเสี่ยงอยู่ที่อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ถ้าเก็บหุ้นไว้ราคาขึ้นปีละ 10% ถือว่าลงทุนในหุ้นปลอดภัยสุด เพราะป้องกันเงินเฟ้อได้ ฉะนั้น ถ้าอนาคตอยากมีสินทรัพย์ที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าคนอื่นหน่อย ก็ต้องมีกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นด้วย"
นอกจากจะเห็นจังหวะการลงทุนก่อนคนอื่นจากการใช้วิธีเลือก "หุ้นมูลค่า" เป็นคนแรกๆ ของเมืองไทย ยังทำให้ ดร.นิเวศน์ มีโอกาสเลือกหุ้นราคาถูก อย่าง "หุ้นมาม่า" ที่เมื่อ 10 ปีก่อนราคาไม่ถึง 100 บาทต่อหุ้น
"ตอนนั้นมาม่าขายดีมาก แม้จะเป็นช่วงเศรษฐกิจตก กำไรก็ดี ดูผลงานย้อนหลัง 5 ปี กำไรเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ราคาหุ้นถูกมาก บริษัทลงทุน 100 บาท แต่ผมซื้อในราคา 50 บาท ในโลกธุรกิจไม่มีแบบนี้ แต่การลงทุนในหุ้นมีโอกาสอย่างนี้
ตอนนั้นผมมีเงิน 10 ล้านบาท ถ้าฝากแบงก์ได้ดอกเบี้ย 3% ตกปีละ 3 แสนบาท คิดเป็นรายเดือนๆ ละ 3 หมื่นบาทต่อเดือน ก็อาจอยู่ได้ แต่ลำบาก เพราะต้องส่งลูกเรียน ก็มาคิดว่าถ้าซื้อหุ้นมาม่าแล้วไม่ขายต่อ ถือต่อไป เพราะช่วงนั้นไม่มีคนซื้อและขาย กินปันผลอย่างเดียว
ก็มาดูว่า บริษัทกำไรปีละ 20 บาท จ่ายปันผล 10 บาท เฉพาะเงินปันผลปีละ 10 บาท เทียบกับฝากแบงก์ได้ดอกเบี้ย 3% แต่เงินปันผลเพิ่มขึ้นทุกปี
ผมมั่นใจว่า บริษัทจะจ่ายปันผลในอัตรานี้เพราะได้ศึกษาย้อนหลัง พบว่า หนี้ไม่มี เงินมีมาก และยอดขายได้มาก ไม่เคยลดลง กำไรจึงเพิ่มขึ้นตลอด ทำให้เงินปันผลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะมีเงินสดในมือจำนวนมาก แสดงว่าโอกาสที่มาม่าจะเจ๊งยาก เพราะคนกินหลายล้านซอง ซึ่งตอนนั้นราคามาม่าถูกมากแค่ 4.5 บาทต่อซอง ยังมีโอกาสขึ้นราคาได้อีก ถ้าหากต้นทุนเพิ่มขึ้น"
มาม่า จึงเป็นหุ้นที่ "ใช่เลย" เขาจึงตัดสินใจลงทุนประมาณ 10-20% ของเงิน 10 ล้านบาท เมื่อราว 10 ปีที่แล้ว
10 ปีผ่านไป ตอนนี้ราคาหุ้นมาม่าขึ้นมา 500 บาท (ไม่ได้แตกพาร์) จากราคาไม่ถึง 100 บาท แต่ตอนนี้เขาเหลือหุ้นไม่กี่หมื่นหุ้น เท่านั้น
"วันนี้ไม่มีหุ้นแบบ "มาม่า" อีกแล้ว แต่ยังพอมีหุ้นให้เลือกซื้อได้ อย่างหุ้น "โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์" ที่ออกจากแผนฟื้นฟู จัดเป็นธุรกิจที่ดี มีรายได้จากการบริการราคาแพง กำไรดี เนื่องจากคนประเทศตะวันออกกลางมาใช้บริการกันมาก จึงทำให้เติบโตได้ดี เพราะอนาคตไทยจะเป็นศูนย์กลางการแพทย์ จะเห็นว่าธุรกิจในปัจจุบันและอนาคตไปได้ดี บริษัทกำไรดี ไม่มีหนี้ ความเสี่ยงจึงน้อย แต่ตอนนี้ราคาหุ้นบำรุงราษฎร์ขึ้นไม่ได้ เพราะค่า พี/อี สูง ราคาแพง 3 เท่า เจ้าของจ่าย 100 บาท แต่เราต้องซื้อถึง 300 บาท
ตอนนั้นผมรอตั้งแต่ 30 บาท จนราคาไปถึง 300 บาท แต่ก็ไม่ได้ซื้อ ตรงนี้ถือเป็นศิลปะการลงทุนของแต่ละคนด้วย"
อย่างไรก็ตาม ดร.นิเวศน์ บอกว่า หากเกิดเหตุการณ์พิเศษ ทำให้ราคาหุ้นบำรุงราษฎร์ปรับตัวลง ก็ควรจะเข้าซื้อเพื่อการลงทุนได้
ขณะที่หุ้นน้ำมันหรือธุรกิจที่ซับซ้อนและเข้าใจยาก จะไม่ยอมเอาเงินลงทุนไปผูกไว้เด็ดขาด
เซียนหุ้นมูลค่า ให้แนวทางลงทุนในปี 2550 ไว้ด้วยว่า ต้องเน้นความปลอดภัยและเลือกหุ้นประเภท Defensive Stock ที่เป็นธุรกิจมั่นคง ยอดขายแน่นอน มีปัจจัยกระทบต่อผลกำไรน้อย เนื่องจากปีนี้มีความผันผวนรุนแรง จากความเสี่ยงสูงทางการเมือง ดอกเบี้ย ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อ จึงต้องเลือกหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้
"ชีวิตผมอยากมีหุ้นเพียง 10 ตัว มีโอกาสขึ้นอย่างเดียว แต่อาจมีบางตัวลงบ้าง แต่อีก 9 ตัว ราคาขึ้นก็ไม่เดือดร้อน เราต้องทำให้การลงทุนในหุ้นเป็นเรื่องสบายและนอนหลับฝันดี ถึงจะมีความสุขกับการลงทุน" เซียนหุ้นมูลค่า ปิดท้ายไว้อย่างนั้น
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 1
http://www.bangkokbizweek.com/20070202/ ... 45028.html
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 3
การลงทุนต้องจินตนาการไปในอนาคต
สองคนยลตามช่อง เห็นไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์
ที่ผู้รู้บอกว่าการลงทุนเป็นศิลปะ ท่าจะจริง..
สองคนยลตามช่อง เห็นไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์
ที่ผู้รู้บอกว่าการลงทุนเป็นศิลปะ ท่าจะจริง..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 5
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ดร.นิเวศน์ บอกว่า โดยส่วนตัวเขาจะใช้ดูค่า พี/อี ของหุ้นเป็นตัวบอกว่าราคาหุ้นถูกหรือแพง เช่น ค่าพี/อี 15 เท่า ถือว่าค่อนข้างแพง
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 6
ถึงแม้จะยังมีหลายท่านที่มีผลตอบแทนสูงกว่าท่านดร.นิเวศน์
แต่การอุทิศและเผยแพร่ความรู้ หลักการในการลงทุนแนว VI เป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งสำหรับประเทศไทยครับ
แต่การอุทิศและเผยแพร่ความรู้ หลักการในการลงทุนแนว VI เป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่งสำหรับประเทศไทยครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 45
- ผู้ติดตาม: 0
บทความนี้มาจากงานสัมมนา หนทางสู่ความมั่งคั่ง โดยซิตี้แบงก์
โพสต์ที่ 7
ผมเองก็ไปร่วมสัมมนานี้ ผมรู้สึกว่าเราควรให้เกียรติแก่ผู้จัดงานและตัวผู้บรรยาย ดร.นิเวศน์เอง ผู้สื่อข่าวคนนี้ไม่ควรทำเหมือนเป็นบทความของตนเอง และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางซิตี้แบงก์เชิญ ดร.นิเวศน์มาบรรยาย เดือนหน้าทางซิตี้แบงก์ก็จะจัดสัมมนาอีก ไว้ผมจะมาส่งข่าวถ้ามีคนสนใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 41
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 8
สุดยอด vi จริงๆ ขอบคุณคุณลูกอิสานมากค่ะที่นำมาให้อ่านเพื่อเป็นพลังให้อดทนสู่การเป็น vi ให้ได้ ไม่ทราบว่า คุณ Misterjai พอจะบอกได้มั๊ยว่า อาจารย์เปิดสอนอยู่ที่ไหนเหรอค่ะ อยากจะเรียนด้วยคนค่ะ
- tattoo_thai
- Verified User
- โพสต์: 291
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 9
คุณลูกอีสานก็สุดยอดมากเลยครับอาจารย์ของเราทำสำเร็จให้ดูแล้ว
ขึ้นอยู่กับลูกศิษย์ว่าจะทำให้ดีแค่ไหน
ตอนนี้ 7 ปี ยังได้ 9 เท่า
ต้องเรียนรู้อีกเยอะครับ..
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 10
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เขียน:ย้อนมอง 10 ปีชีวิตการลงทุน ของ "ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" Value Investor คนแรกๆ ของเมืองไทย 10 ปีพิสูจน์ให้เห็นว่า การย่ำตามรอย "วอร์เรน บัฟเฟตต์" เจ้าตำรับหุ้นมูลค่า คือเส้นทางที่ถูกต้อง การันตีด้วยดีกรี "รวยหุ้น 26 เท่า" ของเงินลงทุนก้อนแรก ที่สาวก VI ในวงการยกให้เป็น "เซียนหุ้นมูลค่า"
ขอยึดถือไว้เป็นแบบอย่างครับลูกอิสาน เขียน:อาจารย์ของเราทำสำเร็จให้ดูแล้ว
ขึ้นอยู่กับลูกศิษย์ว่าจะทำให้ดีแค่ไหน
ตอนนี้ 7 ปี ยังได้ 9 เท่า
ต้องเรียนรู้อีกเยอะครับ..
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 360
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 12
ชอบประโยคนี้มากครับลูกอิสาน เขียน:http://www.bangkokbizweek.com/20070202/ ... 45028.html
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 14
ผมว่านี่อาจจะเป็นลักษณะเด่นของตลาดหุ้นไทย ที่มักจะมีวิกฤตมาเป็นระยะๆ จึงเป็นโอกาสให้ นักลงทุนผู้ชาญฉลาด สร้างผลตอบแทนได้บ่อยครั้งกว่าดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร เขียน:ดร.นิเวศน์บอกว่า ในรอบ 50 ปีการลงทุนของ "วอร์เรน บัฟเฟตต์" สุดยอดเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก ได้รับผลตอบแทนทบต้นประมาณ 30% ต่อปี แต่เขาได้ผลตอบแทนทบต้นราว 40% ต่อปี จึงรู้สึกมหัศจรรย์มาก
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 15
นับถือและยกย่องท่าน ดร.มานาน
ทั้งในเรื่องความสามารถการลงทุน บทความวิชาการ ความมีน้ำใจ
สิ่งที่ ท่าน ดร. เขียน แนวความคิด การเตือน ประสบการณ์หลายอย่าง ทำได้อย่างยอดเยี่ยม
ขอแสดงความนับถืออย่างสูงอีกครั้ง
ทั้งในเรื่องความสามารถการลงทุน บทความวิชาการ ความมีน้ำใจ
สิ่งที่ ท่าน ดร. เขียน แนวความคิด การเตือน ประสบการณ์หลายอย่าง ทำได้อย่างยอดเยี่ยม
ขอแสดงความนับถืออย่างสูงอีกครั้ง
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 17
[quote="เฟยหง"]นับถือๆๆ
"Be sure you put your feet in the right place, then stand firm"
Abraham Lincoln
Abraham Lincoln
- OutOfMyMind
- Verified User
- โพสต์: 1242
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 18
ขอบคุณมากครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 109
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 19
7 ปีเศษ 43 เท่า ..................
น้อยเกินไปหรือเปล่าครับ ..................
อัตราผลตอบแทนทบต้นต่อปีอยู่ที่เท่าไรนะครับ .........................
น้อยเกินไปหรือเปล่าครับ ..................
อัตราผลตอบแทนทบต้นต่อปีอยู่ที่เท่าไรนะครับ .........................
-
- Verified User
- โพสต์: 109
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 20
ผมว่าาคนที่ทําผลตอบแทนได้สูงกว่าผมในเว็บนี้ ......................
น่าจะมีดาดดื่นไป ....................
เพียงแต่ไม่อยากเปิดเผยตัวน่ะครับ ..................
น่าจะมีดาดดื่นไป ....................
เพียงแต่ไม่อยากเปิดเผยตัวน่ะครับ ..................
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 21
ผลตอบแทนอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนนับถือท่าน
แต่สาเหตุหลักน่าจะเป็นการอุทิศตัวเผยแพร่ความรู้ด้วยความปรารถนาดีมากกว่า
ท่านปฏิบัติในสิ่งที่ท่านสอน และก็ประสบความสำเร็จให้ดูเป็นตัวอย่าง
พิสูจน์ให้เห็นว่าหลักการนี้แม้ตลาดหุ้นไทยก็สามารถปฏิบัติได้จริง ...
แต่สาเหตุหลักน่าจะเป็นการอุทิศตัวเผยแพร่ความรู้ด้วยความปรารถนาดีมากกว่า
ท่านปฏิบัติในสิ่งที่ท่านสอน และก็ประสบความสำเร็จให้ดูเป็นตัวอย่าง
พิสูจน์ให้เห็นว่าหลักการนี้แม้ตลาดหุ้นไทยก็สามารถปฏิบัติได้จริง ...
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 22
โค้ด: เลือกทั้งหมด
7 ปีเศษ 43 เท่า ..................
น้อยเกินไปหรือเปล่าครับ ..................
อัตราผลตอบแทนทบต้นต่อปีอยู่ที่เท่าไรนะครับ .........................
ตัวเลขที่มากเกิน 23 % ขึ้นไป ถือว่ายอดเยี่ยม และระยะเวลาที่ทบต้น มาเกิน 7 ปี ถือว่ายอดเยี่ยม
ที่เหลือคือ ทำได้ต่อเนื่องต่อไปอย่างไร
และ
เรื่องที่ทำได้นั้น ถูกเปิดเผยและเป็นประโยชน์ของสารธารณชนแค่ไหน
เพราะว่า คนจะยกย่อง ก็เพื่อประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น
ไม่มีใครยกย่อง ถ้าไม่ได้ประโยชน์ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 23
[quote="พลพล คนกันเอง"]7 ปีเศษ
-
- Verified User
- โพสต์: 898
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 24
สงสัยคุณ Brittannica กับ คุณ LOSO ที่ได้เยอะกว่าพลพล คนกันเอง เขียน:ผมว่าาคนที่ทําผลตอบแทนได้สูงกว่าผมในเว็บนี้ ......................
น่าจะมีดาดดื่นไป ....................
เพียงแต่ไม่อยากเปิดเผยตัวน่ะครับ ..................
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 25
มานั่งคิดๆดู
ด้วยเงินต้น 260 ล้านของดร.นิเวศน์ หากท่านทำได้อีก 30 % ทบต้นทุกปี
ไปอีก 20 ปี
จะเป็นเงินเท่าไรน๊า
:shock: :shock:
ด้วยเงินต้น 260 ล้านของดร.นิเวศน์ หากท่านทำได้อีก 30 % ทบต้นทุกปี
ไปอีก 20 ปี
จะเป็นเงินเท่าไรน๊า
:shock: :shock:
โค้ด: เลือกทั้งหมด
260,000,000.00
1 338,000,000.00
2 439,400,000.00
3 571,220,000.00
4 742,586,000.00
5 965,361,800.00
6 1,254,970,340.00
7 1,631,461,442.00
8 2,120,899,874.60
9 2,757,169,836.98
10 3,584,320,788.07
11 4,659,617,024.50
12 6,057,502,131.85
13 7,874,752,771.40
14 10,237,178,602.82
15 13,308,332,183.66
16 17,300,831,838.76
17 22,491,081,390.39
18 29,238,405,807.51
19 38,009,927,549.76
20 49,412,905,814.69
- metro
- Verified User
- โพสต์: 861
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 26
http://setontherock.com/monday/monday12_02.html
ตัวเลขจำนวนเท่าของคุณ Rockriverarms ครับถ้าอยากรู้ลองหาดูนะครับ ใบ้ให้ว่าอยุ่คอลัมน์ด้านล่างๆครับ :D
ตัวเลขจำนวนเท่าของคุณ Rockriverarms ครับถ้าอยากรู้ลองหาดูนะครับ ใบ้ให้ว่าอยุ่คอลัมน์ด้านล่างๆครับ :D
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 27
rockriverarms
โค้ด: เลือกทั้งหมด
Technical บอกอนาคตราคาหุ้นได้จริงไหม ???
ตอบว่า..ไม่ได้ และไม่น่าจะใช่ คำถามนี้ไม่น่าจะตั้งถามแบบนี้แต่น่าจะเป็นถามว่า Technical บอกความรู้สึก ความต้องการของคนได้จริงไหม ??? เพราะเชื่อว่า Technical ไม่ใช่เรื่องของราคาแต่เป็นเรื่องของ "ความอยาก" ของคนมากกว่า "ความอยากเกิดก่อน แล้วผลคือราคาหุ้นจะตามมาเอง เราดูที่เหตุน่าจะดีกว่ามารอดูที่ผลนะ" ความอยากของคนเกิดจากการที่คนเหล่านั้นมองพื้นฐานหุ้น มองอนาคตหุ้น วางแผนการลงทุนมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้วและตัดสินใจด้วยการ "ใช้เงินเป็นตัวแทนบอกสิ่งที่คิด" Technical ของผมไม่สนใจ Price pattern ไม่ได้มาดูว่าราคาหุ้นอยู่ตรงไหน ไม่ได้เอาราคามาคิดเลย ผมคิดที่ปริมาณเงินเป็นหลักนะ หุ้นดีจริงทำไมคนอย่างเราต้องมองเห็นคนเดียว เชื่อแบบนั้นเหรอ หุ้นดีจริงคนส่วนใหญ่ก็น่าจะเห็นได้ไม่ยาก ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ก็พยายามมองหาหุ้นดีกันทั้งนั้นเพียงแต่มุมมองว่าหุ้นไหนดีมันอยู่บนบรรทัดฐานแบบเดียวกันไหมนี่แหละที่บอกยาก ดังนั้นหุ้นที่ดีจริง ต้องไม่ใช่หุ้นที่ดีทางความคิดแต่ต้องดีด้วยการกระทำคือมีคนสนใจจริงๆด้วย วันนี้หากให้ผมรวมตัวนักลงทุนที่มองว่าหุ้นตัวนี้ดีมาก ดีจริงๆ รวมมาซักแสนคนแล้วมานั่งเพ่งกระแสจิตให้หุ้นตัวนี้มันราคาขึ้น...เชื่อว่ามันจะไม่ขึ้นนะ แต่หากมีใครคนนึงแอบดอดไปควักเงินซื้อเชื่อเลยว่าราคาหุ้นมันขึ้นแน่ๆ ความสำคัญคือคนที่แอบดอดไปซื้อ ซื้อแค่ไหน ถือลงทุนยาวไหม เก็งกำไรหรือเปล่า หุ้นใหญ่ๆในกลุ่ม Bchip ผมเห็นว่ากระแสเงินดอดเก็บหุ้นยาวมากว่า 2 ปีแล้ว ถึงมันจะปรับลงมาบ้างในบางเวลาแต่ในที่สุดมันก็กลับมาที่เดินทำ New High ไปได้เรื่อยๆนะ อยู่ที่เราจะเล่นรอบแบบไหน รอบสั้นๆ รอบสั้น รอบกลาง รอบยาว อันนี้อยู่ที่มุมมองความอยากของแต่ละคนและที่สำคัญอยู่ที่ขนาดความคล่องตัวของพอร์ตของตัวเองเป็นสำคัญ เชื่อเลยว่าหากมีกองทุน 2 กอง กองแรก 500 ล้านกับอีกกอง 5000 ล้านต่อให้มีหุ้นในพอร์ตเหมือนกันเดี๊ยะ กองทุนที่ใช้โอกาสของตลาดจะทำกำไร NAV ได้ดีกว่ากองใหญ่แน่นอน ผมคิดแล้วพวกเราน่าจะลองมาคิดรูปแบบของตัวเองในรูปแบบการบริหารแบบกองทุนนะ อย่างผมๆคิดว่าผมเอาเงินเข้ามาลงทุนแบบจริงๆจังๆเมื่อประมาณ 5 ปีกว่าๆที่เงินไม่กี่แสนบาท ผมก็ถือว่านี่คือขนาดของกองทุนผม เวลาเราซื้อขายอะไรก็คิดจากขนาดของกองทุนที่ตั้งขึ้นมา เวลาคิดแบบนี้มันง่ายดี จึงจะไม่เห็นผมมาเขียนว่าผมซื้อหุ้นแล้วถือกำไรเยอะๆซักทีนะ ไม่มีหรอกที่ Rockriverarms ซื้อหุ้นแล้วถือไว้จนกำไรเกิน 100% ผมก็เล่นรอบๆสะสมมาเรื่อยๆนะ ไม่กี่ % ผมก็เอาออกมาแล้ว แต่หากผมเอากองทุนผมมาขายที่ราคา [color=red]IPO 10 บาทเมื่อ 5 ปีที่แล้วและหากใครยังถือมาจนถึงวันนี้ ผมว่าหุ้นผมตอนนี้คงซื้อขายกันเกือบ 900 บาทแล้วมั๊ง [/color]อิอิ นโยบายกองทุนนี้ไม่มีการจ่ายปันผลแต่เอายอดสะสมกำไรมาต่อยอดไปเรื่อยๆ เพราะผมไม่เคยถอนเงินออกมาใช้เพิ่งผิดคำพูดเมื่อปีที่แล้วที่เอาเงินออกไปครึ่งนึงไปซื้อที่ดินมาแปลงนึงเท่านั้น ไม่ค่อยอยากเอาเรื่องแบบนี้มาเล่าให้ฟัง ดูมันเวอร์ๆยังไงไม่รู้แต่อยากบอกว่าเพราะ Technical ล้วนๆเลยนะที่สามารถจะทำแบบนี้ได้ หากไม่มี Technical ผมไม่รู้จะหา "จังหวะ" ทำแบบนี้ได้ยังไง "จังหวะของตลาดบางครั้งมันคือสุดยอดของโอกาสเลยนะ" บางโอกาสตลาดบวกติดต่อกันหลายสิบจุดเรากลับให้มันผ่านไปเฉยๆโดยนั่งดู หรือบางทีตลาดลบมากๆก็ปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ เหมือนกัน เฉยๆมากๆบ่อยๆก็เลยกลายเป็นคนเฉยๆพอร์ตเฉยๆได้เหมือนกันนะ ผมอยากเห็นคนรุ่นใหม่ๆ ยิ่งน้องๆที่เป็นนักศึกษาที่ยังเรียนอยู่ผมว่าน้องๆเหล่านี้มีโอกาสดีนะ ผมเองเริ่มมาลงทุนก็ตอนจบมาหลายปีแล้ว ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เล่นตามแห่ตามข่าว จนเจ๊งไปเยอะ จนเลิกเล่นไปหลายปีเลยนะ Black Monday ผมก็เคยเจอมาแล้ว สงครามอ่าวก็นั่งดูมาแล้ว World Trade ที่ผ่านมาไม่นานพอร์ตตัวเองตอนนั้นก็เหมือนพุ่งชนตึกเหมือนกัน อยากเห็นน้องๆที่กล้าคิดกล้าทำ การจะเปลี่ยนคนเก่าๆให้เลิกคิดมันยากนะ ความเชื่อมันปลูกฝังลงไปลึกแล้ว อยากเห็นน้องๆคนรุ่นใหม่ๆฉีกทฤษฏีความเชื่อในรูปแบบเดิมๆและมาสร้างอนาคตจากตลาดหุ้น ผมเชื่อว่าต้องทำได้แน่นอนนะ แต่อย่าไปคาดหวังในเวลาสั้นๆเท่านั้น ยังไงก็ขอฝากความหวังไปที่คนรุ่นใหม่ๆที่กล้าคิด กล้าฝืนทฤษฏีแล้วสร้างตัวเองให้เป็นนักลงทุนมืออาชีพในตลาดหุ้นไทย ไม่ใช่นักลงทุนมืออาชีพทางทฤษฏีนะแต่ต้องมืออาชีพทางปฏิบัติจริงๆ มุมมองของผม ผมไม่ได้บอกว่ามันถูกนะ แต่ผมทำแบบนี้ ผมเห็นแบบนี้แล้วทำแบบนี้ ที่เขียนมาทั้งหมดคือสิ่งที่ผมคิดและทำ ผมเอาสิ่งที่ผมทำมาเล่าให้ฟัง มันถูกสำหรับผมแต่อาจจะผิดในมุมมองของคนอื่น ซึ่งผมคิดว่าเราควรเปิดกว้างทางความคิด ผมเรียนรู้อะไรๆมากมายจากคนอื่นที่เห็นแตกต่างจากผม ผมไม่เคยปฏิเสธสิ่งที่คนอื่นเห็นแตกต่างจากผมเพราะคนเหล่านั้นตางหากที่สอนผมให้คิดแบบนี้ เรานั่งโต๊ะกินอาหารด้วยกันได้ถึงแม้นจะต่างความคิด เราไม่เคยดูถูกคนที่คิดต่างจากเราเพราะเค้าก็มีเหตุและผลของเค้าและเค้าก็ทำได้ผลในสิ่งที่เค้าคิด ผมก็เช่นกันผมเห็นแบบนี้ผมก็ทำแบบนี้ มันไม่มีสูตรสำเร็จในตลาดหุ้น อย่าพยายามไปค้นหาสูตรสำเร็จหรือแม้นแต่จะหาสูตรสำเร็จของ Technical เชื่อว่าหาไม่ได้ หาไม่มี และก็จะไม่มีเพราะปัจจัยต่างๆรูปแบบต่างๆมันเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ก็ขอให้อ่านแค่สนุกๆอย่ายึดติดอะไรกับผม มองผมแบบเพื่อนคนนึง ผิดถูกคนเรามันมีกันทุกคนนั่นแหละ
ขอให้โชคดีครับ
- Raphin Phraiwal
- Verified User
- โพสต์: 1342
- ผู้ติดตาม: 0
10 ปี 'ตีแตก' รวยหุ้น 26 เท่า ฉบับ VI ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวราก
โพสต์ที่ 29
ขอบคุณที่นำบทความดีๆมาให้อ่านครับ
รักในหลวงครับ