ถ้าเกิดหุ้นที่คุณถืออยู่เกิดอาการดังนี้
-
- Verified User
- โพสต์: 171
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าเกิดหุ้นที่คุณถืออยู่เกิดอาการดังนี้
โพสต์ที่ 1
ถ้าเกิดหุ้นที่คุณถืออยู่เกิดอาการดังนี้
1.แรกๆก็ไม่มีใครสนใจ มองแล้วพื้นฐานน่าจะดี ถือยาวๆน่าจะเห็นถึงการเติบโต
2.กำลังเก็บไปเก็บมามีพวกมาแจมด้วย ราคาถูกไล่ขึ้นไปสูงมาก กลายเป็นหุ้นสุด Hot ไปตัวหนึ่ง
3.ราคาชักสูง หนาวก็หนาว แต่ก็ไม่กล้าขายเพราะกลัวซื้อกลับไม่ได้ แต่ราคาตอนนี้สะท้อนผลการดำเนินงานไปซัก 5 ปีได้แล้ว ไม่ใช่ปีนี้แน่ๆ แต่ด้วยความ hot ใครๆก็ซื้อ ตอนนี้เก็บเพิ่มก็ไม่ได้ อยากขายก็กลัวซื้อไม่ได้อีก ไม่ขายก็คิดว่าสูงเกิน แต่เสียดายบริษัท พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน
ถ้าเจอแบบนี้จะทำไงกันดีครับ
1. ขายๆไปเถอะ เดี๋ยวหุ้นก็มีวันตก แล้วค่อยมาเก็บใหม่ก็ได้ ยิ่งสูงยิ่งหนาว
2. ก็ถือไปเรื่อยๆ ละกัน หนาวๆไม่เป็นไร กำไรดี
3. อื่นๆ .......
1.แรกๆก็ไม่มีใครสนใจ มองแล้วพื้นฐานน่าจะดี ถือยาวๆน่าจะเห็นถึงการเติบโต
2.กำลังเก็บไปเก็บมามีพวกมาแจมด้วย ราคาถูกไล่ขึ้นไปสูงมาก กลายเป็นหุ้นสุด Hot ไปตัวหนึ่ง
3.ราคาชักสูง หนาวก็หนาว แต่ก็ไม่กล้าขายเพราะกลัวซื้อกลับไม่ได้ แต่ราคาตอนนี้สะท้อนผลการดำเนินงานไปซัก 5 ปีได้แล้ว ไม่ใช่ปีนี้แน่ๆ แต่ด้วยความ hot ใครๆก็ซื้อ ตอนนี้เก็บเพิ่มก็ไม่ได้ อยากขายก็กลัวซื้อไม่ได้อีก ไม่ขายก็คิดว่าสูงเกิน แต่เสียดายบริษัท พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน
ถ้าเจอแบบนี้จะทำไงกันดีครับ
1. ขายๆไปเถอะ เดี๋ยวหุ้นก็มีวันตก แล้วค่อยมาเก็บใหม่ก็ได้ ยิ่งสูงยิ่งหนาว
2. ก็ถือไปเรื่อยๆ ละกัน หนาวๆไม่เป็นไร กำไรดี
3. อื่นๆ .......
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าเกิดหุ้นที่คุณถืออยู่เกิดอาการดังนี้
โพสต์ที่ 2
จะเห็นว่า ราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าพื้นฐานไปมากแล้วcwiboon เขียน:ถ้าเกิดหุ้นที่คุณถืออยู่เกิดอาการดังนี้
1.แรกๆก็ไม่มีใครสนใจ มองแล้วพื้นฐานน่าจะดี ถือยาวๆน่าจะเห็นถึงการเติบโต
2.กำลังเก็บไปเก็บมามีพวกมาแจมด้วย ราคาถูกไล่ขึ้นไปสูงมาก กลายเป็นหุ้นสุด Hot ไปตัวหนึ่ง
3.ราคาชักสูง หนาวก็หนาว แต่ก็ไม่กล้าขายเพราะกลัวซื้อกลับไม่ได้ แต่ราคาตอนนี้สะท้อนผลการดำเนินงานไปซัก 5 ปีได้แล้ว ไม่ใช่ปีนี้แน่ๆ แต่ด้วยความ hot ใครๆก็ซื้อ ตอนนี้เก็บเพิ่มก็ไม่ได้ อยากขายก็กลัวซื้อไม่ได้อีก ไม่ขายก็คิดว่าสูงเกิน แต่เสียดายบริษัท พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน
ถ้าเจอแบบนี้จะทำไงกันดีครับ
1. ขายๆไปเถอะ เดี๋ยวหุ้นก็มีวันตก แล้วค่อยมาเก็บใหม่ก็ได้ ยิ่งสูงยิ่งหนาว
2. ก็ถือไปเรื่อยๆ ละกัน หนาวๆไม่เป็นไร กำไรดี
3. อื่นๆ .......
สะท้อนผลการดำเนินงานอีกตั้ง 5 ปีข้างหน้า
(สมมติว่าที่เราวิเคราะห์มันถูกต้อง หรือใกล้เคียงความจริง)
ถ้าเป็นผม ผมอาจจะใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคแบบงูๆปลาๆ
หรือการวิเคราะห์จิตวิทยามวลชน มาช่วยวิเคราะห์
เพื่อพยายามขายให้ได้ที่ High ในช่วงเวลานั้น
แต่ยังไงก็ขายแน่นอนครับ
หุ้นที่ Over value ขนาดนั้น
ไม่มีทางถือได้อย่างมีความสุข
ต่อให้พื้นฐานดีแค่ไหนก็ตาม
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้าเกิดหุ้นที่คุณถืออยู่เกิดอาการดังนี้
โพสต์ที่ 3
หลักเกณฑ์ในการขายของผม
1. ผมวิเคราะห์ไว้ผิดพลาด แย่กว่าที่วิเคราะห์
2. มีเหตุการณ์ หรือปัจจัยอื่นที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทให้แย่ลง
3. ราคาหุ้นสูงขึ้น จนเกินราคาพื้นฐาน
4. มีการลงทุนอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยมีความเสี่ยงน้อยกว่าหรือพอๆกัน
1. ผมวิเคราะห์ไว้ผิดพลาด แย่กว่าที่วิเคราะห์
2. มีเหตุการณ์ หรือปัจจัยอื่นที่เปลี่ยนแปลง ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทให้แย่ลง
3. ราคาหุ้นสูงขึ้น จนเกินราคาพื้นฐาน
4. มีการลงทุนอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยมีความเสี่ยงน้อยกว่าหรือพอๆกัน
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถ้าเกิดหุ้นที่คุณถืออยู่เกิดอาการดังนี้
โพสต์ที่ 4
เป็นความทุกข์ใจของนักลงทุนส่วนหนึ่ง แต่กรณีนี้ของคุณ cwibbon ยังดี ที่กำไรcwiboon เขียน:อยากขายก็กลัวซื้อไม่ได้อีก ไม่ขายก็คิดว่าสูงเกิน แต่เสียดายบริษัท พื้นฐานไม่ได้เปลี่ยน
วิธีแก้ไข อย่าใช้อารมณ์ ควรใช้สติมากๆ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้าเกิดหุ้นที่คุณถืออยู่เกิดอาการดังนี้
โพสต์ที่ 6
ปีที่แล้วผมเจอเหตุการณ์เดี๋ยวกับเจ้าของกระทู้กับหุ้นหลายตัว ขายหุ้นไปก็มาก แต่คิดว่าเอากำไรมาเก็บไว้ก็พอ ขายไปเพราะเราวิเคราะห์มันไม่แม่นพอ ที่ขายไปคือ สิ่งที่เราพอใจแล้ว
คิดแบบนี้จะได้เป็นPositive และไม่ต้องกดดันตัวเอง
ทุกอย่างเกิดที่ใจ จบที่ใจ
คิดแบบนี้จะได้เป็นPositive และไม่ต้องกดดันตัวเอง
ทุกอย่างเกิดที่ใจ จบที่ใจ
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้าเกิดหุ้นที่คุณถืออยู่เกิดอาการดังนี้
โพสต์ที่ 7
ขอเสริมครับ
ใช้หลักของพี่มน อดีตท่านประธานก็ได้ครับ
ที่เคยพูดไว้ตอนต้นปีที่เจอระเบิดครับ
ว่าหากซื้อหุ้นแล้วไม่สบายใจก็ขายไปเถอะ
หรือขายหุ้นแล้วสบายใจก็ทำครับ
นี้คือยึดความสบายใจเป็นหลักน่าครับ
จะได้ไม่ต้องมานั่งทุกข์
ปล ขอบคุณพี่มนครับ
หลักนี้ใช่ได้เลยครับ
ตรงกับหลักของเซนด้วยครับ
แสดงว่าพี่มนไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับเซนมาหรือเปล่าเนี่ย
ใช้หลักของพี่มน อดีตท่านประธานก็ได้ครับ
ที่เคยพูดไว้ตอนต้นปีที่เจอระเบิดครับ
ว่าหากซื้อหุ้นแล้วไม่สบายใจก็ขายไปเถอะ
หรือขายหุ้นแล้วสบายใจก็ทำครับ
นี้คือยึดความสบายใจเป็นหลักน่าครับ
จะได้ไม่ต้องมานั่งทุกข์
ปล ขอบคุณพี่มนครับ
หลักนี้ใช่ได้เลยครับ
ตรงกับหลักของเซนด้วยครับ
แสดงว่าพี่มนไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับเซนมาหรือเปล่าเนี่ย
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้าเกิดหุ้นที่คุณถืออยู่เกิดอาการดังนี้
โพสต์ที่ 8
ถือแล้วไม่สบายใจก็ให้คนอื่นถือละกัน
ความเสี่ยงเป็นของเขา กำไรก็เป็นของเขา แต่เราได้ความสบายใจไม่เครียด
ถือแล้วขึ้นมีความสุขยิ้มแฉ่ง ก็ถือไปครับ ถือจนกว่าจะหุบยิ้มได้ครับ
ความเสี่ยงเป็นของเขา กำไรก็เป็นของเขา แต่เราได้ความสบายใจไม่เครียด
ถือแล้วขึ้นมีความสุขยิ้มแฉ่ง ก็ถือไปครับ ถือจนกว่าจะหุบยิ้มได้ครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1485
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าเกิดหุ้นที่คุณถืออยู่เกิดอาการดังนี้
โพสต์ที่ 10
1.ขาย หรือ
2.เทรดดิ้ง
เพราะ
1.คุณเห็นเพชรในตมก่อนคนอื่น และคิดว่าเก็บไว้นานๆ จะต้องเป็นเพชรส่องประกาย ที่จะมีคนมาให้ราคาที่แท้จริง
2.ราคาสะท้อนไปล่วงหน้า 5 ปี แสดงว่าคุณประหยัดเวลาไป 5 ปีแล้ว จากที่ตอนแรกคุณคิดว่าจะต้องเก็บไว้ยาวๆ
3.แต่ใจคุณอาจจะอยากได้ราคาล่วงหน้า 10 ปีหรือเปล่า แล้วคิดว่าราคาล่วงหน้า10ปี จะมีคนซื้อหรือไม่?
วิธีที่จะช่วยให้สบายใจ คือ ควรหาหุ้นที่ราคาสะท้อนฐานะบริษัทเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ไว้ในwatch list หลายๆตัวครับ จะได้ขายของแพง ไปซื้อของถูกได้มากขึ้น และซื้อได้เรื่อยๆครับ
2.เทรดดิ้ง
เพราะ
1.คุณเห็นเพชรในตมก่อนคนอื่น และคิดว่าเก็บไว้นานๆ จะต้องเป็นเพชรส่องประกาย ที่จะมีคนมาให้ราคาที่แท้จริง
2.ราคาสะท้อนไปล่วงหน้า 5 ปี แสดงว่าคุณประหยัดเวลาไป 5 ปีแล้ว จากที่ตอนแรกคุณคิดว่าจะต้องเก็บไว้ยาวๆ
3.แต่ใจคุณอาจจะอยากได้ราคาล่วงหน้า 10 ปีหรือเปล่า แล้วคิดว่าราคาล่วงหน้า10ปี จะมีคนซื้อหรือไม่?
วิธีที่จะช่วยให้สบายใจ คือ ควรหาหุ้นที่ราคาสะท้อนฐานะบริษัทเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ไว้ในwatch list หลายๆตัวครับ จะได้ขายของแพง ไปซื้อของถูกได้มากขึ้น และซื้อได้เรื่อยๆครับ
- value_invester_man
- Verified User
- โพสต์: 47
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าเกิดหุ้นที่คุณถืออยู่เกิดอาการดังนี้
โพสต์ที่ 12
ขายทิ้ง แล้วรอราคาร่วงก็รับกลับอีกครั้ง เล่นได้หลายรอบเลย