ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
-
- Verified User
- โพสต์: 674
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 3
หุ้นดี roe สูง >>> คนแย่งกันซื้อ >>> ราคาสูงกว่า bv มาก >>>> ง่ายต่อการเพิ่มทุน (ได้เงินเยอะแต่เกิด dilution effect น้อย)
หุ้นยอดนิยมใน web เราแต่ละตัวก็ roe, p/bv สูง ๆ ทั้งนั้น
แต่ปีนี้มันเยอะจริง ๆ ครับ
หุ้นยอดนิยมใน web เราแต่ละตัวก็ roe, p/bv สูง ๆ ทั้งนั้น
แต่ปีนี้มันเยอะจริง ๆ ครับ
- trillionaire
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1090
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 5
...ฉวยโอกาสประกาศงบโต จ่ายปันผลล่อใจ ตบท้ายด้วยเพิ่มทุน แจกวอร์แรนต์...
...เผลอๆก้อแจกESOPให้พนักงาน ...สูตรนี้ทำตามกันยังกะแฟชั่นอินเทรนด์...
...ลองรวบรวมกรณีดังกล่าวมาลงไว้ในกระทู้นี้ดีกว่า...
...เผลอๆก้อแจกESOPให้พนักงาน ...สูตรนี้ทำตามกันยังกะแฟชั่นอินเทรนด์...
...ลองรวบรวมกรณีดังกล่าวมาลงไว้ในกระทู้นี้ดีกว่า...
- trillionaire
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1090
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 7
บอร์ด MFEC ไฟเขียวออกวอร์แรนต์ให้ผถห.เดิมฟรีจำนวน 54.25 ล้านหน่วย
สัดส่วน 1:1พร้อมปันผลหุ้นละ 0.35 บาท
สัดส่วน 1:1พร้อมปันผลหุ้นละ 0.35 บาท
- trillionaire
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1090
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 8
นายศิริพงษ์ อุ่นทรพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอ็ด
วานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้ให้บริการด้านธุรกิจเทคโนโลยี
สารสนเทศและระบบการสื่อสาร เปิดเผยถึงผลการดำเนินการในปี 2549 ว่า บริษัทมีรายได้รวม
2,278 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 916 ล้านบาทหรือ 67% จากปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม 1.3 พันล้านบาท
ขณะที่กำไรสุทธิในปี 2549 อยู่ที่ 197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129 ล้านบาท หรือ 189% เมื่อ
เทียบกับปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 68 ล้านบาท
ทั้งนี้ทำให้บริษัทสามารถจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในรูปแบบต่างๆ เช่น1) ปันผลเป็นเงิน
ในอัตรา 1.22 บาทต่อหุ้น 2)ปันผลเป็นหุ้นใหม่ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ 3)แจกใบ
สำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนท์) ฟรี ให้ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 6 ล้านหน่วย โดยราย
ละเอียดจะสามารถเปิดเผยได้ภายหลังได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลัก
ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว ซึ่งคาดว่าจะประมาณเดือนมิถุนายน 2550 และจะนำ
วอร์แรนท์ดังกล่าวเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
นายศิริพงษ์ กล่าวว่า จากการให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นดังกล่าว บริษัทได้ปรับฐานทุนจด
ทะเบียน (Recapitalization) จาก 200 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท โดยแปลงกำไรสะสมที่มี
อยู่มากกว่า 300 ล้านบาทเป็นทุน ซึ่งจะไม่เป็นภาระและไม่มีผลกระทบด้านจำนวนหุ้นถือครอง
(Dilution) ต่อผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด
วานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT ผู้ให้บริการด้านธุรกิจเทคโนโลยี
สารสนเทศและระบบการสื่อสาร เปิดเผยถึงผลการดำเนินการในปี 2549 ว่า บริษัทมีรายได้รวม
2,278 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 916 ล้านบาทหรือ 67% จากปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม 1.3 พันล้านบาท
ขณะที่กำไรสุทธิในปี 2549 อยู่ที่ 197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129 ล้านบาท หรือ 189% เมื่อ
เทียบกับปีก่อน ซึ่งมีกำไรสุทธิ 68 ล้านบาท
ทั้งนี้ทำให้บริษัทสามารถจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในรูปแบบต่างๆ เช่น1) ปันผลเป็นเงิน
ในอัตรา 1.22 บาทต่อหุ้น 2)ปันผลเป็นหุ้นใหม่ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ 3)แจกใบ
สำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนท์) ฟรี ให้ผู้ถือหุ้นเดิมจำนวน 6 ล้านหน่วย โดยราย
ละเอียดจะสามารถเปิดเผยได้ภายหลังได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลัก
ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว ซึ่งคาดว่าจะประมาณเดือนมิถุนายน 2550 และจะนำ
วอร์แรนท์ดังกล่าวเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
นายศิริพงษ์ กล่าวว่า จากการให้ผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นดังกล่าว บริษัทได้ปรับฐานทุนจด
ทะเบียน (Recapitalization) จาก 200 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท โดยแปลงกำไรสะสมที่มี
อยู่มากกว่า 300 ล้านบาทเป็นทุน ซึ่งจะไม่เป็นภาระและไม่มีผลกระทบด้านจำนวนหุ้นถือครอง
(Dilution) ต่อผู้ถือหุ้นแต่อย่างใด
- trillionaire
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1090
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 9
ILINK ปันผล 0.60 บาท/หุ้น พร้อมประกาศเพิ่มทุนขาย ผถห.สัดส่วน 4:1 ราคาหุ้นละ 5 บ.
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท
อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะ
กรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2550 ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550 มีมติอนุมัติให้จัดสรรกำไร
สุทธิเพื่อจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2549 ให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งมีรายชื่อใน
สมุดทะเบียน ณ วันที่ 15 มีนาคม 2550 ตั้งแต่เวลา 12:00 นาฬิกา เป็นต้นไปจนกว่า
การประชุมจะแล้วเสร็จ ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท (หกสิบสตางค์) จากจำนวนหุ้นที่
จำหน่ายทั้งสิ้น 80 ล้านหุ้น (แปดสิบล้านหุ้น) มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น
เงินปันผลจ่ายรวมทั้งสิ้น 48.00 ล้านบาท (สี่สิบแปด ล้านบาทถ้วน) ทั้งนี้คิดเป็นร้อย
ละ 40 จากกำไรสุทธิที่หักสำรองตามกฎหมายแล้ว โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 30
เมษายน 2550
พร้อมกันนี้ได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจดทะเบียนจากเดิม80,000,000
บาท (แปดสิบล้านบาทถ้วน) เป็น 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) โดย
ออกหุ้นสามัญจำนวน 20,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวมเป็นเงิน
ทั้งสิ้น 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาทถ้วน)และอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน
เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการ ถือหุ้น จำนวน
20,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเดิม
ใน สัดส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ เสนอขายในราคาหุ้นละ 5.00 บาท
โดยภายในระยะเวลาการให้สิทธิจองซื้อแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ให้คณะกรรมการ
และ/หรือกรรมการผู้จัดการ และ/หรือ บุคคลที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจในการจัดสรร
จำนวนหุ้นที่ไม่ได้รับการจองซื้อ จากการเสนอขายให้ แก่ผู้ถือหุ้นเดิม มาเสนอขาย
ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่ได้แสดงเจตนาจองซื้อหุ้นเกินส่วนราคาเดียวกับราคาที่เสนอขาย
ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม การจัดสรรดังกล่าวให้ดำเนินการตามอัตราส่วนร้อยละของการถือ
หุ้น ของผู้ถือหุ้นรายนั้น ณ วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิใน
การได้รับการจัดสรรหุ้นแก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยการจัดสรรหุ้น ให้ดำเนินการเป็นจำนวน
2 รอบ
ภายหลังการดำเนินการดังกล่าวแล้ว หากยังมีหุ้นสามัญไม่ได้รับการจอง
ซื้อเหลืออยู่ ให้เสนอขายแก่บุคคลในวง จำกัด และ/หรือ ผู้ลงทุนประเภทสถาบัน
หรือผู้ลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะตามประกาศของสำนักงานคณะ กรรมการกำกับหลัก
ทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (Private Placement) ในราคาไม่ต่ำกว่าราคาที่เสนอขาย
ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ทั้งนี้ การกำหนดข้อกำหนด เงื่อนไข และรายละเอียดในการเสนอ
ขาย เช่น จำนวนหุ้นที่ จัดสรร เงื่อนไข และรายละเอียดในการเสนอขาย เช่น จำนวน
หุ้นที่จัดสรร เงื่อนไข และรายละเอียดอื่น เกี่ยวกับการจัดสรรให้อยู่ในดุลยพินิจของ
คณะกรรมการบริษัท และ/หรือ กรรมการผู้จัดการ และ/หรือ บุคคลที่ ได้รับมอบ
หมาย
ทั้งนี้ บริษัทจะทำการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการได้รับ
จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 18 เมษายน 2550 เวลา 12.00 นาฬิกา และกำหนดวันจอง
ซื้อหุ้นเพิ่มทุนและรับชำระเงินในวันที่ 2-9 พฤษภาคม 2550 ส่วนรายละเอียดเกี่ยว
กับสถานที่จองซื้อและรายละเอียดอื่นๆ จะได้กำหนดต่อไป
นายสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท
อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะ
กรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2550 ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2550 มีมติอนุมัติให้จัดสรรกำไร
สุทธิเพื่อจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2549 ให้แก่ผู้ถือหุ้นซึ่งมีรายชื่อใน
สมุดทะเบียน ณ วันที่ 15 มีนาคม 2550 ตั้งแต่เวลา 12:00 นาฬิกา เป็นต้นไปจนกว่า
การประชุมจะแล้วเสร็จ ในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท (หกสิบสตางค์) จากจำนวนหุ้นที่
จำหน่ายทั้งสิ้น 80 ล้านหุ้น (แปดสิบล้านหุ้น) มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท คิดเป็น
เงินปันผลจ่ายรวมทั้งสิ้น 48.00 ล้านบาท (สี่สิบแปด ล้านบาทถ้วน) ทั้งนี้คิดเป็นร้อย
ละ 40 จากกำไรสุทธิที่หักสำรองตามกฎหมายแล้ว โดยกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 30
เมษายน 2550
พร้อมกันนี้ได้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจดทะเบียนจากเดิม80,000,000
บาท (แปดสิบล้านบาทถ้วน) เป็น 100,000,000 บาท (หนึ่งร้อยล้านบาทถ้วน) โดย
ออกหุ้นสามัญจำนวน 20,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ ตราไว้หุ้นละ 1 บาท รวมเป็นเงิน
ทั้งสิ้น 20,000,000 บาท (ยี่สิบล้านบาทถ้วน)และอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน
เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการ ถือหุ้น จำนวน
20,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญเดิม
ใน สัดส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ เสนอขายในราคาหุ้นละ 5.00 บาท
โดยภายในระยะเวลาการให้สิทธิจองซื้อแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ให้คณะกรรมการ
และ/หรือกรรมการผู้จัดการ และ/หรือ บุคคลที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจในการจัดสรร
จำนวนหุ้นที่ไม่ได้รับการจองซื้อ จากการเสนอขายให้ แก่ผู้ถือหุ้นเดิม มาเสนอขาย
ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่ได้แสดงเจตนาจองซื้อหุ้นเกินส่วนราคาเดียวกับราคาที่เสนอขาย
ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม การจัดสรรดังกล่าวให้ดำเนินการตามอัตราส่วนร้อยละของการถือ
หุ้น ของผู้ถือหุ้นรายนั้น ณ วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเพื่อกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิใน
การได้รับการจัดสรรหุ้นแก่ผู้ถือหุ้นเดิม โดยการจัดสรรหุ้น ให้ดำเนินการเป็นจำนวน
2 รอบ
ภายหลังการดำเนินการดังกล่าวแล้ว หากยังมีหุ้นสามัญไม่ได้รับการจอง
ซื้อเหลืออยู่ ให้เสนอขายแก่บุคคลในวง จำกัด และ/หรือ ผู้ลงทุนประเภทสถาบัน
หรือผู้ลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะตามประกาศของสำนักงานคณะ กรรมการกำกับหลัก
ทรัพย์และตลาด หลักทรัพย์ (Private Placement) ในราคาไม่ต่ำกว่าราคาที่เสนอขาย
ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ทั้งนี้ การกำหนดข้อกำหนด เงื่อนไข และรายละเอียดในการเสนอ
ขาย เช่น จำนวนหุ้นที่ จัดสรร เงื่อนไข และรายละเอียดในการเสนอขาย เช่น จำนวน
หุ้นที่จัดสรร เงื่อนไข และรายละเอียดอื่น เกี่ยวกับการจัดสรรให้อยู่ในดุลยพินิจของ
คณะกรรมการบริษัท และ/หรือ กรรมการผู้จัดการ และ/หรือ บุคคลที่ ได้รับมอบ
หมาย
ทั้งนี้ บริษัทจะทำการปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิในการได้รับ
จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนในวันที่ 18 เมษายน 2550 เวลา 12.00 นาฬิกา และกำหนดวันจอง
ซื้อหุ้นเพิ่มทุนและรับชำระเงินในวันที่ 2-9 พฤษภาคม 2550 ส่วนรายละเอียดเกี่ยว
กับสถานที่จองซื้อและรายละเอียดอื่นๆ จะได้กำหนดต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 697
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 10
ใครว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่ ประชานิยม
บอกลดอัตราดอกเบี้ย(เงินฝาก) เพื่อจะกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ประชาชนเข้าคาดเคลื่อน จนบัดนี้ ยังไม่เห็นวี่แวว จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เลย
การเพิ่มทุนเรียกจากประชาชนที่สนใจ อาจจะเพราะ ดอกเบี้ยสู้ไม่ไหว , เครดิตบริษัทดีมากจนธนาคารไม่ปล่อยกู้ ครับ :lol: :lol:
บอกลดอัตราดอกเบี้ย(เงินฝาก) เพื่อจะกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ประชาชนเข้าคาดเคลื่อน จนบัดนี้ ยังไม่เห็นวี่แวว จะลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เลย
การเพิ่มทุนเรียกจากประชาชนที่สนใจ อาจจะเพราะ ดอกเบี้ยสู้ไม่ไหว , เครดิตบริษัทดีมากจนธนาคารไม่ปล่อยกู้ ครับ :lol: :lol:
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 11
สาเหตหลักๆคงมีไม่กี่อย่างครับnaris เขียน:เห็นผ่านๆตามานี่หลายตัวแล้วนะครับ
มีอะไรซ่อนแอบแฝงอยู่หรือเปล่า :lol:
1.ต้องการเพิ่มฐานทุน เพื่อการเติบโตหรือเพื่อให้รับงานใหญ่ๆได้ เช่น ums ait mfec pl
2.ต้องเพิ่มฐานทุนเพราะฐานะการเงินอ่อนแอ แบงค์เริ่มไม่ให้กู้หรือกู้ก็มีต้นทุนสูงเช่น l&E KKC
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 13
มีประเด็นนึงให้คิดเล่น ๆ
ถ้าผลประกอบการไตรมาสนี้น่าผิดหวัง และคุณต้องการจะเพิ่มทุน ถ้าคุณเป็นบริษัทคุณจะเพิ่มทุนก่อนงบออกหรือหลังงบออกดีครับ :?:
อย่างไหนจะ manage expectation ของนักลงทุนได้ดีกว่ากัน
ถ้าผลประกอบการไตรมาสนี้น่าผิดหวัง และคุณต้องการจะเพิ่มทุน ถ้าคุณเป็นบริษัทคุณจะเพิ่มทุนก่อนงบออกหรือหลังงบออกดีครับ :?:
อย่างไหนจะ manage expectation ของนักลงทุนได้ดีกว่ากัน
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 15
ประกาศเพิ่มทุนก่อนงบออก น่าจะดี เพราะมีเจตนาขยายงานสุมาอี้ เขียน:มีประเด็นนึงให้คิดเล่น ๆ
ถ้าผลประกอบการไตรมาสนี้น่าผิดหวัง และคุณต้องการจะเพิ่มทุน ถ้าคุณเป็นบริษัทคุณจะเพิ่มทุนก่อนงบออกหรือหลังงบออกดีครับ :?:
อย่างไหนจะ manage expectation ของนักลงทุนได้ดีกว่ากัน
ท่านแม่ทัพคิดไงครับ เกือบตรงกันหรือเปล่า
ถ้าไม่ตรงก็ขยับมาทางซ้ายอีกนิดใจเราจะได้ตรงกัน(โปรงรางสะออน เขาว่ามา อิอิ)
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 16
[quote="ปรัชญา"]
ประกาศเพิ่มทุนก่อนงบออก
ประกาศเพิ่มทุนก่อนงบออก
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 17
ผมว่าเวลาจะเพิ่มทุนต้องค่อยๆ ให้ข่าวทีละนิดเหมือนกัน ไม่ใช่เงียบสนิทแล้วอยู่ๆ ก็แจ้งตลาดเปรี๊ยงเดียวเลย มันดูเหมือนมีอะไรซุกอยู่
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1667
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 19
ขาดสภาพคล่อง อย่างแรง
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
- path2544
- Verified User
- โพสต์: 543
- ผู้ติดตาม: 0
เห็นด้วย...
โพสต์ที่ 20
เห็นด้วยกับ ท่านสุมาอี้ ครับสุมาอี้ เขียน:ผมว่าเวลาจะเพิ่มทุนต้องค่อยๆ ให้ข่าวทีละนิดเหมือนกัน ไม่ใช่เงียบสนิทแล้วอยู่ๆ ก็แจ้งตลาดเปรี๊ยงเดียวเลย มันดูเหมือนมีอะไรซุกอยู่
และนอกเรื่องนิดด้วยว่า การเปลี่ยนแปลง อะไรในงบ ก็ควรแจ้งก่อนล่วงหน้า ไม่ใช้แจ้งพร้อมงบออก เช่น นโยบายการตัดค่าเสื่อม
มันเสียเวลา วิเคราะห์บริษัท มันจริงๆๆ ไอ้พวกลดค่าเสื่อม เพิ่มกำไรนี้
ไม่เก่งทั้งวิเคราะห์เทคนิค ปัจจัยพื้นฐาน แต่เราก็ยังรั้นที่จะรวยเพราะหุ้น
- path2544
- Verified User
- โพสต์: 543
- ผู้ติดตาม: 0
เพิ่มเติม..
โพสต์ที่ 21
หากมองการเพิ่มทุนในแง่ดี ของช่วงจังหวะเวลานี้
มองอีกมุมครับ หากมีผู้บริหารบางท่าน ที่มี Vision เห็นสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่า เลยจะเพิ่มทุนมาเพื่อซื้อ(นำเข้า) เครื่องจักร ก็ได้นะครับ :idea: :idea:
คงต้องดูๆๆ กันเป็นรายบริษัทไป :D :D :D :D
มองอีกมุมครับ หากมีผู้บริหารบางท่าน ที่มี Vision เห็นสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่า เลยจะเพิ่มทุนมาเพื่อซื้อ(นำเข้า) เครื่องจักร ก็ได้นะครับ :idea: :idea:
คงต้องดูๆๆ กันเป็นรายบริษัทไป :D :D :D :D
ไม่เก่งทั้งวิเคราะห์เทคนิค ปัจจัยพื้นฐาน แต่เราก็ยังรั้นที่จะรวยเพราะหุ้น
- khun_parinya
- Verified User
- โพสต์: 176
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมช่วงนี้เพิ่มทุนกันเยอะจัง
โพสต์ที่ 22
จุดมุ่งหมายของการตั้งบริษัทก็เพื่อทำกิจการให้ได้มาซึ่งกำไร
เมื่อได้กำไรแล้วก็จัดสรรส่วนนึงมาแบ่งกันในรูปของปันผล อีกส่วนนึงก็เก็บไว้ใช้ขยายงาน
ทุกคนก็สบายใจเพราะเงินต้นก็ไม่ลด ปันผลก็ได้อย่างที่สัญญากันไว้ในหนังสือชี้ชวน
ผู้บริหารของบริษัทเองก็ได้รับเงินเดือนแพง ๆ, ได้รับค่าเบี้ยประชุมสูง ๆ ในฐานะคณะกรรมการ, คณะกรรมการตรวสอบ และคณะกรรมการอิสระ, ได้รับการจัดสรร ESOP อยู่อย่างสม่ำเสมอ และได้อะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่รู้จะจาระไนออกมายังไงถึงจะหมด
แต่ผู้บริหารเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถสร้างรายได้มาก ๆ, ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง (คงไม่ต้องบอกนะครับว่าค่าใช้จ่ายอะไร) เพื่อให้ได้มาซึ่งกำไรสุทธิสูง ๆ ในแต่ล่ะไตรมาสได้
พอทำไม่ได้ แทนที่จะกู้เงินจากสถาบันการเงิน กลับใช้วิธีเพิ่มทุน
ไม่อยากจะคาดโทษนะครับ แต่ขอชี้แจงว่าการที่บริษัทเพิ่มทุนนั้น เกิดจากสิ่งบกพร่องดังต่อไปนี้
1. ผู้บริหารของบริษัทเดินหมากผิด จึงทำให้ทุก ๆ ครั้งที่เลือกจะดำเนินกิจการ นำมาซึ่งการขาดทุน หรือเท่าทุน หรือได้กำไรไม่มากเท่าที่ควร เนื่องด้วยเพราะ sector ที่เลือกเดินเข้าไปนั้น margin มันน้อย การแข่งขันมันสูง
2. ผู้บริหารไม่มั่นใจในการบริหารงานของตัวเอง จึงไม่มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินกิจการจนได้กำไรสุทธิ เพียงพอที่จะชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยเงินกู้ได้
3. ผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียน เข้าใจผิดคิดว่าบริษัทของตนนั้นเป็นธนาคารกลาง จึงมักจะพิมพ์เงินตราของตนเองที่เรียกว่า ESOP หรือ Warrant ออกมาบ่อย ๆ จนเกิดการเฟ้อของหุ้นของบริษัท
การเพิ่มทุนดีต่อบริษัทครับผมรู้ มันทำให้บริษัทรอด แต่มันจะทำให้นักลงทุนรายย่อยอย่างพวกเราสูญเสียสัดส่วนการลงทุนไป จนกระทั่งเงินปันผลที่ได้กลับมา หนีเงินเฟ้อไม่พ้นครับ
ผมอยากให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งใจทำกิจการกันมากกว่าที่จะตั้งใจออก ESOP, Warrant และเพิ่มทุนครับ T-T
เมื่อได้กำไรแล้วก็จัดสรรส่วนนึงมาแบ่งกันในรูปของปันผล อีกส่วนนึงก็เก็บไว้ใช้ขยายงาน
ทุกคนก็สบายใจเพราะเงินต้นก็ไม่ลด ปันผลก็ได้อย่างที่สัญญากันไว้ในหนังสือชี้ชวน
ผู้บริหารของบริษัทเองก็ได้รับเงินเดือนแพง ๆ, ได้รับค่าเบี้ยประชุมสูง ๆ ในฐานะคณะกรรมการ, คณะกรรมการตรวสอบ และคณะกรรมการอิสระ, ได้รับการจัดสรร ESOP อยู่อย่างสม่ำเสมอ และได้อะไรหลาย ๆ อย่างที่ไม่รู้จะจาระไนออกมายังไงถึงจะหมด
แต่ผู้บริหารเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถสร้างรายได้มาก ๆ, ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง (คงไม่ต้องบอกนะครับว่าค่าใช้จ่ายอะไร) เพื่อให้ได้มาซึ่งกำไรสุทธิสูง ๆ ในแต่ล่ะไตรมาสได้
พอทำไม่ได้ แทนที่จะกู้เงินจากสถาบันการเงิน กลับใช้วิธีเพิ่มทุน
ไม่อยากจะคาดโทษนะครับ แต่ขอชี้แจงว่าการที่บริษัทเพิ่มทุนนั้น เกิดจากสิ่งบกพร่องดังต่อไปนี้
1. ผู้บริหารของบริษัทเดินหมากผิด จึงทำให้ทุก ๆ ครั้งที่เลือกจะดำเนินกิจการ นำมาซึ่งการขาดทุน หรือเท่าทุน หรือได้กำไรไม่มากเท่าที่ควร เนื่องด้วยเพราะ sector ที่เลือกเดินเข้าไปนั้น margin มันน้อย การแข่งขันมันสูง
2. ผู้บริหารไม่มั่นใจในการบริหารงานของตัวเอง จึงไม่มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินกิจการจนได้กำไรสุทธิ เพียงพอที่จะชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยเงินกู้ได้
3. ผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียน เข้าใจผิดคิดว่าบริษัทของตนนั้นเป็นธนาคารกลาง จึงมักจะพิมพ์เงินตราของตนเองที่เรียกว่า ESOP หรือ Warrant ออกมาบ่อย ๆ จนเกิดการเฟ้อของหุ้นของบริษัท
การเพิ่มทุนดีต่อบริษัทครับผมรู้ มันทำให้บริษัทรอด แต่มันจะทำให้นักลงทุนรายย่อยอย่างพวกเราสูญเสียสัดส่วนการลงทุนไป จนกระทั่งเงินปันผลที่ได้กลับมา หนีเงินเฟ้อไม่พ้นครับ
ผมอยากให้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตั้งใจทำกิจการกันมากกว่าที่จะตั้งใจออก ESOP, Warrant และเพิ่มทุนครับ T-T