ถามเรื่อง สูตรของเคลลี่ Kelly Formula
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง สูตรของเคลลี่ Kelly Formula
โพสต์ที่ 1
สืบเนื่องจากบทความ ในกรุงเทพธุรกิจ ฉบับวัน อังคารที่ 29 พค.50 ที่ผ่านมา ได้กล่าวถึงเรื่องว่า จะลงทุนเท่าไหร่ดี
ซึ่งผมจะคัดย่อบทความนี้ว่า มีใจความที่ได้แนะสูตรของเคลลี่ Kelly Formula
กล่าวคือ ถ้าจะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดกับพอร์ตของเรา
เราควรลงทุนในหุ้นแต่ละตัวคิดเป็นสัดส่วนของพอร์ต (F) เท่ากับ Edge หารด้วย Odds โดยที่
Edge = ผลรวมของความน่าจะเป็นคูณด้วยผลตอบแทนที่จะได้รับหรือเสีย
Odds = ผลตอบแทนสูงสุดที่จะได้รับถ้าเราชนะ
โดยได้ยกตัวอย่าง
....... มีต่อ
ซึ่งผมจะคัดย่อบทความนี้ว่า มีใจความที่ได้แนะสูตรของเคลลี่ Kelly Formula
กล่าวคือ ถ้าจะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดกับพอร์ตของเรา
เราควรลงทุนในหุ้นแต่ละตัวคิดเป็นสัดส่วนของพอร์ต (F) เท่ากับ Edge หารด้วย Odds โดยที่
Edge = ผลรวมของความน่าจะเป็นคูณด้วยผลตอบแทนที่จะได้รับหรือเสีย
Odds = ผลตอบแทนสูงสุดที่จะได้รับถ้าเราชนะ
โดยได้ยกตัวอย่าง
....... มีต่อ
What do you mean.?
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง สูตรของเคลลี่ Kelly Formula
โพสต์ที่ 2
ตัวอย่าง หุ้น ก. มีโอกาสที่จะขึ้น 60% และถ้าขึ้นจะให้ผลตอบแทน 15% ส่วนโอกาสที่จะลงมี 40% และถ้าลงก็จะลงไปเพียง 10%
Edge ของหุ้น ก. = ( .60 * 15 ) - ( .40* 10 ) = 5
Odds ของหุ้น ก. = 15
ดังนั้น ค่า F = 5 / 15 = .33
หรือเราควรลงทุนซื้อหุ้น ก. 33% ของพอร์ตของเรา
ตัวอย่าง หุ้น ข. มีโอกาสจะขึ้น 20% และให้ผลตอบแทน 80% กับ มีโอกาส 50% ที่จะกำไร 10% ส่วนโอกาสที่จะลงมี 30% และถ้าลงก็จะขาดทุน20%
Edge ของหุ้น ก. = ( .20 * 80 ) + (.50* 10) - ( .30* 20 ) = 15
Odds ของหุ้น ก. = 80
ดังนั้น ค่า F = 15 / 80 = .1875
หรือเราควรลงทุนซื้อหุ้น ข. 18% ของพอร์ตของเรา
Edge ของหุ้น ก. = ( .60 * 15 ) - ( .40* 10 ) = 5
Odds ของหุ้น ก. = 15
ดังนั้น ค่า F = 5 / 15 = .33
หรือเราควรลงทุนซื้อหุ้น ก. 33% ของพอร์ตของเรา
ตัวอย่าง หุ้น ข. มีโอกาสจะขึ้น 20% และให้ผลตอบแทน 80% กับ มีโอกาส 50% ที่จะกำไร 10% ส่วนโอกาสที่จะลงมี 30% และถ้าลงก็จะขาดทุน20%
Edge ของหุ้น ก. = ( .20 * 80 ) + (.50* 10) - ( .30* 20 ) = 15
Odds ของหุ้น ก. = 80
ดังนั้น ค่า F = 15 / 80 = .1875
หรือเราควรลงทุนซื้อหุ้น ข. 18% ของพอร์ตของเรา
What do you mean.?
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง สูตรของเคลลี่ Kelly Formula
โพสต์ที่ 3
จริงๆ บทความก็ได้ ข้อเตือนใจหรือข้อควรระวัง ในเรื่องความถูกต้องที่จะน้อยลง เนื่องจาก โอกาสที่เราอาจจะผิดพลาดใน
- การกำหนดความน่าจะเป็น ที่อาจจะผิด หรือ
- การคาดการณ์ผลตอบแทนที่จะไม่ตรงกับความเป็นจริง
ดังนั้น บทความก็ได้แนะนำการประยุกต์ไปใช้ให้ปลอดภัยพอเป็นแนวทางไว้ด้วย
จบบทความดังกล่าว ตรงนี้
แต่ผมมีประเด็นที่สงสัย คาใจ ที่จะมาถาม ผู้ที่สันทัด
หรือเข้าใจในบทความนี้ ดังนี้ ครับ ........
- การกำหนดความน่าจะเป็น ที่อาจจะผิด หรือ
- การคาดการณ์ผลตอบแทนที่จะไม่ตรงกับความเป็นจริง
ดังนั้น บทความก็ได้แนะนำการประยุกต์ไปใช้ให้ปลอดภัยพอเป็นแนวทางไว้ด้วย
จบบทความดังกล่าว ตรงนี้
แต่ผมมีประเด็นที่สงสัย คาใจ ที่จะมาถาม ผู้ที่สันทัด
หรือเข้าใจในบทความนี้ ดังนี้ ครับ ........
What do you mean.?
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง สูตรของเคลลี่ Kelly Formula
โพสต์ที่ 4
โดยผมขอยกตัวอย่างเพิ่ม ดังมีข้อมูล เป็น
หุ้น ค. มีโอกาสที่จะขึ้น 70% และถ้าขึ้นจะให้ผลตอบแทน 15% ส่วนโอกาสที่จะลงมี 30% และถ้าลงก็จะลงไปเพียง 10%
Edge ของหุ้น ค. = ( .70 * 15 ) - ( .30* 10 ) = 7.5
Odds ของหุ้น ค. = 15
ดังนั้น ค่า F = 7.5 / 15 = .50
หรือเราควรลงทุนซื้อหุ้น ค. 50% ของพอร์ตของเรา
ตัวอย่าง หุ้น ง. มีโอกาสจะขึ้น 10% และให้ผลตอบแทน 80% กับ มีโอกาส 60% ที่จะกำไร 15% ส่วนโอกาสที่จะลงมี 30% และถ้าลงก็จะขาดทุน10%
Edge ของหุ้น ง. = ( .10 * 80 ) + (.60* 15) - ( .30* 20 ) = 14
Odds ของหุ้น ง. = 80
ดังนั้น ค่า F = 14 / 80 = .175
หรือเราควรลงทุนซื้อหุ้น ง. 18% ของพอร์ตของเรา
หุ้น ค. มีโอกาสที่จะขึ้น 70% และถ้าขึ้นจะให้ผลตอบแทน 15% ส่วนโอกาสที่จะลงมี 30% และถ้าลงก็จะลงไปเพียง 10%
Edge ของหุ้น ค. = ( .70 * 15 ) - ( .30* 10 ) = 7.5
Odds ของหุ้น ค. = 15
ดังนั้น ค่า F = 7.5 / 15 = .50
หรือเราควรลงทุนซื้อหุ้น ค. 50% ของพอร์ตของเรา
ตัวอย่าง หุ้น ง. มีโอกาสจะขึ้น 10% และให้ผลตอบแทน 80% กับ มีโอกาส 60% ที่จะกำไร 15% ส่วนโอกาสที่จะลงมี 30% และถ้าลงก็จะขาดทุน10%
Edge ของหุ้น ง. = ( .10 * 80 ) + (.60* 15) - ( .30* 20 ) = 14
Odds ของหุ้น ง. = 80
ดังนั้น ค่า F = 14 / 80 = .175
หรือเราควรลงทุนซื้อหุ้น ง. 18% ของพอร์ตของเรา
What do you mean.?
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง สูตรของเคลลี่ Kelly Formula
โพสต์ที่ 5
กับมาดูผลสรุปของค่า F ของหุ้นทั้ง 4 อีกครั้งนะครับ
หุ้น ก. = .33
หุ้น ข. = .1875
หุ้น ค. = .50
หุ้น ง. = .175
ค่า F ของหุ้น ง. ทำไมมันต่ำสุดล่ะครับ
ทั้งๆ ที่มันแทบจะไม่แตกต่าง แถมยังดีกว่าหุ้น ค. ด้วยซ้ำ
ผมไม่อยากสรุปว่า มีอะไรผิดในสูตร ดังกล่าว
แต่อยากจะเข้าใจว่า ผมเองอาจเข้าใจอะไรผิด หรือมองข้ามอะไรไปหรือเปล่า
ถึงตอนนี้ ก็เลยมาฝากถามเพื่อนๆ ที่อาจมีมุมมอง
หรือความเห็นอื่นๆ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณนะครับ ประมาณว่า มันคาใจ อยู่น่ะครับ
หุ้น ก. = .33
หุ้น ข. = .1875
หุ้น ค. = .50
หุ้น ง. = .175
ค่า F ของหุ้น ง. ทำไมมันต่ำสุดล่ะครับ
ทั้งๆ ที่มันแทบจะไม่แตกต่าง แถมยังดีกว่าหุ้น ค. ด้วยซ้ำ
ผมไม่อยากสรุปว่า มีอะไรผิดในสูตร ดังกล่าว
แต่อยากจะเข้าใจว่า ผมเองอาจเข้าใจอะไรผิด หรือมองข้ามอะไรไปหรือเปล่า
ถึงตอนนี้ ก็เลยมาฝากถามเพื่อนๆ ที่อาจมีมุมมอง
หรือความเห็นอื่นๆ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณนะครับ ประมาณว่า มันคาใจ อยู่น่ะครับ
What do you mean.?
- เพื่อน
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1832
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง สูตรของเคลลี่ Kelly Formula
โพสต์ที่ 7
สวัสดีครับ คุณsirivajj สบายดีนะครับ... :lol:
ผมว่าวิธีคิด มีที่ผิดแน่ๆครับ
กรณีที่มี%โอกาสขึ้นถึง2ค่าแล้วนำมาบวกกันเลย ทำให้ผลลัพธ์เพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเดี่ยวๆครับ ลองนึกว่า ถ้ามีค่าของโอกาสขึ้นมาเป็น3ค่า แล้วนำไปบวกกัน3ครั้ง ก็ยิ่งเพิ่มเข้าไปอีก ในขณะที่ตัวลบมีอยู่ค่าเดียว...ทำไมไม่มี2ค่าหรือ3ค่าบ้าง
ผมว่าต้องเลือกค่าสูงสุด เท่านั้นครับ หรือถ้าจะใช้2หรือ3ค่ามารวมกัน ก็ควรหาเป็นค่าเฉลี่ยก่อน จะได้ยุติธรรมกว่าครับ
ว่าแต่สูตรนี้ น่าศึกษาดีเหมือนกันนะครับ.... 8)
ผมว่าวิธีคิด มีที่ผิดแน่ๆครับ
กรณีที่มี%โอกาสขึ้นถึง2ค่าแล้วนำมาบวกกันเลย ทำให้ผลลัพธ์เพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเดี่ยวๆครับ ลองนึกว่า ถ้ามีค่าของโอกาสขึ้นมาเป็น3ค่า แล้วนำไปบวกกัน3ครั้ง ก็ยิ่งเพิ่มเข้าไปอีก ในขณะที่ตัวลบมีอยู่ค่าเดียว...ทำไมไม่มี2ค่าหรือ3ค่าบ้าง
ผมว่าต้องเลือกค่าสูงสุด เท่านั้นครับ หรือถ้าจะใช้2หรือ3ค่ามารวมกัน ก็ควรหาเป็นค่าเฉลี่ยก่อน จะได้ยุติธรรมกว่าครับ
ว่าแต่สูตรนี้ น่าศึกษาดีเหมือนกันนะครับ.... 8)
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 1
ถามเรื่อง สูตรของเคลลี่ Kelly Formula
โพสต์ที่ 10
ผมเข้าใจว่าเป็นการคำนวณความน่าจะเป็นที่ได้รับ กำไรสูงสุดเทียบกับขาดทุนสูงสุด เพียงอย่างเดียว โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลกำไรในช่วงอื่น เพราะค่า Odds เป็นค่ากำไรสูงสุดเพียงอย่างเดียว
หุ้น ก. มีกำไรสูงสุดที่คาดไว้ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับหุ้น ข. ดังนั้นโอกาสที่จะได้กำไรสูงสุดจากหุ้น ข. จึงมีต่ำกว่าหุ้น ก.
ถ้าลองปรับกำไรสูงสุดของหุ้น ข. ลงมาเป็น Odds = 40
ผลลัพธ์ที่ได้จะต่างจากเดิมมากครับ
หุ้น ข.จะมีค่า F = 15/40 = 0.375
?? งงไหมเอ่ย ??
หุ้น ก. มีกำไรสูงสุดที่คาดไว้ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับหุ้น ข. ดังนั้นโอกาสที่จะได้กำไรสูงสุดจากหุ้น ข. จึงมีต่ำกว่าหุ้น ก.
ถ้าลองปรับกำไรสูงสุดของหุ้น ข. ลงมาเป็น Odds = 40
ผลลัพธ์ที่ได้จะต่างจากเดิมมากครับ
หุ้น ข.จะมีค่า F = 15/40 = 0.375
?? งงไหมเอ่ย ??
สติมา ปัญญาเกิด
- nanakorn
- Verified User
- โพสต์: 636
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง สูตรของเคลลี่ Kelly Formula
โพสต์ที่ 11
Everything I do, I do it for you.
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง สูตรของเคลลี่ Kelly Formula
โพสต์ที่ 12
nanakorn เขียน:ใครมีเวลาลองอ่านต้นฉบับดูครับ คงจะได้คำตอบ
http://www.racing.saratoga.ny.us/kelly.pdf
ต้นฉบับยอดเยี่ยมมากครับ
อ่านปุ๊บติดเลย ..........
......... ติดศัพท์
What do you mean.?