อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ตอนที่ sppt เข้าตลาด ผมเห็นเขาเขียน ความเสี่ยงไว้แบบนี้ครับ


1.3 Risk from substitute products
Besides changes in technology affecting the size of hard disk, substitute products caused by technology
development is another major factor to be concerned. In term of competition for memory storage unit, there
are other types of memory unit, which is smaller in term of size and has a capacity to store data at one level.
An example of such memory is "flash memory", which becomes more popular in consumer groups.
However, it is not yet widely used due to limited capacity. In addition, its price/gigabyte is much more
expensive than HDD. The example is the comparison between latest model of flash memory - "Compact
Flash Type II", which is priced at around 280,000 yen (98,000 Baht) or 16,333 Baht/gigabyte, and the
latest model of HDD, which has a capacity of 200 gigabyte sold at 5,000 Baht or 25 Baht/gigabyte. However,
continuous development with more popularity may drive the price of flash memory down to a competitive price.
This will impact HDD industry in a certain level and the company will get direct impact from this factor.  
Nonetheless, the hard disk industry will also have continuous development. Thus risk regarding substitute
products is not too high. Concerning about the potential problems for HDD market, the company attempts to
closely follow the changes in technology in order to adapt itself and minimize the impacts.
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 2

โพสต์

แล้วมาถึงวันนี้ราคาต่อ Gbyte ของแฟลช และ hdd เป็นอย่างไรบ้างครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
โอ@
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4246
ผู้ติดตาม: 0

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เพิ่งเข้าไปดูมา Flash drive 8 GB อยู่ที่ 70$ = 2450 บาท
แต่ Harddisk 200 GB ก็ราคาประมาณ 2450 บาท

ทดแทนนี่อีกนานครับ
แต่ย้ายฐานนี่ ไม่แน่แฮะ
_________
Onokung
Verified User
โพสต์: 1250
ผู้ติดตาม: 0

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 4

โพสต์

เท่าที่อ่านๆ ทำได้ที่ความจุ 40 G เรียบร้อยแล้วครับ Flash Drive
เรื่องราคาไม่ค่อยน่าห่วงครับเพราะว่า ผลิตเยอะมันคงถูกลงเอง
ที่เค้ากำลังดูอยู่คือว่าทำยังไงให้มัน ถ่ายความเร็วได้ เท่ากับ หรือ เร็วกว่า แบบ Harddisk แบบเก่าน่ะครับ เพราะข้อดีของ Flash Drive มันทนทาน ต่อการหายไปของข้อมูล(ฮาร์ดดิสพัง)มากกว่า
1.ถูกหรือแพง
2.มั่นคงหรือชั่วครู่
3.ขยายตัวหรือหดตัว
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Muffin
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 874
ผู้ติดตาม: 0

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 5

โพสต์

กังวลเรื่องนี้กันตั้งแต่ 2.6-2.8 บาทแล้วหละครับ
บริษัทก็ยังกำไรดี และโตต่อมาเรื่อยๆ

ขอโทษทีครับเผลอพูดเรื่องราคาอีกแล้ว
"Hope is not a strategy"
P_1
Verified User
โพสต์: 148
ผู้ติดตาม: 0

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ซิงเกิ้ลฯทุ่ม100ล.เพิ่มการผลิต หวังรายได้ทั้งปีเข้าเป้าโต30%

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 พฤษภาคม 2550 09:27 น.


      "ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท" เตรียมเซ็นสัญญาขายเครื่องจักรที่ใช้ในการแปรรูปขยะพลาสติกให้เป็นน้ำมันดิบเครื่องแรกให้รัฐบาลไตรมาส 2/50 นี้ ด้าน "ผู้บริหาร" รับผลงานไตรมาสแรกเจอช่วงโลว์ซีซั่น ทำให้รายได้ชะลอตัว แต่มั่นใจทั้งปีโตตามเป้าที่ 30% พร้อมอนุมัติงบขยายกำลังการผลิตอีก 100 ล้านบาท
     
      นายสืบตระกูล บินเทพ กรรมการ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะมีการเซ็นสัญญาขายเครื่องจักรที่ใช้ในการแปรรูปขยะพลาสติกให้เป็นน้ำมันดิบให้กับรัฐบาลลูกค้ารายแรกได้ภายในไตรมาส 2 ปี 2550 นี้ ซึ่งทางคณะกรรมการของบริษัทจะนำลูกค้าไปเยี่ยมชมเครื่องตัวอย่างที่ประเทศโปแลนด์
     
      สำหรับราคาจำหน่ายเครื่องจักรดังกล่าวจะมีราคาอยู่ที่ 65 ล้านบาทต่อเครื่อง โดยเครื่องแรกนั้นบริษัทอาจจะมีการปรับลดราคาให้กับลูกค้าเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นการนำร่องสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจและตัดสินใจซื้อเครื่องจักรให้ง่ายขึ้น
     
      "ในปีนี้เราตั้งเป้าว่าจะขายได้ประมาณ 2 เครื่อง โดยเครื่องแรกนั้นเราอาจจะมีการปรับลดราคาให้กับลูกค้าก่อนเพื่อเป็นการนำร่อง แต่ว่าจะปรับลดราคาเท่าไหร่นั้นคงต้องหารือถึงความเหมาะสมด้านราคาขายกับลูกค้าอีกครั้ง ส่วนเครื่องที่สองอาจจะเป็นราคาขายที่บริษัทตั้งไว้"นายสืบตระกูล กล่าว
     
      สำหรับแผนการขยายตลาดนายสืบตระกูล กล่าวว่า ในเบื้องต้นบริษัทจะมุ่งเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เนื่องจากสินค้าเป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับประเทศไทย
     
      นายสืบตระกูล กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาสที่1/2550นี้อาจจะไม่ดีมากนัก แต่อาจจะดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากปีนี้บริษัทได้มีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น เป็น 250 ล้านชิ้น จากปีก่อนอยู่ที่ 200 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งจะเข้ามาสนับสนุนรายได้รวมในปีนี้ให้เติบโตเพิ่มขึ้น 30% ตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ เมื่อเทียบกับปีก่อนบริษัทมีรายได้กว่า 600 ล้านบาท ประกอบกับบริษัทยังมีปัจจัยบวกด้านภาษีจากการย้ายฐานการผลิตไปยังโรงงานแห่งใหม่ที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอินทรา จังหวัดสิงห์บุรี
     
      "ผลงานไตรมาสแรกอาจจะชะลอตัว เพราะว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจส่งออกและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ขณะเดียวกันช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 คาดว่ารายได้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะว่าเป็นช่วงไฮ ซีซั่น โดยอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ในปีนี้มองว่ายังมีแนวโน้มขยายตัวประมาณ 10%" นายสืบตระกูลกล่าว
     
      สำหรับการอ่อนค่าเงินเยนและการแข็งค่าของเงินบาท ยังส่งผลดีกับบริษัท เนื่องจากจะทำให้ต้นทุนวัตถุดิบลดลงจากที่บริษัทนำเข้าวัตถุดิบประเภทสแตนเลส และทองเหลืองจากประเทศญี่ปุ่นมากกว่า 90% ขณะเดียวกัน ยังได้เปรียบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่ส่งผลกระทบต่อบริษัทในแง่ที่ลูกค้าอาจจะขอปรับลดราคาสินค้าได้
     
      อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทได้ขออนุมัติงบลงทุนจากคณะกรรมการบริษัทเพื่อใช้ขยายโรงงานและเพิ่มกำลังการผลิต วงเงินลงทุนรวม 100 ล้านบาทโดยแบ่งเป็นงบซื้อเครื่องจักรจำนวน 80 ล้านบาท และลงทุนด้านงบลงทุนในการศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D)อีกจำนวน 20 ล้านบาท
คงยังไม่ตายปีนี้มั้งครับ  เหมือนถามว่าโลกจะระเบิดเมื่อไหร่
เมื่อไหร่รถ จะเลิกใช้เพลา เลิกใช้ยาง
เมื่อไหร่จะเลิกใช้สายเคเบิ้ล ไปใช้ wireless



ผมอาจพูดเกินไปหน่อย แค่อยากจะบอกว่า สิ่งที่ยังมาไม่ถึง กังวลได้ แต่ไม่ต้องกลัวมั้ง

วันที่ 14 นี้
พี่สืบ เขาจะออกรายการช่อง 5 เวลา 10 โมง ลองไปฟังเขาดูก็ได้
แต่ปีนี้ มียอดขายเติบโตค่อนข้างแน่นอน
ตอนนี้ 4 บาท กว่าๆ อาจจะเป็น .......  บาท
ก่อนที่เขาจะเลิกใช้ Hardisk ก็ได้มั้งครับ  
แล้วตอนนั้น ก็อย่าหายกังวลแล้วกันครับ กังวลไปดีแล้ว  :pray:
กับบางเรื่อง ไม่รู้ก็เป็นปัญญา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Saran
Verified User
โพสต์: 2377
ผู้ติดตาม: 1

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เรื่องอุตสาหกรรม HDD ตายคงอีกนานมากๆ นะครับ เพราะปัจจุบันการเก็บข้อมูลในรูปของ digital นั้นมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ

มีบทวิจัยมาอ้างอิง
http://www.emc.com/about/destination/digital_universe/

แต่ปัญหาก็คือ ถ้าผู้นำทั้ง 5 รายของอุตสาหกรรม HDD ย้ายฐานผลิตไปที่อื่นเนี่ยสิ น่ากลัวกว่า



อืม... เขียนอย่างนี้เหมือนทุบหุ้นตัวเองเลยแฮะ  :lol:
Dech
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4940
ผู้ติดตาม: 1

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ยังอีกนานแน่ๆครับ เห็นจากเพื่อนที่ทำในโรงงานด้านนี้ก็ยังเฮฮาปาร์ตี้กันอยู่นะครับ รายได้ก็ดีๆๆๆๆๆ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
ace
Verified User
โพสต์: 207
ผู้ติดตาม: 0

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ตอนนี้ Flash memory ยังมีอะไรที่แพ้ hard drive อยู่บ้างครับ

ที่แพ้แน่ๆคือความเร็ว   ซึ่งส่วนตัวคิดว่า ความเร็วของการเขียนอ่านของ Flash memory น่าจะพัฒนาได้อีก (ไม่รู้มากแค่ไหน  ซึ่งตอนนี้ขนาด hdd. ที่ว่าเร็วๆแล้ว ก็ยังเป็นส่วนที่เป็นปัญหาคอขวดของ computer เลย)


ความน่าเชื่อถือ     น่าจะแพ้ hdd.

ความสะดวกสบาย   ชนะขาด จากขนาดที่เล็ก พกพาสะดวก  (แหงละ มันถูกออกแบบมาเพื่อการนี้)


ผมคิดว่า ถ้า flash memory ไม่ยึดติดกับขนาด  ที่ต้องเล็กมาก   อาจจะพัฒนาข้อด้อยข้างบนให้ทัดเทียม hdd. ได้นะครับ

อะไรๆก็เป็นไปได้ครับ  คิดถึงสิ่งของที่ใช้เมื่อ 3-4 ปีก่อน กับตอนนี้ มีหลายอย่างเปลี่ยนไปมากเลย
lekmak333
Verified User
โพสต์: 697
ผู้ติดตาม: 0

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ถ้าเกิดต่อไปต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบ ไปเป็น flask drive

ธุรกิจในลักษณะแบบนี้ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปด้วยนั่นแหละครับ

ถ้า harddisk เปลี่ยนรูปแบบ ก็เปลี่ยนทำแบบใหม่ไม่น่าจะยากน่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 0

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เมื่อวานซืน เห็นข่าวช่อง 9  ..............

นักศึกษาที่อินเดีย คิดค้นการจัดเก็บข้อมูลแบบใหม่เห็นว่าเป็น rainbow  format ...

ไม่ใช่digital แกใช้สี อุณหภูมิของสีอะไรนี่แหละ ............

สามารถจัดเก็บได้ เป็นพันพันGB .............

ในข่าวว่าใช้กระดาษหรือพลาสติกในการจัดเก็บ .................


อันนี้จะเป็น harddisk  killerหรือเปล่านะ ................
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 0

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 12

โพสต์

We know most of the data is stored in binary format of zeroes and ones but now Sainul Abideen, an innovator has discovered new rainbow colored format to store data without using binary zeroes and ones . This new research is a part of Sainul Abideen's postgraduate research paper.

According to Abideen rainbow format uses colour pattern combination which can increase data storage hugely and it can hold on any kind of data storage files like text , mp3 , videos.etc . We can read even small amount of data in an ordinary printer and scanner .

You must be thinking how much data storage can be increased . The maximum storage capacity of a conventional pen drive is 64 GB. Using 'rainbow format ' technology it is possible to store data in terabytes or Tbs (data storage capacity equal to 1000 gigabytes). Even a single small dot of this card can hold all the personal details .

Sainul's future plans include setting up his own company in Kerala but he for now wants to continue with his first love - research
ภาพประจำตัวสมาชิก
LOSO
Verified User
โพสต์: 2512
ผู้ติดตาม: 0

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 13

โพสต์

RAINBOW TECHNOLOGY


Even in your wildest imagination, you would never have thought that you can store data on ordinary paper or even plastic paper. Well, Sainul Abideen, a final year MCA student of MES college of Engineering, Kuttipuram in Malapuram district of Kerala has done just that.

Yes, ordinary or plastic paper can be used to store data, says Sainul who has named his invention Rainbow technology, “My friend Neena Varghese suggested the name,” It is distinct for its large storage capacity and cost-effectiveness. “High speed data storage and data reading is possible, files in any format can be stored using this technology.” says Sainul.

While the CD has low storage capacity, the DVD with its high storage capacity, about 4.7 GB or more, is quite expensive.

Discs developed using the rainbow technology are called RVD, (Rainbow Versatile Disc.) data from 90 GB to 450GB can be stored in an RVD, which is almost 131 times the capacity of a normal CD, UP to 65 films can be stored in a single RVD, RVD supports the data in any format like movie files, MP3 files, picture files, data files, etc. Special drives need to be developed in order to support RVDs.

The cost of making an RVD is only 50 ps or Re.1. CDs are made using Poly Carbonate which costs about Rs. 400 to Rs. 450 per kg. And 16 Grams of Poly Carbonate is needed to make a CD. But the RVD which offers 131 times storage capacity than the CD can be made from paper. A method called “Vertical Lining” is applied in RVD.

In Rainbow technology, the data in any format termed ‘rainbow format’ has been designed in such a way that it can be printed out in the form of images. Trigonometric forms like circle or square, certain colour combinations and certain other forms are being used. Each trigonometric form and colour combination represents a complete pattern. Most modern technologies like image processing, pattern matching, etc. are used for the purpose. The data which gets converted into an image form is then printed on paper or any other thing. This is low the data storage is made possible. When the steps are reversed, the rainbow picture is converted into data. Although environmental light differences and colour shading is a problem, it can be overcome up to a certain extent by using efficient mapping function. Each rainbow format contains a header, body, footer, parity, Rainbow boundary mapper, etc. Header contains the measurement of the rainbow picture, the algorithm that is being used, etc. It also contains an efficiently-designed error checking system.

The four main storage devices made using this technology are RVD, Disposable storage, Data Banks, Rainbow cards, and answer to the storage problems faced by the computer world.

With the help of disposable storage, a high density data storage is made possible even on paper or plastic sheets, Any type of computer files can be stored and distributed this way, so instead of giving CDs with the computer magazines, it’s content can be printed in a page, video albums, software etc. can be distributed at a very low cost with the help of Disposable storage.

Rainbow cards can be used in mobile devices in place of DVDs & VCDs. In a square inch sized Rainbow card, (equivalent to the size of a SIM card) more than 5 GB data can be stored. A major crisis faced in the design of the small digital devices is the huge size of the CD/DVD drives. The Rainbow cards can solve this problem. Un-authorized copies of the films can be controlled to a certain limit using these cards. A UK-based company has already evinced interest in making Rainbow cards.

Another theme put forward by rainbow technology is the data banks; it is huge server with a high storage capacity. As per a research project done in US in 2003 to store the available static data (films, songs, tutorials, presentations etc) the server required will cost $ 500 crore. (Rs 23,000 crore). But by using data banks, a similar server can be made with Rs 35 lakhs. All; the available films and other static data can be used by paying cash through the Internet. Almost 125.603 PB data storage is possible in a data bank.

Sainul is busy with project Xpre3ssa now. It’s a software package for regional languages. By using this, newspapers, stories, novels etc can be made audible in its own style. So online newspapers and novels can be enjoyed through a mobile phone with a GPRS connection. Sainul Abideen, a native of Karingappara, is a freelance software developer.
ภาพประจำตัวสมาชิก
CEO
Verified User
โพสต์: 1243
ผู้ติดตาม: 0

อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสค์จะตายเมื่อไหร่

โพสต์ที่ 14

โพสต์

โอ้ ขอบคุณท่าน LOSO ครับ ความรู้ใหม่จริงๆเลยครับ

ถึงคราวอินเดียจะเป็นจ้าวด้าน storage ซะที

อเมริกามี ซีเกต wd
ญี่ปุ่นมี ฮิตาชิ ฟูจิตสึ
เกาหลีมี ซัมซุง

ที่จริงผมไม่ห่วงบริษัทพวกนี้เท่าไหร่ แต่ถ้าเกิดยักษ์ใหญ่ที่มีฐานในไทยพวกนี้เจ๊งขึ้นมา ผมเกรงว่าประเทศไทยจะแย่ แรงงานเป็นแสนที่ต้องตกงาน แล้วพวกผู้บริหารและวิศวกรไทยอีกเป็นพันๆ
เศรษฐกิจไทยคงวูบตามถ้ามีอันเป็นไปเพราะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากคงต้องล้มตามๆกันไป
โพสต์โพสต์