การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
โพสต์ที่ 3
ในงาน Berkshire Annual Meeting ปีนี้ มีเด็กผู้หญิงอายุ 10 ขวบลุกขึ้นถามบัฟเฟตต์กับมังเกอร์ว่า หนทางหาเงินที่ดีที่สุดสำหรับเด็ก 10 ขวบคืออะไร บัฟเฟตต์พูดถึงการหางานพิเศษทำ มังเกอร์พูดถึงการเก็บออม แต่ประโยคที่ผมชอบก็คือ ประโยคที่มังเกอร์พูดว่า เขาจะขายช่วงเวลาที่ดีที่สุดของแต่ละวันให้ตัวเอง ซึ่งเขาจะใช้เวลาที่ว่าไปกับการพัฒนาความคิดความอ่านของเขา
วันก่อน ผมดู dvd บิล เกตส์บอกว่า ในแต่ละปี เขาจะกันเวลาไว้สองสัปดาห์เพื่ออ่านหนังสือและใช้ความคิดโดยไม่ทำอย่างอื่น นักศึกษาถามบิล เกตส์ว่า ถ้าเลือกมีอำนาจวิเศษได้หนึ่งอย่าง จะเลือกอะไร บิล เกตส์ ตอบว่า การอ่านหนังสือได้อย่างรวดเร็วก็น่าสนใจ ผมฟังแล้วก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มชวนฝัน มาสะดุ้งและกลับสู่โลกแห่งความจริงอีกที ตอนได้รายงานยอดขายหนังสือของผมจาก se-ed
วันก่อน ผมดู dvd บิล เกตส์บอกว่า ในแต่ละปี เขาจะกันเวลาไว้สองสัปดาห์เพื่ออ่านหนังสือและใช้ความคิดโดยไม่ทำอย่างอื่น นักศึกษาถามบิล เกตส์ว่า ถ้าเลือกมีอำนาจวิเศษได้หนึ่งอย่าง จะเลือกอะไร บิล เกตส์ ตอบว่า การอ่านหนังสือได้อย่างรวดเร็วก็น่าสนใจ ผมฟังแล้วก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มชวนฝัน มาสะดุ้งและกลับสู่โลกแห่งความจริงอีกที ตอนได้รายงานยอดขายหนังสือของผมจาก se-ed
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
โพสต์ที่ 4
ผมฟังแล้วก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มชวนฝัน มาสะดุ้งและกลับสู่โลกแห่งความจริงอีกที ตอนได้รายงานยอดขายหนังสือของผมจาก se-ed
:lovl: คิดว่าแนววีไอยังมีน้อยมากๆในเมืองไทย
ผมยังงงอยู่เลยที่เห็นผลการสำรวจแห่งหนึ่งบอกว่าเมืองไทยเป็นประเทศที่มีอัตราการอ่านหนังสือสูงมากๆของโลก
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
โพสต์ที่ 5
คิดว่าวีไอของแท้ ต้องเป็นนักอ่านคะ
อย่างน้อยก็ต้องอ่านงบ อ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสารเพื่อติดตามโลกธุรกิจ จะได้รู้ว่าธุรกิจไหนดี ธุรกิจไหนร้าย
การลงทุนในตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแน่ๆคะ ตัวเองโชคดี ตั้งแต่ทำงานใหม่ๆ มีเจ้านายสอนว่า "ไม่มีองค์กรไหนมั่นคงที่สุดในโลก มีแต่ตัวคุณเองที่มั่นคง ถ้าคุณทำตัวเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่า เรียกง่าย ใช้คล่อง ขยัน สู้งาน หนักเอาเบาสู้ มีเจ้านายสติดีคนไหนที่จะไม่ชอบ เจ้านายคนนี้ไม่ชอบ สักวันก็จะมีคนเห็นความเป็นเพชรของคุณ และเรียกคุณไปใช้เอง"
ยึดถือคำสอนของลูกพี่เป็นที่ตั้ง ทั้งๆที่ มีช่วงหนึ่งของชีวิตที่ไม่รุ่งเท่าไหร่ เพราะนายใหญ่ของฝ่าย ไม่ชอบหัวหน้าแผนกที่เป็นเจ้านายโดยตรงของเรา เลยเป็นมะม่วงดองกันทั้งแผนก แต่ก็ไม่ท้อ คิดว่า ทำงานเยอะๆ ดีสิ ได้เรียนรู้ นายขึ้นเงินเดือนให้น้อยยังไง ช่างเขา มีงานทำก็ดีโขแล้ว ดีกว่าตกงาน หรือได้งานน่าเบื่อ
ปรกติที่บริษัทนี้ ทำงานห้าโมงเย็นเขาก็กลับบ้านหมด เราทำถึงสองทุ่มทุกวัน เสาร์เข้ามาแถม เพราะงานไม่เสร็จ ลงทุนซื้อตำราฝรั่งมาอ่าน ขอยืมพี่ๆที่รู้จักเอาเอกสารเรื่องงานมาศึกษาเพราะที่บริษัท ไม่ค่อยมีใครสอนงานในด้านที่เราทำ
อดทนอยู่ปีครึ่ง ผู้บริหารคนหนึ่งที่เราเคยทำงานด้วย เขาลาออกจากองค์กร ย้ายไปอยู่บริษัทอื่น โทรมาชวนให้ไปทำงานด้วย ให้เงินเดือนมากกว่าที่เดิมสามเท่า แถมทำไปๆ กลุ่มบริษัทใหม่ที่เราไปทำงานด้วยถูกใจงาน ให้ทุนไปเรียนต่อที่อเมริกา
ทุกวันนี้ ที่ทำมาหาได้มีเงินมาลงทุนเนี่ย
เพราะคำสอนของเจ้านายเก่าแท้ๆคะ ความมั่นคงอยู่ที่ตัวเรา
อย่างน้อยก็ต้องอ่านงบ อ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสารเพื่อติดตามโลกธุรกิจ จะได้รู้ว่าธุรกิจไหนดี ธุรกิจไหนร้าย
การลงทุนในตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแน่ๆคะ ตัวเองโชคดี ตั้งแต่ทำงานใหม่ๆ มีเจ้านายสอนว่า "ไม่มีองค์กรไหนมั่นคงที่สุดในโลก มีแต่ตัวคุณเองที่มั่นคง ถ้าคุณทำตัวเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่า เรียกง่าย ใช้คล่อง ขยัน สู้งาน หนักเอาเบาสู้ มีเจ้านายสติดีคนไหนที่จะไม่ชอบ เจ้านายคนนี้ไม่ชอบ สักวันก็จะมีคนเห็นความเป็นเพชรของคุณ และเรียกคุณไปใช้เอง"
ยึดถือคำสอนของลูกพี่เป็นที่ตั้ง ทั้งๆที่ มีช่วงหนึ่งของชีวิตที่ไม่รุ่งเท่าไหร่ เพราะนายใหญ่ของฝ่าย ไม่ชอบหัวหน้าแผนกที่เป็นเจ้านายโดยตรงของเรา เลยเป็นมะม่วงดองกันทั้งแผนก แต่ก็ไม่ท้อ คิดว่า ทำงานเยอะๆ ดีสิ ได้เรียนรู้ นายขึ้นเงินเดือนให้น้อยยังไง ช่างเขา มีงานทำก็ดีโขแล้ว ดีกว่าตกงาน หรือได้งานน่าเบื่อ
ปรกติที่บริษัทนี้ ทำงานห้าโมงเย็นเขาก็กลับบ้านหมด เราทำถึงสองทุ่มทุกวัน เสาร์เข้ามาแถม เพราะงานไม่เสร็จ ลงทุนซื้อตำราฝรั่งมาอ่าน ขอยืมพี่ๆที่รู้จักเอาเอกสารเรื่องงานมาศึกษาเพราะที่บริษัท ไม่ค่อยมีใครสอนงานในด้านที่เราทำ
อดทนอยู่ปีครึ่ง ผู้บริหารคนหนึ่งที่เราเคยทำงานด้วย เขาลาออกจากองค์กร ย้ายไปอยู่บริษัทอื่น โทรมาชวนให้ไปทำงานด้วย ให้เงินเดือนมากกว่าที่เดิมสามเท่า แถมทำไปๆ กลุ่มบริษัทใหม่ที่เราไปทำงานด้วยถูกใจงาน ให้ทุนไปเรียนต่อที่อเมริกา
ทุกวันนี้ ที่ทำมาหาได้มีเงินมาลงทุนเนี่ย
เพราะคำสอนของเจ้านายเก่าแท้ๆคะ ความมั่นคงอยู่ที่ตัวเรา
just one life, use it!
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
โพสต์ที่ 6
ลงทุนบ้างครับ ก็อ่านๆ คิดๆ ตามีตามเกิด
ที่สำคัญอาศัยบริษัทพาไปเทรน :lovl:
หนังสือ ผมเสียตังซื้อ soccer, นิยายจีน เยอะมากเลย ถ้าเทียบกับหนังสือ VI :shock:
ที่สำคัญอาศัยบริษัทพาไปเทรน :lovl:
หนังสือ ผมเสียตังซื้อ soccer, นิยายจีน เยอะมากเลย ถ้าเทียบกับหนังสือ VI :shock:
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
โพสต์ที่ 7
[quote="triathlon"]คิดว่าวีไอของแท้ ต้องเป็นนักอ่านคะ
อย่างน้อยก็ต้องอ่านงบ อ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสารเพื่อติดตามโลกธุรกิจ จะได้รู้ว่าธุรกิจไหนดี ธุรกิจไหนร้าย
การลงทุนในตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแน่ๆคะ ตัวเองโชคดี ตั้งแต่ทำงานใหม่ๆ มีเจ้านายสอนว่า "ไม่มีองค์กรไหนมั่นคงที่สุดในโลก มีแต่ตัวคุณเองที่มั่นคง ถ้าคุณทำตัวเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่า เรียกง่าย ใช้คล่อง ขยัน สู้งาน หนักเอาเบาสู้ มีเจ้านายสติดีคนไหนที่จะไม่ชอบ เจ้านายคนนี้ไม่ชอบ สักวันก็จะมีคนเห็นความเป็นเพชรของคุณ และเรียกคุณไปใช้เอง"
ยึดถือคำสอนของลูกพี่เป็นที่ตั้ง ทั้งๆที่ มีช่วงหนึ่งของชีวิตที่ไม่รุ่งเท่าไหร่ เพราะนายใหญ่ของฝ่าย ไม่ชอบหัวหน้าแผนกที่เป็นเจ้านายโดยตรงของเรา เลยเป็นมะม่วงดองกันทั้งแผนก แต่ก็ไม่ท้อ คิดว่า ทำงานเยอะๆ ดีสิ ได้เรียนรู้ นายขึ้นเงินเดือนให้น้อยยังไง ช่างเขา มีงานทำก็ดีโขแล้ว ดีกว่าตกงาน หรือได้งานน่าเบื่อ
ปรกติที่บริษัทนี้ ทำงานห้าโมงเย็นเขาก็กลับบ้านหมด เราทำถึงสองทุ่มทุกวัน เสาร์เข้ามาแถม เพราะงานไม่เสร็จ ลงทุนซื้อตำราฝรั่งมาอ่าน ขอยืมพี่ๆที่รู้จักเอาเอกสารเรื่องงานมาศึกษาเพราะที่บริษัท ไม่ค่อยมีใครสอนงานในด้านที่เราทำ
อดทนอยู่ปีครึ่ง ผู้บริหารคนหนึ่งที่เราเคยทำงานด้วย เขาลาออกจากองค์กร ย้ายไปอยู่บริษัทอื่น โทรมาชวนให้ไปทำงานด้วย ให้เงินเดือนมากกว่าที่เดิมสามเท่า แถมทำไปๆ กลุ่มบริษัทใหม่ที่เราไปทำงานด้วยถูกใจงาน
อย่างน้อยก็ต้องอ่านงบ อ่านหนังสือพิมพ์ นิตยสารเพื่อติดตามโลกธุรกิจ จะได้รู้ว่าธุรกิจไหนดี ธุรกิจไหนร้าย
การลงทุนในตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแน่ๆคะ ตัวเองโชคดี ตั้งแต่ทำงานใหม่ๆ มีเจ้านายสอนว่า "ไม่มีองค์กรไหนมั่นคงที่สุดในโลก มีแต่ตัวคุณเองที่มั่นคง ถ้าคุณทำตัวเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่า เรียกง่าย ใช้คล่อง ขยัน สู้งาน หนักเอาเบาสู้ มีเจ้านายสติดีคนไหนที่จะไม่ชอบ เจ้านายคนนี้ไม่ชอบ สักวันก็จะมีคนเห็นความเป็นเพชรของคุณ และเรียกคุณไปใช้เอง"
ยึดถือคำสอนของลูกพี่เป็นที่ตั้ง ทั้งๆที่ มีช่วงหนึ่งของชีวิตที่ไม่รุ่งเท่าไหร่ เพราะนายใหญ่ของฝ่าย ไม่ชอบหัวหน้าแผนกที่เป็นเจ้านายโดยตรงของเรา เลยเป็นมะม่วงดองกันทั้งแผนก แต่ก็ไม่ท้อ คิดว่า ทำงานเยอะๆ ดีสิ ได้เรียนรู้ นายขึ้นเงินเดือนให้น้อยยังไง ช่างเขา มีงานทำก็ดีโขแล้ว ดีกว่าตกงาน หรือได้งานน่าเบื่อ
ปรกติที่บริษัทนี้ ทำงานห้าโมงเย็นเขาก็กลับบ้านหมด เราทำถึงสองทุ่มทุกวัน เสาร์เข้ามาแถม เพราะงานไม่เสร็จ ลงทุนซื้อตำราฝรั่งมาอ่าน ขอยืมพี่ๆที่รู้จักเอาเอกสารเรื่องงานมาศึกษาเพราะที่บริษัท ไม่ค่อยมีใครสอนงานในด้านที่เราทำ
อดทนอยู่ปีครึ่ง ผู้บริหารคนหนึ่งที่เราเคยทำงานด้วย เขาลาออกจากองค์กร ย้ายไปอยู่บริษัทอื่น โทรมาชวนให้ไปทำงานด้วย ให้เงินเดือนมากกว่าที่เดิมสามเท่า แถมทำไปๆ กลุ่มบริษัทใหม่ที่เราไปทำงานด้วยถูกใจงาน
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
- Ryuga
- Verified User
- โพสต์: 1771
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
โพสต์ที่ 8
มาคารวะพี่หมอศรราม พี่ WEB พี่ triathlon ครับ
Low Profile High Profit
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
หมากล้อมเย้ยยุทธจักร
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
โพสต์ที่ 12
ผมเคยได้ยินท่านหนึ่งพูดไว้นานแล้วและประทับใจมาก(จำไม่ได้ว่าท่านใดพูดไว้ ต้องขออภัยด้วย) เขาบอกว่า
หนังจีนนั้นถ้าอยากจะมีกำลังภายในก็ต้องมุมานะฝึกปรือเพราะไม่มีทางลัด แต่หนังไทยนั้นเกิดมาก็มีฤทธิ์เลย ไม่ต้องฝึกอะไรทั้งสิ้น
ทำให้คนไทยขยันน้อยกว่าคนจีน
แต่เพื่อนๆสมาชิกเว็บ tvi คงไม่ใช่อย่างนั้นแน่
เชื่อมั่นครับ.......
หนังจีนนั้นถ้าอยากจะมีกำลังภายในก็ต้องมุมานะฝึกปรือเพราะไม่มีทางลัด แต่หนังไทยนั้นเกิดมาก็มีฤทธิ์เลย ไม่ต้องฝึกอะไรทั้งสิ้น
ทำให้คนไทยขยันน้อยกว่าคนจีน
แต่เพื่อนๆสมาชิกเว็บ tvi คงไม่ใช่อย่างนั้นแน่
เชื่อมั่นครับ.......
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
โพสต์ที่ 13
อย่าลืมลงทุนใน สุขภาพของตัวเองด้วยนะครับ ออกกำลังกายวันหละนิด จะทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้นนะครับ :lol:
ว่าแล้วผมก็ไปวิ่งดีกว่า ลงพุงแล้วเนี่ย
ว่าแล้วผมก็ไปวิ่งดีกว่า ลงพุงแล้วเนี่ย
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
โพสต์ที่ 14
เราเป็นนักลงทุน สนใจแนว VI ย่อมมีความรู้ความเข้าใจ เรื่อง พลังของการทบต้น
พลังของการทบต้น มีพลังมากมายนักจนหลายคนคาดไม่ถึง
ที่สำคัญของพลังนี้ หาใช่อัตราผลตอบแทนต่อปีไม่ แต่เป็นความสม่ำเสมอและยาวนาน
ดังนั้น การลงทุนที่สำคัญของนักลงทุนทั้งหลายก็คือ การลงทุนในสุขภาพกายและสุขภาพใจ ของตัวเอง
เพื่อที่จะยืดระยะเวลาในการรับผลตอบแทนออกไปให้นานๆ
ผลตอบแทนในปีหลังๆมากมายเหลือเชื่อเลยนะครับ ถ้าเทียบกับเงินลงทุนในปีแรก
การออกกำลังกายสามารถรักษาสุขภาพกายได้
ธรรมะก็สามารถช่วยสุขภาพใจได้ดีที่เดียวครับ
ถ้า Buffett ไม่มีอายุยืนยาวจนถึงขนาดนี้ ผลตอบแทนก็คงไม่เท่านี้ จริงไหมครับ
พลังของการทบต้น มีพลังมากมายนักจนหลายคนคาดไม่ถึง
ที่สำคัญของพลังนี้ หาใช่อัตราผลตอบแทนต่อปีไม่ แต่เป็นความสม่ำเสมอและยาวนาน
ดังนั้น การลงทุนที่สำคัญของนักลงทุนทั้งหลายก็คือ การลงทุนในสุขภาพกายและสุขภาพใจ ของตัวเอง
เพื่อที่จะยืดระยะเวลาในการรับผลตอบแทนออกไปให้นานๆ
ผลตอบแทนในปีหลังๆมากมายเหลือเชื่อเลยนะครับ ถ้าเทียบกับเงินลงทุนในปีแรก
การออกกำลังกายสามารถรักษาสุขภาพกายได้
ธรรมะก็สามารถช่วยสุขภาพใจได้ดีที่เดียวครับ
ถ้า Buffett ไม่มีอายุยืนยาวจนถึงขนาดนี้ ผลตอบแทนก็คงไม่เท่านี้ จริงไหมครับ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1485
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
โพสต์ที่ 15
bummy wrote:
คนไทยอ่านหนังสือโดยเฉลี่ย 7 บรรทัด ต่อคน ต่อปี
เดี๋ยวนี้ คงดีขึ้นแล้วครับ ร้านหนังสือดีๆในต่างจังหวัดมีมากขึ้น ทำให้การเข้าถึงง่าย
แล้วก็หนังสือเรียนมีการเปิดเสรี ไม่ผูกขาด
แต่เดิมขนาดโรงเรียนจะซื้อหนังสือเข้าห้องสมุด ยังต้องซื้อหนังสือใน200รายชื่อที่กระทรวงกำหนด (ล๊อคสเปค)
เดี๋ยวนี้ครูสามารถซื้อหนังสืออะไรก็ได้ ทำให้เด็กๆได้อ่านหนังสือที่ถูกใจ เป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน
ก่อนที่ผมจะเปิดร้านหนังสือเมื่อ 4 ปี่ที่แล้ว สถิติของสำนักงานสถิติ บอกว่าสถิติตอนนี้คนไทยโดยเฉลี่ยอ่านหนังสือแค่ 7 บรรทัด ต่อ วันเอง!
คนไทยอ่านหนังสือโดยเฉลี่ย 7 บรรทัด ต่อคน ต่อปี
เดี๋ยวนี้ คงดีขึ้นแล้วครับ ร้านหนังสือดีๆในต่างจังหวัดมีมากขึ้น ทำให้การเข้าถึงง่าย
แล้วก็หนังสือเรียนมีการเปิดเสรี ไม่ผูกขาด
แต่เดิมขนาดโรงเรียนจะซื้อหนังสือเข้าห้องสมุด ยังต้องซื้อหนังสือใน200รายชื่อที่กระทรวงกำหนด (ล๊อคสเปค)
เดี๋ยวนี้ครูสามารถซื้อหนังสืออะไรก็ได้ ทำให้เด็กๆได้อ่านหนังสือที่ถูกใจ เป็นการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
โพสต์ที่ 19
เรื่องอัตราการอ่านหนังสือของคนไทยที่บอกว่า 7 บรรทัดนั้น
สองวันก่อน ได้ยินท่านที่ปรึกษาจากที่หน่วยราชการ ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับงานที่เมืองทองธานี
ท่านบอกว่า 7 บรรทัด ก็เพราะคิดจากคนไทยทั้งประเทศ รวมคนแก่ ชาวเขา เลยออกมาน้อย แต่ปัจจุบันก็เพิ่มมากขึ้นแล้ว ผมจำตัวเลขไม่ได้
ยิ่งถ้าเราพิจารณาเฉพาะเด็กในวัยเรียนก็จะสูงขึ้น เป็นวันหนึ่งหลายหน้าครับ
สถานการณ์ไม่น่ากลัวอย่างที่กล่าวในตอนแรก ถึงแม้จะยังไม่ดีพอ
สองวันก่อน ได้ยินท่านที่ปรึกษาจากที่หน่วยราชการ ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับงานที่เมืองทองธานี
ท่านบอกว่า 7 บรรทัด ก็เพราะคิดจากคนไทยทั้งประเทศ รวมคนแก่ ชาวเขา เลยออกมาน้อย แต่ปัจจุบันก็เพิ่มมากขึ้นแล้ว ผมจำตัวเลขไม่ได้
ยิ่งถ้าเราพิจารณาเฉพาะเด็กในวัยเรียนก็จะสูงขึ้น เป็นวันหนึ่งหลายหน้าครับ
สถานการณ์ไม่น่ากลัวอย่างที่กล่าวในตอนแรก ถึงแม้จะยังไม่ดีพอ
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 242
- ผู้ติดตาม: 0
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
โพสต์ที่ 24
ผมกำลังพยายามอยู่ครับ
ปกติ ผมจะใช้จ่ายอย่างประหยัด ค่าที่พักไม่ต้องจ่ายเพราะที่ทำงานมีที่พักให้ ผมไม่ซื้อรถ ไม่เคยซื้อสินค้า brand name ราคาแพง โทรศัพท์ผมขอแค่โทรออกได้รับสายได้เป็นอันใช้ได้ ไม่เคยคิดใช้โทรศัพท์ที่ราคาเกินกว่า 3,000 บาท , notebook ที่ผมใช้ ก็อายุเกือบ 7 ขวบแล้ว เป็นของตกทอดจากแม่ คือหนักและเก่าจนแม่ไม่ใช้แล้ว ผมขอแค่เล่นเนทได้ เปิดรายงานประจำปีมาอ่านได้ สร้างตาราง excel ได้ เป็นอันพอ
แต่อะไรก็ตามที่จะเพิ่มขีดความสามารถของตัวผม ผมจะกล้าลงทุน
เช่น การเรียนพูดภาษาอังกฤษ หรือการอ่านหนังสือ
ผมซื้อหนังสือไปเยอะมาก ทุก 1-2 สัปดาห์ต้องเข้าร้านหนังสือ ไล่อ่านหนังสือที่น่าจะมีประโยชน์ รวมทั้งหนังสือ VI ภาษาไทยจนหมด รู้ตัวอีกที มีบัตรสมาชิก se-ed 7 ใบแล้ว ตอนนี้มาเริ่มอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ เลยมีบัตร asia book เพิ่มมาอีก
ช่วง 2 ปีนี้ ผมบริโภคหนังสือ เฉลี่ย น่าจะเดือนละเกือบๆพันบาท ขณะที่ค่าโทรศัพท์ผมไม่เคยใช้เกินเดือนละ 300 บาทตาม package
ผมไปซื้อหนังสือทุกเดือน จนตัดสินใจซื้อหุ้น se-ed ติดมาด้วยเลย
ผมคิดว่าการอ่านมีประโยชน์มากครับ
จากที่เดิมผมไม่รู้เรื่องการลงทุนเลยแม้แต่น้อย ไม่เคยรู้ว่างบการเงินมันเป็นยังไง จบมาเริ่มทำงานพอมีเงินเก็บก้อนเล็กๆ ก็เอาแต่ดูว่าธนาคารไหนดอกเบี้ยสูง จะได้ไปย้ายไปฝากเงินที่นั่น จากนั้นค่อยๆเริ่มศึกษาด้วยตัวเอง อ่านทั้งหนังสือ อ่านทั้ง thaivi.com
ตอนนี้ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ถึงปีของผม ก็มากกว่าค่าหนังสือที่จ่ายไปหลายเท่าตัว
(แต่ตัวผมยังด้อยฝีมือ ยังต้องขอคำแนะนำจากพี่ๆในนี้อีกมากครับ)
จึงขอยืนยัน ว่า การลงทุนในตัวเองเป็นการลงทุนที่ดีที่สุดจริงๆครับ
ปกติ ผมจะใช้จ่ายอย่างประหยัด ค่าที่พักไม่ต้องจ่ายเพราะที่ทำงานมีที่พักให้ ผมไม่ซื้อรถ ไม่เคยซื้อสินค้า brand name ราคาแพง โทรศัพท์ผมขอแค่โทรออกได้รับสายได้เป็นอันใช้ได้ ไม่เคยคิดใช้โทรศัพท์ที่ราคาเกินกว่า 3,000 บาท , notebook ที่ผมใช้ ก็อายุเกือบ 7 ขวบแล้ว เป็นของตกทอดจากแม่ คือหนักและเก่าจนแม่ไม่ใช้แล้ว ผมขอแค่เล่นเนทได้ เปิดรายงานประจำปีมาอ่านได้ สร้างตาราง excel ได้ เป็นอันพอ
แต่อะไรก็ตามที่จะเพิ่มขีดความสามารถของตัวผม ผมจะกล้าลงทุน
เช่น การเรียนพูดภาษาอังกฤษ หรือการอ่านหนังสือ
ผมซื้อหนังสือไปเยอะมาก ทุก 1-2 สัปดาห์ต้องเข้าร้านหนังสือ ไล่อ่านหนังสือที่น่าจะมีประโยชน์ รวมทั้งหนังสือ VI ภาษาไทยจนหมด รู้ตัวอีกที มีบัตรสมาชิก se-ed 7 ใบแล้ว ตอนนี้มาเริ่มอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ เลยมีบัตร asia book เพิ่มมาอีก
ช่วง 2 ปีนี้ ผมบริโภคหนังสือ เฉลี่ย น่าจะเดือนละเกือบๆพันบาท ขณะที่ค่าโทรศัพท์ผมไม่เคยใช้เกินเดือนละ 300 บาทตาม package
ผมไปซื้อหนังสือทุกเดือน จนตัดสินใจซื้อหุ้น se-ed ติดมาด้วยเลย
ผมคิดว่าการอ่านมีประโยชน์มากครับ
จากที่เดิมผมไม่รู้เรื่องการลงทุนเลยแม้แต่น้อย ไม่เคยรู้ว่างบการเงินมันเป็นยังไง จบมาเริ่มทำงานพอมีเงินเก็บก้อนเล็กๆ ก็เอาแต่ดูว่าธนาคารไหนดอกเบี้ยสูง จะได้ไปย้ายไปฝากเงินที่นั่น จากนั้นค่อยๆเริ่มศึกษาด้วยตัวเอง อ่านทั้งหนังสือ อ่านทั้ง thaivi.com
ตอนนี้ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ถึงปีของผม ก็มากกว่าค่าหนังสือที่จ่ายไปหลายเท่าตัว
(แต่ตัวผมยังด้อยฝีมือ ยังต้องขอคำแนะนำจากพี่ๆในนี้อีกมากครับ)
จึงขอยืนยัน ว่า การลงทุนในตัวเองเป็นการลงทุนที่ดีที่สุดจริงๆครับ
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
โพสต์ที่ 25
[quote="chut"]ผมกำลังพยายามอยู่ครับ
ปกติ ผมจะใช้จ่ายอย่างประหยัด ค่าที่พักไม่ต้องจ่ายเพราะที่ทำงานมีที่พักให้ ผมไม่ซื้อรถ ไม่เคยซื้อสินค้า brand name ราคาแพง โทรศัพท์ผมขอแค่โทรออกได้รับสายได้เป็นอันใช้ได้ ไม่เคยคิดใช้โทรศัพท์ที่ราคาเกินกว่า 3,000 บาท , notebook ที่ผมใช้ ก็อายุเกือบ 7 ขวบแล้ว เป็นของตกทอดจากแม่ คือหนักและเก่าจนแม่ไม่ใช้แล้ว ผมขอแค่เล่นเนทได้ เปิดรายงานประจำปีมาอ่านได้ สร้างตาราง excel ได้ เป็นอันพอ
แต่อะไรก็ตามที่จะเพิ่มขีดความสามารถของตัวผม ผมจะกล้าลงทุน
เช่น การเรียนพูดภาษาอังกฤษ หรือการอ่านหนังสือ
ผมซื้อหนังสือไปเยอะมาก ทุก 1-2 สัปดาห์ต้องเข้าร้านหนังสือ ไล่อ่านหนังสือที่น่าจะมีประโยชน์ รวมทั้งหนังสือ VI ภาษาไทยจนหมด รู้ตัวอีกที มีบัตรสมาชิก se-ed 7 ใบแล้ว
ปกติ ผมจะใช้จ่ายอย่างประหยัด ค่าที่พักไม่ต้องจ่ายเพราะที่ทำงานมีที่พักให้ ผมไม่ซื้อรถ ไม่เคยซื้อสินค้า brand name ราคาแพง โทรศัพท์ผมขอแค่โทรออกได้รับสายได้เป็นอันใช้ได้ ไม่เคยคิดใช้โทรศัพท์ที่ราคาเกินกว่า 3,000 บาท , notebook ที่ผมใช้ ก็อายุเกือบ 7 ขวบแล้ว เป็นของตกทอดจากแม่ คือหนักและเก่าจนแม่ไม่ใช้แล้ว ผมขอแค่เล่นเนทได้ เปิดรายงานประจำปีมาอ่านได้ สร้างตาราง excel ได้ เป็นอันพอ
แต่อะไรก็ตามที่จะเพิ่มขีดความสามารถของตัวผม ผมจะกล้าลงทุน
เช่น การเรียนพูดภาษาอังกฤษ หรือการอ่านหนังสือ
ผมซื้อหนังสือไปเยอะมาก ทุก 1-2 สัปดาห์ต้องเข้าร้านหนังสือ ไล่อ่านหนังสือที่น่าจะมีประโยชน์ รวมทั้งหนังสือ VI ภาษาไทยจนหมด รู้ตัวอีกที มีบัตรสมาชิก se-ed 7 ใบแล้ว
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
- cryptonian_man
- Verified User
- โพสต์: 585
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนใน "ตัวคุณเอง"
โพสต์ที่ 27
นอกจากนั้นแล้ว
การลงทุนตัวเอง ในสุขภาพ ก็น่าจะดีนะครับ
รู้สึกค่าใช้จ่ายด้านการรักษา ก็แพงจริงๆ
แต่ถ้าเข้า รพ. บ่อยๆ อาจติดใจซื้อหุ้น รพ. ได้นะครับ อิอิ
เขาว่า "หลังจากปากพองจากการดื่มนมร้อน เราจะเป่าโยเกิร์ตให้เย็นก่อนตักเข้าปาก"
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย
แต่ทำไมตรูไม่เข็ด เคาะขวาไวตลอดเนี่ย