สวัสดีครับทุกท่าน ผมเป็นสมาชิกใหม่และเพิ่งจะเริ่มศึกษาเรื่องการลงทุนมาแค่ 8 เดือน พยายามจะศึกษาแนวทาง value investor เพราะประทัปใจหนังสือ ตีแตก ของ ดร.นิเวศน์ (เป็นหนังสือหุ้นเล่มแรกที่ได้อ่าน แม้จะเขียนมานาน แต่อ่านแล้วก็เห็นว่ายังดีอยู่ โดยเฉพาะมือใหม่อย่างผม) แต่รู้สึกว่าแนวทางนี้ค้อนข้างยาก เพราะการพยายามหามูลค่าหุ้น, อ่านงบดุล, และอื่นๆ ยังใหม่มากสำหรับผม คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะรอบรู้ได้อย่างทุกๆ ท่าน
ผมอยากจะขอคำแนะนำเกี่ยวกับหุ้น FUTUREPF หน่อยเพราะว่าหาใน "ร้อยคนร้อยหุ้น"แล้วไม่มี เห็นราคาปิดวันศุกร์เหลือ 9.50 บาท อยากจะเข้าไปซื้อแต่ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะดีหรือเปล่า เพราะด้วยความที่เป็นมือใหม่การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ก็ยังเป็นรองพี่ๆ ทุกคน อยากให้ช่วยกรุณาแนะนำให้ด้วย จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
ขอบคุณมากครับ
FUTUREPF
- longlife
- Verified User
- โพสต์: 245
- ผู้ติดตาม: 0
FUTUREPF
โพสต์ที่ 2
ตัว FUTUREPF ให้ผลตอบแทนดีมากเลยครับ แต่เนื่องจากกองทุน FUTUREPF เป็นเพียงแค่การซื้อสิทธิการเช่า (Leasehold) กองทุนเองจึงไม่มีสินทรัพย์ และทำให้ในระยะยาวแล้ว ตัวราคาของ FUTUREPF จะลดลง โดยเฉพาะหากใกล้จะหมดสิทธิการเช่า แต่ก็ยังอีกนานครับ เพราะกองทุน FUTUREPF มีสิทธิการเช่าได้ถึงปี 2569 ไม่เหมือนอย่างเช่นกองทุน TFUND หรือ SIRIPF ครับ ดังนั้นผมอยากแนะนำว่า ซื้อกองทุนอย่าง TFUND หรือ SIRIPF ดีกว่าครับอุ่นใจกว่ามาก เพราะตัวกองทุนเองมีทรัพย์สิน
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
FUTUREPF
โพสต์ที่ 3
ข้อแรก ตัวนี้ซื้ออยู่ ถือเป็นการลงทุนแทนเงินฝากเพราะลงทุนมาหกเดือน ได้ปันผลสองงวดแล้ว เท่าที่อ่านหนังสือชี้ชวนจะจ่านปันผลทุกไตรมาส และคาดว่าผลประกอบการน่าจะแปดเปอร์เซนต์ต่อปีlonglife เขียน:ตัว FUTUREPF ให้ผลตอบแทนดีมากเลยครับ แต่เนื่องจากกองทุน FUTUREPF เป็นเพียงแค่การซื้อสิทธิการเช่า (Leasehold) กองทุนเองจึงไม่มีสินทรัพย์ และทำให้ในระยะยาวแล้ว ตัวราคาของ FUTUREPF จะลดลง โดยเฉพาะหากใกล้จะหมดสิทธิการเช่า แต่ก็ยังอีกนานครับ เพราะกองทุน FUTUREPF มีสิทธิการเช่าได้ถึงปี 2569 ไม่เหมือนอย่างเช่นกองทุน TFUND หรือ SIRIPF ครับ ดังนั้นผมอยากแนะนำว่า ซื้อกองทุนอย่าง TFUND หรือ SIRIPF ดีกว่าครับอุ่นใจกว่ามาก เพราะตัวกองทุนเองมีทรัพย์สิน
ข้อสอง แม้เป็นการลงทุนในสัญญาเช่า แต่ข้อมูลตามหนังสือชี้ชวนระบุว่ากองทุนมีสิทธิที่จะต่อสัญญาได้ ที่ดินแปลงนี้เป็นของตระกูลหวั่งหลี ซึ่งก็เป็นผู้บริหารศูนย์การค้านี้อยู่และถือหน่วยลงทุนในกองนี้อยู่ เลยคิดเอาเองตามหลักว่า เขาควรต่ออายุการเช่าให้กองทุนที่เขาเป็นผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ (แต่ตามกฏ กลต เขาถือได้แค่หนึ่งในสาม ดังนั้น เขาถือเต็มที่หนึ่งในสาม)
ข้อสาม ถ้าไม่มีการต่ออายุสัญญา หน่วยลงทุนก็จะไม่มีค่า แต่เคยฟังก่พรีเซ้นท์ของบัวหลวงว่าชาวงห้าหกปีท้ายๆ ตามผลประกอบการน่าจะจ่ายปันผลได้มากกว่าสิบห้าเปอรืเซนต์ สำหรับตัวเอง เอาส่วนที่เกินแปดเปอร์เซนต์มาหักเงินต้นออก ท้ายที่สุดก็น่าจะได้เงินต้นคืนครบ
ข้อสี่ การลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์แบบนี้ ต่างกับหุ้นนะ เพราะยังไงๆ โอกาศที่จะขายกองทุนได้สูงกว่าสิบบาทไม่มีแน่ๆ ต้องมองเป็นการลงทุนแบบ fixed income คือเก็บกินแทนดอกเบี้ย ในขณะที่ ดร.นิเวศน์เลือกลงทุนในหุ้นคุณค่าที่อาจได้ทั้งเงินปันผล และราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น ดังนั้น ตรงนี้ต้องมองให้แตกนะคะ
ข้อห้า ต้องเข้าใจตัวอสังหาที่เราลงทุน เพราะเงินที่กองทุนได้มา มาจากการเช่า ไม่มีคนเช่า หรือคนเช่าไม่ต่อสัญญา กองทุนก็เน่าได้เหมือนกัน อย่างบางกองที่ชื่อดูดี ทรัพย์สินคืออะไร บ้านให้ฝร่งเช่า แล้วถ้าฝรั่งไม่ต่อสัญญาเช่าละ โดยส่วนตัวคิดว่าตอนนี้การทำเซอร์สิสอพาร์ทเม้นท์แข่งกันแรงมาก ราคาค่าเช่าลดลงเรื่อยๆ กำลังจะมีซัพพลายอพาร์ทเม้นท์ห้าหกห้องนอน โครงการตารางเมตรละเป็นแสนออกมา อย่างเจ้าสัวเบียร์ช้างนี่ ถ้าตัดราคาค่าเช่าขึ้นมา วงการสะเทือนแน่
แต่กองทุนที่ลงทุนในห้าง โดยส่วนตัวคิดว่าปลอดภัยระดับหนึ่ง ยิ่งห้างที่เปิดมานานๆ อันนี้พี่เอาวิธีดร.นิเวศน์มาใช้ เดินห้างนี้ คนเดินเยอะตลอดไหม ถ้าคนเดินเยอะ ร้านต่างๆก็ต้องต่อสัญญาเช่า แล้วถ้ามีบางร้านค้าขายไม่ดี ก็มีคนพร้อมเสียบตลอด อันนี้พี่เลยเลือกลงทุนกองทุนนี้
ขอให้โชคดีคะ
just one life, use it!